แชร์

ตอนที่ 27 ได้ฤกษ์เปิดร้านอาหารแล้ว

ผู้เขียน: ต้าซินซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-15 14:58:32

ยามสายของวันนี้ครอบครัวของลู่ชิง จะย้ายไปพักอยู่ที่ร้านอาหารเป็นการชั่วคราว ซึ่งเมื่อวานลู่ชิงได้แจ้งกับลูกค้าทุกคน ที่มาซื้ออาหารที่แผงไว้แล้วว่า จะหยุดขายอาหารที่แผงตรงนี้ โดยจะเปิดขายอาหารอีกครั้งที่ร้านอาหารของครอบครัว

ทุกคนสามารถตามไปซื้อ หรือนั่งทานอาหารที่ร้านได้ และยังได้บอกกับลูกค้าอีกว่า จะมีน้ำหลากสีที่ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นมาขายที่ร้านด้วย ลูกค้าที่ได้ฟังต่างก็เฝ้ารอ ให้ถึงวันเปิดร้านอาหารของครอบครัวลู่ชิง พวกเขาอยากไปชิมอาหารรายการที่จะมีเพิ่ม และน้ำหลากหลายสีที่เถ้าแก่น้อยได้บอกไว้เสียที

ทุกคนช่วยกันขนของ ที่เป็นหีบใส่เสื้อผ้าเสียส่วนใหญ่ขึ้นเกวียน เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วลู่เวินก็เป็นคนบังคับเกวียน เดินทางเข้าตำบลหย่งฝูใช้เวลาเพียงสองเค่อ พวกเขาก็มาถึงร้านแล้ว พี่ชายสองคนช่วยกันยกหีบใบขนาดกลางสองสามหีบ ลงจากเกวียนเพื่อที่ท่านพ่อจะได้นำเกวียนไปจอดด้านหลังร้าน

ลู่ชิงปล่อยให้บุรุษทั้งสามยกหีบขึ้นไปเก็บบนชั้นสอง ส่วนตนเองและมารดาเข้ามาอยู่ด้านในห้องครัว เพื่อจะนำเอาโต๊ะไม้สี่เหลี่ยมขนาดนั่งได้สี่คน และเก้าอี้ไม้แบบมีพนักพิงออกมาจากมิติ รอบิดาและพี่ชายลงมาสมทบค่อยยกออกไปจัดวางด้านหน้าร้าน

ส่วนซุ้มขายน้ำลู่ชิงค่อยเอาออกมาตอนค่ำ ๆ ทุกคนช่วยกันยกโต๊ะเก้าอี้มาจัดวางได้สี่แถว ๆ ละสามโต๊ะ และยังคงขายให้กับคนที่ต้องการซื้อกลับบ้านได้เหมือนเดิม ลู่ชิงนำผ้าปูโต๊ะออกมาคลุมจนครบทุกตัว ด้านบนประตูหน้าต่างก็มีผ้าม่านบาง ๆ สีเขียวอ่อนไปติดไว้ ยามลมพัดผ้าม่านปลิวไสวยิ่งชวนให้น่ามองยิ่งขึ้น

ขั้นต่อไปก็เป็นอุปกรณ์ในห้องครัว ลู่ชิงเอาออกมาจัดวางอย่างเป็นระเบียบ และสะดวกต่อการหยิบใช้ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่รับซื้อมาจากชาวบ้าน นางก็นึ่งด้วยความร้อนและผึ่งให้แห้งพร้อมใช้งานแล้ว

อาหารทั้งสามอย่างที่เคยขายก็ยังคงมีอยู่ แต่ลู่ชิงคิดว่าจะทำเพิ่มอีกสักสามอย่างคือผัดซีอิ้วหมู สุกี้หมูและขาหมูพะโล้ ซึ่งลู่ชิงและครอบครัวจะช่วยกันทำในวันพรุ่งนี้ โดยทำใส่หม้อใบใหญ่เก็บไว้ในมิติจะได้ไม่เน่าเสีย ขาหมูพะโล้ก็ตุ๋นจนเนื้อนุ่มละมุนลิ้น ยามคีบเข้าปากแทบละลายไม่ต้องเคี้ยว

หลังจากช่วยกันจัดร้านเรียบร้อยแล้ว จึงพากันมานั่งพักอยู่บนชั้นสองที่ลู่ชิงได้จัดวางโต๊ะเตี้ย ๆ พร้อมเบาะรองนั่งที่แสนจะนุ่มไว้ให้ สำหรับการพูดคุยหารือร่วมกัน

“ท่านพ่อท่านแม่ พวกเราจะทำอาหารเพิ่มอีกสามอย่างนะเจ้าคะ เราจะเวียนให้มีอาหารรายการใหม่ทุกสามเดือน เพื่อให้ลูกค้าได้ทานอาหารที่หลากหลายเจ้าค่ะ” ลู่ชิงเป็นผู้เริ่มบทสนทนาเป็นคนแรก

“ชิงเอ๋อร์จะทำอาหารรายการใหม่เป็นแบบไหนหรือลูก” ฟางซินที่ชื่นชอบในการทำอาหารไปแล้วในตอนนี้ ถามกับบุตรสาวทันที

“น้องเล็ก อาหารทั้งสามอย่างที่เจ้าบอกจะทำเพิ่ม พวกเราก็ยังไม่เคยทานกันใช่ไหม?” ลู่เสียนที่หูผึ่งทุกครั้งยามได้ยินชื่ออาหารใหม่

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ ข้ายังไม่ได้ทำอาหารทั้งสามอย่างนี้ ให้พวกท่านได้ชิมเลย อาหารใหม่สามอย่างจะมีผัดหนึ่งอย่าง และแบบน้ำสองอย่างเจ้าค่ะ ประเภทผัดมีชื่อเรียกว่าผัดซีอิ้วหมู ส่วนแบบน้ำจะเป็นสุกี้หมูและขาหมูพะโล้เจ้าค่ะ” นางบอกชื่อของอาหารแต่ละอย่างให้ทุกคนฟัง

“ชิงเอ๋อร์ อาหารทั้งสามอย่างที่ลูกพูดมา ไม่เหมือนกับอาหารสองอย่างก่อนหน้านี้อย่างไรหรือ” ลู่เวินไม่รู้ว่าอาหารสามอย่างมันต่างกันอย่างไร

“ขาหมูพะโล้เราจะต้องทำความสะอาดขาหมูก่อน จากนั้นก็นำไปต้มกับเครื่องเทศที่เตรียมไว้ วัตถุดิบทำพะโล้อาจจะหลายอย่างสักหน่อย แต่พอต้มด้วยไฟกลางจนเปื่อยแล้ว ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ มีเครื่องเคียงเป็นผักดองด้วยยิ่งอร่อยเจ้าค่ะ ส่วนสุกี้หมูจะต้มน้ำซุปไว้รอก่อน พอลูกค้าสั่งเราจะใช้หม้อใบเล็กใส่น้ำซุปลงไป พอน้ำเริ่มร้อนก็ตามด้วยเนื้อหมูหมัก ผักบุ้ง ผักกาดขาว ขึ้นฉ่าย วุ้นเส้น พอสุกแล้วก็ตักใส่ชาม และจะมีน้ำจิ้มสำหรับสุกี้ให้ด้วยเจ้าค่ะ” ลู่ชิงที่อธิบายอาหารทั้งสองอย่างให้บิดาฟังก็รู้สึกอยากกินขึ้นมาเหมือนกัน

“ส่วนผัดซีอิ้วนำเส้นใหญ่หรือเส้นหมี่ ใส่ชามเติมซีอิ๊วดำคลุกเคล้าผสมให้เข้ากัน ต่อด้วยตั้งกระทะใช้ไฟแรงใส่น้ำมัน พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมและหมูหมักลงไปผัด เมื่อหมูเริ่มสุกตอกไข่ลงไปตามด้วยคะน้า ใส่เส้นใหญ่หรือเส้นหมี่ลงไปผัด ปรุงรสตามชอบผัดจนทุกอย่างเข้ากัน ตักใส่จานโรยด้วยพริกไทยป่นเล็กน้อย เท่านี้ก็ได้ผัดซีอิ้วแสนอร่อยแล้วเจ้าค่ะ”

“น้องเล็ก พี่ใหญ่ฟังเจ้าพูดมาก็รู้สึกอยากชิมเสียแล้ว เย็นนี้เราลองทำเพื่อชิมกันก่อนดีหรือไม่” ลู่จื้อได้ฟังก็เหมือนว่าจะหิวขึ้นมาทันที

“เช่นนั้นเย็นนี้พวกเราก็ช่วยกันทำจะได้เสร็จเร็ว ๆ และเป็นการทดลองชิมรสชาติอาหาร ก่อนทำขายให้ลูกค้ากันเถิดขอรับ” ลู่เสียนเป็นฝ่ายเสนอความคิดนี้ขึ้น เพราะเขาก็อยากชิมเหมือนกันว่ารสชาติจะเป็นแบบไหน

ทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ และเย็นวันนี้พวกเขาช่วยกันทำ ช่วยกันชิมจนได้รสชาติที่ถูกใจ และคิดว่าลูกค้าก็คงจะถูกใจเช่นกัน ก่อนถึงวันเปิดร้านหนึ่งวันครอบครัวสวีได้กลับไปที่หมู่บ้านอันผิง เพื่อรับซื้อผลิตภัณฑ์ของชาวบ้าน และเข้าไปดูนายช่างหานที่ได้เริ่มทำกำแพงบ้านแล้ว ลู่ชิงยังบอกพี่ชายให้ตามสหาย มาเรียนรู้การรับรายการอาหารที่ลูกค้าสั่ง โดยที่นางได้ทำใบสั่งอาหารขึ้นมา มีทั้งช่องชื่ออาหาร ช่องระบุจำนวนที่ต้องการและช่องบอกราคา

เวลาคิดเงินค่าอาหารจะได้คำนวณได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสหายของพี่ชายก็เรียนรู้ได้เร็วพอสมควร แบบนี้วันเปิดร้านก็สามารถทำงานได้ไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน

ยามเฉินของเช้าวันที่ห้าเป็นฤกษ์ดี ที่จะทำการเปิดร้านอาหารตระกูลสวีแล้ว ด้านหน้าร้านก็มีลูกค้ามารอชิมอาหารกันพอสมควร ก่อนหน้านี้ลู่ชิงให้บิดาไปเชิญนายอำเภอ เถ้าแก่หงและท่านหมอเกา มาร่วมเป็นประธานในการเปิดร้าน

เมื่อทุกคนมากันพร้อมแล้ว ท่านนายอำเภอก็กล่าวอวยพรและจุดประทัดที่หน้าร้าน เพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีและเปิดทางในการรับโชคลาภ

“ขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ที่มาร่วมงานเปิดร้านอาหารตระกูลสวี วันนี้ทางร้านของเราจะลดราคาอาหาร ทุกรายการลงครึ่งหนึ่งเพื่อเป็นการขอบคุณ เพียงวันนี้วันเดียวเท่านั้นนะเจ้าคะ พรุ่งนี้ก็เปิดขายในราคาเดิม และพิเศษที่สุดของวันนี้คือ ทางร้านมีน้ำหลากสีเย็น ๆ ให้พวกท่านได้ชิม โดยไม่คิดเงินก่อนจะเปิดขายอย่างเป็นทางการเช่นกันเจ้าค่ะ ถึงเวลาชิมอาหารอร่อยแล้วเชิญทุกท่านเข้าไปนั่งด้านในได้เลย

ส่วนท่านไหนที่ต้องการซื้อกลับไปทานกับครอบครัวที่บ้าน รบกวนพวกท่านแยกมาต่อแถวทางด้านซ้ายมือด้วยนะเจ้าคะ จะมีลูกจ้างของทางร้านรอต้อนรับพวกท่านอยู่เจ้าค่ะ”

และยังคงเป็นลู่ชิง ที่จัดการระเบียบในการซื้ออาหารเช่นเคย เมื่อทุกอย่างเป็นระเบียบแล้ว นางจึงไปประจำซุ้มขายน้ำของตนคอยตักน้ำใส่แก้วไม้ไผ่ให้กับลูกค้าได้ชิม

ด้วยอาหารที่ทำเตรียมพร้อมไว้ทั้งหมด ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อลูกค้าสั่งจึงรอไม่นานอาหารก็ยกมาวางตรงหน้าแล้ว ทางด้านนายอำเภอ เถ้าแก่หงและท่านหมอเกา ลู่เวินจัดโต๊ะแยกต่างหากตรงซุ้มศาลาใต้ต้นไม้ข้างร้านของตน และเขาก็รับอาสายกอาหารมาด้วยตนเองครบทุกรายการ ซึ่งกลิ่นหอมของอาหารทุกจาน ช่างทำให้กระเพาะอาหารของแขกทั้งสาม ส่งเสียงเรียกร้องให้ส่งอาหารลงไปเสียที

“เถ้าแก่สวี เนื้อหมูที่อยู่ในน้ำสีเข้มแต่หอมเครื่องเทศนี้ เรียกว่าอะไรหรือข้าไม่เคยเห็นอาหารตุ๋นประเภทนี้มาก่อน” นายอำเภอถงเอ่ยถามขึ้นเพราะอาหารจานนี้กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์มาก

“เรียนท่านนายอำเภอและทั้งสองท่าน อาหารชนิดนี้เรียกว่าขาหมูพะโล้ขอรับ เราตุ๋นขาหมูกับเครื่องเทศที่หลากหลาย จนเปื่อยนุ่มแต่เนื้อขาหมูยังไม่เละ พอทานกับข้าวสวยพร้อมผักดองจะอร่อยมากเลยขอรับ” ลู่เวินที่เป็นผู้ช่วยทำอาหารนี้เช่นกัน ได้อธิบายให้นายอำเภอและแขกอีกสองท่านได้ฟัง

นายอำเภอถงรู้สึกแปลกใหม่กับอาหารจานนี้ ไม่คิดว่าครอบครัวของลู่เวินจะมีความคิดใหม่ ในการรังสรรค์อาหารอร่อย ๆ ออกมาไม่ซ้ำได้

เมื่อแขกทั้งสามท่านได้ชิมอาหารรายการใหม่ ก็ถึงกับเอ่ยชมไม่หยุดเลยทีเดียว เพราะร้านอาหารของตระกูลสวี ทำออกมาแต่ละอย่างล้วนมีความแตกต่าง โดยเฉพาะรสชาติของอาหาร ก็มีเอกลักษณ์อยู่ในตัวอีกด้วย

“นี่เถ้าแก่สวี ครอบครัวพวกเจ้าทำอาหารอะไร ก็อร่อยไปเสียทุกอย่างเช่นนี้ คงจะขายดีลูกค้าแน่นร้านทุกวันเป็นแน่ พวกท่านสองคนเห็นด้วยกับข้าหรือไม่” เถ้าแก่หงที่ยังคีบอาหารไม่หยุด เอ่ยชมออกมา พร้อมถามความคิดเห็นของแขกอีกสองท่านด้วย

“ขอบคุณที่ชมขอรับ” ลู่เวินทำได้เพียงยิ้มรับและกล่าวขอบคุณ

ด้านในร้านเสียงชื่นชมรสชาติอาหารดังไม่หยุด มีลูกค้าบางคนได้ยินคนพูดถึงอาหารที่นี่ ก็ตัดสินใจลองมาชิมบ้างว่า จะอร่อยอย่างที่ได้ยินคนพูดถึงหรือไม่ สุดท้ายก็ติดใจรสชาติอาหารไปอีกหลายราย ถึงกับไปบอกต่อสหายและคนรู้จัก ให้มาลองชิมอาหารที่ตำบลหย่งฝูเท่านั้น

“อร่อย!! อร่อยเกินไปแล้วร้านนี้ เจ้าของร้านจะทำอาหารอร่อยทุกอย่างไม่ได้นะ ข้าไปทำธุระที่เมืองอื่นจะหาของอร่อย เหมือนที่ร้านนี้ทานได้อย่างไร”

“เนื้อหมูพะโล้ช่างนุ่มละมุนลิ้นยิ่งนัก น้ำซุปก็กลมกล่อมและยังมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ไม่มีร้านไหนทำได้เหมือนที่นี่อย่างแน่นอน”

“นี่คือความอร่อยที่พอดีและลงตัวมาที่สุด!”

“เจ้าผัดซีอิ้วนี่ใส่ทั้งเนื้อหมูทั้งผักและยังมีไข่ไก่อีก ราคาก็ไม่แพงข้าต้องเป็นลูกค้าประจำที่นี่เสียแล้ว”

“ยิ่งน้ำหลากสีที่ร้านให้ลองชิม พอดื่มแล้วมันช่างสดชื่นจริง ๆ”

ยังมีอีกมากมายกับคำชมของลูกค้า ที่ได้ชิมรสชาติอาหารใหม่วันนี้ แขกพิเศษทั้งสามท่านกลับไปได้สักพักแล้ว พอเข้าถึงปลายยามเว่ยอาหารทุกอย่างก็หมดไม่มีเหลือเลย สหายของพี่ชายก็ล้วนเดินเข้าออก เพื่อยกอาหารเก็บจานชามแทบไม่ได้นั่งพัก แต่พวกเขาก็ยังทำงานด้วยรอยยิ้มกันทุกคน

ลู่ชิงได้ทำสัญญาจ้างงานกับสหายของพี่ชาย โดยจ่ายค่าจ้างเดือนละหนึ่งตำลึงเงิน แต่เพราะวันนี้เป็นวันเปิดร้านวันแรก คนจึงเยอะเป็นพิเศษ ฉะนั้นลู่ชิงจะให้รางวัลพวกเขาสักหน่อย เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป หลังจากทุกคนช่วยกันเก็บทำความสะอาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ชวนกันมานั่งพักอยู่ที่โต๊ะหน้าร้านร่วมกัน ลู่ชิงเองก็นำแก้วน้ำหลากหลายรสชาติมาให้ทุกคนได้ดื่ม นางยังแอบหยดน้ำวิเศษลงไปแก้วละสองหยด สำหรับช่วยคลายความเหนื่อยล้าของร่างกาย

“วันนี้ขอบคุณทุกคนที่ทำงานเหนื่อยตั้งแต่เช้า พออาหารหมดเร็วก็จะได้พักผ่อนไวขึ้น พวกเจ้าทั้งสี่คนด้วยนะ เดี๋ยววันต่อ ๆ ไปคงไม่เหนื่อยมากเหมือนวันนี้แล้วล่ะ” ลู่เวินทั้งสุขใจและโล่งอก ที่วันนี้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ พวกพี่ชายมาแต่เช้า แทบจะไม่ได้นั่งพักกันเลย วันนี้เริ่มงานวันแรกก็เหนื่อยมากเสียแล้ว เช่นนั้นในถุงนี้ถือเป็นอั่งเปาสำหรับการเริ่มต้นที่ดีนะเจ้าคะ” ลู่ชิ่งพูดจบก็ยื่นถุงที่ใส่เงินพิเศษให้กับสหายของพี่ชาย นางใส่เงินให้ทุกคนเท่ากันคนละหนึ่งร้อยอีแปะ

“ขอบคุณมากน้องสาวลู่ชิง พวกข้าสัญญาจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด” เว่ยหลินยืนขึ้นกล่าวขอบคุณ

“พวกข้าก็เช่นกัน” ทั้งสามคนก็ทำตามบ้าง

“เอาล่ะวันนี้ก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนก่อนเถิด พรุ่งนี้พวกเจ้าทั้งสี่คนก็มาเวลาปกตินะไม่ต้องรีบ” ลู่เวินอยากให้ทุกคนได้พักผ่อนจึงให้กลับบ้านได้

สำหรับการเปิดร้านอาหารในวันแรก ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร แม้จะลดราคาอาหารลงครึ่งหนึ่งก็ตาม แต่เงินค่าอาหารที่ขายวันนี้ ยังได้เกินกว่าที่เคยขายที่แผงเช่าก่อนหน้านี้อีก

เจียวมิ่งและสามพี่น้องแซ่ก้ง ที่รีบเร่งออกเดินทางตามคำสั่งซื่อจื่อมาได้หลายวันแล้ว พวกเขาหยุดพักตามจุดพักม้าน้อยมากแต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็คงไปไม่ทัน วันเปิดกิจการของคุณหนูลู่ชิงอยู่ดี อาจจะไปถึงช้าสองสามวัน ขณะที่กำลังจะออกเดินทาง มีหน่วยลับคนหนึ่งมาหา บอกว่าซื่อจื่อให้ติดตามไปด้วย เผื่อว่าคุณหนูลู่ชิงจะมีอะไรฝากกลับมาบ้าง พอได้ฟังหน่วยลับคนนี้พูดจบ เจียวมิ่งถึงกับพูดอะไรไม่ออก

ร้านอาหารตระกูลสวีเปิดมาได้สี่วันแล้ว ลูกค้าเข้าออกร้านตั้งแต่เช้ามีทั้งนั่งทานที่ร้าน และซื้อกลับบ้านเหมือนเช่นเคย ส่วนน้ำหลากสีเย็นสดชื่นก็ขายดีไม่ต่างกัน ลู่ชิงขายเพียงแก้วละสามอีแปะ เพราะอย่างไรรายได้หลักก็เป็นอาหาร รวมถึงการค้าอีกสองอย่างอยู่ดี ขณะที่ลู่ชิงกำลังตักน้ำหลากสีขายอยู่นั้น ก็มีเสียงบุรุษเอ่ยถามขึ้นมา นางจึงหยุดมือไว้ก่อนและเงยหน้ามองคนที่มาใหม่

“ขออภัย ไม่ทราบว่าแม่นางน้อยใช่คุณหนูลู่ชิงหรือไม่ขอรับ” เจียวมิ่งที่สอบถามชาวบ้านมาแล้วว่า ร้านอาหารเปิดใหม่อยู่ที่ใด เมื่อมาถึงหน้าร้านก็เห็นเด็กสาวคนหนึ่งจึงลองเอ่ยถามดู

“ข้าไม่ได้เป็นคุณหนูแต่ชื่อของข้าคือลู่ชิงเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าท่านถามไปทำไมหรือเจ้าคะ” จู่ ๆ ก็มีคนแปลกหน้ามาเรียกนางคุณหนูไม่ชินเอาเสียเลย

“หากคุณหนูรู้จักคุณชายเซียว ข้าคือคนที่คุณชายส่งมาช่วยงาน ตามที่คุณหนูได้ขอให้คุณชายช่วยเหลือไปขอรับ” ช่างเป็นเด็กสาวที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ไม่แปลกที่จะทำให้ซื่อจื่อหวั่นไหวได้ โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นของนาง

“ท่านเป็นคนที่พี่ชายเซียวส่งมาหรือเจ้าคะ มากันกี่คน เพิ่งมาถึงใช่หรือไม่ ทานอะไรมาหรือยังเจ้าคะ ถ้ายังไม่ทานพวกท่านไปนั่งด้านในร้านก่อน เดี๋ยวข้าจะเข้าไปในครัวให้คนยกอาหารออกมาให้เจ้าค่ะ”

ลู่ชิงพอได้ยินว่าพวกเขาเป็นคนที่พี่ชายเซียวส่งมา ก็ถามรัวเป็นชุดจนเจียวมิ่งไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี เหมือนลู่ชิงจะรู้ตัวว่าเสียมารยาทไป จึงเปลี่ยนเป็นการพาทุกคนไปนั่งในร้านเสียก่อน ให้พวกเขาพักหายใจหายคอสักหน่อยค่อยพูดคุยกัน นางไม่คิดว่าพี่ชายเซียวจะส่งคนมาให้หลายคน นางขอแค่สองคนแต่ทำไมเขาถึงส่งมาให้ตั้งห้าคนล่ะเนี่ย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 1 เกิดใหม่อีกครั้ง

    บนที่นอนเก่า ๆ มีร่างของเด็กสาวอายุสิบสองหนาวที่นอนป่วยติดต่อกันมาห้าวันแล้วกำลังขยับตัว ร่างผอมบางแทบจะปลิวหากถูกลมแรง ๆ พัดมา จนลืมตาขึ้นมาได้ก็รู้สึกปวดเมื่อยตามตัวไปหมด เมื่อปรับสายตาได้จึงมองสำรวจรอบ ๆ ก็แปลกใจว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เข็มขาวจำได้ว่าเธอถูกรถชนอย่างแรง และตายไปแล้วแต่ตอนนี้ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แถมยังใส่ชุดเหมือนคนจีนโบราณเมื่อนั่งทบทวนเรื่องราวอยู่จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างแรงและมีความทรงจำของร่างนี้ มันกำลังหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเธอจนต้องนอนนิ่ง ๆ อยู่เกือบหนึ่งเค่อ อาการปวดหัวเหล่านั้นจึงเริ่มดีขึ้น เธอเรียบเรียงความทรงจำของร่างนี้ ก็พบว่าร่างที่เธอเข้ามาอยู่นั้นมีชื่อว่าสวีลู่ชิงอายุสิบสองหนาว ท่านพ่อของนางถูกท่านปู่แท้ ๆ ไล่ออกจากตระกูล เพราะมีคนสร้างหลักฐานเท็จใส่ร้ายว่า ท่านพ่อทำบัญชีปลอมเพื่อโกงเงินร้านค้าผ้าเมื่อมีหลักฐานชี้ชัดก็ไม่อาจก้ตัวอะไรได้ ท่านพ่อจึงพาทุกคนเดินทางมาบ้านเดิมของท่านย่าที่หมู่บ้านอันผิง ยามออกจากจวนพวกเขาไม่อาจหยิบของมีค่าติดตัวมาได้ โชคดีที่ท่านแม่แอบนำตั๋วเงิน มาเย็บไว้ในเสื้อผ้าของลู่ชิงจึงพอมีเงินจ่ายค่าเดินทาง จากพ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 2 ได้มิติมาแบบไม่คาดฝัน

    ลู่ชิงนอนหลับสนิทอยู่สักพัก แต่กลับถูกรบกวนด้วยเสียงใครบางคน ที่พยายามเรียกตนเองให้ตื่น ทั้งที่กำลังนอนหลับสบาย จากอาการป่วยจนร่างกายไร้เรี่ยวแรงมานาน เมื่อทนการรบเร้านี้ไม่ไหว จึงได้ลืมตาตื่นมองไปรอบ ๆ ที่ยามนี้ไม่ใช่เตียงนอนเก่า ๆ อีกแล้ว แต่เป็นสถานที่หนึ่งกับชายชราผมขาว ที่ยืนถือไม้เท้าลักษณะแปลก ๆ มองมาที่ลู่ชิงอย่างเหนื่อยใจ“นางหนู ๆ ๆ ตื่นได้แล้วกระมัง จะนอนกินบ้านกินเมืองหรืออย่างไร โลกโน้นทำเจ้าอดหลับอดนอน พอข้ามมายังโลกนี้ก็ยังต้องมาเหนื่อยอีกงั้นรึ” ชายแก่ผมขาวในมือยังถือไม้เท้า พยายามปลุกร่างบางที่ยังนอนหลับอยู่“อืม ขอนอนต่ออีกสักหน่อยนะเจ้าคะ” ลู่ชิงยังไม่รู้ตัวว่าตอนนี้นางไม่ได้อยู่บนเตียงนอนในบ้านของตนเอง“ถ้าเจ้ายังไม่ยอมตื่นขึ้นมาเสียทีละก็ ข้าจะไม่ให้ของดีกับเจ้านะนางหนู” ชายแก่ยังไม่ยอมแพ้ที่จะปลุกนาง“พรึ่บ!! หือ! ที่นี่คือที่ไหน ไม่ใช่ห้องนอนในบ้านนี่ แล้วเมื่อกี้เสียงใครปลุกข้าให้ตื่นกันล่ะ” ข้ารู้สึกแปลกใจที่มีคนมาปลุก และพูดว่าจะให้ของดีอีกพอหันไปด้านหลัง ก็เจอกับชายแก่ผมขาวที่ดูใจดีคนหนึ่งยืนอยู่เงียบ ๆ“ท่านตาเป็นใครหรือเจ้าคะ แล้วที่นี่คือที่ไหน หรือว่าข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 3 สำรวจมิติ

    เมื่อถึงปลายยามโหย่ว หลังจากที่ทุกคนทานมื้อเย็นเสร็จ และเก็บจานชามไปทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมารวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะทานข้าวอีกครั้ง และเป็นท่านพ่อที่เอ่ยถาม เรื่องที่ลู่ชิงอยากจะพูดคุยกับพวกเขาขึ้นมา ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ สำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนลู่ชิงจะพูดน้อยและทำตัวเงียบ ๆ หากไม่มีผู้ใดถามนาง ก็จะทำงานของตนไม่เคยมีข้อสงสัยใด ๆ“ชิงเอ๋อร์ ท่านแม่ของเจ้าบอกพ่อว่า เจ้ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับพวกเราเช่นนั้นหรือ” ลู่เวินเอ่ยถามบุตรสาว“เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้ามีเรื่องสำคัญมาก อยากจะบอกความจริงบางอย่างกับพวกท่านทุกคน ก่อนที่จะเล่าข้าอยากขอให้พวกท่านตั้งสติและทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะได้ยิน เพราะเรื่องที่จะพูดต่อไปนี้อาจจะเหลือเชื่อจนเกินไป หรือจะเรียกว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติก็ว่าได้ แต่มันเกี่ยวข้องกับบุตรสาวคนนี้ของท่าน รวมถึงน้องสาวของพวกท่านสองคนด้วยเจ้าค่ะ” ที่ลู่ชิงพูดเช่นนั้นเพราะอยากให้พวกเขามีสติ กับความจริงที่นางกำลังจะพูดออกไป“เอาเถอะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร พวกเราทุกคนยินดีที่จะรับฟังทั้งสิ้น เจ้าพูดมันออกมาได้เลยนะชิงเอ๋อร์” เขาอยากจะรู้ว่าบุตรสาวมีเรื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 4 พักผ่อนหารือเรื่องอาชีพ

    ลู่ชิงตื่นขึ้นมายามเหม่าของอีกวัน จึงรีบเข้าไปในมิติเพื่อหยิบพวกเนื้อสัตว์และผักที่จะใช้ทำเป็นมื้อเช้าวันนี้ โดยไม่ลืมที่เดินไปหยิบเอาพวกแปรงสีฟันและยาสีฟัน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ทำความสะอาดช่องปากลู่ชิงกลัวว่าแค่บ้วนปากด้วยเกลือมัน จะไม่สะอาดในเมื่อมีของให้ใช้ เราก็ต้องใช้จะปล่อยให้เสียของได้อย่างไร เช้านี้ลู่ชิงอาสาเป็นคนปรุงอาหารเอง โดยนางจะทำข้าวต้มกุ้งให้ทุกคนได้ทาน ขณะที่กำลังเตรียมของอยู่ ก็มีเสียงดังมาจากด้านหลังของนางฟางซินตื่นมาก็เห็นบุตรสาว กำลังเตรียมวัตถุดิบทำมื้อเช้าอยู่ เมื่อนางได้พูดคุยกับสามี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับชิงเอ๋อร์ คงเป็นลิขิตของสวรรค์นางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ จะให้ขับไล่นางออกไปสตรีคนนั้นก็ไม่ได้ทำผิด นางไม่ได้เข้ามาอยู่ในร่างของชิงเอ๋อร์เองแต่เป็นท่านเทพที่พานางมา เพื่อใช้ชีวิตที่เหลือแทนชิงเอ๋อร์ของนางต่างหาก ฟางซินจึงคิดว่าค่อย ๆ เรียนรู้กันไปต่อจากนี้ก็แล้วกัน“ทำไมถึงได้ตื่นมาแต่เช้าเช่นนี้เล่า นี่กำลังเตรียมทำมื้อเช้าอยู่หรือ มีอะไรให้ช่วยไหม”“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าเองก็ชอบทำอาหารเหมือนกันมื้อเช้านี้จะลงมือปรุงเอง ท่านแม่คอยเป็นผู้ช่วยให้ข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 5 ชิมอาหารก่อนทำขาย

    สามวันที่ผ่านมาท่านพ่อและพี่ชาย ก็ขึ้นเขาไปวางกับดักสัตว์และหาของป่าอย่างอื่นตามปกติ พอจะเอาไปขายที่ตำบลลู่ชิงก็จะขอตามไปด้วยทุกครั้ง ไปถึงตำบลก็ให้ท่านพ่อไปขายเนื้อสัตว์ ที่วางกับดักมาได้ที่เหลาอาหาร ซึ่งเมื่อก่อนท่านพ่อมักจะนำมาขายเป็นประจำ รวมสามวันได้เงินมาสามร้อยเก้าสิบอีแปะ ส่วนตัวลู่ชิงเดินไปร้านเครื่องประดับ เพื่อเอากำไลข้อมือหยกที่ไม่ใช่หยกเนื้อดีมากนักหนึ่งวง สร้อยคอเงินพร้อมจี้หยกลายหยดน้ำหนึ่งเส้น และต่างหูไข่มุกหนึ่งคู่ออกมาขาย เถ้าแก่ร้านให้ราคาชิ้นละสามพันตำลึงเงิน ถึงจะไม่สวยมากแต่ขายได้ราคานี้ถือว่าสูงมากแล้วรวมแล้วตอนนี้มีเงินอยู่ทั้งหมด เก้าพันสิบสามตำลึงกับอีกสามร้อยเก้าสิบอีแปะ คงต้องแบ่งเงินไปซ่อมหลังคาบ้านสักหน่อย รอให้ทำการค้าไปสักระยะหนึ่ง ค่อยสร้างบ้านใหม่ที่แข็งแรงกว่านี้ หรือจะซื้อบ้านอยู่ในตำบลก็คงจะดีกว่า เพราะไม่ต้องเสียเวลาเดินทางทุกคนจะได้มีเวลาพักผ่อนเพิ่มอีกสักหน่อยยามอู่วันนี้ลู่ชิงคิดว่าจะทำหมูทอด สามชั้นทอดและน่องไก่ทอด ให้กับทุกคนได้ลองชิมดูก่อนที่จะทำไปขาย ซึ่งลู่ชิงได้นำเนื้อทั้งสามอย่างออกมาจากมิติ และเตรียมหมักก่อนนำไปทอด เริ่มจากทำการหมัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 6 ขายอาหารวันแรก

    สองวันต่อมาก็ถึงเวลาไปขายของวันแรกแล้ว ทุกคนตื่นพร้อมกันลู่ชิงกับฟางซินช่วยกันหมักเนื้อหมูและน่องไก่ ส่วนลู่เวินกับบุตรชายก็ช่วยกันยกเตาและอุปกรณ์ที่ใช้ทอดทุกอย่าง ขึ้นบนรถเข็นรออยู่นอกบ้านลู่ชิงได้ตั้งกฎกับครอบครัวเอาไว้ว่า จะขายของหกวันและหยุดพักหนึ่งวัน เพราะไม่อยากให้ทุกคนเอาแต่คิดเรื่องทำงานหาเงิน ควรมีเวลาพักผ่อนบ้าง แม้จะมีน้ำจากบ่อวิเศษให้ดื่ม แต่อย่างน้อยการพักผ่อนให้เต็มที่ ก็เป็นผลดีต่อร่างกายมากกว่า เมื่อทุกอย่างพร้อมจึงปิดประตูบ้านและเดินเท้าไปในตำบลหย่งฝู พื้นที่ขายของที่ลู่เวินจองไว้ให้นั้นเป็นการจองแบบรายเดือน และมันก็อยู่บริเวณที่มีคนพลุกพล่านมาเดินจับจ่ายซื้อของยามเช้าพอถึงบริเวณพื้นที่ของตนเองแล้ว ทุกคนทำตามหน้าที่ของตน ลู่เวินกับบุตรชายช่วยกันยกเตาและติดเตาไฟ ลู่ชิงกับมารดาช่วยกันจัดวางอุปกรณ์บนโต๊ะให้หยิบใช้สะดวก ยกถังไม้ที่ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งแล้ววางไว้ข้างโต๊ะกับใบตอง ที่เช็ดทำความสะอาดสำหรับใช้ห่ออาหาร ซึ่งก็เอามาจากป่าชั้นนอกที่อยู่ด้านหลังบ้านของพวกเขา ยามนี้ลู่เวินได้ตั้งกระทะและใส่น้ำมันลงไปทั้งสามกระทะ ควบคุมไฟไม่ให้ร้อนมากเกินไป มีเก้าอี้สามตัววางชามขนา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 7 ชาบูชาใจฉลองกันหน่อย

    กลับมาถึงบ้านก็เกือบถึงยามซื่อแล้ว มื้อเช้าทุกคนก็อาศัยกินข้าวเหนียวกับหมูทอดกัน เพราะตื่นเต้นกับการขายของวันแรก จึงลืมเตรียมมื้อเช้าไปกินด้วย ลู่ชิงจึงคิดว่าคืนนี้จะทำกับข้าวง่าย ๆ ใส่กล่องไว้ในมิติตอนเช้าจะได้ไม่ลืมอีก เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ลู่ชิงก็ชวนทุกคนมานั่งที่โต๊ะอาหาร เพื่อทำการนับเงินที่ได้จากการขายของวันแรกพร้อมกัน“ท่านพ่อท่านแม่ พวกเรามานับเงินกันเจ้าค่ะว่าจะได้เท่าไหร่” ลู่ชิงอยากรู้ว่ารายได้ของวันนี้เป็นอย่างไร“ได้สิลูก พวกเราช่วยกันนับแยกเป็นกอง ๆ ไว้ จะได้รู้ว่ายอดรวมทั้งหมดเป็นเงินเท่าไหร่” ลู่เวินเองก็อยากรู้เช่นกันเพราะท่านพ่อเป็นพ่อค้า เรื่องคำนวณตัวเลขจึงสำคัญพวกเขาสามพี่น้องล้วนได้เรียนรู้เรื่องนี้ โดยมีท่านพ่อเป็นคนสอน ทุกคนจดจ้องอยู่กับการนับเงิน ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว“เอาล่ะ เจ้าใหญ่ลองนับยอดรวมทั้งหมดดูสิว่ามีเท่าไหร่” ลู่เวินให้บุตรชายคนโตอย่างลู่จื้อนับจำนวนเงินทั้งหมดอีกครั้ง“ขอรับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก... ท่านพ่อ!! รายได้ทั้งหมดวันนี้ มีถึงหกตำลึงเงินกับอีกหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าอีแปะขอรับ” ลู่จื้อนับเสร็จก็บอกจำนวนที่นับได้ทันที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 8 อาหารทอดขายดีเกินต้าน

    วันที่สองของการค้าขายก็ยังดีเหมือนเมื่อวาน เพราะมีลูกค้ามายืนรอบริเวณหน้าร้านหลายคนแล้ว และวันนี้ก่อนออกจากบ้านพวกเราทานข้าวผัดหมูเป็นมื้อเช้ามาเรียบร้อย ตอนนี้กำลังช่วยกันตั้งร้านใกล้จะเสร็จ หน้าที่ทอดหมูและไก่ ก็ยังคงเป็นท่านพ่อกับพี่ใหญ่พี่รองเช่นเดิม เข้าสู่ปลายยามเหม่าอาหารก็พร้อมขาย ลูกค้าหน้าคุ้น ๆ ที่ยืนรออยู่ก็รีบสั่งทันที“แม่นางน้อย ข้าเอาเนื้อหมูกับสามชั้นอย่างละสองห่อ และน่องไก่หนึ่งห่อนะ ข้าจะเอาไปฝากเมียกับลูกที่บ้านด้วย”“ได้เจ้าค่ะข้าจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย” ลู่ชิงไม่รอช้ารีบห่อข้าวให้ลูกค้าอย่างรวดเร็ว ท่านแม่ก็ช่วยนางห่อเช่นกัน“แม่หนู ป้าก็เอาทุกอย่างเลยนะขออย่างละสองห่อเหมือนกัน”“เจ้าค่ะ ท่านป้ารอสักประเดี๋ยวนะเจ้าคะ ลูกค้าท่านอื่น ๆ ต่อแถวกันด้วยเจ้าค่ะ รับรองได้กินของอร่อยทุกคนเจ้าค่ะ” ลู่ชิงรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าคนต่อไป และแจ้งคนอื่นเพื่อความเป็นระเบียบ“นี่ของท่านอาเจ้าค่ะ ทั้งหมดห้าสิบห้าอีแปะ รบกวนท่านอาจ่ายเงินให้ท่านแม่ของข้าได้เลยนะเจ้าคะ” ลู่ชิงให้มารดาเป็นคนรับเงินจากลูกค้าแทน เพราะนางทั้งพูดทั้งห่อข้าวไปด้วย เกรงว่าจะไม่ได้ตรวจให้ถี่ถ้วนลูกค้ามาเข้าแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13

บทล่าสุด

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 27 ได้ฤกษ์เปิดร้านอาหารแล้ว

    ยามสายของวันนี้ครอบครัวของลู่ชิง จะย้ายไปพักอยู่ที่ร้านอาหารเป็นการชั่วคราว ซึ่งเมื่อวานลู่ชิงได้แจ้งกับลูกค้าทุกคน ที่มาซื้ออาหารที่แผงไว้แล้วว่า จะหยุดขายอาหารที่แผงตรงนี้ โดยจะเปิดขายอาหารอีกครั้งที่ร้านอาหารของครอบครัวทุกคนสามารถตามไปซื้อ หรือนั่งทานอาหารที่ร้านได้ และยังได้บอกกับลูกค้าอีกว่า จะมีน้ำหลากสีที่ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นมาขายที่ร้านด้วย ลูกค้าที่ได้ฟังต่างก็เฝ้ารอ ให้ถึงวันเปิดร้านอาหารของครอบครัวลู่ชิง พวกเขาอยากไปชิมอาหารรายการที่จะมีเพิ่ม และน้ำหลากหลายสีที่เถ้าแก่น้อยได้บอกไว้เสียทีทุกคนช่วยกันขนของ ที่เป็นหีบใส่เสื้อผ้าเสียส่วนใหญ่ขึ้นเกวียน เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วลู่เวินก็เป็นคนบังคับเกวียน เดินทางเข้าตำบลหย่งฝูใช้เวลาเพียงสองเค่อ พวกเขาก็มาถึงร้านแล้ว พี่ชายสองคนช่วยกันยกหีบใบขนาดกลางสองสามหีบ ลงจากเกวียนเพื่อที่ท่านพ่อจะได้นำเกวียนไปจอดด้านหลังร้านลู่ชิงปล่อยให้บุรุษทั้งสามยกหีบขึ้นไปเก็บบนชั้นสอง ส่วนตนเองและมารดาเข้ามาอยู่ด้านในห้องครัว เพื่อจะนำเอาโต๊ะไม้สี่เหลี่ยมขนาดนั่งได้สี่คน และเก้าอี้ไม้แบบมีพนักพิงออกมาจากมิติ รอบิดาและพี่ชายลงมาสมทบค่อยยกออกไปจัดวางด้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 26 ปรับปรุงร้านเสร็จและหาคนงานเพิ่ม

    ด้านลู่ชิงกับครอบครัว หลังจากที่นำน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไปเสนอทำการค้ากับเถ้าแก่หง ยามเช้าของวันที่สองยังไม่ถึงกำหนดวัน ที่นัดเจอกันไว้กลับกลายเป็นว่า เถ้าแก่หงมาหาพวกเขาถึงแผงขายอาหาร เพราะต้องการมาให้คำตอบว่า ตนตกลงทำการค้าตามข้อเสนอของลู่ชิง โดยให้นำหนังสือสัญญาการค้า ไปให้เขาลงชื่อที่ร้านหลังจากลู่ชิงขายของหมดเรียบร้อยแล้วเถ้าแก่หงที่ได้รับรายงานจากหลงจู๊ของร้านผ้า ทั้งสามสาขาที่ให้ลองเอาน้ำยาปรับผ้านุ่มนี้ไปทดลองขาย เพียงแค่วันเดียวลูกค้ากลับมาถามถึงน้ำยาชนิดนี้มากมาย จนหลงจู๊ของร้านต้องยอมให้พวกเขาลงชื่อจองสินค้าไว้ก่อน เมื่อสินค้าส่งไปแล้วทางร้านจะแจ้งให้ลูกค้ามารับตามลำดับการจอง ซึ่งลูกค้าทุกคนที่ลงชื่อจองไว้ ได้จ่ายค่ามัดจำครึ่งหนึ่งเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ว่าตนเองจะได้รับสินค้าแน่นอน ถึงจะทำเช่นนั้นแต่พวกเขาก็เชื่อใจร้านค้าของเถ้าแก่หงอยู่แล้วลู่ชิงจึงให้บิดากับลู่จื้อถือหนังสือสัญญา ไปพบเถ้าแก่หงพร้อมนำสินค้าไปส่งจำนวนสองร้อยห้าสิบขวด ซึ่งเป็นขวดใบใหญ่ทั้งสิ้น นอกจากนี้เถ้าแก่หงยังได้แบ่งกำไร จากสินค้าทดลองขายฝากมากับบิดาถึงห้าสิบตำลึงทอง ลู่ชิงจึงมอบให้มารดาเก็บไว้ ต่อไปก็แค่รอร

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 25 น้ำสมุนไพรช่วยถอนพิษ

    ฮ่องเต้เซียวถิงเฟิงที่ทรงทอดพระเนตรมองอนุชา และหลานชายของพระองค์ ต่างจ้องหน้ากันด้วยสีหน้าที่ดูกังวล จึงทรงคิดว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวของพระองค์อย่างแน่นอน“เสด็จพี่ กระหม่อมกับอาหลงสองคนสงสัยว่า อาการที่พระองค์ทรงตรัสออกมากับกระหม่อมเมื่อครู่นั้น เป็นอาการเริ่มแรกของคนที่ถูกวางยาพิษมาสักระยะหนึ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ท่านอ๋องเซียวไม่ปิดบังพูดเรื่องที่ตนและบุตรชายสงสัยออกไปทันที“เจ้าพูดว่าอะไรนะชินอ๋อง!! เจิ้นถูกวางยาพิษเช่นนั้นรึ แต่ว่าก่อนที่จะทานอะไร จ้าวกงกงจะทดสอบพิษด้วยเข็มเงินทุกครั้ง จะเป็นไปได้อย่างไรกันที่จะตรวจไม่พบยาพิษในอาหาร” ฮ่องเต้เซียวถิงเฟิงตกพระทัยไม่น้อย ที่ได้ยินอนุชาของพระองค์พูดเช่นนั้น“ตุบ! ท่านอ๋องบ่าวได้ทดสอบด้วยตนเองทุกครั้งจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ แต่ไม่พบว่ามียาพิษปะปนอยู่ในอาหารเหล่านั้นเลย” จ้าวกงกงยืนยันว่าได้ตรวจสอบด้วยตนเองทุกครั้ง“เปิ่นหวางรู้ว่าจ้าวกงกงย่อมทำหน้าที่ตรวจสอบด้วยตนเอง แต่ยาพิษบางชนิดไร้สีไร้กลิ่น และไม่อาจจะใช้เข็มเงินในการตรวจได้ เจ้าจึงไม่รู้ว่ายาพิษนั้นอยู่ในอาหารชนิดใดต่างหาก” ท่านอ๋องไขความกระจ่างให้กับจ้าวกงกง“เสด็จลุงหลานไม่ขอปิ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 24 เซียวหนิงหลงถึงเมืองหลวง

    ด้านเซียวหนิงหลงกับผู้ติดตาม ที่เดินทางจากตำบลหย่งฝูใช้เวลาเดินทางครั้งนี้เกือบหนึ่งเดือน เพราะพวกเขาต้องใช้รถม้า นำตัวสายลับพวกนี้กลับไปด้วย ทำให้การเดินทางล่าช้าไปบ้าง ยังโชคดีที่ระหว่างทางไม่เกิดปัญหา มิเช่นนั้นอาจจะถึงเมืองหลวงช้ากว่านี้อย่างแน่นอนเมื่อเข้าใกล้เขตเมืองหลวง เซียวหนิงหลงได้นำตัวสายลับไปคุมขังไว้ที่คุกใต้ดิน ทางด้านทิศตะวันออกห่างจากกำแพงเมืองหลวงประมาณสิบลี้ บริเวณนี้คล้ายหมู่บ้านเล็ก ๆ มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่กี่ครัวเรือน สิ่งนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับชาวบ้าน ที่อยู่รอบนอกกำแพงเมือง แต่อันที่จริงคนเหล่านี้ล้วนเป็นหน่วยลับของเซียวชินอ๋อง ที่แสร้งมาสร้างบ้านอยู่กันเป็นครอบครัวบดบังคุกใต้ดินที่อยู่ที่นี่“ตันเจียง ชุนชาน พวกเจ้าเอาตัวสายลับพวกนี้ไปขังไว้ที่คุกใต้ดิน จากนั้นกำชับคนของเราให้จับตาดูไว้ อย่าให้คลาดสายตาหากไม่มีคำสั่ง ห้ามปลดโซ่ออกจากมือและเท้าเด็ดขาด ข้าจะกลับไปรายงานเสด็จพ่อส่วนพวกเจ้าค่อยตามไปทีหลัง” เขาสั่งงานทั้งสองคนเสร็จก็ควบม้าออกจากทันที เพราะต้องการให้ครอบครัวของตน โดยเฉพาะบิดาได้ดื่มน้ำสมุนไพรนี้ของลู่ชิง ในเมื่อมันสามารถช่วยให้ตนบรรลุขั้นพลังยุทธ์ได

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 23 ยาสามัญประจำบ้าน

    เถ้าแก่หงเรียกหลงจู๊ของร้านมาสั่งการ ให้นำน้ำยาปรับผ้านุ่มนี้ส่งไปที่ร้านค้าผ้าสักสามสาขา แล้วแบ่งขายเป็นขวดขนาดกลาง ดูผลตอบรับจากลูกค้าก่อนที่จะตัดสินใจว่า จะร่วมทำการค้านี้หรือไม่ทางด้านลู่ชิงและครอบครัว เดินมาตามทางที่เถ้าแก่หงแนะนำ ตอนนี้ทุกคนมายืนอยู่หน้าร้านขายสมุนไพร กึ่งโรงหมอเรียบร้อยแล้วคนป่วยที่มาต่อแถวเพื่อรักษา ส่วนมากเป็นชาวบ้านที่มีรายได้น้อยแต่เท่าที่มองดูผู้ช่วยหมอที่พูดคุย และสอบถามอาการของคนป่วย ก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าที่นี่ดูแลคนป่วยด้วยใจจริง ๆ ลู่เวินจึงตัดสินใจเดินเข้าไปทักผู้ช่วยหมอ ที่กำลังตรวจคัดคนป่วยเบื้องต้นอยู่“เอ่อ น้องชายข้าขอรบกวนเวลาเจ้าสักประเดี๋ยวได้หรือไม่” ลู่เวินทักทายผู้ช่วยหมอเพื่อจะสอบถามเรื่องท่านหมอเกา“พี่ชายจะสอบถามเรื่องอันใดหรือขอรับ” ผู้ช่วยหมอได้ยินเสียงจากด้านหลัง จึงหยุดการตรวจคัดกรองคนป่วย และหันมาถามลู่เวินแทน“ข้าอยากจะขอพบท่านหมอเกา พอดีว่าครอบครัวข้ามีเรื่องยาสมุนไพร จะมาพูดคุยกับท่านหมอเกาน่ะ” ลู่เวินบอกกับผู้ช่วยท่านหมอเกาไปตามตรง“ตอนนี้ท่านหมอเกากำลังตรวจอาการคนป่วยอยู่ แต่ว่าเหลืออีกไม่กี่คนก็จะได้พักแล้วขอรับ ไม่ทราบว่า

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 22 น้ำยาปรับผ้านุ่ม

    สินค้าที่ครอบครัวสวีรับซื้อมาจากชาวบ้าน ลู่ชิงเอาไปเก็บไว้ในมิติก่อน เพราะร้านค้ายังปรับปรุงไม่เสร็จ และเย็นวันเดียวกันทุกคนก็เข้าไปช่วยกันทำอาหาร สำหรับงานเลี้ยงให้ลูกค้า ซึ่งได้นัดเวลากันไว้ในยามเช้าของวันพรุ่งนี้หลังจากทุกคนช่วยกันทำอาหารให้ลูกค้าเสร็จ ลู่ชิงก็เดินไปที่ช่องสินค้าที่เป็นยาสมุนไพรต่าง ๆ ทั้งชนิดเม็ดและชนิดน้ำ มียาสำหรับเด็กรวมถึงยาบำรุงภายในของสตรี ลู่ชิงจะลองเอาไปเสนอขายที่ร้านขายยาสมุนไพรดู เผื่อจะได้คู่ค้าเพิ่มอีกสักราย ลู่ชิงจึงเดินไปหาทุกคนที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่ด้านหน้าห้างสรรพสินค้า“ท่านพ่อท่านแม่เจ้าคะ ข้ามีเรื่องอยากจะถามพวกท่านหน่อยได้หรือไม่ พี่ใหญ่กับพี่รองด้วยนะเจ้าคะ” ลู่ชิงต้องรีบคุย ถ้าทุกคนเห็นด้วยกับนางจะได้เตรียมของไว้ในมิติไปเลยทีเดียว“ชิงเอ๋อร์มีเรื่องอะไรจะถามพวกเราหรือลูก?” ลู่เวินถามขึ้นเมื่อเห็นบุตรสาวเหมือนอยากจะทำอะไรสักอย่าง“ข้าอยากจะถามพวกท่าน เกี่ยวกับยารักษาโรคจำพวกสมุนไพร ถ้าจะลองนำไปเสนอขายให้กับร้านสมุนไพร หรือโรงหมอจะเห็นด้วยหรือไม่เจ้าคะ” ลู่ชิงลุ้นกับคำตอบของทุกคนมาก ๆ หากนำไปขายได้ อย่างน้อยก็มีประโยชน์กับคนที่เจ็บป่วย“ยารัก

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 21 รับซื้อผลิตภัณฑ์รอบแรก

    เช้าวันนี้เป็นวันหยุดประจำของครอบครัวลู่ชิง ทุกคนล้วนไม่เร่งรีบไม่ต้องตื่นแต่เช้ามืด วันหยุดทุกคนจะตื่นปลายยามเหม่ากัน ซึ่งก็เป็นลู่ชิงที่ตั้งกฏนี้ขึ้นมาอีกเช่นเคย นางแค่อยากให้พวกเขาได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ ตอนนี้ครอบครัวของนางก็เริ่มจะมีเนื้อมีหนังขึ้นมาบ้างแล้ว บำรุงอีกสักเดือนคงจะกลับมาสมบูรณ์ปกติกันเช่นเดิมและวันนี้จะเป็นวันแรก ที่ลู่ชิงจะเปิดรับซื้อผลิตภัณฑ์ของชาวบ้าน หลังทานมื้อเช้ากันเรียบร้อย ทุกคนต่างก็เตรียมเหรียญอีแปะใส่กระปุกไม้เอาไว้พร้อมแล้ว ลู่ชิงได้ให้บิดาไปแจ้งหัวหน้าหมู่บ้านไว้ว่า จะขอใช้พื้นที่ลานอเนกประสงค์ของหมู่บ้านในการรับซื้อผลิตภัณฑ์ เมื่อใช้พื้นที่ตรงนี้เสร็จแล้ว จะจ่ายค่าบำรุงให้กับหัวหน้าหมู่บ้านทุกครั้ง เพื่อให้หัวหน้าหมู่บ้านนำเงินส่วนนี้ไว้ช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน จากภัยแล้งหรือภัยหนาวก็สามารถใช้เงินส่วนนี้ได้ โดยไม่ต้องรอเงินช่วยเหลือจากทางการ“วันนี้เราจะเปิดรับซื้อผลิตภัณฑ์จากชาวบ้านเป็นวันแรก ทุกคนพร้อมกันหรือยังเจ้าคะ” ลู่ชิงรู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องนี้มาก เพราะที่ร้านอาหารของนางจำเป็นต้องใช้สิ่งเหล่านี้“น้องเล็กเจ้ายังจะถามอีกรึ พวกเรามาตั้งโต๊ะรอ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 20 ประโยชน์ของน้ำสมุนไพร

    เซียวหนิงหลงใช้เวลาเดินทาง ออกจากเมืองหย่งจินมาแล้วสองชั่วยาม ในตอนนี้เขาและผู้ติดตามกำลังพักอยู่ใกล้ริมลำธาร เพื่อให้ม้าได้ดื่มน้ำกินหญ้า ในส่วนของคนก็ต้องทานอาหารเช่นกันเขานึกถึงคำพูดของลู่ชิงที่บอกให้ลองดื่มน้ำสมุนไพร เมื่อออกจากเมืองหย่งจินมาระยะหนึ่งแล้วจะได้รับคำตอบ ไม่รอช้าเซียวหนิงหลงหยิบถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรขึ้นมาดื่ม ทันทีที่น้ำสมุนไพรเข้าไปในร่างกาย เขาก็รู้สึกโล่งเบาสบายเป็นอย่างมากอาการเหนื่อยล้าเล็กน้อยจากการขี่ม้าก็หายไป นอกจากนี้เขายังสัมผัสถึงลมปราณที่วิ่งไปยังจุดต่าง ๆ ในร่างกาย เหมือนกับว่าเขากำลังจะบรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์ ไม่แปลกใจที่ชิงเอ๋อร์กำชับเอาไว้ว่า อย่าแบ่งน้ำสมุนไพรนี้ให้กับใครพร่ำเพรื่อเด็ดขาด เซียวหนิงหลงถือถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรเดินไปหาตันเจียงกับชุนชาน เพื่อแบ่งให้พวกเขาสองคนได้ดื่ม และจะเก็บไว้ให้กับครอบครัวของเขาด้วยเช่นกัน“ตันเจียง ชุนชาน พวกเจ้าแยกมาด้านนี้สักประเดี๋ยว” เขาเรียกผู้ติดตามทั้งสองคนให้เดินมาหาอีกทางหนึ่ง เพื่อป้องกันพวกสายลับจะได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังจะพูดคุยกัน“ไม่ทราบว่าซื่อจื่อมีอะไรจะสั่งการพวกเราหรือขอรับ” ตันเจียงเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 19 เซียวหนิงหลงเจ้าเล่ห์ทำตัวตีสนิทกับตระกูลสวี

    ตันเจียงที่เห็นว่านายน้อยของตน เอาแต่จ้องหน้าคุณหนูลู่ชิงจึงกระแอมกระไอเสียงดัง เพื่อเรียกสติเจ้านายเสียหน่อย ประเดี๋ยวจะออกเดินทางล่าช้าได้ หากปล่อยให้อยู่ในอาการของคนตกหลุมรักเด็กสาวตรงหน้า“อะแฮ่ม ๆ ไม่ทราบว่าคุณหนูลู่ชิงจะไปที่ใดหรือ ถึงได้เดินมาทางนี้เพียงลำพังน่ะขอรับ” ตันเจียงเป็นคนเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ“อ้อ ข้ากำลังจะไปดูนายช่างหาน ที่มาปรับปรุงร้านเป็นวันแรกเจ้าค่ะ แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน คงต้องเอาไว้ค่อยมาดูพรุ่งนี้กับท่านพ่อแทนแล้วล่ะเจ้าค่ะ” พรุ่งนี้ค่อยชวนทุกคนมาดูพร้อมกันน่าจะดีกว่า“นายช่างได้บอกหรือไม่ว่าใช้เวลากี่วัน ถึงจะปรับปรุงร้านค้าของเจ้าเสร็จ” เซียวหนิงหลงเอ่ยถามกับลู่ชิงบ้าง“บอกเจ้าค่ะใช้เวลาไม่เกินยี่สิบวัน เพราะต้องต่อเติมด้านบนชั้นสองทำเป็นห้องพักสองห้อง จากนั้นครอบครัวข้าจะย้ายมาพักที่นี่ชั่วคราว และให้นายช่างหานไปสร้างบ้านต่อที่หมู่บ้านอันผิงเจ้าค่ะ” ลู่ชิงตอบด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ แถมยังส่งยิ้มให้กับเซียวหนิงหลงอีกด้วย“หากพี่จะฝากคนให้มาเป็นลูกจ้างของร้านเจ้า สักสามสี่คนจะได้หรือไม่ พวกเขาเป็นกำพร้าแต่เด็กไม่มีครอบครัว เจ้าพอจะรับไว้ได้ไหม” เขาต้อ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status