Home / รักโบราณ / ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย / ตอนที่ 26 ปรับปรุงร้านเสร็จและหาคนงานเพิ่ม

Share

ตอนที่ 26 ปรับปรุงร้านเสร็จและหาคนงานเพิ่ม

last update Last Updated: 2025-01-15 14:58:25

ด้านลู่ชิงกับครอบครัว หลังจากที่นำน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไปเสนอทำการค้ากับเถ้าแก่หง ยามเช้าของวันที่สองยังไม่ถึงกำหนดวัน ที่นัดเจอกันไว้กลับกลายเป็นว่า เถ้าแก่หงมาหาพวกเขาถึงแผงขายอาหาร เพราะต้องการมาให้คำตอบว่า ตนตกลงทำการค้าตามข้อเสนอของลู่ชิง โดยให้นำหนังสือสัญญาการค้า ไปให้เขาลงชื่อที่ร้านหลังจากลู่ชิงขายของหมดเรียบร้อยแล้ว

เถ้าแก่หงที่ได้รับรายงานจากหลงจู๊ของร้านผ้า ทั้งสามสาขาที่ให้ลองเอาน้ำยาปรับผ้านุ่มนี้ไปทดลองขาย เพียงแค่วันเดียวลูกค้ากลับมาถามถึงน้ำยาชนิดนี้มากมาย จนหลงจู๊ของร้านต้องยอมให้พวกเขาลงชื่อจองสินค้าไว้ก่อน เมื่อสินค้าส่งไปแล้วทางร้านจะแจ้งให้ลูกค้ามารับตามลำดับการจอง ซึ่งลูกค้าทุกคนที่ลงชื่อจองไว้ ได้จ่ายค่ามัดจำครึ่งหนึ่งเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ว่าตนเองจะได้รับสินค้าแน่นอน ถึงจะทำเช่นนั้นแต่พวกเขาก็เชื่อใจร้านค้าของเถ้าแก่หงอยู่แล้ว

ลู่ชิงจึงให้บิดากับลู่จื้อถือหนังสือสัญญา ไปพบเถ้าแก่หงพร้อมนำสินค้าไปส่งจำนวนสองร้อยห้าสิบขวด ซึ่งเป็นขวดใบใหญ่ทั้งสิ้น นอกจากนี้เถ้าแก่หงยังได้แบ่งกำไร จากสินค้าทดลองขายฝากมากับบิดาถึงห้าสิบตำลึงทอง ลู่ชิงจึงมอบให้มารดาเก็บไว้ ต่อไปก็แค่รอรับส่วนแบ่งกำไรและนำสินค้าไปส่งให้เถ้าแก่หงเท่านั้น

ตอนนี้ผ่านมาสิบห้าวันแล้ว นายช่างหานทำการปรับปรุงร้านตามแบบที่ให้ไว้ได้ดีมาก วันนี้ลู่ชิงกับครอบครัวจึงไปตรวจรับงานที่ร้าน หากไม่มีตรงไหนต้องปรับแก้แล้ว พวกเขาจะได้เอาของออกมาตกแต่งร้าน และจ่ายเงินที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งให้นายช่างหาน จากนั้นสถานที่ต่อไปก็เป็นการสร้างบ้านของครอบครัวพวกเขาเสียที

“นายช่างหานกำลังเก็บของกันอยู่หรือขอรับ” ลู่เวินที่เดินเข้ามาเห็นนายช่างหาน กำลังช่วยคนงานเก็บอุปกรณ์ทำงานอยู่จึงเอ่ยถามขึ้น

“อ้อ พวกท่านมากันแล้วหรือ ข้านึกว่ายังขายอาหารไม่เสร็จ จึงช่วยคนงานเก็บพวกอุปกรณ์ และเศษไม้ชิ้นใหญ่ที่หล่นบนพื้น ในเมื่อพวกท่านมาแล้วก็ตรวจดูร้านก่อนเถิด หากมีตรงไหนต้องแก้จะได้ลงมือกันทันที” นายช่างหานที่มารอครอบครัวสวีอยู่ที่ร้านก็ช่วยคนงานเก็บเศษไม้ไปทิ้ง

“ท่านพ่อกับนายช่างหานขึ้นไปตรวจชั้นบนนะเจ้าคะ ส่วนข้ากับท่านแม่และพี่ชายจะตรวจดูด้านล่าง และห้องครัวเองเจ้าค่ะ” ลู่ชิงแบ่งกันเป็นกลุ่มเพื่อง่ายต่อการเดินตรวจรับงาน

เมื่อแบ่งกลุ่มแล้วก็แยกกันไป บนชั้นสองต่อเติมเป็นห้องนอนสองห้อง ห้องนอนจะมีเตียงไม้หลังใหญ่ บุรุษสองคนสามารถนอนได้โดยไม่เบียดกัน แต่ลู่ชิงบอกไว้แล้วว่า จะเอาเตียงออกมาวางเพิ่มทีหลัง ท่านพ่อกับพี่ชายนอนด้วยกันห้องหนึ่ง

ลู่ชิงนอนกับท่านแม่อีกห้อง ส่วนพื้นที่ด้านนอกจะเป็นที่นั่งพักผ่อนของครอบครัวหลังเลิกงาน ซึ่งทุกคนต่างชื่นชอบที่ตรงนี้มาก เนื่องจากมันสามารถใช้นั่งทานอาหารได้นั่นเอง

ชั้นล่างฟางซินกับบุตรสาว เข้าไปตรวจดูภายในห้องครัวที่ดูกว้างขวางวางโต๊ะได้สบาย หน้าต่างบานใหญ่เปิดโล่งระบายอากาศ ถัดออกไปด้านหลังครัวจะมีห้องน้ำสองห้อง และพื้นที่โล่ง ๆ สำหรับจอดเกวียนวัว

ลู่จื้อและลู่เสียนช่วยกันตรวจดูพื้นทางเดินในร้าน ตามฝาผนัง หน้าต่าง เพื่อดูว่าแข็งแรงทนทานไม่พังง่าย ด้านหน้าร้านมุมขวามือก็เตรียมพื้นที่สำหรับวางซุ้มเล็ก ๆ เพราะลู่ชิงบอกว่าจะขายน้ำหลากสี

ทุกคนตรวจดูร้านเรียบร้อยทุกอย่างล้วนไม่มีการปรับแก้อีก ลู่เวินจึงจ่ายเงินมัดจำที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ให้นายช่างหานและบอกว่าพักสักสองสามวัน ค่อยเริ่มสร้างบ้านของพวกเขาก็ได้ แต่ไม่ลืมเชิญนายช่างหานมาร่วมงานวันเปิดร้าน ในอีกห้าวันข้างหน้าซึ่งนายช่างหานเองก็ตอบรับคำเชิญเอาไว้แล้ว

“เอาล่ะทุกคน พวกเรามาช่วยกันทำความสะอาดเสียก่อน น้องหญิงเจ้ากับชิงเอ๋อร์ขึ้นไปทำที่ชั้นบนนะ เพราะไม่ค่อยสกปรกส่วนด้านล่างพี่กับเจ้าใหญ่เจ้ารองจะช่วยกันทำเอง” ลู่เวินให้ฟางซินกับลู่ชิงไปทำความสะอาดชั้นบน เพราะถูกเก็บกวาดไปพอสมควรแล้ว

“แบ่งหน้าที่อย่างที่ท่านพ่อว่ามาก็ได้เจ้าค่ะ ข้ากับท่านแม่จะช่วยกันทำด้านบนเอง จะได้เอาเตียงออกมาเพิ่มในห้องของท่านพ่อ รวมถึงพวกฟูกนอน หมอน ผ้าห่มและโต๊ะสำหรับนั่งพักผ่อนตรงด้านนอก พอพรุ่งนี้พวกเราขนของมาที่ร้าน ก็นอนได้เลยไม่ต้องมานั่งจัดกันอีก” ลู่ชิงบอกถึงสิ่งที่นางจะนำออกมาใช้บนห้องชั้นสอง

“พวกเราแล้วแต่ชิงเอ๋อร์จะตัดสินใจ เอาล่ะแยกย้ายกันไปทำความสะอาด เสร็จแล้วเราจะได้กลับบ้านไปเก็บของ เตรียมย้ายมาที่นี่ในวันพรุ่งนี้กัน” ลู่เวินกำชับคนในครอบครัวอีกครั้ง

กว่าทุกคนจะทำความสะอาดเสร็จ และกลับมาถึงบ้านก็เลยยามอู่ไปเล็กน้อย แต่พวกเขาทานมื้อเที่ยงระหว่างที่นั่งเกวียนกลับมาเรียบร้อยแล้ว ส่วนของในบ้านก็ไม่ได้มีของมีค่าอันใด จึงใช้เวลาเก็บไม่นาน ตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งพักเหนื่อย เนื่องจากครึ่งวันเช้าพวกเขาใช้เวลาไปคุ้มค่ามาก ลู่ชิงจึงเอาน้ำในบ่อวิเศษมาให้ดื่ม พอช่วยให้ร่างกายหายเหนื่อยล้าไปได้เยอะทีเดียว

“พี่ใหญ่พี่รองเจ้าคะ สหายของพวกท่านมีคนในครอบครัวกันกี่คนเจ้าคะ” ลู่ชิงเอ่ยถามกับลู่จื้อเรื่องครอบครัวของสหายพี่ชาย

“จำนวนคนในครอบครัวหรือชิงเอ๋อร์ เจ้าถามเรื่องพวกนี้ไปทำไมกันล่ะ หรือว่าเจ้าคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อีกแล้วใช่หรือไม่” ลู่จื้อที่ได้ยินคำถามนี้ของน้องสาวก็มีอาการงุนงงเกิดขึ้นเล็กน้อย

“ไม่มีอะไรมากหรอกเจ้าค่ะพี่ใหญ่ ข้ากำลังคิดว่าถ้าจะจ้างสหายของพวกท่านสองคน ไปเป็นคนงานที่ร้านช่วยยกน้ำ ยกอาหาร เก็บโต๊ะ ล้างจานโดยจะให้ค่าจ้างเป็นรายเดือน พี่ใหญ่คิดว่าดีหรือไม่เจ้าคะ” ลู่ชิงบอกถึงเหตุผลที่นางถามถึง จำนวนคนในครอบครัวสหายของพี่ชาย

“ชิงเอ๋อร์!! เจ้าบอกว่าจะจ้างสหายของพี่ไปทำงานที่ร้านของเรา และจ่ายค่าจ้างเป็นรายเดือนอีกเจ้าพูดจริงหรือไม่” ลู่จื้อลุกขึ้นนั่งและถามกลับน้องสาวเพื่อความมั่นใจ ว่าได้ยินไม่ผิดลู่เสียนเองก็เช่นกัน

“ย่อมเป็นความจริงสิเจ้าคะพวกท่านลองคิดดู ถ้าเปิดร้านจริง ๆ แล้วมีแค่พวกเราห้าคน ทำหน้าที่หลายอย่างในเวลาเดียวกัน จะเหนื่อยขนาดไหน ข้าถึงได้คิดจะจ้างคนมาช่วยงานเพิ่ม ทุกคนจะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไป จึงได้ถามเรื่องจำนวนคนในครอบครัวสหายของพวกท่านอย่างไรเล่า” ลู่ชิงคิดว่าถ้าต้องวิ่งไปวิ่งมาทำหลายอย่างพร้อม ๆ กันร่างกายจะรับไม่ไหวเอาได้

“งั้นพี่ใหญ่จะบอกเจ้าเอง ครอบครัวของเว่ยหลินมีห้าคน ส่วนครอบครัวกวงเหอมีหกคน แต่พี่สาวของกวงเหอแต่งงานออกเรือนไปแล้วล่ะ” ลู่จื้อบอกถึงจำนวนคนในครอบครัว ของสหายทั้งสองของตน และรู้สึกขอบคุณน้องสาวผู้นี้ที่คิดถึงสหายของตนก่อนคนอื่น

ลู่เสียนถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้ฟังผิด แม้จะมีอาชีพเสริมมีรายได้เพิ่ม แต่ด้วยจำนวนคนในครอบครัวจะเพียงพอได้อย่างไร

“ส่วนสหายพี่รอง ครอบครัวตงเจ๋อมีหกคนเช่นกัน ครอบครัวซุนอวี้มีสี่คน น้องเล็กเจ้าจะจ้างสหายของพวกเราไปช่วยงานแน่นะ”

“โธ่ ข้าก็บอกพวกพี่แล้วว่า ต้องการคนช่วยงานนี่เจ้าคะ พวกพี่คิดว่าที่ถามท่านอยู่นี่ คือการพูดล้อเล่นหรืออย่างไร อย่ามามองข้าเช่นนั้นนะเจ้าคะ อยากจะไปบอกข่าวดีกับสหายก็รีบไปสิ มาทำหน้านิ่วคิ้วขมวด จ้องหน้าเหมือนคนไม่เชื่อประเดี๋ยวก็เปลี่ยนใจเสียนี่” ลู่ชิงพูดออกจะจริงจังปานนั้น ทำไมพวกพี่ชายดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อที่ตนพูดเลยล่ะ

“จื้อเอ๋อร์ เสียนเอ๋อร์ อย่าจ้องหน้าน้องสาวพวกเจ้าเช่นนี้นะ ที่นางพูดมาเพราะต้องการช่วยสหายของพวกเจ้าสองคน ให้มีรายได้มาช่วยครอบครัวอีกทาง เพราะค่าจ้างรายเดือนย่อมได้เยอะมากกว่า ส่วนอาชีพเสริมที่พวกเขาทำอยู่ ก็ให้คนในครอบครัวที่เหลือช่วยกันทำก็ได้ มีรายได้สองทางเช่นนี้มันดีมากกว่ามิใช่หรือ” ฟางซินที่เห็นบุตรชายมองหน้าน้องสาว เหมือนคนไม่แน่ใจเช่นนั้น จึงรีบพูดขยายความให้พวกเขาฟัง

“พวกเราเข้าใจแล้วขอรับท่านแม่ น้องเล็ก ขอบใจเจ้าแทนสหายของพวกพี่มากนะถ้าพวกเขารู้ คงจะดีใจจนร้องไห้ก็เป็นได้ น้องรองพวกเราแยกย้ายไปบอกสหายกันเถอะ” ลู่จื้อแค่อยากจะแกล้งน้องสาวเท่านั้นแหละ

“ขอรับพี่ใหญ่ พวกเรารีบไปกันเถอะ แล้วไปเจอกันที่เดิมนะขอรับพี่ใหญ่” ลู่เสียนบอกสถานที่นัดหมายของพวกเขาก่อนจะแยกกันไป

“ชิงเอ๋อร์ของพ่อช่างคิดอ่านรอบคอบนัก หากไม่มีคนมาช่วยงานพวกเราแล้วละก็ แค่พวกเราห้าคนคงจะหัวหมุน ทำอะไรไม่ทันเป็นแน่” ลู่เวินเอ่ยชื่นชมบุตรสาว

“ชิงเอ๋อร์คงคิดเรื่องนี้เอาไว้ก่อนแล้วกระมัง แต่เพราะเหตุใดถึงเลือกสหายของพี่ชายเจ้ามาช่วยงานเล่า พอจะบอกเหตุผลของเจ้าได้หรือไม่ลูก” ฟางซินคิดว่าบุตรสาวคงคิดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ส่วนเหตุผลที่เลือกสหายของบุตรชาย นางเชื่อว่าบุตรสาวได้คิดอ่านมาอย่างดีแล้ว

“เพราะว่าสหายของพี่ชาย ต่างคุ้นเคยกันและรู้จักนิสัยใจคอของพวกเขามากกว่าคนอื่นเจ้าค่ะ ไม่ใช่ว่าข้ารังเกียจคนอื่น แต่เรื่องของบางอย่างในร้าน ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักนิสัยใจคอ เกรงว่าพวกเขาจะเอาไปพูดต่อ จนทำให้พวกเราเป็นอันตรายได้ ฉะนั้นจึงได้เลือกสหายของพี่ชาย อย่างน้อยพวกเขาสามารถพูดคุยขอร้องกันง่ายกว่า ส่วนคนอื่นในหมู่บ้านเอาไว้พอคิดสินค้าใหม่ ๆ ได้ ค่อยให้พวกเขาทำทีหลังเจ้าค่ะ” ที่นางเลือกสหายพี่ชาย ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของผู้อื่น และทุกคนยินดีคบหากับพี่ชาย ไม่มีความคิดเอาเรื่องอดีตมาเปรียบเทียบกับปัจจุบัน

ลู่จื้อและลู่เสียนไปหาสหาย ไม่ได้ต่างกันกับครั้งที่มาพูดเรื่องอาชีพเสริม จนตอนนี้พวกเขามายืนพร้อมหน้ากัน ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว

“นี่อาจื้อเจ้ามีเรื่องสำคัญทีไร ก็ไม่ยอมให้ข้ามีคำถามทุกทีแล้วยังเร่งให้รีบเดินเร็ว ๆ อีก มันเหนื่อยนะเจ้าเข้าใจบ้างไหม” กวงเหอบ่นให้สหายที่พาเขามาเหมือนครั้งก่อน

“ข้าพาเจ้ามาก็ล้วนมีข่าวดีมาบอกมิใช่รึ หรือว่าครั้งนี้เจ้าไม่อยากฟังข่าวดีอีกแล้วงั้นสิ” ลู่จื้อแกล้งทำเป็นจะไม่บอกข่าวดีกับกวงเหอ

“พี่ชายกวงท่านก็ยอม ๆ พี่ชายของข้าเสียหน่อยเถิดขอรับ" ลู่เสียนร่วมวงแกล้งกวงเหออีกคน

“ไอหยา อาจื้อสหายสุดหล่อของข้า เจ้าอย่าแกล้งกันเช่นนี้มีครั้งไหนที่ข้าต่อต้านไม่ฟังเรื่องดี ๆ จากเจ้าบ้างเล่าจริงไหม” กวงเหอรีบเปลี่ยนอารมณ์ในการพูดคุยกับสหายอย่างรวดเร็ว

“ไหน ๆ ก็มากันครบแล้ว อาจื้อ อาเสียน วันนี้พวกเจ้ามีข่าวดีอันใดมาบอกพวกเรางั้นหรือ” เว่ยหลินรีบตัดบทก่อนที่จะยืดเยื้อไปมากกว่านี้

“ได้ข้าจะบอกพวกเจ้าแล้วนะตั้งใจฟังให้ดี เรื่องที่ข้ากับอาเสียนจะมาบอกพวกเจ้าสี่คนก็คือ ชิงเอ๋อร์ตัดสินใจจะจ้างพวกเจ้าทุกคนไปทำงานที่ร้านอาหาร โดยจะจ่ายค่าจ้างให้พวกเจ้าเป็นรายเดือน แต่ชิงเอ๋อร์ยังไม่ได้บอกว่า จะให้ค่าจ้างเดือนละเท่าใด ส่วนตัวข้าคิดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่าหนึ่งตำลึงเงินแน่นอน” ลู่จื้อที่บอกข่าวดีให้กับสหายได้ฟังก็คาดคะเนเรื่องค่าจ้าง โดยไม่มองเลยว่าตอนนี้สหายอยู่ในอาการเช่นไร

“อะ อะ อาจื้อ เจ้าพูดจริง ๆ งั้นหรือ ที่น้องสาวลู่ชิงจะจ้างพวกข้าไปทำงานที่ร้าน และให้ค่าจ้างเป็นรายเดือนน่ะ ข้าไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม!” และก็ยังเป็นกวงเหอที่ได้สติก่อนใครพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดังพอสมควร

“ข้าพูดจริง ๆ เพราะพวกเจ้าที่เป็นสหายของข้าสองคน เชื่อใจได้และอยากช่วยพวกเจ้าให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนชาวบ้านคนอื่นรอนางคิดเรื่องสินค้าใหม่ได้ ก็คงนำไปแจ้งหัวหน้าหมู่บ้านอีกครั้ง เป็นอย่างไร ข่าวดีของข้าสองคนถูกใจพวกเจ้าหรือไม่” ลู่จื้อยืนยันว่าเรื่องที่พูดเป็นความจริง

ลู่เสียนเองก็ยินดีกับสหาย ที่จะได้ทำงานมีรายได้ประจำ “ข้าขอยืนยันอีกเสียงนะขอรับ ว่าที่น้องเล็กพูดเป็นความจริง และพวกเราก็ดีใจที่นางเลือกพี่ชายทั้งสอง กับสหายของข้าไปทำงาน ต่อไปทุกคนจะมีเงินเก็บเอาไว้ซื้อเสบียง หรือซ่อมแซมบ้านกันแล้วนะ”

“พวกข้าขอบคุณครอบครัวของพวกเจ้าจริง ๆ นะอาจื้อ อาเสียน และขอบคุณสวรรค์ ที่ให้บ้านเดิมของท่านย่าพวกเจ้า อยู่ที่หมู่บ้านอันผิงแห่งนี้ หากวันหน้าพวกเจ้ามีสิ่งใดให้พวกข้าช่วย ก็สามารถบอกมาได้เลย พวกข้ายินดีช่วยครอบครัวของพวกเจ้าเต็มที่อย่างแน่นอน” เว่ยหลินที่เป็นตัวแทนพูดขึ้นด้วยความซาบซึ้งใจอย่างที่สุด พวกเขาไม่รู้จะตอบแทนครอบครัวของสหายเช่นไร ถึงจะเหมาะสมกับความช่วยเหลือที่พวกเขามอบมาให้กับครอบครัวของตนเอง

“อย่าได้พูดเช่นนั้นพวกเราล้วนเป็นสหาย จะพึ่งพาอาศัยกันบ้างมิได้หรือ ข้าเชื่อว่าจากนี้ต่อไปชีวิตของพวกเจ้าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ร้านอาหารของพวกเราจะเปิดกิจการอีกห้าวันข้างหน้า พวกเจ้าก็เตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อมเล่า” ลู่จื้อเข้าใจความรู้สึกของสหาย

เมื่อบอกข่าวดีให้กับสหายได้รู้แล้ว และกล่าวขอบคุณกันเรียบร้อย จึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ครอบครัวของสหาย จะได้ฉลองกับเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับครอบครัว น้องสาวคนนี้ของพวกเขา ช่างคิดอ่านวางแผนจัดการได้ฉลาดยิ่งนัก ทั้งสองคนจึงสัญญากับตนเองว่าจะเรียนรู้จากลู่ชิงให้มากขึ้น

Related chapters

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 27 ได้ฤกษ์เปิดร้านอาหารแล้ว

    ยามสายของวันนี้ครอบครัวของลู่ชิง จะย้ายไปพักอยู่ที่ร้านอาหารเป็นการชั่วคราว ซึ่งเมื่อวานลู่ชิงได้แจ้งกับลูกค้าทุกคน ที่มาซื้ออาหารที่แผงไว้แล้วว่า จะหยุดขายอาหารที่แผงตรงนี้ โดยจะเปิดขายอาหารอีกครั้งที่ร้านอาหารของครอบครัวทุกคนสามารถตามไปซื้อ หรือนั่งทานอาหารที่ร้านได้ และยังได้บอกกับลูกค้าอีกว่า จะมีน้ำหลากสีที่ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นมาขายที่ร้านด้วย ลูกค้าที่ได้ฟังต่างก็เฝ้ารอ ให้ถึงวันเปิดร้านอาหารของครอบครัวลู่ชิง พวกเขาอยากไปชิมอาหารรายการที่จะมีเพิ่ม และน้ำหลากหลายสีที่เถ้าแก่น้อยได้บอกไว้เสียทีทุกคนช่วยกันขนของ ที่เป็นหีบใส่เสื้อผ้าเสียส่วนใหญ่ขึ้นเกวียน เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วลู่เวินก็เป็นคนบังคับเกวียน เดินทางเข้าตำบลหย่งฝูใช้เวลาเพียงสองเค่อ พวกเขาก็มาถึงร้านแล้ว พี่ชายสองคนช่วยกันยกหีบใบขนาดกลางสองสามหีบ ลงจากเกวียนเพื่อที่ท่านพ่อจะได้นำเกวียนไปจอดด้านหลังร้านลู่ชิงปล่อยให้บุรุษทั้งสามยกหีบขึ้นไปเก็บบนชั้นสอง ส่วนตนเองและมารดาเข้ามาอยู่ด้านในห้องครัว เพื่อจะนำเอาโต๊ะไม้สี่เหลี่ยมขนาดนั่งได้สี่คน และเก้าอี้ไม้แบบมีพนักพิงออกมาจากมิติ รอบิดาและพี่ชายลงมาสมทบค่อยยกออกไปจัดวางด้

    Last Updated : 2025-01-15
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 1 เกิดใหม่อีกครั้ง

    บนที่นอนเก่า ๆ มีร่างของเด็กสาวอายุสิบสองหนาวที่นอนป่วยติดต่อกันมาห้าวันแล้วกำลังขยับตัว ร่างผอมบางแทบจะปลิวหากถูกลมแรง ๆ พัดมา จนลืมตาขึ้นมาได้ก็รู้สึกปวดเมื่อยตามตัวไปหมด เมื่อปรับสายตาได้จึงมองสำรวจรอบ ๆ ก็แปลกใจว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เข็มขาวจำได้ว่าเธอถูกรถชนอย่างแรง และตายไปแล้วแต่ตอนนี้ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แถมยังใส่ชุดเหมือนคนจีนโบราณเมื่อนั่งทบทวนเรื่องราวอยู่จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างแรงและมีความทรงจำของร่างนี้ มันกำลังหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเธอจนต้องนอนนิ่ง ๆ อยู่เกือบหนึ่งเค่อ อาการปวดหัวเหล่านั้นจึงเริ่มดีขึ้น เธอเรียบเรียงความทรงจำของร่างนี้ ก็พบว่าร่างที่เธอเข้ามาอยู่นั้นมีชื่อว่าสวีลู่ชิงอายุสิบสองหนาว ท่านพ่อของนางถูกท่านปู่แท้ ๆ ไล่ออกจากตระกูล เพราะมีคนสร้างหลักฐานเท็จใส่ร้ายว่า ท่านพ่อทำบัญชีปลอมเพื่อโกงเงินร้านค้าผ้าเมื่อมีหลักฐานชี้ชัดก็ไม่อาจก้ตัวอะไรได้ ท่านพ่อจึงพาทุกคนเดินทางมาบ้านเดิมของท่านย่าที่หมู่บ้านอันผิง ยามออกจากจวนพวกเขาไม่อาจหยิบของมีค่าติดตัวมาได้ โชคดีที่ท่านแม่แอบนำตั๋วเงิน มาเย็บไว้ในเสื้อผ้าของลู่ชิงจึงพอมีเงินจ่ายค่าเดินทาง จากพ่

    Last Updated : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 2 ได้มิติมาแบบไม่คาดฝัน

    ลู่ชิงนอนหลับสนิทอยู่สักพัก แต่กลับถูกรบกวนด้วยเสียงใครบางคน ที่พยายามเรียกตนเองให้ตื่น ทั้งที่กำลังนอนหลับสบาย จากอาการป่วยจนร่างกายไร้เรี่ยวแรงมานาน เมื่อทนการรบเร้านี้ไม่ไหว จึงได้ลืมตาตื่นมองไปรอบ ๆ ที่ยามนี้ไม่ใช่เตียงนอนเก่า ๆ อีกแล้ว แต่เป็นสถานที่หนึ่งกับชายชราผมขาว ที่ยืนถือไม้เท้าลักษณะแปลก ๆ มองมาที่ลู่ชิงอย่างเหนื่อยใจ“นางหนู ๆ ๆ ตื่นได้แล้วกระมัง จะนอนกินบ้านกินเมืองหรืออย่างไร โลกโน้นทำเจ้าอดหลับอดนอน พอข้ามมายังโลกนี้ก็ยังต้องมาเหนื่อยอีกงั้นรึ” ชายแก่ผมขาวในมือยังถือไม้เท้า พยายามปลุกร่างบางที่ยังนอนหลับอยู่“อืม ขอนอนต่ออีกสักหน่อยนะเจ้าคะ” ลู่ชิงยังไม่รู้ตัวว่าตอนนี้นางไม่ได้อยู่บนเตียงนอนในบ้านของตนเอง“ถ้าเจ้ายังไม่ยอมตื่นขึ้นมาเสียทีละก็ ข้าจะไม่ให้ของดีกับเจ้านะนางหนู” ชายแก่ยังไม่ยอมแพ้ที่จะปลุกนาง“พรึ่บ!! หือ! ที่นี่คือที่ไหน ไม่ใช่ห้องนอนในบ้านนี่ แล้วเมื่อกี้เสียงใครปลุกข้าให้ตื่นกันล่ะ” ข้ารู้สึกแปลกใจที่มีคนมาปลุก และพูดว่าจะให้ของดีอีกพอหันไปด้านหลัง ก็เจอกับชายแก่ผมขาวที่ดูใจดีคนหนึ่งยืนอยู่เงียบ ๆ“ท่านตาเป็นใครหรือเจ้าคะ แล้วที่นี่คือที่ไหน หรือว่าข้า

    Last Updated : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 3 สำรวจมิติ

    เมื่อถึงปลายยามโหย่ว หลังจากที่ทุกคนทานมื้อเย็นเสร็จ และเก็บจานชามไปทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมารวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะทานข้าวอีกครั้ง และเป็นท่านพ่อที่เอ่ยถาม เรื่องที่ลู่ชิงอยากจะพูดคุยกับพวกเขาขึ้นมา ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ สำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนลู่ชิงจะพูดน้อยและทำตัวเงียบ ๆ หากไม่มีผู้ใดถามนาง ก็จะทำงานของตนไม่เคยมีข้อสงสัยใด ๆ“ชิงเอ๋อร์ ท่านแม่ของเจ้าบอกพ่อว่า เจ้ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับพวกเราเช่นนั้นหรือ” ลู่เวินเอ่ยถามบุตรสาว“เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้ามีเรื่องสำคัญมาก อยากจะบอกความจริงบางอย่างกับพวกท่านทุกคน ก่อนที่จะเล่าข้าอยากขอให้พวกท่านตั้งสติและทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะได้ยิน เพราะเรื่องที่จะพูดต่อไปนี้อาจจะเหลือเชื่อจนเกินไป หรือจะเรียกว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติก็ว่าได้ แต่มันเกี่ยวข้องกับบุตรสาวคนนี้ของท่าน รวมถึงน้องสาวของพวกท่านสองคนด้วยเจ้าค่ะ” ที่ลู่ชิงพูดเช่นนั้นเพราะอยากให้พวกเขามีสติ กับความจริงที่นางกำลังจะพูดออกไป“เอาเถอะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร พวกเราทุกคนยินดีที่จะรับฟังทั้งสิ้น เจ้าพูดมันออกมาได้เลยนะชิงเอ๋อร์” เขาอยากจะรู้ว่าบุตรสาวมีเรื่

    Last Updated : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 4 พักผ่อนหารือเรื่องอาชีพ

    ลู่ชิงตื่นขึ้นมายามเหม่าของอีกวัน จึงรีบเข้าไปในมิติเพื่อหยิบพวกเนื้อสัตว์และผักที่จะใช้ทำเป็นมื้อเช้าวันนี้ โดยไม่ลืมที่เดินไปหยิบเอาพวกแปรงสีฟันและยาสีฟัน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ทำความสะอาดช่องปากลู่ชิงกลัวว่าแค่บ้วนปากด้วยเกลือมัน จะไม่สะอาดในเมื่อมีของให้ใช้ เราก็ต้องใช้จะปล่อยให้เสียของได้อย่างไร เช้านี้ลู่ชิงอาสาเป็นคนปรุงอาหารเอง โดยนางจะทำข้าวต้มกุ้งให้ทุกคนได้ทาน ขณะที่กำลังเตรียมของอยู่ ก็มีเสียงดังมาจากด้านหลังของนางฟางซินตื่นมาก็เห็นบุตรสาว กำลังเตรียมวัตถุดิบทำมื้อเช้าอยู่ เมื่อนางได้พูดคุยกับสามี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับชิงเอ๋อร์ คงเป็นลิขิตของสวรรค์นางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ จะให้ขับไล่นางออกไปสตรีคนนั้นก็ไม่ได้ทำผิด นางไม่ได้เข้ามาอยู่ในร่างของชิงเอ๋อร์เองแต่เป็นท่านเทพที่พานางมา เพื่อใช้ชีวิตที่เหลือแทนชิงเอ๋อร์ของนางต่างหาก ฟางซินจึงคิดว่าค่อย ๆ เรียนรู้กันไปต่อจากนี้ก็แล้วกัน“ทำไมถึงได้ตื่นมาแต่เช้าเช่นนี้เล่า นี่กำลังเตรียมทำมื้อเช้าอยู่หรือ มีอะไรให้ช่วยไหม”“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าเองก็ชอบทำอาหารเหมือนกันมื้อเช้านี้จะลงมือปรุงเอง ท่านแม่คอยเป็นผู้ช่วยให้ข้า

    Last Updated : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 5 ชิมอาหารก่อนทำขาย

    สามวันที่ผ่านมาท่านพ่อและพี่ชาย ก็ขึ้นเขาไปวางกับดักสัตว์และหาของป่าอย่างอื่นตามปกติ พอจะเอาไปขายที่ตำบลลู่ชิงก็จะขอตามไปด้วยทุกครั้ง ไปถึงตำบลก็ให้ท่านพ่อไปขายเนื้อสัตว์ ที่วางกับดักมาได้ที่เหลาอาหาร ซึ่งเมื่อก่อนท่านพ่อมักจะนำมาขายเป็นประจำ รวมสามวันได้เงินมาสามร้อยเก้าสิบอีแปะ ส่วนตัวลู่ชิงเดินไปร้านเครื่องประดับ เพื่อเอากำไลข้อมือหยกที่ไม่ใช่หยกเนื้อดีมากนักหนึ่งวง สร้อยคอเงินพร้อมจี้หยกลายหยดน้ำหนึ่งเส้น และต่างหูไข่มุกหนึ่งคู่ออกมาขาย เถ้าแก่ร้านให้ราคาชิ้นละสามพันตำลึงเงิน ถึงจะไม่สวยมากแต่ขายได้ราคานี้ถือว่าสูงมากแล้วรวมแล้วตอนนี้มีเงินอยู่ทั้งหมด เก้าพันสิบสามตำลึงกับอีกสามร้อยเก้าสิบอีแปะ คงต้องแบ่งเงินไปซ่อมหลังคาบ้านสักหน่อย รอให้ทำการค้าไปสักระยะหนึ่ง ค่อยสร้างบ้านใหม่ที่แข็งแรงกว่านี้ หรือจะซื้อบ้านอยู่ในตำบลก็คงจะดีกว่า เพราะไม่ต้องเสียเวลาเดินทางทุกคนจะได้มีเวลาพักผ่อนเพิ่มอีกสักหน่อยยามอู่วันนี้ลู่ชิงคิดว่าจะทำหมูทอด สามชั้นทอดและน่องไก่ทอด ให้กับทุกคนได้ลองชิมดูก่อนที่จะทำไปขาย ซึ่งลู่ชิงได้นำเนื้อทั้งสามอย่างออกมาจากมิติ และเตรียมหมักก่อนนำไปทอด เริ่มจากทำการหมัก

    Last Updated : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 6 ขายอาหารวันแรก

    สองวันต่อมาก็ถึงเวลาไปขายของวันแรกแล้ว ทุกคนตื่นพร้อมกันลู่ชิงกับฟางซินช่วยกันหมักเนื้อหมูและน่องไก่ ส่วนลู่เวินกับบุตรชายก็ช่วยกันยกเตาและอุปกรณ์ที่ใช้ทอดทุกอย่าง ขึ้นบนรถเข็นรออยู่นอกบ้านลู่ชิงได้ตั้งกฎกับครอบครัวเอาไว้ว่า จะขายของหกวันและหยุดพักหนึ่งวัน เพราะไม่อยากให้ทุกคนเอาแต่คิดเรื่องทำงานหาเงิน ควรมีเวลาพักผ่อนบ้าง แม้จะมีน้ำจากบ่อวิเศษให้ดื่ม แต่อย่างน้อยการพักผ่อนให้เต็มที่ ก็เป็นผลดีต่อร่างกายมากกว่า เมื่อทุกอย่างพร้อมจึงปิดประตูบ้านและเดินเท้าไปในตำบลหย่งฝู พื้นที่ขายของที่ลู่เวินจองไว้ให้นั้นเป็นการจองแบบรายเดือน และมันก็อยู่บริเวณที่มีคนพลุกพล่านมาเดินจับจ่ายซื้อของยามเช้าพอถึงบริเวณพื้นที่ของตนเองแล้ว ทุกคนทำตามหน้าที่ของตน ลู่เวินกับบุตรชายช่วยกันยกเตาและติดเตาไฟ ลู่ชิงกับมารดาช่วยกันจัดวางอุปกรณ์บนโต๊ะให้หยิบใช้สะดวก ยกถังไม้ที่ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งแล้ววางไว้ข้างโต๊ะกับใบตอง ที่เช็ดทำความสะอาดสำหรับใช้ห่ออาหาร ซึ่งก็เอามาจากป่าชั้นนอกที่อยู่ด้านหลังบ้านของพวกเขา ยามนี้ลู่เวินได้ตั้งกระทะและใส่น้ำมันลงไปทั้งสามกระทะ ควบคุมไฟไม่ให้ร้อนมากเกินไป มีเก้าอี้สามตัววางชามขนา

    Last Updated : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 7 ชาบูชาใจฉลองกันหน่อย

    กลับมาถึงบ้านก็เกือบถึงยามซื่อแล้ว มื้อเช้าทุกคนก็อาศัยกินข้าวเหนียวกับหมูทอดกัน เพราะตื่นเต้นกับการขายของวันแรก จึงลืมเตรียมมื้อเช้าไปกินด้วย ลู่ชิงจึงคิดว่าคืนนี้จะทำกับข้าวง่าย ๆ ใส่กล่องไว้ในมิติตอนเช้าจะได้ไม่ลืมอีก เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ลู่ชิงก็ชวนทุกคนมานั่งที่โต๊ะอาหาร เพื่อทำการนับเงินที่ได้จากการขายของวันแรกพร้อมกัน“ท่านพ่อท่านแม่ พวกเรามานับเงินกันเจ้าค่ะว่าจะได้เท่าไหร่” ลู่ชิงอยากรู้ว่ารายได้ของวันนี้เป็นอย่างไร“ได้สิลูก พวกเราช่วยกันนับแยกเป็นกอง ๆ ไว้ จะได้รู้ว่ายอดรวมทั้งหมดเป็นเงินเท่าไหร่” ลู่เวินเองก็อยากรู้เช่นกันเพราะท่านพ่อเป็นพ่อค้า เรื่องคำนวณตัวเลขจึงสำคัญพวกเขาสามพี่น้องล้วนได้เรียนรู้เรื่องนี้ โดยมีท่านพ่อเป็นคนสอน ทุกคนจดจ้องอยู่กับการนับเงิน ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว“เอาล่ะ เจ้าใหญ่ลองนับยอดรวมทั้งหมดดูสิว่ามีเท่าไหร่” ลู่เวินให้บุตรชายคนโตอย่างลู่จื้อนับจำนวนเงินทั้งหมดอีกครั้ง“ขอรับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก... ท่านพ่อ!! รายได้ทั้งหมดวันนี้ มีถึงหกตำลึงเงินกับอีกหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าอีแปะขอรับ” ลู่จื้อนับเสร็จก็บอกจำนวนที่นับได้ทันที

    Last Updated : 2025-01-13

Latest chapter

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 27 ได้ฤกษ์เปิดร้านอาหารแล้ว

    ยามสายของวันนี้ครอบครัวของลู่ชิง จะย้ายไปพักอยู่ที่ร้านอาหารเป็นการชั่วคราว ซึ่งเมื่อวานลู่ชิงได้แจ้งกับลูกค้าทุกคน ที่มาซื้ออาหารที่แผงไว้แล้วว่า จะหยุดขายอาหารที่แผงตรงนี้ โดยจะเปิดขายอาหารอีกครั้งที่ร้านอาหารของครอบครัวทุกคนสามารถตามไปซื้อ หรือนั่งทานอาหารที่ร้านได้ และยังได้บอกกับลูกค้าอีกว่า จะมีน้ำหลากสีที่ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นมาขายที่ร้านด้วย ลูกค้าที่ได้ฟังต่างก็เฝ้ารอ ให้ถึงวันเปิดร้านอาหารของครอบครัวลู่ชิง พวกเขาอยากไปชิมอาหารรายการที่จะมีเพิ่ม และน้ำหลากหลายสีที่เถ้าแก่น้อยได้บอกไว้เสียทีทุกคนช่วยกันขนของ ที่เป็นหีบใส่เสื้อผ้าเสียส่วนใหญ่ขึ้นเกวียน เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วลู่เวินก็เป็นคนบังคับเกวียน เดินทางเข้าตำบลหย่งฝูใช้เวลาเพียงสองเค่อ พวกเขาก็มาถึงร้านแล้ว พี่ชายสองคนช่วยกันยกหีบใบขนาดกลางสองสามหีบ ลงจากเกวียนเพื่อที่ท่านพ่อจะได้นำเกวียนไปจอดด้านหลังร้านลู่ชิงปล่อยให้บุรุษทั้งสามยกหีบขึ้นไปเก็บบนชั้นสอง ส่วนตนเองและมารดาเข้ามาอยู่ด้านในห้องครัว เพื่อจะนำเอาโต๊ะไม้สี่เหลี่ยมขนาดนั่งได้สี่คน และเก้าอี้ไม้แบบมีพนักพิงออกมาจากมิติ รอบิดาและพี่ชายลงมาสมทบค่อยยกออกไปจัดวางด้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 26 ปรับปรุงร้านเสร็จและหาคนงานเพิ่ม

    ด้านลู่ชิงกับครอบครัว หลังจากที่นำน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไปเสนอทำการค้ากับเถ้าแก่หง ยามเช้าของวันที่สองยังไม่ถึงกำหนดวัน ที่นัดเจอกันไว้กลับกลายเป็นว่า เถ้าแก่หงมาหาพวกเขาถึงแผงขายอาหาร เพราะต้องการมาให้คำตอบว่า ตนตกลงทำการค้าตามข้อเสนอของลู่ชิง โดยให้นำหนังสือสัญญาการค้า ไปให้เขาลงชื่อที่ร้านหลังจากลู่ชิงขายของหมดเรียบร้อยแล้วเถ้าแก่หงที่ได้รับรายงานจากหลงจู๊ของร้านผ้า ทั้งสามสาขาที่ให้ลองเอาน้ำยาปรับผ้านุ่มนี้ไปทดลองขาย เพียงแค่วันเดียวลูกค้ากลับมาถามถึงน้ำยาชนิดนี้มากมาย จนหลงจู๊ของร้านต้องยอมให้พวกเขาลงชื่อจองสินค้าไว้ก่อน เมื่อสินค้าส่งไปแล้วทางร้านจะแจ้งให้ลูกค้ามารับตามลำดับการจอง ซึ่งลูกค้าทุกคนที่ลงชื่อจองไว้ ได้จ่ายค่ามัดจำครึ่งหนึ่งเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ว่าตนเองจะได้รับสินค้าแน่นอน ถึงจะทำเช่นนั้นแต่พวกเขาก็เชื่อใจร้านค้าของเถ้าแก่หงอยู่แล้วลู่ชิงจึงให้บิดากับลู่จื้อถือหนังสือสัญญา ไปพบเถ้าแก่หงพร้อมนำสินค้าไปส่งจำนวนสองร้อยห้าสิบขวด ซึ่งเป็นขวดใบใหญ่ทั้งสิ้น นอกจากนี้เถ้าแก่หงยังได้แบ่งกำไร จากสินค้าทดลองขายฝากมากับบิดาถึงห้าสิบตำลึงทอง ลู่ชิงจึงมอบให้มารดาเก็บไว้ ต่อไปก็แค่รอร

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 25 น้ำสมุนไพรช่วยถอนพิษ

    ฮ่องเต้เซียวถิงเฟิงที่ทรงทอดพระเนตรมองอนุชา และหลานชายของพระองค์ ต่างจ้องหน้ากันด้วยสีหน้าที่ดูกังวล จึงทรงคิดว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวของพระองค์อย่างแน่นอน“เสด็จพี่ กระหม่อมกับอาหลงสองคนสงสัยว่า อาการที่พระองค์ทรงตรัสออกมากับกระหม่อมเมื่อครู่นั้น เป็นอาการเริ่มแรกของคนที่ถูกวางยาพิษมาสักระยะหนึ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ท่านอ๋องเซียวไม่ปิดบังพูดเรื่องที่ตนและบุตรชายสงสัยออกไปทันที“เจ้าพูดว่าอะไรนะชินอ๋อง!! เจิ้นถูกวางยาพิษเช่นนั้นรึ แต่ว่าก่อนที่จะทานอะไร จ้าวกงกงจะทดสอบพิษด้วยเข็มเงินทุกครั้ง จะเป็นไปได้อย่างไรกันที่จะตรวจไม่พบยาพิษในอาหาร” ฮ่องเต้เซียวถิงเฟิงตกพระทัยไม่น้อย ที่ได้ยินอนุชาของพระองค์พูดเช่นนั้น“ตุบ! ท่านอ๋องบ่าวได้ทดสอบด้วยตนเองทุกครั้งจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ แต่ไม่พบว่ามียาพิษปะปนอยู่ในอาหารเหล่านั้นเลย” จ้าวกงกงยืนยันว่าได้ตรวจสอบด้วยตนเองทุกครั้ง“เปิ่นหวางรู้ว่าจ้าวกงกงย่อมทำหน้าที่ตรวจสอบด้วยตนเอง แต่ยาพิษบางชนิดไร้สีไร้กลิ่น และไม่อาจจะใช้เข็มเงินในการตรวจได้ เจ้าจึงไม่รู้ว่ายาพิษนั้นอยู่ในอาหารชนิดใดต่างหาก” ท่านอ๋องไขความกระจ่างให้กับจ้าวกงกง“เสด็จลุงหลานไม่ขอปิ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 24 เซียวหนิงหลงถึงเมืองหลวง

    ด้านเซียวหนิงหลงกับผู้ติดตาม ที่เดินทางจากตำบลหย่งฝูใช้เวลาเดินทางครั้งนี้เกือบหนึ่งเดือน เพราะพวกเขาต้องใช้รถม้า นำตัวสายลับพวกนี้กลับไปด้วย ทำให้การเดินทางล่าช้าไปบ้าง ยังโชคดีที่ระหว่างทางไม่เกิดปัญหา มิเช่นนั้นอาจจะถึงเมืองหลวงช้ากว่านี้อย่างแน่นอนเมื่อเข้าใกล้เขตเมืองหลวง เซียวหนิงหลงได้นำตัวสายลับไปคุมขังไว้ที่คุกใต้ดิน ทางด้านทิศตะวันออกห่างจากกำแพงเมืองหลวงประมาณสิบลี้ บริเวณนี้คล้ายหมู่บ้านเล็ก ๆ มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่กี่ครัวเรือน สิ่งนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับชาวบ้าน ที่อยู่รอบนอกกำแพงเมือง แต่อันที่จริงคนเหล่านี้ล้วนเป็นหน่วยลับของเซียวชินอ๋อง ที่แสร้งมาสร้างบ้านอยู่กันเป็นครอบครัวบดบังคุกใต้ดินที่อยู่ที่นี่“ตันเจียง ชุนชาน พวกเจ้าเอาตัวสายลับพวกนี้ไปขังไว้ที่คุกใต้ดิน จากนั้นกำชับคนของเราให้จับตาดูไว้ อย่าให้คลาดสายตาหากไม่มีคำสั่ง ห้ามปลดโซ่ออกจากมือและเท้าเด็ดขาด ข้าจะกลับไปรายงานเสด็จพ่อส่วนพวกเจ้าค่อยตามไปทีหลัง” เขาสั่งงานทั้งสองคนเสร็จก็ควบม้าออกจากทันที เพราะต้องการให้ครอบครัวของตน โดยเฉพาะบิดาได้ดื่มน้ำสมุนไพรนี้ของลู่ชิง ในเมื่อมันสามารถช่วยให้ตนบรรลุขั้นพลังยุทธ์ได

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 23 ยาสามัญประจำบ้าน

    เถ้าแก่หงเรียกหลงจู๊ของร้านมาสั่งการ ให้นำน้ำยาปรับผ้านุ่มนี้ส่งไปที่ร้านค้าผ้าสักสามสาขา แล้วแบ่งขายเป็นขวดขนาดกลาง ดูผลตอบรับจากลูกค้าก่อนที่จะตัดสินใจว่า จะร่วมทำการค้านี้หรือไม่ทางด้านลู่ชิงและครอบครัว เดินมาตามทางที่เถ้าแก่หงแนะนำ ตอนนี้ทุกคนมายืนอยู่หน้าร้านขายสมุนไพร กึ่งโรงหมอเรียบร้อยแล้วคนป่วยที่มาต่อแถวเพื่อรักษา ส่วนมากเป็นชาวบ้านที่มีรายได้น้อยแต่เท่าที่มองดูผู้ช่วยหมอที่พูดคุย และสอบถามอาการของคนป่วย ก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าที่นี่ดูแลคนป่วยด้วยใจจริง ๆ ลู่เวินจึงตัดสินใจเดินเข้าไปทักผู้ช่วยหมอ ที่กำลังตรวจคัดคนป่วยเบื้องต้นอยู่“เอ่อ น้องชายข้าขอรบกวนเวลาเจ้าสักประเดี๋ยวได้หรือไม่” ลู่เวินทักทายผู้ช่วยหมอเพื่อจะสอบถามเรื่องท่านหมอเกา“พี่ชายจะสอบถามเรื่องอันใดหรือขอรับ” ผู้ช่วยหมอได้ยินเสียงจากด้านหลัง จึงหยุดการตรวจคัดกรองคนป่วย และหันมาถามลู่เวินแทน“ข้าอยากจะขอพบท่านหมอเกา พอดีว่าครอบครัวข้ามีเรื่องยาสมุนไพร จะมาพูดคุยกับท่านหมอเกาน่ะ” ลู่เวินบอกกับผู้ช่วยท่านหมอเกาไปตามตรง“ตอนนี้ท่านหมอเกากำลังตรวจอาการคนป่วยอยู่ แต่ว่าเหลืออีกไม่กี่คนก็จะได้พักแล้วขอรับ ไม่ทราบว่า

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 22 น้ำยาปรับผ้านุ่ม

    สินค้าที่ครอบครัวสวีรับซื้อมาจากชาวบ้าน ลู่ชิงเอาไปเก็บไว้ในมิติก่อน เพราะร้านค้ายังปรับปรุงไม่เสร็จ และเย็นวันเดียวกันทุกคนก็เข้าไปช่วยกันทำอาหาร สำหรับงานเลี้ยงให้ลูกค้า ซึ่งได้นัดเวลากันไว้ในยามเช้าของวันพรุ่งนี้หลังจากทุกคนช่วยกันทำอาหารให้ลูกค้าเสร็จ ลู่ชิงก็เดินไปที่ช่องสินค้าที่เป็นยาสมุนไพรต่าง ๆ ทั้งชนิดเม็ดและชนิดน้ำ มียาสำหรับเด็กรวมถึงยาบำรุงภายในของสตรี ลู่ชิงจะลองเอาไปเสนอขายที่ร้านขายยาสมุนไพรดู เผื่อจะได้คู่ค้าเพิ่มอีกสักราย ลู่ชิงจึงเดินไปหาทุกคนที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่ด้านหน้าห้างสรรพสินค้า“ท่านพ่อท่านแม่เจ้าคะ ข้ามีเรื่องอยากจะถามพวกท่านหน่อยได้หรือไม่ พี่ใหญ่กับพี่รองด้วยนะเจ้าคะ” ลู่ชิงต้องรีบคุย ถ้าทุกคนเห็นด้วยกับนางจะได้เตรียมของไว้ในมิติไปเลยทีเดียว“ชิงเอ๋อร์มีเรื่องอะไรจะถามพวกเราหรือลูก?” ลู่เวินถามขึ้นเมื่อเห็นบุตรสาวเหมือนอยากจะทำอะไรสักอย่าง“ข้าอยากจะถามพวกท่าน เกี่ยวกับยารักษาโรคจำพวกสมุนไพร ถ้าจะลองนำไปเสนอขายให้กับร้านสมุนไพร หรือโรงหมอจะเห็นด้วยหรือไม่เจ้าคะ” ลู่ชิงลุ้นกับคำตอบของทุกคนมาก ๆ หากนำไปขายได้ อย่างน้อยก็มีประโยชน์กับคนที่เจ็บป่วย“ยารัก

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 21 รับซื้อผลิตภัณฑ์รอบแรก

    เช้าวันนี้เป็นวันหยุดประจำของครอบครัวลู่ชิง ทุกคนล้วนไม่เร่งรีบไม่ต้องตื่นแต่เช้ามืด วันหยุดทุกคนจะตื่นปลายยามเหม่ากัน ซึ่งก็เป็นลู่ชิงที่ตั้งกฏนี้ขึ้นมาอีกเช่นเคย นางแค่อยากให้พวกเขาได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ ตอนนี้ครอบครัวของนางก็เริ่มจะมีเนื้อมีหนังขึ้นมาบ้างแล้ว บำรุงอีกสักเดือนคงจะกลับมาสมบูรณ์ปกติกันเช่นเดิมและวันนี้จะเป็นวันแรก ที่ลู่ชิงจะเปิดรับซื้อผลิตภัณฑ์ของชาวบ้าน หลังทานมื้อเช้ากันเรียบร้อย ทุกคนต่างก็เตรียมเหรียญอีแปะใส่กระปุกไม้เอาไว้พร้อมแล้ว ลู่ชิงได้ให้บิดาไปแจ้งหัวหน้าหมู่บ้านไว้ว่า จะขอใช้พื้นที่ลานอเนกประสงค์ของหมู่บ้านในการรับซื้อผลิตภัณฑ์ เมื่อใช้พื้นที่ตรงนี้เสร็จแล้ว จะจ่ายค่าบำรุงให้กับหัวหน้าหมู่บ้านทุกครั้ง เพื่อให้หัวหน้าหมู่บ้านนำเงินส่วนนี้ไว้ช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน จากภัยแล้งหรือภัยหนาวก็สามารถใช้เงินส่วนนี้ได้ โดยไม่ต้องรอเงินช่วยเหลือจากทางการ“วันนี้เราจะเปิดรับซื้อผลิตภัณฑ์จากชาวบ้านเป็นวันแรก ทุกคนพร้อมกันหรือยังเจ้าคะ” ลู่ชิงรู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องนี้มาก เพราะที่ร้านอาหารของนางจำเป็นต้องใช้สิ่งเหล่านี้“น้องเล็กเจ้ายังจะถามอีกรึ พวกเรามาตั้งโต๊ะรอ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 20 ประโยชน์ของน้ำสมุนไพร

    เซียวหนิงหลงใช้เวลาเดินทาง ออกจากเมืองหย่งจินมาแล้วสองชั่วยาม ในตอนนี้เขาและผู้ติดตามกำลังพักอยู่ใกล้ริมลำธาร เพื่อให้ม้าได้ดื่มน้ำกินหญ้า ในส่วนของคนก็ต้องทานอาหารเช่นกันเขานึกถึงคำพูดของลู่ชิงที่บอกให้ลองดื่มน้ำสมุนไพร เมื่อออกจากเมืองหย่งจินมาระยะหนึ่งแล้วจะได้รับคำตอบ ไม่รอช้าเซียวหนิงหลงหยิบถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรขึ้นมาดื่ม ทันทีที่น้ำสมุนไพรเข้าไปในร่างกาย เขาก็รู้สึกโล่งเบาสบายเป็นอย่างมากอาการเหนื่อยล้าเล็กน้อยจากการขี่ม้าก็หายไป นอกจากนี้เขายังสัมผัสถึงลมปราณที่วิ่งไปยังจุดต่าง ๆ ในร่างกาย เหมือนกับว่าเขากำลังจะบรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์ ไม่แปลกใจที่ชิงเอ๋อร์กำชับเอาไว้ว่า อย่าแบ่งน้ำสมุนไพรนี้ให้กับใครพร่ำเพรื่อเด็ดขาด เซียวหนิงหลงถือถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรเดินไปหาตันเจียงกับชุนชาน เพื่อแบ่งให้พวกเขาสองคนได้ดื่ม และจะเก็บไว้ให้กับครอบครัวของเขาด้วยเช่นกัน“ตันเจียง ชุนชาน พวกเจ้าแยกมาด้านนี้สักประเดี๋ยว” เขาเรียกผู้ติดตามทั้งสองคนให้เดินมาหาอีกทางหนึ่ง เพื่อป้องกันพวกสายลับจะได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังจะพูดคุยกัน“ไม่ทราบว่าซื่อจื่อมีอะไรจะสั่งการพวกเราหรือขอรับ” ตันเจียงเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 19 เซียวหนิงหลงเจ้าเล่ห์ทำตัวตีสนิทกับตระกูลสวี

    ตันเจียงที่เห็นว่านายน้อยของตน เอาแต่จ้องหน้าคุณหนูลู่ชิงจึงกระแอมกระไอเสียงดัง เพื่อเรียกสติเจ้านายเสียหน่อย ประเดี๋ยวจะออกเดินทางล่าช้าได้ หากปล่อยให้อยู่ในอาการของคนตกหลุมรักเด็กสาวตรงหน้า“อะแฮ่ม ๆ ไม่ทราบว่าคุณหนูลู่ชิงจะไปที่ใดหรือ ถึงได้เดินมาทางนี้เพียงลำพังน่ะขอรับ” ตันเจียงเป็นคนเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ“อ้อ ข้ากำลังจะไปดูนายช่างหาน ที่มาปรับปรุงร้านเป็นวันแรกเจ้าค่ะ แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน คงต้องเอาไว้ค่อยมาดูพรุ่งนี้กับท่านพ่อแทนแล้วล่ะเจ้าค่ะ” พรุ่งนี้ค่อยชวนทุกคนมาดูพร้อมกันน่าจะดีกว่า“นายช่างได้บอกหรือไม่ว่าใช้เวลากี่วัน ถึงจะปรับปรุงร้านค้าของเจ้าเสร็จ” เซียวหนิงหลงเอ่ยถามกับลู่ชิงบ้าง“บอกเจ้าค่ะใช้เวลาไม่เกินยี่สิบวัน เพราะต้องต่อเติมด้านบนชั้นสองทำเป็นห้องพักสองห้อง จากนั้นครอบครัวข้าจะย้ายมาพักที่นี่ชั่วคราว และให้นายช่างหานไปสร้างบ้านต่อที่หมู่บ้านอันผิงเจ้าค่ะ” ลู่ชิงตอบด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ แถมยังส่งยิ้มให้กับเซียวหนิงหลงอีกด้วย“หากพี่จะฝากคนให้มาเป็นลูกจ้างของร้านเจ้า สักสามสี่คนจะได้หรือไม่ พวกเขาเป็นกำพร้าแต่เด็กไม่มีครอบครัว เจ้าพอจะรับไว้ได้ไหม” เขาต้อ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status