แชร์

ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน โฉมงามไร้ใจ
ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน โฉมงามไร้ใจ
ผู้แต่ง: ไห่ถาง

ตอนที่1. ชายแดนแคว้นฉู่-แคว้นเว่ย

ชายแดนแคว้นฉู่-แคว้นเว่ย

          รถม้าที่วิ่งด้วยความเร็ว เสียหลักหลุดออกนอกเส้นทาง ชนเข้ากับต้นไม้จนเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก คนด้านในใช้มือข้างหนึ่งยันกายเอาไว้ อีกข้างกอดกระชับห่อผ้าสีทองเอาไว้แน่น

          “ท่านแม่ทัพ เป็นอันใดไหมขอรับ” ชายหนุ่มรีบเปิดประตูรถม้า พร้อมเอ่ยถามผู้เป็นนาย

          “ท่านพี่ชุน โปรดช่วยข้าสักครั้งเถิด พาเขาไป! อย่าให้ใครรู้ถึงการมีอยู่ของเขา จนกว่าจะถึงเวลาอันเหมาะสม อึก!”

          หญิงสาวเอ่ยร้องขอชายหนุ่ม ก่อนกล่ำกลืนเลือดที่เกือบจะพุ่งออกมา กลับลงคอไปอย่างยากลำบาก

          “เราจะไปด้วยกันขอรับ”

          เชียวอิงขยับห่อผ้าสีทองออกห่างกายเล็กน้อย ก่อนจะก้มมองยังช่วงท้องของนาง ชุนหานจงถึงกับใบหน้าถอดสี บาดแผลนี้นางปกปิดเอาไว้นานเท่าใดแล้ว

          “ได้โปรดท่านพี่ชุน ชีวิตของข้าหากแลกกับเขาได้ข้ายินดี”

          ชุนหานจงไม่อาจเอ่ยคำใดออกมาได้ ศัตรูไล่หลังมาอย่างกระชั้นชิด เวลาในการตัดสินใจย่อมมีไม่มาก มือที่แดงชานไปด้วยเลือดของศัตรู ยื่นออกไปรับห่อผ้าสีทองมาไว้ในอ้อมแขน

          “ท่านแม่ทัพโปรดถนอมตัวด้วย”

          ร่างสูงขบกรามแน่น เพื่อข่มกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ให้ลึกสุด ก่อนจะกระชับห่อผ้าที่มีทารกน้อยเอาไว้แนบกาย ชายหนุ่มปลดม้าออกจากรถม้า ก่อนจะเหวี่ยงกายขึ้นนั่งแล้วควบออกจากตรงนั้น โดยมิคิดหันกลับไปมองเบื้องหลัง ที่มีนายหญิงน้อยผู้เติบใหญ่มาด้วยกัน อยู่เผชิญมันเพียงลำพัง

          มิใช่เขาไม่ห่วงใย แต่เพราะจำต้องตัดใจ เพื่อทำตามประสงค์ของผู้เป็นทั้งนายและสหาย เขาไม่คิดมาก่อนว่าการมาเยี่ยมเยียนนาง จะเป็นการจากลาที่มิอาจได้พบหน้ากันชั่วชีวิต

          เมื่อบุตรชายจากไปพร้อมคนที่นางวางใจ หญิงสาวได้ก้าวลงจากรถม้า พร้อมดาบคู่ใจ นานแค่ไหนแล้วที่นางมิได้จับมัน นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่แคว้นฉู่ ในฐานะพระชายาขององค์รัชทายาท

          ด้วยนางเป็นสตรีต่างแคว้น การกำเนิดพระโอรส จึงทำให้ขุนนางหลายฝ่ายคิดกำจัด แต่พระสวามีก็ยังคงยืนเป็นเกราะกำบังให้แก่นางและลูกเสมอมา

          จนในวันนี้ตำแหน่งของสามีถูกปล้นชิง แม้ลมหายใจยังมิอาจรักษา ขอเพียงโอรสน้อยได้มีชีวิตอยู่ต่อ เท่านี้นางกับสวามีก็ไม่เสียใจเลย ที่จะมอบมันเพื่อปกป้องเขา

          “หากมารดาเจ้ายังมีวาสนาต่อเจ้า เราจะได้กลับมาพบกันอีกเพื่อเกื้อหนุน มิว่าฐานะใดก็ตาม เว่ยหลง!”

          หญิงสาวรำพันกับตนเองเบา ๆ เสียงม้ากำลังควบตะบึงมาจากด้านหลัง ไม่ได้ทำให้ขุนพลเช่นนางสะท้านไหว ดวงตาคู่งามปิดลงพร้อมสูดอากาศอันบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดอีกครั้ง ก่อนที่นางจะไม่ได้รับรู้ความสดชื่นนี้อีก

          “พระชายา มิน่าทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยากเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”

          “ลูกข้าผิดอันใด!”

          “ผิด! ที่เขามิใช่สายเลือดบริสุทธิ์อย่างไรเล่า”

          “ท่านเอาสิ่งใดมาตัดสินกันท่านราชครู หรือเพราะบุตรสาวของท่านมิอาจต้องใจสวามีข้า จนทำให้โอรสของข้ากับองค์รัชทายาทคือหนามทิ่มแทงใจท่าน”

          “จะคิดเช่นนั้นก็ไม่ผิด และต่อให้พระชายาจะเป็นเชื้อพระวงศ์จากเว่ย แต่การจะให้สายเลือดต่างแคว้นได้ครองบัลลังก์ มันทำให้ฉู่เราแปดเปื้อน”

          “มันเป็นแผนการของท่านแต่แรกแล้ว การกำจัดองค์รัชทายาท จะง่ายขึ้นถ้าเขาแต่งแก่สตรีต่างแคว้นสินะ!”

          “พระชายาเองก็มิได้ขลาดเขลาจนเกินไป”

          “หมากกระดานนี้ ท่านคงคำนวณมาอย่างดีแล้วสินะ! วันนี้มันอาจเป็นท่านที่กำชัย แต่ภายหน้าท่านจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าเมล็ดพันธ์ที่ข้าหว่านไว้มันจะไม่เติบโต”

          หญิงสาวหันกลับไปเผชิญหน้ากับศัตรู บุตรสาวของท่านราชครูในตอนนี้ คือพระชายาอ๋องหก หากไร้สวามีของนาง ผู้ที่จะก้าวมาแทนที่ ย่อมเป็นท่านอ๋องหก

          ฮ่องเต้ฉู่เลือดเย็นนัก เพื่อโอรสที่กำเนิดจากชายารักจะได้ครองตำแหน่งที่ตั้งใจมอบให้ แต่เพราะสวามีของนางกำเนิดจากฮองเฮา จึงทำให้ไม่อาจข้ามหน้าสกุลฮองเฮาไปได้

          แผนการนี้มิเพียงเล่นกับใจคน ยังหมายกำจัดฮองเฮาและสกุลให้สิ้นซากเสียในคราเดียว กบฏคำนี้มีกี่ชีวิตก็ต้องจบสิ้น แล้วอย่างไรทำไมนางต้องยินยอมให้ลูกของนางต้องตาย ทั้งที่เขามิได้ผิดอันใด รวมถึงทุกคนที่ถูกใส่ความ

          สวามีของนางคือองค์รัชทายาท ไม่ว่าช้าหรือเร็วเขาก็คือฮ่องเต้คนต่อไปอยู่แล้ว จะคิดกบฏไปทำไม ต่อให้ขุนนางและประชาชนบางส่วนรู้ดีถึงข้อนี้ แต่ก็ยากนักที่จะโต้แย้งคำของคนเบื้องสูง

          “เมล็ดพันธ์ของเจ้าสองผัวเมีย มันจะไม่มีโอกาสได้เติบใหญ่ จัดการนางซะ แล้วเข้าไปเอาเด็กนั้นมาสังหารต่อหน้าข้า”

          เชียวอิงที่ยืนขวางระหว่างรถม้ากับคนของท่านราชครู กระชับดาบเอาไว้แน่น แม้ว่าเลือดที่บาดแผลจะไหลออกมามิหยุด นางจะยืนตรงนี้ถ่วงเวลาให้กับคนที่จากไปให้ได้นานที่สุด

          เชร้ง! ร่างระหงของอดีตแม่ทัพเซถอยไปหลายก้าว ก่อนจะตวัดดาบเข้ารับการโจมตีอย่างไม่คิดถอยให้แก่คู่ต่อสู้ นางเพิ่งผ่านการคลอดลูกมาได้มิทันถึงสองเดือน ทั้งยังหายจากการฝึกฝนแรมปี ย่อมไม่แปลกเลยที่จะเป็นฝ่ายพ่าย

          ฉึก! ร่างงามกางแขนออกบังประตูรถม้า ดวงตาที่อ่อนแรงหลับลง ทว่าเรียวปากกลับคลี่ยิ้ม แรงที่มีเฮือกสุดท้าย นางจะมอบมันให้แก่ดวงใจเพียงหนึ่ง ที่ตอนนี้น่าจะข้ามผ่านชายแดนสู่แผ่นดินมารดาแล้ว

          “ลากนางออกมา!”

          ท่านราชครูสั่งการเสียงกร้าว เพื่อที่เขาจะได้นำหนามอันสุดท้ายออกมากำจัดเสีย หากเด็กคนนี้ยังอยู่อาจเป็นภัยในภายหน้า

          “หึ ๆ ข้าคือแม่ทัพ ฮ่า ๆ ข้าคือขุนพลที่ไม่เคยกลัวตาย”

          ฉึก! ครานี้ดาบของศัตรูปักอยู่กลางอก ทว่าไร้เสียงร้องเจ็บปวดของหญิงสาว มีเพียงใบหน้าที่ก้มต่ำ และลมหายใจที่เริ่มขาดห้วง ทว่าสองมือยังคงกำขอบรถม้าเอาไว้แน่น

เฮือก! ร่างที่กำลังหลับอยู่ สะดุ้งตื่นสุดตัวก่อนจะพยายามสูดอากาศเข้าให้เต็มปอด เหงื่อที่ผุดขึ้นเต็มใบหน้า บอกถึงความรู้สึกที่ยากนักจะหายไปจากความทรงจำ

ไม่รู้ว่าสวรรค์เมตตาหรือมันเป็นคำสาปกันแน่ เกิดใหม่และมีชีวิตใหม่ ทว่าความทรงจำกลับไม่เคยหายไปตามลมหายใจที่สิ้นสุด หลายค่ำคืนที่นางต้องฝันเห็นภาพเหล่านั้น เสมือนภูตผีที่คอยหลอกหลอน

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status