เสียงกระแทกประตูดังสนั่น ประตูสั่นไปทั้งบาน เหล่าทหารเตรียมอาวุธพร้อมที่จะต่อสู้กับสิ่งที่กำลังจะพังประตูเข้ามา ชายร่างสูงใหญ่ผมดำสวมหมวกปีกสีน้ำตาล ไว้หนวดเคราถูกจัดแต่งอย่างดี สวมเกราะสีฟ้า ที่อกมีรูปดอกกุหลาบสีม่วง ถือดาบอยู่ เป็นดาบเล่มเล็กบาง ด้ามจับมีที่ปกป้องกันนิ้ว แขนซ้ายสวมถุงมือหนา เป็นผู้นำกองทัพ ข้าง ๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งผมยาวสีแดง รูปร่างเล็กแต่ดูแข็งแรง รัดผมเป็นหางม้า เธอมีดวงตาสีดำเป็นประกาย หน้าตาจัดว่าสวย เธอถือธนูเล็งเป้าหมาย ด้านหลังของเธอมีเด็กหญิงวัยสิบขวบคนหนึ่ง รูปร่างเล็กไว้ผมยาวสีดำถักเป็นเปียหลายเส้นแอบอยู่ข้างหลังหญิงสาว เธอตัวสั่นด้วยความกลัวน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด เหล่าทหารเริ่มมือสั่นเทาด้วยความกลัว ถ้าประตูบานนี้พังเมื่อใดชีวิตของทุกคนก็คงจะจบสิ้น ความหวังของทุกคนอยู่ที่กลุ่มคนเจ็ดคนกำลัง ยืนล้อมวงร่ายคาถา
ชายคนแรก สวมชุดขาวผิวสีแทนไว้ผมยาวและหนวดเคราหงอกขาวราวกับหิมะ ดวงตาสีขาวขุ่นทำให้รู้ว่าตาของเขาบอด มือข้างหนึ่งถือไม้เท้ายาวติด อัญมณีสีเขียว
อีกคนใส่ชุดสีดำสวมหมวกทรงสูง ไว้หนวด ถือไม้พลองสั้นสีขาวดำ
อีกคนเป็นชายหัวโล้น ไว้หนวดเคราสวมชุดสีแดงดำ มีดวงตาสีแดง ถือไม้เท้าที่มีไฟลุก
อีกคนเป็นชายร่างสูงสวมหมวกปลายแหลม ติดรูปมังกรถือไม้คทายาว เขาสัตว์ติดอยู่บนยอด มืออีกข้างถือโล่รูปวงรี
อีกคนเป็นชายไว้หนวดเครายาวที่ขาวหงอกเหมือนคนแรก แต่เขาสวมหมวกสีเทา ใส่ชุดสีฟ้า ถือ คทาที่ประดับอัญมณีสีฟ้าที่ปลาย
อีกคนสวมเสื้อน้ำเงินเข้มเก่า ๆ มีหมวกคุมไว้ แต่เห็นว่าเขาไว้หนวด สีดำ ดวงตาสีแดง
ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม เธอสวมชุดกระโปรงสีดำ สวมหมวกยอดแหลมสีดำ หน้าเธอจัดว่าสวย ผมยาวสีดำเป็นเงา แต่ว่าเธอทาหน้าเป็นสีเขียว ทุกคนกำลังร่ายคาถา มันเป็นเหตุการณ์ที่ตึงเครียด เพราะตอนนี้ความหวังในการมีชีวิตรอดของทุกคนอยู่ที่คนทั้งเจ็ด ทำให้เหงื่อไหลออกมาราวกับอาบ ชิ้นส่วนประตูเริ่มหลุดออกมาแล้ว เป็นสัญญาณว่าประตูบานนี้ต้านการโจมตีไม่ไหวแล้ว
“จะทำอะไรก็รีบทำเข้าเถอะ พวกข้าจะต้านไม่ไหวแล้ว” ผู้นำทหารตะโกนบอก แต่กลุ่มคนไม่ยอมตอบ การร่ายคาถานี้ใช้สมาธิมาก เกิดแสงสว่างวาบขึ้นมา
“สำเร็จแล้ว” เสียงของชายตาบอดพูดขึ้นมา
เมื่อแสงสว่างหายไป ก็ปรากฎร่างของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมคาย ผมยาวยุ่ง คิ้วเข้ม สวมเสื้อสีขาวเปื้อนเลือด เขาเอามือคล้ำรอบคอและทำท่าตกใจ มองไปรอบตัวราวกับทุกอย่างดูเป็นของใหม่ กลุ่มคนทั้งเจ็ดมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ
“ที่นี่ไหน ข้ามาอยู่นี่ได้ไงกัน” เขาถามเป็นภาษาจีน ไม่ใครฟังเข้าใจ ชายตาบอดรีบถามเป็นภาษาอังกฤษว่า
“เจ้าเป็นใคร” แต่เขาทำหน้างง เพราะไม่เข้าใจภาษาที่ได้ยิน ประตูเริ่มต้านไม่อยู่แล้ว ชายหนุ่มหันไปมอง เขารู้ได้ทันทีว่า กำลังจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นจึงรีบลุกขึ้นมา
“ท่านวีโต้ นี่ท่านอัญเชิญอะไรมา ทำไมมันดูโง่เช่นนี้” ผู้นำทหารร้องถามชายตาบอดหรือนามว่าวีโต้ ประตูต้านไม่อยู่พังไม่มีชิ้นดี เหล่าสัตว์ประหลาดบุกเข้ามา พวกมันทุกตัวมีหัวเป็นวัว ร่างเป็นคนถืออาวุธเป็นขวาน กระบอง หัวหน้าของมันมีสองตัว ตัวแรกมีร่างเป็นน้ำตาล รูปร่างใหญ่กว่าทุกตัวถือต้นเสาขนาดยักษ์ อีกตัวเป็นร่างเป็นขาว สวมเกราะสีดำถือลูกตุ้มติดโซ่ ชายหนุ่มตกตะลึงเพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
“จัดการมัน ฮาวูนน้องชายข้า” เจ้าตัวสวมเกราะออกคำสั่ง เจ้าตัวใหญ่คำราม และฟาดเสาอย่างรุนแรงกองกำลังทหาร ต่างแตกกระจาย คนที่สวมเสื้อสีน้ำเงิน ร่ายมนต์และยิงไฟออกมา เจ้าฮาวูนกลับไม่เป็นอะไร และมันเข้าโจมตี กลุ่มคนทั้งเจ็ด
“ทำไมท่านไม่ใช้เวทมนต์ที่รุนแรงกว่านี้” ผู้นำทหารร้องถาม
“ไม่ได้เจ้าชายโฮเซ่ พวกเราใช้พลังไปมากกับคาถาอัญเชิญ” วีโต้ตอบ ผู้นำทหารหรือชื่อโฮเซ่ หันมองชายหนุ่มด้วยดวงสายตาไม่พอใจ เขาไม่ว่าคิดเลยว่าคาถาของกลุ่มคนทั้งเจ็ดจะพลาดเลยตะโกนขึ้นมา
“ไอ้โง่ !” แม้จะฟังไม่เข้าใจแต่ชายหนุ่มรู้สึกว่าไม่ชอบน้ำเสียงแบบนี้ เลยลุกพรวดขึ้นมา เหล่าสัตว์ประหลาดกำลังจะเข้าโจมตี เขารวมพลังไปที่เท้ายกเท้าขึ้นและกระทืบลงไปอย่างแรง
“กระทบปฐพี ”
เกิดแรงสั่นสะเทือน เหล่าสัตว์ประหลาดล้มลงไป ผู้ชายท่าทางง ๆ คนหนึ่งกลับมีพลังประหลาดแบบนี้ เขาเห็นหอกตกอยู่เลยรีบไปเก็บขึ้นมาและเข้าต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาด พอได้จับอาวุธเขากลับใช้มันได้อย่างคล่องแคล้วราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย พวกสัตว์ประหลาดล้มตายราวกับใบไม้ร่วง แต่ว่าอาวุธที่ใช้นั้นไม่แข็งแรงพอ ไม่นานมันก็หักคามือของเขา เจ้าสัตว์ประหลาดยังคงโจมตีไม่อยู่ ชายหนุ่มหยิบอาวุธใหม่คราวนี้เป็นดาบ เขาฟาดฟันไปอย่างรวดเร็วได้สังหารเหล่าสัตว์ประหลาดได้หลายตัว เจ้าตัวสวมเกราะเห็นลูกน้องถูกฆ่าจึงบอกกับ เจ้าฮาวูนว่า
“ฆ่ามันเดี๋ยวนี้เลย”
ต้นเสาถูกฟาดมาเต็มแรง เหล่าทหารถูกสังหารไปจำนวนมาก มันฟาดมา แต่ชายหนุ่มกระโดดสูงและไปยืนบนเสา ฮาวูนเหวี่ยงเสาอย่างแรงแต่เขากระโดดตัวลอย ไปยืนบนเสาอีกครั้ง รวมพลังไปที่เท้า
“กระทบปฐพี ”กระทืบลงไปเสาแตกเป็นชิ้น ๆ ฮาวูนไม่มีอาวุธแล้ว มันยังไม่ทันได้ตั้งตัว ชายหนุ่มแทงดาบเข้าไปปักที่หน้าของมันเต็ม ๆ ฮาวูนร้องลั่น ความเจ็บปวดแบบนี้ที่ไม่เคยเจอมาก่อนทำให้ฮาวูนวิ่งหนีออกไป เจ้าตัวที่สวมเกราะเห็นท่าไม่ดีเลยต้องสั่งให้ทหารถอยทัพ พวกสัตว์ประหลาดหนีไปหมด ทิ้งให้ทุกคนตกตะลึงไม่คิดเลยว่าเจ้าคนแปลกหน้าที่พูดจาไม่รู้เรื่องจัดการสัตว์ประหลาดพวกนี้ได้
“เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงจัดการ มิโนทอร์[1]ได้” โฮเซอร์ถามเป็นภาษาอังกฤษ แต่เขาไม่รู้เรื่องเลยถามกลับไปว่า
“เจ้าพูดอะไรข้าฟังไม่รู้เรื่อง” ภาษาที่เขาพูดนั้นเป็นภาษาจีน การพูดกันคนละภาษาแบบนี้เป็นเรื่องที่ชวนให้หงุดหงิด โฮเซ่กำดาบแน่นแล้วบอกว่า
“นี่ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง เจ้าเจ็บตัวแน่” ชายหนุ่มเห็นโฮเซ่จับดาบก็รู้ได้เลยว่าคนตรงหน้าต้องการจะมีเรื่องกับเขาแน่ เลยตั้งท่าเตรียมพร้อม วีโต้เห็นท่าไม่ดีเลยรีบร้องห้าม
“เดี๋ยวก่อนเจ้าชาย ข้าคิดว่าเขาฟังภาษาเราไม่ออก อย่าเพิ่งมีเรื่องกัน ธีโอดอร์ จัดการได้มั้ย” วีโต้พูดขึ้น หญิงสาวที่ทาหน้าสีเขียว หรือ ที่มีชื่อว่า ธีโอดอร์ ถอดสร้อยคอออกมา มันเป็นสร้อยสีเงินมีจี้รูปเหรียญสีทองมีทับทิมสีแดงประดับอยู่ เธอเดินเข้ามาหาเขา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงและไม่มีอาวุธจึงคลายความระวังตัวลง เธอส่งสร้อยให้เขา
..........
[1] มิโนทอร์ สัตว์ประหลาดจาเทพนิยายกรีซ เมื่อกษัตริย์ ไมนอสก้าวสู่บังลังค์ของเกาะครีสนั้นได้อ้างว่าเทพเจ้าก็เห็นชอบด้วยเช่นกัน โดยทำพิธีขอสิ่งยืนยันจากเทพเจ้า ซึ่งโพเซดอนเทพแห่งสมุทรได้ส่งวัวขาวที่งดงามตัวหนึ่งว่ายน้ำมาถึงเกาะ ตามธรรมเนียมจะต้องบูชายันคืนให้เทพแต่ ไมนอสกลับเก็บวัวเอาไว้เอง ทำให้ เทพโพเซดอนพิโรธ จึงสาปให้มเหศรี ปาซิฟาอี หลงรักเจ้าวัวขาวนั้น และได้เสพสังวาสกัน ทำให้เกิด บุตรเป็นสัตว์ประหลาดตัวเป็นคน หัวเป็นวัว
“เอามันสวมคอซะ” เธอพูดออกมาคราวนี้ชายหนุ่มกลับฟังเข้าใจทุกคำ“อะไรนะ” เขาถามซ้ำและขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ“เอาสวมคอหรือจะถือมันไว้ตลอดก็ได้ จะทำให้เจ้าพูดภาษาเดียวกับพวกเราได้” ลิโป้เอาสร้อยมาสวมคอ“เอาล่ะเจ้าเป็นใครกันแน่” โฮเซ่ถามทันที เขาขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ“เจ้าล้อเล่นหรือเปล่าในใต้หล้ายังมีคนไม่รู้จักข้าหรือข้าคือ ลิโป้[1] ! ผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้า !” เหล่าทหารและโฮเซ่หัวเราะเหมือนกับมีเรื่องตลกอยู่ตรงหน้า“เจ้าขำบ้าอะไร” ลิโป้ถามด้วยความโกรธ“ชื่อแกไง คนบ้าอะไรวะชื่อ ริมโบ้” เจ้าชายโฮเซ่ยังคงหัวเราะต่อไป เขากัดฟันกรอด รวมพลังไปที่เท้า“กระทบปฐพี” เมื่อเขากระทืบพื้นลงไปแรงสะเทือนทำให้ทุกคนแทบจะยืนไม่อยู่ จึงหยุดหัวเราะ“ข้าชื่อลิโป้ ไม่ใช่ริมโบ้โวย ! ลิโป้เข้าใจมั้ย แล้วเจ้าเป็นใครที่นี่ที่ไหน ข้ามาอยู่นี่ได้ยังไงกัน” คราวนี้โฮเซ่กลับเป็นฝ่ายงงซะเอง“เจ้าอย่าล้อข้าเล่นเหรอ นี่ไปอยู่ในรูไหนมา ข้าคือ โฮเซ่บุตรแห่งโฮกัส รัชทายาทแห่งไวโอเล็ตโรส” คราวนี้ลิโป้กลับเป็นฝ่ายขำบ้าง“ขำหาอะไรวะ” โฮเซ่ตะคอกใส่เขา ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครหน้าไหนมาหัวเราะใส่เขาแบบนี้“ก็ขำชื่อแกแล้วทำไมต้องบอกด
“พูดบ้า ๆ น่า แกไม่รู้หรือไงว่าบ้านเมืองข้าเป็นยังไง”“แล้วมันเป็นปัญหาของข้าหรือไง อีกอย่างเรื่องที่เจ้าจะให้ข้าช่วยมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หรอกนะ คนอย่างข้าไม่ช่วยใครเปล่า ๆ” ลิโป้พูดหน้าตาเฉย โฮเซ่กำลังจะไปเอาเรื่อง แต่วีโต้ยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามเขาจึงต้องนั่งลง“แล้วเจ้าต้องการอะไร” วีโต้ถามขึ้นมา ลิโป้มองไปที่แผนที่ อาณาจักรทั้งเจ็ดงั้นหรือ มันช่างดูยิ่งใหญ่ งดงาม เมื่อไม่มีบ้านให้กลับไปอีกแล้วก็สู้หาบ้านใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมอยู่จะดีกว่า“ข้าจะช่วยแต่เจ้าต้องยกอาณาจักรทั้งหมดให้กับข้า”เมื่อได้ยินลิโป้พูดแบบนี้โฮเซ่ไม่ทนแล้ว เขาชักออกดาบมาและวิ่งเขาหาลิโป้ แต่ยอดขุนพลอย่างเขาไม่ใช่หมูที่จะให้ใครมาฆ่าง่าย ๆ เขาจับดาบและรับมือเจ้าชายโฮเซ่ โฮเซ่เข้าโจมตีด้วยเพลงดาบเน้นที่ความเร็วลิโป้ใช้ดาบปัดป้อง ต้องรีบจบการต่อสู้โดยเร็วเขารวมพลังไปที่เท้าอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่ใช้กระทืบพื้น แต่เป็นลูกถีบ“เคลื่อนศิลา” ลูกถีบอันทรงพลังทำให้ร่างของโฮเซ่กระเด็น ความเจ็บปวดที่ได้รับไม่ใช่น้อย ๆ แต่เจ้าชายรีบตั้งตัวเขารวมพลัง แต่ว่า“หยุดพอได้แล้ว” วีโต้ห้าม ทั้งสองหยุดต่อสู้กัน พ่อมดตาบอดถามขึ้นมาว่า“สิ่ง
ข้าไปด้วย ห้ามแกแตะน้องข้าแม้แต่ปลายเล็บไม่งั้น ข้าจะเอาเลือดหัวแกมาล้างเท้าข้า” ลิโป้ไม่ได้สนใจกับสิ่งที่โฮเซ่พูดเลยทั้งสี่ออกเดินทางด้วยม้าสามตัวโดยเซน่าขี่ตัวเดียวกับลูน่า ลิโป้ก็ทำให้โฮเซ่ไม่พอใจอีกครั้งด้วยการกว่าจะเลือกม้าเดินทางได้ เรียกได้ว่าถ้าเข้าไปดูในท้องม้าได้คงจะเข้าไปแล้ว ทำให้เสียเวลาหลายชั่วโมง ในที่สุดเขาเลือกม้าสีน้ำตาลตัวหนึ่ง“ก็แค่ม้าจะเลือกอะไรนักหนา” โฮเซ่บ่นพึมพำจงใจให้ลิโป้ได้ยิน“ม้าศึกจะเลือกส่งเดชได้อย่างไรกัน เราต้องรบร่วมกับมัน ถ้าเลือกไม่ดีก็เหมือนเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งนั่นล่ะ เรื่องแค่นี้ไม่รู้จะเป็นคนนำทัพได้อย่างไร” โฮเซ่ได้ยินดังนั้นก็เตรียมหาเรื่อง แต่ลูน่ากลับส่งของบางอย่างให้“เอาไปกินซะพี่เผื่ออารมณ์จะดีขึ้น”ลิโป้แอบมอง ก้อนเล็ก ๆ สีน้ำตาล ดูเหมือนก้อนถ่าน โฮเซ่กินเข้าไป ลูน่าบอกให้พี่สาวชักม้าไปใกล้ ๆ ลิโป้เธอส่งสิ่งนั้นให้ เขารับมาและมองเด็กหญิงอย่างงง ๆ“ช็อกโกแล็ตไง ไม่รู้จักหรือ”ลิโป้มองอย่างไม่วางใจแต่ลูน่าจ้องเขา ลิโป้เลยเอาเข้าปากเขารู้ต้องรู้สึประหลาดใจเจ้าก้อนสีน้ำตาลนี้มีรสชาติหวาน ที่กินแล้วรู้สึกทำให้อารมณ์ดีขึ้น มองเด็กหญิงแล้วพึ
“เจ้านั่นเป็นใคร” โกดอนถามอย่างตกตะลึงเขาเพิ่งเคยเห็นคนที่หักเขามิโททอร์ได้ “มันแค่ฟลุ๊ก อย่าสนใจมันเลย” โฮเซ่บอกปัด แต่โกดอนไม่เห็นด้วย เขาเลยจะไปช่วยลิโป้ แต่ก็ถูก มิโนทอร์อีกกลุ่มล้อมเอาไว้ ลิโป้เห็นว่าถ้าหลบต่อไปเขาเองจะต้องแย่เลยรวมพลังไปที่เท้า และ“เคลื่อนศิลา” ลูกถีบกระแทกเข้าเต็มหัวของทีโบน ทำให้มันมึนงง ลิโป้เห็นเป็นโอกาสแล้ว จึงรวมพลังไปที่ขาและแตะมันเข้าทีก้านคอเต็มแรง“ตัดสิงขร” เจ้ามิโนทอร์เซและล้มแทบไม่เป็นท่า แต่ลิโป้เองก็เจ็บขาไม่น้อย ทีโบนรีบลุกขึ้นมา ความเจ็บปวดทำให้มันเริ่มกลัว เลยตัดสินใจ“พวกเราถอย !” เหล่ามิโนทอร์ถอยทันทีที่นายสั่ง“เจ้าเป็นใครกันแน่” โกดอนเดินเข้ามาหาเขา ลิโป้มองด้วยสายตายโส ทำให้โกดอนเริ่มไม่ชอบหน้าเขา“ข้า คือ ลิโป้ มาที่นี่เพื่อให้เจ้าสร้างอาวุธและชุดเกราะให้” ลิโป้พูดโกดอนนิ่งไปแล้วบอกว่า“แกมาผิดเวลาแล้วตอนนี้ข้าไม่มีวัตถุดิบอะไร มาสร้างอาวุธให้กับเจ้าแล้วล่ะ” โกดอนบอก ลิโป้ขมวดคิ้วด้วยความโกรธ“เจ้าว่าอะไรนะ” “ใจเย็นก่อน ข้าไม่ได้ไม่อยากทำให้เจ้านะ แต่เหมืองโลหะมหากาฬของเราถูกยึดไปแล้ว ไม่มีโลหะมาเพิ่มหรอก” โกดอนพูด ลิโป้เดินไปหยิบ
“ถ้าเป็นฝีมือของพวกเรา แค่วันเดียวก็เสร็จหมดแล้ว” ลิโป้มองหน้าของโกดอนแล้วถามอีกครั้ง“ใครเป็นายแก” โกดอนคุกเข่าและตอบว่า“ท่านลิโป้คือนายของข้า”โกดอนสั่งให้ทุกคนรวบรวมโลหะมหากาฬมาจากของทุกอย่างที่ไม่ใช่อาวุธในหมู่บ้าน หลายครอบครัวต้องยกให้ทั้งน้ำตาเพราะว่า สำหรับโดวาฟแล้วเครื่องมือทำมาหากินเหมือนของมีค่ามากสำหรับพวกเขา มีบ้านหนึ่งพยายามแย่งเหล็กขุดอันหนึ่งจากพวกทหาร“ไม่นะนี่ของประจำตระกูลของข้า อย่าเอาไป” ลิโป้เลยจัดการถีบเจ้าคนนั้นกระเด็น“ทำไมโหดร้ายแบบนี้วะ พวกเขาแค่รักษาเครื่องทำมาหากินเท่านั้นเอง” โฮเซ่พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแต่ลิโป้กลับเถียงว่า“หากมัวแต่ห่วงเครื่องไม้เครื่องมือพวกนี้แล้วจะหยุดสงครามได้อย่างไรกัน ตอนนี้มีสงครามทำมาหากินได้เหรอ พอสงครามสงบค่อยมาสร้างเครื่องมือกันใหม่ทำกินกันใหม่ก็ได้” เมื่อได้ยินเช่นนั้นบวกกับความกลัวฝีมือของลิโป้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาเลยได้แต่ยอม พวกโดวาฟได้เตรียมสร้างเกราะกับอาวุธในแบบนี้ที่ลิโป้ออกแบบ พวกเขารู้สึกแปลก ๆ กับเกราะที่ลิโป้วาดมา“ท่านแน่ใจนะว่าจะทำตามแบบนี้ ข้าไม่เคยมาเห็นก่อน”โกดอนถาม ลิโป้พยักหน้า โกดอนเลยสั่งให้ลูกน้องลงมือ
ทีโปนเห็นลิโป้กำลังต่อสู้ฮาวูนแล้ว มันคิดว่าต้องรีบกำจัดลิโป้ให้เร็วที่สุด มันเลยตัดสินใจใช้วิธีการลอบกัด แต่โฮเซ่มาขวางเอาไว้ก่อน“อยากสู้มาเจอกับข้านี่” เมื่อได้ยินโฮเซ่ท้าทายเช่นนั้น ทีโบนก็โกรธมาก เหวี่ยงลูกตุ้มใส่เจ้าชายทันที แต่เขาหลบได้อย่างว่องไวและแทงดาบสวนไปโดนเกราะของทีโบนทำให้เกราะเป็นรอย แต่การโจมตียังไม่จบทำให้เกราะของทีโบนโดนแทงพรูไปหมด“เป็นดาบนี้ก็ฝีมือของโดวาฟเหมือนกัน คิดว่าข้าจะไม่มีอาวุธดี ๆ เลยหรือไง” ทีโบนยิ่งโกรธจัด มันเหวี่ยงลูกตุ้มมาเต็มแรง แต่โฮเซ่หลบได้ และแทงสวนเข้าไปที่ข้อมือเป็นแผลลึกทำให้เจ้ามิโนทอร์เสียเอ็นข้อมือไป จนถืออาวุธไม่ได้“แก !” ทีโบนร้องลั่นมันรวมพลังเตรียมที่จะพุ่งชนอีกครั้งทางด้านของลิโป้ ฮาวูนพุ่งชนอย่างบ้าคลั่ง ลิโป้เห็นว่าขืนรับมือเช่นนี้ต่อไปคงไม่เป็นการดีแน่น จึงตั้งสมาธิ ฮาวูนเห็นแบบนั้นมันจึงรวมพลังเตรียมชนครั้งสุดท้าย มันวิ่งมาแล้ว ลิโป้แทงทวนไปทันที“พยับฟ้า” แต่ลิโป้ก็กระเด็นด้วยแรงชน ฮาวูนเลือดไหลทะลักออกมา ทวนโดนเข้าที่จุดตาย มันล้มลงและขาดใจตาย ด้านโฮเซ่เขาถูกชนกระเด็นและทีโบนกำลังจะชนซ้ำแต่ว่า มีเสียง
“ข้าคือลิโป้ ผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้า ตอนนี้ข้าคือ ผู้นำของกองกำลังโดวาฟ และจะเป็นผู้นำของพวกเจ้า” สามขุนพลมองหน้ากันอีกครั้ง เป็นได้ไงกันมีใครสามารถสั่งให้พวกโดวาฟเป็นสมุนได้ แต่เกราะที่มันสวมอยู่ก็เป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดแล้ว ยังไม่ทันที่จะถามอะไรต่อ วีโต้ก็เดินมาหาทุกคน“เรามีปัญหาใหญ่แล้ว มาที่ห้องประชุมเดี๋ยวนี้” ทุกคนเดินตามไป โรงตีเหล็กถูกเปลี่ยนให้เป็นห้องประชุมชั่วคราว โดยมีโกดอนรออยู่ก่อน ทุกคนนั่งล้อมวงกันบนโต๊ะกลม วีโต้บอกว่า“คิดผิดแล้วนะ เจ้าฆ่าฮาวูน แต่ปล่อยทีโปนหนีไปแบบนั้นพวกมันจะกลับมาพร้อมกับความแค้น อย่างแน่นอน” เหมือนลิโป้จะไม่ได้สนใจฟังเลยแม้แต่น้อย“นี่เจ้าหันฟังท่านวีโต้บาง ยังไง ท่านก็เป็นจอมเวทย์สูงสุดของดินแดนเรา” โฮเซ่พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจมากลิโป้มองหน้าของทุกคน ทุบโต๊ะเสียงดังลั่น แล้วพูดว่า“นี่ล่ะที่ข้าต้องการ เจ้าทีโบนกับฮาวูนไม่ใช่หัวหน้าใหญ่แน่ ๆ เมื่อข้าฆ่าคนของมันเจ้าหัวหน้าไม่ยอมอยู่เฉย ๆ พวกมันจะบุกมาหาเราถึงตอนนั้น ข้าจะขยี้มันให้ด้วยมือของข้าเอง”“ประมาทไปแล้วลิโป้ เจ้าไม่รู้หรอกว่าหัวหน้าของพวกมิโนทอร์ร้ายกาจขนาดไหน” เบอร์ตั้นพูดขึ้นมา วีโต้เล
“ท่านปล่อยคนตายโดยไม่คิดจะทำอะไรเลยเนี่ยนะ ท่านมันเลือดเย็น ! ” เซน่าตำหนิเขา ลิโป้กลับตอบว่า“นี่มันสงคราม คนตายเป็นเรื่องปกติ” เซน่าทนฟังไม่ได้อีกแล้วเธอเอาธนูกับลูกศรออกมาและแผลงศรออกไป ลูกธนูพุ่งมาทางทีโบนโดนเขาเหล็กของมัน เสียงดังก้อง มันมองไปที่ทิศทางที่ธนูถูกยิงออกมา เมื่อเห็นลิโป้ความแค้นต่อลิโป้ยิ่งมีมากขึ้น มันวิ่งมาทางลิโป้ เหล่าโดวาฟกำลังจะคุ้มกันเขา แต่ลิโป้กลับบอกว่า“ไม่ต้องแค่มดปลวก ข้าจัดการพวกเจ้าไปช่วย เจ้าชายรบได้แล้ว” เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่า โดวาฟก็ไปช่วยรบทันที ลิโป้ควบม้าเข้าหาทีโบน ทีโบนชนม้าอย่างแรง ลิโป้กระโดดลงจากหลังม้าก่อนและตั้งท่าเตรียมพร้อม“เข้ามาเลย คราวนี้ข้าจะเอาหนังแกมาปูหน้าห้องน้ำซะเลย ไอ้เขาด้วน” ได้ยินแบบนี้มีหรือ เจ้ามิโนทอร์จะไม่โกรธมันฟาดอาวุธมาอย่างบ้าคลั่ง แต่ลิโป้กลับหลบได้และโจมตีสวนไป วงพระจันทร์ที่ติดอยู่ตรงปลายทวนตัดข้อเอ็นมือขวาของมัน ทำให้มันถือลูกตุ้มไม่ได้ ทีโบนร้องลั่น และถอยออกไป มันหันมาทางวากิวที่สังเกตการณ์อยู่มันรู้ดีว่าตอนนี้มันแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ทีโปนวิ่งเข้ามาหมายจะใช้เขาเหล็กขวิดให้กระเด็น แต่ว่าลิโป้ตั้งท่
“จัดการมันเลยตอนนี้มันไม่มีอาวุธแล้ว ไม่ต้องกลัว” เมื่อได้ยินดังนั้นเหล่ามิโนทอร์ก็กรูกันเข้ามาโฮกัสเห็นทวนวงพระจันทร์ปักอยู่ตรงหน้า และเขารู้สึกว่าตอนนี้พวกทหารที่คุมตัวของเขานั้นไม่ได้ระวังตัว โฮกัสเลยดิ้นออกมาได้ และวิ่งไปทวนเอาโซ่ฟาดกับคมมีดวงพระจันทร์ที่ทวน ราชาหลุดจากพันธนาการแล้ว เขารีบจับทวนขึ้นมาและใช้มันเป็นอาวุธแม้จะบาดเจ็บ แต่ฝีมือการใช้อาวุธของโฮกัสก็ไม่ลดลงมากเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อต่อสู้แล้ว โฮเซ่จึงตะโกนไปสั่งทหารว่า“พวกเราสู้ตาย เพื่อองค์ราชา !” เหล่าทหารเข้าต่อสู้ทันที วากิวเห็นองค์ราชาทำให้ทหารของตนเองมีความกล้ามากขึ้นมันก็ยิงพลังไฟใส่ร่างของโฮกัสทันที แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้เขาตายแต่อาการบาดเจ็บที่มีอยู่ก่อนแล้ว ก็ทำให้บอบซ้ำมาก และวากิวกำลังจะยิงซ้ำอีกครั้งหนึ่ง โฮกัสรู้ดีว่า คราวนี้เขาไม่รอดแน่ จึงได้ตะโกนว่า“ท่านนักรบ” ลิโป้หันมา โฮกัสขว้างทวนไปสุดแรงลิโป้กระโดดรับไว้กลางอากาศ เป็นจังหวะเดียวกับที่โฮกัสโดนไฟเผาซ้ำอีกครั้งหนึ่งคราวนี้ไฟลุกท่วมตัวของเขา ลิโป้พอได้ทวนแล้วรีบฟาดฟันในที่สุดก็ไปถึงตัวราชาโฮกัสไฟที่ร่างดับไปแล้ว มันสร้างบาดแผลและความเจ็บปวดให้พร
“ท่านปล่อยคนตายโดยไม่คิดจะทำอะไรเลยเนี่ยนะ ท่านมันเลือดเย็น ! ” เซน่าตำหนิเขา ลิโป้กลับตอบว่า“นี่มันสงคราม คนตายเป็นเรื่องปกติ” เซน่าทนฟังไม่ได้อีกแล้วเธอเอาธนูกับลูกศรออกมาและแผลงศรออกไป ลูกธนูพุ่งมาทางทีโบนโดนเขาเหล็กของมัน เสียงดังก้อง มันมองไปที่ทิศทางที่ธนูถูกยิงออกมา เมื่อเห็นลิโป้ความแค้นต่อลิโป้ยิ่งมีมากขึ้น มันวิ่งมาทางลิโป้ เหล่าโดวาฟกำลังจะคุ้มกันเขา แต่ลิโป้กลับบอกว่า“ไม่ต้องแค่มดปลวก ข้าจัดการพวกเจ้าไปช่วย เจ้าชายรบได้แล้ว” เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่า โดวาฟก็ไปช่วยรบทันที ลิโป้ควบม้าเข้าหาทีโบน ทีโบนชนม้าอย่างแรง ลิโป้กระโดดลงจากหลังม้าก่อนและตั้งท่าเตรียมพร้อม“เข้ามาเลย คราวนี้ข้าจะเอาหนังแกมาปูหน้าห้องน้ำซะเลย ไอ้เขาด้วน” ได้ยินแบบนี้มีหรือ เจ้ามิโนทอร์จะไม่โกรธมันฟาดอาวุธมาอย่างบ้าคลั่ง แต่ลิโป้กลับหลบได้และโจมตีสวนไป วงพระจันทร์ที่ติดอยู่ตรงปลายทวนตัดข้อเอ็นมือขวาของมัน ทำให้มันถือลูกตุ้มไม่ได้ ทีโบนร้องลั่น และถอยออกไป มันหันมาทางวากิวที่สังเกตการณ์อยู่มันรู้ดีว่าตอนนี้มันแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ทีโปนวิ่งเข้ามาหมายจะใช้เขาเหล็กขวิดให้กระเด็น แต่ว่าลิโป้ตั้งท่
“ข้าคือลิโป้ ผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้า ตอนนี้ข้าคือ ผู้นำของกองกำลังโดวาฟ และจะเป็นผู้นำของพวกเจ้า” สามขุนพลมองหน้ากันอีกครั้ง เป็นได้ไงกันมีใครสามารถสั่งให้พวกโดวาฟเป็นสมุนได้ แต่เกราะที่มันสวมอยู่ก็เป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดแล้ว ยังไม่ทันที่จะถามอะไรต่อ วีโต้ก็เดินมาหาทุกคน“เรามีปัญหาใหญ่แล้ว มาที่ห้องประชุมเดี๋ยวนี้” ทุกคนเดินตามไป โรงตีเหล็กถูกเปลี่ยนให้เป็นห้องประชุมชั่วคราว โดยมีโกดอนรออยู่ก่อน ทุกคนนั่งล้อมวงกันบนโต๊ะกลม วีโต้บอกว่า“คิดผิดแล้วนะ เจ้าฆ่าฮาวูน แต่ปล่อยทีโปนหนีไปแบบนั้นพวกมันจะกลับมาพร้อมกับความแค้น อย่างแน่นอน” เหมือนลิโป้จะไม่ได้สนใจฟังเลยแม้แต่น้อย“นี่เจ้าหันฟังท่านวีโต้บาง ยังไง ท่านก็เป็นจอมเวทย์สูงสุดของดินแดนเรา” โฮเซ่พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจมากลิโป้มองหน้าของทุกคน ทุบโต๊ะเสียงดังลั่น แล้วพูดว่า“นี่ล่ะที่ข้าต้องการ เจ้าทีโบนกับฮาวูนไม่ใช่หัวหน้าใหญ่แน่ ๆ เมื่อข้าฆ่าคนของมันเจ้าหัวหน้าไม่ยอมอยู่เฉย ๆ พวกมันจะบุกมาหาเราถึงตอนนั้น ข้าจะขยี้มันให้ด้วยมือของข้าเอง”“ประมาทไปแล้วลิโป้ เจ้าไม่รู้หรอกว่าหัวหน้าของพวกมิโนทอร์ร้ายกาจขนาดไหน” เบอร์ตั้นพูดขึ้นมา วีโต้เล
ทีโปนเห็นลิโป้กำลังต่อสู้ฮาวูนแล้ว มันคิดว่าต้องรีบกำจัดลิโป้ให้เร็วที่สุด มันเลยตัดสินใจใช้วิธีการลอบกัด แต่โฮเซ่มาขวางเอาไว้ก่อน“อยากสู้มาเจอกับข้านี่” เมื่อได้ยินโฮเซ่ท้าทายเช่นนั้น ทีโบนก็โกรธมาก เหวี่ยงลูกตุ้มใส่เจ้าชายทันที แต่เขาหลบได้อย่างว่องไวและแทงดาบสวนไปโดนเกราะของทีโบนทำให้เกราะเป็นรอย แต่การโจมตียังไม่จบทำให้เกราะของทีโบนโดนแทงพรูไปหมด“เป็นดาบนี้ก็ฝีมือของโดวาฟเหมือนกัน คิดว่าข้าจะไม่มีอาวุธดี ๆ เลยหรือไง” ทีโบนยิ่งโกรธจัด มันเหวี่ยงลูกตุ้มมาเต็มแรง แต่โฮเซ่หลบได้ และแทงสวนเข้าไปที่ข้อมือเป็นแผลลึกทำให้เจ้ามิโนทอร์เสียเอ็นข้อมือไป จนถืออาวุธไม่ได้“แก !” ทีโบนร้องลั่นมันรวมพลังเตรียมที่จะพุ่งชนอีกครั้งทางด้านของลิโป้ ฮาวูนพุ่งชนอย่างบ้าคลั่ง ลิโป้เห็นว่าขืนรับมือเช่นนี้ต่อไปคงไม่เป็นการดีแน่น จึงตั้งสมาธิ ฮาวูนเห็นแบบนั้นมันจึงรวมพลังเตรียมชนครั้งสุดท้าย มันวิ่งมาแล้ว ลิโป้แทงทวนไปทันที“พยับฟ้า” แต่ลิโป้ก็กระเด็นด้วยแรงชน ฮาวูนเลือดไหลทะลักออกมา ทวนโดนเข้าที่จุดตาย มันล้มลงและขาดใจตาย ด้านโฮเซ่เขาถูกชนกระเด็นและทีโบนกำลังจะชนซ้ำแต่ว่า มีเสียง
“ถ้าเป็นฝีมือของพวกเรา แค่วันเดียวก็เสร็จหมดแล้ว” ลิโป้มองหน้าของโกดอนแล้วถามอีกครั้ง“ใครเป็นายแก” โกดอนคุกเข่าและตอบว่า“ท่านลิโป้คือนายของข้า”โกดอนสั่งให้ทุกคนรวบรวมโลหะมหากาฬมาจากของทุกอย่างที่ไม่ใช่อาวุธในหมู่บ้าน หลายครอบครัวต้องยกให้ทั้งน้ำตาเพราะว่า สำหรับโดวาฟแล้วเครื่องมือทำมาหากินเหมือนของมีค่ามากสำหรับพวกเขา มีบ้านหนึ่งพยายามแย่งเหล็กขุดอันหนึ่งจากพวกทหาร“ไม่นะนี่ของประจำตระกูลของข้า อย่าเอาไป” ลิโป้เลยจัดการถีบเจ้าคนนั้นกระเด็น“ทำไมโหดร้ายแบบนี้วะ พวกเขาแค่รักษาเครื่องทำมาหากินเท่านั้นเอง” โฮเซ่พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแต่ลิโป้กลับเถียงว่า“หากมัวแต่ห่วงเครื่องไม้เครื่องมือพวกนี้แล้วจะหยุดสงครามได้อย่างไรกัน ตอนนี้มีสงครามทำมาหากินได้เหรอ พอสงครามสงบค่อยมาสร้างเครื่องมือกันใหม่ทำกินกันใหม่ก็ได้” เมื่อได้ยินเช่นนั้นบวกกับความกลัวฝีมือของลิโป้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาเลยได้แต่ยอม พวกโดวาฟได้เตรียมสร้างเกราะกับอาวุธในแบบนี้ที่ลิโป้ออกแบบ พวกเขารู้สึกแปลก ๆ กับเกราะที่ลิโป้วาดมา“ท่านแน่ใจนะว่าจะทำตามแบบนี้ ข้าไม่เคยมาเห็นก่อน”โกดอนถาม ลิโป้พยักหน้า โกดอนเลยสั่งให้ลูกน้องลงมือ
“เจ้านั่นเป็นใคร” โกดอนถามอย่างตกตะลึงเขาเพิ่งเคยเห็นคนที่หักเขามิโททอร์ได้ “มันแค่ฟลุ๊ก อย่าสนใจมันเลย” โฮเซ่บอกปัด แต่โกดอนไม่เห็นด้วย เขาเลยจะไปช่วยลิโป้ แต่ก็ถูก มิโนทอร์อีกกลุ่มล้อมเอาไว้ ลิโป้เห็นว่าถ้าหลบต่อไปเขาเองจะต้องแย่เลยรวมพลังไปที่เท้า และ“เคลื่อนศิลา” ลูกถีบกระแทกเข้าเต็มหัวของทีโบน ทำให้มันมึนงง ลิโป้เห็นเป็นโอกาสแล้ว จึงรวมพลังไปที่ขาและแตะมันเข้าทีก้านคอเต็มแรง“ตัดสิงขร” เจ้ามิโนทอร์เซและล้มแทบไม่เป็นท่า แต่ลิโป้เองก็เจ็บขาไม่น้อย ทีโบนรีบลุกขึ้นมา ความเจ็บปวดทำให้มันเริ่มกลัว เลยตัดสินใจ“พวกเราถอย !” เหล่ามิโนทอร์ถอยทันทีที่นายสั่ง“เจ้าเป็นใครกันแน่” โกดอนเดินเข้ามาหาเขา ลิโป้มองด้วยสายตายโส ทำให้โกดอนเริ่มไม่ชอบหน้าเขา“ข้า คือ ลิโป้ มาที่นี่เพื่อให้เจ้าสร้างอาวุธและชุดเกราะให้” ลิโป้พูดโกดอนนิ่งไปแล้วบอกว่า“แกมาผิดเวลาแล้วตอนนี้ข้าไม่มีวัตถุดิบอะไร มาสร้างอาวุธให้กับเจ้าแล้วล่ะ” โกดอนบอก ลิโป้ขมวดคิ้วด้วยความโกรธ“เจ้าว่าอะไรนะ” “ใจเย็นก่อน ข้าไม่ได้ไม่อยากทำให้เจ้านะ แต่เหมืองโลหะมหากาฬของเราถูกยึดไปแล้ว ไม่มีโลหะมาเพิ่มหรอก” โกดอนพูด ลิโป้เดินไปหยิบ
ข้าไปด้วย ห้ามแกแตะน้องข้าแม้แต่ปลายเล็บไม่งั้น ข้าจะเอาเลือดหัวแกมาล้างเท้าข้า” ลิโป้ไม่ได้สนใจกับสิ่งที่โฮเซ่พูดเลยทั้งสี่ออกเดินทางด้วยม้าสามตัวโดยเซน่าขี่ตัวเดียวกับลูน่า ลิโป้ก็ทำให้โฮเซ่ไม่พอใจอีกครั้งด้วยการกว่าจะเลือกม้าเดินทางได้ เรียกได้ว่าถ้าเข้าไปดูในท้องม้าได้คงจะเข้าไปแล้ว ทำให้เสียเวลาหลายชั่วโมง ในที่สุดเขาเลือกม้าสีน้ำตาลตัวหนึ่ง“ก็แค่ม้าจะเลือกอะไรนักหนา” โฮเซ่บ่นพึมพำจงใจให้ลิโป้ได้ยิน“ม้าศึกจะเลือกส่งเดชได้อย่างไรกัน เราต้องรบร่วมกับมัน ถ้าเลือกไม่ดีก็เหมือนเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งนั่นล่ะ เรื่องแค่นี้ไม่รู้จะเป็นคนนำทัพได้อย่างไร” โฮเซ่ได้ยินดังนั้นก็เตรียมหาเรื่อง แต่ลูน่ากลับส่งของบางอย่างให้“เอาไปกินซะพี่เผื่ออารมณ์จะดีขึ้น”ลิโป้แอบมอง ก้อนเล็ก ๆ สีน้ำตาล ดูเหมือนก้อนถ่าน โฮเซ่กินเข้าไป ลูน่าบอกให้พี่สาวชักม้าไปใกล้ ๆ ลิโป้เธอส่งสิ่งนั้นให้ เขารับมาและมองเด็กหญิงอย่างงง ๆ“ช็อกโกแล็ตไง ไม่รู้จักหรือ”ลิโป้มองอย่างไม่วางใจแต่ลูน่าจ้องเขา ลิโป้เลยเอาเข้าปากเขารู้ต้องรู้สึประหลาดใจเจ้าก้อนสีน้ำตาลนี้มีรสชาติหวาน ที่กินแล้วรู้สึกทำให้อารมณ์ดีขึ้น มองเด็กหญิงแล้วพึ
“พูดบ้า ๆ น่า แกไม่รู้หรือไงว่าบ้านเมืองข้าเป็นยังไง”“แล้วมันเป็นปัญหาของข้าหรือไง อีกอย่างเรื่องที่เจ้าจะให้ข้าช่วยมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หรอกนะ คนอย่างข้าไม่ช่วยใครเปล่า ๆ” ลิโป้พูดหน้าตาเฉย โฮเซ่กำลังจะไปเอาเรื่อง แต่วีโต้ยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามเขาจึงต้องนั่งลง“แล้วเจ้าต้องการอะไร” วีโต้ถามขึ้นมา ลิโป้มองไปที่แผนที่ อาณาจักรทั้งเจ็ดงั้นหรือ มันช่างดูยิ่งใหญ่ งดงาม เมื่อไม่มีบ้านให้กลับไปอีกแล้วก็สู้หาบ้านใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมอยู่จะดีกว่า“ข้าจะช่วยแต่เจ้าต้องยกอาณาจักรทั้งหมดให้กับข้า”เมื่อได้ยินลิโป้พูดแบบนี้โฮเซ่ไม่ทนแล้ว เขาชักออกดาบมาและวิ่งเขาหาลิโป้ แต่ยอดขุนพลอย่างเขาไม่ใช่หมูที่จะให้ใครมาฆ่าง่าย ๆ เขาจับดาบและรับมือเจ้าชายโฮเซ่ โฮเซ่เข้าโจมตีด้วยเพลงดาบเน้นที่ความเร็วลิโป้ใช้ดาบปัดป้อง ต้องรีบจบการต่อสู้โดยเร็วเขารวมพลังไปที่เท้าอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่ใช้กระทืบพื้น แต่เป็นลูกถีบ“เคลื่อนศิลา” ลูกถีบอันทรงพลังทำให้ร่างของโฮเซ่กระเด็น ความเจ็บปวดที่ได้รับไม่ใช่น้อย ๆ แต่เจ้าชายรีบตั้งตัวเขารวมพลัง แต่ว่า“หยุดพอได้แล้ว” วีโต้ห้าม ทั้งสองหยุดต่อสู้กัน พ่อมดตาบอดถามขึ้นมาว่า“สิ่ง
“เอามันสวมคอซะ” เธอพูดออกมาคราวนี้ชายหนุ่มกลับฟังเข้าใจทุกคำ“อะไรนะ” เขาถามซ้ำและขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ“เอาสวมคอหรือจะถือมันไว้ตลอดก็ได้ จะทำให้เจ้าพูดภาษาเดียวกับพวกเราได้” ลิโป้เอาสร้อยมาสวมคอ“เอาล่ะเจ้าเป็นใครกันแน่” โฮเซ่ถามทันที เขาขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ“เจ้าล้อเล่นหรือเปล่าในใต้หล้ายังมีคนไม่รู้จักข้าหรือข้าคือ ลิโป้[1] ! ผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้า !” เหล่าทหารและโฮเซ่หัวเราะเหมือนกับมีเรื่องตลกอยู่ตรงหน้า“เจ้าขำบ้าอะไร” ลิโป้ถามด้วยความโกรธ“ชื่อแกไง คนบ้าอะไรวะชื่อ ริมโบ้” เจ้าชายโฮเซ่ยังคงหัวเราะต่อไป เขากัดฟันกรอด รวมพลังไปที่เท้า“กระทบปฐพี” เมื่อเขากระทืบพื้นลงไปแรงสะเทือนทำให้ทุกคนแทบจะยืนไม่อยู่ จึงหยุดหัวเราะ“ข้าชื่อลิโป้ ไม่ใช่ริมโบ้โวย ! ลิโป้เข้าใจมั้ย แล้วเจ้าเป็นใครที่นี่ที่ไหน ข้ามาอยู่นี่ได้ยังไงกัน” คราวนี้โฮเซ่กลับเป็นฝ่ายงงซะเอง“เจ้าอย่าล้อข้าเล่นเหรอ นี่ไปอยู่ในรูไหนมา ข้าคือ โฮเซ่บุตรแห่งโฮกัส รัชทายาทแห่งไวโอเล็ตโรส” คราวนี้ลิโป้กลับเป็นฝ่ายขำบ้าง“ขำหาอะไรวะ” โฮเซ่ตะคอกใส่เขา ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครหน้าไหนมาหัวเราะใส่เขาแบบนี้“ก็ขำชื่อแกแล้วทำไมต้องบอกด