ตอนที่ 10
ความจริง
อนุสรณ์แอบดูความสัมพันธ์ของลูกสาวกับลูกเขยอยู่ห่าง ๆ เขาเริ่มสังเกตได้ว่าใบหยกไม่มีความไว้ใจให้สามีแต่เขาก็ยังติดที่สัญญากับภูษิตไว้แล้ว แต่ครั้นจะไม่พูดเลยก็กลัวว่าครอบของทั้งคู่จะไปไม่ถึงสุดทาง
“ใบหยกมาคุยกับพ่อหน่อย”
วันนี้หญิงสาวไม่ไปทำงานเพราะเธออาเจียรแต่เช้าและช่วงนี้รู้สึกอ่อนเพลียตลอด
“ไม่สบายหรือท้อง”
คนเป็นพ่อไม่อ้อมค้อมเพราะอาการแบบนี้แม่ของใบหยกก็เป็น ทำไมคนอาบน้ำร้อนมาก่อนจะดูไม่ออก
“หยกท้องค่ะคุณพ่อ”
คนท้องไม่มีประโยชน์อะไรที่จะโกหก หญิงสาวจึงพูดความเป็นจริง
“แล้วที่ลูกไม่บอกภูษิตไม่ใช่เพราะต้องการเก็บไว้ให้เขารู้เองใช่ไหม แต่ลูกกำลังมีเรื่องอะไรสักอย่างที่ไม่ไว้ใจในตัวเขาใช่ไหม”
อนุสรณ์ใช้เป็นคำถามแทนที่จะบอกความจริงกับลูกสาว ตรง ๆ เพราะเขายังถือคำสัญญาอยู่
ใบหยกทำท่าอ่ำอึ้งเพราะความจริงเธอยังรักภูษิตจนสุดหัวใจ กลัวถ้าพูดความจริงให้บิดาฟังไปแล้วพ่อของเธอจะโกรธและอาจจะเกลียดสามีเธอไปเลยก็ได้
“ไม่มีอะไรค่ะ หยกแค่รู้สึกว่าพี่ภูเขามีคนอื่นหรือเปล่าหรือไม่เขาจริงใจกับหยกแค่ไหน”
หญิงสาวตอบแบบไม่คิดเลยว่าคนฟังอายุเท่าไหร่แล้ว ใบหยกคิดเหตุผลมาโกหกบิดาเหมือนเห็นอนุสรณ์เด็กกว่าเธอ
“ถ้าพ่ออายุสักสิบหกพ่อคงเชื่อแต่นี่พ่อหกสิบเอ็ดแล้วจึงได้แต่ขำในใจ ที่ลูกสาวพ่อเพิ่งจะมาคิดระแวงว่าสามีจริงใจไหมหลังจากแต่งงานมาปีกว่า แล้วท่าทางของลูกมันระแวงแบบมีมูลเสียด้วยนะไม่ใช่แบบคิดไปเอง เอาเป็นว่าพ่อให้สิทธิ์ลูกเลือกที่จะเล่าหรือไม่เล่า พ่อไม่บังคับ”
หญิงสาวเงีบไปอยู่นานเธอเปลี่ยนสีหน้าเป็นวิตกกังวลแล้วมีความกลัวซ่อนอยู่ในนั้น
“ลูกไม่ต้องกลัวว่าลูกเล่าอะไรให้พ่อฟัง แล้วพ่อจะไปเกลียดสามีของลูกตราบที่เขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูก เรื่องอื่นพ่อพร้อมจะเป็นคนกลาง”
ใบหยกมองหน้าบิดา ทำไมพ่อของเธอเหมือนรู้ทันไปหมดว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“วันที่หยกกลับจากจีน หยกไปหาพี่ภูที่โรงแรมและเห็นเขากำลังนั่งคุยกับผู้หญิงที่หยกไม่รู้จัก จึงตัดสินใจเข้าไปแอบฟัง และสิ่งที่สองคนนั้นคุยกันก็คือพี่ภูตั้งใจมาหลอกครอบครัวเรา หลอกให้หยกโอนหุ้นให้และมาแย่งลูกค้า หยกทนฟังไม่จบก็เดินออกมาเสียก่อน”
หญิงสาวเล่าจบเธอแปลกใจมากที่บิดาของเธอไม่ได้แสดงอาการแปลกใจอะไรเลย กับทำสีหน้าเหมือนฟังเรื่องที่รู้แล้ว
“ถ้าที่หลังจะแอบฟังใครคุยกันควรฟังให้จบและถึงฟังจบก็ต้องคิดไตร่ตรองแต่นี่ลูกฟังแค่ส่วนเดียวแล้วก็มานั่งระแวงสามีตัวเอง พ่อถามจริง ๆ ทุกวันนี้ครอบครัวเรามีความสุขไหมที่ลูกระแวงอยู่แบบนี้”
หญิงสาวส่ายหัวเพราะตั้งแต่วันนั้นเธอรู้สึกเหมือนภูษิตไม่ใช่สามีเหมือนเป็นผู้ชายที่เธอไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริง
“เขาหลอกให้ลูกโอนหุ้นให้และสุดท้ายเขาก็คืนแถมยกหุ้นในโรงแรมของเขาให้ลูกส่วนหนึ่ง พ่อไม่ได้บอกว่าเขาไม่ได้คิดมาหลอกแต่พ่อกำลังจะให้ลูกมองว่าคนเรามันพลาดและสำนึกได้”
อนุสรณ์นิ่งเงียบไปพักหนึ่งเพราะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะทำผิดสัญญา
“ส่วนเรื่องแย่งลูกค้า ถ้าจะมองว่าเราแย่งลูกค้าเขาก่อนก็ได้เหมือนกัน บริษัททัวร์เกือบยี่สิบบริษัทที่เป็นนักท่องเที่ยวจีน ย้ายมาพักกับเราทั้งที่แต่ก่อนพักโรงแรมของภูษิต”
“เราไม่ได้แย่งนะคะ ทางนั้นบริหารแย่เองไม่ปรับปรุง”
หญิงสาวเถียงขึ้นมา เพราะเธอรู้สึกว่าโรงแรมเธออยู่เฉย ๆ ลูกค้ามาหาเอง
“ก็ใช่ แต่อย่าลืมตอนพ่อเริ่มทำโรงแรมพ่อของภูษิตดูแลพ่อทุกอย่าง แต่พอถึงคราวธุรกิจเขามีปัญหา พ่อแทนที่จะไปเตือนอดุลย์แต่พ่อกลับรีบคว้าลูกค้าไว้แทน เรื่องนี้พ่อถือว่าหายกัน”
หมดเรื่องของธุรกิจก็เหลือแต่เรื่องของเธอกับเขาที่เธอไม่แน่ใจว่ารักหรือหลอก
“พ่อรู้ว่าลูกคิดว่าเขาไม่รักลูก ถ้าเขาตั้งใจมาหลอกโดยไม่รักเขาหย่าตั้งแต่วันที่ลูกกลับมาจากจีนแล้วพ่อพูดได้แค่นี้แหละ ไปคิดเอาเองว่าจะมีความสุขหรืออยู่บนความระแวง และนี่ก็ถึงขั้นมีลูกแล้วด้วย”
ใบหยกเก็บเรื่องนี้ไปคิดทั้งคืนแต่เธอก็ยังไม่เชื่อใจอยู่ดี ทั้งที่ก็พยายามดูว่าสามีของเธอดีกับเธอทุกอย่าง
“คุณหยกคะ มีคนมาขอพบเธอบอกชื่อนาเดียร์เป็นเพื่อนของคุณภู”
เลขาหน้าห้องเปิดประตูเข้ามาขออนุญาตเจ้านายก่อน เพราะนาเดียร์ถือว่าเป็นคนแปลกหน้า
“เชิญเขาเข้ามา”
“สวัสดีค่ะคุณนาเดียร์”
ใบหยกทักทายก่อนเพราะคิดว่าแขกที่มาคงต้องอายุมากกว่าเธอแน่ ๆ
“คุณใบหยกคงคุ้นหน้าเดียร์อยู่แล้วเพราะวันที่เดียร์กลับมาจากต่างประเทศและแวะไปหาภูคุณก็ไปนั่งแอบฟังเราคุยกันอยู่”
ใบหยกทำหน้าไม่ถูกเลยทั้งที่เธอจำหน้าหญิงสาวตรงหน้าได้แต่อุตส่าห์ทำเป็นจำไม่ได้ พอโดนอีกฝ่ายพูดตรง ๆ เข้าไปเธอถึงกับเงียบ
“เดียร์จะไม่พูดในสิ่งที่คุณได้ยินแล้วนะคะ และที่เดียร์มาที่นี่เพราะความรู้สึกผิดเพราะการที่ภูไปจีบคุณเกิดจากเดียร์ที่สนุกปากแนะนำให้เขาไปจีบลูกสาวคู่แข่งสิจะได้ชนะ แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับการที่เพื่อนของเดียร์ดันตกหลุมรักคุณจริง ๆ แล้วก็ดันมารู้ตัวช้าเพราะมีคุณอยู่ด้วยทุกวัน พอคุณไปจีนภูษิตก็ถึงกลับยอมล้มเลิกแผนทั้งหมดเพราะเขาบอกกับเดียร์ว่าแค่คุณไม่อยู่ไม่กี่วันเขายังคิดถึงขนาดนี้ ถ้าวันหนึ่งคุณรู้ความจริงแล้วเลิกกับเขา เขาจะอยู่อย่างไร”
ใบหยกมองจ้องหน้าคนพูดด้วยสายตาที่เธอรู้สึกสงสารตัวเอง น้ำใส ๆ ไหลคลอตาแต่ก็ไม่มีคำพูดใดหลุดจากปาก
“คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็สุดแต่ใจ เดียร์สบายใจแล้วที่ได้มาพูด อีกเดือนเดียวต้องกลับไปทำงานแล้ว เลยไม่อยากค้างคาใจ ขอให้ทั้งคุณหยกและภูหาทางออกที่ดีที่สุดนะคะ”
ประตูห้องปิดลงใบหยกก็ไม่เก็บน้ำตาแล้วเธอปล่อยให้มันไหลออกมา ทั้งที่ตัวเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองร้องไห้เพราะอะไรกันแน่แต่ที่รู้ ๆ คือมันอยากร้องไห้
หญิงสาวจะพยายามลืมเรื่องในอดีตตอนนี้เธอมีคนสำคัญที่ต้องดูแลและภูษิตก็คือพ่อของลูกเธอ ครอบครัวของเธอต้องอบอุ่นและมีความสุข หญิงสาวบอกกับตัวเองเธอจะทิ้งอดีตไว้เบื้องหลังและเดินหน้าต่อไป
ตอนที่ 11ของขวัญที่ล้ำค่า เย็นนี้ใบหยกกลับบ้านด้วยท่าทีที่ดูเงียบเหมือนเธอกำลังรู้สึกอะไรบางอย่างที่ทั้งอนุสรณ์และภูษิตต่างไม่เข้าใจ มื้อเย็นบรรยากาศมีเพียงแค่เสียงพูดคุยของพ่อตากับลูกเขยส่วนลูกสาวเอาแต่นั่งเงียบและกินได้น้อยมาก “เป็นอะไรหรือเปล่าลูก ทำไมดูหน้าไม่ดีเลย เครียดเรื่องที่โรงแรมอะไรไหม มีอะไรให้พ่อกับภูช่วยก็บอก” อนุสรณ์ลึก ๆ ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องงานแต่ก็ไม่กล้าถามตามที่คิดจึงเลี่ยงถามเรื่องงานที่โรงแรมน่าจะดีกว่า “ไม่ค่ะพ่อ หยกแค่เบื่อ ๆ อาหารและช่วงนี้รู้สึกเหมือนอยากจะนอนอย่างเดียว หยกขอตัวไปอาบน้ำแล้วเข้านอนก่อนนะคะ” ใบหยกเดินขึ้นไปบนห้องแล้วก็เหลือแต่พ่อตากับ
ตอนที่ 12บอสใหม่ของโรงแรม วันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเด็กน้อยคลอดออกมาเป็นหลานชายที่แสนจะตัวใหญ่มาก ทั้งที่แม่ก็ตัวนิดเดียว หน้าตาน่าชังบอกไม่ถูกเลยว่าเหมือนพ่อหรือแม่มากกว่ากัน ปู่กับตาก็เถียงว่าเหมือนตัวเอง หลานชายคนแรกพากันตื่นเต้นทั้งสองบ้าน “ต้องเลี้ยงบ้านนี้นะ บ้านผมไม่เคยมีลูกชายไว้คนต่อไปโตจะให้บ้านปู่ย่าเอาไปช่วยเลี้ยง” อนุสรณ์เขาอยากมีลูกชายแต่แม่ของใบหยกชอบที่จะมีลูกคนเดียวมากกว่า พอมีหลานชายแบบนี้อนุสรณ์ก็แสดงความหวงทันที “คนแรกเพิ่งคลอด วางแผนแบ่งคนที่สองกันแล้ว เดี๋ยวคอยดูคนอยากเลี้ยงวิ่งตามหลานไม่ทันห้ามโยนมานะ ทางนี้จะรอคนที่สองเด็กผู้หญิงเลี้ยงง่ายกว่าแน่ ๆ เพราะตอนตาภูวิ่งตามกันแทบ ไม่ทันไปโรงพยาบาลเกือบทุกเดือนต้องมีแตกมีหักเพราะความซน”
ตอนที่ 1แทบละลายเพราะสายตาบอส “พนักงานคนใหม่ชื่ออะไร” ภูเบศลูกชายท่านประธานบริษัทถามถึงหญิงสาวที่เขาเพิ่งเจอตอนที่มาถึงที่ทำงานในตอนเช้ากับหัวหน้าฝ่ายบัญชีด้วยอาการแสดงออกถึงความสนใจเป็นพิเศษ “คนไหนคะ” ยุพาถามตามซื่อเพราะเดือนนี้ที่แผนกของเธอมีพนักงานใหม่ถึงสองคน “ก็คนนั้น เอ่อ...คนที่ตัวเล็ก ๆ อวบหน่อยๆ” คนถามทำสีหน้าหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าไม่อยากเจาะจงชัดเจนว่าคนที่เขากำลังถามถึงมีลักษณะอย่างไร “ล้านนา ยุพาว่าคนที่คุณภูเบศหมายถึงน่าจะเป็นล้านนาค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ลูกน้องสาวถามออกไปเพราะกลัวว่าพนักงงานใหม่จะทำอะไรให้เจ้านายเธอไม่พอใจหรือเปล่าแต่เมื่อมองสบตาคนตรงหน้า ยุพาก็รีบพาตัวเองออกจากห้องท่านรองประธานทันที “ไม่รู้ใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องกันแน่” ภูเบศบ่นพึมพำมือเท้าเอวส่ายหัวไปมาในความช่างซักไซ้ของลูกน้องคนสนิท ภาพของหญิงสาวในชุดพนักงานของบริษัทที่ดูเข้ารูปทำให้เห็นหุ่นอันอวบอิ่มได้อย่างชัดเจนยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเจ้านายหนุ่มที่สุดแสนจะเจ้าชู้เป็นตัวพ่อของสังคมนักธุรกิ
ตอนที่ 2เธอทำให้ฉันรู้สึกสำคัญ ความใกล้ชิดระหว่างเจ้านายกับลูกน้องเริ่มมีมากขึ้นถึงแม้ว่าต่อหน้าคนอื่น ๆ ภูเบศจะไม่ได้แสดงอะไรออกมาเกินกว่าที่ควรจะเป็น “ฉันซื้อขนมมาฝากอยู่ตรงเครื่องถ่ายเอกสารนะ” ชายหนุ่มพูดลอย ๆ เมื่อล้านนาเดินสวนกับเขาตรงหน้าห้องของแผนกด้วยท่าทางเหมือนว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้พูดกับเธอ ขนม ข้าวหรือแม้แต่กาแฟเขาก็หมั่นซื้อมาฝากลูกน้องคนนี้มาโดยตลอด ล้านนาเองเธอเริ่มรู้สึกกับภูเบศมากเกินกว่าเจ้านายเพราะลึก ๆ หญิงสาวก็แอบคิดว่าเจ้านายของเธอดูแลห่วงใยเธอมากกว่าพนักงานคนอื่น ๆ “ล้านนาแกคิดเข้าข้างตัวเองมากไป ผู้หญิงจน ๆ ไม่สวยอย่างแกใครเขาจะมาสนใจ” สาวน้อยในวัยเป็นสาวบานสะพรั่งพูดกับกล่องขนมในมือของเธอเพื่อเตือนตัวเองไม่ให้คิดไปไกลกว่านี้ “ทุกคนคะพรุ่งนี้ท่านรองประธานจะพาพวกเราไปเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกเราทำงานล่วงเวลากันมาหลายวัน มีใครไปไม่ได้ไหมเพราะอาจจะกลับดึกหน่อย” ยุพาเดินออกมาจากห้องของเจ้านาย เธอก็มีข่าวดีมาแจ้งให้ลูกน้องทุกคนในแผนกได้รู้ “หนูไม่ไปนะคะพี่ยุพา ลูกชายไม่ค่อย
ตอนที่ 3บอสขา...ใจเย็น “เธอตรวจบัญชีของเดือนที่แล้วและทำของเดือนนี้ด้วยให้เสร็จภายในวันนี้ พรุ่งนี้พี่ต้องเอาเสนอแผนกการเงิน ส่วนนี่เงินค่าจ้างเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นนะ” ยุพาส่งธนบัตรใบสีเทาให้ลูกน้องใหม่ของเธอเพื่อเป็นค่าจ้างที่เธอให้ล้านนาช่วยทำบัญชีให้ “ขอบคุณมากค่ะ ถ้ามีงานอะไรหรือใครจะจ้างหนูทำงานอื่นพี่ยุพาบอกได้เลยนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ด้วยความดีใจนาทีนี้อะไรที่ทำแล้วได้เงิน ล้านนาพร้อมจะทำหมดเพราะบ้านของเธอกำลังจะพังต้องใช้เงินซ่อมยังโชคดีที่พ่อของเธอพอมีความรู้เรื่องช่างจึงทำเองได้แต่ยังหาเงินซื้ออุปกรณ์ซึ่งตอนนี้เธอไม่มีเงินเก็บเลยจึงต้องพยายามหารายได้พิเศษ “พี่จะพยายามหาให้แต่งานที่พี่ให้ทำห้ามคนอื่นรู้เด็ดขาดเพราะโทษของการเปิดเผยบัญชีเงินเดือนพนักงานคือไล่ออกสถานเดียว” วันนี้ภูเบศไม่เข้าบริษัทเพราะมีประชุมข้างนอก บริษัทในช่วงหลังเลิกงานจึงเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่ล้านนาจะทำบัญชีให้หัวหน้าเพราะไม่ต้องกลัวใครเห็น งานบัญชีไม่ใช่เรื่องยากสำหรับล้านนาถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้จบทางนี้มาโดยตรงแต่ก็เคยเรียนมาบ้างและก็ได้ผลการเ
ตอนที่ 4ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อรักคุณ “ถึงแล้ว” ล้านนาเผลอหลับมาตลอดทางเพราะเธอทั้งเหนื่อยจากงานและเพลียจากความรู้สึกผิดมารู้สึกตัวอีกทีก็ถึงที่พักแล้ว “คุณพาฉันมาที่ไหน” “ไม่ต้องถามแค่เธอรู้ว่าเธอมาที่นี่เพื่ออะไรก็พอ” คนตอบดูไม่มีเยื่อใยไม่มีความอบอุ่นแบบเดิมเหมือนที่ล้านนาแอบชอบมาตลอด ภูเบศกลายเป็นคนละคนกับที่หญิงสาวเคยคิดวาดภาพของเขาไว้ “อาบน้ำให้สะอาด ฉันจะไปอาบอีกห้อง” ชายหนุ่มโยนผ้าเช็ดตัวสีขาวให้สาวน้อยที่กำลังยืนงงแบบคนเพิ่งตื่นนอนก่อนที่เขาจะหันหลังเดินออกจากห้อง “เสื้อผ้า ฉันไม่มีชุดใส่” ชายหนุ่มหยุดเดินและหันกลับมาส่งยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ให้ สายตาของเขามันชวนให้คนตรงหน้ารู้สึกได้ถึงศึกหนักที่เธอจะต้องเจอในคืนนี้ “เธอมาที่นี่เพื่อทำให้ฉันพอใจ ดังนั้นเสื้อผ้าก็ไม่จำเป็น” หญิงสาวผู้เลือกชะตาชีวิตที่แสนเศร้าให้กับตัวเองนอนรอการมาของใครบางคนในสภาพที่เรือนร่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กเท่านั้นที่ปกปิดตัวอยู่ ไฟในห้องถูกปิดลงทุกดวงเมื่อร่างสูงเดินก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอน ที่
ตอนที่ 2 คนที่ต้องชดใช้ คุณอเนกกลับมาแล้ว ข้าวทิพย์ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดในโรงรถ หัวใจของเธอทั้งกลัว ทั้งเสียใจ เธอกลัวว่า ถ้าคนที่กำลังดูแลส่งเสียเธอทุกอย่างรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนที่เขาจะกลับมา เขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี สังคมของไทยมองอย่างไรในเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายเสียหายเสมอ หญิงสาวจึงได้แต่เก็บความเจ็บช้ำอยู่แต่ภายใจและหลับไปกับหยดน้ำตา รุ่งเช้าวันใหม่ “ข้าวทิพย์เรื่องเรียนปรับตัวได้หรือยัง เห็นปีแรกเกรดไม่ค่อยดีเลย” ชายสูงอายุของบ้าน ถามหญิงสาวในการดูแลด้วยความเป็นห่วง เมื่อนั่งพร้อมหน้ากันสามคนบนโต๊ะอาหาร “ดีขึ้นค่ะ เทอมนี้เกรดน่าจะดีขึ้น” คนตอบได้แต่ก้มหน้าอยู่กับจานข้าว เพราะถ้าเธอแค่เพียงเงยหน้า เธอก็ต้องสบตากับคนที่นั่งตรงข้ามเธอ และตอนนี้ เขาก็จ้องมองใบหน้าของเธออยู่ตลอดเวลา “คราม คราม” “ครับคุณพ่อ” ขานรับออกอาการตกใจ ตื่นจากภวังค์ “พ่อเรียกตั้งหลายรอบแล้ว เป็นอะไรหรือเปล่าวันนี้ พ่อเห็นแกนั่งจ้องข้าวทิพย์มันไม่วางตา” อเนกสังเกตตั้งแต่ทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารแล้ว แต่เข
ตอนที่ 3จุดแตกหัก “ครามลูกคิดให้ดีนะ งานแต่งงานที่หนูแพรต้องการ มันใช้เงินถึงสิบล้าน และไหนจะสินสอดอีก เธอรักลูก หรือเธอรักอะไรกันแน่” “เงิน เราก็มีไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไม ผมจะทำอย่างที่แฟนผมต้องการไม่ได้ พ่อของแพรมีหน้ามีตา เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี จะให้เธอมาจัดงานเล็ก ๆ ได้อย่างไรครับพ่อ” เสียงสองคนพ่อลูกคุยกันดังจนฟังคล้ายกับกำลังเถียงกันมากกว่า ทำให้ข้าวทิพย์ที่กำลังทำความสะอาดห้องพระอยู่ห้องข้าง ๆ ต้องมาแอบฟังด้วยความเป็นห่วง “เราให้สินสอดเขาสิบล้าน ไหนจะทองอีก เครื่องเพชรก็ไม่ใช่น้อย เรื่องการจัดงานมันควรจะเป็นเรื่องของฝ่ายเจ้าสาว ครามลูกรู้บ้างไหมว่า เงินสินสอดและทรัพย์สินทั้งหมดที่พ่อเตรียมไว้ให้ มันคือเกือบจะทั้งหมดที่เรามีเหลือตอนนี้แล้วนะ” อเนกตั้งใจจะปิดเรื่องที่บริษัทของเขากำลังย่ำแย่เอาไว้ แต่ในเมื่อครามไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย เขาจึงต้องยอมบอกความจริง “แล้วลูกลองคิด ถ้าหนูแพรเธอรู้ว่า เรากำลังแย่ เธอยังอยากแต่งงานกับลูกอยู่ไหม ถ้าอยากรู้ว่า ไอ้ที่คิดมาตลอดว่า ลูกรักเธอ และเธอก็รักลูก มันเป็นความจริงไหม ก็ลองไปบอกหนูแพรนะว่า
ตอนที่ 12บอสใหม่ของโรงแรม วันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเด็กน้อยคลอดออกมาเป็นหลานชายที่แสนจะตัวใหญ่มาก ทั้งที่แม่ก็ตัวนิดเดียว หน้าตาน่าชังบอกไม่ถูกเลยว่าเหมือนพ่อหรือแม่มากกว่ากัน ปู่กับตาก็เถียงว่าเหมือนตัวเอง หลานชายคนแรกพากันตื่นเต้นทั้งสองบ้าน “ต้องเลี้ยงบ้านนี้นะ บ้านผมไม่เคยมีลูกชายไว้คนต่อไปโตจะให้บ้านปู่ย่าเอาไปช่วยเลี้ยง” อนุสรณ์เขาอยากมีลูกชายแต่แม่ของใบหยกชอบที่จะมีลูกคนเดียวมากกว่า พอมีหลานชายแบบนี้อนุสรณ์ก็แสดงความหวงทันที “คนแรกเพิ่งคลอด วางแผนแบ่งคนที่สองกันแล้ว เดี๋ยวคอยดูคนอยากเลี้ยงวิ่งตามหลานไม่ทันห้ามโยนมานะ ทางนี้จะรอคนที่สองเด็กผู้หญิงเลี้ยงง่ายกว่าแน่ ๆ เพราะตอนตาภูวิ่งตามกันแทบ ไม่ทันไปโรงพยาบาลเกือบทุกเดือนต้องมีแตกมีหักเพราะความซน”
ตอนที่ 11ของขวัญที่ล้ำค่า เย็นนี้ใบหยกกลับบ้านด้วยท่าทีที่ดูเงียบเหมือนเธอกำลังรู้สึกอะไรบางอย่างที่ทั้งอนุสรณ์และภูษิตต่างไม่เข้าใจ มื้อเย็นบรรยากาศมีเพียงแค่เสียงพูดคุยของพ่อตากับลูกเขยส่วนลูกสาวเอาแต่นั่งเงียบและกินได้น้อยมาก “เป็นอะไรหรือเปล่าลูก ทำไมดูหน้าไม่ดีเลย เครียดเรื่องที่โรงแรมอะไรไหม มีอะไรให้พ่อกับภูช่วยก็บอก” อนุสรณ์ลึก ๆ ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องงานแต่ก็ไม่กล้าถามตามที่คิดจึงเลี่ยงถามเรื่องงานที่โรงแรมน่าจะดีกว่า “ไม่ค่ะพ่อ หยกแค่เบื่อ ๆ อาหารและช่วงนี้รู้สึกเหมือนอยากจะนอนอย่างเดียว หยกขอตัวไปอาบน้ำแล้วเข้านอนก่อนนะคะ” ใบหยกเดินขึ้นไปบนห้องแล้วก็เหลือแต่พ่อตากับ
ตอนที่ 10 ความจริง อนุสรณ์แอบดูความสัมพันธ์ของลูกสาวกับลูกเขยอยู่ห่าง ๆ เขาเริ่มสังเกตได้ว่าใบหยกไม่มีความไว้ใจให้สามีแต่เขาก็ยังติดที่สัญญากับภูษิตไว้แล้ว แต่ครั้นจะไม่พูดเลยก็กลัวว่าครอบของทั้งคู่จะไปไม่ถึงสุดทาง “ใบหยกมาคุยกับพ่อหน่อย” วันนี้หญิงสาวไม่ไปทำงานเพราะเธออาเจียรแต่เช้าและช่วงนี้รู้สึกอ่อนเพลียตลอด “ไม่สบายหรือท้อง” คนเป็นพ่อไม่อ้อมค้อมเพราะอาการแบบนี้แม่ของใบหยกก็เป็น ทำไมคนอาบน้ำร้อนมาก่อนจะดูไม่ออก “หยกท้องค่ะคุณพ่อ”คนท้องไม่มีประโยชน์อะไรที่จะโกหก หญิงสาวจึงพูดความเป็นจริง“แล้
ตอนที่ 9 พยายาม หุ้นทั้งหมดที่ภูษิตสัญญาไว้ว่าจะให้กับภรรยาเขาตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างก่อนที่จะถึงวันเกิดของเธอ “ขอบคุณมากนะคะ ที่พี่ทำตามสัญญา ไว้หยกจะมีของขวัญให้พี่เหมือนกันเอาไว้ค่อยรู้พร้อมของขวัญวันเกิดที่พี่จะให้หยกก็แล้วกัน” วันนี้ภูษิตไม่ได้ไปที่โรงแรมของภรรยา เขาไปโรงแรมของเขา ชายหนุ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับรัชพลฟังถึงการที่ภรรยาของเขาเปลี่ยนไป “ภูจะเกี่ยวกับวันนั้นไหม ที่เดียร์มาหานายที่นี่ พนักงานที่ร้านอาหารเล่าให้ฟังว่าเมียนายเดินมานั่งโต๊ะด้านหลังนายและทำท่าไม่ให้พนักงานทักเธอ พนักงานคนนั้นก็เลยไม่สบายใจมาบอกเรา แต่เราไม่เห็นนายมีปัญหาอะไรกับใบหยกเลยไม่ได้เล่าให้ฟัง” ภูษิตพย
ตอนที่ 8เอาคืน ภูษิตแทบจะบินกลับบ้านด้วยความคิดถึงภรรยาและ อดแปลกใจไม่ได้ที่ใบหยกทำไมไม่บอกกับเขาว่าเธอจะกลับมาแถมตอนนี้ยังไม่ยอมรับโทรศัพท์อีก “คุณพ่อครับทำไมใบหยกกลับก่อนกำหนดไม่บอกผมเลย ทั้งที่รู้ว่าผมก็รออยู่” ภูษิตถามพ่อตาแต่เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะถามเสร็จเขาก็วิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนที่อยู่ชั้นสองทันที ใบหยกกำลังยืนเก็บเสื้อผ้าและของฝากต่าง ๆ ที่เธอซื้อมาอยู่ “คิดถึงจังเลย ผมโทรศัพท์หาคุณ คุณก็ไม่รับรู้ไหมว่าผมทั้งคิดถึงทั้งเป็นห่วงเลย” ชายหนุ่มโอบกอดภรรยาทั้งหอมแก้มหอมหน้าผากและกลับมายืนกอดแน่นเหมือนเดิ
ตอนที่ 7รู้ใจตัวเอง คืนที่สามของการไม่อยู่ของภรรยาทำให้ชายหนุ่มนอนทบทวนทุกเรื่องที่เกิดจากที่คิดว่าตัวเองแต่งงานกับหญิงสาว เพียงเพราะต้องการล้วงความลับและทำเพื่อผลประดยชน์ของโรงแรมตัวเอง แต่ตอนนี่เขาแน่ใจแล้วว่าเขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกเพียงแต่การหาผลประโยชน์จากเธอมันเป็นผลพลอยได้เท่านั้น ภูษิตเริ่มรู้สึกแล้วว่าตัวเองกำลังคิดผิด ผลประโยชน์เหล่านั้นไม่มีค่าเท่ากับความรักที่ใบหยกมีให้เขาและไม่มีคุณค่าเท่ากับความไว้ใจที่พ่อตามอบให้เขาเข้าไปดูแลโรงแรม ชายหนุ่มตัดสินใจว่าเย็นนี้เขาจะพูดความจริงทุกเรื่อง ให้อนุสรณ์ฟังและของให้พ่อตาให้อภัยเขา ช่วงเวลาอาหารมื้อเย็นเมื่อภูษิตเห็นว่าพ่อตากิ
ตอนที่ 6รู้สึกผิด “พี่ภูกลับมาแล้ว วันนี้หยกทำกับข้าวเย็นเลยนะคะ คุณพ่อก็ไม่ยอมกินก่อนบอกว่าจะรอพี่ภู อยากกินข้าวพร้อมหน้ากัน” ภูษิตกำลังคิดจะขอหย่ากับภรรยาในขณะที่ครอบครัวของเธอดีกับเขาทุกอย่าง “คุณพ่อครับ คุณแม่ผมฝากน้ำพริกมาให้พอดีวันนี้ผมแวะไปที่บ้านมา” ชายหนุ่มส่งถุงใส่กล่องน้ำพริกให้พ่อตาก่อนที่อนุสรณ์จะส่งให้ลูกสาวเอาไปจัดจาน เมื่ออยู่กันสองคนอนุสรณ์จึงมีบางอย่างอยากพูดกับลูกเขยโดยที่ไม่อยากให้ลูกสาวได้ยิน “ภูตอนนี้ที่โรงแรมมีปัญหามาก พ่อก็เว้นปล่อยให้ใบหยกเธอดูแลมานาน ถ้าจะเข้าไปตอนนี้ก็ลังเธอจะรู้สึกว่าพ่อไม่ไว้วางใจ เอาเป็นว่าพ่อจะบอกหยกว่าพ่
ตอนที่ 5ทุกอย่างสำเร็จ ใบหยกขายหุ้นให้กับสามีในราคาที่ถูกมากและแน่นอน เธอไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ผู้เป็นพ่อฟังเพราะเธอคิดว่าพ่อคงไม่เห็นด้วย แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอไม่อยากมีปัญหากับสามี ตอนนี้รัชพลจัดการเรื่องการแสดงจนครบทุกอย่าง เมนูอาหารในช่วงชมการแสดงก็เป็นเมนูที่มากกว่าของทางนู้นแถมราคาถูกกว่า ลูกค้าฝรั่งเริ่มออกปากชมจนภูษิตเองก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังชนะโดยที่เขาลืมไปเลยว่าการชนะครั้งนี้คือการชนะภรรยาที่รักเขามากถึงได้ยอมเขาทุกอย่างแบบนี้ “พอเถอะเพื่อน เรื่องที่จะหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ให้บริษัททัวร์ นายก็ตัดสินใจมาเลย ตอนนี้ภาพนายในสายตา
ตอนที่ 4เข้าทางพ่อตา อนุสรณ์ไม่อยู่หลายวันลูกเขยที่จ้องล้วงข้อมูลก็สามารถเก็บไปได้มากแต่ยังไม่ได้ที่สำคัญและเขาคิดว่าจะต้องหารทางเข้าไปที่ห้องทำงานของพ่อตาให้ได้ ในเมื่อเขารู้แล้ว ว่าแฟ้มรายละเอียดอยู่ตรงไหน แผนแรกที่ภูษิตทำคือการให้รัชพลไปติดต่อชาวพื้นเมืองเพื่องจองคิวล่วงหน้าและให้ค่าจ้างในราคาที่แพงกว่าโรงแรมของ ใบหยกให้ซึ่งก็สำเร็จเพราะโรงแรมของใบหยกทำแค่สัญญาต่อเดือน ทางภูษิตจึงทำสัญญาสามเดือนเลย “มีการแสดงจากแค่ห้าที่ แบบนี้ไม่ได้นะ นายต้องไปหามาเพิ่มถ้ามีแค่นี้ คนที่เขามาพักนานอย่างพวกฝรั่งเบื่อตายเลย เพราะคืนหนึ่งก็ใช้การแสดงจากสองที่แล้ว” ร