โลกของคนรวย แตกต่างกับโลกของเธอลิบลับ
ไอรินมองโถงกว้างที่ตกแต่งเหมือนพระราชวังในต่างประเทศด้วยความตกตะลึง จำได้ว่าเธอเคยผ่านตึกนี้บ่อย ๆ เพราะอยู่ระหว่างคอนโดและที่ทำงานเก่า มองจากภายนอกก็พอจะรู้ว่าข้างในคงจะสวยมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้
ล็อบบี้ตกแต่งด้วยหินอ่อนทั้งหมด คุมโทนเป็นสีโรสโกลหรูหรา ประดับคริสตัลระยิบระยับและกระจกให้ดูกว้างขวาง แชนเดอเรียคริสตัลขนาดใหญ่ห้อยระย้าตรงกลาง เสริมให้ล็อบบี้หรูหราเหมือนพระราชวังจริง ๆ
“ทางนี้ครับคุณไอริน”
หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย รีบหุบปากที่อ้ากว้างจนน้ำลายแทบหก เธอยืดตัวตรง ก่อนจะเดินตามร่างสูงใหญ่ไปยังโถงลิฟต์
แม่เจ้า!
ปากอิ่มอ้าออกอีกครั้ง ถ้าล็อบบี้หรูหราแล้ว โถงลิฟต์นี่คงหรูกว่าเป็นพันเท่า เธอไม่รู้ว่าเจ้าของโครงการเสียเงินกับค่าตกแต่งไปเท่าไหร่ แต่มั่นใจว่าแค่ลิฟต์ตัวเดียวราคามันคงสูงกว่าเงินที่เธอจะหาได้ทั้งชีวิต
“เชิญครับ”
ไอรินเดินตัวลีบเข้าไปลิฟต์ตัวที่เปิดออก เธอพยายามทำตัวให้ผอมที่สุด กลัวว่าจะเผลอเอาร่างกายไปสัมผัสกับความหรูหราจนเป็นรอย เพราะเธอคงไม่มีเงินมาชดใช้.. ห้องโดยสารเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหยุดลงที่ชั้นสามสิบเก้า
“เชิญครับ”
“ขอบคุณค่ะคุณไมค์”
ไอริมก้มหัวลงน้อย ๆ ไมค์ คือผู้ช่วยของบอส และเป็นผู้ช่วยของเธออีกที เขาจะคอยอำนวยความสะดวกให้เธอทุกอย่าง สอนงาน และคอยช่วยเหลือให้เธอทำงานได้สะดวกขึ้น
เรียกได้ว่าเป็นเลขาในเลขาอีกที ถึงจะงงแต่ไอรินก็ไม่กล้าปฏิเสธ เงินเจ็ดหลักถูกโอนเข้าบัญชีเป็นค่าตรวจร่างกายเมื่อวันก่อน มันทำให้เธอไม่กล้าหืออือกับบอสเท่าไหร่
กลัวโดนเรียกเงินคืน เธอยินดีให้มันนอนนิ่ง ๆ อยู่ในนั้นดีกว่าหายไป ยังไงมีเงินก็ต้องดีกว่าไม่มีอยู่แล้ว
“นี่เป็นห้องของคุณนะครับ”
ไมค์เปิดประตูไม้สักออกกว้าง ไอรินมัวแต่คิดถึงเรื่องเงินเจ็ดหลักจนลืมมองรอบข้างไปซะสนิท รู้ตัวอีกทีก็เดินเข้ามาถึงข้างในแล้ว ไม่ทันได้ชมความโอ่อ่าของเพนท์เฮ้าส์ที่กินเนื้อที่ทั้งชั้นเลย
“หะ ห้องนี้เหรอคะ”
“ครับ บอสต้องการให้คุณอยู่ใกล้ตลอดเวลา ห้องของบอสขึ้นบันไดไปก็จะเจอครับ” ไมค์ผายมือให้เธอดูบันไดวนไม่ไกลจากห้องนอนของเธอมากนัก “บอสจะนอนที่นั่นเป็นส่วนใหญ่”
“นั่นห้องนอนเหรอคะ” ไอรินอดถามไม่ได้ เพราะที่เธอเห็นมันไม่เหมือนห้องนอนเลย เหมือนห้องกระจกที่ไว้ชมวิวมากกว่า
“ครับ บอสไม่ชอบห้องที่มีกำแพง เลยเน้นเป็นกระจกส่วนใหญ่ แต่เรื่องห้องของบอสไม่ได้สำคัญอะไร เพราะบอสไม่ให้ใครขึ้นไปวุ่นวายอยู่แล้ว บอสจะลงมาหาคุณเองถ้าต้องการใช้งาน”
แก้มขาวแดงปลั่งขึ้นทันตา เมื่อเข้าใจคำว่า ‘ใช้งาน’ อย่างแจ่มแจ้ง ไม่มีบอสที่ไหนอยากใช้งานเลขาในห้องนอนหรอก นอกจากบอสอย่างเขา และเลขาอย่างเธอ
ไอรินกวาดตามองห้องนอนที่ถูกตกแต่งแบบเรียบ ๆ แต่แฝงไปด้วยความหรูหราที่ไม่น่าอึดอัด ห้องนอนนี้มีขนาดใหญ่กว่าคอนโดสี่สิบห้าตารางเมตรของเธอ เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างถูกบิลท์อินอย่างเป็นระเบียบ
“ที่นี่คือที่พักอาศัยของคุณนับจากนี้”
“ค่ะ”
ไอรินไม่ได้ตกใจมากนัก เพราะเธอตกใจไปก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากตกลงทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็แทบเป็นลม เพราะบอสยื่นคำขาดว่าเธอต้องอยู่ใกล้ชิดเขายี่สิบสี่ชั่วโมง ที่ไหนมีพลช ที่นั่นก็ต้องมีไอริน
เรื่องที่หลับนอนสำคัญที่สุด เพราะไอรินไม่ได้มีหน้าที่เป็นแค่เลขาหน้าห้อง แต่เธอต้องทำหน้าที่บนเตียงด้วย เธอต้องพร้อมทุกเวลาที่พลชต้องการ ดังนั้นยิ่งใกล้มือเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
“ผลตรวจร่างกายของคุณถึงมือบอสแล้วนะครับ”
“งั้นเหรอคะ”
“ครับ ตอนนี้คุณสามารถพักผ่อนได้เต็มที่ วันนี้บอสจะกลับมาถึงไม่เกินหกโมงเย็น”
ไอรินขบเม้มกลีบปากตัวเองด้วยความประหม่า “ฉัน.. ต้องทำหน้าที่คืนนี้เลยใช่ไหมคะ”
“ผมตอบไม่ได้ครับ” ไมค์ก้มหัวน้อย ๆ แทนคำขอโทษ “เรื่องนี้ต้องแล้วแต่บอส ผมไม่ทราบจริง ๆ”
“อ่า.. ค่ะ”
ไอรินโคลงศีรษะเบา ๆ จะเริ่มคืนนี้หรือคืนไหนก็ไม่ต่างกัน ยังไงเธอก็เข้ามาที่นี่เพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว
“โชคดีนะครับ”
แล้วทำไมต้องอวยพรเหมือนเธอจะไปออกรบแบบนั้นด้วย
“ขอบคุณค่ะ”
ไอรินได้แต่ยิ้มเจื่อน หวังว่ามันจะไม่ใช่การออกรบจริง ๆ หรอกนะ
.
.
ไอรินเลือกนอนพักผ่อนในห้องนอนใหม่ เตียงนอนนุ่มสบายเหมือนดูดวิญญาณ จากที่ตั้งใจจะนอนแค่ชั่วโมงเดียว เธอกลับหลับยาวจนพระอาทิตย์ตกดิน
เฮือก!
ร่างบางลุกพรวดขึ้นจากที่นอน มองไปรอบข้างไม่เห็นแสงสว่างแล้ว ไอรินกระวีกระวาดออกจากห้องโดยลืมไปสนิทว่าตัวเองเพิ่งตื่น สภาพที่ดูไม่ได้ของเลขาสาวจึงกลายเป็นภาพแรกที่พลชได้เห็น
“ตื่นแล้วเหรอ”
“บอสกลับมาแล้ว... เอ่อ ขอโทษค่ะ” ไอรินกุมมือก้มหน้างุด ๆ สำนึกผิดที่เผลอนอนเพลินจนเลยเวลาบอสกลับมาถึงเพนท์เฮ้าส์
เธอสร้างเรื่องอีกแล้ว ตอนนี้ไอรินได้แต่ภาวนาไม่ให้บอสไล่เธอออกตั้งแต่ยังไม่ทันได้ทำหน้าที่
“ไม่เป็นไร” พลชพยักเพยิดให้ไอรินไปนั่งคุยกันดี ๆ “ก่อนไปทานข้าวเรามีเรื่องต้องตกลงกันเล็กน้อย”
“ค่ะบอส”
ไอรินเดินตัวลีบไปใกล้ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงเงียบ ๆ เก็บมือเก็บขาอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว
“ผลตรวจร่างกายของคุณปกติดี สะอาดไม่มีโรค ผมเองก็เหมือนกัน” ชายหนุ่มส่งเอกสารสุขภาพของตัวเองให้เลขาคนใหม่ตรวจสอบ “คุณควรอ่านพวกมัน เพื่อความสบายใจของเราทั้งสองคน ผมคิดว่าคุณเองก็คงอยากรู้ว่าสุขภาพของคู่นอนตัวเองเป็นยังไง”
“ค่ะบอส” ไอรินยิ้มนิด ๆ เธอดีใจที่บอสไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว ทั้งยังใส่ใจว่าเธอจะรู้สึกยังไง
พลชลอบมองเสี้ยวหน้าสวยที่ก้มอ่านเอกสารอย่างตั้งใจ เขาพึงพอใจที่ไอรินไม่ใช่คนสะเพร่า เอกสารที่จะอ่านผ่าน ๆ ก็ได้เธอกลับอ่านอย่างจริงจัง ไม่มองข้ามแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ นี่คือคุณสมบัติเลขาที่พลชต้องการ
สำหรับเขา งานทุกอย่างต้องไม่มีที่ติ ลูกน้องรอบกายต้องเป็นคนรอบคอบ ช่างสังเกต ไม่ได้หมายความว่าพลาดไม่ได้ แต่ต้องพลาดให้น้อยที่สุด
“บอสเลือดจางเหรอคะ”
และไอรินก็ทำให้เขาพึงพอใจไม่น้อย
“ต่ำกว่าค่ามาตรฐานนิดหน่อย ไม่ถึงขั้นต้องทานยา แต่หลังจากนี้คงต้องทานธาตุเหล็กเยอะ ๆ”
“ปกติบอสทานอาหารยังไงเหรอคะ”
“ปกติให้วิลล์จัดการให้ ส่วนมากสั่งจากโรงแรม”
“ถ้าบอสต้องควบคุมอาหาร ให้รินทำให้ดีไหมคะ รินพอจะทำอาหารได้”
“หืม” พลชเลิกคิ้วสูง ทั้งแปลกใจที่เลขาคนใหม่ทำอาหารเป็น และรู้สึกดีที่อีกฝ่ายแทนตัวเองด้วยชื่อ
ดูเหมือนว่าเธอจะลดความเกร็งลงบ้างแล้ว
ก็ดี พลชไม่อยากให้เขากับเลขาเหินห่างกันจนเกินไป เพราะในอนาคตอันใกล้นี้พวกเขาต้องใกล้ชิดกัน แนบสนิทแบบเนื้อแนบเนื้อ ยิ่งไอรินปรับตัวได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะเขาไม่ชอบให้คู่นอนเป็นเหมือนหุ่นยนต์
“หรือถ้าบอสไม่มั่นใจ ให้รินลองทำให้ทานสักครั้งแล้วค่อยตัดสินใจก็ได้ค่ะ”
“เอาแบบนั้นก็ได้ อันที่จริงผมไม่ใช่คนทานยากอะไร แค่แปลกใจที่คุณทำอาหารเป็น”
“รินซีเรียสเรื่องการกินมากค่ะ ร่างกายที่ดีเริ่มต้นจากสิ่งที่เราเอาเข้าไปในตัว”
“มิน่า”
ผลตรวจร่างกายไอรินถึงได้ออกมาสมบูรณ์ดี จนไอ้หมอเตือนเขาว่าอย่าเผลอพลาดไม่ป้องกันเชียว เพราะมันยังไม่พร้อมอุ้มหลานตอนนี้
ทำอย่างกับเขาอยากมีลูกตายล่ะ เด็กกับพลชคือของต้องห้าม เข้ากันไม่ได้ยิ่งกว่าน้ำกับไฟ
“อะไรเหรอคะ”
“เปล่า ถ้าคุณอยากทำก็ลองดู แต่อย่าฝืนตัวเองเกินไป ผมไม่ชอบให้พนักงานทำงานหนักเกินความจำเป็น”
“ค่ะบอส” ไอรินยิ้มกว้าง คิดถูกแล้วที่ทำงานกับบอสคนนี้ แค่พูดคุยไม่กี่ประโยคก็สัมผัสได้ถึงความใส่ใจที่บอสคนเก่าไม่เคยมี
“แต่ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณอีกเรื่อง”
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
“คุณไม่ได้บอกผมตั้งแต่แรกว่าคุณยังไม่เคยมีเซ็กซ์มาก่อน”
“อะ..” ไอรินอ้าปากพะงาบ ๆ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ บอสรู้เรื่องนี้ได้ยังไง แล้วเธอจะโดนไล่ออกหรือเปล่า “มะ ไม่จริงนะคะ ริน.. รินเคยมีเซ็กซ์แล้วค่ะ!”
เพราะกลัวว่าจะถูกไล่ออก ไอรินจึงโกหกออกไปคำโต ก่อนที่ร่างกายจะเย็นวาบ เมื่อบอสพุ่งเข้ามาใกล้แบบที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
“บอสคะ!”
หญิงสาวตกใจจนเผลอนอนลงบนโซฟานุ่ม พลชไม่ปล่อยให้เลขาสาวได้ตั้งตัว เขาขยับตามไปทาบทับ ใช้ดวงตาคมกริบกวาดมองใบหน้าตื่นตระหนกด้วยความสนุก
“คนที่เคยเขาไม่ตกใจกลัวจนตัวสั่นแบบนี้หรอกนะ ไอริน”
“บอส”
“ผมอยากฟังความจริง และผมไม่ชอบคนโกหก”
ไอรินไม่กล้าสบตาคู่นั้น เธอเม้มกลีบปากแน่นอย่างคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง
“บอส.. จะไล่รินออกไหมคะ”
“ไล่ออก? ทำไมผมต้องไล่คุณออกด้วย”
“บอสเข้าใจถูกแล้วค่ะ รินไม่เคยจริง ๆ แล้วบอสก็คงไม่อยากได้ผู้หญิงที่ทำเรื่องบนเตียงไม่เป็นมาเป็นคู่นอน”
“ก็ใช่ ผมต้องการผู้หญิงที่มีประสบการณ์”
หัวใจของเลขาสาวหล่นวูบ เธอแทบไม่อยากฟังว่าพลชจะพูดอะไรต่อ เพราะกลัวว่ามันจะเป็นคำสั่งปลดเธอออกจากตำแหน่ง
“แต่ผมถูกใจคุณ ดังนั้นไม่ต้องห่วง ผมไม่ไล่คุณออกหรอก”
ร่างกำยำขยับกลับไปนั่งอย่างสง่างามเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายื่นเอกสารอีกชุดให้เลขาคนสวยที่นอนนิ่งด้วยความงุนงง
“ผมให้คุณ”
ไอรินได้สติรีบลุกขึ้นนั่ง รับเอกสารนั้นไปถือ แต่ไม่ได้เปิดมันออกดู
“อะไรเหรอคะ”
“คอนโดของคุณ ผมซื้อให้เรียบร้อยแล้ว”
“อะไรนะคะ!”
“ผมให้ ตอบแทนความบริสุทธิ์ของคุณ”
“ตะ แต่ แต่ว่ามัน...”
มันแพง ไอรินแทบจะเป็นลม คอนโดของเธออยู่กลางเมือง ติดรถไฟฟ้า ดังนั้นราคามันจึงค่อนข้างสูง และเธอเพิ่งผ่อนไปได้ไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์เลย
“มันอะไร”
“มันแพงเกินไปค่ะ เงินเดือนบอสก็ให้รินมากกว่าที่เรียกไปตั้งหลายเท่า รินรับไว้ไม่ได้”
“รับไปเถอะ แค่นี้ไม่ทำให้ผมล้มละลายหรอก” พลชลุกขึ้นยืน เขาโน้มตัวลงไปใกล้เลขาสาว ใช้ข้อนิ้วช้อนคางมนขึ้น “ถ้าคุณทำให้ผมพอใจ มากกว่านี้ผมก็ให้ได้ ผมไม่ใช่คนที่ชอบเอาเปรียบใคร คุณทำให้ผมมีความสุข ผมก็ตอบแทนคุณด้วยสิ่งที่ผมมี”
“แต่รินยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”
“ไม่ต้องห่วงคุณเลขา คุณจะได้ทำเร็ว ๆ นี้แน่”
.
.
.
.
.
TBC
“ไม่ต้องล็อกประตู ผมจะไปนอนกับคุณ”แค่ก!ไอรินสำลักหน้าดำหน้าแดง เธอไอไม่หยุดจนพลชต้องยื่นกระดาษทิชชู่ให้ เลขาสาวได้แต่ขอบคุณเบา ๆ แล้วใช้กระดาษแผ่นนั้นซับน้ำหูน้ำตาที่ไหลซึมออกมา“คุณโอเคหรือเปล่า”“แค่ก ริน.. รินโอเคค่ะ” เธอยิ้มแหย กี่ครั้งแล้วที่ทำตัวขายหน้าต่อหน้าเจ้านายแบบนี้ “แค่สำลัก สงสัยรินดื่มน้ำไวไป”“ไม่ใช่เพราะเรื่องที่ผมพูดใช่ไหม”“มะ ไม่ใช่ค่ะ” ไอรินรีบปฏิเสธ เธอกลัวว่าจะทำให้เขาไม่พอใจ ทั้ง ๆ ที่ความจริงก็เป็นเพราะเรื่องที่บอสพูดนั่นแหละจู่ ๆ ก็บอกว่าจะมานอนด้วย จะไม่ให้เธอตกใจได้ยังไง ทั้งชีวิตเคยนอนกับผู้ชายที่ไหนกัน แฟนสักคนก็ไม่เคยมี“ผมคิดว่าคุณยังไม่พร้อม จะได้เลื่อนไปก่อน แต่ถ้าคุณไม่มีปัญหาก็เตรียมตัวให้เรียบร้อย เสร็จงานผมจะเข้าไปหา”พลชพูดเนิบ ๆ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วปลีกตัวออกไป ทิ้งให้ไอรินนั่งอ้าปากพะงาบ ๆ อยากเปลี่ยนคำพูดตอนนี้ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันซะแล้ว“อ้อ ผมชอบคนสะอาด สองชั่วโมงระหว่างผมทำงานหวังว่าคุณจะจัดการตัวเองให้ผมพอใจได้”เขาไม่ลืมย้ำเรื่องสำคัญ ความสะอาดสำหรับพลชคือเรื่องใหญ่ เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาคิดหาคู่นอนประจำไม่รู้ว่าผู้
“บอสไม่เคยมีเลขามาก่อน คุณเป็นคนแรก”“ฉันน่ะเหรอคะ?”ไอรินชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยความงุนงง นักธุรกิจพันล้านแบบพลชไม่มีเลขาส่วนตัว เป็นไปได้ยังไง“ใช่ครับ บอสไม่มีเลขา มีแค่ผมกับไมค์ที่เป็นผู้ช่วย และก็ไม่เคยมีคนสนิทที่เป็นผู้หญิงด้วย บอสเคยบอกว่าทำงานกับผู้ชายสะดวกกว่า ไปไหนไปกันได้ ไม่ยุ่งยาก”“แล้ว เอ่อ.. ทำไมจู่ ๆ บอสถึงอยากมีเลขาล่ะคะ”“เรื่องนี้คงต้องถามบอสเองครับ” วิลล์พูดพลางเปิดประตูห้องทำงานให้เลขาสาวคนแรกของบอส “ว่าทำไมบอสถึงเพิ่งมาอยากมีเลขาตอนนี้”เสียงของวิลล์ไม่เบาเลย แน่นอนว่าพลชได้ยินมันเต็มสองหู เขาส่งสายตาดุ ๆ ไปให้ลูกน้องคนสนิท พวกเขาสนิทถึงขั้นที่พูดคุยหยอกล้อกันได้ วิลล์ถึงได้กล้าพูดต่อหน้าเขาแบบนี้ไอรินสบตาคมกริบ ก่อนจะหลุบลงพื้นอย่างรวดเร็ว มือบางประสานเข้าหากันแนบแน่น จู่ ๆ ก็รู้สึกร้อนที่ฝ่ามือขึ้นมา เหมือนว่าส่วนนั้นของเขายังอยู่ในอุ้งมือของเธอเหมือนเมื่อคืน..“รินขยับแบบนี้ ถูกไหมคะ” “อืม ดี ไอริน ซี้ดด” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าดังถี่กระชั้น ไอรินขยับมืออย่างเชื่องช้าในคราวแรก ก่อนจะเริ่มเร่งจังหวะถี่ ๆ ดวงตาจับจ้องมองส่วนปลายอวบหยักที่ผลุบเข้าออกระหว่างซอกน
ท่อนเนื้อสะอาดสะอ้านพองตัวขึ้นเมื่อได้สัมผัสอากาศเย็นฉ่ำ ไอรินเบนสายตาไปทางอื่นสักพัก ก่อนจะวกกลับมาหาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพลชเป็นชายหนุ่มที่รักสะอาดมาก เพราะความเรื่องมากทำให้เวลาที่มีความต้องการ วิลล์กับไมค์จะหาผู้หญิงมาให้ได้ยาก นั่นคือเหตุผลสำคัญที่พลชต้องการผูกปิ่นโตกับใครสักคนที่ถูกใจและไอรินคือคนนั้นถึงจะยังไม่ได้แตะต้อง แม้แต่ร่างกายภายใต้เสื้อผ้าที่เกะกะก็ไม่เคยได้เห็น แต่พลชกลับมั่นใจว่าเขาต้องถูกใจไอรินมากแน่ ๆ เธอฉลาด เรียนรู้ไว สอนง่ายและจำเก่ง อย่างเช่นตอนนี้“อืม”เสียงครางต่ำดังขึ้นในลำคอเพราะความรู้สึกพึงพอใจ เมื่อคืนเพิ่งสอนไปแท้ ๆ แต่วันนี้ไอรินกลับทำได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่องมือนุ่มรูดรั้งท่อนเอ็นอุ่นขึ้นลงช้า ๆ เส้นเลือดที่ปูดโปนรอบ ๆ ทำให้ตัวตนของพลชดูน่าเกรงขาม ขนาดเกินมาตรฐานสำหรับคนที่มีเชื้อสายตะวันตกยิ่งทำให้ดูน่ากลัว ไอรินรู้ว่ามันยังตื่นตัวได้ไม่เต็มที่ แต่แค่นี้เธอก็เกือบจะกำได้ไม่รอบแล้ว“ไอริน”นิ้วหัวแม่มือบดคลึงกลีบปากนุ่มเบา ๆ มือของไอรินวิเศษมาก แต่ตอนนี้เขาต้องการอย่างอื่นมากกว่า“อ้าปากออกสิ”เลขาสาวทำตามอย่างว่าง่าย ริมฝีปากอวบอิ่มชุ่มชื้นด้วยลิปสติ
“ซี้ดด ไอริน ผมแตกใส่ปากคุณได้หรือเปล่า” ต้องถามด้วยเหรอไอรินไม่คิดว่ามันจำเป็น เพราะเธอกำลังทำหน้าที่ พลชเป็นเจ้านาย เขาสามารถทำอะไรกับเธอก็ได้อยู่แล้ว“ถ้าคุณให้ผมเสร็จในปากได้ ผมจะจ่ายให้คุณสองแสน”ถ้าน้ำเสียงของพลชเต็มไปด้วยความดูถูก ไอรินคงลุกขึ้นด่ากราดไปแล้ว ถึงเธอจะชอบเงินและอยากได้เงินแค่ไหน แต่เธอก็มีศักดิ์ศรี เธอขายร่างกาย ไม่ได้ขายความเป็นคนให้ใครมาดูถูกตามใจชอบแต่เขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงในเชิงเหยียดหยามดูแคลนเธอเลย ติดไปทางอ้อนวอนด้วยซ้ำ“ผมแค่อยากตอบแทนคุณ มันคือโบนัสเพราะคุณทำให้ผมถูกใจ อย่าคิดว่าผมดูถูกคุณเลย”ไอรินเชื่ออย่างหมดใจว่าพลชหมายความว่าแบบนั้นจริง ๆ คนที่อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหารแบบเขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอธิบายเพิ่มแบบนี้ด้วยซ้ำ จะเป็นเหมือนเจ้านายทั่วไปที่ใช้อำนาจจิกหัวใช้งานลูกน้องก็ได้ แต่พลชไม่ทำไอรินเจอแต่เจ้านายแบบนั้นมาตลอด พอได้มาเจอพลชมันทำเธอรู้สึกดี ดวงตาคู่สวยจึงฉายแววมุ่งมั่น ตั้งใจจะทำให้บอสพอใจมากเท่าที่จะทำได้“ซี้ดดด!!”พลชเสียววูบไปทั่วหน้าท้อง จู่ ๆ ไอรินที่นิ่งไปสักพักก็ดูดดึงความแข็งขืนเหมือนคนหิวกระหาย แก้มทั้งสองข้างเดี๋ยวป่องออก เดี๋
พลชอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ตลอดช่วงบ่ายเขาทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจนลูกน้องคนสนิทยังแปลกใจ หลังจากคุยงานกับเจ้านายเสร็จวิลล์ก็ขอตัวออกมาข้างนอก ส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานคนใหม่ พร้อมรับสายที่โทรทางไกลเข้ามา“อะไรนะ! ด่วนขนาดนั้นเลยเหรอครับ”ไอรินเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยแล้วก้มหน้าทำงานต่ออย่างไม่ใส่ใจ อีกฝ่ายพูดภาษาอิตาลี เป็นหนึ่งในภาษาที่เธอร่ำเรียนมา แน่นอนว่าเธอฟังออกทั้งหมด“เดินทางคืนนี้มันกะทันหันไป ผมหาตั๋วให้บอสได้ แต่บอสเองก็มีงานการต้องทำนะครับคุณราฟ”ไอรินกลับมาสนใจอีกครั้งเมื่อบทสนทนาเอ่ยถึงเจ้านาย แต่เธอยังมีมารยาทพอไม่เงยหน้าขึ้นฟังอย่างประเจิดประเจ้อ“แล้วทำไมคุณไม่โทรสายตรงหาบอสเองล่ะครับ ให้ผมรับหน้าให้ตลอด” ผู้ช่วยหนุ่มอดตัดพ้อไม่ได้ “ก็ได้ครับ ผมจะบอกบอสให้”วิลล์พูดแค่นั้นก็กดวางสาย ชายหนุ่มมองหน้าไอรินเล็กน้อยแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของพลช สักพักไอรินก็ได้ยินเสียงไม่สบอารมณ์ของเจ้าของห้องดังออกมา“มันคิดว่ามันเป็นใคร! ถึงอยากให้ฉันไปหาเมื่อไหร่ก็ได้ ฉันไม่ไป!!”ไอรินชะเง้อคอมองทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนว่าบอสจะไม่พอใจเอามาก ๆด้านในห้องทำง
วิลล์แปลกใจเล็กน้อยที่เจ้านายเดินออกมาจากเพนท์เฮ้าส์เพียงคนเดียว และดูท่าทางอารมณ์ดีกว่าตอนแรก ไม่รู้ว่าในนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่นับว่าเป็นเรื่องดีเพราะเขาไม่อยากถูกบอสกินหัว“คุณไอรินไม่มาส่งบอสเหรอครับ” อดถามออกไปไม่ได้ ไอรินเป็นเลขา ถึงครั้งนี้จะบินไปอิตาลีด้วยไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ควรมาส่งเจ้านาย“เธอพักผ่อนอยู่ อย่าให้ใครเข้าไปรบกวน บอกป้าปานด้วยว่าอย่าปลุกเธอ”“ไม่สบายหรือเปล่าครับ ให้ผมตามหมอให้ไหม”“แค่อ่อนเพลีย” พลชตอบสั้น ๆ ก่อนจะเดินนำลูกน้องไปที่ลิฟต์โดยสาร ไม่เปิดโอกาสให้วิลล์ได้ถามให้มากความอีกมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงสภาพของเลขาคนสวยที่แทบไม่มีแรงยืนเพราะถูกเขารังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลชเหลือเวลาก่อนไปสนามบินชั่วโมงกว่า และเขาใช้เวลาช่วงนั้นสัมผัสไอรินจนเธอน้ำตานอง ร้องขอเสียงสั่นให้เขาหยุดก่อนที่เธอจะขาดใจผู้หญิงอะไร ขนาดมีอารมณ์ยังสวยไม่สร่าง ยิ่งพอมีอารมณ์แล้วใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ร้องขอเสียงสั่นให้หยุด มันยิ่งทำให้เขาอยากรังแกเธอซ้ำ ๆวิลล์ปิดปากเงียบทั้ง ๆ ที่เห็นว่าบอสหลุดยิ้มออกมาคนเดียว เขาไม่กล้าสอดปากถาม ได้แต่เดาไปเองว่าคุณไอรินคงถูกใจบอสมากวิลล์ไม่รู้เ
พลชเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยในช่วงเย็น กว่าจะฝ่ารถติดจากสนามบินที่ตั้งอยู่ชานเมือง มาถึงเพนท์เฮ้าส์ใจกลางเมืองได้ก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง เขาเหนื่อยล้าจนไม่อยากพูดอะไรกับใคร อุตส่าห์จ่ายเงินเป็นแสนนั่งเฟิร์สคลาสจากอิตาลีกลับไทยเพื่อความสบายตัว แต่กลับต้องมาอุดอู้ในรถยนต์แทนเพราะรถจนติดแทบไม่ขยับลิฟต์ส่วนตัวเปิดออกเมื่อมาถึงชั้นที่ชั้นสูงสุดของตึก ไมค์รีบเข้ามารับสูทไปถือไว้ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าของบอสก็ไม่กล้าปริปากพูดอะไร รอให้พลชเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน“ไอรินล่ะ”“อยู่ในครัวครับ คือ.. พอคุณไอรินรู้ว่าบอสใกล้จะถึงเพนท์เฮ้าส์เลยเอาอาหารไปอุ่นครับ”“อาหาร?”“คุณไอรินทำมื้อเย็นไว้ให้บอสครับ”พลชไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทางเคร่งเครียดบนใบหน้าลดลง ขายาวรีบก้าวเข้าไปในเพนท์เฮ้าส์กว้างหลายร้อยตารางเมตร เดินอย่างคุ้นเคยไปยังห้องครัวเสียงก๊อกแก๊กดังออกมาเป็นระยะ พร้อมกับกลิ่นอาหารไทยที่คุ้นปากฟุ้งไปทั่ว พลชพิงกายกับกรอบประตูห้องครัว มองร่างบอบบางที่ขยับไปมาอย่างคล่องแคล่วเงียบ ๆ“ไอริน”“อ๊ะ! บอส” หญิงสาวอุทานเสียงดัง มือบางลูบอกซ้ายเบา ๆ เพื่อคลายความตกใจ “รินตกใจหมดเลยค่ะ”ไม่คิดว่าบอสจะกลับมาถึงแล้ว เ
ทั้งสองเคลื่อนย้ายไปยังส่วนของชาวเวอร์ พลชคิดว่าในอ่างคงไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะเขาอยากขยับได้อย่างเป็นอิสระสายน้ำเย็นไหลผ่านร่างกายร้อนผ่าว แต่แทนที่ความเย็นจะช่วยดับไฟราคะของทั้งสองได้ มันกลับกลายเป็นช่วยเพิ่มความเร่าร้อนให้พุ่งสูงขึ้น พลชปล่อยให้เลขาสาวใช้มือกับท่อนลำแข็งแกร่งไปเรื่อย ๆ มันเหยียดขยายเต็มฝ่ามือบาง เส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโป่งพันรอบ ร้อนผ่าวเหมือนกำลังจับท่อนไฟ“ไอริน”ชายหนุ่มคลอเคลียแก้มใส ไล้ปลายจมูกไปตามกรอบหน้าสวยแผ่วเบา ไอรินเหลือเพียงแพนตี้ตัวเล็กติดกาย ท่อนบนเปลือยเปล่าแต่กลับถูกแขนเรียวปกปิดอกอิ่มเอาไว้ พลชไม่อยากบอกให้เธอเสียใจเลยว่าแขนแค่นั้นจะไปปิดอะไรมิด“อะ อื้อ บอสคะ”หญิงสาวเอียงหน้าหลบสัมผัสวาบหวาม เธอไม่รู้ว่าคู่นอนทั่วไปเขาอ่อนหวานต่อกันแบบนี้ไหม แต่สิ่งที่พลชทำมันทำให้เธอรู้สึกดีถึงจะเต็มใจขายร่างกาย แต่ก็คาดหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติอย่างมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่ของเล่นพลชแกะแขนข้างที่ปิดบังเต้าอวบออก เขาหลุบตามองแล้วได้แต่กลืนน้ำลาย ไอรินเป็นลูกรักพระเจ้าจริง ๆ มีตรงไหนในร่างกายเธอบ้างที่ไม่งดงามผิวขาวผุดผาดมีหยาดน้ำเกาะพร่างพราย ทรวงอกอิ่มตั้งเป็นเต้าก
ช่วงเวลายาวนานที่ต้องอุ้มท้องลูกน้อยเดินทางมาถึงเดือนสุดท้าย ไอรินไม่สามารถขยับตัวได้คล่องเพราะหน้าท้องที่นูนใหญ่ ใหญ่จนบางครั้งหลายคนที่เห็นยังอดถามไม่ได้ว่าลูกแฝดหรือเปล่า คนเป็นแม่ได้แต่หัวเราะแล้วตอบไปว่าเพราะพ่อเขาบำรุงดี ลูกชายถึงได้ตัวโตจ้ำม้ำไอรินหายแพ้ท้องหลังจากเข้าเดือนที่สี่ เธอยังคงไปทำงานที่บริษัทในตำแหน่งเลขาของท่านประธานเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ทุกคนต่างรับรู้โดยทั่วกันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นแค่เลขาทั่วไป ไอรินคือคุณนายแม็กซ์เวล และกำลังอุ้มท้องทายาทคนแรกของแม็กซ์เวลอยู่ นอกจากต้องให้ความเคารพแล้ว ยังต้องคอยเป็นหูเป็นตาดูแลความปลอดภัยให้ไอรินและคุณชายน้อยด้วยใคร ๆ ก็บอกว่าลูกชายในท้องของไอรินอภิชาตบุตร เพราะยังไม่ทันคลอดก็นำเรื่องราวดี ๆ มาให้ครอบครัว ไม่ว่าพลชจะหยิบจับอะไรก็สร้างเม็ดเงินและความรุ่งเรืองมาให้ PDM group เสมอ ตั้งแต่ภรรยาตั้งครรภ์พลชก็ก้าวขึ้นไปอีกขั้นในวงการธุรกิจ เขากลายเป็นชายหนุ่มอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีทรัพย์สินมากกว่าหมื่นล้านในวัยเพียงสามสิบต้น ๆในสายตาของคนนอกพลชยิ่งใหญ่ และมีอำนาจไม่ด้อยไปกว่าใคร ทว่าในสายตาข
งานแต่งของ พลช ดีน แม็กซ์เวล แน่นอนว่าย่อมต้องไม่ธรรมดา ลำพังแค่กลุ่มนักธุรกิจ นักข่าว หรือคนที่มีผลประโยชน์ต่อกันก็แทบล้นสถานที่จัดงานแล้ว จะไม่เชิญใครก็ไม่ได้ การทำธุรกิจยังไงก็อาศัยคอนเนคชั่นเป็นหลัก ถึงตอนนี้พลชจะมีอำนาจมากมายล้นฟ้า แต่ไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นการคีพคอนเนคชั่นไว้จึงสำคัญไอรินที่เป็นเลขาเข้าใจตรงนี้ดี เธอไม่บ่นสักคำที่ต้องเชิญแขกเป็นพัน ๆ คน เพราะตกลงกับสามีไว้แล้วว่าพิธีสาบานตนกับสวมแหวนในโบสถ์ จะมีแค่คนสนิทเท่านั้นส่วนงานเลี้ยงจะจัดใหญ่แค่ไหน จะมีแขกกี่พันคนไอรินไม่สน เพราะเธอได้รับสิทธิพิเศษของคนที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ต้องออกไปเดินรับแขกให้เมื่อย แค่อยู่ร่วมงานไม่เกินชั่วโมงก็กลับห้องพักได้ ที่เหลือคนเป็นสามีจะจัดการเอง“ริน”ไอรินหันไปมองตามเสียงเรียก คุณครูไอยราที่วันนี้อยู่ในชุดแสนสวย เดินเข้ามาหาลูกสาวด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า“แม่”“เวียนหัวหรือเปล่า หนุ่มน้อยของยายดื้อไหมวันนี้”“ไม่เลย วันนี้รินไม่รู้สึกอะไรเลย”หนุ่มน้อยของตระกูลแม็กซ์เวลตอนนี้มีอายุได้สามเดือนครึ่งแล้ว หลังกลับจากอิตาลีพลชก็รีบพาไอรินไปฝากครรภ์กับเพื่อนสนิทอย่างหมอวายุ พวกเขาต
“ไอริน!!”“อื้อ ทำไมต้องตะโกน” คนที่เซซบอกสามีบ่นอุบจู่ ๆ ตอนที่ลุกขึ้นไอรินก็รู้สึกว่าโลกมันหมุนเร็วเกินไป ภาพตรงหน้าพร่าเลือนจนเสียหลักล้ม โชคดีที่สามีตัวใหญ่ยืนอยู่ด้านหลังจึงไม่เกิดเรื่องน่าอายขึ้น ไม่อย่างนั้นคนปากร้ายที่รอเหยียบย่ำคงพูดอะไรให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจอีกไอรินฟังออกทั้งหมด สิ่งที่คนพวกนั้นพูดเธอฟังออกทุกคำ แต่ที่ไม่ตอบโต้ก็เพราะไม่ได้ใส่ใจ จิตใจของเธอล่องลอยไปหาเจลาโตรสบลูเบอร์รี่เปรี้ยวอมหวานที่เห็นเมื่อเช้า แค่คิดก็น้ำลายสอ อยากกิน อยากออกไปจากที่นี่เต็มทน“คุณไหวหรือเปล่า”“ไหวค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไร”ไอรินดันตัวออกจากอ้อมแขนของสามี ตอนนี้ทุกคนในห้องรับแขกมองมาที่เธอเป็นตาเดียว พวกเขาทำท่าทางเหมือนเห็นตัวประหลาดที่น่ารังเกียจ ไม่มีความเกรงใจกันสักนิดไม่ยักรู้ว่าตระกูลผู้ดีเขาสั่งสอนลูกหลานกันแบบนี้“ผู้หญิงชั้นต่ำก็เป็นแบบนี้ ชอบเรียกร้องความสนใจ”“โรเบิร์ต”“ผมไม่ได้ทำอะไรใครนี่ครับคุณแม่ แค่พูดความจริง หล่อนฟังเรารู้เรื่องที่ไหน” โรเบิร์ตยักไหล่ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด ไม่ได้แตะต้องหล่อนแม้แต่ปลายก้อย ก็แค่คำพูด ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นก็ฟังไม่ออกฟังไม่ออก ก็แปลว่าเข
“ที่รัก ตื่นได้แล้วครับ”“อื้อ”“ตื่นได้แล้ว เครื่องจะแลนด์ดิ้งแล้วนะ”“ง่วงจัง” ไอรินปรือตาขึ้นมองใบหน้าสามี “ดีนคะ รินอยากนอนต่อจังค่ะ”“ไว้ถึงที่พักแล้วค่อยนอนต่อนะ ตอนนี้ลุกขึ้นมาก่อน”พลชพูดพลางปรับเก้าอี้ให้ภรรยา ไอรินแม้ไม่อยากตื่นแต่ก็จำใจต้องตื่น เสียงประกาศของพนักงานดังไปทั่วทั้งห้องโดยสารว่าอีกยี่สิบนาทีเครื่องจะลงจอดที่ท่าอากาศยานฟีอูมีชีโน ประเทศอิตาลีความง่วงงุนทำให้ไอรินไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าที่ควร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไทม์โซนที่ต่าง ร่างกายที่ยังปรับตัวไม่ได้ หรือเพราะเธอแค่ขี้เกียจกันแน่เพราะช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาไอรินก็เอาแต่นอนเป็นแมวขี้เซา แม้แต่ตอนที่นั่งทำงานเธอยังหลับได้ ลำบากให้สามีต้องอุ้มเข้าไปนอนในห้องเป็นประจำเพราะกลัวว่าภรรยาจะปวดเมื่อยเนื้อตัว ไอรินทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกขอบคุณ แต่ลึก ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์นอกจากจะไม่ได้ช่วยงานพลชอย่างเต็มที่แล้ว เธอยังเป็นตัวถ่วงให้เขาต้องเป็นกังวลอีก“คุณไม่ยอมตื่นมาทานข้าวเลย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากสำรวจภรรยาว่าคาดเข็มขัดดีหรือไม่เรียบร้อยแล้ว “คุณนอนตลอดสิบกว่าชั่วโมงได้ยังไง ไม่เพลียเหรอ”“ไม่เลยค่ะ รินสา
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้ว แต่ทั้งสองคนบนเตียงก็ยังคงตระกองกอดกันไม่ปล่อย ทั้งไอรินและพลชตื่นพร้อมกันตั้งแต่ชั่วโมงก่อน แต่แทนที่พวกเขาจะเร่งรีบลุกขึ้นเตรียมตัวไปทำงานเหมือนปกติ ในวันนี้ทั้งคู่ต่างพร้อมใจกันนอนเอ้อระเหยอย่างสบายอารมณ์เหมือนคนว่างงานเพราะวันนี้ท่านประธานกับเลขาส่วนตัว ใช้สิทธิ์ลางานช่วงเช้าเพื่อไปทำธุระสำคัญ“ที่รัก ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวสาย”“อื้อ รินง่วงมากเลยค่ะ อยากนอนต่อจัง” คนง่วงปรือตาขึ้นน้อย ๆ มองหน้าคนรักอย่างออดอ้อนไอรินน่ารักจนพลชอดใจไม่ไหว เขามอบจูบแสนหวานให้เธอแม้ว่าริมฝีปากอิ่มจะบวมเจ่ออยู่แล้วก็ตาม“อื้อ อย่าค่ะ”คนถูกจูบรีบดันชายหนุ่มออกก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิด เพราะเผลอหน่อยเดียวเสื้อยืดตัวโคร่งก็ถูกถลกขึ้นสูงแล้ว ทรวงอกอิ่มที่ไร้บราห่อหุ้มถูกบีบเคล้นเบา ๆ ไอรินรีบตะครุบมือปลาหมึกเอาไว้ก่อนที่ตัวเองจะใจอ่อน“ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวสาย”“รู้ตัวแล้วเหรอว่ากำลังจะสาย” พลชยอมละมือออกแต่โดยดี “ไปอาบน้ำกันที่รัก”“ไม่เอานะคะ อ๊ะ!”แขนเรียวรีบยกขึ้นคล้องต้นคอแกร่งเมื่อถูกช้อนตัวขึ้น สะโพกมนสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่ดุนดันอย่างก้าวร้าว ดวงตาคู่ส
“เหมือนว่าการที่เรารักกันมันจะไม่ง่ายเลยนะคะ” “ไอริน อย่าพูดแบบนี้”พลชส่ายอย่างตื่นตระหนก เขากลัว กลัวว่าประโยคต่อมาของไอรินจะทำให้หัวใจของเขาแตกสลาย“ทำไมคะ รินคิดว่า..”“ไม่นะริน! ไม่พูดคำนั้นออกมานะที่รัก”พลช ดีน แม็กซ์เวล ทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้น ใช้สองแขนกอดรัดร่างเพรียวบางของแฟนสาวเอาไว้แน่น ซบใบหน้ากับหน้าท้องราบเรียบด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจเขากลัว กลัวว่าไอรินจะบอกเลิกเขากลัวว่าไอรินหายไปอีกครั้งเขากลัว“อึก”“คุณ..”ความหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตา ชายหนุ่มวัยสามสิบสี่ปีร่ำไห้เพียงเพราะกลัวว่าคนรักจะทิ้งไป ไม่เหลือคราบนักธุรกิจดังที่มีแค่คนเกรงใจในอำนาจ ตอนนี้พลชไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นนอกจากไอริน“อย่าทิ้งผมไปนะริน ได้โปรด”“ดีนคะ”“ให้ผมทำยังไงก็ได้ อึก ผมทำได้ทุกอย่าง แต่เราไม่เลิกกันนะริน ไม่เลิกกันได้ไหม ฮึก”ไอรินอ้าปากค้าง ก่อนที่มือบางฟาดผลัวะเข้าที่ไหล่กว้างเต็มแรง ทำเอาคนที่กำลังร้องไห้หยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมองแฟนสาวทั้งน้ำตาทั้งเสียใจ ทั้งเจ็บตัว ทั้งงุนงง พลชเหมือนลูกหมาตัวโต ๆ ที่เจ้าของไม่พาไปเดินเล่น“เลิกอะไรคะ!” ไอรินถามเสียงเขียว ฟาดมือกับไหล่หนาอีกที “ตบปา
“ในที่สุดลูกชายซื่อบื้อของมัมก็พาหนูรินกลับมาจนได้”หลังจากกอดหอมไอรินจนหนำใจ พิมพ์ดาวก็หันไปค่อนแคะลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ถ้าไม่ตรอมใจจนเข้าโรงพยาบาล ป่านนี้คนซื่อบื้อก็ยังคงซื่อบื้อต่อไปพลชไม่ได้โกรธแม่แต่ก็หัวเราะไม่ออกเหมือนกัน แค่คิดว่าต้องเสียไอรินไปอีกครั้ง ก้อนเนื้อในอกซ้ายก็บีบรัดอย่างรุนแรง เหมือนว่ามันกำลังจะแตกสลาย“อื้ออ ดีนคะ!” ไอรินตีแขนแกร่งที่จู่ ๆ ก็เข้ามาโอบรัดรอบเอว “ทำอะไรคะ คุณมัมกับคุณแด๊ดมองอยู่นะ”“อยากกอด ผมกลัวว่ารินจะหายไป”“รินจะหายไปได้ยังไงล่ะคะ”“คงฝังใจน่ะสิ” พิมพ์ดาวเอ่ยเหมือนเข้าไปนั่งกลางใจของลูกชาย “อย่างงี้ล่ะน้า คนมันเคยพลาดมาก่อน คงกลัวว่าจะซ้ำรอยเดิมอีก”“อะไรเหรอคะคุณมัม”“ดีนกำลังกลัวว่าจะเสียรินไปอีกน่ะลูก”ไอรินทั้งเข้าใจ และเห็นใจคนรัก เธอไม่รู้หรอกว่าสามเดือนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง แต่จากสภาพทรุดโทรมที่ได้เห็น และที่วิลล์กับไมค์เล่าให้ฟังว่าพลชถึงขั้นหมดสติ ต้องหามส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาเองก็คงเจ็บปวดไม่ต่างกันไม่มีใครมีความสุขกับการจากลาในครั้งนั้น ไม่แปลกเลยที่พลชจะจำฝังใจ เพราะแม้แต่ตัวเธอก็ยังหลงเหลือบาดแผลเล็ก ๆ
ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของชาวบ้าน ใช้เวลาแค่สิบวัน โรงเรียนที่ถูกปรับปรุงก็เสร็จสมบูรณ์ หลังจากให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าไม่มีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขแล้ว เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีก็ดังก้องไปทั่วดอยเล็ก ๆ แห่งนี้“ในที่สุดโรงเรียนก็เสร็จแล้ว!”“หลังจากนี้เด็ก ๆ จะได้มีอาคารเรียนดี ๆ ไม่ต้องกลัวว่าหลังคาจะรั่วตอนฝนตกอีก”“ห้องน้ำก็มิดชิดขึ้น โรงอาหารก็ใหญ่โต เด็ก ๆ โชคดีกันมากนะรู้ไหม สมัยพี่เรียนไม่มีอะไรแบบนี้หรอก ต้องตั้งใจเรียนนะ อย่าให้พวกพี่เสียแรงเปล่าล่ะ”เด็ก ๆ ต่างพากันพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน ดวงตาสุกสกาวไร้เดียงสามองโรงเรียนที่เกือบจะจำภาพเดิมไม่ได้ด้วยความตื่นเต้นยินดี นอกจากอาคารเก่าที่ถูกปรับปรุงใหม่จนแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังมีอาคารอีกหนึ่งหลังที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วย ทั้งใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า เด็ก ๆ ตื่นเต้นจนอยากเข้าไปเรียนเสียเดี๋ยวนี้ในอาคารนั้นมีทั้งห้องสมุด ห้องวิทยาศาสตร์ แถมยังมีเครื่องคอมพิวเตอร์อีกห้าเครื่องตั้งไว้ให้เด็ก ๆ ได้ลองใช้ รวมถึงมีทีวีขนาดยักษ์ ที่ครูไอยราบอกว่าจะมีครูสอนพวกเด็ก ๆ จากในนั้นได้ยินว่าเป็นการเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม เด็ก ๆ ไม่เข้าใจสิ่งนี้ ผู
“อยู่บ้านดี ๆ นะริน ส่วนดีน เราน่ะอย่ารั้นจะไปช่วยชาวบ้านนัก เจ็บแบบนี้ยิ่งไปช่วยชาวบ้านเขาจะยิ่งเป็นกังวลจนไม่เป็นอันทำงานทำการกันพอดี”นักธุรกิจหนุ่มนั่งคอตก เถียงคุณครูไอยราไม่ออกเพราะตัวเองทำผิดจริง ๆเขาพักรักษาตัวมาได้สองวันแล้ว จุดที่ช้ำเริ่มเป็นสีม่วงเข้ม แต่เพราะยาจากไอยราทำให้รอยช้ำไม่น่ากลัวเท่าที่คิด ส่วนแผลที่แขนก็สมานกันดี พลชจึงแอบหนีไอรินไปที่โรงเรียน หวังจะช่วยหยิบจับอะไรได้บ้างแต่พอชาวบ้านเจอหน้าเขา ทุกคนก็พากันเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก จนครูไอยราต้องมาไล่ให้ว่าที่ลูกเขยกลับบ้านตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่าพลชคือใคร และเพราะรู้ ทุกคนถึงได้หวั่นเกรงแบบนี้ สำหรับชาวบ้านตาดำ ๆ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่แมลงศัตรูพืช แต่เป็นนายทุนอย่างพลชต่างหาก ขึ้นชื่อว่านายทุน.. ผลประโยชน์ย่อมมาก่อนทุกอย่างเสมอ ไม่รู้ว่าวันดีคืนดี จากหนุ่มลูกครึ่งแสนดีที่ชาวบ้านรักใคร่ จะกลายเป็นคนหน้าเลือดกว้านซื้อที่ดิน จนคนหาเช้ากินค่ำไม่มีที่ซุกหัวนอนวันไหน“วันนี้ชาวบ้านมองผมแปลก ๆ” พลชฟ้องคนรัก ระหว่างที่เปิดเสื้อขึ้นเพื่อให้ไอรินประคบสมุนไพรไอรินที่รู้เรื่องทุกอย่างดีไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แฟนหนุ่มยัง