“บอสไม่เคยมีเลขามาก่อน คุณเป็นคนแรก”
“ฉันน่ะเหรอคะ?”
ไอรินชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยความงุนงง นักธุรกิจพันล้านแบบพลชไม่มีเลขาส่วนตัว เป็นไปได้ยังไง
“ใช่ครับ บอสไม่มีเลขา มีแค่ผมกับไมค์ที่เป็นผู้ช่วย และก็ไม่เคยมีคนสนิทที่เป็นผู้หญิงด้วย บอสเคยบอกว่าทำงานกับผู้ชายสะดวกกว่า ไปไหนไปกันได้ ไม่ยุ่งยาก”
“แล้ว เอ่อ.. ทำไมจู่ ๆ บอสถึงอยากมีเลขาล่ะคะ”
“เรื่องนี้คงต้องถามบอสเองครับ” วิลล์พูดพลางเปิดประตูห้องทำงานให้เลขาสาวคนแรกของบอส “ว่าทำไมบอสถึงเพิ่งมาอยากมีเลขาตอนนี้”
เสียงของวิลล์ไม่เบาเลย แน่นอนว่าพลชได้ยินมันเต็มสองหู เขาส่งสายตาดุ ๆ ไปให้ลูกน้องคนสนิท พวกเขาสนิทถึงขั้นที่พูดคุยหยอกล้อกันได้ วิลล์ถึงได้กล้าพูดต่อหน้าเขาแบบนี้
ไอรินสบตาคมกริบ ก่อนจะหลุบลงพื้นอย่างรวดเร็ว มือบางประสานเข้าหากันแนบแน่น จู่ ๆ ก็รู้สึกร้อนที่ฝ่ามือขึ้นมา เหมือนว่าส่วนนั้นของเขายังอยู่ในอุ้งมือของเธอเหมือนเมื่อคืน
.
.
“รินขยับแบบนี้ ถูกไหมคะ”
“อืม ดี ไอริน ซี้ดด”
เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าดังถี่กระชั้น ไอรินขยับมืออย่างเชื่องช้าในคราวแรก ก่อนจะเริ่มเร่งจังหวะถี่ ๆ ดวงตาจับจ้องมองส่วนปลายอวบหยักที่ผลุบเข้าออกระหว่างซอกนิ้ว มันมีสีแดงจัดเมื่อถูกสัมผัสเสียดสีเป็นเวลานาน และคายน้ำสีใสที่พลชกระซิบบอกว่าเพราะรู้สึกดีมากออกมา มันเปื้อนมือเธอ แต่ไม่ได้ทำให้เธอหยุดมือลง
ไอรินยิ่งได้ใจ เพราะมันแปลว่าฝีมือเธอไม่ได้แย่เท่าไหร่ ถ้าทำให้พลชรู้สึกดีได้ จะเลอะกว่านี้ก็ไม่เป็นไร
ผ่านไปสักพักไอรินก็รู้สึกว่ามันขยายใหญ่กว่าเดิม และร้อนจัดแทบลวกมือ พอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยว เหงื่อไหลท่วมกายทั้ง ๆ ที่อยู่ในห้องแอร์เย็นจัด
“บอสคะ”
“ไอริน ผมไม่ไหว อึก”
หน้าท้องเป็นมัด ๆ เกร็งแน่น พลชกัดกรามจนนูน เขาไม่เคยเสร็จคามือใครมาก่อน อย่างน้อย ๆ ก็ต้องปาก แต่ครั้งนี้พลชทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ
“อ๊ะ!”
ไอรินร้องอุทาน ดวงตาคู่สวยเบิกตากว้าง มองมือที่เลอะไปด้วยคราบน้ำนมสีขาวขุ่น มันมากมายจนเปื้อนไปถึงชุดคลุมอาบน้ำ รวมถึงหน้าท้องที่ขยับขึ้นลงถี่ ๆ พลชหอบหายใจเหมือนวิ่งมาหลายกิโล มองมือน้อย ๆ ที่ยังไม่ยอมผละห่างถึงจะเปื้อนเลอะเทอะไปหมด และทำท่าเหมือนจะขยับต่อทั้ง ๆ แบบนั้นด้วย
“พอแล้ว”
“บอสคะ แต่รินยังไม่ได้ใช้ปากให้เลย” เธอจำได้ว่าบอสบอกให้เธอใช้มือกับใช้ปากให้ แต่เธอยังไม่ได้ใช้ปากเลย ไม่เข้าใจว่าทำไมบอสบอกให้พอ..
ไอรินรู้สึกว่าตัวเองยังทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ
“วันนี้แค่นี้ก่อน” พลชช้อนคางมนขึ้น กวาดตาคมสำรวจดวงหน้าสวยไร้ที่ติ ก่อนจะหยุดลงที่กลีบปากอวบอิ่มเป็นกระจับ “คราวหน้าคุณจะได้ใช้ตรงนี้ปรนเปรอให้ผมแน่ ไม่ต้องห่วง”
.
.
“ไอริน”
“คะ”
ไอรินตื่นจากภวังค์ ดวงตากระพริบปริบ ๆ มองคนตรงหน้า บอสที่ตอนแรกนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานเดินเข้ามาใกล้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเธอไม่รู้ตัวเลย
“คิดอะไรอยู่ ผมเรียกคุณหลายครั้งแล้ว”
“อ๊ะ ขอโทษค่ะบอส รินเผลอคิดเรื่องอื่นในเวลางาน รินผิดเองค่ะ”
“คิดเรื่องอะไร”
“บอสคะ”
“บอกไม่ได้เหรอ”
พลชเอียงคอถาม เขาไม่ได้อยากละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของพนักงานหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะไอรินเอาแต่เหม่อมองเป้ากางเกงของเขาแบบนั้น
“ริน ริน” เลขาสาวก้มหน้าหลบ บอสเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมสะอาด และรู้สึกถึงไออุ่นร้อน ๆ จากกายใหญ่โต “ริน คิดถึงเรื่องเมื่อคืนค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องอื่น เพราะมันคืองานของคุณเหมือนกัน”
นั่นสินะ
ไอรินเริ่มยิ้มได้ เธอไม่ถูกบอสดุว่าคิดเรื่องลามกในเวลางาน เพราะงานของเธอก็ลามกไม่แพ้กัน
“แต่เรื่องนั้นไว้ก่อน ตอนนี้ผมมีประชุมด่วน ปกติไมค์จะเป็นคนเข้าไปจดเนื้อหาประชุมให้ผม แต่หลังจากนี้มันจะเป็นหน้าที่ของคุณ”
“ค่ะบอส!”
ไอรินรับคำอย่างขยันขันแข็ง ถึงหน้าที่บนเตียงเธอจะยังติดลบ แต่หน้าที่เลขารับรองว่าเธอไม่แพ้ใครแน่นอน
.
.
พลชเลิกคิ้วสูง มองแฟ้มแปลกตาที่วางอยู่กลางโต๊ะทำงาน จำได้ว่าก่อนออกไปคุยกับแขกที่ห้องรับรองแขกเมื่อสิบห้านาทีก่อนยังไม่มี ด้วยความสงสัยขายาวจึงรีบก้าวไปดู แล้วก็ได้รู้ว่ามันคือสรุปของประชุมเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนที่ไอรินเป็นคนจด และสรุปออกมาให้เขา
ทำงานได้รวดเร็วสมราคาคุย
มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย ไอรินทำงานได้ละเอียด แต่กระชับ ใจความสำคัญไม่ขาดตกแม้แต่จุดเดียว ในขณะเดียวกันก็ทำงานได้รวดเร็วจนเขาคิดไม่ถึง ปกติสรุปพวกนี้อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสรุป และพิมพ์ออกมาส่งสักชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ แต่นี่แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ย่นระยะเวลาการทำงานไปได้มาก
ร่างสูงในชุดสูทราคาแพงเดินไปหลังโต๊ะทำงาน กดอินเตอร์คอมเรียกให้คนที่อยู่หน้าห้องเข้ามาหา
“ไอริน เข้ามาหาผมหน่อย”
“ค่ะบอส”
สิ้นเสียงตอบรับไม่กี่วินาทีประตูห้องก็ถูกเคาะแล้วเปิดออกกว้าง ไอรินในชุดสูทสตรีเข้ารูปสีเข้มก้าวเดินอย่างกระฉับกระเฉงไปหาเจ้านายคนใหม่
“บอสเรียกริน มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“มานี่หน่อยสิ”
“ค่ะ”
ถึงจะไม่เข้าใจ แต่ไอรินก็ไม่ตั้งคำถาม ร่างเพรียวระหงสมส่วนเดินอ้อมเข้าไปหาเจ้านายอย่างว่าง่าย
“คุณทำสิ่งนี้คนเดียวเหรอ” พลชหมุนเก้าอี้หันเข้าหาเลขา ก่อนจะชูแฟ้มขึ้นสูงแล้วตั้งคำถาม
“ค่ะ มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าคะ”
“เปล่า ผมแค่สงสัยว่าทำไมคุณสรุปมันได้เร็วขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เรื่องที่ประชุมมีแต่ตัวเลขเต็มไปหมด”
“รินชินแล้วค่ะ ที่ทำงานเก่าเจ้านายชอบงานที่เร็วและถูกต้อง ช้าแค่นิดหน่อยก็หักเงินเดือน รินไม่อยากถูกหัก ปกติก็ไม่ได้โอทีอยู่แล้ว”
“บริษัทนั้นใช้งานคุณโหดมากนะ”
“นั่นสิคะ รินเองก็เพิ่งรู้ตัวตอนที่ออกมาแล้ว ทนให้พวกเขาโขกสับอยู่ได้ตั้งนาน” ไอรินอดบ่นไม่ได้ เพราะนิสัยทุ่มเทกับงานแท้ ๆ ถึงได้ถูกเอาเปรียบตลอด คิดแง่ดีว่านิดเดียวคงไม่เป็นไร แต่พอลองมาคำนวนย้อนหลังคร่าว ๆ ดูแล้ว เธอถูกบริษัทนั้นเอาเปรียบไปตั้งหลายแสน
นึกแล้วก็เจ็บใจ
“ที่นี่จะไม่เป็นแบบนั้น”
พลชให้คำสัญญา เขาไม่ชอบเอาเปรียบพนักงานมาแต่ไหนแต่ไร เรื่องเงินเดือนจะต้องจ่ายมากแค่ไหนไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ถ้ารักษาพนักงานเก่ง ๆ ไว้ได้เงินที่จ่ายไปก็หาใหม่ได้ไม่ยาก เรียกว่าซื้อใจก็คงไม่ผิด
ดวงตาคมกริบกวาดมองร่างตรงหน้า ไอรินอยู่ในชุดที่เรียบร้อยและสุภาพ เธอแต่งกายภูมิฐานสมเป็นเลขาท่านประธาน สวมสูทเข้ารูป กระโปรงยาวพอดีกับเข่า รองเท้าส้นสูงสีดำสนิท ทั้ง ๆ ที่แต่งตัวเรียบร้อยขนาดนี้พลชยังอดคิดถึงเรื่องลามกไม่ได้
เขายังไม่มีโอกาสได้เห็นร่างกายนี้เปลือยเปล่าเลยสักครั้ง ต่างจากไอรินที่ทั้งได้เห็น และได้สัมผัสเขามาแล้ว แบบนี้มันค่อนข้างจะเอาเปรียบไปหน่อย
“ไอริน ผมอยากให้คุณใช้ปาก ตอนนี้ เดี๋ยวนี้”
“บอสคะ!” เลขาคนสวยร้องลั่น แก้มสองข้างแดงปลั่งขึ้นมาทันตา “มะ ไม่ได้นะคะ นี่ห้องทำงาน”
“แล้ว?”
“มันมีกล้องวงจรปิดนะคะ”
พลชเงยหน้าขึ้นมองกล้องที่ว่า แน่นอนว่าห้องทำงานของท่านประธานต้องมีกล้องวงจรปิด กันคนนอกเข้ามาหยิบจับของสำคัญออกไป ไอรินคงกังวลว่าภาพวาบหวามจะถูกโชว์ให้คนนอกเห็น
ติ๊ด
“สบายใจแล้วใช่ไหม”
ห้องของเขา กล้องของเขา ทุกอย่างเป็นของเขา ดังนั้นพลชสามารถควมคุมมันได้ กล้องทั้งสองตัวมีบางอย่างเลื่อนลงมาปิดทันทีที่พลชกดรีโมท รวมถึงประตูห้องที่ล็อกอัตโนมัติในเวลาเดียวกัน
ที่จริง คนเดียวที่จะเข้าถึงกล้องในห้องทำงานนี้ได้มีแค่พลชเท่านั้น แต่เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีคลิปโป๊ท่านประธานหลุดออกไป เขาคิดว่าปิดมันไว้ก็ไม่เสียหายอะไร
หมดข้ออ้างแล้ว ไอรินสูดลมหายใจเข้าปอดลึก บอสบอกเมื่อคืนว่าเธอจะได้ทำแน่ ๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้ ร่างเพรียวบางในชุดสุภาพคุกเข่าลงบนพื้น มือทั้งสองข้างเลื่อนไปที่เป้ากางเกงเนื้อดีตรงหน้า
เสียงรูดซิบดังขึ้นในห้องที่เงียบสนิท ไอรินไม่ได้ตื่นกลัวเท่าเมื่อคืน แต่ความตื่นเต้นไม่ได้ลดน้อยลงเลย
“บอสช่วยสอนรินด้วยนะคะ” เธอช้อนตามองออดอ้อนโดยไม่รู้ตัว พลชไม่ได้ตอบอะไร เขาทำเพียงแค่ยื่นมือไปรวบผมเธอเอาไว้หลวม ๆ เพราะไม่อยากให้มันเกะกะระหว่างที่เธอปฏิบัติงาน
ไอรินค่อย ๆ นำส่วนนั้นออกมา มันตื่นตัวน้อย ๆ แต่แค่นั้นมือของเธอก็แทบจะกอบกุมได้ไม่รอบแล้ว
“บอสคะ”
“หืม”
“รินจะเอาคุณเข้ามาในปากได้ยังไงคะ มัน...ใหญ่ขนาดนี้”
มุมปากหยักบางยกยิ้มขึ้นน้อย ๆ นิ้วหัวแม่มือวางทาบกับกลีบปากอวบอิ่มฉ่ำลิปสติก นุ่มนิ่มจนอยากใช้อวัยวะเดียวกันลงไปบดคลึง
“ลองดูสิว่าจะทำได้ไหม”
.
.
.
.
.
TBC
ท่อนเนื้อสะอาดสะอ้านพองตัวขึ้นเมื่อได้สัมผัสอากาศเย็นฉ่ำ ไอรินเบนสายตาไปทางอื่นสักพัก ก่อนจะวกกลับมาหาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพลชเป็นชายหนุ่มที่รักสะอาดมาก เพราะความเรื่องมากทำให้เวลาที่มีความต้องการ วิลล์กับไมค์จะหาผู้หญิงมาให้ได้ยาก นั่นคือเหตุผลสำคัญที่พลชต้องการผูกปิ่นโตกับใครสักคนที่ถูกใจและไอรินคือคนนั้นถึงจะยังไม่ได้แตะต้อง แม้แต่ร่างกายภายใต้เสื้อผ้าที่เกะกะก็ไม่เคยได้เห็น แต่พลชกลับมั่นใจว่าเขาต้องถูกใจไอรินมากแน่ ๆ เธอฉลาด เรียนรู้ไว สอนง่ายและจำเก่ง อย่างเช่นตอนนี้“อืม”เสียงครางต่ำดังขึ้นในลำคอเพราะความรู้สึกพึงพอใจ เมื่อคืนเพิ่งสอนไปแท้ ๆ แต่วันนี้ไอรินกลับทำได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่องมือนุ่มรูดรั้งท่อนเอ็นอุ่นขึ้นลงช้า ๆ เส้นเลือดที่ปูดโปนรอบ ๆ ทำให้ตัวตนของพลชดูน่าเกรงขาม ขนาดเกินมาตรฐานสำหรับคนที่มีเชื้อสายตะวันตกยิ่งทำให้ดูน่ากลัว ไอรินรู้ว่ามันยังตื่นตัวได้ไม่เต็มที่ แต่แค่นี้เธอก็เกือบจะกำได้ไม่รอบแล้ว“ไอริน”นิ้วหัวแม่มือบดคลึงกลีบปากนุ่มเบา ๆ มือของไอรินวิเศษมาก แต่ตอนนี้เขาต้องการอย่างอื่นมากกว่า“อ้าปากออกสิ”เลขาสาวทำตามอย่างว่าง่าย ริมฝีปากอวบอิ่มชุ่มชื้นด้วยลิปสติ
“ซี้ดด ไอริน ผมแตกใส่ปากคุณได้หรือเปล่า” ต้องถามด้วยเหรอไอรินไม่คิดว่ามันจำเป็น เพราะเธอกำลังทำหน้าที่ พลชเป็นเจ้านาย เขาสามารถทำอะไรกับเธอก็ได้อยู่แล้ว“ถ้าคุณให้ผมเสร็จในปากได้ ผมจะจ่ายให้คุณสองแสน”ถ้าน้ำเสียงของพลชเต็มไปด้วยความดูถูก ไอรินคงลุกขึ้นด่ากราดไปแล้ว ถึงเธอจะชอบเงินและอยากได้เงินแค่ไหน แต่เธอก็มีศักดิ์ศรี เธอขายร่างกาย ไม่ได้ขายความเป็นคนให้ใครมาดูถูกตามใจชอบแต่เขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงในเชิงเหยียดหยามดูแคลนเธอเลย ติดไปทางอ้อนวอนด้วยซ้ำ“ผมแค่อยากตอบแทนคุณ มันคือโบนัสเพราะคุณทำให้ผมถูกใจ อย่าคิดว่าผมดูถูกคุณเลย”ไอรินเชื่ออย่างหมดใจว่าพลชหมายความว่าแบบนั้นจริง ๆ คนที่อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหารแบบเขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอธิบายเพิ่มแบบนี้ด้วยซ้ำ จะเป็นเหมือนเจ้านายทั่วไปที่ใช้อำนาจจิกหัวใช้งานลูกน้องก็ได้ แต่พลชไม่ทำไอรินเจอแต่เจ้านายแบบนั้นมาตลอด พอได้มาเจอพลชมันทำเธอรู้สึกดี ดวงตาคู่สวยจึงฉายแววมุ่งมั่น ตั้งใจจะทำให้บอสพอใจมากเท่าที่จะทำได้“ซี้ดดด!!”พลชเสียววูบไปทั่วหน้าท้อง จู่ ๆ ไอรินที่นิ่งไปสักพักก็ดูดดึงความแข็งขืนเหมือนคนหิวกระหาย แก้มทั้งสองข้างเดี๋ยวป่องออก เดี๋
พลชอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ตลอดช่วงบ่ายเขาทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจนลูกน้องคนสนิทยังแปลกใจ หลังจากคุยงานกับเจ้านายเสร็จวิลล์ก็ขอตัวออกมาข้างนอก ส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานคนใหม่ พร้อมรับสายที่โทรทางไกลเข้ามา“อะไรนะ! ด่วนขนาดนั้นเลยเหรอครับ”ไอรินเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยแล้วก้มหน้าทำงานต่ออย่างไม่ใส่ใจ อีกฝ่ายพูดภาษาอิตาลี เป็นหนึ่งในภาษาที่เธอร่ำเรียนมา แน่นอนว่าเธอฟังออกทั้งหมด“เดินทางคืนนี้มันกะทันหันไป ผมหาตั๋วให้บอสได้ แต่บอสเองก็มีงานการต้องทำนะครับคุณราฟ”ไอรินกลับมาสนใจอีกครั้งเมื่อบทสนทนาเอ่ยถึงเจ้านาย แต่เธอยังมีมารยาทพอไม่เงยหน้าขึ้นฟังอย่างประเจิดประเจ้อ“แล้วทำไมคุณไม่โทรสายตรงหาบอสเองล่ะครับ ให้ผมรับหน้าให้ตลอด” ผู้ช่วยหนุ่มอดตัดพ้อไม่ได้ “ก็ได้ครับ ผมจะบอกบอสให้”วิลล์พูดแค่นั้นก็กดวางสาย ชายหนุ่มมองหน้าไอรินเล็กน้อยแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของพลช สักพักไอรินก็ได้ยินเสียงไม่สบอารมณ์ของเจ้าของห้องดังออกมา“มันคิดว่ามันเป็นใคร! ถึงอยากให้ฉันไปหาเมื่อไหร่ก็ได้ ฉันไม่ไป!!”ไอรินชะเง้อคอมองทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนว่าบอสจะไม่พอใจเอามาก ๆด้านในห้องทำง
วิลล์แปลกใจเล็กน้อยที่เจ้านายเดินออกมาจากเพนท์เฮ้าส์เพียงคนเดียว และดูท่าทางอารมณ์ดีกว่าตอนแรก ไม่รู้ว่าในนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่นับว่าเป็นเรื่องดีเพราะเขาไม่อยากถูกบอสกินหัว“คุณไอรินไม่มาส่งบอสเหรอครับ” อดถามออกไปไม่ได้ ไอรินเป็นเลขา ถึงครั้งนี้จะบินไปอิตาลีด้วยไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ควรมาส่งเจ้านาย“เธอพักผ่อนอยู่ อย่าให้ใครเข้าไปรบกวน บอกป้าปานด้วยว่าอย่าปลุกเธอ”“ไม่สบายหรือเปล่าครับ ให้ผมตามหมอให้ไหม”“แค่อ่อนเพลีย” พลชตอบสั้น ๆ ก่อนจะเดินนำลูกน้องไปที่ลิฟต์โดยสาร ไม่เปิดโอกาสให้วิลล์ได้ถามให้มากความอีกมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงสภาพของเลขาคนสวยที่แทบไม่มีแรงยืนเพราะถูกเขารังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลชเหลือเวลาก่อนไปสนามบินชั่วโมงกว่า และเขาใช้เวลาช่วงนั้นสัมผัสไอรินจนเธอน้ำตานอง ร้องขอเสียงสั่นให้เขาหยุดก่อนที่เธอจะขาดใจผู้หญิงอะไร ขนาดมีอารมณ์ยังสวยไม่สร่าง ยิ่งพอมีอารมณ์แล้วใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ร้องขอเสียงสั่นให้หยุด มันยิ่งทำให้เขาอยากรังแกเธอซ้ำ ๆวิลล์ปิดปากเงียบทั้ง ๆ ที่เห็นว่าบอสหลุดยิ้มออกมาคนเดียว เขาไม่กล้าสอดปากถาม ได้แต่เดาไปเองว่าคุณไอรินคงถูกใจบอสมากวิลล์ไม่รู้เ
พลชเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยในช่วงเย็น กว่าจะฝ่ารถติดจากสนามบินที่ตั้งอยู่ชานเมือง มาถึงเพนท์เฮ้าส์ใจกลางเมืองได้ก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง เขาเหนื่อยล้าจนไม่อยากพูดอะไรกับใคร อุตส่าห์จ่ายเงินเป็นแสนนั่งเฟิร์สคลาสจากอิตาลีกลับไทยเพื่อความสบายตัว แต่กลับต้องมาอุดอู้ในรถยนต์แทนเพราะรถจนติดแทบไม่ขยับลิฟต์ส่วนตัวเปิดออกเมื่อมาถึงชั้นที่ชั้นสูงสุดของตึก ไมค์รีบเข้ามารับสูทไปถือไว้ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าของบอสก็ไม่กล้าปริปากพูดอะไร รอให้พลชเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน“ไอรินล่ะ”“อยู่ในครัวครับ คือ.. พอคุณไอรินรู้ว่าบอสใกล้จะถึงเพนท์เฮ้าส์เลยเอาอาหารไปอุ่นครับ”“อาหาร?”“คุณไอรินทำมื้อเย็นไว้ให้บอสครับ”พลชไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทางเคร่งเครียดบนใบหน้าลดลง ขายาวรีบก้าวเข้าไปในเพนท์เฮ้าส์กว้างหลายร้อยตารางเมตร เดินอย่างคุ้นเคยไปยังห้องครัวเสียงก๊อกแก๊กดังออกมาเป็นระยะ พร้อมกับกลิ่นอาหารไทยที่คุ้นปากฟุ้งไปทั่ว พลชพิงกายกับกรอบประตูห้องครัว มองร่างบอบบางที่ขยับไปมาอย่างคล่องแคล่วเงียบ ๆ“ไอริน”“อ๊ะ! บอส” หญิงสาวอุทานเสียงดัง มือบางลูบอกซ้ายเบา ๆ เพื่อคลายความตกใจ “รินตกใจหมดเลยค่ะ”ไม่คิดว่าบอสจะกลับมาถึงแล้ว เ
ทั้งสองเคลื่อนย้ายไปยังส่วนของชาวเวอร์ พลชคิดว่าในอ่างคงไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะเขาอยากขยับได้อย่างเป็นอิสระสายน้ำเย็นไหลผ่านร่างกายร้อนผ่าว แต่แทนที่ความเย็นจะช่วยดับไฟราคะของทั้งสองได้ มันกลับกลายเป็นช่วยเพิ่มความเร่าร้อนให้พุ่งสูงขึ้น พลชปล่อยให้เลขาสาวใช้มือกับท่อนลำแข็งแกร่งไปเรื่อย ๆ มันเหยียดขยายเต็มฝ่ามือบาง เส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโป่งพันรอบ ร้อนผ่าวเหมือนกำลังจับท่อนไฟ“ไอริน”ชายหนุ่มคลอเคลียแก้มใส ไล้ปลายจมูกไปตามกรอบหน้าสวยแผ่วเบา ไอรินเหลือเพียงแพนตี้ตัวเล็กติดกาย ท่อนบนเปลือยเปล่าแต่กลับถูกแขนเรียวปกปิดอกอิ่มเอาไว้ พลชไม่อยากบอกให้เธอเสียใจเลยว่าแขนแค่นั้นจะไปปิดอะไรมิด“อะ อื้อ บอสคะ”หญิงสาวเอียงหน้าหลบสัมผัสวาบหวาม เธอไม่รู้ว่าคู่นอนทั่วไปเขาอ่อนหวานต่อกันแบบนี้ไหม แต่สิ่งที่พลชทำมันทำให้เธอรู้สึกดีถึงจะเต็มใจขายร่างกาย แต่ก็คาดหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติอย่างมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่ของเล่นพลชแกะแขนข้างที่ปิดบังเต้าอวบออก เขาหลุบตามองแล้วได้แต่กลืนน้ำลาย ไอรินเป็นลูกรักพระเจ้าจริง ๆ มีตรงไหนในร่างกายเธอบ้างที่ไม่งดงามผิวขาวผุดผาดมีหยาดน้ำเกาะพร่างพราย ทรวงอกอิ่มตั้งเป็นเต้าก
ชายหนุ่มอ้าขาเรียวออกกว้างกว่าเดิมอีกหน่อย เขารู้ว่าไอรินกำลังกลัวและเกร็ง ขืนดึงดันเข้าไปตอนนี้คงไม่พ้นต้องเจ็บตัวด้วยกันทั้งคู่พลชเปลี่ยนจากสอดใส่เป็นถูไถเพียงแค่ภายนอก หัวหยักที่สวมหมวกอย่างรัดกุมเสียดสีขึ้นลงระหว่างร่องรักและจุดกระสั่น ไอรินผวาเฮือกเมื่อถูกสัมผัสตรงจุด เธอมองหน้าเจ้านายหนุ่มตาเยิ้ม ท่าทางต่อต้านลดน้อยลงจนไม่เหลือ“บอสขา”“เสียวไหมไอริน”“อื้อ เสียวค่ะ” เธอพยักหน้ารับ ใบหน้างดงามบิดเบี้ยวพร้อมหอบหายใจกระชั้นถี่ “บอสคะ มัน อ๊ะ ตะ ตรงนั้น”“ดูนี่สิไอริน”พลชดึงร่างบอบบางขึ้นเพื่อมองจุดที่เสียดสีกัน ไอรินเอียงหน้าหนีในทีแรก แต่ความอายมันมีน้อยกว่าความอยากรู้ เพียงไม่นานเธอก็ยอมจ้องมองภาพลามกตรงหน้าไม่กระพริบตา“คุณเยิ้มมากไอริน ดูสิ ทำผมเปียกไปหมดแล้ว”ไอรินขนลุกไปทั้งกายกับคำพูดตรง ๆ และภาพที่เห็น เธอเปียกมากจริง ๆ เยิ้มยืดติดทุกครั้งที่พลชขยับออกลามกเกินไปแล้ว“คุณชอบให้ผมขยี้ตรงนี้ใช่ไหม” พลชบังคับให้หัวหยักขยี้กับจุดกระสั่นแดงก่ำ พลางถามหญิงสาวด้วยสุ้มเสียงแหบต่ำ“บอสคะ อ๊ะ”“บอกผมสิว่าคุณชอบหรือเปล่า”“ฮื่อ ชอบค่ะ รินชอบ แต่รินก็กลัว”ไอรินทนความอายไม่ไหว เธอทิ
“คุณเสร็จแล้ว แต่ผมยังไม่เสร็จเลย พร้อมจะไปต่อหรือยัง ไอริน” “บอสยังไม่.. เอ่อ เหรอคะ”“ผมอึดมากนะ เผื่อคุณไม่รู้”พูดจบ พลชก็จับร่างบอบบางให้พลิกคว่ำ ดึงสะโพกเธอขึ้นจนก้นงอนชนเข้ากับท่อนเนื้อแข็ง ๆ ได้ยินเสียงร้องอุ้ยเบา ๆ พร้อมกับสะโพกมนที่พยายามขยับหนี แต่สุดท้ายก็ถูกดึงกลับมาที่เดิมอยู่ดี“บอสคะ”“เปลี่ยนท่าบ้าง”ชายหนุ่มตอบก่อนจะหยิบถุงยางอันใหม่มาสวม ตอนแรกเขาอยากใช้มันครั้งละอัน แต่อันเก่ามันเปื้อนทั้งเลือดและน้ำหล่อลื่นของไอรินเต็มไปหมด เขาเลยจำใจต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อสุขอนามัยที่ดีอีกอย่าง คืนนี้เขาคงไม่ใจร้ายใจดำ จับเลขาคนสวยกินหลายรอบขนาดนั้น เพราะแค่นี้เธอก็บอบช้ำจะแย่อยู่แล้วพลชมองกลีบเนื้อบอบช้ำที่เคยโอบอุ้มตัวตนเขาไว้อย่างแนบแน่น จากที่เคยปิดสนิท ตอนนี้มันกลับเปิดอ้าออกน้อย ๆ แถมยังบวมแดงอย่างน่าสงสาร ดีที่ไม่มีเลือดไหลออกมาแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้าทำอะไรต่อพลชชื่นชอบเซ็กซ์ที่รุนแรงและดุเดือด แต่ไม่ถึงขั้นซาดิสม์ ที่ยิ่งเห็นเลือดคู่นอนก็ยิ่งมีอารมณ์“อ๊ะ”พอต้องหันหลังไอรินก็มองไม่เห็นอะไรเลย ทีแรกเธอคิดว่าดีแล้ว ไม่ต้องเห็นคงไม่อายเท่าไหร่ แต่เธอคิดผิด พอตามองไม่
ช่วงเวลายาวนานที่ต้องอุ้มท้องลูกน้อยเดินทางมาถึงเดือนสุดท้าย ไอรินไม่สามารถขยับตัวได้คล่องเพราะหน้าท้องที่นูนใหญ่ ใหญ่จนบางครั้งหลายคนที่เห็นยังอดถามไม่ได้ว่าลูกแฝดหรือเปล่า คนเป็นแม่ได้แต่หัวเราะแล้วตอบไปว่าเพราะพ่อเขาบำรุงดี ลูกชายถึงได้ตัวโตจ้ำม้ำไอรินหายแพ้ท้องหลังจากเข้าเดือนที่สี่ เธอยังคงไปทำงานที่บริษัทในตำแหน่งเลขาของท่านประธานเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ทุกคนต่างรับรู้โดยทั่วกันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นแค่เลขาทั่วไป ไอรินคือคุณนายแม็กซ์เวล และกำลังอุ้มท้องทายาทคนแรกของแม็กซ์เวลอยู่ นอกจากต้องให้ความเคารพแล้ว ยังต้องคอยเป็นหูเป็นตาดูแลความปลอดภัยให้ไอรินและคุณชายน้อยด้วยใคร ๆ ก็บอกว่าลูกชายในท้องของไอรินอภิชาตบุตร เพราะยังไม่ทันคลอดก็นำเรื่องราวดี ๆ มาให้ครอบครัว ไม่ว่าพลชจะหยิบจับอะไรก็สร้างเม็ดเงินและความรุ่งเรืองมาให้ PDM group เสมอ ตั้งแต่ภรรยาตั้งครรภ์พลชก็ก้าวขึ้นไปอีกขั้นในวงการธุรกิจ เขากลายเป็นชายหนุ่มอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีทรัพย์สินมากกว่าหมื่นล้านในวัยเพียงสามสิบต้น ๆในสายตาของคนนอกพลชยิ่งใหญ่ และมีอำนาจไม่ด้อยไปกว่าใคร ทว่าในสายตาข
งานแต่งของ พลช ดีน แม็กซ์เวล แน่นอนว่าย่อมต้องไม่ธรรมดา ลำพังแค่กลุ่มนักธุรกิจ นักข่าว หรือคนที่มีผลประโยชน์ต่อกันก็แทบล้นสถานที่จัดงานแล้ว จะไม่เชิญใครก็ไม่ได้ การทำธุรกิจยังไงก็อาศัยคอนเนคชั่นเป็นหลัก ถึงตอนนี้พลชจะมีอำนาจมากมายล้นฟ้า แต่ไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นการคีพคอนเนคชั่นไว้จึงสำคัญไอรินที่เป็นเลขาเข้าใจตรงนี้ดี เธอไม่บ่นสักคำที่ต้องเชิญแขกเป็นพัน ๆ คน เพราะตกลงกับสามีไว้แล้วว่าพิธีสาบานตนกับสวมแหวนในโบสถ์ จะมีแค่คนสนิทเท่านั้นส่วนงานเลี้ยงจะจัดใหญ่แค่ไหน จะมีแขกกี่พันคนไอรินไม่สน เพราะเธอได้รับสิทธิพิเศษของคนที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ต้องออกไปเดินรับแขกให้เมื่อย แค่อยู่ร่วมงานไม่เกินชั่วโมงก็กลับห้องพักได้ ที่เหลือคนเป็นสามีจะจัดการเอง“ริน”ไอรินหันไปมองตามเสียงเรียก คุณครูไอยราที่วันนี้อยู่ในชุดแสนสวย เดินเข้ามาหาลูกสาวด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า“แม่”“เวียนหัวหรือเปล่า หนุ่มน้อยของยายดื้อไหมวันนี้”“ไม่เลย วันนี้รินไม่รู้สึกอะไรเลย”หนุ่มน้อยของตระกูลแม็กซ์เวลตอนนี้มีอายุได้สามเดือนครึ่งแล้ว หลังกลับจากอิตาลีพลชก็รีบพาไอรินไปฝากครรภ์กับเพื่อนสนิทอย่างหมอวายุ พวกเขาต
“ไอริน!!”“อื้อ ทำไมต้องตะโกน” คนที่เซซบอกสามีบ่นอุบจู่ ๆ ตอนที่ลุกขึ้นไอรินก็รู้สึกว่าโลกมันหมุนเร็วเกินไป ภาพตรงหน้าพร่าเลือนจนเสียหลักล้ม โชคดีที่สามีตัวใหญ่ยืนอยู่ด้านหลังจึงไม่เกิดเรื่องน่าอายขึ้น ไม่อย่างนั้นคนปากร้ายที่รอเหยียบย่ำคงพูดอะไรให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจอีกไอรินฟังออกทั้งหมด สิ่งที่คนพวกนั้นพูดเธอฟังออกทุกคำ แต่ที่ไม่ตอบโต้ก็เพราะไม่ได้ใส่ใจ จิตใจของเธอล่องลอยไปหาเจลาโตรสบลูเบอร์รี่เปรี้ยวอมหวานที่เห็นเมื่อเช้า แค่คิดก็น้ำลายสอ อยากกิน อยากออกไปจากที่นี่เต็มทน“คุณไหวหรือเปล่า”“ไหวค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไร”ไอรินดันตัวออกจากอ้อมแขนของสามี ตอนนี้ทุกคนในห้องรับแขกมองมาที่เธอเป็นตาเดียว พวกเขาทำท่าทางเหมือนเห็นตัวประหลาดที่น่ารังเกียจ ไม่มีความเกรงใจกันสักนิดไม่ยักรู้ว่าตระกูลผู้ดีเขาสั่งสอนลูกหลานกันแบบนี้“ผู้หญิงชั้นต่ำก็เป็นแบบนี้ ชอบเรียกร้องความสนใจ”“โรเบิร์ต”“ผมไม่ได้ทำอะไรใครนี่ครับคุณแม่ แค่พูดความจริง หล่อนฟังเรารู้เรื่องที่ไหน” โรเบิร์ตยักไหล่ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด ไม่ได้แตะต้องหล่อนแม้แต่ปลายก้อย ก็แค่คำพูด ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นก็ฟังไม่ออกฟังไม่ออก ก็แปลว่าเข
“ที่รัก ตื่นได้แล้วครับ”“อื้อ”“ตื่นได้แล้ว เครื่องจะแลนด์ดิ้งแล้วนะ”“ง่วงจัง” ไอรินปรือตาขึ้นมองใบหน้าสามี “ดีนคะ รินอยากนอนต่อจังค่ะ”“ไว้ถึงที่พักแล้วค่อยนอนต่อนะ ตอนนี้ลุกขึ้นมาก่อน”พลชพูดพลางปรับเก้าอี้ให้ภรรยา ไอรินแม้ไม่อยากตื่นแต่ก็จำใจต้องตื่น เสียงประกาศของพนักงานดังไปทั่วทั้งห้องโดยสารว่าอีกยี่สิบนาทีเครื่องจะลงจอดที่ท่าอากาศยานฟีอูมีชีโน ประเทศอิตาลีความง่วงงุนทำให้ไอรินไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าที่ควร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไทม์โซนที่ต่าง ร่างกายที่ยังปรับตัวไม่ได้ หรือเพราะเธอแค่ขี้เกียจกันแน่เพราะช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาไอรินก็เอาแต่นอนเป็นแมวขี้เซา แม้แต่ตอนที่นั่งทำงานเธอยังหลับได้ ลำบากให้สามีต้องอุ้มเข้าไปนอนในห้องเป็นประจำเพราะกลัวว่าภรรยาจะปวดเมื่อยเนื้อตัว ไอรินทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกขอบคุณ แต่ลึก ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์นอกจากจะไม่ได้ช่วยงานพลชอย่างเต็มที่แล้ว เธอยังเป็นตัวถ่วงให้เขาต้องเป็นกังวลอีก“คุณไม่ยอมตื่นมาทานข้าวเลย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากสำรวจภรรยาว่าคาดเข็มขัดดีหรือไม่เรียบร้อยแล้ว “คุณนอนตลอดสิบกว่าชั่วโมงได้ยังไง ไม่เพลียเหรอ”“ไม่เลยค่ะ รินสา
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้ว แต่ทั้งสองคนบนเตียงก็ยังคงตระกองกอดกันไม่ปล่อย ทั้งไอรินและพลชตื่นพร้อมกันตั้งแต่ชั่วโมงก่อน แต่แทนที่พวกเขาจะเร่งรีบลุกขึ้นเตรียมตัวไปทำงานเหมือนปกติ ในวันนี้ทั้งคู่ต่างพร้อมใจกันนอนเอ้อระเหยอย่างสบายอารมณ์เหมือนคนว่างงานเพราะวันนี้ท่านประธานกับเลขาส่วนตัว ใช้สิทธิ์ลางานช่วงเช้าเพื่อไปทำธุระสำคัญ“ที่รัก ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวสาย”“อื้อ รินง่วงมากเลยค่ะ อยากนอนต่อจัง” คนง่วงปรือตาขึ้นน้อย ๆ มองหน้าคนรักอย่างออดอ้อนไอรินน่ารักจนพลชอดใจไม่ไหว เขามอบจูบแสนหวานให้เธอแม้ว่าริมฝีปากอิ่มจะบวมเจ่ออยู่แล้วก็ตาม“อื้อ อย่าค่ะ”คนถูกจูบรีบดันชายหนุ่มออกก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิด เพราะเผลอหน่อยเดียวเสื้อยืดตัวโคร่งก็ถูกถลกขึ้นสูงแล้ว ทรวงอกอิ่มที่ไร้บราห่อหุ้มถูกบีบเคล้นเบา ๆ ไอรินรีบตะครุบมือปลาหมึกเอาไว้ก่อนที่ตัวเองจะใจอ่อน“ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวสาย”“รู้ตัวแล้วเหรอว่ากำลังจะสาย” พลชยอมละมือออกแต่โดยดี “ไปอาบน้ำกันที่รัก”“ไม่เอานะคะ อ๊ะ!”แขนเรียวรีบยกขึ้นคล้องต้นคอแกร่งเมื่อถูกช้อนตัวขึ้น สะโพกมนสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่ดุนดันอย่างก้าวร้าว ดวงตาคู่ส
“เหมือนว่าการที่เรารักกันมันจะไม่ง่ายเลยนะคะ” “ไอริน อย่าพูดแบบนี้”พลชส่ายอย่างตื่นตระหนก เขากลัว กลัวว่าประโยคต่อมาของไอรินจะทำให้หัวใจของเขาแตกสลาย“ทำไมคะ รินคิดว่า..”“ไม่นะริน! ไม่พูดคำนั้นออกมานะที่รัก”พลช ดีน แม็กซ์เวล ทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้น ใช้สองแขนกอดรัดร่างเพรียวบางของแฟนสาวเอาไว้แน่น ซบใบหน้ากับหน้าท้องราบเรียบด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจเขากลัว กลัวว่าไอรินจะบอกเลิกเขากลัวว่าไอรินหายไปอีกครั้งเขากลัว“อึก”“คุณ..”ความหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตา ชายหนุ่มวัยสามสิบสี่ปีร่ำไห้เพียงเพราะกลัวว่าคนรักจะทิ้งไป ไม่เหลือคราบนักธุรกิจดังที่มีแค่คนเกรงใจในอำนาจ ตอนนี้พลชไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นนอกจากไอริน“อย่าทิ้งผมไปนะริน ได้โปรด”“ดีนคะ”“ให้ผมทำยังไงก็ได้ อึก ผมทำได้ทุกอย่าง แต่เราไม่เลิกกันนะริน ไม่เลิกกันได้ไหม ฮึก”ไอรินอ้าปากค้าง ก่อนที่มือบางฟาดผลัวะเข้าที่ไหล่กว้างเต็มแรง ทำเอาคนที่กำลังร้องไห้หยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมองแฟนสาวทั้งน้ำตาทั้งเสียใจ ทั้งเจ็บตัว ทั้งงุนงง พลชเหมือนลูกหมาตัวโต ๆ ที่เจ้าของไม่พาไปเดินเล่น“เลิกอะไรคะ!” ไอรินถามเสียงเขียว ฟาดมือกับไหล่หนาอีกที “ตบปา
“ในที่สุดลูกชายซื่อบื้อของมัมก็พาหนูรินกลับมาจนได้”หลังจากกอดหอมไอรินจนหนำใจ พิมพ์ดาวก็หันไปค่อนแคะลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ถ้าไม่ตรอมใจจนเข้าโรงพยาบาล ป่านนี้คนซื่อบื้อก็ยังคงซื่อบื้อต่อไปพลชไม่ได้โกรธแม่แต่ก็หัวเราะไม่ออกเหมือนกัน แค่คิดว่าต้องเสียไอรินไปอีกครั้ง ก้อนเนื้อในอกซ้ายก็บีบรัดอย่างรุนแรง เหมือนว่ามันกำลังจะแตกสลาย“อื้ออ ดีนคะ!” ไอรินตีแขนแกร่งที่จู่ ๆ ก็เข้ามาโอบรัดรอบเอว “ทำอะไรคะ คุณมัมกับคุณแด๊ดมองอยู่นะ”“อยากกอด ผมกลัวว่ารินจะหายไป”“รินจะหายไปได้ยังไงล่ะคะ”“คงฝังใจน่ะสิ” พิมพ์ดาวเอ่ยเหมือนเข้าไปนั่งกลางใจของลูกชาย “อย่างงี้ล่ะน้า คนมันเคยพลาดมาก่อน คงกลัวว่าจะซ้ำรอยเดิมอีก”“อะไรเหรอคะคุณมัม”“ดีนกำลังกลัวว่าจะเสียรินไปอีกน่ะลูก”ไอรินทั้งเข้าใจ และเห็นใจคนรัก เธอไม่รู้หรอกว่าสามเดือนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง แต่จากสภาพทรุดโทรมที่ได้เห็น และที่วิลล์กับไมค์เล่าให้ฟังว่าพลชถึงขั้นหมดสติ ต้องหามส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาเองก็คงเจ็บปวดไม่ต่างกันไม่มีใครมีความสุขกับการจากลาในครั้งนั้น ไม่แปลกเลยที่พลชจะจำฝังใจ เพราะแม้แต่ตัวเธอก็ยังหลงเหลือบาดแผลเล็ก ๆ
ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของชาวบ้าน ใช้เวลาแค่สิบวัน โรงเรียนที่ถูกปรับปรุงก็เสร็จสมบูรณ์ หลังจากให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าไม่มีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขแล้ว เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีก็ดังก้องไปทั่วดอยเล็ก ๆ แห่งนี้“ในที่สุดโรงเรียนก็เสร็จแล้ว!”“หลังจากนี้เด็ก ๆ จะได้มีอาคารเรียนดี ๆ ไม่ต้องกลัวว่าหลังคาจะรั่วตอนฝนตกอีก”“ห้องน้ำก็มิดชิดขึ้น โรงอาหารก็ใหญ่โต เด็ก ๆ โชคดีกันมากนะรู้ไหม สมัยพี่เรียนไม่มีอะไรแบบนี้หรอก ต้องตั้งใจเรียนนะ อย่าให้พวกพี่เสียแรงเปล่าล่ะ”เด็ก ๆ ต่างพากันพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน ดวงตาสุกสกาวไร้เดียงสามองโรงเรียนที่เกือบจะจำภาพเดิมไม่ได้ด้วยความตื่นเต้นยินดี นอกจากอาคารเก่าที่ถูกปรับปรุงใหม่จนแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังมีอาคารอีกหนึ่งหลังที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วย ทั้งใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า เด็ก ๆ ตื่นเต้นจนอยากเข้าไปเรียนเสียเดี๋ยวนี้ในอาคารนั้นมีทั้งห้องสมุด ห้องวิทยาศาสตร์ แถมยังมีเครื่องคอมพิวเตอร์อีกห้าเครื่องตั้งไว้ให้เด็ก ๆ ได้ลองใช้ รวมถึงมีทีวีขนาดยักษ์ ที่ครูไอยราบอกว่าจะมีครูสอนพวกเด็ก ๆ จากในนั้นได้ยินว่าเป็นการเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม เด็ก ๆ ไม่เข้าใจสิ่งนี้ ผู
“อยู่บ้านดี ๆ นะริน ส่วนดีน เราน่ะอย่ารั้นจะไปช่วยชาวบ้านนัก เจ็บแบบนี้ยิ่งไปช่วยชาวบ้านเขาจะยิ่งเป็นกังวลจนไม่เป็นอันทำงานทำการกันพอดี”นักธุรกิจหนุ่มนั่งคอตก เถียงคุณครูไอยราไม่ออกเพราะตัวเองทำผิดจริง ๆเขาพักรักษาตัวมาได้สองวันแล้ว จุดที่ช้ำเริ่มเป็นสีม่วงเข้ม แต่เพราะยาจากไอยราทำให้รอยช้ำไม่น่ากลัวเท่าที่คิด ส่วนแผลที่แขนก็สมานกันดี พลชจึงแอบหนีไอรินไปที่โรงเรียน หวังจะช่วยหยิบจับอะไรได้บ้างแต่พอชาวบ้านเจอหน้าเขา ทุกคนก็พากันเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก จนครูไอยราต้องมาไล่ให้ว่าที่ลูกเขยกลับบ้านตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่าพลชคือใคร และเพราะรู้ ทุกคนถึงได้หวั่นเกรงแบบนี้ สำหรับชาวบ้านตาดำ ๆ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่แมลงศัตรูพืช แต่เป็นนายทุนอย่างพลชต่างหาก ขึ้นชื่อว่านายทุน.. ผลประโยชน์ย่อมมาก่อนทุกอย่างเสมอ ไม่รู้ว่าวันดีคืนดี จากหนุ่มลูกครึ่งแสนดีที่ชาวบ้านรักใคร่ จะกลายเป็นคนหน้าเลือดกว้านซื้อที่ดิน จนคนหาเช้ากินค่ำไม่มีที่ซุกหัวนอนวันไหน“วันนี้ชาวบ้านมองผมแปลก ๆ” พลชฟ้องคนรัก ระหว่างที่เปิดเสื้อขึ้นเพื่อให้ไอรินประคบสมุนไพรไอรินที่รู้เรื่องทุกอย่างดีไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แฟนหนุ่มยัง