“ไม่ต้องล็อกประตู ผมจะไปนอนกับคุณ”
แค่ก!
ไอรินสำลักหน้าดำหน้าแดง เธอไอไม่หยุดจนพลชต้องยื่นกระดาษทิชชู่ให้ เลขาสาวได้แต่ขอบคุณเบา ๆ แล้วใช้กระดาษแผ่นนั้นซับน้ำหูน้ำตาที่ไหลซึมออกมา
“คุณโอเคหรือเปล่า”
“แค่ก ริน.. รินโอเคค่ะ” เธอยิ้มแหย กี่ครั้งแล้วที่ทำตัวขายหน้าต่อหน้าเจ้านายแบบนี้ “แค่สำลัก สงสัยรินดื่มน้ำไวไป”
“ไม่ใช่เพราะเรื่องที่ผมพูดใช่ไหม”
“มะ ไม่ใช่ค่ะ” ไอรินรีบปฏิเสธ เธอกลัวว่าจะทำให้เขาไม่พอใจ ทั้ง ๆ ที่ความจริงก็เป็นเพราะเรื่องที่บอสพูดนั่นแหละ
จู่ ๆ ก็บอกว่าจะมานอนด้วย จะไม่ให้เธอตกใจได้ยังไง ทั้งชีวิตเคยนอนกับผู้ชายที่ไหนกัน แฟนสักคนก็ไม่เคยมี
“ผมคิดว่าคุณยังไม่พร้อม จะได้เลื่อนไปก่อน แต่ถ้าคุณไม่มีปัญหาก็เตรียมตัวให้เรียบร้อย เสร็จงานผมจะเข้าไปหา”
พลชพูดเนิบ ๆ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วปลีกตัวออกไป ทิ้งให้ไอรินนั่งอ้าปากพะงาบ ๆ อยากเปลี่ยนคำพูดตอนนี้ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันซะแล้ว
“อ้อ ผมชอบคนสะอาด สองชั่วโมงระหว่างผมทำงานหวังว่าคุณจะจัดการตัวเองให้ผมพอใจได้”
เขาไม่ลืมย้ำเรื่องสำคัญ ความสะอาดสำหรับพลชคือเรื่องใหญ่ เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาคิดหาคู่นอนประจำ
ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ลูกน้องพามาจะสะอาดแค่ไหน ถึงจะป้องกันดีทุกครั้ง แต่พลชก็ยังไม่วางใจ สู้มีคู่นอนเป็นตัวเป็นตนดีกว่า อย่างน้อย ๆ ก็มั่นใจได้ว่าสะอาดสะอ้านแน่นอน
เจ้าของเพนท์เฮ้าส์แยกตัวไปจัดการงาน ส่วนไอรินนั่งนิ่งอยู่กับที่เหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง เธอทำเรื่องที่ผิดพลาดลงไปแล้ว ไม่น่าปฏิเสธบอสไปเลย เธอน่าจะยอมรับออกไปตรง ๆ ว่ายังไม่พร้อม ไม่ใช่ทู่ซี้บอกว่าไม่เป็นอะไรแบบนี้
“ฮือ”
หญิงสาวฟุบหน้ากับโต๊ะกินข้าว ส่งเสียงครางฮือไว้อาลัยตัวเองออกมา ยังไงคืนนี้ก็ไม่รอด ขอเวลาเธอทำใจอีกสักหน่อยเถอะ
.
.
สามทุ่มตรงประตูห้องถูกเคาะเบา ๆ ยังไม่ทันได้เอ่ยปากอนุญาต ประตูไม้สักก็เปิดออกกว้าง ไอรินนั่งอยู่ที่ปลายเตียง บีบมือทั้งสองข้างเข้าหากันแน่น ไม่กล้าสบตาชายหนุ่มในชุดคลุมอาบน้ำ ที่แหวกกว้างจนเห็นแผ่นอกแกร่งรำไร
เธอจะหัวใจวายตายไหม
แว่วได้ยินเสียงสลิปเปอร์ดังกระทบพื้นไม้เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ไอรินก้มหน้านิ่ง ทำให้เห็นแค่ปลายเท้าของบอส
“ไอริน”
“คะ”
“เงยหน้า”
เสียงทุ้มไม่ได้กรรโชกออกคำสั่ง แต่ก็ไม่ได้อ่อนโยนเหมือนคนที่กำลังขอร้อง แต่เพียงแค่นั้นไอรินก็ตัวสั่นเหมือนลูกนก เธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ฟันขาวงับริมฝีปากที่สั่นระริกเอาไว้
“ยั่ว?”
“ริน รินเปล่านะคะ”
“แล้วกัดปากทำไม” พลชใช้หัวแม่มือคลึงกลีบปากนุ่มที่ถูกกัดเบา ๆ โชคดีที่มันไม่ช้ำ ไม่อย่างนั้นคงน่าเสียดายน่าดู “อย่ากัดปาก ยกเว้นตอนที่ผมกระแทกให้คุณสุขสม”
“บะ.. บอสคะ”
“ไอริน เรื่องบนเตียงผมหยาบคายพอสมควร เอา ก็พูดว่าเอา กระแทก ก็พูดว่ากระแทก ผมไม่ชอบอ้อมค้อมเสียเวลา ดังนั้นคุณต้องรับให้ได้ เข้าใจไหม?”
แล้วเธอมีทางเลือกหรือเปล่า? แน่นอนว่าไม่มี พลชไม่ได้ร้องขอ ไม่ได้บอกเล่าให้ฟัง แต่กำลังออกคำสั่งให้เธอต้องทำตาม
“ค่ะบอส”
“ดี”
พลชละมือจากกลีบปากอิ่ม เสียดายความนุ่มฉ่ำสีหวานเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไร เขายังมีเวลาให้สำรวจร่างกายนี้อีกนาน
ร่างสูงที่โชว์แผ่นอกวาบหวิวทิ้งตัวลงนั่งบนปลายเตียงข้างเลขาคนสวย ขาทั้งสองข้างแยกออกจากกันจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน ไอรินแก้มร้อนซู่ รีบมองไปทางอื่นเพราะกลัวเห็นงูยักษ์เข้า
ถึงจะเห็นแค่บางอย่างตุง ๆ แต่เธอก็พอจะเดาได้ว่ามันคงยิ่งใหญ่ไม่น้อย บอสของเธอมีเชื้อสายตะวันตก แถมตัวโตก็ออกจะขนาดนี้
ตรงนั้นก็คง..
“ผมรู้ว่าคุณไม่เคย ดังนั้นวันนี้ผมจะยังไม่สอดใส่ แต่คุณต้องทำให้ผมเสร็จ”
“ยะ ยังไงคะ”
ถึงจะกระดากอายกับคำพูดโต้ง ๆ ของเจ้านาย แต่ไอรินก็อดถามไม่ได้ ประสบการณ์ของเธอคือศูนย์ เคยดูหนังผู้ใหญ่ผ่าน ๆ แต่ไม่ได้ตั้งใจดูจนรู้ทุกขั้นตอน
สมัยเรียนวิชาสุขศึกษาก็ไม่มีสอนเรื่องนี้ เอาแต่บอกให้รักนวลสงวนตัว ให้เตะบอลถ้ามีอารมณ์ แทนที่จะสอนว่าเซ็กซ์เป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าจะทำต้องป้องกันยังไงบ้าง
ระบบการศึกษาเต่าล้านปีชัด ๆ
“มานี่สิ”
พลชจับไอรินยืนขึ้นเหมือนตุ๊กตา ก่อนจะกดไหล่เล็กเบา ๆ เพื่อให้เธอนั่งลงตรงกลางระหว่างขาที่แยกออก
“ใช้มือและปากของคุณทำให้ผมเสร็จ”
“บะ บอสคะ ริน..”
“ลองดู ผมรู้ว่าคุณทำได้”
ไอรินสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เพื่อเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเอง ก่อนมือเรียวที่สั่นน้อย ๆ จะขยับไปวางแหมะบนขาอ่อนของบอสหนุ่ม ไกลจากจุดที่พลชต้องการเกือบสองคืบ
“ไม่ใช่ตรงนั้นไอริน คุณต้องขยับมือขึ้นมาอีก” ชายหนุ่มกระซิบบอกเลขาสาวอย่างใจเย็น
“บะ แบบนี้ ใช่ไหมคะ”
“ไม่ใช่” พลชส่ายหน้า ก่อนจะเป็นฝ่ายจับมือนุ่มมาวางบนส่วนสำคัญด้วยตัวเอง “ตรงนี้ต่างหาก”
ไอรินตื่นเต้นจนเผลอกลั้นลมหายใจ ก่อนจะเลิกทำแบบนั้นเพราะมันไม่มีประโยชน์ เธอมองมือตัวเองที่วางนิ่งอยู่บนส่วนนั้น ส่วนแข็งแกร่งที่ส่งความร้อนระอุออกมากระทบกับฝ่ามือเย็นเฉียบ ทั้ง ๆ ที่ยังมีเนื้อผ้าขวางกั้นเอาไว้
“แล้วก็ทำแบบนี้”
พลชนำทางให้มือเรียวบีบเคล้นส่วนที่ยังหลับสนิทช้า ๆ เขาเฝ้ามองใบหน้าสวยสะกดตาของเธอไปด้วย ไอรินมีท่าทีตื่นตระหนกระคนใคร่รู้ ยิ่งสิ่งที่ตัวเองจับเริ่มขยายตัวเธอก็ยิ่งตื่นเต้น
“บะ บอสคะ”
“หืม”
“มัน.. มันขยายค่ะ”
ไอรินตื่นเต้นกับร่างกายของเพศตรงข้ามที่เพิ่งเคยได้ใกล้ชิดครั้งแรก สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นก็ไม่เท่ากับได้สัมผัสจริง ๆ เธอรู้ว่าเมื่อผู้ชายมีอารมณ์ตรงนี้จะแข็งตัวและขยายใหญ่ แต่เพราะไม่เคยได้สัมผัสของจริง ถึงได้ตื่นเต้นแบบนี้ อดคิดไม่ได้ว่าร่างกายผู้ชายช่างน่าพิศวง แตกต่างจากร่างกายผู้หญิงอย่างสิ้นเชิง
ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกยังอ่อนนุ่มอยู่แท้ ๆ แต่ตอนนี้กลับแข็งขืนขึ้นทีละนิดจนมันล้นฝ่ามือเธอแล้ว
“ยะ ใหญ่กว่ามือรินแล้วค่ะ”
พลชอดเอ็นดูไม่ได้ ท่าทางเหมือนเจอของเล่นของไอรินทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังรังแกเด็ก
อันที่จริงเขาไม่ค่อยปลื้มผู้หญิงไร้เดียงสาเท่าไหร่ ไม่ชอบที่ต้องมานั่งสอน แทนที่จะมองตากัน แล้วกระโจนเข้าหากันอย่างรู้งาน แต่เพราะไอรินมีบางอย่างที่พลชถูกใจ ทั้งนิสัยที่ละเอียดรอบคอบ บุคลิกท่าทาง และแน่นอนว่ารวมถึงรูปร่างหน้าตาด้วย
เธอสวยมาก สวยจนไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงที่สวย รูปร่างดีแบบนี้ถึงได้เหลือรอดมาถึงมือของเขาได้ ที่สำคัญ เขายังได้เป็นคนแกะกล่องเธอคนแรกเสียด้วย พลชรู้เรื่องนี้เพราะไอรินต้องแจ้งประวัติเพศสัมพันธ์ก่อนตรวจภายใน เธอไม่เคย และไอ้หมอก็ยืนยันว่าเธอยังมีเยื่อพรหมจรรย์อยู่จริง ๆ
แต่จะมีหรือไม่มีมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ พลชไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้มาแต่ไหนแต่ไร เพราะตัวเขาเองก็ผ่านมาไม่น้อย จะคาดหวังให้คนอื่นยังบริสุทธิ์ก็ออกจะเห็นแก่ตัวไปหน่อย
แต่ที่น่าประหลาดใจเพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กซ์ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงส่วนมากหันมาดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย เล่นกีฬาผาดโผน กิจกรรมเหล่านี้ทำให้เยื่อบาง ๆ นั่นขาดได้ทั้งนั้น แต่ไอรินกลับยังมีมัน ไอ้หมอบอกเขาว่าไอรินมีเยื่อพรหมจรรย์ที่หนากว่าผู้หญิงทั่วไป ดังนั้นครั้งแรกของเธออาจจะเจ็บกว่าคนอื่น
พอหมอเตือนมาแบบนั้น พลชจึงไม่อยากรีบร้อน เขาไม่อยากให้ประสบการณ์แรกของไอรินไม่น่าจดจำ และอยากให้เธอเจ็บปวดน้อยที่สุด
“ผมอึดอัดแล้ว คุณเอามันออกมาสิ”
ชายหนุ่มเอ่ยเนิบ ๆ พอท่อนเนื้อขยายใหญ่เขาก็เริ่มอึดอัด อันเดอร์แวร์แบรนด์ที่ใส่คุณภาพดีสมราคา โอบอุ้มลูกชายเขาได้พอดิบพอดี แต่แค่เฉพาะเวลาที่ยังหลับใหลเท่านั้น
“ค่ะ”
ไอรินลืมความหวาดหวั่น ดวงตาของเธอเป็นประกายเพราะความอยากรู้อยากเห็น มือบางแหวกชุดคลุมอาบน้ำออก เผยให้เห็นชั้นในสีดำที่ห่อหุ้มส่วนโป่งนูนเอาไว้อย่างแน่นหนา
“น่าอึดอัดจัง”
“ใช่ ผมอึดอัด เอามันออกมาได้แล้ว” พลชเร่งเร้าเสียงพร่า
ไอรินค่อย ๆ รั้งขอบชั้นในลงอย่างเชื่องช้า ดวงตาคู่งามจดจ้องมองสิ่งตรงหน้าแทบไม่กระพริบ
“โอ้...”
ริมปากอิ่มห่อกลมเป็นรูปตัวโอ เมื่อได้ยลโฉมส่วนสำคัญของ CEO หนุ่มหล่ออนาคตไกล ที่ผู้หญิงกว่าค่อนประเทศโหวตว่าอยากออกเดตและแต่งงานด้วยมากที่สุดสามปีซ้อน แซงหน้าพระเอกชื่อดังที่ครองแชมป์มาหลายปีจนไม่เห็นฝุ่น
“บอสคะ”
“หืม”
“บอสไม่ได้ฉีดเพิ่มขนาดมาใช่ไหมคะ”
“ไอริน” พลชหน้าม้าน เรียกชื่อเลขาเสียงต่ำ
“ก็มันใหญ่..” ไอรินพึมพำตอบเบา ๆ “มันมากเกินไป”
“นี่ยังแข็งไม่สุด มันยังใหญ่ได้มากกว่านี้อีกไอริน”
“อะไรนะคะ!” ดวงหน้าสวยเริ่มถอดสี มองสิ่งนั้นที่โผล่พ้นชั้นในสีเข้มมาได้เพียงครึ่งเดียวอย่างหวาดระแวง
ยังใหญ่ได้มากกว่านี้อีกเหรอ ถ้าใหญ่มากกว่านี้เธอต้องตายแน่ ๆ ตอนที่ต้องมีอะไรกันจริง ๆ มันคงเหมือนเอานิ้วโป้งมายัดรูจมูก ไม่สิ มันอาจจะมากกว่านั้น
“ถอดอันเดอร์แวร์ออกให้ผม”
ไอรินไม่มีทางเลือก ในเมื่อเธอรับเงินมาแล้วก็ต้องทำอย่างที่เขาต้องการ เธอกลั้นใจรูดผ้าสีเข้มออกจากท่อนขายาว แล้ววางไว้ข้างตัวอย่างเรียบร้อย
“ยื่นมือของคุณมา”
เธอยื่นมือให้เขา พลชนำทางคนไม่เคยอย่างใจเย็น จับมือนุ่มมาวางบนท่อนเนื้อแข็งขืน มันขยายตัวเพิ่มทันทีที่ได้สัมผัสกับมือเย็น ๆ ของเลขาคนสวย
“บะ บอส”
“ไม่ต้องกลัว ผู้หญิงเป็นเพศที่มหัศจรรย์จะตายไป เด็กตัวใหญ่กว่านี้ยังคลอดได้ นับประสาอะไร..”
“มันไม่เหมือนกันนี่คะ”
“อืม ก็จริงนะ”
พลชเคล้นคลึงท่อนเนื้อของตัวเองผ่านมือของเลขาคนสวย ทำให้คนที่ได้สัมผัสความแข็งแกร่งจริง ๆ คือไอริน ไม่ใช่เขา
“เพราะเด็กออกมาอย่างเดียว ส่วนผมจะทำแบบ.. เข้า ๆ ออก ๆ”
“บอสคะ!”
“ถ้าเข้า ๆ ออก ๆ มันเจ็บไม่นานหรอกนะไอริน หลังจากนั้นจะเสียวอย่างเดียว”
“บอส..”
“ถ้าทำแบบเนิบ ๆ คุณเสียวจนทรมาน แต่ถ้าทำแบบถี่ ๆ คุณจะเสียวแทบขาดใจ ยิ่งถ้าทำทั้งถี่และแรง.. คุณจะถึงจุดสุดยอดแบบตั้งตัวไม่ทันเชียวล่ะไอริน”
“บอสคะ พอแล้วค่ะ! รินขอ”
ไอรินร้องขอให้พลชหยุด เพราะยิ่งเขาพูด ท้องน้อยของเธอมันก็ยิ่งปั่นป่วน เหมือนมีพายุนับสิบหมุนวนอยู่ข้างใน
“หายกลัวแล้วนี่ คุณขยับมือเองแล้วนะ”
ไอรินชะงักงัน ก้มมองมือของตัวเองที่กอบกุมส่วนแข็งขืนไว้ โดยไม่มีมือที่ใหญ่กว่าคอยกำกับตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
แปลว่าที่บอสชวนคุย ก็เพราะอยากทำให้เธอหายกลัว
เลขาสาวช้อนดวงตาขึ้นมองเจ้านายหนุ่ม พลชเป็นเจ้านายที่ดีจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องใส่ใจก็ได้ ยังไงเขาก็ง่ายเงินมาตั้งมากมายแล้ว จะบังคับขืนใจเธอตอนนี้ก็ยังได้ แต่เขาไม่ทำ
“ขอบคุณนะคะ”
ไอรินสัญญากับตัวเอง ว่าเธอจะตั้งใจทำงานให้บอสทุกอย่าง ไม่ว่าจะหน้าห้องหรือบนเตียง หรือถ้าบอสอยากลองที่ระเบียงเธอก็จะไม่ขัด!
.
.
.
.
.
TBC
“บอสไม่เคยมีเลขามาก่อน คุณเป็นคนแรก”“ฉันน่ะเหรอคะ?”ไอรินชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยความงุนงง นักธุรกิจพันล้านแบบพลชไม่มีเลขาส่วนตัว เป็นไปได้ยังไง“ใช่ครับ บอสไม่มีเลขา มีแค่ผมกับไมค์ที่เป็นผู้ช่วย และก็ไม่เคยมีคนสนิทที่เป็นผู้หญิงด้วย บอสเคยบอกว่าทำงานกับผู้ชายสะดวกกว่า ไปไหนไปกันได้ ไม่ยุ่งยาก”“แล้ว เอ่อ.. ทำไมจู่ ๆ บอสถึงอยากมีเลขาล่ะคะ”“เรื่องนี้คงต้องถามบอสเองครับ” วิลล์พูดพลางเปิดประตูห้องทำงานให้เลขาสาวคนแรกของบอส “ว่าทำไมบอสถึงเพิ่งมาอยากมีเลขาตอนนี้”เสียงของวิลล์ไม่เบาเลย แน่นอนว่าพลชได้ยินมันเต็มสองหู เขาส่งสายตาดุ ๆ ไปให้ลูกน้องคนสนิท พวกเขาสนิทถึงขั้นที่พูดคุยหยอกล้อกันได้ วิลล์ถึงได้กล้าพูดต่อหน้าเขาแบบนี้ไอรินสบตาคมกริบ ก่อนจะหลุบลงพื้นอย่างรวดเร็ว มือบางประสานเข้าหากันแนบแน่น จู่ ๆ ก็รู้สึกร้อนที่ฝ่ามือขึ้นมา เหมือนว่าส่วนนั้นของเขายังอยู่ในอุ้งมือของเธอเหมือนเมื่อคืน..“รินขยับแบบนี้ ถูกไหมคะ” “อืม ดี ไอริน ซี้ดด” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าดังถี่กระชั้น ไอรินขยับมืออย่างเชื่องช้าในคราวแรก ก่อนจะเริ่มเร่งจังหวะถี่ ๆ ดวงตาจับจ้องมองส่วนปลายอวบหยักที่ผลุบเข้าออกระหว่างซอกน
ท่อนเนื้อสะอาดสะอ้านพองตัวขึ้นเมื่อได้สัมผัสอากาศเย็นฉ่ำ ไอรินเบนสายตาไปทางอื่นสักพัก ก่อนจะวกกลับมาหาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพลชเป็นชายหนุ่มที่รักสะอาดมาก เพราะความเรื่องมากทำให้เวลาที่มีความต้องการ วิลล์กับไมค์จะหาผู้หญิงมาให้ได้ยาก นั่นคือเหตุผลสำคัญที่พลชต้องการผูกปิ่นโตกับใครสักคนที่ถูกใจและไอรินคือคนนั้นถึงจะยังไม่ได้แตะต้อง แม้แต่ร่างกายภายใต้เสื้อผ้าที่เกะกะก็ไม่เคยได้เห็น แต่พลชกลับมั่นใจว่าเขาต้องถูกใจไอรินมากแน่ ๆ เธอฉลาด เรียนรู้ไว สอนง่ายและจำเก่ง อย่างเช่นตอนนี้“อืม”เสียงครางต่ำดังขึ้นในลำคอเพราะความรู้สึกพึงพอใจ เมื่อคืนเพิ่งสอนไปแท้ ๆ แต่วันนี้ไอรินกลับทำได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่องมือนุ่มรูดรั้งท่อนเอ็นอุ่นขึ้นลงช้า ๆ เส้นเลือดที่ปูดโปนรอบ ๆ ทำให้ตัวตนของพลชดูน่าเกรงขาม ขนาดเกินมาตรฐานสำหรับคนที่มีเชื้อสายตะวันตกยิ่งทำให้ดูน่ากลัว ไอรินรู้ว่ามันยังตื่นตัวได้ไม่เต็มที่ แต่แค่นี้เธอก็เกือบจะกำได้ไม่รอบแล้ว“ไอริน”นิ้วหัวแม่มือบดคลึงกลีบปากนุ่มเบา ๆ มือของไอรินวิเศษมาก แต่ตอนนี้เขาต้องการอย่างอื่นมากกว่า“อ้าปากออกสิ”เลขาสาวทำตามอย่างว่าง่าย ริมฝีปากอวบอิ่มชุ่มชื้นด้วยลิปสติ
“ซี้ดด ไอริน ผมแตกใส่ปากคุณได้หรือเปล่า” ต้องถามด้วยเหรอไอรินไม่คิดว่ามันจำเป็น เพราะเธอกำลังทำหน้าที่ พลชเป็นเจ้านาย เขาสามารถทำอะไรกับเธอก็ได้อยู่แล้ว“ถ้าคุณให้ผมเสร็จในปากได้ ผมจะจ่ายให้คุณสองแสน”ถ้าน้ำเสียงของพลชเต็มไปด้วยความดูถูก ไอรินคงลุกขึ้นด่ากราดไปแล้ว ถึงเธอจะชอบเงินและอยากได้เงินแค่ไหน แต่เธอก็มีศักดิ์ศรี เธอขายร่างกาย ไม่ได้ขายความเป็นคนให้ใครมาดูถูกตามใจชอบแต่เขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงในเชิงเหยียดหยามดูแคลนเธอเลย ติดไปทางอ้อนวอนด้วยซ้ำ“ผมแค่อยากตอบแทนคุณ มันคือโบนัสเพราะคุณทำให้ผมถูกใจ อย่าคิดว่าผมดูถูกคุณเลย”ไอรินเชื่ออย่างหมดใจว่าพลชหมายความว่าแบบนั้นจริง ๆ คนที่อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหารแบบเขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอธิบายเพิ่มแบบนี้ด้วยซ้ำ จะเป็นเหมือนเจ้านายทั่วไปที่ใช้อำนาจจิกหัวใช้งานลูกน้องก็ได้ แต่พลชไม่ทำไอรินเจอแต่เจ้านายแบบนั้นมาตลอด พอได้มาเจอพลชมันทำเธอรู้สึกดี ดวงตาคู่สวยจึงฉายแววมุ่งมั่น ตั้งใจจะทำให้บอสพอใจมากเท่าที่จะทำได้“ซี้ดดด!!”พลชเสียววูบไปทั่วหน้าท้อง จู่ ๆ ไอรินที่นิ่งไปสักพักก็ดูดดึงความแข็งขืนเหมือนคนหิวกระหาย แก้มทั้งสองข้างเดี๋ยวป่องออก เดี๋
พลชอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ตลอดช่วงบ่ายเขาทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจนลูกน้องคนสนิทยังแปลกใจ หลังจากคุยงานกับเจ้านายเสร็จวิลล์ก็ขอตัวออกมาข้างนอก ส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานคนใหม่ พร้อมรับสายที่โทรทางไกลเข้ามา“อะไรนะ! ด่วนขนาดนั้นเลยเหรอครับ”ไอรินเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยแล้วก้มหน้าทำงานต่ออย่างไม่ใส่ใจ อีกฝ่ายพูดภาษาอิตาลี เป็นหนึ่งในภาษาที่เธอร่ำเรียนมา แน่นอนว่าเธอฟังออกทั้งหมด“เดินทางคืนนี้มันกะทันหันไป ผมหาตั๋วให้บอสได้ แต่บอสเองก็มีงานการต้องทำนะครับคุณราฟ”ไอรินกลับมาสนใจอีกครั้งเมื่อบทสนทนาเอ่ยถึงเจ้านาย แต่เธอยังมีมารยาทพอไม่เงยหน้าขึ้นฟังอย่างประเจิดประเจ้อ“แล้วทำไมคุณไม่โทรสายตรงหาบอสเองล่ะครับ ให้ผมรับหน้าให้ตลอด” ผู้ช่วยหนุ่มอดตัดพ้อไม่ได้ “ก็ได้ครับ ผมจะบอกบอสให้”วิลล์พูดแค่นั้นก็กดวางสาย ชายหนุ่มมองหน้าไอรินเล็กน้อยแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของพลช สักพักไอรินก็ได้ยินเสียงไม่สบอารมณ์ของเจ้าของห้องดังออกมา“มันคิดว่ามันเป็นใคร! ถึงอยากให้ฉันไปหาเมื่อไหร่ก็ได้ ฉันไม่ไป!!”ไอรินชะเง้อคอมองทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนว่าบอสจะไม่พอใจเอามาก ๆด้านในห้องทำง
วิลล์แปลกใจเล็กน้อยที่เจ้านายเดินออกมาจากเพนท์เฮ้าส์เพียงคนเดียว และดูท่าทางอารมณ์ดีกว่าตอนแรก ไม่รู้ว่าในนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่นับว่าเป็นเรื่องดีเพราะเขาไม่อยากถูกบอสกินหัว“คุณไอรินไม่มาส่งบอสเหรอครับ” อดถามออกไปไม่ได้ ไอรินเป็นเลขา ถึงครั้งนี้จะบินไปอิตาลีด้วยไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ควรมาส่งเจ้านาย“เธอพักผ่อนอยู่ อย่าให้ใครเข้าไปรบกวน บอกป้าปานด้วยว่าอย่าปลุกเธอ”“ไม่สบายหรือเปล่าครับ ให้ผมตามหมอให้ไหม”“แค่อ่อนเพลีย” พลชตอบสั้น ๆ ก่อนจะเดินนำลูกน้องไปที่ลิฟต์โดยสาร ไม่เปิดโอกาสให้วิลล์ได้ถามให้มากความอีกมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงสภาพของเลขาคนสวยที่แทบไม่มีแรงยืนเพราะถูกเขารังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลชเหลือเวลาก่อนไปสนามบินชั่วโมงกว่า และเขาใช้เวลาช่วงนั้นสัมผัสไอรินจนเธอน้ำตานอง ร้องขอเสียงสั่นให้เขาหยุดก่อนที่เธอจะขาดใจผู้หญิงอะไร ขนาดมีอารมณ์ยังสวยไม่สร่าง ยิ่งพอมีอารมณ์แล้วใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ร้องขอเสียงสั่นให้หยุด มันยิ่งทำให้เขาอยากรังแกเธอซ้ำ ๆวิลล์ปิดปากเงียบทั้ง ๆ ที่เห็นว่าบอสหลุดยิ้มออกมาคนเดียว เขาไม่กล้าสอดปากถาม ได้แต่เดาไปเองว่าคุณไอรินคงถูกใจบอสมากวิลล์ไม่รู้เ
พลชเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยในช่วงเย็น กว่าจะฝ่ารถติดจากสนามบินที่ตั้งอยู่ชานเมือง มาถึงเพนท์เฮ้าส์ใจกลางเมืองได้ก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง เขาเหนื่อยล้าจนไม่อยากพูดอะไรกับใคร อุตส่าห์จ่ายเงินเป็นแสนนั่งเฟิร์สคลาสจากอิตาลีกลับไทยเพื่อความสบายตัว แต่กลับต้องมาอุดอู้ในรถยนต์แทนเพราะรถจนติดแทบไม่ขยับลิฟต์ส่วนตัวเปิดออกเมื่อมาถึงชั้นที่ชั้นสูงสุดของตึก ไมค์รีบเข้ามารับสูทไปถือไว้ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าของบอสก็ไม่กล้าปริปากพูดอะไร รอให้พลชเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน“ไอรินล่ะ”“อยู่ในครัวครับ คือ.. พอคุณไอรินรู้ว่าบอสใกล้จะถึงเพนท์เฮ้าส์เลยเอาอาหารไปอุ่นครับ”“อาหาร?”“คุณไอรินทำมื้อเย็นไว้ให้บอสครับ”พลชไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทางเคร่งเครียดบนใบหน้าลดลง ขายาวรีบก้าวเข้าไปในเพนท์เฮ้าส์กว้างหลายร้อยตารางเมตร เดินอย่างคุ้นเคยไปยังห้องครัวเสียงก๊อกแก๊กดังออกมาเป็นระยะ พร้อมกับกลิ่นอาหารไทยที่คุ้นปากฟุ้งไปทั่ว พลชพิงกายกับกรอบประตูห้องครัว มองร่างบอบบางที่ขยับไปมาอย่างคล่องแคล่วเงียบ ๆ“ไอริน”“อ๊ะ! บอส” หญิงสาวอุทานเสียงดัง มือบางลูบอกซ้ายเบา ๆ เพื่อคลายความตกใจ “รินตกใจหมดเลยค่ะ”ไม่คิดว่าบอสจะกลับมาถึงแล้ว เ
ทั้งสองเคลื่อนย้ายไปยังส่วนของชาวเวอร์ พลชคิดว่าในอ่างคงไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะเขาอยากขยับได้อย่างเป็นอิสระสายน้ำเย็นไหลผ่านร่างกายร้อนผ่าว แต่แทนที่ความเย็นจะช่วยดับไฟราคะของทั้งสองได้ มันกลับกลายเป็นช่วยเพิ่มความเร่าร้อนให้พุ่งสูงขึ้น พลชปล่อยให้เลขาสาวใช้มือกับท่อนลำแข็งแกร่งไปเรื่อย ๆ มันเหยียดขยายเต็มฝ่ามือบาง เส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโป่งพันรอบ ร้อนผ่าวเหมือนกำลังจับท่อนไฟ“ไอริน”ชายหนุ่มคลอเคลียแก้มใส ไล้ปลายจมูกไปตามกรอบหน้าสวยแผ่วเบา ไอรินเหลือเพียงแพนตี้ตัวเล็กติดกาย ท่อนบนเปลือยเปล่าแต่กลับถูกแขนเรียวปกปิดอกอิ่มเอาไว้ พลชไม่อยากบอกให้เธอเสียใจเลยว่าแขนแค่นั้นจะไปปิดอะไรมิด“อะ อื้อ บอสคะ”หญิงสาวเอียงหน้าหลบสัมผัสวาบหวาม เธอไม่รู้ว่าคู่นอนทั่วไปเขาอ่อนหวานต่อกันแบบนี้ไหม แต่สิ่งที่พลชทำมันทำให้เธอรู้สึกดีถึงจะเต็มใจขายร่างกาย แต่ก็คาดหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติอย่างมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่ของเล่นพลชแกะแขนข้างที่ปิดบังเต้าอวบออก เขาหลุบตามองแล้วได้แต่กลืนน้ำลาย ไอรินเป็นลูกรักพระเจ้าจริง ๆ มีตรงไหนในร่างกายเธอบ้างที่ไม่งดงามผิวขาวผุดผาดมีหยาดน้ำเกาะพร่างพราย ทรวงอกอิ่มตั้งเป็นเต้าก
ชายหนุ่มอ้าขาเรียวออกกว้างกว่าเดิมอีกหน่อย เขารู้ว่าไอรินกำลังกลัวและเกร็ง ขืนดึงดันเข้าไปตอนนี้คงไม่พ้นต้องเจ็บตัวด้วยกันทั้งคู่พลชเปลี่ยนจากสอดใส่เป็นถูไถเพียงแค่ภายนอก หัวหยักที่สวมหมวกอย่างรัดกุมเสียดสีขึ้นลงระหว่างร่องรักและจุดกระสั่น ไอรินผวาเฮือกเมื่อถูกสัมผัสตรงจุด เธอมองหน้าเจ้านายหนุ่มตาเยิ้ม ท่าทางต่อต้านลดน้อยลงจนไม่เหลือ“บอสขา”“เสียวไหมไอริน”“อื้อ เสียวค่ะ” เธอพยักหน้ารับ ใบหน้างดงามบิดเบี้ยวพร้อมหอบหายใจกระชั้นถี่ “บอสคะ มัน อ๊ะ ตะ ตรงนั้น”“ดูนี่สิไอริน”พลชดึงร่างบอบบางขึ้นเพื่อมองจุดที่เสียดสีกัน ไอรินเอียงหน้าหนีในทีแรก แต่ความอายมันมีน้อยกว่าความอยากรู้ เพียงไม่นานเธอก็ยอมจ้องมองภาพลามกตรงหน้าไม่กระพริบตา“คุณเยิ้มมากไอริน ดูสิ ทำผมเปียกไปหมดแล้ว”ไอรินขนลุกไปทั้งกายกับคำพูดตรง ๆ และภาพที่เห็น เธอเปียกมากจริง ๆ เยิ้มยืดติดทุกครั้งที่พลชขยับออกลามกเกินไปแล้ว“คุณชอบให้ผมขยี้ตรงนี้ใช่ไหม” พลชบังคับให้หัวหยักขยี้กับจุดกระสั่นแดงก่ำ พลางถามหญิงสาวด้วยสุ้มเสียงแหบต่ำ“บอสคะ อ๊ะ”“บอกผมสิว่าคุณชอบหรือเปล่า”“ฮื่อ ชอบค่ะ รินชอบ แต่รินก็กลัว”ไอรินทนความอายไม่ไหว เธอทิ
ช่วงเวลายาวนานที่ต้องอุ้มท้องลูกน้อยเดินทางมาถึงเดือนสุดท้าย ไอรินไม่สามารถขยับตัวได้คล่องเพราะหน้าท้องที่นูนใหญ่ ใหญ่จนบางครั้งหลายคนที่เห็นยังอดถามไม่ได้ว่าลูกแฝดหรือเปล่า คนเป็นแม่ได้แต่หัวเราะแล้วตอบไปว่าเพราะพ่อเขาบำรุงดี ลูกชายถึงได้ตัวโตจ้ำม้ำไอรินหายแพ้ท้องหลังจากเข้าเดือนที่สี่ เธอยังคงไปทำงานที่บริษัทในตำแหน่งเลขาของท่านประธานเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ทุกคนต่างรับรู้โดยทั่วกันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นแค่เลขาทั่วไป ไอรินคือคุณนายแม็กซ์เวล และกำลังอุ้มท้องทายาทคนแรกของแม็กซ์เวลอยู่ นอกจากต้องให้ความเคารพแล้ว ยังต้องคอยเป็นหูเป็นตาดูแลความปลอดภัยให้ไอรินและคุณชายน้อยด้วยใคร ๆ ก็บอกว่าลูกชายในท้องของไอรินอภิชาตบุตร เพราะยังไม่ทันคลอดก็นำเรื่องราวดี ๆ มาให้ครอบครัว ไม่ว่าพลชจะหยิบจับอะไรก็สร้างเม็ดเงินและความรุ่งเรืองมาให้ PDM group เสมอ ตั้งแต่ภรรยาตั้งครรภ์พลชก็ก้าวขึ้นไปอีกขั้นในวงการธุรกิจ เขากลายเป็นชายหนุ่มอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีทรัพย์สินมากกว่าหมื่นล้านในวัยเพียงสามสิบต้น ๆในสายตาของคนนอกพลชยิ่งใหญ่ และมีอำนาจไม่ด้อยไปกว่าใคร ทว่าในสายตาข
งานแต่งของ พลช ดีน แม็กซ์เวล แน่นอนว่าย่อมต้องไม่ธรรมดา ลำพังแค่กลุ่มนักธุรกิจ นักข่าว หรือคนที่มีผลประโยชน์ต่อกันก็แทบล้นสถานที่จัดงานแล้ว จะไม่เชิญใครก็ไม่ได้ การทำธุรกิจยังไงก็อาศัยคอนเนคชั่นเป็นหลัก ถึงตอนนี้พลชจะมีอำนาจมากมายล้นฟ้า แต่ไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นการคีพคอนเนคชั่นไว้จึงสำคัญไอรินที่เป็นเลขาเข้าใจตรงนี้ดี เธอไม่บ่นสักคำที่ต้องเชิญแขกเป็นพัน ๆ คน เพราะตกลงกับสามีไว้แล้วว่าพิธีสาบานตนกับสวมแหวนในโบสถ์ จะมีแค่คนสนิทเท่านั้นส่วนงานเลี้ยงจะจัดใหญ่แค่ไหน จะมีแขกกี่พันคนไอรินไม่สน เพราะเธอได้รับสิทธิพิเศษของคนที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ต้องออกไปเดินรับแขกให้เมื่อย แค่อยู่ร่วมงานไม่เกินชั่วโมงก็กลับห้องพักได้ ที่เหลือคนเป็นสามีจะจัดการเอง“ริน”ไอรินหันไปมองตามเสียงเรียก คุณครูไอยราที่วันนี้อยู่ในชุดแสนสวย เดินเข้ามาหาลูกสาวด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า“แม่”“เวียนหัวหรือเปล่า หนุ่มน้อยของยายดื้อไหมวันนี้”“ไม่เลย วันนี้รินไม่รู้สึกอะไรเลย”หนุ่มน้อยของตระกูลแม็กซ์เวลตอนนี้มีอายุได้สามเดือนครึ่งแล้ว หลังกลับจากอิตาลีพลชก็รีบพาไอรินไปฝากครรภ์กับเพื่อนสนิทอย่างหมอวายุ พวกเขาต
“ไอริน!!”“อื้อ ทำไมต้องตะโกน” คนที่เซซบอกสามีบ่นอุบจู่ ๆ ตอนที่ลุกขึ้นไอรินก็รู้สึกว่าโลกมันหมุนเร็วเกินไป ภาพตรงหน้าพร่าเลือนจนเสียหลักล้ม โชคดีที่สามีตัวใหญ่ยืนอยู่ด้านหลังจึงไม่เกิดเรื่องน่าอายขึ้น ไม่อย่างนั้นคนปากร้ายที่รอเหยียบย่ำคงพูดอะไรให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจอีกไอรินฟังออกทั้งหมด สิ่งที่คนพวกนั้นพูดเธอฟังออกทุกคำ แต่ที่ไม่ตอบโต้ก็เพราะไม่ได้ใส่ใจ จิตใจของเธอล่องลอยไปหาเจลาโตรสบลูเบอร์รี่เปรี้ยวอมหวานที่เห็นเมื่อเช้า แค่คิดก็น้ำลายสอ อยากกิน อยากออกไปจากที่นี่เต็มทน“คุณไหวหรือเปล่า”“ไหวค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไร”ไอรินดันตัวออกจากอ้อมแขนของสามี ตอนนี้ทุกคนในห้องรับแขกมองมาที่เธอเป็นตาเดียว พวกเขาทำท่าทางเหมือนเห็นตัวประหลาดที่น่ารังเกียจ ไม่มีความเกรงใจกันสักนิดไม่ยักรู้ว่าตระกูลผู้ดีเขาสั่งสอนลูกหลานกันแบบนี้“ผู้หญิงชั้นต่ำก็เป็นแบบนี้ ชอบเรียกร้องความสนใจ”“โรเบิร์ต”“ผมไม่ได้ทำอะไรใครนี่ครับคุณแม่ แค่พูดความจริง หล่อนฟังเรารู้เรื่องที่ไหน” โรเบิร์ตยักไหล่ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด ไม่ได้แตะต้องหล่อนแม้แต่ปลายก้อย ก็แค่คำพูด ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นก็ฟังไม่ออกฟังไม่ออก ก็แปลว่าเข
“ที่รัก ตื่นได้แล้วครับ”“อื้อ”“ตื่นได้แล้ว เครื่องจะแลนด์ดิ้งแล้วนะ”“ง่วงจัง” ไอรินปรือตาขึ้นมองใบหน้าสามี “ดีนคะ รินอยากนอนต่อจังค่ะ”“ไว้ถึงที่พักแล้วค่อยนอนต่อนะ ตอนนี้ลุกขึ้นมาก่อน”พลชพูดพลางปรับเก้าอี้ให้ภรรยา ไอรินแม้ไม่อยากตื่นแต่ก็จำใจต้องตื่น เสียงประกาศของพนักงานดังไปทั่วทั้งห้องโดยสารว่าอีกยี่สิบนาทีเครื่องจะลงจอดที่ท่าอากาศยานฟีอูมีชีโน ประเทศอิตาลีความง่วงงุนทำให้ไอรินไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าที่ควร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไทม์โซนที่ต่าง ร่างกายที่ยังปรับตัวไม่ได้ หรือเพราะเธอแค่ขี้เกียจกันแน่เพราะช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาไอรินก็เอาแต่นอนเป็นแมวขี้เซา แม้แต่ตอนที่นั่งทำงานเธอยังหลับได้ ลำบากให้สามีต้องอุ้มเข้าไปนอนในห้องเป็นประจำเพราะกลัวว่าภรรยาจะปวดเมื่อยเนื้อตัว ไอรินทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกขอบคุณ แต่ลึก ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์นอกจากจะไม่ได้ช่วยงานพลชอย่างเต็มที่แล้ว เธอยังเป็นตัวถ่วงให้เขาต้องเป็นกังวลอีก“คุณไม่ยอมตื่นมาทานข้าวเลย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากสำรวจภรรยาว่าคาดเข็มขัดดีหรือไม่เรียบร้อยแล้ว “คุณนอนตลอดสิบกว่าชั่วโมงได้ยังไง ไม่เพลียเหรอ”“ไม่เลยค่ะ รินสา
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้ว แต่ทั้งสองคนบนเตียงก็ยังคงตระกองกอดกันไม่ปล่อย ทั้งไอรินและพลชตื่นพร้อมกันตั้งแต่ชั่วโมงก่อน แต่แทนที่พวกเขาจะเร่งรีบลุกขึ้นเตรียมตัวไปทำงานเหมือนปกติ ในวันนี้ทั้งคู่ต่างพร้อมใจกันนอนเอ้อระเหยอย่างสบายอารมณ์เหมือนคนว่างงานเพราะวันนี้ท่านประธานกับเลขาส่วนตัว ใช้สิทธิ์ลางานช่วงเช้าเพื่อไปทำธุระสำคัญ“ที่รัก ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวสาย”“อื้อ รินง่วงมากเลยค่ะ อยากนอนต่อจัง” คนง่วงปรือตาขึ้นน้อย ๆ มองหน้าคนรักอย่างออดอ้อนไอรินน่ารักจนพลชอดใจไม่ไหว เขามอบจูบแสนหวานให้เธอแม้ว่าริมฝีปากอิ่มจะบวมเจ่ออยู่แล้วก็ตาม“อื้อ อย่าค่ะ”คนถูกจูบรีบดันชายหนุ่มออกก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิด เพราะเผลอหน่อยเดียวเสื้อยืดตัวโคร่งก็ถูกถลกขึ้นสูงแล้ว ทรวงอกอิ่มที่ไร้บราห่อหุ้มถูกบีบเคล้นเบา ๆ ไอรินรีบตะครุบมือปลาหมึกเอาไว้ก่อนที่ตัวเองจะใจอ่อน“ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวสาย”“รู้ตัวแล้วเหรอว่ากำลังจะสาย” พลชยอมละมือออกแต่โดยดี “ไปอาบน้ำกันที่รัก”“ไม่เอานะคะ อ๊ะ!”แขนเรียวรีบยกขึ้นคล้องต้นคอแกร่งเมื่อถูกช้อนตัวขึ้น สะโพกมนสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่ดุนดันอย่างก้าวร้าว ดวงตาคู่ส
“เหมือนว่าการที่เรารักกันมันจะไม่ง่ายเลยนะคะ” “ไอริน อย่าพูดแบบนี้”พลชส่ายอย่างตื่นตระหนก เขากลัว กลัวว่าประโยคต่อมาของไอรินจะทำให้หัวใจของเขาแตกสลาย“ทำไมคะ รินคิดว่า..”“ไม่นะริน! ไม่พูดคำนั้นออกมานะที่รัก”พลช ดีน แม็กซ์เวล ทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้น ใช้สองแขนกอดรัดร่างเพรียวบางของแฟนสาวเอาไว้แน่น ซบใบหน้ากับหน้าท้องราบเรียบด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจเขากลัว กลัวว่าไอรินจะบอกเลิกเขากลัวว่าไอรินหายไปอีกครั้งเขากลัว“อึก”“คุณ..”ความหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตา ชายหนุ่มวัยสามสิบสี่ปีร่ำไห้เพียงเพราะกลัวว่าคนรักจะทิ้งไป ไม่เหลือคราบนักธุรกิจดังที่มีแค่คนเกรงใจในอำนาจ ตอนนี้พลชไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นนอกจากไอริน“อย่าทิ้งผมไปนะริน ได้โปรด”“ดีนคะ”“ให้ผมทำยังไงก็ได้ อึก ผมทำได้ทุกอย่าง แต่เราไม่เลิกกันนะริน ไม่เลิกกันได้ไหม ฮึก”ไอรินอ้าปากค้าง ก่อนที่มือบางฟาดผลัวะเข้าที่ไหล่กว้างเต็มแรง ทำเอาคนที่กำลังร้องไห้หยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมองแฟนสาวทั้งน้ำตาทั้งเสียใจ ทั้งเจ็บตัว ทั้งงุนงง พลชเหมือนลูกหมาตัวโต ๆ ที่เจ้าของไม่พาไปเดินเล่น“เลิกอะไรคะ!” ไอรินถามเสียงเขียว ฟาดมือกับไหล่หนาอีกที “ตบปา
“ในที่สุดลูกชายซื่อบื้อของมัมก็พาหนูรินกลับมาจนได้”หลังจากกอดหอมไอรินจนหนำใจ พิมพ์ดาวก็หันไปค่อนแคะลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ถ้าไม่ตรอมใจจนเข้าโรงพยาบาล ป่านนี้คนซื่อบื้อก็ยังคงซื่อบื้อต่อไปพลชไม่ได้โกรธแม่แต่ก็หัวเราะไม่ออกเหมือนกัน แค่คิดว่าต้องเสียไอรินไปอีกครั้ง ก้อนเนื้อในอกซ้ายก็บีบรัดอย่างรุนแรง เหมือนว่ามันกำลังจะแตกสลาย“อื้ออ ดีนคะ!” ไอรินตีแขนแกร่งที่จู่ ๆ ก็เข้ามาโอบรัดรอบเอว “ทำอะไรคะ คุณมัมกับคุณแด๊ดมองอยู่นะ”“อยากกอด ผมกลัวว่ารินจะหายไป”“รินจะหายไปได้ยังไงล่ะคะ”“คงฝังใจน่ะสิ” พิมพ์ดาวเอ่ยเหมือนเข้าไปนั่งกลางใจของลูกชาย “อย่างงี้ล่ะน้า คนมันเคยพลาดมาก่อน คงกลัวว่าจะซ้ำรอยเดิมอีก”“อะไรเหรอคะคุณมัม”“ดีนกำลังกลัวว่าจะเสียรินไปอีกน่ะลูก”ไอรินทั้งเข้าใจ และเห็นใจคนรัก เธอไม่รู้หรอกว่าสามเดือนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง แต่จากสภาพทรุดโทรมที่ได้เห็น และที่วิลล์กับไมค์เล่าให้ฟังว่าพลชถึงขั้นหมดสติ ต้องหามส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาเองก็คงเจ็บปวดไม่ต่างกันไม่มีใครมีความสุขกับการจากลาในครั้งนั้น ไม่แปลกเลยที่พลชจะจำฝังใจ เพราะแม้แต่ตัวเธอก็ยังหลงเหลือบาดแผลเล็ก ๆ
ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของชาวบ้าน ใช้เวลาแค่สิบวัน โรงเรียนที่ถูกปรับปรุงก็เสร็จสมบูรณ์ หลังจากให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าไม่มีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขแล้ว เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีก็ดังก้องไปทั่วดอยเล็ก ๆ แห่งนี้“ในที่สุดโรงเรียนก็เสร็จแล้ว!”“หลังจากนี้เด็ก ๆ จะได้มีอาคารเรียนดี ๆ ไม่ต้องกลัวว่าหลังคาจะรั่วตอนฝนตกอีก”“ห้องน้ำก็มิดชิดขึ้น โรงอาหารก็ใหญ่โต เด็ก ๆ โชคดีกันมากนะรู้ไหม สมัยพี่เรียนไม่มีอะไรแบบนี้หรอก ต้องตั้งใจเรียนนะ อย่าให้พวกพี่เสียแรงเปล่าล่ะ”เด็ก ๆ ต่างพากันพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน ดวงตาสุกสกาวไร้เดียงสามองโรงเรียนที่เกือบจะจำภาพเดิมไม่ได้ด้วยความตื่นเต้นยินดี นอกจากอาคารเก่าที่ถูกปรับปรุงใหม่จนแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังมีอาคารอีกหนึ่งหลังที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วย ทั้งใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า เด็ก ๆ ตื่นเต้นจนอยากเข้าไปเรียนเสียเดี๋ยวนี้ในอาคารนั้นมีทั้งห้องสมุด ห้องวิทยาศาสตร์ แถมยังมีเครื่องคอมพิวเตอร์อีกห้าเครื่องตั้งไว้ให้เด็ก ๆ ได้ลองใช้ รวมถึงมีทีวีขนาดยักษ์ ที่ครูไอยราบอกว่าจะมีครูสอนพวกเด็ก ๆ จากในนั้นได้ยินว่าเป็นการเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม เด็ก ๆ ไม่เข้าใจสิ่งนี้ ผู
“อยู่บ้านดี ๆ นะริน ส่วนดีน เราน่ะอย่ารั้นจะไปช่วยชาวบ้านนัก เจ็บแบบนี้ยิ่งไปช่วยชาวบ้านเขาจะยิ่งเป็นกังวลจนไม่เป็นอันทำงานทำการกันพอดี”นักธุรกิจหนุ่มนั่งคอตก เถียงคุณครูไอยราไม่ออกเพราะตัวเองทำผิดจริง ๆเขาพักรักษาตัวมาได้สองวันแล้ว จุดที่ช้ำเริ่มเป็นสีม่วงเข้ม แต่เพราะยาจากไอยราทำให้รอยช้ำไม่น่ากลัวเท่าที่คิด ส่วนแผลที่แขนก็สมานกันดี พลชจึงแอบหนีไอรินไปที่โรงเรียน หวังจะช่วยหยิบจับอะไรได้บ้างแต่พอชาวบ้านเจอหน้าเขา ทุกคนก็พากันเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก จนครูไอยราต้องมาไล่ให้ว่าที่ลูกเขยกลับบ้านตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่าพลชคือใคร และเพราะรู้ ทุกคนถึงได้หวั่นเกรงแบบนี้ สำหรับชาวบ้านตาดำ ๆ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่แมลงศัตรูพืช แต่เป็นนายทุนอย่างพลชต่างหาก ขึ้นชื่อว่านายทุน.. ผลประโยชน์ย่อมมาก่อนทุกอย่างเสมอ ไม่รู้ว่าวันดีคืนดี จากหนุ่มลูกครึ่งแสนดีที่ชาวบ้านรักใคร่ จะกลายเป็นคนหน้าเลือดกว้านซื้อที่ดิน จนคนหาเช้ากินค่ำไม่มีที่ซุกหัวนอนวันไหน“วันนี้ชาวบ้านมองผมแปลก ๆ” พลชฟ้องคนรัก ระหว่างที่เปิดเสื้อขึ้นเพื่อให้ไอรินประคบสมุนไพรไอรินที่รู้เรื่องทุกอย่างดีไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แฟนหนุ่มยัง