“ลุกขึ้นยืน”“คะ?”“ลุกขึ้น” พลชย้ำ “ลุกขึ้นยืนให้ผมดู.. รูปร่างของคุณ”ไอรินลุกขึ้นยืนอย่างเก้ ๆ กัง ๆ “คงไม่.. ต้องถอดเสื้อผ้าใช่ไหมคะ”“ไม่” พลชชี้นิ้วไปที่กล้องวงจรตัวจิ๋วที่หันหน้ามาทางพวกเขาพอดิบพอดี “คุณคงไม่อยากให้คนอื่นเห็นคุณโป๊”“ไม่แน่นอนค่ะ!”“หมุนตัว”ไอรินหมุนตัวอย่างว่าง่าย ถึงจะแอบเขินอยู่หน่อย ๆ แต่ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็แค่หมุนตัวให้เขาดูเอง ถ้าได้งานนี้จริง ๆ ยังไงวันข้างหน้าเธอก็ต้องทำมากกว่านี้อยู่แล้ว“คุณไม่ได้โกหกเรื่องสัดส่วน”“ไม่ได้โกหกค่ะ เสื้อผ้าทำงานส่วนมากดิฉันต้องสั่งตัด ก็เลยจำได้แม่น”“รูปร่างของคุณไม่เหมือนคนอื่น หน้าอกใหญ่แต่เอวเล็ก ไม่แปลกที่ต้องสั่งตัด เพราะรูปร่างแบบนี้หาเสื้อผ้าสำเร็จใส่ยาก” ไม่พูดเปล่า พลชยังมองสองส่วนนั้นอย่างจงใจไอรินเบนสายตาหนีดวงตาคมกริบ เธอไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือไม่พอใจ เพราะที่พลชมองมันไม่ได้ผิดอะไร เธอตกลงและเต็มใจแล้ว มันไม่ใช่การล่วงละเมิดที่หลบตาไม่ใช่เพราะความอึดอัด แต่เธอเขินสายตาของเขาเหมือนกำลังเปลื้องผ้าเธอออกทีละชิ้น ทีละชิ้น มันทำให้ร่างกายของเธอร้อนผ่าว เหมือนกำลังเปลือยกาย ทั้ง ๆ ที่ยังสวมใส่เสื้อผ้าคร
ไอรินกำลังตกงานหลังจากเรียนจบตอนอายุยี่สิบสองปี ไอรินก็สมัครเข้าทำงานกับบริษัทมีชื่อเสียงพอสมควรในตำแหน่งเลขาผู้จัดการฝ่ายการตลาด ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดี เธอมีอาชีพที่มั่นคง เงินเดือนพอเลี้ยงปากท้องและผ่อนคอนโดได้ มีเหลือส่งให้แม่ที่เชียงราย และเหลือเก็บเล็กน้อยไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เธอวาดฝันว่าคงทำงานที่นี่จนเกษียณ เก็บเงินไว้เยอะ ๆ แล้ว ลาออกไปเลี้ยงแมวสักตอนอายุห้าสิบแต่ฝัน ก็เป็นได้แค่ฝันไอรินมักจะอยู่ทำงานจนดึกเป็นนิสัย เธอเป็นคนขยันที่ไม่เคยได้โอที โบนัสก็ได้เท่ากับคนอื่น ๆ แต่เพราะตอนนั้นเธอยังไร้เดียงสา คิดว่าถ้าเราดีกับองค์กร องค์กรก็จะดีตอบ ใสซื่อกับโลกใบนี้จนลืมคิดไปว่าพวกนายทุนมันเลววันหนึ่งเธอถูกเจ้านายที่ทำงานมาด้วยสองปีลวนลาม โชคดีที่รอดมาได้ แต่พอแจ้งเรื่องนี้กับฝ่ายบุคคล เรื่องก็ไปถึงผู้บริหารผลคือเธอถูกไล่ออก ถูกกล่าวหาว่าปั้นน้ำเป็นตัว ใส่ร้ายผู้จัดการที่เป็นญาติของผู้บริหารอีกทีวันที่ถูกไล่ออกตรงกับวันเกิดปีที่ยี่สิบห้าของเธอพอดี ต้อนรับปีเบญจเพสด้วยความซวยและห่วยแตก แต่คนอย่างไอรินไม่เคยยอมแพ้กับอะไรง่าย ๆ ภาระยังมี คอนโดก็ยังต้องผ่อน เธอจะมัวแต่น้อยเนื้อต่ำใจกับ
โลกของคนรวย แตกต่างกับโลกของเธอลิบลับไอรินมองโถงกว้างที่ตกแต่งเหมือนพระราชวังในต่างประเทศด้วยความตกตะลึง จำได้ว่าเธอเคยผ่านตึกนี้บ่อย ๆ เพราะอยู่ระหว่างคอนโดและที่ทำงานเก่า มองจากภายนอกก็พอจะรู้ว่าข้างในคงจะสวยมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้ล็อบบี้ตกแต่งด้วยหินอ่อนทั้งหมด คุมโทนเป็นสีโรสโกลหรูหรา ประดับคริสตัลระยิบระยับและกระจกให้ดูกว้างขวาง แชนเดอเรียคริสตัลขนาดใหญ่ห้อยระย้าตรงกลาง เสริมให้ล็อบบี้หรูหราเหมือนพระราชวังจริง ๆ“ทางนี้ครับคุณไอริน”หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย รีบหุบปากที่อ้ากว้างจนน้ำลายแทบหก เธอยืดตัวตรง ก่อนจะเดินตามร่างสูงใหญ่ไปยังโถงลิฟต์แม่เจ้า!ปากอิ่มอ้าออกอีกครั้ง ถ้าล็อบบี้หรูหราแล้ว โถงลิฟต์นี่คงหรูกว่าเป็นพันเท่า เธอไม่รู้ว่าเจ้าของโครงการเสียเงินกับค่าตกแต่งไปเท่าไหร่ แต่มั่นใจว่าแค่ลิฟต์ตัวเดียวราคามันคงสูงกว่าเงินที่เธอจะหาได้ทั้งชีวิต“เชิญครับ”ไอรินเดินตัวลีบเข้าไปลิฟต์ตัวที่เปิดออก เธอพยายามทำตัวให้ผอมที่สุด กลัวว่าจะเผลอเอาร่างกายไปสัมผัสกับความหรูหราจนเป็นรอย เพราะเธอคงไม่มีเงินมาชดใช้.. ห้องโดยสารเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหยุดลงที่ชั้นสามสิบเก้า“เชิ
“ไม่ต้องล็อกประตู ผมจะไปนอนกับคุณ”แค่ก!ไอรินสำลักหน้าดำหน้าแดง เธอไอไม่หยุดจนพลชต้องยื่นกระดาษทิชชู่ให้ เลขาสาวได้แต่ขอบคุณเบา ๆ แล้วใช้กระดาษแผ่นนั้นซับน้ำหูน้ำตาที่ไหลซึมออกมา“คุณโอเคหรือเปล่า”“แค่ก ริน.. รินโอเคค่ะ” เธอยิ้มแหย กี่ครั้งแล้วที่ทำตัวขายหน้าต่อหน้าเจ้านายแบบนี้ “แค่สำลัก สงสัยรินดื่มน้ำไวไป”“ไม่ใช่เพราะเรื่องที่ผมพูดใช่ไหม”“มะ ไม่ใช่ค่ะ” ไอรินรีบปฏิเสธ เธอกลัวว่าจะทำให้เขาไม่พอใจ ทั้ง ๆ ที่ความจริงก็เป็นเพราะเรื่องที่บอสพูดนั่นแหละจู่ ๆ ก็บอกว่าจะมานอนด้วย จะไม่ให้เธอตกใจได้ยังไง ทั้งชีวิตเคยนอนกับผู้ชายที่ไหนกัน แฟนสักคนก็ไม่เคยมี“ผมคิดว่าคุณยังไม่พร้อม จะได้เลื่อนไปก่อน แต่ถ้าคุณไม่มีปัญหาก็เตรียมตัวให้เรียบร้อย เสร็จงานผมจะเข้าไปหา”พลชพูดเนิบ ๆ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วปลีกตัวออกไป ทิ้งให้ไอรินนั่งอ้าปากพะงาบ ๆ อยากเปลี่ยนคำพูดตอนนี้ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันซะแล้ว“อ้อ ผมชอบคนสะอาด สองชั่วโมงระหว่างผมทำงานหวังว่าคุณจะจัดการตัวเองให้ผมพอใจได้”เขาไม่ลืมย้ำเรื่องสำคัญ ความสะอาดสำหรับพลชคือเรื่องใหญ่ เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาคิดหาคู่นอนประจำไม่รู้ว่าผู้
“บอสไม่เคยมีเลขามาก่อน คุณเป็นคนแรก”“ฉันน่ะเหรอคะ?”ไอรินชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยความงุนงง นักธุรกิจพันล้านแบบพลชไม่มีเลขาส่วนตัว เป็นไปได้ยังไง“ใช่ครับ บอสไม่มีเลขา มีแค่ผมกับไมค์ที่เป็นผู้ช่วย และก็ไม่เคยมีคนสนิทที่เป็นผู้หญิงด้วย บอสเคยบอกว่าทำงานกับผู้ชายสะดวกกว่า ไปไหนไปกันได้ ไม่ยุ่งยาก”“แล้ว เอ่อ.. ทำไมจู่ ๆ บอสถึงอยากมีเลขาล่ะคะ”“เรื่องนี้คงต้องถามบอสเองครับ” วิลล์พูดพลางเปิดประตูห้องทำงานให้เลขาสาวคนแรกของบอส “ว่าทำไมบอสถึงเพิ่งมาอยากมีเลขาตอนนี้”เสียงของวิลล์ไม่เบาเลย แน่นอนว่าพลชได้ยินมันเต็มสองหู เขาส่งสายตาดุ ๆ ไปให้ลูกน้องคนสนิท พวกเขาสนิทถึงขั้นที่พูดคุยหยอกล้อกันได้ วิลล์ถึงได้กล้าพูดต่อหน้าเขาแบบนี้ไอรินสบตาคมกริบ ก่อนจะหลุบลงพื้นอย่างรวดเร็ว มือบางประสานเข้าหากันแนบแน่น จู่ ๆ ก็รู้สึกร้อนที่ฝ่ามือขึ้นมา เหมือนว่าส่วนนั้นของเขายังอยู่ในอุ้งมือของเธอเหมือนเมื่อคืน..“รินขยับแบบนี้ ถูกไหมคะ” “อืม ดี ไอริน ซี้ดด” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าดังถี่กระชั้น ไอรินขยับมืออย่างเชื่องช้าในคราวแรก ก่อนจะเริ่มเร่งจังหวะถี่ ๆ ดวงตาจับจ้องมองส่วนปลายอวบหยักที่ผลุบเข้าออกระหว่างซอกน
ท่อนเนื้อสะอาดสะอ้านพองตัวขึ้นเมื่อได้สัมผัสอากาศเย็นฉ่ำ ไอรินเบนสายตาไปทางอื่นสักพัก ก่อนจะวกกลับมาหาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพลชเป็นชายหนุ่มที่รักสะอาดมาก เพราะความเรื่องมากทำให้เวลาที่มีความต้องการ วิลล์กับไมค์จะหาผู้หญิงมาให้ได้ยาก นั่นคือเหตุผลสำคัญที่พลชต้องการผูกปิ่นโตกับใครสักคนที่ถูกใจและไอรินคือคนนั้นถึงจะยังไม่ได้แตะต้อง แม้แต่ร่างกายภายใต้เสื้อผ้าที่เกะกะก็ไม่เคยได้เห็น แต่พลชกลับมั่นใจว่าเขาต้องถูกใจไอรินมากแน่ ๆ เธอฉลาด เรียนรู้ไว สอนง่ายและจำเก่ง อย่างเช่นตอนนี้“อืม”เสียงครางต่ำดังขึ้นในลำคอเพราะความรู้สึกพึงพอใจ เมื่อคืนเพิ่งสอนไปแท้ ๆ แต่วันนี้ไอรินกลับทำได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่องมือนุ่มรูดรั้งท่อนเอ็นอุ่นขึ้นลงช้า ๆ เส้นเลือดที่ปูดโปนรอบ ๆ ทำให้ตัวตนของพลชดูน่าเกรงขาม ขนาดเกินมาตรฐานสำหรับคนที่มีเชื้อสายตะวันตกยิ่งทำให้ดูน่ากลัว ไอรินรู้ว่ามันยังตื่นตัวได้ไม่เต็มที่ แต่แค่นี้เธอก็เกือบจะกำได้ไม่รอบแล้ว“ไอริน”นิ้วหัวแม่มือบดคลึงกลีบปากนุ่มเบา ๆ มือของไอรินวิเศษมาก แต่ตอนนี้เขาต้องการอย่างอื่นมากกว่า“อ้าปากออกสิ”เลขาสาวทำตามอย่างว่าง่าย ริมฝีปากอวบอิ่มชุ่มชื้นด้วยลิปสติ
“ซี้ดด ไอริน ผมแตกใส่ปากคุณได้หรือเปล่า” ต้องถามด้วยเหรอไอรินไม่คิดว่ามันจำเป็น เพราะเธอกำลังทำหน้าที่ พลชเป็นเจ้านาย เขาสามารถทำอะไรกับเธอก็ได้อยู่แล้ว“ถ้าคุณให้ผมเสร็จในปากได้ ผมจะจ่ายให้คุณสองแสน”ถ้าน้ำเสียงของพลชเต็มไปด้วยความดูถูก ไอรินคงลุกขึ้นด่ากราดไปแล้ว ถึงเธอจะชอบเงินและอยากได้เงินแค่ไหน แต่เธอก็มีศักดิ์ศรี เธอขายร่างกาย ไม่ได้ขายความเป็นคนให้ใครมาดูถูกตามใจชอบแต่เขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงในเชิงเหยียดหยามดูแคลนเธอเลย ติดไปทางอ้อนวอนด้วยซ้ำ“ผมแค่อยากตอบแทนคุณ มันคือโบนัสเพราะคุณทำให้ผมถูกใจ อย่าคิดว่าผมดูถูกคุณเลย”ไอรินเชื่ออย่างหมดใจว่าพลชหมายความว่าแบบนั้นจริง ๆ คนที่อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหารแบบเขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอธิบายเพิ่มแบบนี้ด้วยซ้ำ จะเป็นเหมือนเจ้านายทั่วไปที่ใช้อำนาจจิกหัวใช้งานลูกน้องก็ได้ แต่พลชไม่ทำไอรินเจอแต่เจ้านายแบบนั้นมาตลอด พอได้มาเจอพลชมันทำเธอรู้สึกดี ดวงตาคู่สวยจึงฉายแววมุ่งมั่น ตั้งใจจะทำให้บอสพอใจมากเท่าที่จะทำได้“ซี้ดดด!!”พลชเสียววูบไปทั่วหน้าท้อง จู่ ๆ ไอรินที่นิ่งไปสักพักก็ดูดดึงความแข็งขืนเหมือนคนหิวกระหาย แก้มทั้งสองข้างเดี๋ยวป่องออก เดี๋
พลชอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ตลอดช่วงบ่ายเขาทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจนลูกน้องคนสนิทยังแปลกใจ หลังจากคุยงานกับเจ้านายเสร็จวิลล์ก็ขอตัวออกมาข้างนอก ส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานคนใหม่ พร้อมรับสายที่โทรทางไกลเข้ามา“อะไรนะ! ด่วนขนาดนั้นเลยเหรอครับ”ไอรินเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยแล้วก้มหน้าทำงานต่ออย่างไม่ใส่ใจ อีกฝ่ายพูดภาษาอิตาลี เป็นหนึ่งในภาษาที่เธอร่ำเรียนมา แน่นอนว่าเธอฟังออกทั้งหมด“เดินทางคืนนี้มันกะทันหันไป ผมหาตั๋วให้บอสได้ แต่บอสเองก็มีงานการต้องทำนะครับคุณราฟ”ไอรินกลับมาสนใจอีกครั้งเมื่อบทสนทนาเอ่ยถึงเจ้านาย แต่เธอยังมีมารยาทพอไม่เงยหน้าขึ้นฟังอย่างประเจิดประเจ้อ“แล้วทำไมคุณไม่โทรสายตรงหาบอสเองล่ะครับ ให้ผมรับหน้าให้ตลอด” ผู้ช่วยหนุ่มอดตัดพ้อไม่ได้ “ก็ได้ครับ ผมจะบอกบอสให้”วิลล์พูดแค่นั้นก็กดวางสาย ชายหนุ่มมองหน้าไอรินเล็กน้อยแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของพลช สักพักไอรินก็ได้ยินเสียงไม่สบอารมณ์ของเจ้าของห้องดังออกมา“มันคิดว่ามันเป็นใคร! ถึงอยากให้ฉันไปหาเมื่อไหร่ก็ได้ ฉันไม่ไป!!”ไอรินชะเง้อคอมองทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนว่าบอสจะไม่พอใจเอามาก ๆด้านในห้องทำง
ช่วงเวลายาวนานที่ต้องอุ้มท้องลูกน้อยเดินทางมาถึงเดือนสุดท้าย ไอรินไม่สามารถขยับตัวได้คล่องเพราะหน้าท้องที่นูนใหญ่ ใหญ่จนบางครั้งหลายคนที่เห็นยังอดถามไม่ได้ว่าลูกแฝดหรือเปล่า คนเป็นแม่ได้แต่หัวเราะแล้วตอบไปว่าเพราะพ่อเขาบำรุงดี ลูกชายถึงได้ตัวโตจ้ำม้ำไอรินหายแพ้ท้องหลังจากเข้าเดือนที่สี่ เธอยังคงไปทำงานที่บริษัทในตำแหน่งเลขาของท่านประธานเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ทุกคนต่างรับรู้โดยทั่วกันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นแค่เลขาทั่วไป ไอรินคือคุณนายแม็กซ์เวล และกำลังอุ้มท้องทายาทคนแรกของแม็กซ์เวลอยู่ นอกจากต้องให้ความเคารพแล้ว ยังต้องคอยเป็นหูเป็นตาดูแลความปลอดภัยให้ไอรินและคุณชายน้อยด้วยใคร ๆ ก็บอกว่าลูกชายในท้องของไอรินอภิชาตบุตร เพราะยังไม่ทันคลอดก็นำเรื่องราวดี ๆ มาให้ครอบครัว ไม่ว่าพลชจะหยิบจับอะไรก็สร้างเม็ดเงินและความรุ่งเรืองมาให้ PDM group เสมอ ตั้งแต่ภรรยาตั้งครรภ์พลชก็ก้าวขึ้นไปอีกขั้นในวงการธุรกิจ เขากลายเป็นชายหนุ่มอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีทรัพย์สินมากกว่าหมื่นล้านในวัยเพียงสามสิบต้น ๆในสายตาของคนนอกพลชยิ่งใหญ่ และมีอำนาจไม่ด้อยไปกว่าใคร ทว่าในสายตาข
งานแต่งของ พลช ดีน แม็กซ์เวล แน่นอนว่าย่อมต้องไม่ธรรมดา ลำพังแค่กลุ่มนักธุรกิจ นักข่าว หรือคนที่มีผลประโยชน์ต่อกันก็แทบล้นสถานที่จัดงานแล้ว จะไม่เชิญใครก็ไม่ได้ การทำธุรกิจยังไงก็อาศัยคอนเนคชั่นเป็นหลัก ถึงตอนนี้พลชจะมีอำนาจมากมายล้นฟ้า แต่ไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นการคีพคอนเนคชั่นไว้จึงสำคัญไอรินที่เป็นเลขาเข้าใจตรงนี้ดี เธอไม่บ่นสักคำที่ต้องเชิญแขกเป็นพัน ๆ คน เพราะตกลงกับสามีไว้แล้วว่าพิธีสาบานตนกับสวมแหวนในโบสถ์ จะมีแค่คนสนิทเท่านั้นส่วนงานเลี้ยงจะจัดใหญ่แค่ไหน จะมีแขกกี่พันคนไอรินไม่สน เพราะเธอได้รับสิทธิพิเศษของคนที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ต้องออกไปเดินรับแขกให้เมื่อย แค่อยู่ร่วมงานไม่เกินชั่วโมงก็กลับห้องพักได้ ที่เหลือคนเป็นสามีจะจัดการเอง“ริน”ไอรินหันไปมองตามเสียงเรียก คุณครูไอยราที่วันนี้อยู่ในชุดแสนสวย เดินเข้ามาหาลูกสาวด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า“แม่”“เวียนหัวหรือเปล่า หนุ่มน้อยของยายดื้อไหมวันนี้”“ไม่เลย วันนี้รินไม่รู้สึกอะไรเลย”หนุ่มน้อยของตระกูลแม็กซ์เวลตอนนี้มีอายุได้สามเดือนครึ่งแล้ว หลังกลับจากอิตาลีพลชก็รีบพาไอรินไปฝากครรภ์กับเพื่อนสนิทอย่างหมอวายุ พวกเขาต
“ไอริน!!”“อื้อ ทำไมต้องตะโกน” คนที่เซซบอกสามีบ่นอุบจู่ ๆ ตอนที่ลุกขึ้นไอรินก็รู้สึกว่าโลกมันหมุนเร็วเกินไป ภาพตรงหน้าพร่าเลือนจนเสียหลักล้ม โชคดีที่สามีตัวใหญ่ยืนอยู่ด้านหลังจึงไม่เกิดเรื่องน่าอายขึ้น ไม่อย่างนั้นคนปากร้ายที่รอเหยียบย่ำคงพูดอะไรให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจอีกไอรินฟังออกทั้งหมด สิ่งที่คนพวกนั้นพูดเธอฟังออกทุกคำ แต่ที่ไม่ตอบโต้ก็เพราะไม่ได้ใส่ใจ จิตใจของเธอล่องลอยไปหาเจลาโตรสบลูเบอร์รี่เปรี้ยวอมหวานที่เห็นเมื่อเช้า แค่คิดก็น้ำลายสอ อยากกิน อยากออกไปจากที่นี่เต็มทน“คุณไหวหรือเปล่า”“ไหวค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไร”ไอรินดันตัวออกจากอ้อมแขนของสามี ตอนนี้ทุกคนในห้องรับแขกมองมาที่เธอเป็นตาเดียว พวกเขาทำท่าทางเหมือนเห็นตัวประหลาดที่น่ารังเกียจ ไม่มีความเกรงใจกันสักนิดไม่ยักรู้ว่าตระกูลผู้ดีเขาสั่งสอนลูกหลานกันแบบนี้“ผู้หญิงชั้นต่ำก็เป็นแบบนี้ ชอบเรียกร้องความสนใจ”“โรเบิร์ต”“ผมไม่ได้ทำอะไรใครนี่ครับคุณแม่ แค่พูดความจริง หล่อนฟังเรารู้เรื่องที่ไหน” โรเบิร์ตยักไหล่ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด ไม่ได้แตะต้องหล่อนแม้แต่ปลายก้อย ก็แค่คำพูด ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นก็ฟังไม่ออกฟังไม่ออก ก็แปลว่าเข
“ที่รัก ตื่นได้แล้วครับ”“อื้อ”“ตื่นได้แล้ว เครื่องจะแลนด์ดิ้งแล้วนะ”“ง่วงจัง” ไอรินปรือตาขึ้นมองใบหน้าสามี “ดีนคะ รินอยากนอนต่อจังค่ะ”“ไว้ถึงที่พักแล้วค่อยนอนต่อนะ ตอนนี้ลุกขึ้นมาก่อน”พลชพูดพลางปรับเก้าอี้ให้ภรรยา ไอรินแม้ไม่อยากตื่นแต่ก็จำใจต้องตื่น เสียงประกาศของพนักงานดังไปทั่วทั้งห้องโดยสารว่าอีกยี่สิบนาทีเครื่องจะลงจอดที่ท่าอากาศยานฟีอูมีชีโน ประเทศอิตาลีความง่วงงุนทำให้ไอรินไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าที่ควร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไทม์โซนที่ต่าง ร่างกายที่ยังปรับตัวไม่ได้ หรือเพราะเธอแค่ขี้เกียจกันแน่เพราะช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาไอรินก็เอาแต่นอนเป็นแมวขี้เซา แม้แต่ตอนที่นั่งทำงานเธอยังหลับได้ ลำบากให้สามีต้องอุ้มเข้าไปนอนในห้องเป็นประจำเพราะกลัวว่าภรรยาจะปวดเมื่อยเนื้อตัว ไอรินทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกขอบคุณ แต่ลึก ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์นอกจากจะไม่ได้ช่วยงานพลชอย่างเต็มที่แล้ว เธอยังเป็นตัวถ่วงให้เขาต้องเป็นกังวลอีก“คุณไม่ยอมตื่นมาทานข้าวเลย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากสำรวจภรรยาว่าคาดเข็มขัดดีหรือไม่เรียบร้อยแล้ว “คุณนอนตลอดสิบกว่าชั่วโมงได้ยังไง ไม่เพลียเหรอ”“ไม่เลยค่ะ รินสา
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้ว แต่ทั้งสองคนบนเตียงก็ยังคงตระกองกอดกันไม่ปล่อย ทั้งไอรินและพลชตื่นพร้อมกันตั้งแต่ชั่วโมงก่อน แต่แทนที่พวกเขาจะเร่งรีบลุกขึ้นเตรียมตัวไปทำงานเหมือนปกติ ในวันนี้ทั้งคู่ต่างพร้อมใจกันนอนเอ้อระเหยอย่างสบายอารมณ์เหมือนคนว่างงานเพราะวันนี้ท่านประธานกับเลขาส่วนตัว ใช้สิทธิ์ลางานช่วงเช้าเพื่อไปทำธุระสำคัญ“ที่รัก ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวสาย”“อื้อ รินง่วงมากเลยค่ะ อยากนอนต่อจัง” คนง่วงปรือตาขึ้นน้อย ๆ มองหน้าคนรักอย่างออดอ้อนไอรินน่ารักจนพลชอดใจไม่ไหว เขามอบจูบแสนหวานให้เธอแม้ว่าริมฝีปากอิ่มจะบวมเจ่ออยู่แล้วก็ตาม“อื้อ อย่าค่ะ”คนถูกจูบรีบดันชายหนุ่มออกก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิด เพราะเผลอหน่อยเดียวเสื้อยืดตัวโคร่งก็ถูกถลกขึ้นสูงแล้ว ทรวงอกอิ่มที่ไร้บราห่อหุ้มถูกบีบเคล้นเบา ๆ ไอรินรีบตะครุบมือปลาหมึกเอาไว้ก่อนที่ตัวเองจะใจอ่อน“ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวสาย”“รู้ตัวแล้วเหรอว่ากำลังจะสาย” พลชยอมละมือออกแต่โดยดี “ไปอาบน้ำกันที่รัก”“ไม่เอานะคะ อ๊ะ!”แขนเรียวรีบยกขึ้นคล้องต้นคอแกร่งเมื่อถูกช้อนตัวขึ้น สะโพกมนสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่ดุนดันอย่างก้าวร้าว ดวงตาคู่ส
“เหมือนว่าการที่เรารักกันมันจะไม่ง่ายเลยนะคะ” “ไอริน อย่าพูดแบบนี้”พลชส่ายอย่างตื่นตระหนก เขากลัว กลัวว่าประโยคต่อมาของไอรินจะทำให้หัวใจของเขาแตกสลาย“ทำไมคะ รินคิดว่า..”“ไม่นะริน! ไม่พูดคำนั้นออกมานะที่รัก”พลช ดีน แม็กซ์เวล ทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้น ใช้สองแขนกอดรัดร่างเพรียวบางของแฟนสาวเอาไว้แน่น ซบใบหน้ากับหน้าท้องราบเรียบด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจเขากลัว กลัวว่าไอรินจะบอกเลิกเขากลัวว่าไอรินหายไปอีกครั้งเขากลัว“อึก”“คุณ..”ความหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตา ชายหนุ่มวัยสามสิบสี่ปีร่ำไห้เพียงเพราะกลัวว่าคนรักจะทิ้งไป ไม่เหลือคราบนักธุรกิจดังที่มีแค่คนเกรงใจในอำนาจ ตอนนี้พลชไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นนอกจากไอริน“อย่าทิ้งผมไปนะริน ได้โปรด”“ดีนคะ”“ให้ผมทำยังไงก็ได้ อึก ผมทำได้ทุกอย่าง แต่เราไม่เลิกกันนะริน ไม่เลิกกันได้ไหม ฮึก”ไอรินอ้าปากค้าง ก่อนที่มือบางฟาดผลัวะเข้าที่ไหล่กว้างเต็มแรง ทำเอาคนที่กำลังร้องไห้หยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมองแฟนสาวทั้งน้ำตาทั้งเสียใจ ทั้งเจ็บตัว ทั้งงุนงง พลชเหมือนลูกหมาตัวโต ๆ ที่เจ้าของไม่พาไปเดินเล่น“เลิกอะไรคะ!” ไอรินถามเสียงเขียว ฟาดมือกับไหล่หนาอีกที “ตบปา
“ในที่สุดลูกชายซื่อบื้อของมัมก็พาหนูรินกลับมาจนได้”หลังจากกอดหอมไอรินจนหนำใจ พิมพ์ดาวก็หันไปค่อนแคะลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ถ้าไม่ตรอมใจจนเข้าโรงพยาบาล ป่านนี้คนซื่อบื้อก็ยังคงซื่อบื้อต่อไปพลชไม่ได้โกรธแม่แต่ก็หัวเราะไม่ออกเหมือนกัน แค่คิดว่าต้องเสียไอรินไปอีกครั้ง ก้อนเนื้อในอกซ้ายก็บีบรัดอย่างรุนแรง เหมือนว่ามันกำลังจะแตกสลาย“อื้ออ ดีนคะ!” ไอรินตีแขนแกร่งที่จู่ ๆ ก็เข้ามาโอบรัดรอบเอว “ทำอะไรคะ คุณมัมกับคุณแด๊ดมองอยู่นะ”“อยากกอด ผมกลัวว่ารินจะหายไป”“รินจะหายไปได้ยังไงล่ะคะ”“คงฝังใจน่ะสิ” พิมพ์ดาวเอ่ยเหมือนเข้าไปนั่งกลางใจของลูกชาย “อย่างงี้ล่ะน้า คนมันเคยพลาดมาก่อน คงกลัวว่าจะซ้ำรอยเดิมอีก”“อะไรเหรอคะคุณมัม”“ดีนกำลังกลัวว่าจะเสียรินไปอีกน่ะลูก”ไอรินทั้งเข้าใจ และเห็นใจคนรัก เธอไม่รู้หรอกว่าสามเดือนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง แต่จากสภาพทรุดโทรมที่ได้เห็น และที่วิลล์กับไมค์เล่าให้ฟังว่าพลชถึงขั้นหมดสติ ต้องหามส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาเองก็คงเจ็บปวดไม่ต่างกันไม่มีใครมีความสุขกับการจากลาในครั้งนั้น ไม่แปลกเลยที่พลชจะจำฝังใจ เพราะแม้แต่ตัวเธอก็ยังหลงเหลือบาดแผลเล็ก ๆ
ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของชาวบ้าน ใช้เวลาแค่สิบวัน โรงเรียนที่ถูกปรับปรุงก็เสร็จสมบูรณ์ หลังจากให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าไม่มีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขแล้ว เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีก็ดังก้องไปทั่วดอยเล็ก ๆ แห่งนี้“ในที่สุดโรงเรียนก็เสร็จแล้ว!”“หลังจากนี้เด็ก ๆ จะได้มีอาคารเรียนดี ๆ ไม่ต้องกลัวว่าหลังคาจะรั่วตอนฝนตกอีก”“ห้องน้ำก็มิดชิดขึ้น โรงอาหารก็ใหญ่โต เด็ก ๆ โชคดีกันมากนะรู้ไหม สมัยพี่เรียนไม่มีอะไรแบบนี้หรอก ต้องตั้งใจเรียนนะ อย่าให้พวกพี่เสียแรงเปล่าล่ะ”เด็ก ๆ ต่างพากันพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน ดวงตาสุกสกาวไร้เดียงสามองโรงเรียนที่เกือบจะจำภาพเดิมไม่ได้ด้วยความตื่นเต้นยินดี นอกจากอาคารเก่าที่ถูกปรับปรุงใหม่จนแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังมีอาคารอีกหนึ่งหลังที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วย ทั้งใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า เด็ก ๆ ตื่นเต้นจนอยากเข้าไปเรียนเสียเดี๋ยวนี้ในอาคารนั้นมีทั้งห้องสมุด ห้องวิทยาศาสตร์ แถมยังมีเครื่องคอมพิวเตอร์อีกห้าเครื่องตั้งไว้ให้เด็ก ๆ ได้ลองใช้ รวมถึงมีทีวีขนาดยักษ์ ที่ครูไอยราบอกว่าจะมีครูสอนพวกเด็ก ๆ จากในนั้นได้ยินว่าเป็นการเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม เด็ก ๆ ไม่เข้าใจสิ่งนี้ ผู
“อยู่บ้านดี ๆ นะริน ส่วนดีน เราน่ะอย่ารั้นจะไปช่วยชาวบ้านนัก เจ็บแบบนี้ยิ่งไปช่วยชาวบ้านเขาจะยิ่งเป็นกังวลจนไม่เป็นอันทำงานทำการกันพอดี”นักธุรกิจหนุ่มนั่งคอตก เถียงคุณครูไอยราไม่ออกเพราะตัวเองทำผิดจริง ๆเขาพักรักษาตัวมาได้สองวันแล้ว จุดที่ช้ำเริ่มเป็นสีม่วงเข้ม แต่เพราะยาจากไอยราทำให้รอยช้ำไม่น่ากลัวเท่าที่คิด ส่วนแผลที่แขนก็สมานกันดี พลชจึงแอบหนีไอรินไปที่โรงเรียน หวังจะช่วยหยิบจับอะไรได้บ้างแต่พอชาวบ้านเจอหน้าเขา ทุกคนก็พากันเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก จนครูไอยราต้องมาไล่ให้ว่าที่ลูกเขยกลับบ้านตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่าพลชคือใคร และเพราะรู้ ทุกคนถึงได้หวั่นเกรงแบบนี้ สำหรับชาวบ้านตาดำ ๆ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่แมลงศัตรูพืช แต่เป็นนายทุนอย่างพลชต่างหาก ขึ้นชื่อว่านายทุน.. ผลประโยชน์ย่อมมาก่อนทุกอย่างเสมอ ไม่รู้ว่าวันดีคืนดี จากหนุ่มลูกครึ่งแสนดีที่ชาวบ้านรักใคร่ จะกลายเป็นคนหน้าเลือดกว้านซื้อที่ดิน จนคนหาเช้ากินค่ำไม่มีที่ซุกหัวนอนวันไหน“วันนี้ชาวบ้านมองผมแปลก ๆ” พลชฟ้องคนรัก ระหว่างที่เปิดเสื้อขึ้นเพื่อให้ไอรินประคบสมุนไพรไอรินที่รู้เรื่องทุกอย่างดีไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แฟนหนุ่มยัง