ไอรินกำลังตกงาน
หลังจากเรียนจบตอนอายุยี่สิบสองปี ไอรินก็สมัครเข้าทำงานกับบริษัทมีชื่อเสียงพอสมควรในตำแหน่งเลขาผู้จัดการฝ่ายการตลาด ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดี เธอมีอาชีพที่มั่นคง เงินเดือนพอเลี้ยงปากท้องและผ่อนคอนโดได้ มีเหลือส่งให้แม่ที่เชียงราย และเหลือเก็บเล็กน้อยไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เธอวาดฝันว่าคงทำงานที่นี่จนเกษียณ เก็บเงินไว้เยอะ ๆ แล้ว ลาออกไปเลี้ยงแมวสักตอนอายุห้าสิบ
แต่ฝัน ก็เป็นได้แค่ฝัน
ไอรินมักจะอยู่ทำงานจนดึกเป็นนิสัย เธอเป็นคนขยันที่ไม่เคยได้โอที โบนัสก็ได้เท่ากับคนอื่น ๆ แต่เพราะตอนนั้นเธอยังไร้เดียงสา คิดว่าถ้าเราดีกับองค์กร องค์กรก็จะดีตอบ ใสซื่อกับโลกใบนี้จนลืมคิดไปว่าพวกนายทุนมันเลว
วันหนึ่งเธอถูกเจ้านายที่ทำงานมาด้วยสองปีลวนลาม โชคดีที่รอดมาได้ แต่พอแจ้งเรื่องนี้กับฝ่ายบุคคล เรื่องก็ไปถึงผู้บริหาร
ผลคือเธอถูกไล่ออก ถูกกล่าวหาว่าปั้นน้ำเป็นตัว ใส่ร้ายผู้จัดการที่เป็นญาติของผู้บริหารอีกที
วันที่ถูกไล่ออกตรงกับวันเกิดปีที่ยี่สิบห้าของเธอพอดี ต้อนรับปีเบญจเพสด้วยความซวยและห่วยแตก แต่คนอย่างไอรินไม่เคยยอมแพ้กับอะไรง่าย ๆ ภาระยังมี คอนโดก็ยังต้องผ่อน เธอจะมัวแต่น้อยเนื้อต่ำใจกับโชคชะตาไม่ได้ เพราะโลกใบนี้มันขับเคลื่อนด้วยเงิน ดังนั้นเธอจึงต้องมีเงิน
มีมากเท่าไหร่ยิ่งดี
“อะไร! ไม่ได้อีกแล้ว”
ไอรินกดปิดอีเมลฉบับที่สิบที่ได้รับในรอบเดือน ฟันขาวงับขนมปังแผ่นบางด้วยความหงุดหงิด เนื้อหาภายในไม่ได้แตกต่างจากฉบับอื่น ๆ มากนัก สรุปสั้น ๆ ว่าเธอไม่ได้งาน เพราะเรียกเงินเดือนสูงเกินไป ทั้ง ๆ ที่เธอจบเกียรตินิยม พูดได้สี่ภาษา มีประสบการณ์ ไม่เคยมีประวัติเสียหาย แต่กลับถูกปฏิเสธเพราะเรียกเงินเดือนตามความสามารถที่มี
“ไม่ได้ก็แค่หาใหม่”
ไอรินคาบขนมปังราคาถูกไว้ในปาก นิ้วเรียวรัวจิ้มแป้นพิมพ์อย่างชำนาญ เตรียมกดส่งอีเมลฉบับใหม่ให้บริษัทอื่น ๆ วันนี้เธอจะส่งไปห้าที่ มันต้องได้สักที่สิน่า
ก่อนที่ไอรินจะได้กดส่งอีเมลฉบับใหม่ แจ้งเตือนก็ดังขึ้นให้รู้ว่าเธอได้รับอีเมลจากใครสักคน ไอรินกดร่างข้อความของตัวเอง แล้วกดเข้าไปดูในกล่องขาเขาด้วยมือที่สั่นเทา
สาธุ ขอให้ไม่ใช่ข้อความสแปม
“กรี๊ด!”
มันไม่ใช่ข้อความสแปมจริง ๆ แต่ที่ไอรินเผลอกรี๊ดออกมาไม่ใช่แค่เรื่องนั้น
“นี่มัน PDM Group ไม่ใช่เหรอ!”
พีดีเอ็มกรุ๊ปคืออะไร? อธิบายง่าย ๆ ก็คือ PDM Group เป็นเหมือนอาณาจักรหนึ่ง ที่ในนั้นมีธุรกิจมากมายนับไม่ถ้วน ครอบคลุมทั้งประเทศ ทวีปเอเชีย รวมถึงทวีปอื่น ๆ แบบที่หันไปทางไหนก็เจอแต่โลโก้นี้จนหลอน แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คงไม่พ้นธุรกิจสายการบิน
ครั้งหนึ่งไอรินเคยฝันว่าอยากเป็นแอร์โฮสเตสของที่นี่ แต่เธอรักงานเลขามากกว่า ก็เลยตัดสินใจเลือกทำงานกับบริษัทนั้น และถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่เลือกมันเด็ดขาด
อีเมลของพีดีเอ็มกรุ๊ปส่งมาเพื่อเรียกตัวไอรินไปสัมภาษณ์รอบสุดท้าย ที่เรียกว่ารอบสุดท้ายก็เพราะไอรินไปสัมภาษณ์มาหลายครั้งแล้ว ตำแหน่งที่เธอสมัครมีคนสนใจหลายร้อยคน และเธอได้เป็นหนึ่งในสิบที่ถูกเลือก ไอรินไม่ทันได้อ่านรายละเอียดก็ตอบตกลงไปทันที ความฝันที่จะได้ทำงานในบริษัทใหญ่เริ่มเป็นรูปร่างชัดเจน
ถ้าสัมภาษณ์รอบนี้ผลลัพธ์ออกมาอย่างที่หวัง เธอจะได้บอกลาตำแหน่งคนว่างงานซะที
ไอรินนั่งตัวลีบอย่างหมดท่า หลังจากได้อ่านเอกสารลับที่ต้องเซ็นสัญญาวุ่นวายเพื่อยินยอมว่าจะไม่เปิดเผยมัน ไม่อย่างนั้นต้องจ่ายค่าผิดสัญญาเป็นเงินจำนวนมหาศาล หลังจากที่อ่านจบ ไอรินก็ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
พีดีเอ็มกรุ๊ปไม่มีปัญหากับเงินเดือนที่เธอเรียกไป ทั้งยังยินดีจ่ายเพิ่มอีกห้าเท่า ถ้าเธอยอมรับข้อเสนอลับระหว่างเธอและบอสใหญ่แห่งพีดีเอ็มกรุ๊ป
ไอรินต้องทำหน้าที่เลขา ทั้งเลขาทั่วไป และเลขาบนเตียง
“คุณไม่สนใจก็ไม่เป็นไรนะครับ บอสต้องการคนที่สมัครใจ ไม่ต้องคิดมากนะครับ ถ้าไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดต่อก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่คุณรู้ใช่ไหมว่าพีดีเอ็มกรุ๊ปมีหูตามากมายแค่ไหน”
ขู่กันชัด ๆ
ไอรินคิดไม่ตก เธออยากได้เงิน อยากได้งาน แต่ก็ไม่อยากขายเรือนร่าง แต่พอคิดไปคิดมามันก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะเธอเองก็เป็นคนหนึ่งที่เรียกร้องให้ sex worker เป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย
ร่างกายของเรา จะทำอะไรก็เรื่องของเรา อย่างน้อย ๆ บอสคนนี้ก็แจ้งมาชัดเจน ไม่ใช่เอาเปรียบหน้าด้าน ๆ เหมือนเจ้านายเก่า
แต่ปัญหาคือ.. เธอทำเรื่องนั้นไม่เป็นน่ะสิ แบบนี้จะไม่ถูกไล่ออกตั้งแต่วันแรกหรอกเหรอ
“ไม่ใช่ว่าฉันต้องไปเป็นภรรยาน้อยใช่ไหมคะ”
“ไม่ครับ บอสยังไม่มีภรรยา ไม่มีคู่หมั้น ไม่มีพันธะ บอสไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวหรือชอบโกหก คุณสบายใจได้ว่าตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ จะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอนครับ” เขาตอบฉะฉานโดยไม่เสียเวลาหยุดคิด ดูก็รู้ว่าไม่ได้โกหก
ไอรินกัดปากเบา ๆ การตัดสินใจในครั้งนี้จะเปลี่ยนชีวิตเธอไป แต่นานแค่ไหนล่ะ
“นานแค่ไหนคะ ที่ฉันต้องทำหน้าที่นั้น”
“ไม่มีใครตอบได้ครับ แต่บอสต้องการให้เกียรติคนที่เข้ามาทำหน้าที่นี้ ดังนั้นสัญญาลับฉบับนี้จะมีคนรู้เพียงไม่กี่คน และเมื่อไหร่ที่สัญญาพิเศษสิ้นสุดลง คุณจะยังทำหน้าที่เลขาของบอสได้เหมือนเดิม ถ้าคุณต้องการ”
อีกฝ่ายยืนยัน ว่าไอรินจะไม่ตกงาน ต่อให้หน้าที่บนเตียงสิ้นสุดแล้วก็ตาม
ไอรินอ่านทวนสัญญาลับอีกหลายครั้ง ไม่ว่าจะมองมุมไหนเธอก็เป็นฝ่ายได้มากกว่า ทั้งสวัสดิการ เงินเดือน และความมั่นคงในหน้าที่การงาน แค่สัญญาคร่าว ๆ ก็เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้เอาเปรียบเธอแม้แต่นิดเดียว
พลาดจากที่นี่ไป ไอรินไม่รู้ว่าจะได้งานที่พร้อมจ่ายเงินเดือนได้ไม่อั้นแบบนี้อีกหรือเปล่า ในเมื่อโลกใบนี้ขับเคลื่อนด้วยเงิน และเธอก็พอใจกับสัญญา ก็คงไม่ผิดถ้าเธอจะคว้าโอกาสนี้เอาไว้
เธอตัดสินใจแล้ว
“ถ้าอย่างนั้น.. ฉันตกลงค่ะ”
พอตอบตกลงไปแล้ว ไอรินก็ถูกพาตัวขึ้นมายังชั้นสูงสุดของตึก ชายหนุ่มที่เดินนำบอกให้เธอนั่งรอในห้องรับรองแขก แจ้งว่าบอสจะเป็นคนเข้ามาสัมภาษณ์ในขั้นตอนสุดท้ายด้วยตัวเอง ซึ่งเธอต้องยินยอมให้บอสถามเรื่องส่วนตัวได้ เพราะประวัติทั่วไปไม่มีปัญหาอะไร
เหลือแค่เรื่องบนเตียงที่ต้องให้เจ้าตัวมาถามเอง
แม่บ้านเข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่มและของว่าง ไอรินได้รับการดูแลไม่ต่างจากแขกคนหนึ่ง แต่เธอกลับกินอะไรไม่ลง มือทั้งสองข้างเย็นเฉียบเพราะความตื่นเต้น
ไม่รู้ว่าจะถูกถามอะไรบ้าง
นั่งรอไม่ถึงสิบนาทีประตูห้องก็เปิดออก ยังไม่ทันได้หันไปมอง กลิ่นน้ำหอมเย็น ๆ ก็ลอยเข้ามากระทบที่ปลายจมูก มันหอม มีเสน่ห์ และเย้ายวนชวนให้เคลิบเคลิ้มหวั่นไหว
“ขอโทษที่ปล่อยให้รอนาน พอดีว่าประชุมมันยืดเยื้อกว่าที่คิด”
นอกจากกลิ่นน้ำหอมที่มีเสน่ห์แล้ว เสียงทุ้มที่เต็มไปด้วยอำนาจก็ชวนให้อกซ้ายเต้นกระหน่ำ เสียงฝีเท้าที่ย่ำเข้ามาใกล้ทำให้ร่างแบบบางสั่นระริกด้วยความตื่นเต้น แม้จะเคยเห็นหน้าว่าที่บอสผ่านหน้าหนังสือพิมพ์มาบ้าง แต่ไอรินก็อดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี ในหนังสือพิมพ์ยังหล่อเหลาขนาดนั้น แล้วตัวจริง..
“สวัสดี ผมพลช ดีน แม็กซ์เวล”
ลูกรักพระเจ้ามีอยู่จริง
ไอรินช้อนดวงตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของชายตรงหน้าราวกับกำลังเพ้อ เธอไล่สายตาสำรวจตั้งแต่เส้นผมสีน้ำตาลไหม้ที่เซ็ตตั้งเปิดให้เห็นหน้าผาก คิ้วเข้มที่พาดเฉียงขึ้น รับกับดวงตาคมกริบเหมือนเหยี่ยว และนัยน์ตาสีเข้มลึกลับ จมูกโด่งเป็นสันสมกับมีเชื้อสายตะวันตก และริมฝีปากหยักสีชมพูที่ขยับขึ้นลงช้า ๆ ราวกับผีเสื้อแสนสวยที่กำลังกระพือปีกบิน
แต่ว่า เขาขยับปากทำไมนะ รู้ไหมว่ามันน่า..
“คุณ?” พลชโบกมือไปมา ดวงตาคู่นั้นไม่แม้แต่ขยับตาม เธอไม่ได้สนใจเขาเลย “คุณไอริน!”
“คะ? มะ มีอะไรเหรอคะ” หญิงสาวสะดุ้ง หลุดออกจากภวังค์เล็ก ๆ ของตัวเอง กระพริบตาปริบ ๆ มองคนตรงหน้าที่ถอนหายใจ
“ผมเรียกคุณหลายครั้งแล้ว”
“เหรอคะ! ขอโทษค่ะ ดิฉันเหม่อไปหน่อย ขอโทษค่ะ ขอโทษจริง ๆ” ไอรินลุกขึ้นโค้งตัวให้พลชหลายครั้ง ใบหน้าเห่อร้อนด้วยความอับอาย นี่เธอเอาแต่เหม่อมองเขาจนไม่ได้ยินที่เขาเรียกเลยเหรอ
“ไม่เป็นไร นั่งลงเถอะ” พลชโบกมือไม่ถือสา “รีบคุยกันดีกว่า ผมมีงานต้องทำอีกเยอะ”
“..ค่ะ”
ไอรินพยักหน้ารับ เธอสูดลมหายใจเข้าปอด ยืดตัวขึ้นตรงอย่างเป็นการเป็นงาน ทั้ง ๆ ที่ในใจยังคงอับอาย ความประทับใจแรกที่คุณพลชมีต่อเธอพังไม่เป็นท่า ไม่รู้ว่าจะได้งานนี้หรือเปล่า
“ช่วยแนะนำตัวคุณให้ผมรู้จักหน่อย”
“..ค่ะ”
ปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น เธอเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ได้ทักทายพลช ยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลยด้วยซ้ำ มัวแต่เหม่อจนน่าขายหน้า แถมยังทำตัวเปิ่น ๆ ออกไปจนดูไม่มืออาชีพอีก ความหวังที่จะได้งานนี้เริ่มริบหรี่ขึ้นทุกที
สงสัยต้องกลับไปส่งอีเมลสมัครงานใหม่อีกครั้งแล้วล่ะมั้ง
“สวัสดีค่ะคุณพลช ดิฉันชื่อไอริน อายุยี่สิบห้าปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก..”
“พอก่อน เรื่องพวกนั้นผมอ่านเองได้ แต่ผมอยากรู้เรื่องที่ไม่มีเขียนในนี้มากกว่า”
“ได้ค่ะ ดิฉันยินดีตอบทุกอย่างที่คุณอยากทราบ”
“อืม.. ก่อนอื่น คุณยินดีรับข้อเสนอของผมทุกอย่าง?”
“ค่ะ ไม่มีปัญหา” ไอรินพยักหน้ารับ มือที่วางบนตักบีบเข้าหากันแน่นด้วยความตื่นเต้น
“ตอนนี้คุณมีคนรักที่คบหากันอยู่หรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ โสดสนิท”
ที่จริงเธอโสดมาตั้งแต่เกิดด้วยซ้ำ แต่เรื่องนี้จะพูดออกไปไม่ได้เด็ดขาด ผู้ชายที่ต้องการผู้หญิงขึ้นเตียงด้วยคงไม่ชอบคนที่ไม่มีประสบการณ์และทำอะไรไม่เป็น
เธอขอแค่ได้งานนี้ก่อน ส่วนเรื่องนั้น.. เธอจะรีบกลับไปศึกษาให้ละเอียด
“ดี” พลชพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ผมไม่ชอบยุ่งกับคนมีเจ้าของ ถ้าจับได้ว่าโกหกคุณจะต้องถูกปรับร้อยเท่าจากเงินเดือนที่ได้”
“ดิฉันไม่ได้โกหกจริง ๆ นะคะ”
“อืม”
ผู้บริหารหนุ่มก้มอ่านประวัติของว่าที่เลขาคนใหม่อย่างละเอียด เรื่องประวัติต่าง ๆ รวมถึงผลงานที่เธอแนบมาเขาพอใจมาก เหลือแค่เรื่องเดียว
“ลุกขึ้นยืน”
“คะ?”
“ลุกขึ้น” พลชย้ำ “ลุกขึ้นยืนให้ผมดู.. รูปร่างของคุณ”
ไอรินลุกขึ้นยืนอย่างเก้ ๆ กัง ๆ “คงไม่.. ต้องถอดเสื้อผ้าใช่ไหมคะ”
“ไม่” พลชชี้นิ้วไปที่กล้องวงจรตัวจิ๋วที่หันหน้ามาทางพวกเขาพอดิบพอดี “คุณคงไม่อยากให้คนอื่นเห็นคุณโป๊”
“ไม่แน่นอนค่ะ!”
“หมุนตัว”
ไอรินหมุนตัวอย่างว่าง่าย ถึงจะแอบเขินอยู่หน่อย ๆ แต่ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็แค่หมุนตัวให้เขาดูเอง ถ้าได้งานนี้จริง ๆ ยังไงวันข้างหน้าเธอก็ต้องทำมากกว่านี้อยู่แล้ว
“คุณไม่ได้โกหกเรื่องสัดส่วน”
“ไม่ได้โกหกค่ะ เสื้อผ้าทำงานส่วนมากดิฉันต้องสั่งตัด ก็เลยจำได้แม่น”
“รูปร่างของคุณไม่เหมือนคนอื่น หน้าอกใหญ่แต่เอวเล็ก ไม่แปลกที่ต้องสั่งตัด เพราะรูปร่างแบบนี้หาเสื้อผ้าสำเร็จใส่ยาก” ไม่พูดเปล่า พลชยังมองสองส่วนนั้นอย่างจงใจ
ไอรินเบนสายตาหนีดวงตาคมกริบ เธอไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือไม่พอใจ เพราะที่พลชมองมันไม่ได้ผิดอะไร เธอตกลงและเต็มใจแล้ว มันไม่ใช่การล่วงละเมิด
ที่หลบตาไม่ใช่เพราะความอึดอัด แต่เธอเขิน
สายตาของเขาเหมือนกำลังเปลื้องผ้าเธอออกทีละชิ้น ทีละชิ้น มันทำให้ร่างกายของเธอร้อนผ่าว เหมือนกำลังเปลือยกาย ทั้ง ๆ ที่ยังสวมใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้น
หญิงสาวเผลอกลั้นลมหายใจเมื่อกายสูงใหญ่กำยำลุกขึ้นยืน พลชสูงมาก มากจนเธอที่สูงร้อยหกสิบแปด ยังแทบกลายเป็นคนแคระเมื่อเทียบกับเขา
ท่อนขายาวก้าวเข้ามาใกล้ ไอรินเกร็งตัวอย่างตื่นตระหนกเมื่อใบหน้าหล่อเหลาพุ่งเข้ามาใกล้ซอกคอโดยไม่บอกกล่าว แต่เขาไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น ไม่มีผิวเนื้อส่วนไหนที่สัมผัสกัน มีเพียงแค่ลมหายใจอุ่น ๆ ที่รินรดซอกคอเธอเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะจางหายไปพร้อม ๆ กับร่างสูงที่ขยับออกห่าง
ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้นบาง ๆ
“ผมชอบกลิ่นของคุณ”
.
.
.
.
.
TBC
โลกของคนรวย แตกต่างกับโลกของเธอลิบลับไอรินมองโถงกว้างที่ตกแต่งเหมือนพระราชวังในต่างประเทศด้วยความตกตะลึง จำได้ว่าเธอเคยผ่านตึกนี้บ่อย ๆ เพราะอยู่ระหว่างคอนโดและที่ทำงานเก่า มองจากภายนอกก็พอจะรู้ว่าข้างในคงจะสวยมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้ล็อบบี้ตกแต่งด้วยหินอ่อนทั้งหมด คุมโทนเป็นสีโรสโกลหรูหรา ประดับคริสตัลระยิบระยับและกระจกให้ดูกว้างขวาง แชนเดอเรียคริสตัลขนาดใหญ่ห้อยระย้าตรงกลาง เสริมให้ล็อบบี้หรูหราเหมือนพระราชวังจริง ๆ“ทางนี้ครับคุณไอริน”หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย รีบหุบปากที่อ้ากว้างจนน้ำลายแทบหก เธอยืดตัวตรง ก่อนจะเดินตามร่างสูงใหญ่ไปยังโถงลิฟต์แม่เจ้า!ปากอิ่มอ้าออกอีกครั้ง ถ้าล็อบบี้หรูหราแล้ว โถงลิฟต์นี่คงหรูกว่าเป็นพันเท่า เธอไม่รู้ว่าเจ้าของโครงการเสียเงินกับค่าตกแต่งไปเท่าไหร่ แต่มั่นใจว่าแค่ลิฟต์ตัวเดียวราคามันคงสูงกว่าเงินที่เธอจะหาได้ทั้งชีวิต“เชิญครับ”ไอรินเดินตัวลีบเข้าไปลิฟต์ตัวที่เปิดออก เธอพยายามทำตัวให้ผอมที่สุด กลัวว่าจะเผลอเอาร่างกายไปสัมผัสกับความหรูหราจนเป็นรอย เพราะเธอคงไม่มีเงินมาชดใช้.. ห้องโดยสารเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหยุดลงที่ชั้นสามสิบเก้า“เชิ
“ไม่ต้องล็อกประตู ผมจะไปนอนกับคุณ”แค่ก!ไอรินสำลักหน้าดำหน้าแดง เธอไอไม่หยุดจนพลชต้องยื่นกระดาษทิชชู่ให้ เลขาสาวได้แต่ขอบคุณเบา ๆ แล้วใช้กระดาษแผ่นนั้นซับน้ำหูน้ำตาที่ไหลซึมออกมา“คุณโอเคหรือเปล่า”“แค่ก ริน.. รินโอเคค่ะ” เธอยิ้มแหย กี่ครั้งแล้วที่ทำตัวขายหน้าต่อหน้าเจ้านายแบบนี้ “แค่สำลัก สงสัยรินดื่มน้ำไวไป”“ไม่ใช่เพราะเรื่องที่ผมพูดใช่ไหม”“มะ ไม่ใช่ค่ะ” ไอรินรีบปฏิเสธ เธอกลัวว่าจะทำให้เขาไม่พอใจ ทั้ง ๆ ที่ความจริงก็เป็นเพราะเรื่องที่บอสพูดนั่นแหละจู่ ๆ ก็บอกว่าจะมานอนด้วย จะไม่ให้เธอตกใจได้ยังไง ทั้งชีวิตเคยนอนกับผู้ชายที่ไหนกัน แฟนสักคนก็ไม่เคยมี“ผมคิดว่าคุณยังไม่พร้อม จะได้เลื่อนไปก่อน แต่ถ้าคุณไม่มีปัญหาก็เตรียมตัวให้เรียบร้อย เสร็จงานผมจะเข้าไปหา”พลชพูดเนิบ ๆ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วปลีกตัวออกไป ทิ้งให้ไอรินนั่งอ้าปากพะงาบ ๆ อยากเปลี่ยนคำพูดตอนนี้ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันซะแล้ว“อ้อ ผมชอบคนสะอาด สองชั่วโมงระหว่างผมทำงานหวังว่าคุณจะจัดการตัวเองให้ผมพอใจได้”เขาไม่ลืมย้ำเรื่องสำคัญ ความสะอาดสำหรับพลชคือเรื่องใหญ่ เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาคิดหาคู่นอนประจำไม่รู้ว่าผู้
“บอสไม่เคยมีเลขามาก่อน คุณเป็นคนแรก”“ฉันน่ะเหรอคะ?”ไอรินชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยความงุนงง นักธุรกิจพันล้านแบบพลชไม่มีเลขาส่วนตัว เป็นไปได้ยังไง“ใช่ครับ บอสไม่มีเลขา มีแค่ผมกับไมค์ที่เป็นผู้ช่วย และก็ไม่เคยมีคนสนิทที่เป็นผู้หญิงด้วย บอสเคยบอกว่าทำงานกับผู้ชายสะดวกกว่า ไปไหนไปกันได้ ไม่ยุ่งยาก”“แล้ว เอ่อ.. ทำไมจู่ ๆ บอสถึงอยากมีเลขาล่ะคะ”“เรื่องนี้คงต้องถามบอสเองครับ” วิลล์พูดพลางเปิดประตูห้องทำงานให้เลขาสาวคนแรกของบอส “ว่าทำไมบอสถึงเพิ่งมาอยากมีเลขาตอนนี้”เสียงของวิลล์ไม่เบาเลย แน่นอนว่าพลชได้ยินมันเต็มสองหู เขาส่งสายตาดุ ๆ ไปให้ลูกน้องคนสนิท พวกเขาสนิทถึงขั้นที่พูดคุยหยอกล้อกันได้ วิลล์ถึงได้กล้าพูดต่อหน้าเขาแบบนี้ไอรินสบตาคมกริบ ก่อนจะหลุบลงพื้นอย่างรวดเร็ว มือบางประสานเข้าหากันแนบแน่น จู่ ๆ ก็รู้สึกร้อนที่ฝ่ามือขึ้นมา เหมือนว่าส่วนนั้นของเขายังอยู่ในอุ้งมือของเธอเหมือนเมื่อคืน..“รินขยับแบบนี้ ถูกไหมคะ” “อืม ดี ไอริน ซี้ดด” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าดังถี่กระชั้น ไอรินขยับมืออย่างเชื่องช้าในคราวแรก ก่อนจะเริ่มเร่งจังหวะถี่ ๆ ดวงตาจับจ้องมองส่วนปลายอวบหยักที่ผลุบเข้าออกระหว่างซอกน
ท่อนเนื้อสะอาดสะอ้านพองตัวขึ้นเมื่อได้สัมผัสอากาศเย็นฉ่ำ ไอรินเบนสายตาไปทางอื่นสักพัก ก่อนจะวกกลับมาหาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพลชเป็นชายหนุ่มที่รักสะอาดมาก เพราะความเรื่องมากทำให้เวลาที่มีความต้องการ วิลล์กับไมค์จะหาผู้หญิงมาให้ได้ยาก นั่นคือเหตุผลสำคัญที่พลชต้องการผูกปิ่นโตกับใครสักคนที่ถูกใจและไอรินคือคนนั้นถึงจะยังไม่ได้แตะต้อง แม้แต่ร่างกายภายใต้เสื้อผ้าที่เกะกะก็ไม่เคยได้เห็น แต่พลชกลับมั่นใจว่าเขาต้องถูกใจไอรินมากแน่ ๆ เธอฉลาด เรียนรู้ไว สอนง่ายและจำเก่ง อย่างเช่นตอนนี้“อืม”เสียงครางต่ำดังขึ้นในลำคอเพราะความรู้สึกพึงพอใจ เมื่อคืนเพิ่งสอนไปแท้ ๆ แต่วันนี้ไอรินกลับทำได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่องมือนุ่มรูดรั้งท่อนเอ็นอุ่นขึ้นลงช้า ๆ เส้นเลือดที่ปูดโปนรอบ ๆ ทำให้ตัวตนของพลชดูน่าเกรงขาม ขนาดเกินมาตรฐานสำหรับคนที่มีเชื้อสายตะวันตกยิ่งทำให้ดูน่ากลัว ไอรินรู้ว่ามันยังตื่นตัวได้ไม่เต็มที่ แต่แค่นี้เธอก็เกือบจะกำได้ไม่รอบแล้ว“ไอริน”นิ้วหัวแม่มือบดคลึงกลีบปากนุ่มเบา ๆ มือของไอรินวิเศษมาก แต่ตอนนี้เขาต้องการอย่างอื่นมากกว่า“อ้าปากออกสิ”เลขาสาวทำตามอย่างว่าง่าย ริมฝีปากอวบอิ่มชุ่มชื้นด้วยลิปสติ
“ซี้ดด ไอริน ผมแตกใส่ปากคุณได้หรือเปล่า” ต้องถามด้วยเหรอไอรินไม่คิดว่ามันจำเป็น เพราะเธอกำลังทำหน้าที่ พลชเป็นเจ้านาย เขาสามารถทำอะไรกับเธอก็ได้อยู่แล้ว“ถ้าคุณให้ผมเสร็จในปากได้ ผมจะจ่ายให้คุณสองแสน”ถ้าน้ำเสียงของพลชเต็มไปด้วยความดูถูก ไอรินคงลุกขึ้นด่ากราดไปแล้ว ถึงเธอจะชอบเงินและอยากได้เงินแค่ไหน แต่เธอก็มีศักดิ์ศรี เธอขายร่างกาย ไม่ได้ขายความเป็นคนให้ใครมาดูถูกตามใจชอบแต่เขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงในเชิงเหยียดหยามดูแคลนเธอเลย ติดไปทางอ้อนวอนด้วยซ้ำ“ผมแค่อยากตอบแทนคุณ มันคือโบนัสเพราะคุณทำให้ผมถูกใจ อย่าคิดว่าผมดูถูกคุณเลย”ไอรินเชื่ออย่างหมดใจว่าพลชหมายความว่าแบบนั้นจริง ๆ คนที่อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหารแบบเขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอธิบายเพิ่มแบบนี้ด้วยซ้ำ จะเป็นเหมือนเจ้านายทั่วไปที่ใช้อำนาจจิกหัวใช้งานลูกน้องก็ได้ แต่พลชไม่ทำไอรินเจอแต่เจ้านายแบบนั้นมาตลอด พอได้มาเจอพลชมันทำเธอรู้สึกดี ดวงตาคู่สวยจึงฉายแววมุ่งมั่น ตั้งใจจะทำให้บอสพอใจมากเท่าที่จะทำได้“ซี้ดดด!!”พลชเสียววูบไปทั่วหน้าท้อง จู่ ๆ ไอรินที่นิ่งไปสักพักก็ดูดดึงความแข็งขืนเหมือนคนหิวกระหาย แก้มทั้งสองข้างเดี๋ยวป่องออก เดี๋
พลชอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ตลอดช่วงบ่ายเขาทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจนลูกน้องคนสนิทยังแปลกใจ หลังจากคุยงานกับเจ้านายเสร็จวิลล์ก็ขอตัวออกมาข้างนอก ส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานคนใหม่ พร้อมรับสายที่โทรทางไกลเข้ามา“อะไรนะ! ด่วนขนาดนั้นเลยเหรอครับ”ไอรินเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยแล้วก้มหน้าทำงานต่ออย่างไม่ใส่ใจ อีกฝ่ายพูดภาษาอิตาลี เป็นหนึ่งในภาษาที่เธอร่ำเรียนมา แน่นอนว่าเธอฟังออกทั้งหมด“เดินทางคืนนี้มันกะทันหันไป ผมหาตั๋วให้บอสได้ แต่บอสเองก็มีงานการต้องทำนะครับคุณราฟ”ไอรินกลับมาสนใจอีกครั้งเมื่อบทสนทนาเอ่ยถึงเจ้านาย แต่เธอยังมีมารยาทพอไม่เงยหน้าขึ้นฟังอย่างประเจิดประเจ้อ“แล้วทำไมคุณไม่โทรสายตรงหาบอสเองล่ะครับ ให้ผมรับหน้าให้ตลอด” ผู้ช่วยหนุ่มอดตัดพ้อไม่ได้ “ก็ได้ครับ ผมจะบอกบอสให้”วิลล์พูดแค่นั้นก็กดวางสาย ชายหนุ่มมองหน้าไอรินเล็กน้อยแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของพลช สักพักไอรินก็ได้ยินเสียงไม่สบอารมณ์ของเจ้าของห้องดังออกมา“มันคิดว่ามันเป็นใคร! ถึงอยากให้ฉันไปหาเมื่อไหร่ก็ได้ ฉันไม่ไป!!”ไอรินชะเง้อคอมองทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนว่าบอสจะไม่พอใจเอามาก ๆด้านในห้องทำง
วิลล์แปลกใจเล็กน้อยที่เจ้านายเดินออกมาจากเพนท์เฮ้าส์เพียงคนเดียว และดูท่าทางอารมณ์ดีกว่าตอนแรก ไม่รู้ว่าในนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่นับว่าเป็นเรื่องดีเพราะเขาไม่อยากถูกบอสกินหัว“คุณไอรินไม่มาส่งบอสเหรอครับ” อดถามออกไปไม่ได้ ไอรินเป็นเลขา ถึงครั้งนี้จะบินไปอิตาลีด้วยไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ควรมาส่งเจ้านาย“เธอพักผ่อนอยู่ อย่าให้ใครเข้าไปรบกวน บอกป้าปานด้วยว่าอย่าปลุกเธอ”“ไม่สบายหรือเปล่าครับ ให้ผมตามหมอให้ไหม”“แค่อ่อนเพลีย” พลชตอบสั้น ๆ ก่อนจะเดินนำลูกน้องไปที่ลิฟต์โดยสาร ไม่เปิดโอกาสให้วิลล์ได้ถามให้มากความอีกมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงสภาพของเลขาคนสวยที่แทบไม่มีแรงยืนเพราะถูกเขารังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลชเหลือเวลาก่อนไปสนามบินชั่วโมงกว่า และเขาใช้เวลาช่วงนั้นสัมผัสไอรินจนเธอน้ำตานอง ร้องขอเสียงสั่นให้เขาหยุดก่อนที่เธอจะขาดใจผู้หญิงอะไร ขนาดมีอารมณ์ยังสวยไม่สร่าง ยิ่งพอมีอารมณ์แล้วใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ร้องขอเสียงสั่นให้หยุด มันยิ่งทำให้เขาอยากรังแกเธอซ้ำ ๆวิลล์ปิดปากเงียบทั้ง ๆ ที่เห็นว่าบอสหลุดยิ้มออกมาคนเดียว เขาไม่กล้าสอดปากถาม ได้แต่เดาไปเองว่าคุณไอรินคงถูกใจบอสมากวิลล์ไม่รู้เ
พลชเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยในช่วงเย็น กว่าจะฝ่ารถติดจากสนามบินที่ตั้งอยู่ชานเมือง มาถึงเพนท์เฮ้าส์ใจกลางเมืองได้ก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง เขาเหนื่อยล้าจนไม่อยากพูดอะไรกับใคร อุตส่าห์จ่ายเงินเป็นแสนนั่งเฟิร์สคลาสจากอิตาลีกลับไทยเพื่อความสบายตัว แต่กลับต้องมาอุดอู้ในรถยนต์แทนเพราะรถจนติดแทบไม่ขยับลิฟต์ส่วนตัวเปิดออกเมื่อมาถึงชั้นที่ชั้นสูงสุดของตึก ไมค์รีบเข้ามารับสูทไปถือไว้ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าของบอสก็ไม่กล้าปริปากพูดอะไร รอให้พลชเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน“ไอรินล่ะ”“อยู่ในครัวครับ คือ.. พอคุณไอรินรู้ว่าบอสใกล้จะถึงเพนท์เฮ้าส์เลยเอาอาหารไปอุ่นครับ”“อาหาร?”“คุณไอรินทำมื้อเย็นไว้ให้บอสครับ”พลชไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทางเคร่งเครียดบนใบหน้าลดลง ขายาวรีบก้าวเข้าไปในเพนท์เฮ้าส์กว้างหลายร้อยตารางเมตร เดินอย่างคุ้นเคยไปยังห้องครัวเสียงก๊อกแก๊กดังออกมาเป็นระยะ พร้อมกับกลิ่นอาหารไทยที่คุ้นปากฟุ้งไปทั่ว พลชพิงกายกับกรอบประตูห้องครัว มองร่างบอบบางที่ขยับไปมาอย่างคล่องแคล่วเงียบ ๆ“ไอริน”“อ๊ะ! บอส” หญิงสาวอุทานเสียงดัง มือบางลูบอกซ้ายเบา ๆ เพื่อคลายความตกใจ “รินตกใจหมดเลยค่ะ”ไม่คิดว่าบอสจะกลับมาถึงแล้ว เ
ช่วงเวลายาวนานที่ต้องอุ้มท้องลูกน้อยเดินทางมาถึงเดือนสุดท้าย ไอรินไม่สามารถขยับตัวได้คล่องเพราะหน้าท้องที่นูนใหญ่ ใหญ่จนบางครั้งหลายคนที่เห็นยังอดถามไม่ได้ว่าลูกแฝดหรือเปล่า คนเป็นแม่ได้แต่หัวเราะแล้วตอบไปว่าเพราะพ่อเขาบำรุงดี ลูกชายถึงได้ตัวโตจ้ำม้ำไอรินหายแพ้ท้องหลังจากเข้าเดือนที่สี่ เธอยังคงไปทำงานที่บริษัทในตำแหน่งเลขาของท่านประธานเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ทุกคนต่างรับรู้โดยทั่วกันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นแค่เลขาทั่วไป ไอรินคือคุณนายแม็กซ์เวล และกำลังอุ้มท้องทายาทคนแรกของแม็กซ์เวลอยู่ นอกจากต้องให้ความเคารพแล้ว ยังต้องคอยเป็นหูเป็นตาดูแลความปลอดภัยให้ไอรินและคุณชายน้อยด้วยใคร ๆ ก็บอกว่าลูกชายในท้องของไอรินอภิชาตบุตร เพราะยังไม่ทันคลอดก็นำเรื่องราวดี ๆ มาให้ครอบครัว ไม่ว่าพลชจะหยิบจับอะไรก็สร้างเม็ดเงินและความรุ่งเรืองมาให้ PDM group เสมอ ตั้งแต่ภรรยาตั้งครรภ์พลชก็ก้าวขึ้นไปอีกขั้นในวงการธุรกิจ เขากลายเป็นชายหนุ่มอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีทรัพย์สินมากกว่าหมื่นล้านในวัยเพียงสามสิบต้น ๆในสายตาของคนนอกพลชยิ่งใหญ่ และมีอำนาจไม่ด้อยไปกว่าใคร ทว่าในสายตาข
งานแต่งของ พลช ดีน แม็กซ์เวล แน่นอนว่าย่อมต้องไม่ธรรมดา ลำพังแค่กลุ่มนักธุรกิจ นักข่าว หรือคนที่มีผลประโยชน์ต่อกันก็แทบล้นสถานที่จัดงานแล้ว จะไม่เชิญใครก็ไม่ได้ การทำธุรกิจยังไงก็อาศัยคอนเนคชั่นเป็นหลัก ถึงตอนนี้พลชจะมีอำนาจมากมายล้นฟ้า แต่ไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นการคีพคอนเนคชั่นไว้จึงสำคัญไอรินที่เป็นเลขาเข้าใจตรงนี้ดี เธอไม่บ่นสักคำที่ต้องเชิญแขกเป็นพัน ๆ คน เพราะตกลงกับสามีไว้แล้วว่าพิธีสาบานตนกับสวมแหวนในโบสถ์ จะมีแค่คนสนิทเท่านั้นส่วนงานเลี้ยงจะจัดใหญ่แค่ไหน จะมีแขกกี่พันคนไอรินไม่สน เพราะเธอได้รับสิทธิพิเศษของคนที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ต้องออกไปเดินรับแขกให้เมื่อย แค่อยู่ร่วมงานไม่เกินชั่วโมงก็กลับห้องพักได้ ที่เหลือคนเป็นสามีจะจัดการเอง“ริน”ไอรินหันไปมองตามเสียงเรียก คุณครูไอยราที่วันนี้อยู่ในชุดแสนสวย เดินเข้ามาหาลูกสาวด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า“แม่”“เวียนหัวหรือเปล่า หนุ่มน้อยของยายดื้อไหมวันนี้”“ไม่เลย วันนี้รินไม่รู้สึกอะไรเลย”หนุ่มน้อยของตระกูลแม็กซ์เวลตอนนี้มีอายุได้สามเดือนครึ่งแล้ว หลังกลับจากอิตาลีพลชก็รีบพาไอรินไปฝากครรภ์กับเพื่อนสนิทอย่างหมอวายุ พวกเขาต
“ไอริน!!”“อื้อ ทำไมต้องตะโกน” คนที่เซซบอกสามีบ่นอุบจู่ ๆ ตอนที่ลุกขึ้นไอรินก็รู้สึกว่าโลกมันหมุนเร็วเกินไป ภาพตรงหน้าพร่าเลือนจนเสียหลักล้ม โชคดีที่สามีตัวใหญ่ยืนอยู่ด้านหลังจึงไม่เกิดเรื่องน่าอายขึ้น ไม่อย่างนั้นคนปากร้ายที่รอเหยียบย่ำคงพูดอะไรให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจอีกไอรินฟังออกทั้งหมด สิ่งที่คนพวกนั้นพูดเธอฟังออกทุกคำ แต่ที่ไม่ตอบโต้ก็เพราะไม่ได้ใส่ใจ จิตใจของเธอล่องลอยไปหาเจลาโตรสบลูเบอร์รี่เปรี้ยวอมหวานที่เห็นเมื่อเช้า แค่คิดก็น้ำลายสอ อยากกิน อยากออกไปจากที่นี่เต็มทน“คุณไหวหรือเปล่า”“ไหวค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไร”ไอรินดันตัวออกจากอ้อมแขนของสามี ตอนนี้ทุกคนในห้องรับแขกมองมาที่เธอเป็นตาเดียว พวกเขาทำท่าทางเหมือนเห็นตัวประหลาดที่น่ารังเกียจ ไม่มีความเกรงใจกันสักนิดไม่ยักรู้ว่าตระกูลผู้ดีเขาสั่งสอนลูกหลานกันแบบนี้“ผู้หญิงชั้นต่ำก็เป็นแบบนี้ ชอบเรียกร้องความสนใจ”“โรเบิร์ต”“ผมไม่ได้ทำอะไรใครนี่ครับคุณแม่ แค่พูดความจริง หล่อนฟังเรารู้เรื่องที่ไหน” โรเบิร์ตยักไหล่ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด ไม่ได้แตะต้องหล่อนแม้แต่ปลายก้อย ก็แค่คำพูด ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นก็ฟังไม่ออกฟังไม่ออก ก็แปลว่าเข
“ที่รัก ตื่นได้แล้วครับ”“อื้อ”“ตื่นได้แล้ว เครื่องจะแลนด์ดิ้งแล้วนะ”“ง่วงจัง” ไอรินปรือตาขึ้นมองใบหน้าสามี “ดีนคะ รินอยากนอนต่อจังค่ะ”“ไว้ถึงที่พักแล้วค่อยนอนต่อนะ ตอนนี้ลุกขึ้นมาก่อน”พลชพูดพลางปรับเก้าอี้ให้ภรรยา ไอรินแม้ไม่อยากตื่นแต่ก็จำใจต้องตื่น เสียงประกาศของพนักงานดังไปทั่วทั้งห้องโดยสารว่าอีกยี่สิบนาทีเครื่องจะลงจอดที่ท่าอากาศยานฟีอูมีชีโน ประเทศอิตาลีความง่วงงุนทำให้ไอรินไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าที่ควร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไทม์โซนที่ต่าง ร่างกายที่ยังปรับตัวไม่ได้ หรือเพราะเธอแค่ขี้เกียจกันแน่เพราะช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาไอรินก็เอาแต่นอนเป็นแมวขี้เซา แม้แต่ตอนที่นั่งทำงานเธอยังหลับได้ ลำบากให้สามีต้องอุ้มเข้าไปนอนในห้องเป็นประจำเพราะกลัวว่าภรรยาจะปวดเมื่อยเนื้อตัว ไอรินทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกขอบคุณ แต่ลึก ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์นอกจากจะไม่ได้ช่วยงานพลชอย่างเต็มที่แล้ว เธอยังเป็นตัวถ่วงให้เขาต้องเป็นกังวลอีก“คุณไม่ยอมตื่นมาทานข้าวเลย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากสำรวจภรรยาว่าคาดเข็มขัดดีหรือไม่เรียบร้อยแล้ว “คุณนอนตลอดสิบกว่าชั่วโมงได้ยังไง ไม่เพลียเหรอ”“ไม่เลยค่ะ รินสา
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้ว แต่ทั้งสองคนบนเตียงก็ยังคงตระกองกอดกันไม่ปล่อย ทั้งไอรินและพลชตื่นพร้อมกันตั้งแต่ชั่วโมงก่อน แต่แทนที่พวกเขาจะเร่งรีบลุกขึ้นเตรียมตัวไปทำงานเหมือนปกติ ในวันนี้ทั้งคู่ต่างพร้อมใจกันนอนเอ้อระเหยอย่างสบายอารมณ์เหมือนคนว่างงานเพราะวันนี้ท่านประธานกับเลขาส่วนตัว ใช้สิทธิ์ลางานช่วงเช้าเพื่อไปทำธุระสำคัญ“ที่รัก ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวสาย”“อื้อ รินง่วงมากเลยค่ะ อยากนอนต่อจัง” คนง่วงปรือตาขึ้นน้อย ๆ มองหน้าคนรักอย่างออดอ้อนไอรินน่ารักจนพลชอดใจไม่ไหว เขามอบจูบแสนหวานให้เธอแม้ว่าริมฝีปากอิ่มจะบวมเจ่ออยู่แล้วก็ตาม“อื้อ อย่าค่ะ”คนถูกจูบรีบดันชายหนุ่มออกก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิด เพราะเผลอหน่อยเดียวเสื้อยืดตัวโคร่งก็ถูกถลกขึ้นสูงแล้ว ทรวงอกอิ่มที่ไร้บราห่อหุ้มถูกบีบเคล้นเบา ๆ ไอรินรีบตะครุบมือปลาหมึกเอาไว้ก่อนที่ตัวเองจะใจอ่อน“ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวสาย”“รู้ตัวแล้วเหรอว่ากำลังจะสาย” พลชยอมละมือออกแต่โดยดี “ไปอาบน้ำกันที่รัก”“ไม่เอานะคะ อ๊ะ!”แขนเรียวรีบยกขึ้นคล้องต้นคอแกร่งเมื่อถูกช้อนตัวขึ้น สะโพกมนสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่ดุนดันอย่างก้าวร้าว ดวงตาคู่ส
“เหมือนว่าการที่เรารักกันมันจะไม่ง่ายเลยนะคะ” “ไอริน อย่าพูดแบบนี้”พลชส่ายอย่างตื่นตระหนก เขากลัว กลัวว่าประโยคต่อมาของไอรินจะทำให้หัวใจของเขาแตกสลาย“ทำไมคะ รินคิดว่า..”“ไม่นะริน! ไม่พูดคำนั้นออกมานะที่รัก”พลช ดีน แม็กซ์เวล ทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้น ใช้สองแขนกอดรัดร่างเพรียวบางของแฟนสาวเอาไว้แน่น ซบใบหน้ากับหน้าท้องราบเรียบด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจเขากลัว กลัวว่าไอรินจะบอกเลิกเขากลัวว่าไอรินหายไปอีกครั้งเขากลัว“อึก”“คุณ..”ความหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตา ชายหนุ่มวัยสามสิบสี่ปีร่ำไห้เพียงเพราะกลัวว่าคนรักจะทิ้งไป ไม่เหลือคราบนักธุรกิจดังที่มีแค่คนเกรงใจในอำนาจ ตอนนี้พลชไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นนอกจากไอริน“อย่าทิ้งผมไปนะริน ได้โปรด”“ดีนคะ”“ให้ผมทำยังไงก็ได้ อึก ผมทำได้ทุกอย่าง แต่เราไม่เลิกกันนะริน ไม่เลิกกันได้ไหม ฮึก”ไอรินอ้าปากค้าง ก่อนที่มือบางฟาดผลัวะเข้าที่ไหล่กว้างเต็มแรง ทำเอาคนที่กำลังร้องไห้หยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมองแฟนสาวทั้งน้ำตาทั้งเสียใจ ทั้งเจ็บตัว ทั้งงุนงง พลชเหมือนลูกหมาตัวโต ๆ ที่เจ้าของไม่พาไปเดินเล่น“เลิกอะไรคะ!” ไอรินถามเสียงเขียว ฟาดมือกับไหล่หนาอีกที “ตบปา
“ในที่สุดลูกชายซื่อบื้อของมัมก็พาหนูรินกลับมาจนได้”หลังจากกอดหอมไอรินจนหนำใจ พิมพ์ดาวก็หันไปค่อนแคะลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ถ้าไม่ตรอมใจจนเข้าโรงพยาบาล ป่านนี้คนซื่อบื้อก็ยังคงซื่อบื้อต่อไปพลชไม่ได้โกรธแม่แต่ก็หัวเราะไม่ออกเหมือนกัน แค่คิดว่าต้องเสียไอรินไปอีกครั้ง ก้อนเนื้อในอกซ้ายก็บีบรัดอย่างรุนแรง เหมือนว่ามันกำลังจะแตกสลาย“อื้ออ ดีนคะ!” ไอรินตีแขนแกร่งที่จู่ ๆ ก็เข้ามาโอบรัดรอบเอว “ทำอะไรคะ คุณมัมกับคุณแด๊ดมองอยู่นะ”“อยากกอด ผมกลัวว่ารินจะหายไป”“รินจะหายไปได้ยังไงล่ะคะ”“คงฝังใจน่ะสิ” พิมพ์ดาวเอ่ยเหมือนเข้าไปนั่งกลางใจของลูกชาย “อย่างงี้ล่ะน้า คนมันเคยพลาดมาก่อน คงกลัวว่าจะซ้ำรอยเดิมอีก”“อะไรเหรอคะคุณมัม”“ดีนกำลังกลัวว่าจะเสียรินไปอีกน่ะลูก”ไอรินทั้งเข้าใจ และเห็นใจคนรัก เธอไม่รู้หรอกว่าสามเดือนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง แต่จากสภาพทรุดโทรมที่ได้เห็น และที่วิลล์กับไมค์เล่าให้ฟังว่าพลชถึงขั้นหมดสติ ต้องหามส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาเองก็คงเจ็บปวดไม่ต่างกันไม่มีใครมีความสุขกับการจากลาในครั้งนั้น ไม่แปลกเลยที่พลชจะจำฝังใจ เพราะแม้แต่ตัวเธอก็ยังหลงเหลือบาดแผลเล็ก ๆ
ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของชาวบ้าน ใช้เวลาแค่สิบวัน โรงเรียนที่ถูกปรับปรุงก็เสร็จสมบูรณ์ หลังจากให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าไม่มีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขแล้ว เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีก็ดังก้องไปทั่วดอยเล็ก ๆ แห่งนี้“ในที่สุดโรงเรียนก็เสร็จแล้ว!”“หลังจากนี้เด็ก ๆ จะได้มีอาคารเรียนดี ๆ ไม่ต้องกลัวว่าหลังคาจะรั่วตอนฝนตกอีก”“ห้องน้ำก็มิดชิดขึ้น โรงอาหารก็ใหญ่โต เด็ก ๆ โชคดีกันมากนะรู้ไหม สมัยพี่เรียนไม่มีอะไรแบบนี้หรอก ต้องตั้งใจเรียนนะ อย่าให้พวกพี่เสียแรงเปล่าล่ะ”เด็ก ๆ ต่างพากันพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน ดวงตาสุกสกาวไร้เดียงสามองโรงเรียนที่เกือบจะจำภาพเดิมไม่ได้ด้วยความตื่นเต้นยินดี นอกจากอาคารเก่าที่ถูกปรับปรุงใหม่จนแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังมีอาคารอีกหนึ่งหลังที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วย ทั้งใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า เด็ก ๆ ตื่นเต้นจนอยากเข้าไปเรียนเสียเดี๋ยวนี้ในอาคารนั้นมีทั้งห้องสมุด ห้องวิทยาศาสตร์ แถมยังมีเครื่องคอมพิวเตอร์อีกห้าเครื่องตั้งไว้ให้เด็ก ๆ ได้ลองใช้ รวมถึงมีทีวีขนาดยักษ์ ที่ครูไอยราบอกว่าจะมีครูสอนพวกเด็ก ๆ จากในนั้นได้ยินว่าเป็นการเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม เด็ก ๆ ไม่เข้าใจสิ่งนี้ ผู
“อยู่บ้านดี ๆ นะริน ส่วนดีน เราน่ะอย่ารั้นจะไปช่วยชาวบ้านนัก เจ็บแบบนี้ยิ่งไปช่วยชาวบ้านเขาจะยิ่งเป็นกังวลจนไม่เป็นอันทำงานทำการกันพอดี”นักธุรกิจหนุ่มนั่งคอตก เถียงคุณครูไอยราไม่ออกเพราะตัวเองทำผิดจริง ๆเขาพักรักษาตัวมาได้สองวันแล้ว จุดที่ช้ำเริ่มเป็นสีม่วงเข้ม แต่เพราะยาจากไอยราทำให้รอยช้ำไม่น่ากลัวเท่าที่คิด ส่วนแผลที่แขนก็สมานกันดี พลชจึงแอบหนีไอรินไปที่โรงเรียน หวังจะช่วยหยิบจับอะไรได้บ้างแต่พอชาวบ้านเจอหน้าเขา ทุกคนก็พากันเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก จนครูไอยราต้องมาไล่ให้ว่าที่ลูกเขยกลับบ้านตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่าพลชคือใคร และเพราะรู้ ทุกคนถึงได้หวั่นเกรงแบบนี้ สำหรับชาวบ้านตาดำ ๆ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่แมลงศัตรูพืช แต่เป็นนายทุนอย่างพลชต่างหาก ขึ้นชื่อว่านายทุน.. ผลประโยชน์ย่อมมาก่อนทุกอย่างเสมอ ไม่รู้ว่าวันดีคืนดี จากหนุ่มลูกครึ่งแสนดีที่ชาวบ้านรักใคร่ จะกลายเป็นคนหน้าเลือดกว้านซื้อที่ดิน จนคนหาเช้ากินค่ำไม่มีที่ซุกหัวนอนวันไหน“วันนี้ชาวบ้านมองผมแปลก ๆ” พลชฟ้องคนรัก ระหว่างที่เปิดเสื้อขึ้นเพื่อให้ไอรินประคบสมุนไพรไอรินที่รู้เรื่องทุกอย่างดีไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แฟนหนุ่มยัง