วิลล์แปลกใจเล็กน้อยที่เจ้านายเดินออกมาจากเพนท์เฮ้าส์เพียงคนเดียว และดูท่าทางอารมณ์ดีกว่าตอนแรก ไม่รู้ว่าในนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่นับว่าเป็นเรื่องดีเพราะเขาไม่อยากถูกบอสกินหัว“คุณไอรินไม่มาส่งบอสเหรอครับ” อดถามออกไปไม่ได้ ไอรินเป็นเลขา ถึงครั้งนี้จะบินไปอิตาลีด้วยไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ควรมาส่งเจ้านาย“เธอพักผ่อนอยู่ อย่าให้ใครเข้าไปรบกวน บอกป้าปานด้วยว่าอย่าปลุกเธอ”“ไม่สบายหรือเปล่าครับ ให้ผมตามหมอให้ไหม”“แค่อ่อนเพลีย” พลชตอบสั้น ๆ ก่อนจะเดินนำลูกน้องไปที่ลิฟต์โดยสาร ไม่เปิดโอกาสให้วิลล์ได้ถามให้มากความอีกมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงสภาพของเลขาคนสวยที่แทบไม่มีแรงยืนเพราะถูกเขารังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลชเหลือเวลาก่อนไปสนามบินชั่วโมงกว่า และเขาใช้เวลาช่วงนั้นสัมผัสไอรินจนเธอน้ำตานอง ร้องขอเสียงสั่นให้เขาหยุดก่อนที่เธอจะขาดใจผู้หญิงอะไร ขนาดมีอารมณ์ยังสวยไม่สร่าง ยิ่งพอมีอารมณ์แล้วใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ร้องขอเสียงสั่นให้หยุด มันยิ่งทำให้เขาอยากรังแกเธอซ้ำ ๆวิลล์ปิดปากเงียบทั้ง ๆ ที่เห็นว่าบอสหลุดยิ้มออกมาคนเดียว เขาไม่กล้าสอดปากถาม ได้แต่เดาไปเองว่าคุณไอรินคงถูกใจบอสมากวิลล์ไม่รู้เ
พลชเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยในช่วงเย็น กว่าจะฝ่ารถติดจากสนามบินที่ตั้งอยู่ชานเมือง มาถึงเพนท์เฮ้าส์ใจกลางเมืองได้ก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง เขาเหนื่อยล้าจนไม่อยากพูดอะไรกับใคร อุตส่าห์จ่ายเงินเป็นแสนนั่งเฟิร์สคลาสจากอิตาลีกลับไทยเพื่อความสบายตัว แต่กลับต้องมาอุดอู้ในรถยนต์แทนเพราะรถจนติดแทบไม่ขยับลิฟต์ส่วนตัวเปิดออกเมื่อมาถึงชั้นที่ชั้นสูงสุดของตึก ไมค์รีบเข้ามารับสูทไปถือไว้ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าของบอสก็ไม่กล้าปริปากพูดอะไร รอให้พลชเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน“ไอรินล่ะ”“อยู่ในครัวครับ คือ.. พอคุณไอรินรู้ว่าบอสใกล้จะถึงเพนท์เฮ้าส์เลยเอาอาหารไปอุ่นครับ”“อาหาร?”“คุณไอรินทำมื้อเย็นไว้ให้บอสครับ”พลชไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทางเคร่งเครียดบนใบหน้าลดลง ขายาวรีบก้าวเข้าไปในเพนท์เฮ้าส์กว้างหลายร้อยตารางเมตร เดินอย่างคุ้นเคยไปยังห้องครัวเสียงก๊อกแก๊กดังออกมาเป็นระยะ พร้อมกับกลิ่นอาหารไทยที่คุ้นปากฟุ้งไปทั่ว พลชพิงกายกับกรอบประตูห้องครัว มองร่างบอบบางที่ขยับไปมาอย่างคล่องแคล่วเงียบ ๆ“ไอริน”“อ๊ะ! บอส” หญิงสาวอุทานเสียงดัง มือบางลูบอกซ้ายเบา ๆ เพื่อคลายความตกใจ “รินตกใจหมดเลยค่ะ”ไม่คิดว่าบอสจะกลับมาถึงแล้ว เ
ทั้งสองเคลื่อนย้ายไปยังส่วนของชาวเวอร์ พลชคิดว่าในอ่างคงไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะเขาอยากขยับได้อย่างเป็นอิสระสายน้ำเย็นไหลผ่านร่างกายร้อนผ่าว แต่แทนที่ความเย็นจะช่วยดับไฟราคะของทั้งสองได้ มันกลับกลายเป็นช่วยเพิ่มความเร่าร้อนให้พุ่งสูงขึ้น พลชปล่อยให้เลขาสาวใช้มือกับท่อนลำแข็งแกร่งไปเรื่อย ๆ มันเหยียดขยายเต็มฝ่ามือบาง เส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโป่งพันรอบ ร้อนผ่าวเหมือนกำลังจับท่อนไฟ“ไอริน”ชายหนุ่มคลอเคลียแก้มใส ไล้ปลายจมูกไปตามกรอบหน้าสวยแผ่วเบา ไอรินเหลือเพียงแพนตี้ตัวเล็กติดกาย ท่อนบนเปลือยเปล่าแต่กลับถูกแขนเรียวปกปิดอกอิ่มเอาไว้ พลชไม่อยากบอกให้เธอเสียใจเลยว่าแขนแค่นั้นจะไปปิดอะไรมิด“อะ อื้อ บอสคะ”หญิงสาวเอียงหน้าหลบสัมผัสวาบหวาม เธอไม่รู้ว่าคู่นอนทั่วไปเขาอ่อนหวานต่อกันแบบนี้ไหม แต่สิ่งที่พลชทำมันทำให้เธอรู้สึกดีถึงจะเต็มใจขายร่างกาย แต่ก็คาดหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติอย่างมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่ของเล่นพลชแกะแขนข้างที่ปิดบังเต้าอวบออก เขาหลุบตามองแล้วได้แต่กลืนน้ำลาย ไอรินเป็นลูกรักพระเจ้าจริง ๆ มีตรงไหนในร่างกายเธอบ้างที่ไม่งดงามผิวขาวผุดผาดมีหยาดน้ำเกาะพร่างพราย ทรวงอกอิ่มตั้งเป็นเต้าก
ชายหนุ่มอ้าขาเรียวออกกว้างกว่าเดิมอีกหน่อย เขารู้ว่าไอรินกำลังกลัวและเกร็ง ขืนดึงดันเข้าไปตอนนี้คงไม่พ้นต้องเจ็บตัวด้วยกันทั้งคู่พลชเปลี่ยนจากสอดใส่เป็นถูไถเพียงแค่ภายนอก หัวหยักที่สวมหมวกอย่างรัดกุมเสียดสีขึ้นลงระหว่างร่องรักและจุดกระสั่น ไอรินผวาเฮือกเมื่อถูกสัมผัสตรงจุด เธอมองหน้าเจ้านายหนุ่มตาเยิ้ม ท่าทางต่อต้านลดน้อยลงจนไม่เหลือ“บอสขา”“เสียวไหมไอริน”“อื้อ เสียวค่ะ” เธอพยักหน้ารับ ใบหน้างดงามบิดเบี้ยวพร้อมหอบหายใจกระชั้นถี่ “บอสคะ มัน อ๊ะ ตะ ตรงนั้น”“ดูนี่สิไอริน”พลชดึงร่างบอบบางขึ้นเพื่อมองจุดที่เสียดสีกัน ไอรินเอียงหน้าหนีในทีแรก แต่ความอายมันมีน้อยกว่าความอยากรู้ เพียงไม่นานเธอก็ยอมจ้องมองภาพลามกตรงหน้าไม่กระพริบตา“คุณเยิ้มมากไอริน ดูสิ ทำผมเปียกไปหมดแล้ว”ไอรินขนลุกไปทั้งกายกับคำพูดตรง ๆ และภาพที่เห็น เธอเปียกมากจริง ๆ เยิ้มยืดติดทุกครั้งที่พลชขยับออกลามกเกินไปแล้ว“คุณชอบให้ผมขยี้ตรงนี้ใช่ไหม” พลชบังคับให้หัวหยักขยี้กับจุดกระสั่นแดงก่ำ พลางถามหญิงสาวด้วยสุ้มเสียงแหบต่ำ“บอสคะ อ๊ะ”“บอกผมสิว่าคุณชอบหรือเปล่า”“ฮื่อ ชอบค่ะ รินชอบ แต่รินก็กลัว”ไอรินทนความอายไม่ไหว เธอทิ
“คุณเสร็จแล้ว แต่ผมยังไม่เสร็จเลย พร้อมจะไปต่อหรือยัง ไอริน” “บอสยังไม่.. เอ่อ เหรอคะ”“ผมอึดมากนะ เผื่อคุณไม่รู้”พูดจบ พลชก็จับร่างบอบบางให้พลิกคว่ำ ดึงสะโพกเธอขึ้นจนก้นงอนชนเข้ากับท่อนเนื้อแข็ง ๆ ได้ยินเสียงร้องอุ้ยเบา ๆ พร้อมกับสะโพกมนที่พยายามขยับหนี แต่สุดท้ายก็ถูกดึงกลับมาที่เดิมอยู่ดี“บอสคะ”“เปลี่ยนท่าบ้าง”ชายหนุ่มตอบก่อนจะหยิบถุงยางอันใหม่มาสวม ตอนแรกเขาอยากใช้มันครั้งละอัน แต่อันเก่ามันเปื้อนทั้งเลือดและน้ำหล่อลื่นของไอรินเต็มไปหมด เขาเลยจำใจต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อสุขอนามัยที่ดีอีกอย่าง คืนนี้เขาคงไม่ใจร้ายใจดำ จับเลขาคนสวยกินหลายรอบขนาดนั้น เพราะแค่นี้เธอก็บอบช้ำจะแย่อยู่แล้วพลชมองกลีบเนื้อบอบช้ำที่เคยโอบอุ้มตัวตนเขาไว้อย่างแนบแน่น จากที่เคยปิดสนิท ตอนนี้มันกลับเปิดอ้าออกน้อย ๆ แถมยังบวมแดงอย่างน่าสงสาร ดีที่ไม่มีเลือดไหลออกมาแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้าทำอะไรต่อพลชชื่นชอบเซ็กซ์ที่รุนแรงและดุเดือด แต่ไม่ถึงขั้นซาดิสม์ ที่ยิ่งเห็นเลือดคู่นอนก็ยิ่งมีอารมณ์“อ๊ะ”พอต้องหันหลังไอรินก็มองไม่เห็นอะไรเลย ทีแรกเธอคิดว่าดีแล้ว ไม่ต้องเห็นคงไม่อายเท่าไหร่ แต่เธอคิดผิด พอตามองไม่
“นี่คุณนุกุล อินทีเรียมือหนึ่งของไทยตอนนี้เลยครับบอส”“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณวิลล์” คนถูกอวยจนตัวลอยปฏิเสธเขิน ๆ “สวัสดีครับคุณพลช ผมนุกุล ผมยินดีอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับ PDM Group คุณพลชใช้งานผมและทีมได้เต็มที่เลยนะครับ”ชายหนุ่มวัยสามสิบต้น ๆ สวมใส่เสื้อผ้าที่ดูพยายามจะเรียบร้อยเอ่ยอย่างนอบน้อม เพราะวันนี้ต้องเข้ามาในบริษัทใหญ่โตระดับแถวหน้าของประเทศ แถมยังได้พบกับพลช ดีน แม็กซ์เวลตัวเป็น ๆ อีก คนที่ปกติมักจะแต่งตัวเซอร์เข้าขั้นซกมกนิดหน่อยจึงต้องจัดการเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ทั้งหมดเดี๋ยวคนอื่นเขารู้หมดว่านุกุล อินทีเรียดีไซน์ที่เคยชนะรางวัลการออกแบบภายในที่เยอรมัน จะมีนิสัยที่ตรงข้ามกับผลงานอย่างสิ้นเชิง“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ส่วนนี่ไอริน เลขาของผม”“สวัสดีค่ะคุณนุกุล”“เรียกนุเฉย ๆ ก็ได้นะครับ” ชายหนุ่มส่งยิ้มให้เลขาคนสวย ไม่ลืมแบ่งปันให้ซีอีโอหน้านิ่งด้วย “คุณพลชอยากได้ห้องทำงานใหม่แบบไหน ลองบอกมาคร่าว ๆ ได้เลยครับ ผมจะช่วยออกแบบให้”ที่วันนี้อินทีเรียหนุ่มได้เข้ามานั่งในห้องทำงานของท่านประธานแห่ง PDM Group บุคคลผู้กุมอำนาจไว้ในมือระดับท็อปสิบของประเทศได้ ก็เพราะพลชอยากปรับปรุงห้
ภายในห้องนอนกว้างขวาง ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ เครื่องปรับอากาศทำงานเสียงเงียบกริบ ดวงไฟสีนวลทำให้ห้องมีบรรยากาศที่อบอุ่น เหมาะสำหรับไว้พักผ่อนหลังจากทำงานมาอย่างหนักทั้งวัน“แฮ่ก!”มันควรจะเป็นอย่างนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะคนเอาแต่ใจบอกว่าจะมาหากันบนเตียงนอนคิงไซซ์ ร่างทั้งสองที่มีขนาดแตกต่างโยกไหวเป็นจังหวะเดียวกัน อุณภูมิยี่สิบองศาไม่มีประโยชน์ เมื่อผิวกายของไอรินและพลชต่างชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ไฟสีนวลทำให้บรรยากาศเร่าร้อนอย่างไม่น่าเชื่อ รอบเตียงระเกะระกะไปด้วยเสื้อผ้าที่ถูกโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี“ไอริน อ้าขากว้าง ๆ อื้ม”“บอสขา บอส อื้ออ”ผ้าห่มผืนนุ่มถูกปัดตกลงไปกองที่พื้นข้างเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครสนใจ พลชโยกกายเข้าใส่เลขาสาว ทั้งแรงทั้งหนักแน่น ราวกับไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย“อื้อ บอสขา แฮ่ก”ไอรินหอบหายใจหนักหน่วง ร่างบอบบางบิดเร่าด้วยความซ่านเสียวแทบขาดใจ ดวงตาคู่งามปรือปรอย คลอไปด้วยน้ำตาจากความรู้สึกที่อัดอั้นทรมาน“รินไม่ไหวแล้ว อึก”“ห้ามเสร็จ อา ผมยังไม่ให้คุณเสร็จ”ไอรินเผลอส่งค้อนให้คนออกคำสั่ง พลชจึงลงโทษเลขาสาวด้วยการขยี้จุดอ่อนไหวของเธอแรง
นอกจากหน้าที่เลขาทั้งหน้าห้องและบนเตียงแล้ว สิ่งหนึ่งที่ไอรินทำเป็นประจำจนกลายเป็นกิจวัตรก็คือทำอาหารให้พลช กว่าหนึ่งเดือนที่อยู่ด้วยกันมา พลชกินข้าวที่ร้านอาหารหรือโรงแรมน้อยมาก เพราะตื่นเช้ามาก็มีอาหารเช้ากับกาแฟดำหนึ่งแก้ว เย็นมาก็มีอาหารไทยรสชาติถูกปากคอยท่า แถมรสชาติก็ไม่ได้ทิ้งกันกับร้านอาหารหรือโรงแรมเท่าไหร่ นานวันเข้าพลชก็เริ่มไม่สนใจอาหารจากเชฟดัง ๆ และติดรสมือเลขาไปโดยปริยายไอรินเลยกลายเป็นทั้งเลขา คู่นอน และเชฟไปด้วย เธอทำอาหารทั้งมื้อเช้าและมื้อเย็นทุกวันไม่ขาด คงจะมีแค่มือกลางวันที่ต้องฝากท้องกับที่อื่นบ้าง เพราะพลชคิดว่าไม่ควรใช้งานไอรินมากเกินไป“เสร็จแล้ว~”แต่ไอรินกลับคิดตรงข้ามกับเจ้านาย เธอรักการทำอาหารมาก การทำอาหารสำหรับเธอมันไม่ต่างอะไรจากการได้พักผ่อนหลังจากที่ทำงานหนักทั้งวัน ไม่ได้ลำบากอะไรทั้งนั้นหญิงสาวรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น หน้าตาสวยงามสะกดตา สวมผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนทับชุดทำงานหลวม ๆ เดินไปเดินมาในห้องครัวพร้อมส่งเสียงฮัมเพลงออกมาจากลำคอเป็นระยะ ใบหน้าเปื้อนยิ้มน้อย ๆ อย่างอารมณ์ดีไอรินชอบเข้าครัว โดยเฉพาะครัวที่เพนท์เฮ้าส์นี้ มันกว้างขวางและมีอุปกรณ์ครบค
ช่วงเวลายาวนานที่ต้องอุ้มท้องลูกน้อยเดินทางมาถึงเดือนสุดท้าย ไอรินไม่สามารถขยับตัวได้คล่องเพราะหน้าท้องที่นูนใหญ่ ใหญ่จนบางครั้งหลายคนที่เห็นยังอดถามไม่ได้ว่าลูกแฝดหรือเปล่า คนเป็นแม่ได้แต่หัวเราะแล้วตอบไปว่าเพราะพ่อเขาบำรุงดี ลูกชายถึงได้ตัวโตจ้ำม้ำไอรินหายแพ้ท้องหลังจากเข้าเดือนที่สี่ เธอยังคงไปทำงานที่บริษัทในตำแหน่งเลขาของท่านประธานเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ทุกคนต่างรับรู้โดยทั่วกันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นแค่เลขาทั่วไป ไอรินคือคุณนายแม็กซ์เวล และกำลังอุ้มท้องทายาทคนแรกของแม็กซ์เวลอยู่ นอกจากต้องให้ความเคารพแล้ว ยังต้องคอยเป็นหูเป็นตาดูแลความปลอดภัยให้ไอรินและคุณชายน้อยด้วยใคร ๆ ก็บอกว่าลูกชายในท้องของไอรินอภิชาตบุตร เพราะยังไม่ทันคลอดก็นำเรื่องราวดี ๆ มาให้ครอบครัว ไม่ว่าพลชจะหยิบจับอะไรก็สร้างเม็ดเงินและความรุ่งเรืองมาให้ PDM group เสมอ ตั้งแต่ภรรยาตั้งครรภ์พลชก็ก้าวขึ้นไปอีกขั้นในวงการธุรกิจ เขากลายเป็นชายหนุ่มอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีทรัพย์สินมากกว่าหมื่นล้านในวัยเพียงสามสิบต้น ๆในสายตาของคนนอกพลชยิ่งใหญ่ และมีอำนาจไม่ด้อยไปกว่าใคร ทว่าในสายตาข
งานแต่งของ พลช ดีน แม็กซ์เวล แน่นอนว่าย่อมต้องไม่ธรรมดา ลำพังแค่กลุ่มนักธุรกิจ นักข่าว หรือคนที่มีผลประโยชน์ต่อกันก็แทบล้นสถานที่จัดงานแล้ว จะไม่เชิญใครก็ไม่ได้ การทำธุรกิจยังไงก็อาศัยคอนเนคชั่นเป็นหลัก ถึงตอนนี้พลชจะมีอำนาจมากมายล้นฟ้า แต่ไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นการคีพคอนเนคชั่นไว้จึงสำคัญไอรินที่เป็นเลขาเข้าใจตรงนี้ดี เธอไม่บ่นสักคำที่ต้องเชิญแขกเป็นพัน ๆ คน เพราะตกลงกับสามีไว้แล้วว่าพิธีสาบานตนกับสวมแหวนในโบสถ์ จะมีแค่คนสนิทเท่านั้นส่วนงานเลี้ยงจะจัดใหญ่แค่ไหน จะมีแขกกี่พันคนไอรินไม่สน เพราะเธอได้รับสิทธิพิเศษของคนที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ต้องออกไปเดินรับแขกให้เมื่อย แค่อยู่ร่วมงานไม่เกินชั่วโมงก็กลับห้องพักได้ ที่เหลือคนเป็นสามีจะจัดการเอง“ริน”ไอรินหันไปมองตามเสียงเรียก คุณครูไอยราที่วันนี้อยู่ในชุดแสนสวย เดินเข้ามาหาลูกสาวด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า“แม่”“เวียนหัวหรือเปล่า หนุ่มน้อยของยายดื้อไหมวันนี้”“ไม่เลย วันนี้รินไม่รู้สึกอะไรเลย”หนุ่มน้อยของตระกูลแม็กซ์เวลตอนนี้มีอายุได้สามเดือนครึ่งแล้ว หลังกลับจากอิตาลีพลชก็รีบพาไอรินไปฝากครรภ์กับเพื่อนสนิทอย่างหมอวายุ พวกเขาต
“ไอริน!!”“อื้อ ทำไมต้องตะโกน” คนที่เซซบอกสามีบ่นอุบจู่ ๆ ตอนที่ลุกขึ้นไอรินก็รู้สึกว่าโลกมันหมุนเร็วเกินไป ภาพตรงหน้าพร่าเลือนจนเสียหลักล้ม โชคดีที่สามีตัวใหญ่ยืนอยู่ด้านหลังจึงไม่เกิดเรื่องน่าอายขึ้น ไม่อย่างนั้นคนปากร้ายที่รอเหยียบย่ำคงพูดอะไรให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจอีกไอรินฟังออกทั้งหมด สิ่งที่คนพวกนั้นพูดเธอฟังออกทุกคำ แต่ที่ไม่ตอบโต้ก็เพราะไม่ได้ใส่ใจ จิตใจของเธอล่องลอยไปหาเจลาโตรสบลูเบอร์รี่เปรี้ยวอมหวานที่เห็นเมื่อเช้า แค่คิดก็น้ำลายสอ อยากกิน อยากออกไปจากที่นี่เต็มทน“คุณไหวหรือเปล่า”“ไหวค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไร”ไอรินดันตัวออกจากอ้อมแขนของสามี ตอนนี้ทุกคนในห้องรับแขกมองมาที่เธอเป็นตาเดียว พวกเขาทำท่าทางเหมือนเห็นตัวประหลาดที่น่ารังเกียจ ไม่มีความเกรงใจกันสักนิดไม่ยักรู้ว่าตระกูลผู้ดีเขาสั่งสอนลูกหลานกันแบบนี้“ผู้หญิงชั้นต่ำก็เป็นแบบนี้ ชอบเรียกร้องความสนใจ”“โรเบิร์ต”“ผมไม่ได้ทำอะไรใครนี่ครับคุณแม่ แค่พูดความจริง หล่อนฟังเรารู้เรื่องที่ไหน” โรเบิร์ตยักไหล่ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด ไม่ได้แตะต้องหล่อนแม้แต่ปลายก้อย ก็แค่คำพูด ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นก็ฟังไม่ออกฟังไม่ออก ก็แปลว่าเข
“ที่รัก ตื่นได้แล้วครับ”“อื้อ”“ตื่นได้แล้ว เครื่องจะแลนด์ดิ้งแล้วนะ”“ง่วงจัง” ไอรินปรือตาขึ้นมองใบหน้าสามี “ดีนคะ รินอยากนอนต่อจังค่ะ”“ไว้ถึงที่พักแล้วค่อยนอนต่อนะ ตอนนี้ลุกขึ้นมาก่อน”พลชพูดพลางปรับเก้าอี้ให้ภรรยา ไอรินแม้ไม่อยากตื่นแต่ก็จำใจต้องตื่น เสียงประกาศของพนักงานดังไปทั่วทั้งห้องโดยสารว่าอีกยี่สิบนาทีเครื่องจะลงจอดที่ท่าอากาศยานฟีอูมีชีโน ประเทศอิตาลีความง่วงงุนทำให้ไอรินไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าที่ควร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไทม์โซนที่ต่าง ร่างกายที่ยังปรับตัวไม่ได้ หรือเพราะเธอแค่ขี้เกียจกันแน่เพราะช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาไอรินก็เอาแต่นอนเป็นแมวขี้เซา แม้แต่ตอนที่นั่งทำงานเธอยังหลับได้ ลำบากให้สามีต้องอุ้มเข้าไปนอนในห้องเป็นประจำเพราะกลัวว่าภรรยาจะปวดเมื่อยเนื้อตัว ไอรินทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกขอบคุณ แต่ลึก ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์นอกจากจะไม่ได้ช่วยงานพลชอย่างเต็มที่แล้ว เธอยังเป็นตัวถ่วงให้เขาต้องเป็นกังวลอีก“คุณไม่ยอมตื่นมาทานข้าวเลย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากสำรวจภรรยาว่าคาดเข็มขัดดีหรือไม่เรียบร้อยแล้ว “คุณนอนตลอดสิบกว่าชั่วโมงได้ยังไง ไม่เพลียเหรอ”“ไม่เลยค่ะ รินสา
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้ว แต่ทั้งสองคนบนเตียงก็ยังคงตระกองกอดกันไม่ปล่อย ทั้งไอรินและพลชตื่นพร้อมกันตั้งแต่ชั่วโมงก่อน แต่แทนที่พวกเขาจะเร่งรีบลุกขึ้นเตรียมตัวไปทำงานเหมือนปกติ ในวันนี้ทั้งคู่ต่างพร้อมใจกันนอนเอ้อระเหยอย่างสบายอารมณ์เหมือนคนว่างงานเพราะวันนี้ท่านประธานกับเลขาส่วนตัว ใช้สิทธิ์ลางานช่วงเช้าเพื่อไปทำธุระสำคัญ“ที่รัก ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวสาย”“อื้อ รินง่วงมากเลยค่ะ อยากนอนต่อจัง” คนง่วงปรือตาขึ้นน้อย ๆ มองหน้าคนรักอย่างออดอ้อนไอรินน่ารักจนพลชอดใจไม่ไหว เขามอบจูบแสนหวานให้เธอแม้ว่าริมฝีปากอิ่มจะบวมเจ่ออยู่แล้วก็ตาม“อื้อ อย่าค่ะ”คนถูกจูบรีบดันชายหนุ่มออกก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิด เพราะเผลอหน่อยเดียวเสื้อยืดตัวโคร่งก็ถูกถลกขึ้นสูงแล้ว ทรวงอกอิ่มที่ไร้บราห่อหุ้มถูกบีบเคล้นเบา ๆ ไอรินรีบตะครุบมือปลาหมึกเอาไว้ก่อนที่ตัวเองจะใจอ่อน“ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวสาย”“รู้ตัวแล้วเหรอว่ากำลังจะสาย” พลชยอมละมือออกแต่โดยดี “ไปอาบน้ำกันที่รัก”“ไม่เอานะคะ อ๊ะ!”แขนเรียวรีบยกขึ้นคล้องต้นคอแกร่งเมื่อถูกช้อนตัวขึ้น สะโพกมนสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่ดุนดันอย่างก้าวร้าว ดวงตาคู่ส
“เหมือนว่าการที่เรารักกันมันจะไม่ง่ายเลยนะคะ” “ไอริน อย่าพูดแบบนี้”พลชส่ายอย่างตื่นตระหนก เขากลัว กลัวว่าประโยคต่อมาของไอรินจะทำให้หัวใจของเขาแตกสลาย“ทำไมคะ รินคิดว่า..”“ไม่นะริน! ไม่พูดคำนั้นออกมานะที่รัก”พลช ดีน แม็กซ์เวล ทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้น ใช้สองแขนกอดรัดร่างเพรียวบางของแฟนสาวเอาไว้แน่น ซบใบหน้ากับหน้าท้องราบเรียบด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจเขากลัว กลัวว่าไอรินจะบอกเลิกเขากลัวว่าไอรินหายไปอีกครั้งเขากลัว“อึก”“คุณ..”ความหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตา ชายหนุ่มวัยสามสิบสี่ปีร่ำไห้เพียงเพราะกลัวว่าคนรักจะทิ้งไป ไม่เหลือคราบนักธุรกิจดังที่มีแค่คนเกรงใจในอำนาจ ตอนนี้พลชไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นนอกจากไอริน“อย่าทิ้งผมไปนะริน ได้โปรด”“ดีนคะ”“ให้ผมทำยังไงก็ได้ อึก ผมทำได้ทุกอย่าง แต่เราไม่เลิกกันนะริน ไม่เลิกกันได้ไหม ฮึก”ไอรินอ้าปากค้าง ก่อนที่มือบางฟาดผลัวะเข้าที่ไหล่กว้างเต็มแรง ทำเอาคนที่กำลังร้องไห้หยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมองแฟนสาวทั้งน้ำตาทั้งเสียใจ ทั้งเจ็บตัว ทั้งงุนงง พลชเหมือนลูกหมาตัวโต ๆ ที่เจ้าของไม่พาไปเดินเล่น“เลิกอะไรคะ!” ไอรินถามเสียงเขียว ฟาดมือกับไหล่หนาอีกที “ตบปา
“ในที่สุดลูกชายซื่อบื้อของมัมก็พาหนูรินกลับมาจนได้”หลังจากกอดหอมไอรินจนหนำใจ พิมพ์ดาวก็หันไปค่อนแคะลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ถ้าไม่ตรอมใจจนเข้าโรงพยาบาล ป่านนี้คนซื่อบื้อก็ยังคงซื่อบื้อต่อไปพลชไม่ได้โกรธแม่แต่ก็หัวเราะไม่ออกเหมือนกัน แค่คิดว่าต้องเสียไอรินไปอีกครั้ง ก้อนเนื้อในอกซ้ายก็บีบรัดอย่างรุนแรง เหมือนว่ามันกำลังจะแตกสลาย“อื้ออ ดีนคะ!” ไอรินตีแขนแกร่งที่จู่ ๆ ก็เข้ามาโอบรัดรอบเอว “ทำอะไรคะ คุณมัมกับคุณแด๊ดมองอยู่นะ”“อยากกอด ผมกลัวว่ารินจะหายไป”“รินจะหายไปได้ยังไงล่ะคะ”“คงฝังใจน่ะสิ” พิมพ์ดาวเอ่ยเหมือนเข้าไปนั่งกลางใจของลูกชาย “อย่างงี้ล่ะน้า คนมันเคยพลาดมาก่อน คงกลัวว่าจะซ้ำรอยเดิมอีก”“อะไรเหรอคะคุณมัม”“ดีนกำลังกลัวว่าจะเสียรินไปอีกน่ะลูก”ไอรินทั้งเข้าใจ และเห็นใจคนรัก เธอไม่รู้หรอกว่าสามเดือนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง แต่จากสภาพทรุดโทรมที่ได้เห็น และที่วิลล์กับไมค์เล่าให้ฟังว่าพลชถึงขั้นหมดสติ ต้องหามส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาเองก็คงเจ็บปวดไม่ต่างกันไม่มีใครมีความสุขกับการจากลาในครั้งนั้น ไม่แปลกเลยที่พลชจะจำฝังใจ เพราะแม้แต่ตัวเธอก็ยังหลงเหลือบาดแผลเล็ก ๆ
ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของชาวบ้าน ใช้เวลาแค่สิบวัน โรงเรียนที่ถูกปรับปรุงก็เสร็จสมบูรณ์ หลังจากให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าไม่มีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขแล้ว เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีก็ดังก้องไปทั่วดอยเล็ก ๆ แห่งนี้“ในที่สุดโรงเรียนก็เสร็จแล้ว!”“หลังจากนี้เด็ก ๆ จะได้มีอาคารเรียนดี ๆ ไม่ต้องกลัวว่าหลังคาจะรั่วตอนฝนตกอีก”“ห้องน้ำก็มิดชิดขึ้น โรงอาหารก็ใหญ่โต เด็ก ๆ โชคดีกันมากนะรู้ไหม สมัยพี่เรียนไม่มีอะไรแบบนี้หรอก ต้องตั้งใจเรียนนะ อย่าให้พวกพี่เสียแรงเปล่าล่ะ”เด็ก ๆ ต่างพากันพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน ดวงตาสุกสกาวไร้เดียงสามองโรงเรียนที่เกือบจะจำภาพเดิมไม่ได้ด้วยความตื่นเต้นยินดี นอกจากอาคารเก่าที่ถูกปรับปรุงใหม่จนแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังมีอาคารอีกหนึ่งหลังที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วย ทั้งใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า เด็ก ๆ ตื่นเต้นจนอยากเข้าไปเรียนเสียเดี๋ยวนี้ในอาคารนั้นมีทั้งห้องสมุด ห้องวิทยาศาสตร์ แถมยังมีเครื่องคอมพิวเตอร์อีกห้าเครื่องตั้งไว้ให้เด็ก ๆ ได้ลองใช้ รวมถึงมีทีวีขนาดยักษ์ ที่ครูไอยราบอกว่าจะมีครูสอนพวกเด็ก ๆ จากในนั้นได้ยินว่าเป็นการเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม เด็ก ๆ ไม่เข้าใจสิ่งนี้ ผู
“อยู่บ้านดี ๆ นะริน ส่วนดีน เราน่ะอย่ารั้นจะไปช่วยชาวบ้านนัก เจ็บแบบนี้ยิ่งไปช่วยชาวบ้านเขาจะยิ่งเป็นกังวลจนไม่เป็นอันทำงานทำการกันพอดี”นักธุรกิจหนุ่มนั่งคอตก เถียงคุณครูไอยราไม่ออกเพราะตัวเองทำผิดจริง ๆเขาพักรักษาตัวมาได้สองวันแล้ว จุดที่ช้ำเริ่มเป็นสีม่วงเข้ม แต่เพราะยาจากไอยราทำให้รอยช้ำไม่น่ากลัวเท่าที่คิด ส่วนแผลที่แขนก็สมานกันดี พลชจึงแอบหนีไอรินไปที่โรงเรียน หวังจะช่วยหยิบจับอะไรได้บ้างแต่พอชาวบ้านเจอหน้าเขา ทุกคนก็พากันเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก จนครูไอยราต้องมาไล่ให้ว่าที่ลูกเขยกลับบ้านตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่าพลชคือใคร และเพราะรู้ ทุกคนถึงได้หวั่นเกรงแบบนี้ สำหรับชาวบ้านตาดำ ๆ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่แมลงศัตรูพืช แต่เป็นนายทุนอย่างพลชต่างหาก ขึ้นชื่อว่านายทุน.. ผลประโยชน์ย่อมมาก่อนทุกอย่างเสมอ ไม่รู้ว่าวันดีคืนดี จากหนุ่มลูกครึ่งแสนดีที่ชาวบ้านรักใคร่ จะกลายเป็นคนหน้าเลือดกว้านซื้อที่ดิน จนคนหาเช้ากินค่ำไม่มีที่ซุกหัวนอนวันไหน“วันนี้ชาวบ้านมองผมแปลก ๆ” พลชฟ้องคนรัก ระหว่างที่เปิดเสื้อขึ้นเพื่อให้ไอรินประคบสมุนไพรไอรินที่รู้เรื่องทุกอย่างดีไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แฟนหนุ่มยัง