Share

บทที่ 6

“ทำไมทำกันถึงขนาดนี้! เลียม...ไคลน์ไม่ผิดอะไร พวกคุณฆ่าเขา พวกฆาตกร!”

“คุณหนูครับ” เลียมกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าและแววตาเยือกเย็น

“ต้องขอโทษด้วย นี่เป็นคำสั่งของคุณอาร์โนล ผมต้องปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอย่างเคร่งครัด”

“แต่คุณพ่อสั่งให้พวกคุณฆ่าคน...โอ! ไม่...ปล่อยฉัน ฉันจะไปช่วยไคลน์!” อิสลินร้องไห้อย่างสิ้นหวังเมื่อการดิ้นรนไม่สัมฤทธิ์ผล เธอได้แต่มองร่างที่ถูกคลื่นพัดห่างจากชายฝั่งค่อย ๆ หายไปในความมืด หญิงสาวคาดไม่ถึงว่าคืนแห่งรักจะกลับกลายเป็นคืนวิปโยคและเป็นค่ำคืนสุดท้ายที่เธอได้เห็นหน้าเซอร์เรนัล์ฟ “ปล่อยฉัน!...พวกฆาตกร...พวกฆาตกร!”

เสียงกรีดร้องนั้นค่อย ๆ ห่างออกไปจากชายหาดเปลี่ยวที่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวผ่านมาเมื่อร่างบางออกแรงดิ้นถูกลากกลับไปยังรถลีมูซีนที่จอดรออยู่ไม่ไกล ทิ้งไว้แต่ภาพความทรงจำเศร้าสลดแก่หญิงสาวที่ร่ำร้องด้วยความรวดร้าวแทบขาดใจ

บทที่ 3  

“แกกล้ามาก อีฟ ที่แอบหนีไปอยู่กับไอ้หนุ่มอเมริกันกระจอกนั่นไกลถึงโมนาโก แกช่างไม่รักษาหน้าของพ่อแกบ้างเลย!”

เสียงดุดันดังขึ้นภายในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์เบอร์กแทรนช์ซึ่งชายวัยกลางคนในชุดสูทสีเทาควันบุหรี่เดินเอามือไพล่หลังไปมาต่อหน้าร่างเล็กที่ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตานั่งรับฟังผู้เป็นบิดาก่นว่าตั้งแต่กลับมาถึง อาร์โนลไล่บอดี้การ์ดและแม่บ้านทุกคนออกจากห้องนั้นเหลือเพียงเขาและบุตรสาวหัวรั้นที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง อิสลินยังคงนั่งเงียบ เธอได้แต่ร้องไห้โดยไม่มีเสียงและไม่ยอมพูดอะไรนอกจากกัดปากตัวเองจนห้อเลือด

“แกขัดคำสั่งพ่อมาหลายหน บอกแล้วอย่างไรว่าพ่อไม่อยากให้แกไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้ผู้ชายคนนั้น!”

“เรารักกันค่ะ คุณพ่อ! เหตุผลอะไรที่คุณพ่อต้องมากีดกันหนูกับไคลน์แบบนี้!”

คำโต้เถียงแรกหลุดจากปากของหญิงสาวและทำให้ชายวัยกลางคนตาวาวด้วยความเดือดดาล

“เหตุผลอย่างนั้นหรือ...เพราะมันเป็นคนไม่มีอะไร แกได้ยินชัดมั้ย อีฟ!...มันเลี้ยงดูแกให้อยู่สุขสบายเหมือนที่อยู่กับพ่อของแกไม่ได้หรอก!”

“คุณพ่อก็เลยให้พวกบอดี้การ์ดทำร้ายเขา คุณพ่อรู้มั้ยคะว่าฆาตกรพวกนั้นฆ่าไคลน์เมื่อคืนนี้!” หญิงสาวกรีดเสียงแหลมโต้ตอบไม่ลดละในขณะที่อาร์โนลเป็นฝ่ายเงียบไปพักใหญ่ เขามองดูบุตรสาวหลั่งน้ำตาและทอดถอนใจด้วยความอัดอั้นหลายต่อหลายครั้ง ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ทว่าใบหน้ายังมีเค้าความคมคายภายใต้เรือนผมสีดอกเลาซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจมือทองของเกาะอังกฤษส่ายหน้าไปมาอย่างนึกระอาในหัวใจ เขาเป็นคนส่งบอดี้การ์ดไปมอนติคาร์โลทันทีที่สืบรู้ว่าอิสลินเดินทางไปไหนเพราะนึกสงสัยอยู่แล้วว่าบุตรสาวต้องโกหกเขาเพื่อแอบหนีไปอยู่กับคนรัก

“อีฟ...พ่อมีลูกคนเดียว ในเมื่อแม่ของแกก็จากไปแล้ว ถ้าพ่อไม่ทำแบบนี้แกก็คงไปกับผู้ชายคนนั้นไกลแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นหนูจะกลับเมืองไทย กลับไปใช้ชีวิตอยู่กับญาติของคุณแม่ที่เมืองไทย หนูไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว!”

คำกล่าวตัดเยื่อใยนั้นทำให้อาร์โนลดวงตาวาวโรจน์ “แกจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น อีฟ”

“แต่หนูไม่อยากอยู่กับคุณพ่อที่ใช้อำนาจทำอะไรก็ได้แม้กระทั่งฆ่าคน คุณพ่อไม่เคยสนใจเลยว่าคนอื่นจะเป็นยังไง คุณพ่อใช้อำนาจเงินทำลายชีวิตคนที่หนูรัก ต่อไปถ้าหนูรักใครอีกคุณพ่อก็คงจะทำแบบนี้ไปอีกเรื่อย ๆ ใช่ไหมคะ!”

“แกไม่เข้าใจหรอก อีฟ! แกไม่เข้าใจว่าพ่อของแกตอนนี้ไม่ใช่อาร์โนล เบอร์กแทรนช์ที่มีอำนาจอยากทำอะไรก็ได้ตามใจอย่างแต่ก่อน เพราะแกเองก็ไม่เคยรับรู้ว่าพ่อของแกต้องประสปปัญหาอะไรบ้าง!” พออาร์โนลพูดจบอิสลินก็ลุกขึ้นและมองบิดาที่ไม่ยอมสบนัยน์ตาแสดงความกังขานั่นแม้แต่น้อย ปกติเธอไม่เคยเห็นเขาเป็นเช่นนี้ ทุกครั้งที่บิดาตัดสินใจทำอะไรลงไปก็ไม่กังวลถึงผลที่ตามมาเสมอ เวลานี้ถึงความเสียใจจะมากมายเท่าใดแต่ก็ยังสังเกตได้ถึงบางสิ่งบางอย่างผิดปกติฉายออกมาจากแววตาของอีกฝ่าย

“ปัญหาหรือคะ?” หญิงสาวแค่นยิ้มขมขื่นก่อนจะกล่าวทั้งน้ำตา

“หนูไม่เคยเห็นคุณพ่อมีปัญหาอะไรนี่คะ นอกเสียจากว่าอยากทำอะไรคุณพ่อก็ทำโดยไม่ต้องยั้งคิดและพร้อมที่จะขจัดเรื่องค้างคาใจออกไปได้เสมอ หนูก็เห็นว่าเวลาคุณพ่อไม่พอใจใครก็จะหาทางกำจัดไปให้พ้นและนั่นก็รวมถึง เซอร์เรนัล์ฟ ไคลน์ ที่เขาไม่ควรต้องมาตายเพราะหนูเองเลือกที่จะรักเขา...คุณพ่อใจร้ายเหลือเกินค่ะ คุณพ่อทำมันลงไปได้ยังไง คุณพ่อทำได้แม้กระทั่งเชือดหัวใจของตัวเอง!”

“พ่อต้องรักษาหัวใจของพ่อไว้ต่างหาก และหัวใจดวงนั้นก็คือแก...อีฟ!”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status