“ทำไมทำกันถึงขนาดนี้! เลียม...ไคลน์ไม่ผิดอะไร พวกคุณฆ่าเขา พวกฆาตกร!”
“คุณหนูครับ” เลียมกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าและแววตาเยือกเย็น
“ต้องขอโทษด้วย นี่เป็นคำสั่งของคุณอาร์โนล ผมต้องปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอย่างเคร่งครัด”
“แต่คุณพ่อสั่งให้พวกคุณฆ่าคน...โอ! ไม่...ปล่อยฉัน ฉันจะไปช่วยไคลน์!” อิสลินร้องไห้อย่างสิ้นหวังเมื่อการดิ้นรนไม่สัมฤทธิ์ผล เธอได้แต่มองร่างที่ถูกคลื่นพัดห่างจากชายฝั่งค่อย ๆ หายไปในความมืด หญิงสาวคาดไม่ถึงว่าคืนแห่งรักจะกลับกลายเป็นคืนวิปโยคและเป็นค่ำคืนสุดท้ายที่เธอได้เห็นหน้าเซอร์เรนัล์ฟ “ปล่อยฉัน!...พวกฆาตกร...พวกฆาตกร!”
เสียงกรีดร้องนั้นค่อย ๆ ห่างออกไปจากชายหาดเปลี่ยวที่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวผ่านมาเมื่อร่างบางออกแรงดิ้นถูกลากกลับไปยังรถลีมูซีนที่จอดรออยู่ไม่ไกล ทิ้งไว้แต่ภาพความทรงจำเศร้าสลดแก่หญิงสาวที่ร่ำร้องด้วยความรวดร้าวแทบขาดใจ
บทที่ 3
“แกกล้ามาก อีฟ ที่แอบหนีไปอยู่กับไอ้หนุ่มอเมริกันกระจอกนั่นไกลถึงโมนาโก แกช่างไม่รักษาหน้าของพ่อแกบ้างเลย!”
เสียงดุดันดังขึ้นภายในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์เบอร์กแทรนช์ซึ่งชายวัยกลางคนในชุดสูทสีเทาควันบุหรี่เดินเอามือไพล่หลังไปมาต่อหน้าร่างเล็กที่ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตานั่งรับฟังผู้เป็นบิดาก่นว่าตั้งแต่กลับมาถึง อาร์โนลไล่บอดี้การ์ดและแม่บ้านทุกคนออกจากห้องนั้นเหลือเพียงเขาและบุตรสาวหัวรั้นที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง อิสลินยังคงนั่งเงียบ เธอได้แต่ร้องไห้โดยไม่มีเสียงและไม่ยอมพูดอะไรนอกจากกัดปากตัวเองจนห้อเลือด
“แกขัดคำสั่งพ่อมาหลายหน บอกแล้วอย่างไรว่าพ่อไม่อยากให้แกไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้ผู้ชายคนนั้น!”
“เรารักกันค่ะ คุณพ่อ! เหตุผลอะไรที่คุณพ่อต้องมากีดกันหนูกับไคลน์แบบนี้!”
คำโต้เถียงแรกหลุดจากปากของหญิงสาวและทำให้ชายวัยกลางคนตาวาวด้วยความเดือดดาล
“เหตุผลอย่างนั้นหรือ...เพราะมันเป็นคนไม่มีอะไร แกได้ยินชัดมั้ย อีฟ!...มันเลี้ยงดูแกให้อยู่สุขสบายเหมือนที่อยู่กับพ่อของแกไม่ได้หรอก!”
“คุณพ่อก็เลยให้พวกบอดี้การ์ดทำร้ายเขา คุณพ่อรู้มั้ยคะว่าฆาตกรพวกนั้นฆ่าไคลน์เมื่อคืนนี้!” หญิงสาวกรีดเสียงแหลมโต้ตอบไม่ลดละในขณะที่อาร์โนลเป็นฝ่ายเงียบไปพักใหญ่ เขามองดูบุตรสาวหลั่งน้ำตาและทอดถอนใจด้วยความอัดอั้นหลายต่อหลายครั้ง ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ทว่าใบหน้ายังมีเค้าความคมคายภายใต้เรือนผมสีดอกเลาซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจมือทองของเกาะอังกฤษส่ายหน้าไปมาอย่างนึกระอาในหัวใจ เขาเป็นคนส่งบอดี้การ์ดไปมอนติคาร์โลทันทีที่สืบรู้ว่าอิสลินเดินทางไปไหนเพราะนึกสงสัยอยู่แล้วว่าบุตรสาวต้องโกหกเขาเพื่อแอบหนีไปอยู่กับคนรัก
“อีฟ...พ่อมีลูกคนเดียว ในเมื่อแม่ของแกก็จากไปแล้ว ถ้าพ่อไม่ทำแบบนี้แกก็คงไปกับผู้ชายคนนั้นไกลแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นหนูจะกลับเมืองไทย กลับไปใช้ชีวิตอยู่กับญาติของคุณแม่ที่เมืองไทย หนูไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว!”
คำกล่าวตัดเยื่อใยนั้นทำให้อาร์โนลดวงตาวาวโรจน์ “แกจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น อีฟ”
“แต่หนูไม่อยากอยู่กับคุณพ่อที่ใช้อำนาจทำอะไรก็ได้แม้กระทั่งฆ่าคน คุณพ่อไม่เคยสนใจเลยว่าคนอื่นจะเป็นยังไง คุณพ่อใช้อำนาจเงินทำลายชีวิตคนที่หนูรัก ต่อไปถ้าหนูรักใครอีกคุณพ่อก็คงจะทำแบบนี้ไปอีกเรื่อย ๆ ใช่ไหมคะ!”
“แกไม่เข้าใจหรอก อีฟ! แกไม่เข้าใจว่าพ่อของแกตอนนี้ไม่ใช่อาร์โนล เบอร์กแทรนช์ที่มีอำนาจอยากทำอะไรก็ได้ตามใจอย่างแต่ก่อน เพราะแกเองก็ไม่เคยรับรู้ว่าพ่อของแกต้องประสปปัญหาอะไรบ้าง!” พออาร์โนลพูดจบอิสลินก็ลุกขึ้นและมองบิดาที่ไม่ยอมสบนัยน์ตาแสดงความกังขานั่นแม้แต่น้อย ปกติเธอไม่เคยเห็นเขาเป็นเช่นนี้ ทุกครั้งที่บิดาตัดสินใจทำอะไรลงไปก็ไม่กังวลถึงผลที่ตามมาเสมอ เวลานี้ถึงความเสียใจจะมากมายเท่าใดแต่ก็ยังสังเกตได้ถึงบางสิ่งบางอย่างผิดปกติฉายออกมาจากแววตาของอีกฝ่าย
“ปัญหาหรือคะ?” หญิงสาวแค่นยิ้มขมขื่นก่อนจะกล่าวทั้งน้ำตา
“หนูไม่เคยเห็นคุณพ่อมีปัญหาอะไรนี่คะ นอกเสียจากว่าอยากทำอะไรคุณพ่อก็ทำโดยไม่ต้องยั้งคิดและพร้อมที่จะขจัดเรื่องค้างคาใจออกไปได้เสมอ หนูก็เห็นว่าเวลาคุณพ่อไม่พอใจใครก็จะหาทางกำจัดไปให้พ้นและนั่นก็รวมถึง เซอร์เรนัล์ฟ ไคลน์ ที่เขาไม่ควรต้องมาตายเพราะหนูเองเลือกที่จะรักเขา...คุณพ่อใจร้ายเหลือเกินค่ะ คุณพ่อทำมันลงไปได้ยังไง คุณพ่อทำได้แม้กระทั่งเชือดหัวใจของตัวเอง!”
“พ่อต้องรักษาหัวใจของพ่อไว้ต่างหาก และหัวใจดวงนั้นก็คือแก...อีฟ!”
อาร์โนลหันกลับมามองบุตรสาวดวงตาแดงก่ำ อิสลินก็ถึงกับผงะและยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นเมื่อบิดาจับไหล่บางทั้งสองไว้“ฟังพ่อนะอีฟ...สิ่งที่ลูกกำลังจะได้ยินต่อไปนี้เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับความอยู่รอดของเบอร์กแทรนช์ ไฟแนลเชี่ยล กรุ๊ป...เรา...กำลังจะล้มละลาย!” เรียวปากเล็กอ้าค้างและดวงตาคู่งามเบิกโพลงทันทีที่ได้ยิน โดลกทั้งโลกราวกับเอียงะเท่เร่ไปอยู่อีกฝั่ง เธออาจล้มพับไปแล้วหากอาร์โนลไม่ยึดไหล่บาง ๆ นั่นก่อนดึงเธอเข้าไปไว้ในอ้อมแขน“คุณพ่อคงล้อหนูเล่น เบอร์กแทรนช์ ไฟแนนเชี่ยลจะล้มละลายได้อย่างไรกันคะ”“เราเป็นบรรษัทเงินทุนที่มีความมั่นคงและถูกจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุด แต่เมื่อสองสามปีมานี้ลูกก็รู้ว่าภาวะเศรษฐกิจของยุโรปถดถอยมากแค่ไหน เราประสปกับปัญหาหนี้เสียมากเกินกว่าจะจัดการได้และมันก็ลุกลามใหญ่โตจนลูกค้าขาดความเชื่อมั่นและขอถอนเงินลงทุนคืน”“ทำไมคุณพ่อไม่ติดต่อให้รัฐบาลช่วยเหลือล่ะคะ?”“เราเป็นหนี้มากเกินกว่าที่เขาจะช่วยเหลือได้ ตอนนี้เราต้องเลย์ ออฟพนักงานและต้องสะสางหนี้หลายร้อยล้านปอนด์ แต่พ่อกำลังจะหาทางออก”“คะ...ทางออกหรือคะ?” อิสลินเกือบลืมเรื่องความเป็นความตายของชายคนรักไป
“อีฟ” ใครคนหนึ่งเดินมาจากเบื้องหลังและแตะไหล่เจ้าของร่างบอบบางในชุดกระโปรงลูกไม้สีดำเบา ๆ“คุณควรจะพักผ่อนบ้างนะ ถึงอย่างไรคุณพ่อก็ไปดีแล้ว” อิสลินหันมาทางเดเรก หนุ่มอเมริกันรูปร่างสูงโปร่งนัยน์ตาสีเขียวมรกตและใบหน้าสะอาดสะอ้านภายใต้เรือนผมสีบลอนด์เงินซึ่งบัดนี้เป็นสามีตามกฎหมายของเธอ เขาอยู่ในชุดสูทสีนิลขณะกำลังมองมาด้วยสายตาห่วงใย“ขอบคุณมากค่ะเดเรก หวังว่าคุณพ่อคงอยู่อย่างเป็นสุขในอ้อมกอดของพระเจ้า ฉันก็อยากกลับไปพักผ่อน แต่ก็อยากอยู่เป็นเพื่อนคุณพ่ออีกสักพัก”เดเรกเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ประกายแดดจ้าเริ่มยอแสง“นี่ก็เย็นมากแล้วนะอีฟ แต่ถ้าคุณยังไม่อยากกลับผมก็จะอยู่เป็นเพื่อน”“เดเรกคะ ใจจริงฉันไม่อยากรบกวนคุณเลยค่ะ แค่งานที่บริษัทของคุณก็ยุ่งมากพอแล้ว”“ผมบอกคุณหลายหนแล้วไง อีฟ” ชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองนั้นไว้และจ้องลึกลงไปในดวงตางดงามคู่นั้น“ว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันเสมอ”อิสลินยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ทว่าไม่ทันที่ทั้งสองจะได้พูดอะไรกันอีกเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อของอีกฝ่ายก็ดังขึ้น“ครับ...คุณแอนดรูว์ ว่าไงครับ?...หืม” หญิงสาวมองร่างสูงที่กำลังรับโทรศัพท์ด้วยสีหน้าแปลกเปลี่ยน เธอไม่รู
“อีวี่อาจวิ่งเล่นแถวนี้ ผมจะเดินไปดูทางโน้นก็แล้วกัน”ชายหนุ่มยิ้มแกน ๆ ก่อนจะเดินไปอีก้านของสุสานในขณะที่อิสลินเดินตรงไปทางกอดอกไม้เล็ก ๆ ที่อีวี่ชี้ให้ดูเมื่อครู่“อีวี่...ลูกจ๋า” หญิงสาวเดินพลางเรียกด้วยความรู้สึกที่เริ่มเป็นกังวล อีวี่แม้เป็นเด็กผู้หญิงแต่ก็ซุกซนเข้าขั้นจนบางครั้งเธอก็ถึงกับหอบ แต่อิสลินไม่เคยอยู่ห่างจากนางฟ้าของเธอเลยตั้งแต่แม่หนูลืมตาดูโลก นัยน์ตาสีฟ้าเข้มคู่นั้นเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งความรักนิรันดร์ที่จะอยู่กับเธอตลอดไป“อีวี่...ลูกอยู่ไหน?...อีวี่” ร่างบางรู้สึกว่าตัวเองเดินออกมาไกลและก้าวผ่านกอไม้รกเรื้อกระทั่งถึงบริเวณน้ำพุเล็ก ๆ ซึ่งห่างออกมาจากสุสานพอประมาณ“อีวี่!” อิสลินปรี่เข้าไปกอดบุตรสาวที่นั่งอยู่บนพื้นหญ้าใกล้กับน้ำพุเพียงโดดเดี่ยว“อีวี่...แม่บอกหนูแล้วไงจ๊ะว่าอย่าไปไหนมาไหนคนเดียว แม่ตกใจหมดรู้มั้ย”เสียงเอ็ดเบา ๆ ของหญิงสาวทำเอาหนูน้อยหน้าหงิกตาแดงก่ำ อีวี่ไม่พูดอะไรแต่ค่อย ๆ ยื่นของสิ่งหนึ่งซึ่งทำให้มารดาถึงกับผงะ“อีวี่...ลูกไปเอาดอกไม้นี่มาจากไหน?” หญิงสาวถามขณะรับดอกกุหลาบสีชมพูหวานจากร่างเล็ก“มีคนชวนหนูมาที่นี่...เขาบอกว่ามีดอกไม้สวย ๆ เยอ
“ข่าวที่ประธานแอร์โรว์ไวรอนต์หย่ากับภรรยาน่ะหรือ?” เดเรกเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น ร่างแน่งน้อยเงียบไป เธอเพิ่งไปเซ็นต์ใบหย่ากับเดเรกเมื่อวานนี้และมันก็กลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งอีกระลอกถัดจากข่าวความเสียหายที่เกิดกับบริษัท“อีฟ...คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่จู่ ๆ ผมก็ทิ้งคุณไปในช่วงเวลาแบบนี้”เดเรกดึงมือเรียวบางนั้นมาไว้บนตักและบีบมันเบา ๆ ก่อนจะกล่าวต่อ“มันน่าจะถึงเวลาที่ผมต้องยุติการทำหน้าที่การเป็นประธานแอร์โรว์ไวรอนต์ซึ่งมันเป็นความหวังของพ่อกับแม่เสียที หลังจากท่านทั้งสองเสียชีวิตผมก็คิดมาตลอดว่าอยากถอดหัวโขนนี้ออกไปในสักวัน ที่ผ่านมาผมมอบหน้าที่ให้แอนดรูว์หัวหน้าฝ่ายวิจัยดูแลการผลิตมาตลอด เพราะที่จริงผมไม่ได้อยากสานต่อเจตนารมณ์ของพ่อมากสักเท่าไหร่ ผมอยากไปอยู่ในที่สงบและใช้ชีวิตในแบบที่ผมเป็น”“แต่ตอนนี้คุณก็กำลังจะได้ไปตามทางที่คุณมุ่งหวัง เราต่างเป็นกำลังใจให้กันและกันเสมอมาไม่ใช่หรือคะ”“อีฟ...หลังจากที่ผมเดินทางไปปารีสแล้ว ผมอยากให้คุณได้รับรู้เจตนารมณ์ของผมอีกอย่าง นั่นคือการขายหุ้นทั้งหมดของแอร์โรว์ไวรอนต์ คอร์ป”“ฉันจะจัดการทุกอย่างได้อย่างไรล่ะคะ ถึงตอนนี้หุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทจะเปลี่
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณอีฟ...ผมมีหน้าที่เพียงทำตามความต้องการของคุณเดเรกก็เท่านั้น ถึงไม่มีแอร์โรว์ไวรอนต์แล้วแต่ผมก็จะยังคงสานต่องานด้านวิศวกรรมการบินของบริษัทซึ่งต่อไปก็จะอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของดี ฮันเตอร์ และประธานของบริษัทที่กำลังจะพาคุณไปทำความรู้จักตอนนี้อย่างไรล่ะครับ” แอนดรูว์กล่าวด้วยน้ำเสียงอันสุขุมตามแบบฉบับของคนพูดน้อย เขาเป็นคนคอยจัดการทุกอย่างให้เดเรกรวมทั้งวันนี้ที่พาเธอกับอีวี่ออกจากคฤหาสน์หลังงามชานเมืองเพื่อไปส่งอดีตสามีตามกฎหมายขึ้นเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเดินทางไปปารีส หลังจากนั้นจึงพาแม่หนูน้อยไปส่งที่เนอร์สเซอรี่ก่อนจะมาที่นี่เพื่อให้อิสลินได้ทำความรู้จักและมีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของบริษัทผลิตยูเอวีซึ่งเธอไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามหรือเห็นหน้าค่าตาเขามาก่อน“คุณรู้จักเขาหรือเปล่าคะ แอนดรูว์?”“ถ้าบอกไปคุณอีฟอาจต้องประหลาดใจก็ได้ ผมไม่เคยเห็นหน้าประธานของบริษัทนี้มาก่อนเลยครับ ผมเพียงติดต่อผ่านตัวแทนที่ทำให้เราแน่ใจว่าเขามีตัวตนอยู่ในแวดวงนี้จริง ๆ ”“แปลกจังนะคะ เดเรกก็ไม่รู้จักเขา...อืม...เขาคงเป็นพวกนักประดิษฐ์ที่ชอบเก็บตัวและทำให้มีคนอยากรู้เรื่องของเขาเป็นแ
“ไคลน์...มีอะไรที่ฉันยังไม่เข้าใจอย่างนั้นหรือคะ?”“ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็คงคิดว่าคุณน่ะไร้เดียงสา แต่เวลาก็ทำให้ผมค้นพบว่าไม่ควรไว้ใจคนที่ชอบเสแสร้งว่าตัวเองอ่อนต่อโลก โดยเฉพาะผู้หญิงแพศยาอย่างคุณ!”“ไคลน์! หยุดนะคะ คุณจะว่าฉันมากเกินไปแล้ว!”“มิสซิสเพียซ...อ้อ...ลืมไปว่าคุณน่ะเป็นหม้ายเพราะผัวทิ้งไปตอนกิจการกำลังมีปัญหา เดเรกมันฉลาดเอาตัวรอด เมียของมันก็เลยต้องมารับกรรมที่มันก่อไว้กับคนอื่นหนักหนาสาหัส!”“ปล่อยฉัน!” อิสลินสะบัดไหล่จากมือหนาและผละห่างเพื่อมองหน้าเขาชัด ๆ หญิงสาวส่ายหน้าทั้งน้ำตาเพราะไม่คิดว่าจะพบเจอซาตานสิงสู่สุภาพบุรุษที่เธอเคยรู้จัก ความรู้สึกเหมือนเกิดใหม่เมื่อครู่จางหายกลับกลายเป็นความระทมทุกข์เหมือนตายทั้งเป็นอีกครั้ง“ขอโทษนะคะ...ฉันคงเข้าใจอะไรผิดไป เพราะคุณไม่ใช่เซอร์เรนัล์ฟ ไคลน์ที่ฉันเคยรู้จัก”“ผมคือเซอร์เรนัล์ฟ ไคลน์!” น้ำเสียงกร้าวกว่าเดิมทำให้ร่างบางที่กำลังจะหันหลังกลับหยุดชะงัก หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อสะกดกลั้นไม่ให้เสียงสะอื้นลอดออกมาเมื่อรู้สึกถึงมือหนาใหญ่ที่จับไหล่เธอไว้จากด้านหลัง ทว่าคาวนี้เขากดมันไว้แน่นจนความปวดร้าวแล่นลงไปถึงฝ่ามือบางเย็นเฉ
อิสลินพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกกลบด้วยเสียงหัวเราะของเซอร์เรนัล์ฟ เขาหัวเราะเหมือนคนบ้าและมองเธอด้วยแววตาเยาะหยัน“คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า อีฟ...นี่คุณคงคิดว่าอยากจะขายหุ้นพวกนั้นไปให้ใครก็ได้ล่ะสิท่า เดเรกมันไม่เคยบอกคุณหรือว่าบริษัทของมันกำลังจะพินาศ!”“นี่...หยุดหัวเราะนะคะ ไคลน์! คุณพูดเรื่องอะไรกัน ในเมื่อฉันมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้กับหุ้นพวกนี้””ผมไม่เถียงคุณหรอก อีฟ...” ร่างสูงตระหง่านก้าวเข้ามาประชิดตัวเธออีกครั้ง อิสลินต้องแข็งใจทั้งที่ข้างในไหวยวบทุกคราที่เขาเข้ามาอยู่ใกล้“มันอาจเป็นสิ่งมีค่าสำหรับผู้หญิงหน้าเงินอย่างคุณ แต่คุณจะขายมันให้ใครไม่ได้อย่างเด็ดขาด!”“ฉันจะขายมัน แต่ขายให้ใครก็ได้ที่ไม่ใช่คุณ ฉันจะไม่มีวันขายหุ้นของแอร์โรไวรอนต์ให้กับดี ฮันเตอร์...โอ๊ย!”หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อเซอร์เรนัล์ฟดึงข้อมือของเธอไว้และบิดอย่างไม่คิดปราณี“ฟังผม! เมื่อไหร่ที่คุณขายหุ้นให้คนอื่นก็เตรียมตัวถูกฟ้องข้อหาบริษัทลักลอบส่งยูเอวีให้พวกนายหน้าค้าอาวุธสงครามได้เลย!”“คุณบังคับฉันไม่ได้หรอกค่ะ! ฉันขอยืนยันว่าจะไม่ขายมันให้คุณ”“สายเกินไปกระมัง อีฟ...หุ้นที่คุณเคยครอบครองมันตอนนี้ต
“ก็เอาซี อีฟ...ถ้าคิดว่าจะฆ่าผมได้ แต่ถ้าผมไม่ตาย คุณก็ต้องเจอแบบนี้!” อิสลินสะดุ้งสุดตัวเมื่อจอมซาตานสาดความกักขฬะเข้าใส่ด้วยการฉกเรียวลิ้นเข้าไปในปากเล็กและขบกัดบนริมฝีปากอ่อนจนเลือดซึม ข้อมือบางถูกบีบแทบหักทุกครั้งที่เขายัดเยียดสัมผัสอันปวดร้าวแก่หญิงสาวที่พยายามดิ้นหนี เซอร์เรนัล์ฟกลับกลายเป็นคนที่มีแค่เลือดเนื้อไร้หัวใจ ทุกอย่างที่ทำไปก็เพื่อสนองอารมณ์ดิบเถื่อนก็เท่านั้นหญิงสาวสะอื้นฮักขณะกลีบปากถูกบดจนเป็นรอยช้ำ จุมพิตในความทรงจำของอิสลินสูญสิ้นไม่มีเหลือ ใบหน้าคร้ามเข้มจูบดุดันเนิ่นนานกระทั่งเขาถอนริมฝีปากออกก็ถึงกับผงะเมื่อเห็นการกระทำรุนแรงต่ออิสลิน ดวงหน้างามนั้นซีดเผือดและเรียวปากบางบวมช้ำจนเห็นได้ชัด ไม่! เขาจะไม่เห็นใจและสงสาร เซอร์เรนัล์ฟเตือนตัวเองก่อนสำแดงอาการขึ้งเคียด“ผมรู้มาว่าที่คฤหาสน์ชานเมืองมีสวนไคกัตที่จำลองมาจากสวนของตระกูลร็อคกี้เฟลเล่อร์ ผมจะให้คุณกับลูกอยู่ที่นั่น...และจะไม่แตะต้องลูกของคุณ ถ้าคุณ...ยินยอมอยู่ในอาณัติของผม” ร่างแน่งน้อยกัดฟันแน่นขณะเอียงหน้าไปอีกทาง ผมเผ้านั้นยุ่งสยายไปหมดจากการขัดขืน เธอกำหมัดไว้แน่น ทั้งตา จมูก และปากเป็นรอยแดงทว่าเพียร