“ข่าวที่ประธานแอร์โรว์ไวรอนต์หย่ากับภรรยาน่ะหรือ?” เดเรกเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น ร่างแน่งน้อยเงียบไป เธอเพิ่งไปเซ็นต์ใบหย่ากับเดเรกเมื่อวานนี้และมันก็กลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งอีกระลอกถัดจากข่าวความเสียหายที่เกิดกับบริษัท
“อีฟ...คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่จู่ ๆ ผมก็ทิ้งคุณไปในช่วงเวลาแบบนี้”
เดเรกดึงมือเรียวบางนั้นมาไว้บนตักและบีบมันเบา ๆ ก่อนจะกล่าวต่อ
“มันน่าจะถึงเวลาที่ผมต้องยุติการทำหน้าที่การเป็นประธานแอร์โรว์ไวรอนต์ซึ่งมันเป็นความหวังของพ่อกับแม่เสียที หลังจากท่านทั้งสองเสียชีวิตผมก็คิดมาตลอดว่าอยากถอดหัวโขนนี้ออกไปในสักวัน ที่ผ่านมาผมมอบหน้าที่ให้แอนดรูว์หัวหน้าฝ่ายวิจัยดูแลการผลิตมาตลอด เพราะที่จริงผมไม่ได้อยากสานต่อเจตนารมณ์ของพ่อมากสักเท่าไหร่ ผมอยากไปอยู่ในที่สงบและใช้ชีวิตในแบบที่ผมเป็น”
“แต่ตอนนี้คุณก็กำลังจะได้ไปตามทางที่คุณมุ่งหวัง เราต่างเป็นกำลังใจให้กันและกันเสมอมาไม่ใช่หรือคะ”
“อีฟ...หลังจากที่ผมเดินทางไปปารีสแล้ว ผมอยากให้คุณได้รับรู้เจตนารมณ์ของผมอีกอย่าง นั่นคือการขายหุ้นทั้งหมดของแอร์โรว์ไวรอนต์ คอร์ป”
“ฉันจะจัดการทุกอย่างได้อย่างไรล่ะคะ ถึงตอนนี้หุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทจะเปลี่ยนจากคุณมาเป็นฉันก็จริง แต่ฉันก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของคุณเลยนะคะ” อิสลินแสดงความกังวลออกมาทางสีหน้าและแววตา แอร์โรว์ไวรอนต์มีปัญหาประจวบกับเวลาที่เดเรกอยากวางมือ เขาหย่ากับเธอก็จริงแต่กลับให้เธอเป็นผู้กุมบังเหียนบริษัทประดิษฐ์ยูเอวีระดับโลก
“อีฟ...ผมจะไม่ทำให้คุณกับลูกต้องลำบาก หลังจากที่กระทรวงเพิกถอนสัญญากับเราก็มีบริษัทผลิตโดรนรายใหญ่ติดต่อมาหาผม บริษัทนี้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาเป็นคู่สัญญากับกระทรวงกลาโหมแล้ว พอผมบอกว่ากำลังจะขายหุ้นในบริษัทและขายโรงงานผลิตยูเอวีที่เมืองเดย์ตัน อู่อุตสาหกรรมการบินของสหรัฐ เขาก็รีบเสนอตัวที่จะซื้อในทันที”
“บริษัทอะไรหรือคะ?”
“ดี ฮันเตอร์ คอร์ป เป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ แต่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากและเขาก็ผงาดขึ้นมาแทนที่แอร์โรว์ไวรอนต์ได้ในที่สุด”
“ใครเป็นเจ้าของกันคะ?” / ชายหนุ่มนิ่งนึกก่อนที่สุดท้ายก็ส่ายศีรษะ
“ผมยังไม่เคยรู้จักเขาเลย คนที่รับผิดชอบงานให้เขาเป็นคนติดต่อมา ดูเหมือนประธานบริษัทเป็นคนชอบเก็บตัวและไม่ค่อยสนใจออกสังคมสักเท่าไหร่ ก็คงเป็นธรรมดาของพวกนักประดิษฐ์ที่ชอบอยู่กับผลงานของตัวเองมากกว่าจะสุงสิงกับชาวบ้าน”
“ฉันทำให้คุณต้องยุ่งยากอีกแล้วนะคะ เดเรก...นับตั้งแต่เรื่องของอีวี่”
“ผมรักอีวี่...เธอทำให้การแต่งงานของเราสมบูรณ์แบบ และทำให้พ่อแม่ของผมเชื่อสนิทใจว่าลูกชายคนเดียวของท่านน่ะ มีครอบครัวที่อบอุ่นจริง ๆ “
บทที่ 4
“ค่ะ...มันดูเหมือนว่าพวกเราเป็นครอบครัวที่มีความสุขจริง ๆ “ อิสลินน้ำตาซึมเมื่อนึกถึงเวลาเมื่อห้าปีที่ผ่านมา เธอตกลงใจที่จะแต่งงานกับเดเรก เจ้าของแอร์โรไวรอนต์ คอร์ป บริษัทด้านวิศวกรรมการบินผู้ผลิตยูเอวีอันดับหนึ่งของสหรัฐ เขาเป็นนักธุรกิจไฟแรงและดูดีด้วยรูปร่างสูงโปร่งพร้อมบุคลิกสุภาพบุรุษที่มีความมุ่งมั่นอันเป็นภาพลักษณ์ที่สามารถปิดบังฉากหลังซึ่งไม่เคยมีใครล่วงรู้มาก่อนนอกเสียจากเจ้าสาวที่เขายอมเปิดใจหลังเข้าพิธีแต่งงานซึ่งเขาไม่ต้องการให้จัดหรูหราเอิกเกริก เดเรกบอกในสิ่งที่อิสลินคาดไม่ถึงแม้แต่น้อยว่า เขาเป็นชายที่มีใจรักชายเหมือนกัน ซึ่งการแต่งงานครั้งนั้นก็เพื่อต้องการปิดบังสถานภาพอันแท้จริง
“เราอยู่ด้วยกันก็นานเหมือนกันนะ ผมรู้สึกใจหายอย่างไรไม่รู้ที่ต้องไปจากคุณและลูกกระทันหันแบบนี้”
“อย่างน้อยคุณก็จะได้มีเวลาอยู่กับตัวเองและทำในสิ่งที่ใจอยากทำได้อย่างอิสระ...อืม แบรด รู้เรื่องนี้หรือยังคะ?” เจ้าของดวงหน้างามกำลังถามถึง แบรด ธาลตัน คนรักที่แท้จริงของเดเรกซึ่งเป็นผู้ชายที่มีวัยไล่เลี่ยกันและเขาก็มาร่วมอวยพรในพิธีแต่งงานด้วย นับจากวันที่เธอได้เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของเดเรก ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวรู้ว่าเธอใช้ชีวิตอยู่กับสามีที่ไม่เคยล่วงเกินหรือแสดงความรักอย่างชายหนุ่มหญิงสาวกับเธอเลยแม้สักครั้ง ทว่าอิสลินกลับมีความสุขกับชีวิตเล็ก ๆ ซึ่งมีเพียงเดเรกเท่านั้นที่รู้ว่าเธอตั้งครรภ์ได้สามเดือนก่อนจะเข้าพิธีแต่งงานกับเขา
“แบรดจะไปปารีสพร้อมกับผมในวันพรุ่งนี้ ส่วนเรื่องการติดต่อกับ ดี ฮันเตอร์ คอร์ป ผมจะให้แอนดรูว์ หัวหน้าฝ่ายงานวิจัยกับทนายของบริษัทช่วยเป็นธุระให้คุณ”
“ถ้าอย่างนั้นหลังจากขายหุ้นของแอร์โรไวรอนต์ ฉันก็จะพาอีวี่กลับไปอยู่เมืองไทย ฉันคิดถึงที่นั่นมากค่ะ”
“อีฟ...” เดเรกยกมือเรียวบางขึ้นมาแนบบนแก้มและยิ้มนุ่มนวล
“คุณเองก็เหมือนกันนะ นับแต่นี้คุณก็จะได้ทำในสิ่งที่คุณอยากทำอย่างอิสระเสียที”
“ค่ะ...เดเรก” อิสลินซบหน้าลงกับบ่ากว้างและทอดสายตาเลยแมกไม้ในสวยสวยไกลออกไปยังแสงดาวระยิบระยับที่ถักทอประกายบนท้องฟ้าเสมือนเข็มทิศนำทางแห่งความหวัง
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“ขอบคุณครับ คุณอีฟ...นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วครับ เหลือก็แต่การไปพบและทำความรู้จักกับประธานบริษัท ดี ฮันเตอร์ คอร์ป”
แอนดรูว์กล่าวขึ้นขณะรับเอกสารปึกใหญ่จากมือของอิสลินที่นั่งมาบนเบาะหลังของรถเก๋งคันหรูด้วยกันหลังจากเธอจรดปลายปากกาลงไปในเอกสารทางกฎหมายมากมายเพื่อรับทราบและยินยอมต่อข้อตกลงเกี่ยวกับการทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นของแอร์โรไวรอนต์ คอร์ปอเรชั่นให้กับดี ฮันเตอร์ คอร์ป บริษัทผู้ผลิตโดรนรายใหญ่ที่เต็มใจกว้านซื้อทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหุ้นมูลค่ามหาศาลและโรงงานใหญ่อีกสองแห่งในเมืองเดย์ตันซึ่งเดเรกตั้งใจโอนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอิสลินหลังการหย่า
“ขอบคุณมากนะคะ แอนดรูว์ ที่คอยจัดการทุกอย่างให้เดเรกกับฉัน” ร่างบอบบางภายใต้ชุดแสกผ้าไหมสีชมพูอ่อนหันไปกล่าวกับแอนดรูว์ ชายชาวอเมริกันรูปร่างสูงใหญ่อายุราวสี่สิบกว่าที่วันนี้สวมชุดสูทสีดำซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาการประดิษฐ์ยูเอวีให้กับแอร์โรไวรอนต์มานานหลายปี เขายิ้มบาง ๆ ดวงตาคู่นั้นมองไปนอกกระจกขณะที่รถค่อย ๆ เคลื่อนไปตามถนนสายใจกลางตัวเมืองเศรษฐกิจอย่างกรุงนิวยอร์ค ซิตี้ ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณอีฟ...ผมมีหน้าที่เพียงทำตามความต้องการของคุณเดเรกก็เท่านั้น ถึงไม่มีแอร์โรว์ไวรอนต์แล้วแต่ผมก็จะยังคงสานต่องานด้านวิศวกรรมการบินของบริษัทซึ่งต่อไปก็จะอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของดี ฮันเตอร์ และประธานของบริษัทที่กำลังจะพาคุณไปทำความรู้จักตอนนี้อย่างไรล่ะครับ” แอนดรูว์กล่าวด้วยน้ำเสียงอันสุขุมตามแบบฉบับของคนพูดน้อย เขาเป็นคนคอยจัดการทุกอย่างให้เดเรกรวมทั้งวันนี้ที่พาเธอกับอีวี่ออกจากคฤหาสน์หลังงามชานเมืองเพื่อไปส่งอดีตสามีตามกฎหมายขึ้นเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเดินทางไปปารีส หลังจากนั้นจึงพาแม่หนูน้อยไปส่งที่เนอร์สเซอรี่ก่อนจะมาที่นี่เพื่อให้อิสลินได้ทำความรู้จักและมีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของบริษัทผลิตยูเอวีซึ่งเธอไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามหรือเห็นหน้าค่าตาเขามาก่อน“คุณรู้จักเขาหรือเปล่าคะ แอนดรูว์?”“ถ้าบอกไปคุณอีฟอาจต้องประหลาดใจก็ได้ ผมไม่เคยเห็นหน้าประธานของบริษัทนี้มาก่อนเลยครับ ผมเพียงติดต่อผ่านตัวแทนที่ทำให้เราแน่ใจว่าเขามีตัวตนอยู่ในแวดวงนี้จริง ๆ ”“แปลกจังนะคะ เดเรกก็ไม่รู้จักเขา...อืม...เขาคงเป็นพวกนักประดิษฐ์ที่ชอบเก็บตัวและทำให้มีคนอยากรู้เรื่องของเขาเป็นแ
“ไคลน์...มีอะไรที่ฉันยังไม่เข้าใจอย่างนั้นหรือคะ?”“ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็คงคิดว่าคุณน่ะไร้เดียงสา แต่เวลาก็ทำให้ผมค้นพบว่าไม่ควรไว้ใจคนที่ชอบเสแสร้งว่าตัวเองอ่อนต่อโลก โดยเฉพาะผู้หญิงแพศยาอย่างคุณ!”“ไคลน์! หยุดนะคะ คุณจะว่าฉันมากเกินไปแล้ว!”“มิสซิสเพียซ...อ้อ...ลืมไปว่าคุณน่ะเป็นหม้ายเพราะผัวทิ้งไปตอนกิจการกำลังมีปัญหา เดเรกมันฉลาดเอาตัวรอด เมียของมันก็เลยต้องมารับกรรมที่มันก่อไว้กับคนอื่นหนักหนาสาหัส!”“ปล่อยฉัน!” อิสลินสะบัดไหล่จากมือหนาและผละห่างเพื่อมองหน้าเขาชัด ๆ หญิงสาวส่ายหน้าทั้งน้ำตาเพราะไม่คิดว่าจะพบเจอซาตานสิงสู่สุภาพบุรุษที่เธอเคยรู้จัก ความรู้สึกเหมือนเกิดใหม่เมื่อครู่จางหายกลับกลายเป็นความระทมทุกข์เหมือนตายทั้งเป็นอีกครั้ง“ขอโทษนะคะ...ฉันคงเข้าใจอะไรผิดไป เพราะคุณไม่ใช่เซอร์เรนัล์ฟ ไคลน์ที่ฉันเคยรู้จัก”“ผมคือเซอร์เรนัล์ฟ ไคลน์!” น้ำเสียงกร้าวกว่าเดิมทำให้ร่างบางที่กำลังจะหันหลังกลับหยุดชะงัก หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อสะกดกลั้นไม่ให้เสียงสะอื้นลอดออกมาเมื่อรู้สึกถึงมือหนาใหญ่ที่จับไหล่เธอไว้จากด้านหลัง ทว่าคาวนี้เขากดมันไว้แน่นจนความปวดร้าวแล่นลงไปถึงฝ่ามือบางเย็นเฉ
อิสลินพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกกลบด้วยเสียงหัวเราะของเซอร์เรนัล์ฟ เขาหัวเราะเหมือนคนบ้าและมองเธอด้วยแววตาเยาะหยัน“คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า อีฟ...นี่คุณคงคิดว่าอยากจะขายหุ้นพวกนั้นไปให้ใครก็ได้ล่ะสิท่า เดเรกมันไม่เคยบอกคุณหรือว่าบริษัทของมันกำลังจะพินาศ!”“นี่...หยุดหัวเราะนะคะ ไคลน์! คุณพูดเรื่องอะไรกัน ในเมื่อฉันมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้กับหุ้นพวกนี้””ผมไม่เถียงคุณหรอก อีฟ...” ร่างสูงตระหง่านก้าวเข้ามาประชิดตัวเธออีกครั้ง อิสลินต้องแข็งใจทั้งที่ข้างในไหวยวบทุกคราที่เขาเข้ามาอยู่ใกล้“มันอาจเป็นสิ่งมีค่าสำหรับผู้หญิงหน้าเงินอย่างคุณ แต่คุณจะขายมันให้ใครไม่ได้อย่างเด็ดขาด!”“ฉันจะขายมัน แต่ขายให้ใครก็ได้ที่ไม่ใช่คุณ ฉันจะไม่มีวันขายหุ้นของแอร์โรไวรอนต์ให้กับดี ฮันเตอร์...โอ๊ย!”หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อเซอร์เรนัล์ฟดึงข้อมือของเธอไว้และบิดอย่างไม่คิดปราณี“ฟังผม! เมื่อไหร่ที่คุณขายหุ้นให้คนอื่นก็เตรียมตัวถูกฟ้องข้อหาบริษัทลักลอบส่งยูเอวีให้พวกนายหน้าค้าอาวุธสงครามได้เลย!”“คุณบังคับฉันไม่ได้หรอกค่ะ! ฉันขอยืนยันว่าจะไม่ขายมันให้คุณ”“สายเกินไปกระมัง อีฟ...หุ้นที่คุณเคยครอบครองมันตอนนี้ต
“ก็เอาซี อีฟ...ถ้าคิดว่าจะฆ่าผมได้ แต่ถ้าผมไม่ตาย คุณก็ต้องเจอแบบนี้!” อิสลินสะดุ้งสุดตัวเมื่อจอมซาตานสาดความกักขฬะเข้าใส่ด้วยการฉกเรียวลิ้นเข้าไปในปากเล็กและขบกัดบนริมฝีปากอ่อนจนเลือดซึม ข้อมือบางถูกบีบแทบหักทุกครั้งที่เขายัดเยียดสัมผัสอันปวดร้าวแก่หญิงสาวที่พยายามดิ้นหนี เซอร์เรนัล์ฟกลับกลายเป็นคนที่มีแค่เลือดเนื้อไร้หัวใจ ทุกอย่างที่ทำไปก็เพื่อสนองอารมณ์ดิบเถื่อนก็เท่านั้นหญิงสาวสะอื้นฮักขณะกลีบปากถูกบดจนเป็นรอยช้ำ จุมพิตในความทรงจำของอิสลินสูญสิ้นไม่มีเหลือ ใบหน้าคร้ามเข้มจูบดุดันเนิ่นนานกระทั่งเขาถอนริมฝีปากออกก็ถึงกับผงะเมื่อเห็นการกระทำรุนแรงต่ออิสลิน ดวงหน้างามนั้นซีดเผือดและเรียวปากบางบวมช้ำจนเห็นได้ชัด ไม่! เขาจะไม่เห็นใจและสงสาร เซอร์เรนัล์ฟเตือนตัวเองก่อนสำแดงอาการขึ้งเคียด“ผมรู้มาว่าที่คฤหาสน์ชานเมืองมีสวนไคกัตที่จำลองมาจากสวนของตระกูลร็อคกี้เฟลเล่อร์ ผมจะให้คุณกับลูกอยู่ที่นั่น...และจะไม่แตะต้องลูกของคุณ ถ้าคุณ...ยินยอมอยู่ในอาณัติของผม” ร่างแน่งน้อยกัดฟันแน่นขณะเอียงหน้าไปอีกทาง ผมเผ้านั้นยุ่งสยายไปหมดจากการขัดขืน เธอกำหมัดไว้แน่น ทั้งตา จมูก และปากเป็นรอยแดงทว่าเพียร
“ผมให้แอนดรูว์ไปรับแล้ว ส่วนคุณต้องกลับไปพร้อมกับผม” / “ฉันกลับเองได้”“ลืมไปแล้วหรือยังไงว่ารับปากอะไรผมไว้! ไอ้อาการลืมง่ายแบบนี้นี่ไง เลยทำให้คุณใจง่ายมีผู้ชายคนใหม่โดยไม่ต้องคิด!”“ไคลน์!” อิสลินกำหมัดและกัดริมฝีปากซ้ำลงไปที่รอยแผลแตก ทว่าความเจ็บยังไม่ถึงครึ่งของคำพูดที่เขาใช้ทิ่มแทงเธอไม่วายเว้น หญิงสาวตัดสินใจเดินกลับออกไปแต่ไม่ทันแขนใหญ่ที่ตวัดโอบไหล่เธอไว้อีกหน ร่างแน่งน้อยทำทีว่าจะไม่ยอมหากเขาไม่ขู่เสียงกร้าว“อย่าขัดใจผม! เป็นเด็กดีและเชื่อฟัง...อย่าทำให้อะไร ๆ มันยุ่งยากไปกว่านี้!” เซอร์เรนัล์ฟเค้นเสียงจากในลำคอก่อนจะเดินโอบไหล่ร่างเล็กออกจากห้องทำงานเพื่อตรงไปยังลิฟท์ มีพนักงานหลายคนเดินผ่านมาและมองตามด้วยความสงสัย แต่ใครกันจะกล้าถามว่าประธานของดี ฮันเตอร์ หอบหิ้วผู้หญิงคนนี้มาจากไหน อิสลินจำต้องเดินตามเจ้าของวงแขนแข็งกระด้างด้วยความกระดากอายกระทั่งเข้าไปในลิฟท์ที่มีเพียงเขาและเธอสองคน“ผมอยากเห็นเด็กคนนั้น...อีกครั้ง” ร่างสูงใหญ่พูดขึ้นก่อนกดปุ่มลิฟท์ลงไปชั้นล่าง หญิงสาวไม่พูดอะไรแต่หวาดหวั่นในใจโดยไม่มีเหตุผล และก็เป็นจริงดังคาด ความเงียบของเธอบันดาลให้เขาเกิดโทสะขึ้นม
หญิงสาวร่างเล็กเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเงางามและดวงตากลมโตทว่าอ่อนหวานยามจับจ้องมายังเขา บัดนี้ภาพเหล่านั้นเจือจางไปจนหมด อิสลินก็เป็นแค่เหยื่อของผู้ชายที่มีลมหายใจไว้เพื่อการแก้แค้นเท่านั้น เซอร์เรนัล์ฟขับรถออกมาไกลกระทั่งเข้าสู่เขตชานเมืองนิวยอร์คซึ่งเป็นย่านที่เต็มไปด้วยบ้านหรูแวดล้อมด้วยทิวไม้ร่มรื่นราวแดนสงบที่อิงแอบอยู่กับธรรมชาติและทำให้รู้สึกราวกับหลุดจากโลกอันวุ่นวายของมหานครใหญ่กระนั้น ไม่นานคฤหาสน์หลังงามบนเนินหลังแมกไม้และสวนสวยก็ค่อย ๆ ปรากฏแก่สายตาของผู้มาเยือน อิสลินมองที่อยู่ของเธอด้วยความหดหู่ นับแต่นี้ไปสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นคุกกักขังหัวใจเธอ“สวนนั่น...” / “อีวี่ล่ะคะ! ไหนคุณบอกว่าแอนดรูว์ไปรับอีวี่แล้ว ฉันอยากเจอลูก!”อิสลินแทรกขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มจอดรถตรงทางเข้าคฤหาสน์ใกล้น้ำพุใหญ่ซึ่งรอบ ๆ ไม่เห็นเงาใครสักคน เซอร์เรนัล์ฟกำพวงมาลัยแน่นก่อนจะหันกลับมาทางหญิงสาวที่เฝ้ารอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ เขาทำสีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่สะทกสะท้านอะไรเลยกับความหวั่นกลัวที่ฉายชัดในแววตาคู่งาม“พาผมไปที่สวนไคกัต แล้วผมจะให้คุณ...ได้เจอแม่หนูน้อย”“ไคลน์ ถ้าฉันยินยอมที่จะทำตามความต้องการ
เธอพยายามส่งสัญญาณว่ารู้หน้าที่ของตัวเองดีแต่ชายหนุ่มกลับสำแดงสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาอีก“ผมก็อยากจะบอกคุณเหมือนกันว่าตอนนี้ผมเป็นเจ้าของที่นี่โดยสมบูรณ์ การที่เจ้าของอยากอยู่ส่วนไหนของคฤหาสน์คงไม่ใช่กงการของคนอาศัยจะมาชี้นิ้วสั่ง!”“ฉันไม่ได้สั่งคุณนะคะไคลน์ ...ใช่ค่ะ ฉันกับลูกอยู่ในฐานะของคนอาศัย แต่ฉันก็เพียงแสดงความคิดเห็นซึ่งมันก็ควรเป็นเช่นนั้น”“คุณไม่มีสิทธิ์แสดงความเห็นอะไรทั้งนั้น อีฟ...คุณมีหน้าที่ก็แค่ทำตามคำสั่งของผมเท่านั้น ชีวิตของคุณเป็นของผม ถ้าผมจะจองจำคุณไว้ที่นี่ชั่วชีวิตคุณก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ!” อิสลินนิ่งอึ้ง เซอร์เรนัล์ฟกลายเป็นซาตานร้ายอย่างเต็มตัว สุภาพบุรุษผู้แสนดีถูกความเคียดแค้นพยาบาทกลืนกินจนหมดสิ้น สิ่งที่เธอทำได้คือก้มหน้ารับคำบัญชาจากคนไร้หัวใจ“ค่ะ...ฉันเข้าใจ” หญิงสาวตอบรับเพียงสั้น ๆ ก่อนข้อมือบางจะถูกดึงไปกุมไว้พร้อมเสียงพูดจากร่างสูงที่ลดความเกรี้ยวโกรธลง“ตอนเดินผ่านมาเมื่อครู่ ผมเห็นสวนกุหลาบ ผมอยากเข้าไปดูใกล้ ๆ ““ไคลน์คะ...อีวี่อาจร้องหาฉันแล้ว บอกได้ไหมคะว่าแอนดรูว์พาเธอไปไว้ที่ไหน?”“ผมอยากไปดูต้นกุหลาบ แล้วจะพาคุณไปหาลูก” ซึ่งเธอก็คงปฏิเสธไม่ได้
“คุณต้องทำตามคำสั่งเจ้านายของคุณอยู่แล้วไม่ใช่หรือคะ แอนดรูว์ เขาเพิ่มเงินให้คุณเท่าไหร่กับการไปพาตัวเด็กมาจากเนอร์สเซอรี่โดยที่ผู้ปกครองไม่รู้เรื่องแบบนี้!” แอนดรูว์เป็นฝ่ายหลบสายตาเจ้าของคำพูดประชดประชันที่มองเขาอย่างผิดหวัง เธอคงรู้ทุกอย่างว่าเขาทำอะไรไปบ้างกับแอร์โรว์ไวรอนต์“ฉันไม่นึกเลยนะคะ แอนดรูว์ ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ทั้งที่เดเรกไว้ใจคุณทุกอย่าง!”“คุณอีฟครับ” คราวนี้เขามองเธอตรง ๆ บ้าง “ผมอาจทำงานให้คุณเซอร์เรนัล์ฟแต่การที่แอร์โรว์ไวรอนต์ตกไปอยู่ในมือคนอื่นนั้นเกิดจากความตั้งใจของคุณเดเรกเอง ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรตอนนั้นถึงได้วางมือจากทุกอย่างเสียเฉย ๆ แต่ผมก็ขอยืนยันว่าการที่บริษัทถูกเพิกถอนการเป็นคู่สัญญากับกระทรวง ผมไม่ได้มีส่วนผลักดัน”“คุณทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว แอนดรูว์” เสียงของจอมซาตานที่แทรกเข้ามาทำให้ชายวัยสี่สิบค่อย ๆ ลุกขึ้นก่อนถอยห่างไปยืนที่ประตูและมองอิสลินซึ่งเผลอกอดลูกไว้แน่นจนร่างเล็กอึดอัด“มามี้ ปล่อยก่อนซีคะ หนูยังต่อไม่เสร็จเลย” อีวี่ฮึดฮัดทว่าต้องหยุดกึกเมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตาเดินเข้ามาและย่อตัวลงนั่งใกล้ ๆ เด็กหญิงนิ่งนึกขณะเอียงหน้าเล็กมองเซอร์เรนัล