Share

บทที่ 5

“เรื่องนั้นฉันไม่กังวลหรอกค่ะ แต่สิ่งที่ฉันเป็นกังวลคือเมื่อไหร่ฉันกับคุณจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้อีก”

“แต่การหนีไปด้วยกันคงไม่ใช่คำตอบ”  ร่างสูงหยุดลงและหมุนร่างเล็กในอ้อมแขนให้หันมาสบตาเขา เซอร์เรนัล์ฟเกลี่ยปอยผมที่ลมพัดจนตกลงมาปรกผิวแก้มใสราวกำลังสัมผัสตุ๊กตาแสนสวยด้วยความรัก

“อีฟ คุณอาจต้องรออีกหน่อย ผมจะสร้างตัวให้พ่อของคุณยอมรับในสักวัน” / “ฉันไม่เคยไปไหนนะคะ ไคลน์”

อิสลินโอบผิวแก้มที่มีขนเคราบาง ๆ ไว้ด้วยฝ่ามือทั้งสอง ความสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบเซ็นต์ทำให้ร่างอรชรเล็กไปถนัดใจเมื่อยืนเทียบกับคนตัวโต

“ต่อให้ฉันต้องรอคุณไปอีกกี่ปีฉันก็จะรอ ก็ฉันรักคุณนี่คะ และที่สำคัญฉันเป็นของคุณ...ไคลน์คะ ฉันจะรักผู้ชายคนใหม่ได้ก็ต่อเมื่อฉันตายไปแล้วเท่านั้น”

“อีฟ...”  เซอร์เรนัล์ฟยิ้มอ่อนหวานก่อนโน้มใบหน้าหล่อเหลาเพื่อประทับจุมพิตอ่อนเบาบนเรียวปากที่ยังมีรอยบวมน้อย ๆ แขนแข็งแรงกระหวัดรั้งเอวบางเข้าหาตัวและเบียดอกกว้างกับอกอิ่มนุ่มของร่างอรชรท่ามกลางสายลมพลิ้วและแสงนวลยามโคมรัตติกาลอยู่ใจกลางฟากฟ้าสีกระจ่างกระทั่งชายหนุ่มค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกและสบตาคู่สวยที่เจ้าของอ่อนยวบอยู่ในอ้อมแขน

“กลับบ้านพักกันเถอะ เราออกมาไกลมากแล้ว” ร่างสูงใหญ่กระซิบชิดริมฝีปากอุ่นและได้รับคำตอบจากหญิงสาวเป็นการพยักหน้ารับ แต่ก่อนที่ทั้งสองจะบ่ายหน้ากลับที่พักก็มีอันต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นผู้ชายในชุดสูทสีดำสี่คนเดินตรงมาจากบนชายหาด

“เลียม!” อิสลินออกอาการตระหนกและกอดเซอร์เรนัล์ฟที่ก็ตกใจไม่แพ้กันไว้แน่น หญิงสาวไม่นึกว่าบอดี้การ์ดของบิดาจะตามมาถึงที่นี่

“คุณหนูครับ คุณอาร์โนลให้มารับคุณหนูกลับบ้านครับ” หนึ่งในนั้นซึ่งเป็นชายร่างสูงใหญ่ก้าวออกมาและพูดด้วยน้ำเสียงหนักแกมบังคับ แต่อิสลินส่ายหน้าไปมาขณะรัดแขนรอบเอวเซอร์เรนัล์ฟไม่ยอมปล่อย

“ไม่!...คนที่ต้องกลับไปคือพวกคุณนั่นแหละ...เลียม...ฉันจะอยู่ที่นี่ และจะอยู่ที่ไหนก็ได้ที่ฉันอยากจะอยู่”

“ผมเกรงว่าจะปล่อยคุณหนูไว้ที่นี่ไม่ได้ครับ เพราะนี่เป็นคำสั่งของคุณอาร์โนลให้พาคุณหนูกลับบ้านตอนนี้”

“ไม่!” / “อีฟ!”  เซอร์เรนัล์ฟพยายามกอดร่างบางที่ถูกชายอีกคนเข้ามารั้งตัวออกไปแต่เขาเพียงคนเดียวสู้แรงของชายตัวใหญ่อีกสองคนที่ล็อคแขนทั้งสองข้างไว้ไม่ได้ ชายหนุ่มฝืนกำลังสุดแรงเมื่อเห็นอิสลินที่ร่ำร้องไห้ถูกลากไปอยู่หลังหัวหน้าบอดี้การ์ดที่ยืนมองด้วยสายตาเยียบเย็น

“ปล่อยเธอ! ปล่อยอีฟ!” / “ไคลน์!”

 หญิงสาวร้องไห้และพยายามดิ้รนแต่ก็ไม่พ้นชายร่างยักษ์ที่ดึงข้อมือและกักร่างของเธอไว้แน่น

“ฉันจะกลับไปพร้อมคุณ...เลียม! แต่อย่าทำอะไรเขา อย่าทำอะไรเขา ได้โปรด!” อิสลินร้องบอกบอดี้การ์ดเพื่อขอต่อรองเมื่อเห็นว่าทุกอย่างกำลังจะเลวร้ายมากกว่าเก่า เธอไม่นึกห่วงตัวเองสักนิดแต่คนที่เธอห่วงใยมากที่สุดคือชายหนุ่มที่ถูกล็อคแขนเอามือไพล่หลังเหมือนเชลย เลียมหันกลับมายังร่างเล็กด้วยสีหน้าและแววตาราวกับหุ่นยนต์

“ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ครับ คุณหนู...นอกจากคุณอาร์โนลจะสั่งให้ผมพาคุณหนูกลับบ้าน ยังมีอีกอย่างที่ต้องทำ”

“อะไร...เลียม...คุณจะทำอะไร...ไม่!” หญิงสาวกรีดร้องออกมาสุดเสียงเมื่อคนที่เธอพูดด้วยหันกลับไปและเริ่มประเคนหมัดลงตรงช่องท้องของเซอร์เรนัล์ฟจนตัวคู้ ไม่มีเสียงร้องจากชายหนุ่มนอกจากใบหน้าบิดเบี้ยวและแววตาที่ยังมีร่องรอยของความห่วงหามองมาที่หญิงคนรัก

“อย่าทำอะไรเขา!...ไคลน์...ไม่!...ไม่!” อิสลินได้แต่ตะโกนเสียงแหบแห้งเมื่อเลียมพุ่งหมัดลงไปบนใบหน้าของคนหมดทางตอบโต้อีกหลายครั้ง หญิงสาวหัวใจแทบขาดออกจากกันเมื่อเห็นเซอร์เรนัล์ฟถูกทั้งหมัดและเข่าจากบอดี้การ์ดของบิดาจนอ่อนยวบ

“ไคลน์!”  เจ้าของเสียงร้องดังได้ก็แค่ต้องมองภาพของชายที่รักถูกทำร้ายโดยเธอไม่อาจช่วยเหลืออะไรเขาได้เลย ร่างสูงต้องบอบช้ำอย่างหนัก เบ้าตาและโหนกแก้มแตกเป็นแผลยับจนเลือดอาบใบหน้า ริมฝีปากถูกหมัดพุ่งใส่จนโลหิตกบและหยดลงบนเสื้อจนแดงไปหมด เซอร์เรนัล์ฟหอบหายใจแผ่วขณะร่างกายนั้นอ่อนเปลี้ย เขาหมดแรงลงทีละน้อยจนทรุดลงบนฟองคลื่น

“อีฟ”  ชายหนุ่มขานชื่อหญิงสาวเสียงแห้งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะคว่ำหน้าลงในน้ำ ดวงตาคู่งามเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าพวกบอดี้การ์ดหิ้วปีกร่างไร้สติออกไปในทะเลก่อนจะโยนเซอร์เรนัล์ฟให้ลอยไปตามแรงคลื่น

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status