Share

บทที่3.มันเป็นแค่ความฝันอย่างนั้นเหรอ? 4

ชายหนุ่มไม่ได้คิดจะกลับบ้าน แต่สมองกับความคุ้นเคยชักนำมา ดีแลนลดกระจก ส่งยิ้มให้คนดูแลประตูหน้า ชายผู้นั้นรีบกุลีกุจอเปิดประตูรั้วให้ เมื่อมองเห็นเจ้าของรถยนต์หรูถนัดตา

ถนนคอนกรีตทอดยาวตั้งแต่รั้วเหล็ก จนถึงโถงประตูบ้าน ทางเดินสีขาวสะอาดเพราะโรยไว้ด้วยก้อนกรวดสีขาว ขนาบกับถนนคอนกรีตที่กว้างพอให้รถยนต์สองคันวิ่งสวนกันได้ ตัวน้ำพุขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าโถงประตู กามเทพตัวน้อยยืนแอ่นฉี่ ปล่อยสายน้ำเย็นใสใสลงมาในอ่างใบใหญ่ที่มีปลาคราฟแหวกว่ายอยู่นับสิบตัว ดีแลนก้าวลงมายืนด้านข้าง เขามองไปรอบๆ ตัวด้วยความคิดถึง ดีแลนไม่ได้มาเหยียบบ้านใหญ่หลังนี้นานแล้ว เพราะเขามัวยุ่งๆ กับการทำงาน ประกอบกับ...ต้องการที่จะหลบใครบางคน

มีคนรับใช้โผล่หน้าออกมามอง แม้จะเป็นยามวิกาลที่สมาชิกส่วนใหญ่หลับใหลไปบ้างแล้ว

“คุณหนู” เสียงร้องทักผสมความตื่นเต้นยินดี

เนื่องจากเจ้านายน้อยของบ้าน แทบจะไม่โผล่มาให้เห็นเลย

“คุณพ่อ คุณแม่หลับหรือยัง?” ดีแลนถามถึงบิดา มารดา

“คุณท่านใหญ่ยังไม่นอนค่ะ อยู่ที่โถงบ้าน ส่วนคุณผู้หญิงคงกำลังเตรียมมื้อเช้าอยู่ในครัว”

ถึงจะมีแม่บ้าน แต่สิ่งที่ปรารถนาทำเป็นประจำ คือการตื่นเช้ามาทำอาหารให้สามีรับประทาน มันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนในบ้านหวังคุ้นเคยดี

“ดึกแล้วนะ ยังไม่นอนกันอีก” ดีแลนบ่นพึม เขาเดินไปทางทิศที่บิดานั่งพักผ่อนสายตาอยู่

มีคนรับใช้โผล่หน้ามามอง และส่งยิ้มให้ตลอดทาง

“ดึกป่านนี้แล้ว ทำไมพ่อยังไม่นอนครับ?” ดีแลนตั้งคำถาม ทันทีที่โผล่หน้าเข้าไปในห้องโถงกลางบ้าน

เดวิดละสายตาจากจอทีวี ท่านเบิกตาโตเมื่อเห็นบุตรชายยืนอยู่ตรงหน้า

“อาตี๋!” ดีแลนไม่ยอมเรียกบิดาว่าปะป๋า ไม่เรียกมารดาว่าหม่าม้า เขาพยายามทำตัวให้เป็นคนไทย เพื่อที่จะได้ไม่แปลกแยกกับคนไทยส่วนใหญ่ ซึ่งเดวิดก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็ยังเรียกบุตรชายด้วยสรรพนามที่ตนเองคุ้นปากอยู่ดี

“แอะ เหม็นเหล้า ไปดื่มมารึ?” ชายสูงวัยแสร้งทำจะจมูกฟุตฟิต ท่านได้กลิ่นเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์จากตัวบุตรชาย

“นิดหน่อยครับ” ดีแลนตอบ เขายกมือทำความเคารพมารดา ที่รีบเดินเข้ามา เพราะมีคนงานบางคนไปแจ้งให้ทราบ

“หิวไหมลูก มาเสียดึกเชียว” มือผอมบางลูบหลังไหล่ พร้อมกับรั้งดีแลนเข้าไปกอด ชายหนุ่มฮึดฮัดนิดหน่อย จนปรารถนาบ่น “กับแม่ทำเป็นหวงตัว ทีกับสาวๆ นี่ให้กอดไม่ยอมปล่อย”

ดีแลนหัวเราะ เขาสอดมือกอดกระชับเอวมารดา พลางขยิบตาให้บิดาที่นั่งยิ้มกว้างอยู่ข้างๆ

“พอดีออกมาดื่มกับลูกค้าครับ วันนี้ไม่มีอะไรทำแล้ว ผมเลยแวะมาหาพ่อกับแม่”

“ลูกผอมไปนะ งานหนักมากเลยเหรอ แม่ว่า ขายๆ ไปบ้างก็ได้ ทำทำไมนักหนางานหน่ะ” เพราะความเป็นห่วง นางเลยเริ่มบ่น

“คุณก็ยุลูก เดี๋ยวไอ้ตี๋มันบ้าจี้ขายกิจการขึ้นมาจริงๆ ทีนี้ล่ะจะเอาเงินที่ไหนใช้”

เดวิดยกกิจการที่ตนเองสร้างมาให้ดีแลนสานต่อ ตั้งแต่วันที่เขาเรียนจบกลับมาเมื่อสี่ปีก่อน และดีแลนก็ไม่เคยทำให้ท่านผิดหวัง กิจการเจริญรุดหน้า พนักงานยิ้มหน้าชื่นตาบานทุกคน

“ดีสิคะ ลูกจะได้มีเวลาหาเมีย ดีแลนแม่แก่แล้วนะลูก แม่อยากอุ้มหลาน” ปรารถนาหันมาพูดกับบุตรชายตรงๆ

เพราะหน้าที่การงาน ทำให้ดีแลนไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว เขายุ่งจนไม่มีสายตามองผู้หญิง และปรารถนารู้ ต่อให้นางจัดการให้ก็ไม่ถูกใจบุตรชายอยู่ดี

“หลานแม่ก็มีหลายคนแล้วนี่ครับ” ชายหนุ่มแย้ง

ถึงเขาจะยังไม่มีบุตรให้มารดาได้อุ้มชู แต่ลูกหลานคนอื่นก็มีทายาทตัวน้อยให้มารดาของเขาได้พลอยชื่นชมแล้วหลายคน

“มันเหมือนกันที่ไหนล่ะ แม่อยากอุ้มหลานที่เป็นลูกของเรานะดีแลน”

ปรารถนาชี้แจง...ลูกหลานคนอื่นจะเหมือนกับลูกหลานสายตรงได้ยังไง

“แม่แก่แล้วนะดีแลน...จะให้แม่รอถึงเมื่อไหร่ เราจะได้มีคนดูแลด้วยไม่ดีเหรอ ทุกวันนี้ กลับบ้านแล้วใครหาข้าวให้กินล่ะ” สาวใหญ่กล่าวเสียงขึงขัง

“ผมก็แค่....เอาข้าวที่แม่ทำไว้ใส่ไมโครเวฟ ทำไมต้องหาคนดูแลให้วุ่นวายด้วยล่ะครับ”

“มันเหมือนกันที่ไหนล่ะ หากลูกมีเมีย ลูกจะได้กินอาหารร้อนๆ ทันทีที่กลับถึงบ้าน”

ดีแลนขมวดคิ้ว ประโยชน์ของเมียมีแค่นั้นเองเหรอ หากมีแค่นั้น เขาจ้างแม่บ้านให้ทำให้ก็ได้ แต่เขาไม่ได้แย้งมารดาไป เพราะรู้ดีว่า ตนเองไม่มีทางเถียงชนะท่าน

“อย่าเร่งรัดอาตี๋มันเลยคุณ ถึงเวลามีก็มีเองนั่นแหละ”

เดวิดช่วยพูด ท่านรู้ดี ดีแลนกำลังสนุกกับการทำงาน เหมือนสมัยที่ท่านก่อร่างสร้างตัว

“คุณพี่คะ” ปรารถนาหันมากล่าวเสียงอ่อนกับสามี

เพื่อนฝูงรอบตัว เวลารวมตัวกัน ต่างพากันอวดลูก อวดหลาน ส่วนนางทำได้แค่ยิ้ม เพราะเบื่อที่จะอวดบุตรชาย นางอยากพูดถึงสมาชิกใหม่ แต่ก็ยังไร้ความหวัง

“ผมง่วงแล้ว ขอตัวไปนอนก่อนนะครับพ่อ แม่...แล้วก็...มื้อเช้า ผมอยากทานข้าวต้มปลาฝีมือแม่ด้วยครับ”

ดีแลนเอ่ยขอตัว หลังสนทนากับมารดา และบิดาพอสมควร เขาร้องขอมื้อเช้าสึดอร่อย ซึ่งไม่มีทางผิดหวังอยู่แล้ว เมื่อมารดาเต็มใจที่ทำทุกอย่าง หากเขาต้องการ

ห้องนอนของเขาเหมือนเดิมทุกอย่าง การจัดแต่งไว้แบบไหน ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน ดีแลนเดินไปหยุดที่ประตูบานใหญ่ เขาใช้ปลายนิ้วคีบชายผ้าม่าน เพื่อมองดูภายนอก...สายตาของเขาทอดยาวไปยังริมรั้ว บ้านหลังเล็กๆ นอกเขตรั้ว มีผู้หญิงสองคนอาศัยอยู่ ตรงจุดนี้ สมัยที่ดีแลนเป็นหนุ่ม เขาใช้เวลาหลายชั่วโมงสำหรับการแอบมอง

เพราะตรงจุดนี้จะมองเห็นบ้านหลังเล็กนั่นชัดที่สุด

เขาแอบมองอบเชย ยัยเชยที่เขาเรียกจนติดปาก

เด็กสาวผิวขาว แก้มยุ้ย ใบหน้าเปื้อนยิ้มและอารมณ์ดีเป็นนิจ ดีแลนเริ่มรู้ตัวว่าตนเองมองอบเชยแตกต่างจากทุกคน ตอนที่เขาเข้าเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย’ และตอนนั้นอบเชยเพิ่งจะมีอายุสิบปี พอเขาเรียนจบ มันยิ่งไปกันใหญ่ อบเชยเริ่มเป็นสาว หล่อนน่ารักจนเขาอดใจแทบไม่ไหว

ทันทีที่มารดาเสนอการไปเรียนต่อต่างประเทศ ดีแลนตอบตกลงแบบไม่ลังเล

เขาต้องอยู่ให้ห่างอบเชย ไม่อย่างนั้น เขาอาจจะเผลอตัว ทำอะไรบางอย่างที่ไม่ควรทำ และสองครอบครัวก็จะมองหน้ากันไม่ติด

เขาคิดลามกกับอบเชยวันละหลายรอบ สิ่งเดียวที่ดีแลนทำได้ คือการทำให้อบเชยอยู่ห่างๆ เขา ก่อนที่เขาจะหน้ามืดปล้ำหล่อน

ที่ดีแลนคิดออก ก็คือการแสดงออกว่าไม่พอใจการมีชีวิตของอบเชย

ทำให้คนรอบตัวเข้าใจแบบนั้น แสดงท่าทางไม่พอใจ และมันได้ผล อบเชยขยาดการอยู่ใกล้ๆ เขา หล่อนถอยไปหลบอยู่ห่างๆ หากณ. ที่นั่นมีเขาอยู่ร่วมด้วย แววตาของหล่อนวูบไหว หากเขาชำเรืองมอง ดีแลนต้องปรามตัวเอง...เด็กนั่นยังเป็นเด็ก ในขณะที่เขาเป็นหนุ่มแล้ว เขาไม่ควรสร้างเรื่องให้มารดาปวดหัว เพราะเรื่องชู้-สาว มันน่าอาย หากเกิดขึ้นกับเด็กไม่รู้อีโหน่อีเหน่

ดีแลนตัดสินใจลากเก้าอี้มานั่ง เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มองบานหน้าต่างห้องนอนที่รู้ดีว่าตรงนั้นมีใครอยู่

ในที่สุดสิ่งที่ดีแลนรอคอยก็มาถึง เขาเห็นเงาดำๆ วูบไป วูบมา อบเชยคงกลับมาบ้านแล้ว หล่อนกำลังเตรียมตัวนอน เขาเห็นเงานั่นกำลังถอด...เสื้อ

มือแข็งแรงยกขึ้นตะปบใต้จมูก มีอะไรบางอย่างไหลออกมาจากตรงนั้น น้ำเหนียวหนืดและมีกลิ่นคาวจัด

ชายหนุ่มโครงศีรษะ แค่เห็นเงาของอบเชย เขาถึงกับกำเดาไหล อาการหนักแล้วมึงไอ้ดีแลน!!

ดีแลนควานมือหากระดาษทิชชู เขาเช็ดเลือดกำเดาที่ไหลออกมาจนหมด พอดีกับที่เงาของอบเชยหายไปจากสายตาเสียแล้ว ไฟฟ้าในห้องของหล่อนก็ดับมืดลง แต่ดีแลนก็ยังนั่งอยู่ตรงนั้นอีกนานพอดู

ไม่ใช่แค่ดีแลนหรอกที่แอบมองอบเชย สาวใสวัยสิบเก้าปีเองก็แอบมองดีแลนมาตลอด เพราะความเจียมตัว และคนในบ้านหลังใหญ่มีพระคุณล้นเหลือ อบเชยเลยไม่กล้าที่จะแสดงออกเปิดเผย ที่เดียวที่เธอเป็นตัวของตัวเอง คือห้องนอนนั่นเอง ทันทีที่ไฟฟ้าในห้องดับสนิท อบเชยเลยเพิ่งมองเห็น ไฟฟ้าในห้องของดีแลนเองก็เปิดสว่าง หญิงสาวอ้าปากเหวอ เมื่อแน่ใจว่า ดีแลนกลับมานอนที่บ้านของเขา

ความตื้นตันกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตา อบเชยก้มมองรอยสีน้ำตาลไหม้กลางอก...รอย ‘จูบ’ ที่ค่อยๆ จางหายไปตามเวลา รอยที่ดีแลนฝากไว้ แต่เขาไม่รู้ตัวหรอก เพราะหากชายผู้นั้นรู้ตัว เขาคงไม่นิ่งเฉยแบบนี้ ดีแลนคงจะรีบแล่นมาหาเธอ และสั่งให้เธอ ‘ปิดปาก’ มันเป็นเรื่องน่าอายสำหรับเขาแน่ๆ ที่ดันเผลอตัวมาเกลือกกลั้วกับคนชั้นต่ำแบบเธอ

“ไอ้เชยเอ๋ย...แค่นี้ก็ดีถมเถแล้ว”

อบเชยพึมพำ แหงนมองห้องนอนของดีแลนด้วยแววตาเศร้าๆ

เป็นเพราะผ้าม่านหนาทึบแถมยังเป็นสีน้ำเงินเข้ม อบเชยเลยมองไม่เห็นที่หลังม่านนั่น มีใครบางคนนั่งมองเธออยู่เช่นเดียวกัน...

อบเชยทอดตัวลงนอน สายตาไม่ได้คลาดไปจากบานหน้าต่างห้องนอนดีแลนเลย น้ำตาเจ้ากรรมไหลออกมาจากหางตา และหยดลงบนหมอนนุ่มเป็นดวงๆ จนหมอนใบใหญ่เริ่มเปียกเพราะคราบน้ำตาของตนเอง อบเชยยกหลังมือขึ้นปาดคราบน้ำตา เผลอตัวสะอื้น แต่ก็พยายามกลั้นเสียงไว้ เธอไม่อยากให้มารดาได้ยิน

“เชย...รักคุณดี เชยไม่เคยเสียใจเลย...ฮือๆ”

เปลือกตาหลุบลง แพขนตาเปียกชุ่ม อบเชยไม่ได้เสียใจที่เสียตัว เธอเสียใจที่ระหว่างตนเองกับดีแลน...เป็นได้แค่ความหลัง ที่ไม่มีวันเป็นจริง...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status