บทที่5.อรุณสวัสดิความรัก
“ทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก” เทียนวางถุงในมือลงบนโต๊ะ เอ่ยถามบุตรสาวที่ยังนั่งอยู่กลางบ้าน
อบเชยหยุดความคิดวกวนของตนเอง ตอบมารดาเสียงใส “รอแม่ค่ะ”
เทียนรื้อของในถุงออกมากองด้านนอก “รอแม่ทำไม มีอะไรหรือเปล่า?”
“คุณดีอยากทานขนมต้ม” อบเชยตอบมารดา เธอไม่ได้บอกรายละเอียด
“คุณหนูมารึ? ได้ๆ เดี๋ยวแม่ทำให้” เทียนรับคำ
“คุณท่านสั่งขนมด้วยคะแม่ พรุ่งนี้คุณท่านจะไปบ้านเด็กกำพร้า” อบเชยกล่าวต่อ เธอผุดลุกขึ้นยืน เมื่อส่งสารที่รับฝากมาทั้งหมดให้มารดาเรียบร้อย
“ตายล่ะ พรุ่งนี้คงไม่ได้เปิดร้านขายขนมแน่ๆ แม่ซื้อของมาแค่พอใช้” เทียนบ่น ของที่เตรียมไว้มีแค่พอดี เทียนไม่ชอบซื้อมาเผื่อเพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่ต้องใช้ของสด หากเหลือไว้ มันจะทำให้รสขนมไม่ดีเท่าที่ควร
“เชยจะตื่นมาช่วยแม่ทำ พรุ่งนี้แม่ก็พักเถอะค่ะ นานๆ จะได้หยุดอยู่บ้านบ้าง”
“ไม่มีเรียนหรือไงล่ะ”
“วันหยุดค่ะ เชยจะไปกับคุณท่านด้วย เชยขอคุณท่านแล้ว” เทียนเตรียมจะท้วง แต่อบเชยรู้ทัน รีบพูดดักคอมารดาไว้เสียก่อน
“คุณหนูไม่ไปด้วยเหรอ?”
เทียนถามถึงดีแลน หากมีคำสั่งว่าเขาอยากกินขนมต้ม แสดงว่าเจ้าตัวมาค้างที่บ้านหลังใหญ่
“ไปสิคะ” อบเชยตอบเสียงอุบอิบ
“งั้นเชยอย่าไปเลย เดี๋ยวมีเรื่อง” ดีแลนไม่เคยปิดบังความไม่พอใจที่มีกับอบเชย เทียนไม่อยากให้บุตรสาวทำให้บุตรชายของเจ้านายเก่าไม่พอใจ
“เชยสัญญา เชยจะไม่เข้าใกล้คุณดีค่ะ” หญิงสาวกล่าวเสียงเครือ
เทียนเงยหน้ามองบุตรสาว แววตาเศร้าๆ ของอบเชยทำให้นางถอนใจ “ตามใจ...ระวังด้วยล่ะ”
อบเชยเดินเลยขึ้นไปด้านบน เธอเปิดประตูห้องนอน ยืนพิงบานประตู แต่ยังไม่ได้เปิดไฟ สายตาของอบเชยมองเลยไปยังบ้านหลังใหญ่ และไม่วายชำเรืองมองไปยังจุดที่เคยแหงนหน้ามองมาตั้งแต่เป็นสาว
หน้าต่างห้องนอนของดีแลนนั่นเอง...
“เมื่อไหร่คุณดีจะเลิกเกลียดเชยสักทีคะ?”
ความเกลียดชังของดีแลนมั่นคงถาวร ทุกครั้งที่พบเจอกัน หากเผชิญหน้ากันตรงๆ แววตาของเขาไม่เคยปิดบังความไม่พอใจ เธอคงน่ารำคาญในสายตาเขา เพราะดันอยู่ผิดที่ผิดทางนั่นเอง
ที่นอนนุ่มอยู่ชิดริมหน้าต่าง หญิงสาวคลานเข่าขึ้นไปบนที่นอน ใช้มือคีบชายผ้าม่าน เพื่อมองบ้านหลังใหญ่ให้ชัดขึ้น ไฟฟ้าสว่างจ้า แสงสว่างนั่นส่องสว่างเผื่อแผ่มายังบริเวณที่มืดมิดอย่างบ้านหลังน้อยของเธอด้วย มีเงาใครบางคนเดินอยู่ในนั้น แม้ผ้าม่านหนาทึบจะไม่ได้รูดเปิด แต่เพราะความสว่างไสว เลยทำให้เกิดเงาการเคลื่อนไหวให้คนแอบดูมองเห็น
อบเชยนั่งชันเข่า เธอเกยคางไว้ที่หัวเข่า แอบเบ้ปากบ่นพึมพำ
“เชยรู้ว่าคุณดีหุ่นดีค่ะ ไม่ต้องยั่วเชยถึงขนาดนี้ก็ได้ค่ะ”
ขนาดมองไกลๆ อุณหภูมิในร่างกายของเธอยังเดือดคลั่ก อบเชยไม่รู้ สิ่งที่เธอมองเห็นดีแลนจงใจทำ เขาขึ้นมารออบเชยอยู่นานแล้ว ไฟฟ้าในห้องของหล่อนก็ไม่เปิดเสียที ดีแลนเลยวางแผนใหม่ เขารู้ว่าสาวๆ ชอบ เท่าที่เคยทดลองมา แต่ไม่รู้ว่าจะใช้กับอบเชยได้ผลหรือเปล่า
ดีแลนเปลี่ยนชุดทำงานมาใส่ชุดลำลอง เป็นกางเกงห้าส่วนกับเสื้อกล้าม เขาคงต้องออกกำลังกายเพื่อลดพุง ไม่อย่างนั้น อีกไม่เกินเดือน จากที่เคยเฟิร์ม คงเป็นตาแก่ลงพุงย้วยๆ อย่างแน่นอน
ดีแลนไม่อยากนับอายุตัวเอง เขากับอบเชยห่างกันหลายปี เขาเป็นตาแก่ ขณะที่เด็กนั่นเพิ่งโตเป็นสาว แต่จะให้ตัดใจหันไปคว้าสาวอื่น มันก็ทำไม่ได้ ดีแลนเคยทดลองแล้วสมัยที่เรียนอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ไม่สำเร็จ เป็นคู่นอนชั่วคราวได้ แต่ให้มาอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา เขาคงรำคาญ
ไม่มีใครแทนที่อบเชยได้ เขาชอบความใสซื่อของเธอ
และเวลานี้ เวลาแห่งการรอคอยใกล้สิ้นสุดลงแล้ว
อบเชยโตพอที่จะมีคู่ครอง และเขาก็ไม่แก่เกินไปที่จะเปลี่ยนสถานะ แค่คนรู้จัก ไปเป็นคนรู้ใจ
กำแพงที่เคยสร้างไว้ ดีแลนเริ่มรื้อทิ้ง จากนี้ไปเขาจะเดินหน้าเต็มตัว หมดเวลาเก็บกดความต้องการระหว่างกันเสียที
มือเรียวเล็กยกขึ้นตบข้างแก้ม “ไปอาบน้ำนอนได้แล้วเชย...”
ยิ่งมองก็ยิ่งฟุ้งซ่าน ภาพเก่าๆ ลอยเข้ามาย้ำ ดีแลนเต็มไปด้วยเสน่ห์ทางเพศ และหากเธอยังนั่งอยู่ตรงนี้ คนที่จะกระอักตายคือตนเอง ดีแลนไม่รู้หรอกว่าเธอแอบมองเขา
อบเชยสลัดชุดเดินเข้าห้องน้ำ และเธอก็ไม่ได้เปิดไฟ หญิงสาวชินกับความมืดเสียแล้ว ไฟฟ้าเลยไม่จำเป็น เมื่อเธอพอจะมองเห็น คนบนบ้านใหญ่ที่รออยู่เลยไม่ได้เห็นฉากเด็ดเลือดกระฉูด เพราะอบเชยเดินตัวเปล่าเข้าห้องน้ำ และหากเป็นเวลาปกติที่เธอเคยเปิดไฟ ดีแลนคงได้เลือดกำเดากระฉูดเหมือนทุกครั้ง
เมื่ออาบน้ำจนสะอาด อบเชยเดินออกมา เธอห่อตัวด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ แต่แล้วก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อมองเลยไปยังห้องนอนดีแลน ม่านหน้าต่างถูกเปิด ดีแลนรูดม่านจนสุด เขายืนอยู่ที่ระเบียงและกำลังออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการบริหารกล้ามแขนด้วยดัมเบล หญิงสาวกระโจนขึ้นไปนั่งบนเตียง แง้มชายผ้าม่านแอบมองดีแลน หัวใจเต้นตึกตัก ปลายนิ้วสั่นระริก
“ซู๊ดดดด!” เพราะอ้าปากค้างนานเกินไป น้ำลายในช่องปากจึงไหลย้อยออกมา อบเชยรีบสูดน้ำลายกลับเข้าไปที่เดิม กลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก แต่สายตาไม่ละไปจากภาพเรียกเลือดสักวินาทีเดียว
จริงอยู่อบเชยกับดีแลนเคยใกล้ชิดแบบไม่มีเสื้อผ้าเกี่ยวด้วยมาแล้ว แต่นั่นเป็นความทรงจำที่เลอะเลือนไม่ปะติดปะต่อ เพราะอารมณ์โหมที่เกิดขึ้น ทำให้อบเชยสติไม่อยู่กับตัว เธอเอียงอายจนไม่กล้ามองดีแลนเต็มตา และเขาเองก็คงไม่ได้จำ เมื่อน้ำเมาครอบงำ แถมยังลืมเสียสนิทเมื่อลืมตาตื่น
“หุ่นคุณดีจะเอ็กซ์ไปไหน!” อบเชยบ่น ยกมือปิดตา แต่แล้วก็ต้องยอมแพ้คำสั่งสมอง ปลายนิ้วแยกห่างออกจากกัน จ้องมองภาพชวนฝันนั้นด้วยความตื่นเต้น
ด้านดีแลน ชะเง้อจนปวดคอ ไฟฟ้าในห้องนอนของอบเชยก็ยังไม่เปิดสักที ชายหนุ่มบริหารกล้ามเนื้อ มองเขม็งไปยังหน้าต่างห้องนอนบ้านหลังเล็กที่มองเห็นลิบๆ ริ่มบ่นอุบอิบเพราะเริ่มล้า “มันดึกแล้วนะยัยเด็กบ้า ไม่หลับไม่นอนหรือยังไงหะ” แต่ซักระยะ เมื่อสายตาเริ่มชินกับความมืด ดีแลนมองเห็นชายผ้าม่านที่หน้าต่างห้องอบเชยมีการเคลื่อนไหว ชายหนุ่มอมยิ้มสมใจ เขาวางดัมเบลในมือลงข้างตัว เปลี่ยนเป็นยืนเต็มความสูง และเริ่มทำกายบริหารเรียกเหงื่อช้าๆ สายตาก็ยังจับสังเกตชายผ้าม่านที่ขยับไหวไปด้วย
“แอบมองฉันเหรอยัยเชย...ดี!” ดีแลนพึมพำเสียงแผ่ว แสร้งยกแขนยืดกล้ามเนื้อ ก่อนจะค่อยๆ ถอดเสื้อกล้ามบนตัวทิ้ง อวดแผงอกแน่นปั๋งที่มองด้วยระยะไกลยังเห็นลอนกล้ามได้อย่างชัดเจน
อบเชยกลั้นลมหายใจ มองแผ่นท้องดีแลนตาโปน
ก็รู้ว่าเสน่ห์ทางเพศของผู้ชายคือเรือนกาย แต่ไม่คิดว่าแค่มอง จะรู้สึกเหมือนถูกโยนออกไปนอกโลก
ลมหายใจเธอติดขัด ร่างกายหนักอึ้ง เปลือกตากะพริบถี่ๆ พยายามควบคุมสติตนเองไม่ให้กระเจิดกระเจิงไปไกล แต่ดูเหมือนไม่ได้ผล มือของดีแลนป้วนเปี้ยนอยู่ที่เอว เขาทำท่าเหมือนจะถอดกางเกงชิ้นล่างด้วย อบเชยถึงกับลืมหายใจ เมื่อเผลอตัวตามเกมของดีแลน เธอแนบใบหน้ากับกระจก เผลอตัวแง้มชายผ้าม่านให้กว้างขึ้น จนแสงไฟฟ้าส่องกระทบ
ดีแลนมองเห็นปลายจมูกของอบเชยเป็นสิ่งแรก หล่อนจ้องมองเขาตาแทบถลน
ใบหน้ากลมแป้นนั่น แนบติดบานหน้าต่าง และหากไม่มีกระจกกั้น ตัวอบเชยคงทะลุออกมาด้านนอกแล้ว สายตาสองคู่สบกันกลางอากาศ ชายหนุ่มหัวเราะดังพรืด มือที่เกาะเกี่ยวเอวกางเกงตกลง อบเชยสะดุ้ง! รีบหดหน้ากลับ ตลบชายผ้าม่านปิดไว้เหมือนเดิม พร้อมกับบ่นอุบ “คุณดี แกล้งเชย!” หญิงสาวทิ้งตัวลงนอน รีบตลบผ้าห่มขึ้นปิดใบหน้า อยากจะกรีดร้องดังๆ ที่ตนเองไม่เคยทันเล่ห์เหลี่ยมของคนเจ้าเล่ห์ เขาจงใจยั่วเธอ แต่ว่า...ดีแลนมองเห็นเธอหรือเปล่านะ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอแอบมอง “ยัยเชย ยัยบ้า ทีนี้จะมองหน้าคุณดียังไงล่ะ?!!” หญิงสาวบ่นเสียงออดแอด...ใบหน้าร้อนวาบๆ ดีแลนทิ้งตัวลงนั่ง เขาหัวเราะจนท้องแข็ง ปรารถนากับเดวิดเลยชะโงกหน้าออกมามอง “ดีแลนเป็นอะไรไปลูก?” ทายาทเพียงคนเดียวของหวังหันไปยิ้มให้ เขายืดตัวลุกขึ้นยืน ปั้นหน้าขรึมเหมือนเดิม “เปล่าครับ แค่ขำอะไรบางอย่างเฉยๆ” สองผู้เฒ่าหันมองหน้ากัน ไม่เข้าใจบุตรชายสักนิด แต่คงง้างปากบุตรชายไม่ได้ง่ายๆ “รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า” เดวิดบอกบุตรชาย พรุ่งนี้เป็นภารกิ
ดีแลนเป็นหนุ่มฮอต ตอนที่เธอยังเด็ก เธอคงเป็นเด็กแก่แดด เลยรู้สึกว่าตนเองรักเขาตั้งแต่ยังไม่ทันเป็นสาวดี จวบจนปัจจุบัน ความรู้สึกพิเศษนั่นก็ไม่เคยลดลง อบเชยน้ำตาตกเพราะดีแลนนับครั้งไม่ถ้วน เขาไม่เคยมองเห็นหัวเธอ ทำท่ารำคาญแทบทุกครั้งหากมีอบเชยอยู่ใกล้ๆ ความรู้สึกนั้น เกือบทำให้อบเชยถอดใจ แต่เมื่อได้สบตากับดีแลนยามที่เขาเผลอ ความรู้สึกบ้าๆ นั่นก็ย้อนกลับมาเหมือนเดิม... “เชยคงมีเวรมีกรรมกับคุณดีมั้งเนอะ” หลังเก็บล้างอุปกรณ์ทำขนมจนหมด อบเชยเดินกลับไปที่ห้องนอน เธอควรอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อม จะได้ไม่เป็นการเสียเวลา พอเอาขนมไปวางในห้องนอนดีแลน เธอก็จะได้ขึ้นรถไปกับคนบ้านหวัง เด็กที่บ้านเด็กกำพร้าคงดีใจ ที่พี่เชยคนดีจะไปเล่านิทานให้ฟัง มันคงเป็นวันหยุดที่สนุกสำหรับเธอ เป็นการชาร์ทพลังในร่างกายได้เต็มที่ ด้วยการแบ่งปันสิ่งที่ตนเองมีกับผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า คุณท่านทั้งสองสอนให้อบเชยรู้จักเผื่อแผ่ เดวิด กับปรารถนาทำดีแบบนี้จนอบเชยซึมซับมาเต็มตัว อบเชยไม่เข้าใจเหมือนกัน ผู้ใหญ่ใจดีสองท่านมีแต่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม เหตุใดก็ไม่รู้ บุตรชายของท่านที่มีแค่คน
บทที่6.เรื่องบนเตียงเสียงหวานแว่วที่ได้ยิน เหมือนกับเสียงสาวปริศนาที่ดีแลนกกกอดไว้ในค่ำคืนนั้น คนที่หลับสนิทตั้งใจฟัง เขาขยับเข้าไปใกล้ๆ และกระโจนคว้าหล่อนเอาไว้ได้ ก่อนที่สาวเจ้าจะหนีไปหลบหลังม่านหมอกอีกครั้ง “ยัยเชย!” มือแข็งแรงรวบจับข้อแขนของอบเชยไว้ เขากระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง เลยพลอยทำให้อบเชยเซถลา ขึ้นมานั่งบนขอบเตียง หญิงสาวขืนตัวไว้ พยายามถอยหลังหนี สีหน้าที่ดีแลนมองเห็นคือใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลา แต่เผือดซีดไม่มีสีเลือด “เชยขอโทษค่ะ คุณท่านวานให้เชยปลุกคุณดีด้วยค่ะ” อบเชยละล่ำละลักชี้แจง...เธอไม่ได้ยุ่มย่ามเข้ามาในห้องนอนเขาโดยภาระการ เธอเอาขนมมาส่งและได้รับคำสั่งกึ่งขอร้องจากเจ้าของบ้านมาด้วย “เธออยู่ที่นี่คนเดียวรึ?” คำถามที่อบเชยไม่เข้าใจ ดังผ่านปากของดีแลนมา สีหน้าของเขาก็เช่นกัน เหมือนดีแลนกำลังสับสนกับอะไรบางอย่าง “ค่ะ” อบเชยจำใจตอบ เธอหลุบเปลือกตาลงมองมือของดีแลน ที่ยังกำรอบข้อมือตัวเอง “ไม่มีคนอื่นอีกแน่นะ” ดีแลนถามย้ำ “ค่ะ” เสียงตอบแผ่วเบากว่าครั้งแรก “เป็นไปได้ไง?” ดีแลนรำพึงกับตัวเอ
หญิงสาวลดสายตาต่ำลงไป เปลือกตากะพริบปริบๆ ตรงช่วงคอมีรอยช้ำแดงๆ เหมือนรอยมดกัด เป็นรอยช้ำขนาดเท่าหัวแม่มือ และมีหลายรอยด้วยกัน เพราะยิ่งร่นเสื้อยืดตัวในต่ำลงไป รอยนั่นกระจายทั่วเนินอก อบเชยตกใจ เธอเกือบหวีดร้อง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง...ที่ปลายยอดอกเธอก็โดนมดบ้าลามกนั่น กัดเช่นกัน...รอยแดงๆ ลามไปทั่วตัว เธอรีบปลดกระดุมเอี๊ยม สำรวจตัวเองซ้ำ มดเจ้าปัญหาต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่ บนร่างกายเธอนี่แหละ แต่เมื่อพยายามหาเท่าไหร่ อบเชยกลับไม่พบมดตัวนั้น บางทีมดบ้าลามกนั่น อาจจะหล่นอยู่บนที่นอนของดีแลนแล้วก็ได้เวลามีไม่มากนัก อบเชยมัวโอ้เอ้หามดเจ้าปัญหา เมื่อหาไม่เจอก็จำต้องตัดใจเธอเปิดก๊อก วักน้ำล้างคราบน้ำลายที่มุมปาก ยกมือเสยผมให้เข้าทรงมากกว่าเก่า สภาพของอบเชยเลยดูดีขึ้นหญิงสาวเดินลากขาออกมานอกห้องนอน เธอพยายามไม่คิดมาก เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่ดีแลน จะรังแกเธอเขาไม่อยากอยู่ใกล้เธอด้วยซ้ำ เพราะทันทีที่เธอลืมตา เขายังรีบเดินหนีไปดังนั้น...รอยพวกนี้ ต้องเป็นรอยมดกัด...ชัวร์!!ดีแลนยืนอิงข้างรถยนต์ส่วนตัว เขาหลุบเปลือกตาลงเพราะไม่อยากให้ความสุขที่เพิ่งได้รับมากระจายหายไปในอากาศ หลังอาบน้ำเ
“ห้ามบอกใครนะ สัญญาสิ”อบเชยพยักหน้ารับ ผิวแก้มแดงก่ำ“ค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบที่พอใจ เด็กน้อยก็หมดความสนใจ เจ้าตัววิ่งไปรวมกลุ่มกับเพื่อน อบเชยหาที่นั่ง เธอมองตามดีแลน แอบอมยิ้มทุกครั้งที่ดีแลนยิ้มให้คนอื่น เสียดายนิดเดียว รอยยิ้มนั่นไม่ได้ส่งให้เธอโดยตรงพิธีการต่างๆ จบลง ถึงช่วงที่เด็กๆ จะได้สนุกกับของเล่นชิ้นใหม่ที่พวกเขาเพิ่งได้รับมา เด็กหลายคนจับกลุ่มเพื่อเล่นของเล่นด้วยกัน อบเชยเดินเลี่ยงเข้าไปด้านหลัง เธอมัวแต่ยุ่งๆ จนลืมกินอาหารเช้า นี่เวลาเดินเลยมาจนบ่ายคล้อย อบเชยหิวติดหมัด เธอเลยคิดจะหาอาหารง่ายๆ ใส่ท้อง และในครัวน่าจะพอมีข้าวก้นหม้อเหลือเธอคุ้นเคยกับบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้ เพราะมาเป็นประจำ อบเชยตักข้าวใส่จาน ราดด้วยน้ำแกงที่เหลือติดก้นหม้อแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเธอ อาหารกินประทังความหิว แถมไม่แย่นัก น้ำแกงข้นๆ อร่อยอย่าบอกใคร เธอเดินหามุมสงบเพื่อนั่งรับประทานอาหารเงียบๆ โคนต้นไม้คงเหมาะ มีพื้นหญ้าเป็นพรมปูให้นั่ง อบเชยทรุดตัวลงนั่ง วางขวดน้ำเปล่าไว้ข้างตัว ลงมือตักข้าวในจานกินอย่างเอร็ดอร่อย ที่ลานกว้าง เด็กหลายคนวิ่งเล่นไล่จับ ดีแลนกวาดตามองหายัยตัวยุ่ง เขา
บทนำ ดีแลนถอนหายใจแรงๆ รีบเดินเข้าไปในคลับชั้นสูง สถานที่นัดหมายเพื่อเจรจาธุรกิจ และคู่ค้าของเขา เลือกสถานที่แห่งนี้สำหรับการเจรจา รอยยิ้มเย็นชาประทับอยู่บนมุมปากได้รูป ตลอดทางที่เดินเข้าไปด้านในบรรยากาศเหมือนเดิม คลับไหนๆ ก็เหมือนกันหมด เป็นแหล่งที่คนรุ่นใหม่ใช้เป็นที่ปลดปล่อย หาความสนุกใส่ตัวเอง แตกต่างที่เฟอร์นิเจอร์และการตบแต่ง ที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก ทุกๆ คลับจะต้องมีผู้หญิงสาว สวยไว้คอยให้บริการ สำหรับสกายล์ฮอลล์ แห่งนี้ ตัวเจ้าของคือณรงค์ ดีแลนรู้จักเป็นอย่างดี เมื่อสองหนุ่มเรียนมาด้วยกัน ตั้งแต่ประถม จนถึงระดับวิทยาลัย’ มีผู้หญิงสาวสวยหลายคนพยายามส่งสายตาให้ จนดีแลนเริ่มรำคาญ “Hi!” มีใครบางคนโบกมือเรียก ชายผู้นั้นลุกขึ้นยืนและส่งเสียงทัก ดีแลนเพ่งมอง เขาส่งยิ้มให้ เมื่อคนคนนั้นคือคู่ค้าคนสำคัญของเขานั่นเอง อดัม เทียร่า นักธุรกิจลุกครึ่งจีน-โปรตุเกต ชายผู้นี้กำลังสนใจ และอยากร่วมทุนในโครงการใหม่เอี่ยมของ หวังเทียนกรุป เกี่ยวกับโครงการพัฒนาพลังงานทางเลือกใหม่ ชายหนุ่มโบกมือรับ เขามองฝ่าความมืด เพื่อหาทางเดินไปยังโต๊ะ VIP
บทที่1.อบเชยหนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน ทะลึ่งพรวด!! เขาทรงตัวยืนเต็มความสูง จ้องหน้าโคโยตี้สาวคนหนึ่งที่คลับแห่งนี้ส่งมาบริการ 1ใน3 คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี หล่อนชื่อ อบเชย น้ำทองเด็กสาวที่อยู่บ้านติดกัน รั้วบ้านหล่อนติดกันกับรั้วเขา เพียงแต่...บ้านของหล่อนไม่ได้ร่ำรวยเหมือนบ้านเขา แถมหล่อนเพิ่งจะมีอายุแค่สิบเก้าปี “ยัยเชย เธอมาทำอะไรที่นี่!” ดีแลนตะคอกเสียงขุ่น จ้องมองเด็กสาวตรงหน้าตาถลน อบเชยขยุ้มมือกำชายขากางเกงแน่น ห่อตัวจนแทบจะขดเป็นก้อนกลมๆ เธอไม่อยากจะเชื่อโลกจะกลมถึงขนาดนี้? ทำไมน้อ?...ทำไมถึงให้เธอมาเจอกับคนที่ตนเองแอบชอบ ตั้งแต่การเริ่มทำงานครั้งแรก ในตำแหน่งโคโยตี้ “รู้จักกันด้วยรึ?” อดัมถามเสียงสนเท่ห์ หรี่ตามองดีแลนสลับกับสาวน้อยสุดเอ็กซ์ ที่ยืนก้มหน้างุดตรงหน้า ดีแลนยกมือขึ้นเสยผม ทรงผมเรียบกริบแตกไม่เป็นทรง เนื่องจากตอนนี้เขาแทบจะควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่อยู่ ผิวแก้มร้อนฉ่า และใกล้จะระเบิดเต็มทนชายหนุ่มโกรธลมออกหู แก้วหูลั่นวิ้งๆ เขาเจอคนที่ไม่ควรเจอในสถานที่อโคจรแห่งนี้ได้อย่างไร?ตอนที่มาเจรจาการค้
ฝันว่าวันหนึ่ง เจ้าชายบนปราสาทหลังนั้น จะทอดสายตามาที่ตนเองบ้าง และมันก็เป็นแค่ความฝัน เพราะยิ่งนานวัน...ระยะห่างของเธอกับดีแลน ก็ยิ่งห่างกันไปทุกทีๆ เธอได้แต่แอบมอง ได้เห็นเขาเพียงผ่านๆ กำแพงสูงชันนั่นไม่ใช่อุปสรรคหรอก แต่ความจริงต่างหากล่ะ ที่ทำให้เธอต้องเจียมตน เขาคือเจ้าชาย และเธอคือเศษฝุ่นที่ปลิวอยู่รอบกายเขา สัมผัสได้ แต่เป็นเจ้าของไม่ได้ “อะไรดลใจให้เธอมาทำงานที่นี่หะ ยัยเชย!” เสียงแหบห้าวของดีแลนดึงเธอออกมาจากความคิดวกวน อบเชยเงยหน้ามอง เธอกะพริบเปลือกตาปริบๆ จ้องมองดีแลนเหมือนกำลังละเมอ มือแข็งแรงเอื้อมมาจับบ่า และหากอบเชยมีสติ เธอจะเห็นว่า...ดีแลนสะดุ้ง! เขาชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะแผดเสียงดังลั่น “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไงยัยเด็กบ้า!!” “เชยได้ยินแล้วค่ะ พูดเบาๆ ก็ได้ คุณดีตะโกนจนเชยหูจะแตก” หญิงสาวบ่นอุบ ก้มหน้าหลบตาเขาเหมือนเดิม เมื่อสายตาของดีแลนเหมือนมีเปลวไฟแลบออกมา และไฟนั่นแทบจะเผาเธอจนมอดไหม้ ดีแลนปล่อยมือ เขาชำเรืองมองอบเชย และยังยืนหันข้างให้เธอเสียด้วย เสียงถอนลมหายใจแรงๆ ดังจนอบเชยแ