“แม่ไปตลาดค่ะ คุณท่านมีอะไรจะใช้ให้แม่ทำเหรอคะ?” อบเชยถามกลับ
“ฉันจะมาจองขนมหน่ะ พรุ่งนี้จะไปบ้านเด็กกำพร้า...เอาทุกอย่างเลยนะ เด็กๆ ชอบ”
ปรารถนามาอุดหนุนขนมที่ร้านมารดาอบเชยเป็นประจำ เทียนจะไม่รับเงิน ท่านก็ไม่ยอม
“ขอเชยไปด้วยได้ไหมคะ” อบเชยยิ้มแป้น เธอจำได้สมัยเด็กๆ ชอบตามปรารถนาไปบ้านเด็กกำพร้าที่ครอบครัวหวังอุปถัมภ์ไว้
“พรุ่งนี้ไม่มีเรียนสินะ ได้สิ...อ้อ...เป็นไง งานหนักไหม ลูกชายฉันบ่นอะไรหรือเปล่า?”
สาวใหญ่ถามถึงบุตรชาย เขาเป็นคนเคร่งครัด ระเบียบจัด นางเกรงว่าจะทำให้อบเชยแบกภาระมากเกินไป
“งานสบายๆ ค่ะ ไม่หนักเลย เชยยังไม่เจอคุณดีเลยค่ะ เธอเลยยังไม่บ่น”
หญิงสาวตอบเสียงอ่อยๆ เธอเลี่ยงการเผชิญกับหน้าดีแลน เขาเลยยังไม่ไล่ตะเพิดให้เธอลาออกจากตำแหน่งงานที่อบเชยทำอยู่นั่นเอง
“คงถูกใจอยู่หรอก ขานั้นถ้าไม่พอใจคงโวยมาแล้วล่ะ”
ปรารถนายิ้มรับ มองสำรวจอบเชย เด็กสาวตรงหน้า เป็นสาวมากขึ้นกว่าทุกปี ท่าทางก็เรียบร้อย คนเป็นแม่อย่างเทียนคงภูมิใจ
“อบเชยเรียนปีไหนแล้วล่ะ” นางชวนคุยตามประสาคนรู้จัก
“ปีสามแล้วค่ะ เหลืออีกปีเดียวก็จบแล้วค่ะคุณท่าน”
อบเชยทำงานตัวเป็นเกลียว แต่เรื่องการเรียนเธอก็ไม่ทิ้ง หญิงสาวต้องการประสบความสำเร็จทั้งสองทางพร้อมกัน เพื่ออนาคตจะได้แบ่งเบาภาระให้กับมารดา เทียนจะได้ไม่ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็ง ห่อขนมขายตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ในวันที่อบเชยเรียนจบมีงานทำ เธอจะให้มารดาพัก แต่เทียนคงไม่ยอม ท่านเองก็ไม่อยากอยู่เฉยๆ แต่คงไม่ต้องหักโหมเหมือนเก่า
“เวลาเดินเร็วเหลือเกิน เผลอแปบเดียว เด็กที่ฉันเคยอุ้ม โตเป็นสาวเสียแล้ว แถมสวยด้วยนะ” ปรารถนาสัพยอก
ท่านชอบอบเชยเพราะแววตาใสซื่อ ผู้หญิงตรงหน้ามีแต่ความร่าเริง อยู่ใกล้แล้วสบายใจ
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แม่ชอบว่าเชย ซุมซ่ามเหมือนม้าดีดกะโหลก”
“ถ้าดีแลนมองเห็นเหมือนที่ฉันเห็น ฉันคงได้อบเชยมาเป็นลูกสะใภ้นะ”
อบเชยอายม้วน แต่เมื่อคิดถึงความจริง สีหน้าหญิงสาวจึงสลดลง ดีแลนคงได้จับเธอโยนออกไปนอกโลก เขาเกลียดเธออย่างกับอะไรดี เธอไม่มีวาสนาขนาดนั้นหรอก ต่อให้เคยมีอะไรกันมาแล้วก็ตาม
หลังมารดาชายที่ตนเองแอบรักกลับไปแล้ว อบเชยนั่งคอตก เศร้าจนอยากร้องไห้ บอกใคร ใครจะเชื่อว่าครั้งหนึ่งตนเองเคยได้ชิดใกล้ชายผู้นั้น มันเป็นความหลังที่จะถูกฝังกลบไปพร้อมกับเธอ ผู้ชายรอบตัวกลายเป็นหัวมันในสายตาของเธอ เมื่อเธอใฝ่ปองยอดชายที่เหนือผู้ชายคนอื่นๆ ดีแลนคือความสมบูรณ์แบบที่หาใครมาเทียบเคียงไม่ได้ แล้วแบบนี้...อนาคตของเธอ คงไม่แคล้วเปล่าเปลี่ยว แห้งแร้ง เพราะทุกครั้งที่จะเริ่มต้นใหม่ กับชายอื่นที่ไม่ใช่ดีแลน
ข้อเปรียบเทียบเป็นร้อยข้อ ผู้ชายพวกนั้นด้อยกว่าดีแลนเป็นร้อยๆ ข้ออบเชยเลยพับกระดาน ล้มเลิกที่จะสานสัมพันธ์ เพราะหากเธอยังสลัดเงาของดีแลนออกไปจากใจไม่ได้ เธอไม่มีวันเริ่มต้นใหม่ กับใครได้เลย
ลูกค้า2-3 รายแวะมาซื้อขนมก่อนกลับบ้าน
ขนมที่เหลือไม่เยอะเลยหมดลง อบเชยมองห่อขนมใส่ไส้ในถาด ซึ่งเหลืออีกสองห่อ เธอโครงศีรษะ หยิบถาดและขนมที่เหลือ เตรียมเก็บ เมื่อผู้คนที่เดินสวนไปมา บางตาจนแทบจะไม่มีให้เห็น
“เชยกินเองก็ได้...เข้าบ้านอาบน้ำนอนดีกว่า”
แต่...
ถาดในมือของอบเชย ถูกใครบางคนรั้งเอาไว้ มือขาวสะสาด ปลายเล็บกลมมนถูกตัดแต่งอย่างดี ผิวของเขาขาวอมชมพู บอบบางเสียงจนคนทำงานมาทั้งชีวิตรู้สึกอาย ผิวของเขาเรียบเนียน เหมือนคนไม่เคยทำงานหนัก ตัดมามองที่มือตัวเอง อบเชยเลยรีบปล่อย เพราะอายผิวกระด่างกระดำของตนเอง
“คุณจะรับขนมนี่เหรอคะ เหลือแค่...”
เสียงพูดขาดหาย เมื่อเงยหน้ามอง ลูกค้าคนสุดท้าย ชายที่ถือถาดขนมไว้ และชายคนนี้แหละที่ผิวสวยกว่าตนเอง
“คุณดี...”
“ทำไม...ฉันอยากกินขนมฝีมือป้าเทียน ไม่ได้หรือไง?” ดีแลนกล่าวเสียงแข็ง มองอบเชยด้วยหางตา
“ดะ ได้ค่ะ แต่เหลือแค่นี้นะคะ แม่ไม่อยู่ หากคุณดีอยากเจอแม่ รออีกสักพักแม่ก็คงกลับมาค่ะ”
หญิงสาวรีบพูดจนลิ้นพันกัน เธอรับถาดขนมมาจากดีแลน รีบหยิบขนมใส่ถุง ยื่นให้เขา แต่กลับไม่ยอมมองหน้า อบเชยมองที่พื้นแทน
ดีแลนยกมือกอดอก ยังคงใช้แค่หางตามองมายังอบเชยเหมือนเดิม
ถุงในมือของอบเชยเลยห้อยต่องแต่งอยู่กลางอากาศ คนถือเริ่มมือสั่น แต่จะหดมือกลับมาก็น่าเกลียด อบเชยเลยต้องถือถุงค้างอยู่อย่างนั้น ทั้งที่เธออยากหายตัวได้ อยากไปจากตรงนี้ ไม่อยากเผชิญหน้ากับความอึดอัดที่เกิดขึ้น
“คืนนี้ฉันกลับมานอนบ้าน”
ความจริงดีแลนดีใจแทบจะเหาะมาเลย หลังมารดาโทรศัพท์ไปบอก กิจกรรมวันหยุดที่ทำมานานหลายสิบปี คือการไปแจกขนม กับอุปกรณ์การเรียนให้กับบ้านเด็กกำพร้าที่ครอบครัวหวังอุปถัมภ์ ชายหนุ่มรู้ดี หนึ่งในขนมที่มารดามักจะนำไปด้วยก็มาจากร้านขายขนมของป้าเทียนและอีกคนหนึ่งที่ติดสอยห้อยตามมาด้วย ก็คืออบเชย...
“คะ ค่ะ” อบเชยรับทราบแบบงงๆ และเธอก็ยังถือถุงพลาสติกค้างอยู่ในท่าเดิม
“ฉันอยากกินขนมต้ม” ดีแลนเปรย ข้อความของเขาจะต้องถูกส่งต่อไปยังเทียนแน่นอน เขาเชื่อแบบนั้น
“ค่ะ เชยจะบอกแม่ให้”
“ฉันอยากกินขนมใส่ไส้” ดีแลนพูดอีก
ครานี้อบเชยเงยหน้าขึ้น คิ้วเล็กๆ เหนือดวงตากลมโตขมวดเข้าหากัน ไม่มีคำพูดดังจากปากอิ่มได้รูป แต่แววตาของอบเชยแปลความหมายได้ว่า ‘นี่ไงคะ คุณดีจะให้เชยถือแบบนี้อีกนานแค่ไหน ถ้าอยากกินก็รับไปสิคะ’
ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ เขาเก่งกาจขนาดแปลความหมายในแววตาของอบเชยได้เลยงั้นหรือ?
แพขนตาหนาเป็นแพกะพริบปริบๆ อบเชยไม่แน่ใจ เธอหูแว่วไปเอง หรือว่าคนตรงหน้ากำลังหัวเราะอยู่จริงๆ เธอได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วๆ และเริ่มไม่แน่ใจ เมื่อคนตรงหน้าสีหน้ายังขรึมเฉยเหมือนเดิม และอีกอย่างอบเชยไม่รู้ว่าดีแลนขบขันอะไร
“ใส่จานมาสิ ฉันจะกินที่นี่” ดีแลนกล่าว เขาเดินไปหย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้ไม้เก่าๆ
อบเชยมีสีหน้าแหยเก เธออยากพูด แต่มันติดตรงริมฝีปาก หากพูดออกมา ท่าทางสบายๆ ของดีแลน คงเปลี่ยนไป เขาไม่ชอบถูกขัดใจ ขอนั้นอบเชยรู้ดี
‘แต่ เชยกำลังจะปิดร้านนะคะ’
ขณะที่แกะขนมใส่จาน อบเชยก็แย้งอยู่ในใจตลอดเวลา ความฝันแสนหวานที่จะได้นอนแต่หัวค่ำ หายวับไปกับตา ใครล่ะจะกล้าไล่ดีแลน...คงไม่ใช่อบเชยแน่
อบเชยถือจานใส่ขนมมาวางไว้ข้างๆ ดีแลน เธอหมุนตัวกลับไปเทน้ำสะอาดใส่แก้ว แล้วเดินมาวางไว้ที่เดิมด้วยสีหน้าเรียบๆ กับใบหน้าก้มต่ำตลอดเวลา เมื่อจานขนมถูกคนตัวใหญ่ยกขึ้นมามอง เขาใช้ส้อมจิ้มขนมชิ้นใหญ่ใส่ปาก เปลือกตาหลุบลงเมื่อกำลังดื่มด่ำกับรสชาติคุ้นปาก
“ป้าเทียนนี่ฝีมือไม่ตกเลยนะ” เมื่อห้าปีก่อน ก่อนที่ดีแลนจะไปเรียนต่อ เขามีขนมไทยจากร้านป้าเทียนกินแกล้มกาแฟทุกเช้า หลังเรียนจบกลับมา เพราะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ด้วยแล้ว เขาห่างหายไม่ได้ลิ้มรสฝีมือคนเก่าแก่ในบ้านมานานหลายปี
อบเชยทำแค่พยักหน้ารับรู้ เธอแอบชำเรืองมอง ไม่กล้ามองตรงๆ กลัวดีแลนจับได้
“พรุ่งนี้ก่อนไปบ้านเด็กกำพร้า...เอาขนมต้มไปให้ฉันที่ห้อง เวลาเดิมด้วย”
ชายหนุ่มสั่งเปลือกตาเปิดขึ้น จนอบเชยหลบไม่ทัน
ใบหน้าเล็กๆ ค่อยๆ ก้มหลบ พยายามควบคุมลมหายใจ เพราะเวลานี้หัวใจของเธอทำงานหนัก มันเต้นไม่เกรงใจเจ้าของ เหมือนต้องการให้ชายตรงหน้ารู้ เขามีอิทธิพลกับเธอเหลือเกิน
มุมปากบางเฉียบกดยิ้ม เสหยิบขนมชิ้นที่เหลือใส่ปาก แอบหัวเราะเบาๆ กับท่าทางเปิ่นเป่อของแม่สาวตรงหน้า
เดี๋ยวนะ!...ขนมต้มส่งที่ห้องเวลาเดิม...เขาคงไม่ได้สั่งให้เธอทำใช่ไหม? แล้วดีแลนรู้ได้ยังไง คนส่งขนมให้เขาทุกเช้าคือเธอ เมื่อห้าปีก่อนอบเชยเป็นคนย่องเอาขนมไปวางไว้ในห้องของเขาจริงๆ
และนั่น อบเชยก็ได้แค่แย้งในใจ
มันอิ่มจนจุก ไหนจะสตูว์ทั้งถ้วย ขนมปังอีกหนึ่งก้อน และยังมานั่งละเลียดขนมใส่ไส้อีกสองห่อ ท้องของเขาแน่นจนไม่สามารถยัดอะไรลงไปได้อีก หากเป็นอย่างนี้ทุกวัน อนาคตไม่แคล้วกลายเป็นตุ่มเดินได้ ยิ่งรู้ว่าอาหารมื้อเย็นที่เขาตั้งตารอ เป็นฝีมืออบเชย ดีแลนก็ยิ่งมีความสุข จากนี้ไป ชีวิตแสนแห้งแร้ง เงียบเฉียบ คงไม่เหมือนเดิม...หากมีคนตรงหน้ามาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ
“ใกล้จบยัง?”
จู่ๆ ดีแลนก็โพล่งถาม
อบเชยสะดุ้ง เธอเงยหน้ามองสบนัยน์ตาของเขา
“อีกสองเทอมค่ะ” ไม่รู้เพราะอะไร อบเชยเข้าใจคำถามที่ดีแลนถามมา เธอพึมพำตอบเสียงแผ่วๆ
“นาน...เธอเรียนช้าเป็นเต่า ฉันเรียนแค่สามปีครึ่งเอง เธอจะสี่ปีแล้วนะยัยเชยยังไม่จบอีกเหรอ!!” เสียงของดีแลนแฝงความหงุดหงิด
อบเชยยิ้มแหยๆ เธอเรียนตามเกณฑ์ ไม่ได้ช้าเลย แต่คนตรงหน้าคืออัจฉริยะ เขาเรียนเก่งหัวดี ไม่แปลกหรอกที่จะจบก่อนกำหนด
มีบางอย่างแว๊บเข้ามาในหัว ดีแลนสะบัดศีรษะแรงๆ เขาพยายามเพ่งมองและรีดสิ่งที่แว๊บไปแว๊บมาออกมาดูใกล้ๆ แต่กลับเหลือแค่ความว่างเปล่า กับม่านหมอกหนาทึบเหมือนเดิม
‘คุณดี’
เสียงหวานฉ่ำที่เรียกชื่อเขาคุ้นหูพิกล แต่ดีแลนไม่รู้ว่าคนที่เรียกเขาแบบนั้นเป็นใคร?
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาสอดมือล้วงกระเป๋ากางเกง หันมาสั่งอบเชยเสียงเข้มๆ
“ฉันกลับล่ะ อย่าลืมที่สั่งนะ”
สายตาหวานปนเศร้ามองตามแผ่นหลังเหยียดตรงของดีแลนไป จนเขาหายลับไปจากสายตา อบเชยตัดใจ ลงมือเก็บร้านต่อ เธอเสียเวลากับการไว้อาลัยเรื่องของตนเองกับชายในฝันมากเกินไป เพราะไม่ว่ายังไง ความฝันมันก็เป็นได้แค่...ความฝัน
บทที่5.อรุณสวัสดิความรัก“ทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก” เทียนวางถุงในมือลงบนโต๊ะ เอ่ยถามบุตรสาวที่ยังนั่งอยู่กลางบ้าน อบเชยหยุดความคิดวกวนของตนเอง ตอบมารดาเสียงใส “รอแม่ค่ะ” เทียนรื้อของในถุงออกมากองด้านนอก “รอแม่ทำไม มีอะไรหรือเปล่า?” “คุณดีอยากทานขนมต้ม” อบเชยตอบมารดา เธอไม่ได้บอกรายละเอียด “คุณหนูมารึ? ได้ๆ เดี๋ยวแม่ทำให้” เทียนรับคำ “คุณท่านสั่งขนมด้วยคะแม่ พรุ่งนี้คุณท่านจะไปบ้านเด็กกำพร้า” อบเชยกล่าวต่อ เธอผุดลุกขึ้นยืน เมื่อส่งสารที่รับฝากมาทั้งหมดให้มารดาเรียบร้อย “ตายล่ะ พรุ่งนี้คงไม่ได้เปิดร้านขายขนมแน่ๆ แม่ซื้อของมาแค่พอใช้” เทียนบ่น ของที่เตรียมไว้มีแค่พอดี เทียนไม่ชอบซื้อมาเผื่อเพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่ต้องใช้ของสด หากเหลือไว้ มันจะทำให้รสขนมไม่ดีเท่าที่ควร “เชยจะตื่นมาช่วยแม่ทำ พรุ่งนี้แม่ก็พักเถอะค่ะ นานๆ จะได้หยุดอยู่บ้านบ้าง” “ไม่มีเรียนหรือไงล่ะ” “วันหยุดค่ะ เชยจะไปกับคุณท่านด้วย เชยขอคุณท่านแล้ว” เทียนเตรียมจะท้วง แต่อบเชยรู้ทัน รีบพูดดักคอมารดาไว้เสียก่อน “คุณหนูไม่ไปด้วยเหรอ?”
ใบหน้ากลมแป้นนั่น แนบติดบานหน้าต่าง และหากไม่มีกระจกกั้น ตัวอบเชยคงทะลุออกมาด้านนอกแล้ว สายตาสองคู่สบกันกลางอากาศ ชายหนุ่มหัวเราะดังพรืด มือที่เกาะเกี่ยวเอวกางเกงตกลง อบเชยสะดุ้ง! รีบหดหน้ากลับ ตลบชายผ้าม่านปิดไว้เหมือนเดิม พร้อมกับบ่นอุบ “คุณดี แกล้งเชย!” หญิงสาวทิ้งตัวลงนอน รีบตลบผ้าห่มขึ้นปิดใบหน้า อยากจะกรีดร้องดังๆ ที่ตนเองไม่เคยทันเล่ห์เหลี่ยมของคนเจ้าเล่ห์ เขาจงใจยั่วเธอ แต่ว่า...ดีแลนมองเห็นเธอหรือเปล่านะ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอแอบมอง “ยัยเชย ยัยบ้า ทีนี้จะมองหน้าคุณดียังไงล่ะ?!!” หญิงสาวบ่นเสียงออดแอด...ใบหน้าร้อนวาบๆ ดีแลนทิ้งตัวลงนั่ง เขาหัวเราะจนท้องแข็ง ปรารถนากับเดวิดเลยชะโงกหน้าออกมามอง “ดีแลนเป็นอะไรไปลูก?” ทายาทเพียงคนเดียวของหวังหันไปยิ้มให้ เขายืดตัวลุกขึ้นยืน ปั้นหน้าขรึมเหมือนเดิม “เปล่าครับ แค่ขำอะไรบางอย่างเฉยๆ” สองผู้เฒ่าหันมองหน้ากัน ไม่เข้าใจบุตรชายสักนิด แต่คงง้างปากบุตรชายไม่ได้ง่ายๆ “รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า” เดวิดบอกบุตรชาย พรุ่งนี้เป็นภารกิ
ดีแลนเป็นหนุ่มฮอต ตอนที่เธอยังเด็ก เธอคงเป็นเด็กแก่แดด เลยรู้สึกว่าตนเองรักเขาตั้งแต่ยังไม่ทันเป็นสาวดี จวบจนปัจจุบัน ความรู้สึกพิเศษนั่นก็ไม่เคยลดลง อบเชยน้ำตาตกเพราะดีแลนนับครั้งไม่ถ้วน เขาไม่เคยมองเห็นหัวเธอ ทำท่ารำคาญแทบทุกครั้งหากมีอบเชยอยู่ใกล้ๆ ความรู้สึกนั้น เกือบทำให้อบเชยถอดใจ แต่เมื่อได้สบตากับดีแลนยามที่เขาเผลอ ความรู้สึกบ้าๆ นั่นก็ย้อนกลับมาเหมือนเดิม... “เชยคงมีเวรมีกรรมกับคุณดีมั้งเนอะ” หลังเก็บล้างอุปกรณ์ทำขนมจนหมด อบเชยเดินกลับไปที่ห้องนอน เธอควรอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อม จะได้ไม่เป็นการเสียเวลา พอเอาขนมไปวางในห้องนอนดีแลน เธอก็จะได้ขึ้นรถไปกับคนบ้านหวัง เด็กที่บ้านเด็กกำพร้าคงดีใจ ที่พี่เชยคนดีจะไปเล่านิทานให้ฟัง มันคงเป็นวันหยุดที่สนุกสำหรับเธอ เป็นการชาร์ทพลังในร่างกายได้เต็มที่ ด้วยการแบ่งปันสิ่งที่ตนเองมีกับผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า คุณท่านทั้งสองสอนให้อบเชยรู้จักเผื่อแผ่ เดวิด กับปรารถนาทำดีแบบนี้จนอบเชยซึมซับมาเต็มตัว อบเชยไม่เข้าใจเหมือนกัน ผู้ใหญ่ใจดีสองท่านมีแต่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม เหตุใดก็ไม่รู้ บุตรชายของท่านที่มีแค่คน
บทที่6.เรื่องบนเตียงเสียงหวานแว่วที่ได้ยิน เหมือนกับเสียงสาวปริศนาที่ดีแลนกกกอดไว้ในค่ำคืนนั้น คนที่หลับสนิทตั้งใจฟัง เขาขยับเข้าไปใกล้ๆ และกระโจนคว้าหล่อนเอาไว้ได้ ก่อนที่สาวเจ้าจะหนีไปหลบหลังม่านหมอกอีกครั้ง “ยัยเชย!” มือแข็งแรงรวบจับข้อแขนของอบเชยไว้ เขากระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง เลยพลอยทำให้อบเชยเซถลา ขึ้นมานั่งบนขอบเตียง หญิงสาวขืนตัวไว้ พยายามถอยหลังหนี สีหน้าที่ดีแลนมองเห็นคือใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลา แต่เผือดซีดไม่มีสีเลือด “เชยขอโทษค่ะ คุณท่านวานให้เชยปลุกคุณดีด้วยค่ะ” อบเชยละล่ำละลักชี้แจง...เธอไม่ได้ยุ่มย่ามเข้ามาในห้องนอนเขาโดยภาระการ เธอเอาขนมมาส่งและได้รับคำสั่งกึ่งขอร้องจากเจ้าของบ้านมาด้วย “เธออยู่ที่นี่คนเดียวรึ?” คำถามที่อบเชยไม่เข้าใจ ดังผ่านปากของดีแลนมา สีหน้าของเขาก็เช่นกัน เหมือนดีแลนกำลังสับสนกับอะไรบางอย่าง “ค่ะ” อบเชยจำใจตอบ เธอหลุบเปลือกตาลงมองมือของดีแลน ที่ยังกำรอบข้อมือตัวเอง “ไม่มีคนอื่นอีกแน่นะ” ดีแลนถามย้ำ “ค่ะ” เสียงตอบแผ่วเบากว่าครั้งแรก “เป็นไปได้ไง?” ดีแลนรำพึงกับตัวเอ
หญิงสาวลดสายตาต่ำลงไป เปลือกตากะพริบปริบๆ ตรงช่วงคอมีรอยช้ำแดงๆ เหมือนรอยมดกัด เป็นรอยช้ำขนาดเท่าหัวแม่มือ และมีหลายรอยด้วยกัน เพราะยิ่งร่นเสื้อยืดตัวในต่ำลงไป รอยนั่นกระจายทั่วเนินอก อบเชยตกใจ เธอเกือบหวีดร้อง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง...ที่ปลายยอดอกเธอก็โดนมดบ้าลามกนั่น กัดเช่นกัน...รอยแดงๆ ลามไปทั่วตัว เธอรีบปลดกระดุมเอี๊ยม สำรวจตัวเองซ้ำ มดเจ้าปัญหาต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่ บนร่างกายเธอนี่แหละ แต่เมื่อพยายามหาเท่าไหร่ อบเชยกลับไม่พบมดตัวนั้น บางทีมดบ้าลามกนั่น อาจจะหล่นอยู่บนที่นอนของดีแลนแล้วก็ได้เวลามีไม่มากนัก อบเชยมัวโอ้เอ้หามดเจ้าปัญหา เมื่อหาไม่เจอก็จำต้องตัดใจเธอเปิดก๊อก วักน้ำล้างคราบน้ำลายที่มุมปาก ยกมือเสยผมให้เข้าทรงมากกว่าเก่า สภาพของอบเชยเลยดูดีขึ้นหญิงสาวเดินลากขาออกมานอกห้องนอน เธอพยายามไม่คิดมาก เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่ดีแลน จะรังแกเธอเขาไม่อยากอยู่ใกล้เธอด้วยซ้ำ เพราะทันทีที่เธอลืมตา เขายังรีบเดินหนีไปดังนั้น...รอยพวกนี้ ต้องเป็นรอยมดกัด...ชัวร์!!ดีแลนยืนอิงข้างรถยนต์ส่วนตัว เขาหลุบเปลือกตาลงเพราะไม่อยากให้ความสุขที่เพิ่งได้รับมากระจายหายไปในอากาศ หลังอาบน้ำเ
“ห้ามบอกใครนะ สัญญาสิ”อบเชยพยักหน้ารับ ผิวแก้มแดงก่ำ“ค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบที่พอใจ เด็กน้อยก็หมดความสนใจ เจ้าตัววิ่งไปรวมกลุ่มกับเพื่อน อบเชยหาที่นั่ง เธอมองตามดีแลน แอบอมยิ้มทุกครั้งที่ดีแลนยิ้มให้คนอื่น เสียดายนิดเดียว รอยยิ้มนั่นไม่ได้ส่งให้เธอโดยตรงพิธีการต่างๆ จบลง ถึงช่วงที่เด็กๆ จะได้สนุกกับของเล่นชิ้นใหม่ที่พวกเขาเพิ่งได้รับมา เด็กหลายคนจับกลุ่มเพื่อเล่นของเล่นด้วยกัน อบเชยเดินเลี่ยงเข้าไปด้านหลัง เธอมัวแต่ยุ่งๆ จนลืมกินอาหารเช้า นี่เวลาเดินเลยมาจนบ่ายคล้อย อบเชยหิวติดหมัด เธอเลยคิดจะหาอาหารง่ายๆ ใส่ท้อง และในครัวน่าจะพอมีข้าวก้นหม้อเหลือเธอคุ้นเคยกับบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้ เพราะมาเป็นประจำ อบเชยตักข้าวใส่จาน ราดด้วยน้ำแกงที่เหลือติดก้นหม้อแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเธอ อาหารกินประทังความหิว แถมไม่แย่นัก น้ำแกงข้นๆ อร่อยอย่าบอกใคร เธอเดินหามุมสงบเพื่อนั่งรับประทานอาหารเงียบๆ โคนต้นไม้คงเหมาะ มีพื้นหญ้าเป็นพรมปูให้นั่ง อบเชยทรุดตัวลงนั่ง วางขวดน้ำเปล่าไว้ข้างตัว ลงมือตักข้าวในจานกินอย่างเอร็ดอร่อย ที่ลานกว้าง เด็กหลายคนวิ่งเล่นไล่จับ ดีแลนกวาดตามองหายัยตัวยุ่ง เขา
บทนำ ดีแลนถอนหายใจแรงๆ รีบเดินเข้าไปในคลับชั้นสูง สถานที่นัดหมายเพื่อเจรจาธุรกิจ และคู่ค้าของเขา เลือกสถานที่แห่งนี้สำหรับการเจรจา รอยยิ้มเย็นชาประทับอยู่บนมุมปากได้รูป ตลอดทางที่เดินเข้าไปด้านในบรรยากาศเหมือนเดิม คลับไหนๆ ก็เหมือนกันหมด เป็นแหล่งที่คนรุ่นใหม่ใช้เป็นที่ปลดปล่อย หาความสนุกใส่ตัวเอง แตกต่างที่เฟอร์นิเจอร์และการตบแต่ง ที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก ทุกๆ คลับจะต้องมีผู้หญิงสาว สวยไว้คอยให้บริการ สำหรับสกายล์ฮอลล์ แห่งนี้ ตัวเจ้าของคือณรงค์ ดีแลนรู้จักเป็นอย่างดี เมื่อสองหนุ่มเรียนมาด้วยกัน ตั้งแต่ประถม จนถึงระดับวิทยาลัย’ มีผู้หญิงสาวสวยหลายคนพยายามส่งสายตาให้ จนดีแลนเริ่มรำคาญ “Hi!” มีใครบางคนโบกมือเรียก ชายผู้นั้นลุกขึ้นยืนและส่งเสียงทัก ดีแลนเพ่งมอง เขาส่งยิ้มให้ เมื่อคนคนนั้นคือคู่ค้าคนสำคัญของเขานั่นเอง อดัม เทียร่า นักธุรกิจลุกครึ่งจีน-โปรตุเกต ชายผู้นี้กำลังสนใจ และอยากร่วมทุนในโครงการใหม่เอี่ยมของ หวังเทียนกรุป เกี่ยวกับโครงการพัฒนาพลังงานทางเลือกใหม่ ชายหนุ่มโบกมือรับ เขามองฝ่าความมืด เพื่อหาทางเดินไปยังโต๊ะ VIP
บทที่1.อบเชยหนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน ทะลึ่งพรวด!! เขาทรงตัวยืนเต็มความสูง จ้องหน้าโคโยตี้สาวคนหนึ่งที่คลับแห่งนี้ส่งมาบริการ 1ใน3 คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี หล่อนชื่อ อบเชย น้ำทองเด็กสาวที่อยู่บ้านติดกัน รั้วบ้านหล่อนติดกันกับรั้วเขา เพียงแต่...บ้านของหล่อนไม่ได้ร่ำรวยเหมือนบ้านเขา แถมหล่อนเพิ่งจะมีอายุแค่สิบเก้าปี “ยัยเชย เธอมาทำอะไรที่นี่!” ดีแลนตะคอกเสียงขุ่น จ้องมองเด็กสาวตรงหน้าตาถลน อบเชยขยุ้มมือกำชายขากางเกงแน่น ห่อตัวจนแทบจะขดเป็นก้อนกลมๆ เธอไม่อยากจะเชื่อโลกจะกลมถึงขนาดนี้? ทำไมน้อ?...ทำไมถึงให้เธอมาเจอกับคนที่ตนเองแอบชอบ ตั้งแต่การเริ่มทำงานครั้งแรก ในตำแหน่งโคโยตี้ “รู้จักกันด้วยรึ?” อดัมถามเสียงสนเท่ห์ หรี่ตามองดีแลนสลับกับสาวน้อยสุดเอ็กซ์ ที่ยืนก้มหน้างุดตรงหน้า ดีแลนยกมือขึ้นเสยผม ทรงผมเรียบกริบแตกไม่เป็นทรง เนื่องจากตอนนี้เขาแทบจะควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่อยู่ ผิวแก้มร้อนฉ่า และใกล้จะระเบิดเต็มทนชายหนุ่มโกรธลมออกหู แก้วหูลั่นวิ้งๆ เขาเจอคนที่ไม่ควรเจอในสถานที่อโคจรแห่งนี้ได้อย่างไร?ตอนที่มาเจรจาการค้