ใบหน้ากลมแป้นนั่น แนบติดบานหน้าต่าง และหากไม่มีกระจกกั้น ตัวอบเชยคงทะลุออกมาด้านนอกแล้ว
สายตาสองคู่สบกันกลางอากาศ
ชายหนุ่มหัวเราะดังพรืด มือที่เกาะเกี่ยวเอวกางเกงตกลง
อบเชยสะดุ้ง! รีบหดหน้ากลับ ตลบชายผ้าม่านปิดไว้เหมือนเดิม พร้อมกับบ่นอุบ “คุณดี แกล้งเชย!”
หญิงสาวทิ้งตัวลงนอน รีบตลบผ้าห่มขึ้นปิดใบหน้า อยากจะกรีดร้องดังๆ ที่ตนเองไม่เคยทันเล่ห์เหลี่ยมของคนเจ้าเล่ห์ เขาจงใจยั่วเธอ แต่ว่า...ดีแลนมองเห็นเธอหรือเปล่านะ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอแอบมอง
“ยัยเชย ยัยบ้า ทีนี้จะมองหน้าคุณดียังไงล่ะ?!!”
หญิงสาวบ่นเสียงออดแอด...ใบหน้าร้อนวาบๆ
ดีแลนทิ้งตัวลงนั่ง เขาหัวเราะจนท้องแข็ง ปรารถนากับเดวิดเลยชะโงกหน้าออกมามอง “ดีแลนเป็นอะไรไปลูก?”
ทายาทเพียงคนเดียวของหวังหันไปยิ้มให้ เขายืดตัวลุกขึ้นยืน ปั้นหน้าขรึมเหมือนเดิม “เปล่าครับ แค่ขำอะไรบางอย่างเฉยๆ”
สองผู้เฒ่าหันมองหน้ากัน ไม่เข้าใจบุตรชายสักนิด แต่คงง้างปากบุตรชายไม่ได้ง่ายๆ
“รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า” เดวิดบอกบุตรชาย
พรุ่งนี้เป็นภารกิจใหญ่ ท่านกับภรรยาต้องเดินทางแต่เช้า เป็นการทำทานครั้งใหญ่ ที่สองผู้เฒ่าหวังทำมานานหลายปี การให้โอกาสผู้อื่นคือทานอันยิ่งใหญ่
“ถ้าผมตื่นไม่ทัน แม่อย่าลืมให้ใครมาปลุกด้วยนะครับ ผมจะขับรถไปเอง” ดีแลนแก้ปัญหาเฉพาะไว้ล่วงหน้า เขามีแผนบางอย่าง และแผนสนุกๆ นั่นดีแลนไม่อยากพลาด
“เอางั้นเหรอ?”
“ครับ”
“ตามใจ...” สองสามี ภรรยาหมดความสนใจบุตรชาย พวกเขาเดินกลับเข้าไปในห้อง ยังมีอีกหลายเรื่องต้องเตรียมการไว้ สำหรับวันพรุ่งนี้
ดีแลนเองก็ล้มเลิกที่จะยั่วยวนอบเชยต่อ เขาเดินเข้าห้อง รูดผ้าม่านปิด และเดินเลยไปอาบน้ำ ขณะที่นั่งแช่น้ำ เสียงหวานๆ ของใครคนหนึ่งก็แว๊บเข้ามาในสมองอีกครั้ง
‘อย่ายิ้มแบบนี้สิคะ’
ดีแลนชะงัก ชายหนุ่มขมวดคิ้ว...พยายามนึกถึงความทรงจำที่แอบอยู่ในใจลึกๆ ใครคนนั้นพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงหวานฉ่ำ ดีแลนอยากกรอภาพกลับ เขาอยากย้อนไปดูเจ้าของเสียงหวานที่ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น เขาก็ไม่สามารถสลัดเงาดำๆ นั่นออกไปจากหัวใจได้สักครั้ง
เรื่องยิ้ม เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ดีแลนติดใจ หากไม่สนิทชิดเชื้อ เป็นการยากที่มนุษย์ยิ้มยากอย่างเขาจะยิ้มให้ ยิ่งเป็นสาวให้บริการด้วยแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่ตนเองจะยิ้มให้เจ้าหล่อน น้ำเสียงของหล่อนก็เช่นกัน สาวๆ พวกนั้นจริตจะก้านแพรวพราว ไม่มีหรอกที่จะพูดทื่อๆ แต่หวานฉ่ำเบอร์แรงสุด หวานขนาดไหน เล่นเอาคนลืมง่ายอย่างเขา ลืมไม่ลงสักที
“เธอเป็นใครนะ?”
ชายหนุ่มเผลอตัวรำพันออกมา
หลายครั้งหลายหนที่ภาพฝันยามค่ำคืนนั้นย้อนกลับมาใครคิด แต่ก็เป็นแค่เงาวูบวาบ กับเสียงลอยๆ ที่มองไม่เห็นตัวคนพูด ดีแลนเริ่มหงุดหงิดเล็กๆ ในหัวของเขามีสองเรื่อง ที่ทำลายสมาธิของเขาได้เป็นอย่างดี เรื่องแรกก็คงเกี่ยวกับเด็กสาวข้างบ้าน...ผู้หญิงเชย หน้าโหลๆ แต่เรื่องอบเชยดีแลนชินเสียแล้ว เพราะอบเชยเข้ามาป่วนในใจเขาหลายปีดีดัก แต่สำหรับคนใหม่ที่เข้ามาทำให้เขาวุ่นวายใจนี่สิ…มันเป็นอะไรที่เกินคาด...ผู้หญิงปริศนานั่น ทำให้ความคิดของเขาวุ่นวาย
เรื่องมันผ่านมาเป็นเดือนแล้วนะ...
ทำไมเขาถึงยังไม่ลืมเสียที เขาติดใจอะไรกับแม่สาวคนนั้นอย่างนั้นเหรอ?
“ยัยเชย ช่วยหน่อยสิ” ดีแลนหลุบเปลือกตาลง เขาอยากกำจัดเงาดำๆ ที่ตามหลอกหลอนออกไปให้หมด ทางเดียวที่ช่วยได้ คือดึงเอาอบเชยมาแทนที่ ชายหนุ่มเหยียดขาตรงๆ ตามความยาวของอ่างอาบน้ำกุชชี่ มือแข็งแรงลดลงไปใต้น้ำ วางแหมะที่กลางหน้าขาแข็งแรง และเริ่มบรรเลงเพลงมือ ขับกล่อมตนเองด้วยจินตนาการ
“เชยยยย...” เสียงครางแหบห้าวดังแข่งกับแรงกระเพื่อมของมวลน้ำ
น้ำผสมฟองสบู่กระฉอกหล่นลงบนพื้นเป็นวงกว้าง เมื่อดีแลนออกแรงสุดตัว นำพาตัวเองสู่จุดสูงสุด พร้อมกับเสียงคำรามกึกก้องที่ดังผ่านปากสีเข้มออกมา
ไอรักพุ่งกระฉูด...หลังดีแลนปลดปล่อยตัวเองได้สำเร็จ
เขาเอนหลังพิงขอบอ่างหลับตาลง เพื่อฟื้นกำลังที่เสียไปกลับคืนมา
ชายหนุ่มนอนฝันถึงวันคืนอันแสนสุข ในอนาคตอีกไม่นานนักหรอก เขาจะไม่ต้องทรมานเช่นตอนนี้
ความสุขที่โหยหา จวนเจียนจะถึงเวลาแล้ว...ไม่จำเป็นต้องกักเก็บ ไม่จำเป็นต้องอดกลั้น...หากถึงวันนั้น ดีแลนคงมีความสุขจนบรรยายไม่ถูก
3:00 นาฬิกา ในขณะที่คนอีกมากยังนอนหลับอุตุอยู่บนที่นอนนุ่มๆ อบเชยงัวเงียตื่น หลังนาฬิกาปลุกกรีดร้องเตือน เธอลุกขึ้นนั่ง ยกมือคลึงข้างขมับ สองตายังไม่ลืมขึ้น เมื่อความง่วงยังเกาะหนึบ ติดแน่นอยู่ที่เปลือกตาแต่เพราะภารกิจที่ต้องทำ อบเชยเลยพยายามฝืนลืมตา
“ตื่นๆ” มือเล็กๆ ตบข้างแก้ม วาดปลายเท้าลงจากเตียง ควานมือหายางเส้นเล็ก เพื่อจัดการเก็บผมยาวๆ ที่แผ่กระจายล้อมกรอบหน้า เธอจัดการธุระส่วนตัวเสร็จในเวลาไม่เกินห้านาที อบเชยออกมาอีกครั้ง ครานี้หน้าตาผ่องใสขึ้น เมื่อเธอล้างหน้าล้างตา แปรงฟันเรียบร้อยแล้ว
“มาค่ะ เชยช่วย”
หญิงสาวทรุดนั่งข้างๆ มารดาที่กำลังสาละวนกับการทำขนมหวาน กลิ่นกะทิ กลิ่นน้ำตาลเคี่ยวโชยกรุ่น
เทียนยิ้มให้บุตรสาว ส่งถาดที่มีแป้งกับไส้ให้อบเชยทำต่อ
“เชยปั้นขนมต้มให้คุณหนูเถอะ ปั้นดีๆ ล่ะ เดี๋ยวคุณหนูจะบ่นเอา”
อบเชยย่นจมูก รับถาดจากมารดาโดยไม่พูดอะไรต่อ เทียนตั้งใจทำขนม เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำต่อ นางไม่อยากให้คุณท่านทั้งสองรอนาน สองสาวต่างวัยเร่งมือทำงานของตัวเองจนลุล่วง สามชั่วโมงกับการนั่งหลังขดหลังแข็ง แต่เมื่อขนมสุกพร้อมกัน กลิ่นหอมๆ กับความพร้อมก็ทำให้สองแม่-ลูกใจชื้น
เทียนเก็บถาด กับอุปกรณ์ทั้งหมดเตรียมตัวจะนำไปล้าง
“แม่ไปอาบน้ำเถอะค่ะ เดี๋ยวเชยจัดการพวกนี้เอง”
อบเชยอาสาทำแทน...เทียนเลยพยักหน้าเห็นด้วย นางตื่นก่อนบุตรสาวนานโข
“ล้างหม้อเสร็จ เชยไปอาบน้ำนะ มะพร้าวเดี๋ยวแม่ลงมาขูดเอง เชยต้องเอาขนมต้มไปให้คุณหนูนี่”
เทียนรู้ดี หน้าที่สำคัญของอบเชยที่ห่างหายไปนาน เพราะดีแลนย้ายออกไปอยู่ต่างหาก แต่เมื่อเขากลับมา กิจวัตรเดิมๆ ก็ย้อนกลับมาด้วย
“คนบ้าที่ไหนกินขนมต้มกับกาแฟตอนเช้า สงสัยมีแต่คุณดี”
หญิงสาวบ่นไป ขัดถูก้นหม้อไปด้วย โดยประมาณว่าก้นหม้อคือหน้าของดีแลน
เพราะหากเผชิญหน้ากันจริงๆ มีหรือที่อบเชยจะกล้าแสดงกริยาแบบนั้นกับชายหนุ่ม
สายตาของเขาเหมือนใบมีดโกน มองเธอแต่ละทีเหมือนจงใจมอง มันทำให้เธอหนาวสะท้านจนตัวสั่น เหมือนสายตาของซาตานที่จ้องมองเหยื่อ แต่ถึงอย่างนั้น... อบเชยก็ยังหลงรักดีแลนไม่เคยเปลี่ยน เธอมั่นใจว่า ไม่มีชายคนไหนบนโลกใบนี้มาแทนที่ดีแลนได้ ไม่รู้เพราะอะไรสิ ทั้งๆ ที่เขาเกลียดเธอมากขนาดนี้ เธอก็ยังหลงรักเขา แบบหัวปักหัวปำอยู่ดี
“เธอมันโง่ไง...ยัยเชย”
อบเชยบ่นว่าตัวเอง ความรักที่มีต่อดีแลน มันไม่มีที่มาที่ไป รู้อย่างเดียวเท่านั้น นับตั้งแต่สนใจเพศตรงข้าม สายตาของเธอก็ไล่มองดีแลนเสียแล้ว
ทั้งๆ ที่เขาอายุห่างจากตนเองตั้งหลายปี
ดีแลนเป็นหนุ่มฮอต ตอนที่เธอยังเด็ก เธอคงเป็นเด็กแก่แดด เลยรู้สึกว่าตนเองรักเขาตั้งแต่ยังไม่ทันเป็นสาวดี จวบจนปัจจุบัน ความรู้สึกพิเศษนั่นก็ไม่เคยลดลง อบเชยน้ำตาตกเพราะดีแลนนับครั้งไม่ถ้วน เขาไม่เคยมองเห็นหัวเธอ ทำท่ารำคาญแทบทุกครั้งหากมีอบเชยอยู่ใกล้ๆ ความรู้สึกนั้น เกือบทำให้อบเชยถอดใจ แต่เมื่อได้สบตากับดีแลนยามที่เขาเผลอ ความรู้สึกบ้าๆ นั่นก็ย้อนกลับมาเหมือนเดิม... “เชยคงมีเวรมีกรรมกับคุณดีมั้งเนอะ” หลังเก็บล้างอุปกรณ์ทำขนมจนหมด อบเชยเดินกลับไปที่ห้องนอน เธอควรอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อม จะได้ไม่เป็นการเสียเวลา พอเอาขนมไปวางในห้องนอนดีแลน เธอก็จะได้ขึ้นรถไปกับคนบ้านหวัง เด็กที่บ้านเด็กกำพร้าคงดีใจ ที่พี่เชยคนดีจะไปเล่านิทานให้ฟัง มันคงเป็นวันหยุดที่สนุกสำหรับเธอ เป็นการชาร์ทพลังในร่างกายได้เต็มที่ ด้วยการแบ่งปันสิ่งที่ตนเองมีกับผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า คุณท่านทั้งสองสอนให้อบเชยรู้จักเผื่อแผ่ เดวิด กับปรารถนาทำดีแบบนี้จนอบเชยซึมซับมาเต็มตัว อบเชยไม่เข้าใจเหมือนกัน ผู้ใหญ่ใจดีสองท่านมีแต่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม เหตุใดก็ไม่รู้ บุตรชายของท่านที่มีแค่คน
บทที่6.เรื่องบนเตียงเสียงหวานแว่วที่ได้ยิน เหมือนกับเสียงสาวปริศนาที่ดีแลนกกกอดไว้ในค่ำคืนนั้น คนที่หลับสนิทตั้งใจฟัง เขาขยับเข้าไปใกล้ๆ และกระโจนคว้าหล่อนเอาไว้ได้ ก่อนที่สาวเจ้าจะหนีไปหลบหลังม่านหมอกอีกครั้ง “ยัยเชย!” มือแข็งแรงรวบจับข้อแขนของอบเชยไว้ เขากระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง เลยพลอยทำให้อบเชยเซถลา ขึ้นมานั่งบนขอบเตียง หญิงสาวขืนตัวไว้ พยายามถอยหลังหนี สีหน้าที่ดีแลนมองเห็นคือใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลา แต่เผือดซีดไม่มีสีเลือด “เชยขอโทษค่ะ คุณท่านวานให้เชยปลุกคุณดีด้วยค่ะ” อบเชยละล่ำละลักชี้แจง...เธอไม่ได้ยุ่มย่ามเข้ามาในห้องนอนเขาโดยภาระการ เธอเอาขนมมาส่งและได้รับคำสั่งกึ่งขอร้องจากเจ้าของบ้านมาด้วย “เธออยู่ที่นี่คนเดียวรึ?” คำถามที่อบเชยไม่เข้าใจ ดังผ่านปากของดีแลนมา สีหน้าของเขาก็เช่นกัน เหมือนดีแลนกำลังสับสนกับอะไรบางอย่าง “ค่ะ” อบเชยจำใจตอบ เธอหลุบเปลือกตาลงมองมือของดีแลน ที่ยังกำรอบข้อมือตัวเอง “ไม่มีคนอื่นอีกแน่นะ” ดีแลนถามย้ำ “ค่ะ” เสียงตอบแผ่วเบากว่าครั้งแรก “เป็นไปได้ไง?” ดีแลนรำพึงกับตัวเอ
หญิงสาวลดสายตาต่ำลงไป เปลือกตากะพริบปริบๆ ตรงช่วงคอมีรอยช้ำแดงๆ เหมือนรอยมดกัด เป็นรอยช้ำขนาดเท่าหัวแม่มือ และมีหลายรอยด้วยกัน เพราะยิ่งร่นเสื้อยืดตัวในต่ำลงไป รอยนั่นกระจายทั่วเนินอก อบเชยตกใจ เธอเกือบหวีดร้อง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง...ที่ปลายยอดอกเธอก็โดนมดบ้าลามกนั่น กัดเช่นกัน...รอยแดงๆ ลามไปทั่วตัว เธอรีบปลดกระดุมเอี๊ยม สำรวจตัวเองซ้ำ มดเจ้าปัญหาต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่ บนร่างกายเธอนี่แหละ แต่เมื่อพยายามหาเท่าไหร่ อบเชยกลับไม่พบมดตัวนั้น บางทีมดบ้าลามกนั่น อาจจะหล่นอยู่บนที่นอนของดีแลนแล้วก็ได้เวลามีไม่มากนัก อบเชยมัวโอ้เอ้หามดเจ้าปัญหา เมื่อหาไม่เจอก็จำต้องตัดใจเธอเปิดก๊อก วักน้ำล้างคราบน้ำลายที่มุมปาก ยกมือเสยผมให้เข้าทรงมากกว่าเก่า สภาพของอบเชยเลยดูดีขึ้นหญิงสาวเดินลากขาออกมานอกห้องนอน เธอพยายามไม่คิดมาก เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่ดีแลน จะรังแกเธอเขาไม่อยากอยู่ใกล้เธอด้วยซ้ำ เพราะทันทีที่เธอลืมตา เขายังรีบเดินหนีไปดังนั้น...รอยพวกนี้ ต้องเป็นรอยมดกัด...ชัวร์!!ดีแลนยืนอิงข้างรถยนต์ส่วนตัว เขาหลุบเปลือกตาลงเพราะไม่อยากให้ความสุขที่เพิ่งได้รับมากระจายหายไปในอากาศ หลังอาบน้ำเ
“ห้ามบอกใครนะ สัญญาสิ”อบเชยพยักหน้ารับ ผิวแก้มแดงก่ำ“ค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบที่พอใจ เด็กน้อยก็หมดความสนใจ เจ้าตัววิ่งไปรวมกลุ่มกับเพื่อน อบเชยหาที่นั่ง เธอมองตามดีแลน แอบอมยิ้มทุกครั้งที่ดีแลนยิ้มให้คนอื่น เสียดายนิดเดียว รอยยิ้มนั่นไม่ได้ส่งให้เธอโดยตรงพิธีการต่างๆ จบลง ถึงช่วงที่เด็กๆ จะได้สนุกกับของเล่นชิ้นใหม่ที่พวกเขาเพิ่งได้รับมา เด็กหลายคนจับกลุ่มเพื่อเล่นของเล่นด้วยกัน อบเชยเดินเลี่ยงเข้าไปด้านหลัง เธอมัวแต่ยุ่งๆ จนลืมกินอาหารเช้า นี่เวลาเดินเลยมาจนบ่ายคล้อย อบเชยหิวติดหมัด เธอเลยคิดจะหาอาหารง่ายๆ ใส่ท้อง และในครัวน่าจะพอมีข้าวก้นหม้อเหลือเธอคุ้นเคยกับบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้ เพราะมาเป็นประจำ อบเชยตักข้าวใส่จาน ราดด้วยน้ำแกงที่เหลือติดก้นหม้อแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเธอ อาหารกินประทังความหิว แถมไม่แย่นัก น้ำแกงข้นๆ อร่อยอย่าบอกใคร เธอเดินหามุมสงบเพื่อนั่งรับประทานอาหารเงียบๆ โคนต้นไม้คงเหมาะ มีพื้นหญ้าเป็นพรมปูให้นั่ง อบเชยทรุดตัวลงนั่ง วางขวดน้ำเปล่าไว้ข้างตัว ลงมือตักข้าวในจานกินอย่างเอร็ดอร่อย ที่ลานกว้าง เด็กหลายคนวิ่งเล่นไล่จับ ดีแลนกวาดตามองหายัยตัวยุ่ง เขา
บทนำ ดีแลนถอนหายใจแรงๆ รีบเดินเข้าไปในคลับชั้นสูง สถานที่นัดหมายเพื่อเจรจาธุรกิจ และคู่ค้าของเขา เลือกสถานที่แห่งนี้สำหรับการเจรจา รอยยิ้มเย็นชาประทับอยู่บนมุมปากได้รูป ตลอดทางที่เดินเข้าไปด้านในบรรยากาศเหมือนเดิม คลับไหนๆ ก็เหมือนกันหมด เป็นแหล่งที่คนรุ่นใหม่ใช้เป็นที่ปลดปล่อย หาความสนุกใส่ตัวเอง แตกต่างที่เฟอร์นิเจอร์และการตบแต่ง ที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก ทุกๆ คลับจะต้องมีผู้หญิงสาว สวยไว้คอยให้บริการ สำหรับสกายล์ฮอลล์ แห่งนี้ ตัวเจ้าของคือณรงค์ ดีแลนรู้จักเป็นอย่างดี เมื่อสองหนุ่มเรียนมาด้วยกัน ตั้งแต่ประถม จนถึงระดับวิทยาลัย’ มีผู้หญิงสาวสวยหลายคนพยายามส่งสายตาให้ จนดีแลนเริ่มรำคาญ “Hi!” มีใครบางคนโบกมือเรียก ชายผู้นั้นลุกขึ้นยืนและส่งเสียงทัก ดีแลนเพ่งมอง เขาส่งยิ้มให้ เมื่อคนคนนั้นคือคู่ค้าคนสำคัญของเขานั่นเอง อดัม เทียร่า นักธุรกิจลุกครึ่งจีน-โปรตุเกต ชายผู้นี้กำลังสนใจ และอยากร่วมทุนในโครงการใหม่เอี่ยมของ หวังเทียนกรุป เกี่ยวกับโครงการพัฒนาพลังงานทางเลือกใหม่ ชายหนุ่มโบกมือรับ เขามองฝ่าความมืด เพื่อหาทางเดินไปยังโต๊ะ VIP
บทที่1.อบเชยหนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน ทะลึ่งพรวด!! เขาทรงตัวยืนเต็มความสูง จ้องหน้าโคโยตี้สาวคนหนึ่งที่คลับแห่งนี้ส่งมาบริการ 1ใน3 คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี หล่อนชื่อ อบเชย น้ำทองเด็กสาวที่อยู่บ้านติดกัน รั้วบ้านหล่อนติดกันกับรั้วเขา เพียงแต่...บ้านของหล่อนไม่ได้ร่ำรวยเหมือนบ้านเขา แถมหล่อนเพิ่งจะมีอายุแค่สิบเก้าปี “ยัยเชย เธอมาทำอะไรที่นี่!” ดีแลนตะคอกเสียงขุ่น จ้องมองเด็กสาวตรงหน้าตาถลน อบเชยขยุ้มมือกำชายขากางเกงแน่น ห่อตัวจนแทบจะขดเป็นก้อนกลมๆ เธอไม่อยากจะเชื่อโลกจะกลมถึงขนาดนี้? ทำไมน้อ?...ทำไมถึงให้เธอมาเจอกับคนที่ตนเองแอบชอบ ตั้งแต่การเริ่มทำงานครั้งแรก ในตำแหน่งโคโยตี้ “รู้จักกันด้วยรึ?” อดัมถามเสียงสนเท่ห์ หรี่ตามองดีแลนสลับกับสาวน้อยสุดเอ็กซ์ ที่ยืนก้มหน้างุดตรงหน้า ดีแลนยกมือขึ้นเสยผม ทรงผมเรียบกริบแตกไม่เป็นทรง เนื่องจากตอนนี้เขาแทบจะควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่อยู่ ผิวแก้มร้อนฉ่า และใกล้จะระเบิดเต็มทนชายหนุ่มโกรธลมออกหู แก้วหูลั่นวิ้งๆ เขาเจอคนที่ไม่ควรเจอในสถานที่อโคจรแห่งนี้ได้อย่างไร?ตอนที่มาเจรจาการค้
ฝันว่าวันหนึ่ง เจ้าชายบนปราสาทหลังนั้น จะทอดสายตามาที่ตนเองบ้าง และมันก็เป็นแค่ความฝัน เพราะยิ่งนานวัน...ระยะห่างของเธอกับดีแลน ก็ยิ่งห่างกันไปทุกทีๆ เธอได้แต่แอบมอง ได้เห็นเขาเพียงผ่านๆ กำแพงสูงชันนั่นไม่ใช่อุปสรรคหรอก แต่ความจริงต่างหากล่ะ ที่ทำให้เธอต้องเจียมตน เขาคือเจ้าชาย และเธอคือเศษฝุ่นที่ปลิวอยู่รอบกายเขา สัมผัสได้ แต่เป็นเจ้าของไม่ได้ “อะไรดลใจให้เธอมาทำงานที่นี่หะ ยัยเชย!” เสียงแหบห้าวของดีแลนดึงเธอออกมาจากความคิดวกวน อบเชยเงยหน้ามอง เธอกะพริบเปลือกตาปริบๆ จ้องมองดีแลนเหมือนกำลังละเมอ มือแข็งแรงเอื้อมมาจับบ่า และหากอบเชยมีสติ เธอจะเห็นว่า...ดีแลนสะดุ้ง! เขาชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะแผดเสียงดังลั่น “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไงยัยเด็กบ้า!!” “เชยได้ยินแล้วค่ะ พูดเบาๆ ก็ได้ คุณดีตะโกนจนเชยหูจะแตก” หญิงสาวบ่นอุบ ก้มหน้าหลบตาเขาเหมือนเดิม เมื่อสายตาของดีแลนเหมือนมีเปลวไฟแลบออกมา และไฟนั่นแทบจะเผาเธอจนมอดไหม้ ดีแลนปล่อยมือ เขาชำเรืองมองอบเชย และยังยืนหันข้างให้เธอเสียด้วย เสียงถอนลมหายใจแรงๆ ดังจนอบเชยแ
เปลือกตาของดีแลนหลุบลง เขายังไม่พร้อมที่จะมองไปรอบตัว เขากลัวว่าความโกรธของตนเองจะกลับมาอีก หากเขาเห็นอบเชยตอนนี้ อดัมไหวไหล่ “คุณรู้จักกับเธอ” “อืม” ดีแลนครางตอบ ก่อนจะรีบลืมตาขึ้นเมื่อ… “เธอสวยดีนะ ผมคิดว่าเธอคงจะฮอตแน่!!” เสียงเป่าปาก เสียงโห่ฮาของบรรดาผู้ชายวัยฉกรรจ์ดังขึ้นรอบตัว ดีแลนปรือตาขึ้น เขามองหน้าอดัม ก่อนจะมองตามปลายนิ้วที่ชี้ไปบนเวที ตูม บรึ้ม! อารมณ์ที่คงที่ของดีแลนพุ่งสูงลิบ ผิวแก้มของเขาร้อนฉ่า เมื่อมองเห็นอบเชยบนเวทียกสูง ชุดที่หล่อนใส่ก็ยังเป็นชุดเดิม ชุดที่ดีแลนแค่นว่ามันไม่ต่างอะไรกับเศษผ้า แถมตอนนี้...อบเชยกำลังเต้น ลีลาของหล่อนดีแลนได้แต่อ้าปากค้าง ดีแลนไม่เคยรู้ อบเชยมีพื้นฐานเรื่องการเต้น หล่อนไปเรียนมาจากไหน ลีลาหล่อนไม่เบาเลยกับการโยกย้าย ส่ายเอวยั่วสายตาผู้ชาย และผู้ชายที่กำลังยืนมองอยู่ชื่นชอบ เมื่อแต่ละคนที่ยืนแหงนหน้ามอง พากันโห่ร้องแทบทั้งนั้น นี่อบเชยไปหัดเต้นท่าทางแบบนั้นมาจากไหนวะ?!! ดีแลนควานหาแก้วบรั่นดีมาดื่มแก้กระหาย เขาอ้าปากค้างนานเกินไปจนคอแห้ง ชายหนุ่มดื่มรวดเดีย