ดีแลนเป็นหนุ่มฮอต ตอนที่เธอยังเด็ก เธอคงเป็นเด็กแก่แดด เลยรู้สึกว่าตนเองรักเขาตั้งแต่ยังไม่ทันเป็นสาวดี จวบจนปัจจุบัน ความรู้สึกพิเศษนั่นก็ไม่เคยลดลง อบเชยน้ำตาตกเพราะดีแลนนับครั้งไม่ถ้วน เขาไม่เคยมองเห็นหัวเธอ ทำท่ารำคาญแทบทุกครั้งหากมีอบเชยอยู่ใกล้ๆ ความรู้สึกนั้น เกือบทำให้อบเชยถอดใจ แต่เมื่อได้สบตากับดีแลนยามที่เขาเผลอ ความรู้สึกบ้าๆ นั่นก็ย้อนกลับมาเหมือนเดิม... “เชยคงมีเวรมีกรรมกับคุณดีมั้งเนอะ” หลังเก็บล้างอุปกรณ์ทำขนมจนหมด อบเชยเดินกลับไปที่ห้องนอน เธอควรอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อม จะได้ไม่เป็นการเสียเวลา พอเอาขนมไปวางในห้องนอนดีแลน เธอก็จะได้ขึ้นรถไปกับคนบ้านหวัง เด็กที่บ้านเด็กกำพร้าคงดีใจ ที่พี่เชยคนดีจะไปเล่านิทานให้ฟัง มันคงเป็นวันหยุดที่สนุกสำหรับเธอ เป็นการชาร์ทพลังในร่างกายได้เต็มที่ ด้วยการแบ่งปันสิ่งที่ตนเองมีกับผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า คุณท่านทั้งสองสอนให้อบเชยรู้จักเผื่อแผ่ เดวิด กับปรารถนาทำดีแบบนี้จนอบเชยซึมซับมาเต็มตัว อบเชยไม่เข้าใจเหมือนกัน ผู้ใหญ่ใจดีสองท่านมีแต่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม เหตุใดก็ไม่รู้ บุตรชายของท่านที่มีแค่คน
บทที่6.เรื่องบนเตียงเสียงหวานแว่วที่ได้ยิน เหมือนกับเสียงสาวปริศนาที่ดีแลนกกกอดไว้ในค่ำคืนนั้น คนที่หลับสนิทตั้งใจฟัง เขาขยับเข้าไปใกล้ๆ และกระโจนคว้าหล่อนเอาไว้ได้ ก่อนที่สาวเจ้าจะหนีไปหลบหลังม่านหมอกอีกครั้ง “ยัยเชย!” มือแข็งแรงรวบจับข้อแขนของอบเชยไว้ เขากระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง เลยพลอยทำให้อบเชยเซถลา ขึ้นมานั่งบนขอบเตียง หญิงสาวขืนตัวไว้ พยายามถอยหลังหนี สีหน้าที่ดีแลนมองเห็นคือใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลา แต่เผือดซีดไม่มีสีเลือด “เชยขอโทษค่ะ คุณท่านวานให้เชยปลุกคุณดีด้วยค่ะ” อบเชยละล่ำละลักชี้แจง...เธอไม่ได้ยุ่มย่ามเข้ามาในห้องนอนเขาโดยภาระการ เธอเอาขนมมาส่งและได้รับคำสั่งกึ่งขอร้องจากเจ้าของบ้านมาด้วย “เธออยู่ที่นี่คนเดียวรึ?” คำถามที่อบเชยไม่เข้าใจ ดังผ่านปากของดีแลนมา สีหน้าของเขาก็เช่นกัน เหมือนดีแลนกำลังสับสนกับอะไรบางอย่าง “ค่ะ” อบเชยจำใจตอบ เธอหลุบเปลือกตาลงมองมือของดีแลน ที่ยังกำรอบข้อมือตัวเอง “ไม่มีคนอื่นอีกแน่นะ” ดีแลนถามย้ำ “ค่ะ” เสียงตอบแผ่วเบากว่าครั้งแรก “เป็นไปได้ไง?” ดีแลนรำพึงกับตัวเอ
หญิงสาวลดสายตาต่ำลงไป เปลือกตากะพริบปริบๆ ตรงช่วงคอมีรอยช้ำแดงๆ เหมือนรอยมดกัด เป็นรอยช้ำขนาดเท่าหัวแม่มือ และมีหลายรอยด้วยกัน เพราะยิ่งร่นเสื้อยืดตัวในต่ำลงไป รอยนั่นกระจายทั่วเนินอก อบเชยตกใจ เธอเกือบหวีดร้อง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง...ที่ปลายยอดอกเธอก็โดนมดบ้าลามกนั่น กัดเช่นกัน...รอยแดงๆ ลามไปทั่วตัว เธอรีบปลดกระดุมเอี๊ยม สำรวจตัวเองซ้ำ มดเจ้าปัญหาต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่ บนร่างกายเธอนี่แหละ แต่เมื่อพยายามหาเท่าไหร่ อบเชยกลับไม่พบมดตัวนั้น บางทีมดบ้าลามกนั่น อาจจะหล่นอยู่บนที่นอนของดีแลนแล้วก็ได้เวลามีไม่มากนัก อบเชยมัวโอ้เอ้หามดเจ้าปัญหา เมื่อหาไม่เจอก็จำต้องตัดใจเธอเปิดก๊อก วักน้ำล้างคราบน้ำลายที่มุมปาก ยกมือเสยผมให้เข้าทรงมากกว่าเก่า สภาพของอบเชยเลยดูดีขึ้นหญิงสาวเดินลากขาออกมานอกห้องนอน เธอพยายามไม่คิดมาก เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่ดีแลน จะรังแกเธอเขาไม่อยากอยู่ใกล้เธอด้วยซ้ำ เพราะทันทีที่เธอลืมตา เขายังรีบเดินหนีไปดังนั้น...รอยพวกนี้ ต้องเป็นรอยมดกัด...ชัวร์!!ดีแลนยืนอิงข้างรถยนต์ส่วนตัว เขาหลุบเปลือกตาลงเพราะไม่อยากให้ความสุขที่เพิ่งได้รับมากระจายหายไปในอากาศ หลังอาบน้ำเ
“ห้ามบอกใครนะ สัญญาสิ”อบเชยพยักหน้ารับ ผิวแก้มแดงก่ำ“ค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบที่พอใจ เด็กน้อยก็หมดความสนใจ เจ้าตัววิ่งไปรวมกลุ่มกับเพื่อน อบเชยหาที่นั่ง เธอมองตามดีแลน แอบอมยิ้มทุกครั้งที่ดีแลนยิ้มให้คนอื่น เสียดายนิดเดียว รอยยิ้มนั่นไม่ได้ส่งให้เธอโดยตรงพิธีการต่างๆ จบลง ถึงช่วงที่เด็กๆ จะได้สนุกกับของเล่นชิ้นใหม่ที่พวกเขาเพิ่งได้รับมา เด็กหลายคนจับกลุ่มเพื่อเล่นของเล่นด้วยกัน อบเชยเดินเลี่ยงเข้าไปด้านหลัง เธอมัวแต่ยุ่งๆ จนลืมกินอาหารเช้า นี่เวลาเดินเลยมาจนบ่ายคล้อย อบเชยหิวติดหมัด เธอเลยคิดจะหาอาหารง่ายๆ ใส่ท้อง และในครัวน่าจะพอมีข้าวก้นหม้อเหลือเธอคุ้นเคยกับบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้ เพราะมาเป็นประจำ อบเชยตักข้าวใส่จาน ราดด้วยน้ำแกงที่เหลือติดก้นหม้อแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเธอ อาหารกินประทังความหิว แถมไม่แย่นัก น้ำแกงข้นๆ อร่อยอย่าบอกใคร เธอเดินหามุมสงบเพื่อนั่งรับประทานอาหารเงียบๆ โคนต้นไม้คงเหมาะ มีพื้นหญ้าเป็นพรมปูให้นั่ง อบเชยทรุดตัวลงนั่ง วางขวดน้ำเปล่าไว้ข้างตัว ลงมือตักข้าวในจานกินอย่างเอร็ดอร่อย ที่ลานกว้าง เด็กหลายคนวิ่งเล่นไล่จับ ดีแลนกวาดตามองหายัยตัวยุ่ง เขา
บทที่7.จูบ...แต่ไม่ใช่ครั้งแรกมันเป็นการกินมื้อเที่ยงที่มีความสุขที่สุด มีผู้ชายรูปงามนั่งอยู่ใกล้ๆ และสายตาของเขาก็เหมือนมองเธอเป็นขนมหวาน อบเชยทำตัวไม่ถูก เธอตามอารมณ์ดีแลนไม่ทัน แม้จะพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด เพราะไม่อยากให้ช่วงเวลาแสนสุขนี่สิ้นสุดลง สายลมพัดโบกพอให้ชื่นใจ อากาศไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนทุกวัน มันอาจจะเป็นเพราะคนที่นั่งข้างๆ หน้าตายิ้มแย้มอยู่ก็ได้ “คุณดีอยู่ตรงนี้นานแล้วนะคะ” อบเชยเปรยลอยๆ ดีแลนเป็นคนสำคัญ ป่านนี้บิดา มารดาของเขาอาจจะมองหา “นี่ไล่ฉันเรอะ?” เสียงถามค่อนข้างห้วน “ปะ เปล่านะคะ แต่คุณท่านอาจจะกำลังมองหาคุณดีอยู่” “แล้วไงล่ะ ฉันอยากพักบ้าง เบื่อปั้นหน้าแล้วนี่” ดีแลนบ่น เขาเอนหลังพิงต้นไม้หลุบเปลือกตาลงดื้อๆ อบเชยยิ้มแหยๆ เมื่อดีแลนกล่าวเช่นนั้นเธอจะว่าอะไรได้ หญิงสาวขยับตัว ดีแลนอยากพักเธอก็ไม่รบกวน คนหลับเอื้อมมือจับและรั้งอบเชยเข้าไปหา เขาปรามเสียงแหบๆ “นั่งเฝ้าฉันอยู่นี่แหละ จะไปไหนล่ะ” สาวเจ้าเลยนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ข้างๆ เธองัดพัดพลาสติกที่เหน็บไว้กระป๋าหลังขึ้นมาพัดโบกให้ดีแลนเบาๆ หลังแน่ใจว่าชา
เขาเอนตัวลงนอนบนพื้นหญ้า อบเชยกะพริบเปลือกตาถี่ๆ เธอนั่งตัวแข็งทื่อ เพราะศีรษะของคนตัวใหญ่ วางแหมะลงบนหน้าตักของเธอจนอบเชยทำอะไรไม่ถูก จะผลักไสเขา...ก็กลัวจะถูกดุ จะนั่งเฉยๆ ก็ขัดเขินพิกล “หัวฉันไม่เหม็นหรอกน่า” ดีแลนมองสบตาอบเชย หญิงสาวเสหลบตาแย้งเสียงแผ่วๆ “เชยตัวเหม็นค่ะ มีแต่เหงื่อ” อบเชยไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ เธอทำงานที่ใช้แรงเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการใกล้ชิดแบบนี้ เธอเลยกลัวกลิ่นของตนเองจะทำให้ดีแลนไม่พอใจ ดีแลนแสร้งสูดลมหายใจแรงๆ เขาตอบเสียงเรียบ มือเอื้อมจับเอวคอดไว้ เพราะอบเชยทำท่าจะขยับตัวหนี “ไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลยนี่เชย” อบเชยอยากจะร้องไห้ มันเป็นการใกล้ชิดที่ทำให้เธอพิอักพิอ่วน จะมีความสุขก็ไม่เต็มร้อย จะตกใจก็ไม่ใช่ที่ มันก่ำกึ่งระหว่างดีใจ กับกลัวมากกว่า “คุณดีง่วง ไปนอนในรถดีกว่าไหมคะ” หญิงสาวรีบหาทางออกให้ “ไม่...ฉันจะนอนที่นี่” ดีแลนพูดย้ำ เขาชะงัก มันเหมือนนึกอะไรออก มันเหมือนกับว่าเขาเคยพูดคำนี้กับอบเชยมาแล้ว แต่นึกไม่ออกว่าเคยพูดเมื่อไหร่ ที่ไหน? อบเชยกลัวคนอื่นมาเห็น และมันจะทำให้เกิดข่าวลือแปลกๆ เธอเ
บทที่8.เมื่อเจ้าของบ้านอยากได้กับแกล้มพิเศษ เกือบห้านาทีที่ดีแลนทำแค่กอดเหมือนที่เขาบอก อบเชยนั่งนิ่งๆ เธอไม่ไหวติงเลย จนกระทั่งดีแลนยอมปล่อย เขาทรงตัวลุกขึ้นยืน อบเชยเลยพยายามยักแย่ยักยันลุกขึ้นตาม แต่เพราะเธอนั่งนาน แถมถูกดีแลนนอนทับมันเลยทำให้ร่างกายของเธอไม่ปกตินัก เหน็บชา ตั้งแต่หน้าขาซ้าย ลงไปถึงปลายนิ้วเท้าไม่มีความรู้สึก มันหนักอึ้งเหมือนกับว่าขาข้างนั้นมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นสิบเท่าตัว อบเชยพยายามที่จะไม่แสดงออก เธอพยายามปรับสีหน้า และฝืนตัวทรงกายลุกขึ้นยืน แต่...ดีแลนก็ยังรู้ เขายื่นมือให้จับ “เร็วๆ ไม่งั้นฉันอุ้ม” เสียงเร่ง ยังไม่น่ากลัวเท่ากับคำขู่ตามหลังมา หากดีแลนบ้าดีเดือด อุ้มเธอขึ้นมาจริงๆ ครั้งต่อไปเธอคงไม่กล้ามาเหยียบที่บ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้อีก เพราะ
ดีแลนร้องขอ...ไม่ได้บังคับ ไม่ได้ข่มขู่ อบเชยกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ หากชักช้า มารดาเดินเข้ามาดูที่รถ เรื่องมันจะไปกันใหญ่ ใบหน้าเล็กๆ เลยรีบพยักหน้าอนุญาต ดีแลนยิ้มมุมปาก เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ กดปากแนบกลีบปากนุ่มนิ่ม...บดเบาๆ เพื่อแยมกลีบปากอิ่มเต็มให้แยกจากกัน จากนั่นก็...ดูดดื่มกับความหวานที่ตนเองโหยหา ดีแลนพึมพำเสียงแหบพร่า “เชย...เชยจ๋า” อบเชยพริ้มเปลือกตาหลุบลง เธอแหงนใบหน้ารับจูบ สนองตอบเท่าที่ทำได้ รับรู้ความหวานฉ่ำซ่านทรวงด้วยความรู้สึกหวามไหวในอก “อืม...” เสียงครางแหบต่ำ ผสมความพึงใจ เรียวลิ้นร้อนชื้นส่งผ่านรอยแยกหวานฉ่ำ สัมผัสเรียวลิ้นเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ตวัดรูดรัด และไล่ต้อนอย่างสนุกสนาน&nb
“คุณดีบ้า...ถ้ามีคนเห็น เชยคงถูกนินทายับ” ดีแลนเงยหน้าหัวเราะร่วน นั่นไม่ใช่คำปฏิเสธ มันหมายความว่า อบเชยยินยอมที่จะทำตามคำขอของเขา ชายหนุ่มเลยโน้มตัวเข้าไปใกล้ “เร็วๆ เชย กำลังปลอดคน...ไม่มีใครเห็นหรอก ฉันจะดูต้นทางให้เอง” อบเชยกลั้นใจกดปลายจมูกกับแก้มสากๆ ของคนตรงหน้า แต่คนที่รอจังหวะอยู่ เบี่ยงหน้า จนปากสีระเรื่อทาบลงบนปากสีเข้มแทน อบเชยผงะ เธอรีบเอนตัวออกห่าง แต่สายไปเสียแล้วสำหรับอบเชยและดีแลน เมื่อทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นไปมอง เงาดำๆ ที่ทอดยาวบนพื้น ณ.จุดนั้น เดวิด ปรารถนา เทียน รวมทั้งน้อยยืนอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น “ดีแลน!!&rd
ก่อนจะตัดสินใจถามตรงๆ “คุณดีรู้ใช่ไหมคะว่าคุณท่านเรียกแม่เชยไปพูดเรื่องอะไร?” ดีแลนพยักหน้ารับ เขาสอดมือไว้ในกระเป๋ากางเกง เลิกหัวคิ้วขึ้นสูง ลักษณะเหมือนต้องการท้าทายอบเชย ผู้หญิงตรงหน้าจะมีความสามรถมากพอที่จะง้างปากให้เขาพูดได้หรือไม่!!? อบเชยคิดเอง เธอเดาจากท่าทางของเขานั่นแหละ “คุณดีบอกเชยได้ไหมคะ?” น้ำเสียงอ้อนๆ แววตาเว้าวอน จนดีแลนแอบขำ “ได้!!” ชายหนุ่มตอบเสียงขึงขัง “ขอบคุณค่ะ” อบเชยยิ้มตาพราวแต่ก็ต้องชะงักหัวแทบขมำ ปลายนิ้วเรียวสวยแตะที่ข้างแก้ม เขากดย้ำไปมาหลายรอบ เหมือนต้องการสื่ออะไรบางอย่าง อบเชยกะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอพยายามทำความเข้าใจผ่านการบอกเล่า
‘ชอบแบบนี้ ชอบที่เป็นแบบนี้ ชอบแววตาแบบนี้ ชอบรอยยิ้มแบบนี้ ก็ชอบคนนี้ โฮ้วววว จะเอาแบบนี้ จะเอาที่เป็นแบบนี้ จะเอาแววตาแบบนี้ จะเอารอยยิ้มแบบนี้ จะเอาคนนี้ ฮู้ววว ก็ชอบที่เป็นแบบเธอ’ จู่ๆ อบเชยก้ได้ยินเสียงเพลงดังเบาๆ เธอเงยหน้ามอง ผู้ชายตัวใหญ่กำลังฮัมเพลง เนื้อเพลงที่ฟังแล้วถึงกับสะท้านวูบในอก ‘เพียงแค่เธอยิ้มมา ใจมันสั่นยังไงไม่รู้ ทุกอย่างกลายเป็นสีชมพูทันใด เธอ โอเธอ เธอรู้ไหมใจฉันไหวหวั่น เวลาที่ได้ใกล้กัน หัวใจฉันแทบจะวาย ตอนที่เธอสบตา ฉันก็แทบจะเป็นบ้าตาย รู้ไหมใจฉันจะละลายแล้ว’ ดีแลนยิ้มเก๋ เขาซ้อมร้องเพลงนี้มานานหลายสัปดาห์ แค่ฟังครั้งแรกก็สะดุดหู มันช่างเหมือนกับชีวิตตนเองเหลือเกิน แรกสบตากับอบเชยเมื่อหลายสิบปีก่อน ความรู้สึกที่เกิดขึ้น เป็นแบบนี้เลย เสียงระเบิดตูมตามดังในใจ รอยยิ้มของเธอ ทำให้หัวใจเขาเต้นกระหน่ำ หัวใจเขาทำงานหนั
ตามธรรมดาปรารถนาจะแวะเวียนมาเยี่ยมเทียนที่ร้านขนมเป็นประจำ หลังจากนางใส่บาตรทำบุญเสร็จ แต่วันนี้คงเพราะฝนตก อากาศไม่เป็นใจ คุณท่านจึงเรียกมารดาของเธอเข้าไปพบแทน อบเชยไม่ได้สงสัย ไม่ได้ติดใจท่าทางร้อนรนของคนมาตามสักนิด คงเป็นเพราะหญิงสาวกำลังสนุกกับการปิ้งข้าวเหนียวปิ้ง ไอเดียใหม่ที่เพิ่งทดลองทำ “เชยสอบเสร็จหรือยัง?” คุยกันด้วยเรื่องมารดาของเธออยู่ดีๆ ดีแลนก็เปลี่ยนเรื่องขึ้นมาดื้อๆ เป็นคำถามเดิมที่ทำให้ดีแลนรู้สึกไม่พอใจตนเองด้วย อบเชยเลยรีบตอบ เธอกลัวว่าจะทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าไม่พอใจซ้ำอีกครั้ง “ยังเลยค่ะ เหลือสอบอีกสองวัน สามวิชา แล้วก็ส่งรายงานค่ะ” ดีแลนพยักหน้าหงึกหงัก เขารับห่อข้าวเหนียวที่อบเชยส่งให้มาแกะใบตองออก แล้วกินต่อ เมื่อตนเองได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้จนหมด&
“อืม...” ดีแลนทิ้งตัวนั่งที่เดิม อบเชยเลยจำใจต้องปล่อยแขนข้างที่จับเอาไว้ เธอรีบใช้ที่คีบ คีบข้าวเหนียวปิ้งที่เกือบไหม้ลงมาจากเตา“คุณดีโกรธอะไรเชยคะ บอกเชยตรงๆ ได้ไหมคะ เชยไม่ใช่เด็กแล้ว เชยยอมรับได้หากสิ่งที่เชยทำ ทำให้คุณดีไม่พอใจ”ดีแลนหรี่เปลือกตาลง เขาเม้มปาก ท่าทางเหมือนวัยรุ่นโดนผู้ใหญ่ขัดใจ“ฉันรู้ ว่าเชยโตแล้ว”หลังพูดจบ แววตาของดีแลนก็เต้นระริกอบเชยมองตามสายตาของคนตัวโต ที่คีบในมือแทบจะพลัดหลุด เพราะสายตาของเขามองสิ่งที่ ‘โต’ แล้วของเธอตาเป็นมัน “คุณดี!!”“ฮ่าๆ” ดีแลนหัวเราะร่วน เขายิ้มแฉ่งเมื่อโดนคนตัวเล็กสะบัดค้อนให้“ระวังคอเคล็ดนะเชย” ดีแลนกระเซ้าต่อ“คุณดีว่างขนาดมีเวลามาแหย่เชยเล่นเลยเหรอคะ”“เปล่า วันนี้ฉันมีธุระสำคัญ”ดีแลนตอบเสียงนุ่ม มุมปากมีรอยยิ้ม เมื่อนึกถึงเรื่องที่ตนเองทำลงไปวันนี้‘แม่ครับ ผมอยากมีเมีย’ชายหนุ่มพูดโพล่งกับบิดา มารดา ระหว่างรั
แม่ค้าขนมยิ้มหวาน มองธนบัตรที่อัดเกือบเต็มกระป๋องใส่สตางค์ตาพราว “ข้าวเหนียวปิ้งขายดีจริ๊งๆ” เทียนสัพยอกบุตรสาว นางเก็บถาดใส่ขนมเตรียมนำไปล้าง “ต้องยกความดีความชอบให้แม่เลยค่ะ ข้าวเหนียวมูลของแม่คนแถวนี้รู้ดีว่าทั้งหอมทั้งมัน” อบเชยกล่าวชม มือเป็นระวิง เมื่อต้องคอยพลิกกลับห่อข้าวเหนียวปิ้งไม่ให้ใบตองไหม้ เทียนไม่ได้พูดต่อความ นางเดินไปหลังร้าน เพื่อล้างถาดขนมที่ใช้แล้ว ลูกค้าบางตา เทียนเลยวางใจให้อบเชยอยู่คนเดียว อีกทั้งห่อข้าวเหนียวที่รอปิ้งก็ใกล้หมดแล้ว “ว้าว...ไม่รู้ว่าวันนี้จะมีข้าวเหนียวปิ้งด้วย” น้อย คนสนิทของปรารถนาเดินผ่านและตามกลิ่นไหม้ของใบตองมา “ป้าน้อยลองชิมไหมคะ เ
“ฉันหนาว...” อบเชยอยากสลัดผ้าห่มออก แล้วลุกขึ้นจ้องหน้าเขา มนุษย์ขี้ร้อนอย่างดีแลน รู้สึกหนาวในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ เธอไม่ได้เปิดแอร์อบเชยมั่นใจ เธอไม่ชอบนอนขดในห้องที่มีอากาศเย็นจัด ที่สำคัญ อบเชยชินแล้ว เธอกลัวต้องจายค่าไฟแพงๆ อะไรที่อดทนได้ เธอเลยไม่พยายามสร้างความเคยตัวให้กับตัวเอง แต่คนตัวใหญ่ข้างๆ เธอ เขาร่ำรวยมาก ขนหน้าแข้งไม่มีทางร่วง หากต้องจ่ายค่าไฟที่มีจำนวนเลขห้าหลัก “คุณดีโกหก” หญิงสาวกล่าวแดกดัน เป็นไปไม่ได้เลยที่ดีแลนจะหนาว นอกจากเขาสำออย “ฉันจะโกหกเชยทำไมล่ะ เชยดูสิ หนาวจนขนลุกเลย” ดีแลนสอดแขนผ่านโปงผ้า เขาขนลุกจริงๆ แต่ไม่เพราะหนาว แต่เพราะอะไรนั่นอบเชยน่าจะรู้ดี เธอถึงได้พยายามสุดชีวิตที่จะยึดผ้าห่มไว้กับตัวให้นานที่สุด ไอร้
“ไม่จริงอะ คุณดีเกลียดเชยจะตาย เชยเข้าใกล้คุณดีทีไรเชยถูกไล่ตะเพิดทุกที” อบเชยแย้ง ความทรงจำของเธอ มีแต่สีหน้าตึงๆ กับคำพูดหยาบคายที่ทำให้เธอขยาดการเข้าไปอยู่ในรัศมีสายตาของเขา “หากไม่กันเชยออกห่าง ฉันคงติดคุกไปแล้ว” ดีแลนสารภาพ เขาคิดมิดีมิร้ายกับคนตรงหน้า ตั้งแต่หล่อนยังมีคำนำหน้าว่าเด็กหญิง “จริงอะ” “จริงเส้!” ท่าทางไม่เชื่อของอบเชยทำเอาดีแลนชักฉุน “คุณดีมีสาวในสต็อกเยอะจะตาย มาสนใจอะไรกับเด็กอย่างเชย” ถึงดีแลนช่วงนี้จะปฏิบัติตัวกับเธอดีขึ้น แต่ความทรงจำในอดีตก็ยังทำให้อบเชยอดระแวงไม่ได้ “
หญิงสาวรีบตอบ นั่นเป็นข้อห้ามที่ปรารถนาย้ำแล้วย้ำอีก แม้อบเชยจะสงสัย แต่เธอก็ไม่เคยย่างกลายเข้าไปในห้องนอนของเขา เพราะประตูห้องมันล็อกอยู่ตลอดเวลานั่นเอง “อยากเห็นไหมล่ะ?” ดีแลนถามเสียงปร่า อบเชยส่ายหน้าแรงๆ “อยากเข้าไปดูไหม?” ดีแลนถามย้ำ...แต่ก็เหมือนเดิม อบเชยส่ายหน้าแรงขึ้นกว่าเก่าเสียอีก เขตหวงห้ามตอนที่ดีแลนคิดอะไรแปลกๆ อยู่ในหัวแถมบ้านทั้งหลังมีแค่เธอกับเขา หากไม่อยากพลาดซ้ำ อบเชยควรอยู่ห่างๆ เขาไว้ก่อน “แต่ฉันอยากให้เชยเห็นนี่” ชายหนุ่มพูดหน้าตาย ก่อนจะร