“คุณกลับไปเถอะปารตี” ดีแลนหมดอารมณ์ดื้อๆ เขาหยิบเช็คที่เขียนไว้ ยื่นส่งให้ปารตี เป็นค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อ หากค่ำคืนนี้เขาใช้เวลากับหล่อน แต่นั้นคือก่อนที่เขาจะกลับถึงบ้าน อารมณ์ที่พลุ่งพล่านจู่ๆ ก็เหือดหายไปดื้อๆ
“อะไรกันคะ ตียังไม่ได้ทานมื้อเย็นที่บ้านคุณเลย”
สาวโสภาไม่ได้พิศวาสอาหารมื้อเย็นที่แอบเห็นบนเตานั่นหรอก ที่เธอต้องการคือเจ้าของบ้านสุดหล่อตรงหน้านี่ต่างหาก แต่เมื่อเขาออกปากเสือกไส เธอก็ต้องหาทางยื้อไว้ก่อน บางทีดีแลนอาจจะเปลี่ยนใจ
“ผมเหนื่อย!” ดีแลนวางเช็คไว้บนโต๊ะ เขาเดินเลี่ยงปารตี “คงไม่น่าเกลียดนะ หากผมจะขอให้คุณกลับเองด้วย” เสียงทุ้มๆ ดังมาจากด้านใน ตัดความหวังของปารตีดังฉับ
สาวสวยสะบัดหน้าให้ประตูคอแทบเคล็ด เธอหยิบกระดาษชิ้นน้อยๆ ขึ้นมามอง ก่อนจะพอยิ้มออก ค่าเสียเวลาของเธอมากโขเชียวล่ะ
“ตีกลับก่อนนะคะ หากคุณเหงา คุณโทร. หาตีได้ตลอดนะคะดีแลน”
เธอส่งเสียงบอกเจ้าของบ้าน เดินเชิดหน้าออกไปด้านนอก มองหารถรับจ้างที่จะอาศัยนั่งกลับที่พำนัก
พออาบน้ำจนใจหายหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง...ดีแลนก็เริ่มหิว เขาเดินออกจากห้องเข้าครัว สูดลมหายใจแรงๆ เพื่อสูดกลิ่นหอมฟุ้งของอาหารมื้อเย็นที่อยู่ในหม้อ คงเป็นเพราะหล่อนตกใจกับฉากเลิฟซีนแบบถึงพริกถึงขิงระหว่างเขากับปารตี แม่บ้านคนใหม่เลยยังไม่ได้จัดสำรับให้เขา อาหารมื้อเย็นยังคงอยู่ในหม้อ ขนมปังแอ้งแม้งอยู่บนพื้นแต่ก็ยังอยู่ในถุงใบใหญ่ หล่อนคงออกไปซื้อขนมปังนี่มา แล้วไม่ทันเห็นว่าเขากลับมาแล้ว ดีแลนเดินไปฉวยถุงขนมปังขึ้นมาจากพื้น เขาบิขนมปังชิมรส รสชาติใช้ได้ หากไม่คิดถึงความกระด้าง เขาหิวจัดจนไม่สนใจที่จะอุ่นสตูว์ ดีแลนหยิบถ้วยจากตู้ติดผนัง...เขาตักสตูว์ใส่ถ้วยที่ถือไว้ หนีบขนมปังแข็งๆ ไว้ที่รักแร้ เดินไปนั่งบนเก้าอี้ และเขาก็เห็น...
กระเป๋าสะพายที่อบเชยลืมไว้...
กระเป๋าใบนั้นห้อยอยู่ที่พนักเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง...
ดีแลนยัดขนมปังที่จุ่มสตูว์จนชุ่มใส่ปาก เขาเอื้อมมือหยิบกระเป๋าใบนั้นมาดูใกล้ๆ
“เหมือนเคยเห็นที่ไหน?” ชายหนุ่มรำพึง เขาเคยเห็นกระเป๋าใบนี้มาก่อนแน่ๆ ขณะที่กำลังคิด ดีแลนก็รับประทานอาหารมื้อนั้นต่อด้วยความเอร็ดอร่อย ในที่สุดชายหนุ่มก็ยอมเสียมายาท เขาอยากรู้จักแม่บ้านสาวคนใหม่ และแก้ข้อสงสัยเกี่ยวกับแม่สาวคนนั้น กระเป๋าใบนั้นจึงถูกดีแลนรื้อ เขาค้นทุกซอกทุกมุม และแล้วเขาก็เจอ...กระเป๋าสตางค์เก่าๆ ที่แอบอยู่ในช่องกระเป๋าด้านในอีกที หากไม่พิจารณาดีๆ จะไม่มีทางหาเจอ
ขนมปังค้างอยู่ในช่องปาก ดีแลนตกใจจนลืมเคี้ยว เมื่อเปิดกระเป๋าสตางค์ใบเล็กออกมาแล้วเจอ...
บัตรประชาชนของ อบเชย
“ยัยป้าแม่บ้านคือ...ยัยเด็กเชยงั้นเหรอ?”
ชายหนุ่มครางในลำคอเบาๆ มือหยิบขนมปังออกจากปาก ความหิวเหือดหายไปดื้อๆ เขาพลิกบัตรประชาชนใบนั้นกลับไปกลับมาหลายรอบ แต่รูปที่มองเห็นก็ยังเป็นของคนหน้าเดิม...
ใบหน้าบ้องแบ๊วของอบเชย แววตาสุกใสเป็นประกายนั่นอีก นี่บัตรประชาชนของอบเชย ตั้งแต่สมัยหล่อนทำบัตรครั้งแรก ใบหน้ากลมๆ ฉ่ำๆ แบบนี่แหละที่เกือบทำให้เขาคลั่ง!!
ดีแลนยกมือคลึงใต้ปลายคาง ระหว่างใช้ความคิด เขาจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้อบเชยทำงานต่อไป หรือว่า...
มันคงสนุกไม่น้อย แม้อนาคตจะถูกคนรอบตัวกระเซ้า เกมไล่ต้อนเด็กเข้ามาอยู่ใต้อาณัติเริ่มขึ้นแล้ว และที่นับนิ้วคร่าวๆ อีกไม่กี่เดือนอบเชยก็จะครบยี่สิบปีเต็ม เขารอดข้อหาพรากผู้เยาว์หวุดหวิด
“ฮ่าๆ”
ชายหนุ่มเงยหน้าหัวเราะลั่นบ้าน
ไอ้ความงุ่นง่านที่วิ่งพล่านอยู่ในเส้นเลือดสงบลงแบบเหลือเชื่อ
และดีแลนก็เจริญอาหารมื้อนี้ที่สุด เขาบิขนมปังจุ่มสตูว์จนหมดเกลี้ยงจาน หากไม่น่าเกลียดเกินไป ชายหนุ่มแน่ใจ เขาจะเลียจานกินสตูว์จนหยดสุดท้ายทีเดียว ดีแลนลุกขึ้นยืน เขาเดินไปเปิดเครื่องเสียง เสียงเพลงคลาสสิกบรรเลงออกมาเบาๆ ชายหนุ่มซอยเท้าหมุนตัวเป็นวงกลม เขาเต้นรำคนเดียว อารมณ์ดีจนอยากโห่ร้อง หากไม่กลัวว่าเพื่อนบ้านจะโทร. แจ้งตำรวจ ดีแลนคงจะตะโกนสุดเสียงไปแล้ว...
“แม่ขาขอสตางค์100นึงค่ะ” อบเชยยืนหน้ามุ่ยที่หน้าร้านขายขนมไทยของเทียน เธอรีบจนลืมกระเป๋าสตางค์ ลืมทิ้งไว้ที่บ้านของดีแลนนั่นแหละ
เทียนหยิบแบงค์ร้อยเก่าๆ ยื่นส่งให้บุตรสาว “ทำไมวันนี้กลับเร็วล่ะ”
นางรู้ดีว่าบุตรสาวรับทำงานทุกอย่าง กว่าอบเชยจะกลับถึงบ้านก็ค่อนข้างดึกพอสมควร เทียนเป็นห่วงลูกตามประสาคนเป็นแม่ แต่เรื่องอื่นๆ นางไว้ใจอบเชย นางเลี้ยงลูกมากับมือ รู้นิสัยใจคอดี อบเชยไม่มีวันทำให้เธอเสียใจแน่
“เจ้าของบ้านกลับเร็วค่ะ เชยเลยได้กลับก่อนเวลา” หญิงสาวกล่าวเสียงแผ่ว ทรุดนั่งด้านข้าง และยิ้มรับเมื่อลูกค้าของมารดาเดินมาหยุดหน้าร้านขนมไทย “รับขนมอะไรดีคะ ออกจากเตามาร้อนๆ เลยค่ะ”
อบเชยคุ้นเคยกับการขาย เธอไม่เคยอายที่ต้องช่วยมารดาทำมาหากิน
“ลูกสาวแม่เทียนคนนี้ขยันจังเลยนะ ฉันเห็นวิ่งลอกทำงานไม่ได้หยุดเลยนี่” ลูกค้าหน้าคุ้นกล่าวชม หยิบขนมใส่ไส้สี่ห่อส่งให้อบเชย “เอานี่แหละ ลูกชายป้าชอบ”
“เชยก็ชอบค่ะ ขนมแม่ทำ อร่อยทุกอย่าง”
หญิงสาวกล่าวสนับสนุน เธอโตมากับขนมไทยหลายอย่าง ฝีมือเทียนไม่เคยตก ร้านขนมของเทียนจึงอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้
“ฝากร้านด้วยนะเชย แม่จะไปตลาดสักหน่อย”
เทียนฉวยกระเป๋าสตางค์ นางต้องไปซื้อวัตถุดิบสำหรับทำขนมตอนเช้า ขนมที่ทำมาใหม่ยังขายไม่หมด หากทิ้งร้านไปก็เกรงว่าขนมจะเหลือ พอดีที่อบเชยกลับก่อนเวลา คืนนี้คงไม่ดึกนัก จะได้มีเวลานอนมากกว่าทุกวัน
“คะแม่...หมดนี่เชยปิดร้านได้เลยใช่ไหมคะ?” อบเชยถามตามหลัง
“อืม...ในซึ้งมีใส่ไส้อีกยี่สิบกว่าห่อ หมดแล้ว ก็ปิดร้านได้เลย”
เทียนตอบ เปิดประตูด้านข้าง เดินไปตลาดที่อยู่ไม่ไกล ปล่อยให้อบเชยนั่งขายขนมคนเดียว
“เทียนไม่อยู่เหรออบเชย?” เสียงทุ้มอ่อนโยนของปรารถนาดังขึ้น อบเชยเงยหน้ายิ้มให้ เธอรีบยกมือทำความเคารพตามความเคยชิน
“สวัสดีค่ะคุณท่าน”
“คุณท่านอะไรกันอบเชย...ฉันห้ามไว้ไม่เคยจำเลยนะ” ปรารถนาดุด้วยความเอ็นดู อบเชยเรียกเธอแบบยกย่อง จนระอาที่จะปราม
“เชยสบายใจแบบนี้ค่ะ อย่าถือเชยเลยนะคะ”
หญิงสาวแก้ตัวเสียงออดแอด
“ตามใจ ว่าแต่เทียนไปไหนล่ะ” สาวใหญ่โบกมือ นางถามหามารดาของเด็กสาว
“แม่ไปตลาดค่ะ คุณท่านมีอะไรจะใช้ให้แม่ทำเหรอคะ?” อบเชยถามกลับ “ฉันจะมาจองขนมหน่ะ พรุ่งนี้จะไปบ้านเด็กกำพร้า...เอาทุกอย่างเลยนะ เด็กๆ ชอบ” ปรารถนามาอุดหนุนขนมที่ร้านมารดาอบเชยเป็นประจำ เทียนจะไม่รับเงิน ท่านก็ไม่ยอม “ขอเชยไปด้วยได้ไหมคะ” อบเชยยิ้มแป้น เธอจำได้สมัยเด็กๆ ชอบตามปรารถนาไปบ้านเด็กกำพร้าที่ครอบครัวหวังอุปถัมภ์ไว้ “พรุ่งนี้ไม่มีเรียนสินะ ได้สิ...อ้อ...เป็นไง งานหนักไหม ลูกชายฉันบ่นอะไรหรือเปล่า?” สาวใหญ่ถามถึงบุตรชาย เขาเป็นคนเคร่งครัด ระเบียบจัด นางเกรงว่าจะทำให้อบเชยแบกภาระมากเกินไป “งานสบายๆ ค่ะ ไม่หนักเลย เชยยังไม่เจอคุณดีเลยค่ะ เธอเลยยังไม่บ่น” หญิงสาวตอบเสียงอ่อยๆ เธอเลี่ยงการเผชิญกับหน้าดีแลน เขาเลยยังไม่ไล่ตะเพิดให้เธอลาออกจากตำแหน่งงานที่อบเชยทำอยู่นั่นเอง “คงถูกใจอยู่หรอก ขานั้นถ้าไม่พอใจคงโวยมาแล้วล่ะ” ปรารถนายิ้มรับ มองสำรวจอบเชย เด็กสาวตรงหน้า เป็นสาวมากขึ้นกว่าทุกปี ท่าทางก็เรียบร้อย คนเป็นแม่อย่างเทียนคงภูมิใจ “อบเชยเรียนปีไหนแล้วล่ะ” นางชวนคุยตามประสาคนรู้จัก
บทที่5.อรุณสวัสดิความรัก“ทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก” เทียนวางถุงในมือลงบนโต๊ะ เอ่ยถามบุตรสาวที่ยังนั่งอยู่กลางบ้าน อบเชยหยุดความคิดวกวนของตนเอง ตอบมารดาเสียงใส “รอแม่ค่ะ” เทียนรื้อของในถุงออกมากองด้านนอก “รอแม่ทำไม มีอะไรหรือเปล่า?” “คุณดีอยากทานขนมต้ม” อบเชยตอบมารดา เธอไม่ได้บอกรายละเอียด “คุณหนูมารึ? ได้ๆ เดี๋ยวแม่ทำให้” เทียนรับคำ “คุณท่านสั่งขนมด้วยคะแม่ พรุ่งนี้คุณท่านจะไปบ้านเด็กกำพร้า” อบเชยกล่าวต่อ เธอผุดลุกขึ้นยืน เมื่อส่งสารที่รับฝากมาทั้งหมดให้มารดาเรียบร้อย “ตายล่ะ พรุ่งนี้คงไม่ได้เปิดร้านขายขนมแน่ๆ แม่ซื้อของมาแค่พอใช้” เทียนบ่น ของที่เตรียมไว้มีแค่พอดี เทียนไม่ชอบซื้อมาเผื่อเพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่ต้องใช้ของสด หากเหลือไว้ มันจะทำให้รสขนมไม่ดีเท่าที่ควร “เชยจะตื่นมาช่วยแม่ทำ พรุ่งนี้แม่ก็พักเถอะค่ะ นานๆ จะได้หยุดอยู่บ้านบ้าง” “ไม่มีเรียนหรือไงล่ะ” “วันหยุดค่ะ เชยจะไปกับคุณท่านด้วย เชยขอคุณท่านแล้ว” เทียนเตรียมจะท้วง แต่อบเชยรู้ทัน รีบพูดดักคอมารดาไว้เสียก่อน “คุณหนูไม่ไปด้วยเหรอ?”
ใบหน้ากลมแป้นนั่น แนบติดบานหน้าต่าง และหากไม่มีกระจกกั้น ตัวอบเชยคงทะลุออกมาด้านนอกแล้ว สายตาสองคู่สบกันกลางอากาศ ชายหนุ่มหัวเราะดังพรืด มือที่เกาะเกี่ยวเอวกางเกงตกลง อบเชยสะดุ้ง! รีบหดหน้ากลับ ตลบชายผ้าม่านปิดไว้เหมือนเดิม พร้อมกับบ่นอุบ “คุณดี แกล้งเชย!” หญิงสาวทิ้งตัวลงนอน รีบตลบผ้าห่มขึ้นปิดใบหน้า อยากจะกรีดร้องดังๆ ที่ตนเองไม่เคยทันเล่ห์เหลี่ยมของคนเจ้าเล่ห์ เขาจงใจยั่วเธอ แต่ว่า...ดีแลนมองเห็นเธอหรือเปล่านะ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอแอบมอง “ยัยเชย ยัยบ้า ทีนี้จะมองหน้าคุณดียังไงล่ะ?!!” หญิงสาวบ่นเสียงออดแอด...ใบหน้าร้อนวาบๆ ดีแลนทิ้งตัวลงนั่ง เขาหัวเราะจนท้องแข็ง ปรารถนากับเดวิดเลยชะโงกหน้าออกมามอง “ดีแลนเป็นอะไรไปลูก?” ทายาทเพียงคนเดียวของหวังหันไปยิ้มให้ เขายืดตัวลุกขึ้นยืน ปั้นหน้าขรึมเหมือนเดิม “เปล่าครับ แค่ขำอะไรบางอย่างเฉยๆ” สองผู้เฒ่าหันมองหน้ากัน ไม่เข้าใจบุตรชายสักนิด แต่คงง้างปากบุตรชายไม่ได้ง่ายๆ “รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า” เดวิดบอกบุตรชาย พรุ่งนี้เป็นภารกิ
ดีแลนเป็นหนุ่มฮอต ตอนที่เธอยังเด็ก เธอคงเป็นเด็กแก่แดด เลยรู้สึกว่าตนเองรักเขาตั้งแต่ยังไม่ทันเป็นสาวดี จวบจนปัจจุบัน ความรู้สึกพิเศษนั่นก็ไม่เคยลดลง อบเชยน้ำตาตกเพราะดีแลนนับครั้งไม่ถ้วน เขาไม่เคยมองเห็นหัวเธอ ทำท่ารำคาญแทบทุกครั้งหากมีอบเชยอยู่ใกล้ๆ ความรู้สึกนั้น เกือบทำให้อบเชยถอดใจ แต่เมื่อได้สบตากับดีแลนยามที่เขาเผลอ ความรู้สึกบ้าๆ นั่นก็ย้อนกลับมาเหมือนเดิม... “เชยคงมีเวรมีกรรมกับคุณดีมั้งเนอะ” หลังเก็บล้างอุปกรณ์ทำขนมจนหมด อบเชยเดินกลับไปที่ห้องนอน เธอควรอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อม จะได้ไม่เป็นการเสียเวลา พอเอาขนมไปวางในห้องนอนดีแลน เธอก็จะได้ขึ้นรถไปกับคนบ้านหวัง เด็กที่บ้านเด็กกำพร้าคงดีใจ ที่พี่เชยคนดีจะไปเล่านิทานให้ฟัง มันคงเป็นวันหยุดที่สนุกสำหรับเธอ เป็นการชาร์ทพลังในร่างกายได้เต็มที่ ด้วยการแบ่งปันสิ่งที่ตนเองมีกับผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า คุณท่านทั้งสองสอนให้อบเชยรู้จักเผื่อแผ่ เดวิด กับปรารถนาทำดีแบบนี้จนอบเชยซึมซับมาเต็มตัว อบเชยไม่เข้าใจเหมือนกัน ผู้ใหญ่ใจดีสองท่านมีแต่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม เหตุใดก็ไม่รู้ บุตรชายของท่านที่มีแค่คน
บทที่6.เรื่องบนเตียงเสียงหวานแว่วที่ได้ยิน เหมือนกับเสียงสาวปริศนาที่ดีแลนกกกอดไว้ในค่ำคืนนั้น คนที่หลับสนิทตั้งใจฟัง เขาขยับเข้าไปใกล้ๆ และกระโจนคว้าหล่อนเอาไว้ได้ ก่อนที่สาวเจ้าจะหนีไปหลบหลังม่านหมอกอีกครั้ง “ยัยเชย!” มือแข็งแรงรวบจับข้อแขนของอบเชยไว้ เขากระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง เลยพลอยทำให้อบเชยเซถลา ขึ้นมานั่งบนขอบเตียง หญิงสาวขืนตัวไว้ พยายามถอยหลังหนี สีหน้าที่ดีแลนมองเห็นคือใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลา แต่เผือดซีดไม่มีสีเลือด “เชยขอโทษค่ะ คุณท่านวานให้เชยปลุกคุณดีด้วยค่ะ” อบเชยละล่ำละลักชี้แจง...เธอไม่ได้ยุ่มย่ามเข้ามาในห้องนอนเขาโดยภาระการ เธอเอาขนมมาส่งและได้รับคำสั่งกึ่งขอร้องจากเจ้าของบ้านมาด้วย “เธออยู่ที่นี่คนเดียวรึ?” คำถามที่อบเชยไม่เข้าใจ ดังผ่านปากของดีแลนมา สีหน้าของเขาก็เช่นกัน เหมือนดีแลนกำลังสับสนกับอะไรบางอย่าง “ค่ะ” อบเชยจำใจตอบ เธอหลุบเปลือกตาลงมองมือของดีแลน ที่ยังกำรอบข้อมือตัวเอง “ไม่มีคนอื่นอีกแน่นะ” ดีแลนถามย้ำ “ค่ะ” เสียงตอบแผ่วเบากว่าครั้งแรก “เป็นไปได้ไง?” ดีแลนรำพึงกับตัวเอ
หญิงสาวลดสายตาต่ำลงไป เปลือกตากะพริบปริบๆ ตรงช่วงคอมีรอยช้ำแดงๆ เหมือนรอยมดกัด เป็นรอยช้ำขนาดเท่าหัวแม่มือ และมีหลายรอยด้วยกัน เพราะยิ่งร่นเสื้อยืดตัวในต่ำลงไป รอยนั่นกระจายทั่วเนินอก อบเชยตกใจ เธอเกือบหวีดร้อง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง...ที่ปลายยอดอกเธอก็โดนมดบ้าลามกนั่น กัดเช่นกัน...รอยแดงๆ ลามไปทั่วตัว เธอรีบปลดกระดุมเอี๊ยม สำรวจตัวเองซ้ำ มดเจ้าปัญหาต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่ บนร่างกายเธอนี่แหละ แต่เมื่อพยายามหาเท่าไหร่ อบเชยกลับไม่พบมดตัวนั้น บางทีมดบ้าลามกนั่น อาจจะหล่นอยู่บนที่นอนของดีแลนแล้วก็ได้เวลามีไม่มากนัก อบเชยมัวโอ้เอ้หามดเจ้าปัญหา เมื่อหาไม่เจอก็จำต้องตัดใจเธอเปิดก๊อก วักน้ำล้างคราบน้ำลายที่มุมปาก ยกมือเสยผมให้เข้าทรงมากกว่าเก่า สภาพของอบเชยเลยดูดีขึ้นหญิงสาวเดินลากขาออกมานอกห้องนอน เธอพยายามไม่คิดมาก เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่ดีแลน จะรังแกเธอเขาไม่อยากอยู่ใกล้เธอด้วยซ้ำ เพราะทันทีที่เธอลืมตา เขายังรีบเดินหนีไปดังนั้น...รอยพวกนี้ ต้องเป็นรอยมดกัด...ชัวร์!!ดีแลนยืนอิงข้างรถยนต์ส่วนตัว เขาหลุบเปลือกตาลงเพราะไม่อยากให้ความสุขที่เพิ่งได้รับมากระจายหายไปในอากาศ หลังอาบน้ำเ
“ห้ามบอกใครนะ สัญญาสิ”อบเชยพยักหน้ารับ ผิวแก้มแดงก่ำ“ค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบที่พอใจ เด็กน้อยก็หมดความสนใจ เจ้าตัววิ่งไปรวมกลุ่มกับเพื่อน อบเชยหาที่นั่ง เธอมองตามดีแลน แอบอมยิ้มทุกครั้งที่ดีแลนยิ้มให้คนอื่น เสียดายนิดเดียว รอยยิ้มนั่นไม่ได้ส่งให้เธอโดยตรงพิธีการต่างๆ จบลง ถึงช่วงที่เด็กๆ จะได้สนุกกับของเล่นชิ้นใหม่ที่พวกเขาเพิ่งได้รับมา เด็กหลายคนจับกลุ่มเพื่อเล่นของเล่นด้วยกัน อบเชยเดินเลี่ยงเข้าไปด้านหลัง เธอมัวแต่ยุ่งๆ จนลืมกินอาหารเช้า นี่เวลาเดินเลยมาจนบ่ายคล้อย อบเชยหิวติดหมัด เธอเลยคิดจะหาอาหารง่ายๆ ใส่ท้อง และในครัวน่าจะพอมีข้าวก้นหม้อเหลือเธอคุ้นเคยกับบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้ เพราะมาเป็นประจำ อบเชยตักข้าวใส่จาน ราดด้วยน้ำแกงที่เหลือติดก้นหม้อแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเธอ อาหารกินประทังความหิว แถมไม่แย่นัก น้ำแกงข้นๆ อร่อยอย่าบอกใคร เธอเดินหามุมสงบเพื่อนั่งรับประทานอาหารเงียบๆ โคนต้นไม้คงเหมาะ มีพื้นหญ้าเป็นพรมปูให้นั่ง อบเชยทรุดตัวลงนั่ง วางขวดน้ำเปล่าไว้ข้างตัว ลงมือตักข้าวในจานกินอย่างเอร็ดอร่อย ที่ลานกว้าง เด็กหลายคนวิ่งเล่นไล่จับ ดีแลนกวาดตามองหายัยตัวยุ่ง เขา
บทนำ ดีแลนถอนหายใจแรงๆ รีบเดินเข้าไปในคลับชั้นสูง สถานที่นัดหมายเพื่อเจรจาธุรกิจ และคู่ค้าของเขา เลือกสถานที่แห่งนี้สำหรับการเจรจา รอยยิ้มเย็นชาประทับอยู่บนมุมปากได้รูป ตลอดทางที่เดินเข้าไปด้านในบรรยากาศเหมือนเดิม คลับไหนๆ ก็เหมือนกันหมด เป็นแหล่งที่คนรุ่นใหม่ใช้เป็นที่ปลดปล่อย หาความสนุกใส่ตัวเอง แตกต่างที่เฟอร์นิเจอร์และการตบแต่ง ที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก ทุกๆ คลับจะต้องมีผู้หญิงสาว สวยไว้คอยให้บริการ สำหรับสกายล์ฮอลล์ แห่งนี้ ตัวเจ้าของคือณรงค์ ดีแลนรู้จักเป็นอย่างดี เมื่อสองหนุ่มเรียนมาด้วยกัน ตั้งแต่ประถม จนถึงระดับวิทยาลัย’ มีผู้หญิงสาวสวยหลายคนพยายามส่งสายตาให้ จนดีแลนเริ่มรำคาญ “Hi!” มีใครบางคนโบกมือเรียก ชายผู้นั้นลุกขึ้นยืนและส่งเสียงทัก ดีแลนเพ่งมอง เขาส่งยิ้มให้ เมื่อคนคนนั้นคือคู่ค้าคนสำคัญของเขานั่นเอง อดัม เทียร่า นักธุรกิจลุกครึ่งจีน-โปรตุเกต ชายผู้นี้กำลังสนใจ และอยากร่วมทุนในโครงการใหม่เอี่ยมของ หวังเทียนกรุป เกี่ยวกับโครงการพัฒนาพลังงานทางเลือกใหม่ ชายหนุ่มโบกมือรับ เขามองฝ่าความมืด เพื่อหาทางเดินไปยังโต๊ะ VIP