ชายหนุ่มนอนแผ่กลางที่นอนนุ่ม เขาหลับสนิทหลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้ายามหลับอ่อนเยาว์เหมือนหนุ่มโสดรุ่นเดียวกัน แต่ยามใดก็ตามที่ดีแลนตื่น เขาจะเคร่งขรึม และเป็นที่เกรงขามของคนรอบตัว
“วันนี้ทำไมตื่นสายจัง...แล้วไม่ไปทำงานเรอะ?”
เทียนถามบุตรสาว ที่กำลังก้มหน้าก้มตากินมื้อเย็น โดยที่ยังแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เทียนไม่ได้ถามบุตรสาว หลังจากช่วงเช้าอบเชยไม่ได้ตื่นมาช่วยเหมือนทุกวัน
“เชยไม่ไปทำงานที่นั่นแล้วค่ะแม่” อบเชยตอบ รีบพุ้ยข้าวใส่ปาก ดันตัวลุกขึ้นยืน เมื่อข้าวหมดจาน
“ทำไมล่ะ...” เทียนซักต่อ อบเชยไม่ใช่คนท้อถอย ต้องมีอะไรทำให้อบเชยไม่ไปทำงาน ทั้งที่เพิ่งไปทำได้แค่วันเดียว
“มันเลิกดึกค่ะแม่...” คำตอบของอบเชยเทียนเลยคลายความสงสัย
อีกอย่างนางก็ไม่อยากให้บุตรสาวไปทำงานกลางค่ำกลางคืน เมื่อมีแต่อันตรายอยู่รอบตัว
“ดีแล้วล่ะ หางานกลางวันทำดีกว่า แม่จะได้ไม่ต้องนอนผวาเพราะห่วงหนูจนนอนหลับไม่สนิท” เทียนบ่น นางเช็ดใบตองระหว่างที่คุยกับอบเชย
“เดี๋ยวเชยออกไปข้างนอกนะแม่ เชยจะออกไปหางานใกล้ๆ บ้านทำ”
อบเชยเป็นคนขยัน เธอไม่เคยอยู่นิ่งๆ มีแรงเท่าไหร่ก็ทุ่มให้กับงาน และการเรียนก็ไม่เสียด้วย
“อืม...อย่ากลับดึกล่ะ” เทียนเอ่ยปากอนุญาต หมดความสนใจบุตรสาว เมื่องานในมือของนางก็ยุ่งจนทำไม่ทัน ต้องเตรียมของไว้ทำขนมขายตอนเช้า สองคนแม่-ลูก ที่หาเงินตัวเป็นเกลียว
หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ เธอเร่งล้างจาน และรีบออกจากบ้าน ก่อนที่จะแสดงพิรุธจนมารดาจับได้
สองเท้าเดินริมถนนไปเรื่อยๆ ความคิดล่องลอย อบเชยไม่รู้ว่าเธอจะทำตัวแบบไหนต่อไปดี เรื่องที่เกิดขึ้นมันร้ายแรงเสียจนเธอตั้งรับไม่ทัน เป็นความผิดพลาดที่อบเชยไม่ได้ตั้งใจ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งเดียวที่อบเชยมั่นใจ เธอไม่มีวันปริปากบอกคนอื่นแน่ๆ แม้แต่มารดา อบเชยก็ไม่คิดจะบอก
“เห้ย!” ความคิดบางอย่างแว๊บเข้ามาในหัว
คนสองคนต่างเพศ มีความเป็นไปได้สูงว่าหลังจากมีความสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น มักจะเกิดตามมา บทเรียนในวิชาสุขศึกษา อาจารย์ผู้สอนพูดย้ำแล้วย้ำอีก อบเชยยืนตัวแข็งทื่อ
เธอยกนิ้วขึ้นมานับ...มันเพิ่งผ่านมา ไม่ถึงสิบชั่วโมง
ดังนั้นเธอยังมีเวลาสำหรับการป้องกันตัว เพื่อสกัดปัญหาใหญ่ที่จะตามมา
หน้าปากซอยมีร้านขายยา และที่นั่นน่าจะมียาบางอย่างที่ช่วยไม่ให้อบเชยต้องผจญกับเรื่องร้ายแรง สองเท้าก้าวเร็วขึ้น เธอใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็พาตัวเองมาถึงจุดหมาย อบเชยเงยหน้ามองป้ายหน้าร้าน สูดลมหายใจลึกๆ ตอนที่เอื้อมมือดันประตูกระจกเปิดเข้าไปภายใน และมองหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ
แม้จะอายจนหน้าชากับการมองลอดแว่นของเภสัชกรประจำร้านขายยาแห่งนั้น อบเชยก็จำเป็นต้องตีสีหน้าให้นิ่งไว้ ตอนที่เธอล้วงเศษสตางค์ในกระเป๋ายื่นให้ มือของเธอสั่นระริกทีเดียว
“รู้วิธีใช้ไหม...ดูข้างกล่องนะ อ่านให้เข้าใจ ทำตามล่ะ อย่าให้พลาด”
แม้น้ำเสียงจะแข็งๆ ฟังเหมือนกำลังถูกดุ อบเชยตั้งใจฟัง เธอยิ้มแหยๆ ให้ แล้วจึงรีบเดินออกมา
สวนสาธารณะที่เดิม อบเชยเลือกนั่งที่ชิงช้า เธอกวาดตามองไปรอบๆ ตัว มีผู้คนเดินไปมา แต่ยังไม่พลุกพล่านนัก กล่องขนาดเล็ก มีแผงยาอยู่ด้านใน มียาอยู่สองเม็ดด้วยกัน อบเชยอ่านวิธีใช้ เธอบิยาเม็ดแรกโยนใส่ปาก ตามด้วยการยกขวดน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะรีบยัดแผงยาที่เหลือเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง ส่วนกล่องที่บรรจุ อบเชยเดินไปหย่อนทิ้งในถังขยะ เธอจำวิธีใช้ ‘ยาคุมฉุกเฉิน’ นี่ขึ้นใจแล้วนี่เอง
การที่อบเชยทิ้งกล่อง เพราะต้องการป้องกันความผิดพลาด
หากมารดาเห็นเข้า ท่านต้องตกใจแน่ๆ อบเชยเลยต้องรีบกำจัด แต่ยังเก็บยาที่เหลือไว้ เพราะหลังจากนี้ไม่เกินสิบสองชั่วโมง เธอต้องกินยาอีกเม็ดที่เหลือ อบเชยนั่งทอดอาลัย และกลับบ้านหลังพระอาทิตย์ตก เธอถึงกับตั้งเวลากันพลาด ยาเม็ดที่เหลืออบเชยต้องกินให้ตรงเวลาเป๊ะๆ
ดีแลนทิ้งตัวนั่งบนโซฟาบุนวม เขากวาดตามองหาบริกรหนุ่มคนนั้น และฉุนที่รออยู่ก็รีบปรี่เข้ามาหาทันที
“มาเสียดึกเลยนะครับท่าน”
“หล่อนล่ะ?” ดีแลนไม่อยากเสียเวลา เขาถามหาแม่สาวคนนั้นทันที
ฉุนทำหน้าปั้นยาก อบเชยไม่มาทำงานวันนี้ และเท่าที่รู้มา หล่อนไม่มาทำงานอีกต่อไปแล้ว
“เธอลาพักครับ” ฉุนพูดปด หากบอกความจริงไป เขาคงชวดหลายอย่าง
“งั้นรึ?” ดีแลนรำพึง เขายกแก้วบรั่นดีขึ้นจิบ ถอนใจแรงๆ
“ท่านอยากได้คนอื่นแทนไหมครับ” ฉุนพยายามเชียร์สาวๆ คนอื่นให้ เมื่อแต่ละนางที่ขึ้นไปโยกย้ายส่ายเอวอยู่บนเวที สวยๆ อวบอัดไม่ต่างอะไรกับอบเชย ตามความเห็นของเขา อบเชยจริตก็ไม่ค่อยมี หน้าตาก็ธรรมดา สู้สาวเจนโลกที่ส่งสายตายั่วยวนพวกนั้นก็ไม่ได้
“ไม่ล่ะ...ถ้าหล่อนมาทำงาน ติดต่อหาฉันตามเบอร์นี้นะ” ดีแลนกล่าวตัดบท เขาลุกขึ้นยืน หลังวางธนบัตรไว้ชำระค่าบรั่นดีที่เขาดื่มไป
ฉุนก้มมองนามบัตรที่รับมา เขาห่อปาก ครางเสียงหลง
หน้าที่การงานของผู้ชายคนนั้นใหญ่โตเหลือเกิน ท่าทางจะเป็นคนรวย แต่ทำไม? ติดใจสาวบริการคนนั้นได้ล่ะ
ดีแลนเดินออกมาด้านนอก เขาไม่ชอบบรรยากาศอึมครึมเท่าไหร่ ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ และสถานที่ทึบๆ ชายหนุ่มสูดลมหายใจแรงๆ เมื่อออกมาด้านนอก เขาหายใจคล่องขึ้น แต่ก็ยังแอบกังวลไม่ได้ จนแล้วจนรอด เขาก็ยังไม่รู้อยู่ดี แม่สาวคนนั้นเป็นใคร คนที่เขานอนกกอยู่ทั้งคืน
รถยนต์หรูหรานำเข้า แล่นไปบนถนนเอื่อยๆ เมื่อคนขับกำลังใช้ความคิด โชคดีที่เป็นเวลาค่อนข้างดึก ยวดยานบนท้องถนนจึงมีไม่มากนัก...มันเลยทำให้ไม่มีเสียงแตรบีบไล่ เพราะดีแลนใช้ความเร็วต่ำกว่ามาตรฐาน เขาขับรถเรียบฟุตบาท สายตามองไปข้างหน้าก็จริงแต่ลอยเคว้งค้วาง
ในขณะที่หนุ่มโสดคนอื่นสิงตัวอยู่ตามคลับ มีสาวน้อยนุ่งน้อยห่มน้อย คลอเคลียอยู่ใกล้ๆ ตัว ดีแลนกลับเลือกที่จะอยู่คนเดียวและดื่มด่ำกับธรรมชาติมากกว่า การนั่งเคลียคลอกับสาวๆ เหล่านั้น
กว่าจะรู้ตัวว่าตนเองใจลอย ดีแลนก็เผลอตัวขับรถไปยังสถานที่คุ้นเคย เขาแหงนหน้ามองรั้วเหล็กสูงตะหง่านตรงหน้า พร้อมกับการถอนใจแรงๆ
รถยนต์ของเขาจอดสนิทหน้ารั้วบ้านตระกูลหวัง
ชายหนุ่มไม่ได้คิดจะกลับบ้าน แต่สมองกับความคุ้นเคยชักนำมา ดีแลนลดกระจก ส่งยิ้มให้คนดูแลประตูหน้า ชายผู้นั้นรีบกุลีกุจอเปิดประตูรั้วให้ เมื่อมองเห็นเจ้าของรถยนต์หรูถนัดตาถนนคอนกรีตทอดยาวตั้งแต่รั้วเหล็ก จนถึงโถงประตูบ้าน ทางเดินสีขาวสะอาดเพราะโรยไว้ด้วยก้อนกรวดสีขาว ขนาบกับถนนคอนกรีตที่กว้างพอให้รถยนต์สองคันวิ่งสวนกันได้ ตัวน้ำพุขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าโถงประตู กามเทพตัวน้อยยืนแอ่นฉี่ ปล่อยสายน้ำเย็นใสใสลงมาในอ่างใบใหญ่ที่มีปลาคราฟแหวกว่ายอยู่นับสิบตัว ดีแลนก้าวลงมายืนด้านข้าง เขามองไปรอบๆ ตัวด้วยความคิดถึง ดีแลนไม่ได้มาเหยียบบ้านใหญ่หลังนี้นานแล้ว เพราะเขามัวยุ่งๆ กับการทำงาน ประกอบกับ...ต้องการที่จะหลบใครบางคนมีคนรับใช้โผล่หน้าออกมามอง แม้จะเป็นยามวิกาลที่สมาชิกส่วนใหญ่หลับใหลไปบ้างแล้ว“คุณหนู” เสียงร้องทักผสมความตื่นเต้นยินดีเนื่องจากเจ้านายน้อยของบ้าน แทบจะไม่โผล่มาให้เห็นเลย“คุณพ่อ คุณแม่หลับหรือยัง?” ดีแลนถามถึงบิดา มารดา“คุณท่านใหญ่ยังไม่นอนค่ะ อยู่ที่โถงบ้าน ส่วนคุณผู้หญิงคงกำลังเตรียมมื้อเช้าอยู่ในครัว”ถึงจะมีแม่บ้าน แต่สิ่งที่ปรารถนาทำเป็นประจำ คือการตื่นเช้ามาทำอาหารให้สาม
บทที่4.แม่บ้านคนใหม่ดีแลนไม่ได้รู้สึกไปเอง บ้านของเขาสะอาดเอี่ยม มีกับข้าวของโปรดของเขาวางอยู่ที่โต๊ะกินข้าวทุกวัน เท่าที่รู้มา มารดาหาแม่บ้านคนใหม่มาให้ แต่เกือบหนึ่งเดือนมานี่ เขาไม่เคยเห็นหน้าเจ้าหล่อน ช่วงเวลางานของหล่อนคงสวนทางกับเขา ในขณะที่เขากลับเข้าบ้าน ก็เป็นเวลาเลิกงานของหล่อนพอดี แต่ดีแลนก็ชอบใจ เขาไม่ใคร่ชอบให้คนนอกมายุ่มย่ามในพื้นที่ส่วนตัว มือข้างหนึ่งปลดเนคไทที่คอ มืออีกข้างเอื้อมจับฝาชีที่คลุมจานอาหารไว้ “อุ้ย...น่าอร่อย...” ดีแลนคราง...วันนี้เขาเหนื่อยหนัก เหนื่อยแบบอยากนอนแช่น้ำอุ่นสักหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายคลายความเมื่อย แต่เมื่อกลับถึงบ้าน กว่าหนึ่งเดือนมานี่ สิ่งแรกที่ดีแลนทำ คือเดินตามกลิ่นอาหาร และอดไม่ได้ที่จะแวะชิม รสมือแม่บ้านคนใหม่ที่มารดาจัดหามาให้นั้น มีรสมือถูกปาก ทำกับข้าวอร่อยเสียจนดีแลนน้ำหนักขึ้น เขาเจริญอาหารมากขึ้น จนเอวกางเกงคับทุกตัว “ขออาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมาจัดการ” มันน่าจะเป็นปลาช่อนผัดขึ้นช่าย ทั้งหน้าตาผ่าน กลิ่นผ่าน และรสชาติของมันคงถูกปากเหมือนเดิม ดีแลนสัมผัสได้ถึงไอความร้อน แม่บ้านคนใหม่คงเพิ่ง
ในที่สุดเครื่องปรุงก็สามารถควานหาได้จนครบ บัตรเครดิตที่ปรารถนามอบให้ไว้ สำหรับการจับจ่ายซื้อของกินให้ดีแลน อบเชยใช้จ่ายค่าวัตถุดิบทั้งหมด เธอกระโจนขึ้นรถประจำทางทัน ก่อนที่รถคันนั้นจะแล่นออกจากที่จอดพอดี หญิงสาวเลือกนั่งเบาะหลังสุด เธอวางถุงทั้งหมดไว้บนหน้าตัก หันหน้าให้ลมจากด้านนอกพัดใส่หน้า เพื่อช่วยระบายความร้อน อบเชยเผลออมยิ้ม เมื่อเดาสีหน้าดีแลน ตอนที่เขาเห็นอาหารทุกมื้อที่เธอทำ อบเชยอยากเห็นด้วยตาตัวเอง แต่ไม่ดีกว่า...การเผชิญหน้ากับดีแลน เธอควรเลี่ยง หากยังอยากอยู่สบายๆ แบบนี้ ถุงหลายใบที่หิ้วมาจนไหล่ล้า อบเชยวางถุงไว้บนโต๊ะ เธอเปิดหน้าต่างครัว และจัดการทำสตูว์ เธอเสียเวลาไปไม่น้อยเลยสำหรับการปรุงอาหารมื้อนี้ สตูว์เริ่มส่งกลิ่นฟุ้ง เมื่ออบเชยยกหม้อใบใหญ่ตั้งไว้บนเตา...เธอเหลือเวลาไม่มากสำหรับทำความสะอาดบ้าน หญิงสาวปลดผ้ากันเปื้อนวางพาดไว้ที่พนักเก้าอี้ เปิดประตูห้องเก็บของ ลากเครื่องดูดฝุ่นเครื่องใหญ่ออกมา เธอต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะไม่อย่างนั้น เธอจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเจ้าของบ้านไม่ได้ เขาตรงเวลาจนอบเชยไม่อยากเชื่อ หนุ่มโสดที่หล่
“คุณกลับไปเถอะปารตี” ดีแลนหมดอารมณ์ดื้อๆ เขาหยิบเช็คที่เขียนไว้ ยื่นส่งให้ปารตี เป็นค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อ หากค่ำคืนนี้เขาใช้เวลากับหล่อน แต่นั้นคือก่อนที่เขาจะกลับถึงบ้าน อารมณ์ที่พลุ่งพล่านจู่ๆ ก็เหือดหายไปดื้อๆ “อะไรกันคะ ตียังไม่ได้ทานมื้อเย็นที่บ้านคุณเลย” สาวโสภาไม่ได้พิศวาสอาหารมื้อเย็นที่แอบเห็นบนเตานั่นหรอก ที่เธอต้องการคือเจ้าของบ้านสุดหล่อตรงหน้านี่ต่างหาก แต่เมื่อเขาออกปากเสือกไส เธอก็ต้องหาทางยื้อไว้ก่อน บางทีดีแลนอาจจะเปลี่ยนใจ “ผมเหนื่อย!” ดีแลนวางเช็คไว้บนโต๊ะ เขาเดินเลี่ยงปารตี “คงไม่น่าเกลียดนะ หากผมจะขอให้คุณกลับเองด้วย” เสียงทุ้มๆ ดังมาจากด้านใน ตัดความหวังของปารตีดังฉับ สาวสวยสะบัดหน้าให้ประตูคอแทบเคล็ด เธอหยิบกระดาษชิ้นน้อยๆ ขึ้นมามอง ก่อนจะพอยิ้มออก ค่าเสียเวลาของเธอมากโขเชียวล่ะ “ตีกลับก่อนนะคะ หากคุณเหงา คุณโทร. หาตีได้ตลอดนะคะดีแลน” เธอส่งเสียงบอกเจ้าของบ้าน เดินเชิดหน้าออกไปด้านนอก มองหารถรับจ้างที่จะอาศัยนั่งกลับที่พำนัก พออาบน้ำจนใจหายหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง...ดีแลนก็เริ่มหิว เขาเดินออกจากห้อง
“แม่ไปตลาดค่ะ คุณท่านมีอะไรจะใช้ให้แม่ทำเหรอคะ?” อบเชยถามกลับ “ฉันจะมาจองขนมหน่ะ พรุ่งนี้จะไปบ้านเด็กกำพร้า...เอาทุกอย่างเลยนะ เด็กๆ ชอบ” ปรารถนามาอุดหนุนขนมที่ร้านมารดาอบเชยเป็นประจำ เทียนจะไม่รับเงิน ท่านก็ไม่ยอม “ขอเชยไปด้วยได้ไหมคะ” อบเชยยิ้มแป้น เธอจำได้สมัยเด็กๆ ชอบตามปรารถนาไปบ้านเด็กกำพร้าที่ครอบครัวหวังอุปถัมภ์ไว้ “พรุ่งนี้ไม่มีเรียนสินะ ได้สิ...อ้อ...เป็นไง งานหนักไหม ลูกชายฉันบ่นอะไรหรือเปล่า?” สาวใหญ่ถามถึงบุตรชาย เขาเป็นคนเคร่งครัด ระเบียบจัด นางเกรงว่าจะทำให้อบเชยแบกภาระมากเกินไป “งานสบายๆ ค่ะ ไม่หนักเลย เชยยังไม่เจอคุณดีเลยค่ะ เธอเลยยังไม่บ่น” หญิงสาวตอบเสียงอ่อยๆ เธอเลี่ยงการเผชิญกับหน้าดีแลน เขาเลยยังไม่ไล่ตะเพิดให้เธอลาออกจากตำแหน่งงานที่อบเชยทำอยู่นั่นเอง “คงถูกใจอยู่หรอก ขานั้นถ้าไม่พอใจคงโวยมาแล้วล่ะ” ปรารถนายิ้มรับ มองสำรวจอบเชย เด็กสาวตรงหน้า เป็นสาวมากขึ้นกว่าทุกปี ท่าทางก็เรียบร้อย คนเป็นแม่อย่างเทียนคงภูมิใจ “อบเชยเรียนปีไหนแล้วล่ะ” นางชวนคุยตามประสาคนรู้จัก
บทที่5.อรุณสวัสดิความรัก“ทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก” เทียนวางถุงในมือลงบนโต๊ะ เอ่ยถามบุตรสาวที่ยังนั่งอยู่กลางบ้าน อบเชยหยุดความคิดวกวนของตนเอง ตอบมารดาเสียงใส “รอแม่ค่ะ” เทียนรื้อของในถุงออกมากองด้านนอก “รอแม่ทำไม มีอะไรหรือเปล่า?” “คุณดีอยากทานขนมต้ม” อบเชยตอบมารดา เธอไม่ได้บอกรายละเอียด “คุณหนูมารึ? ได้ๆ เดี๋ยวแม่ทำให้” เทียนรับคำ “คุณท่านสั่งขนมด้วยคะแม่ พรุ่งนี้คุณท่านจะไปบ้านเด็กกำพร้า” อบเชยกล่าวต่อ เธอผุดลุกขึ้นยืน เมื่อส่งสารที่รับฝากมาทั้งหมดให้มารดาเรียบร้อย “ตายล่ะ พรุ่งนี้คงไม่ได้เปิดร้านขายขนมแน่ๆ แม่ซื้อของมาแค่พอใช้” เทียนบ่น ของที่เตรียมไว้มีแค่พอดี เทียนไม่ชอบซื้อมาเผื่อเพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่ต้องใช้ของสด หากเหลือไว้ มันจะทำให้รสขนมไม่ดีเท่าที่ควร “เชยจะตื่นมาช่วยแม่ทำ พรุ่งนี้แม่ก็พักเถอะค่ะ นานๆ จะได้หยุดอยู่บ้านบ้าง” “ไม่มีเรียนหรือไงล่ะ” “วันหยุดค่ะ เชยจะไปกับคุณท่านด้วย เชยขอคุณท่านแล้ว” เทียนเตรียมจะท้วง แต่อบเชยรู้ทัน รีบพูดดักคอมารดาไว้เสียก่อน “คุณหนูไม่ไปด้วยเหรอ?”
ใบหน้ากลมแป้นนั่น แนบติดบานหน้าต่าง และหากไม่มีกระจกกั้น ตัวอบเชยคงทะลุออกมาด้านนอกแล้ว สายตาสองคู่สบกันกลางอากาศ ชายหนุ่มหัวเราะดังพรืด มือที่เกาะเกี่ยวเอวกางเกงตกลง อบเชยสะดุ้ง! รีบหดหน้ากลับ ตลบชายผ้าม่านปิดไว้เหมือนเดิม พร้อมกับบ่นอุบ “คุณดี แกล้งเชย!” หญิงสาวทิ้งตัวลงนอน รีบตลบผ้าห่มขึ้นปิดใบหน้า อยากจะกรีดร้องดังๆ ที่ตนเองไม่เคยทันเล่ห์เหลี่ยมของคนเจ้าเล่ห์ เขาจงใจยั่วเธอ แต่ว่า...ดีแลนมองเห็นเธอหรือเปล่านะ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอแอบมอง “ยัยเชย ยัยบ้า ทีนี้จะมองหน้าคุณดียังไงล่ะ?!!” หญิงสาวบ่นเสียงออดแอด...ใบหน้าร้อนวาบๆ ดีแลนทิ้งตัวลงนั่ง เขาหัวเราะจนท้องแข็ง ปรารถนากับเดวิดเลยชะโงกหน้าออกมามอง “ดีแลนเป็นอะไรไปลูก?” ทายาทเพียงคนเดียวของหวังหันไปยิ้มให้ เขายืดตัวลุกขึ้นยืน ปั้นหน้าขรึมเหมือนเดิม “เปล่าครับ แค่ขำอะไรบางอย่างเฉยๆ” สองผู้เฒ่าหันมองหน้ากัน ไม่เข้าใจบุตรชายสักนิด แต่คงง้างปากบุตรชายไม่ได้ง่ายๆ “รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า” เดวิดบอกบุตรชาย พรุ่งนี้เป็นภารกิ
ดีแลนเป็นหนุ่มฮอต ตอนที่เธอยังเด็ก เธอคงเป็นเด็กแก่แดด เลยรู้สึกว่าตนเองรักเขาตั้งแต่ยังไม่ทันเป็นสาวดี จวบจนปัจจุบัน ความรู้สึกพิเศษนั่นก็ไม่เคยลดลง อบเชยน้ำตาตกเพราะดีแลนนับครั้งไม่ถ้วน เขาไม่เคยมองเห็นหัวเธอ ทำท่ารำคาญแทบทุกครั้งหากมีอบเชยอยู่ใกล้ๆ ความรู้สึกนั้น เกือบทำให้อบเชยถอดใจ แต่เมื่อได้สบตากับดีแลนยามที่เขาเผลอ ความรู้สึกบ้าๆ นั่นก็ย้อนกลับมาเหมือนเดิม... “เชยคงมีเวรมีกรรมกับคุณดีมั้งเนอะ” หลังเก็บล้างอุปกรณ์ทำขนมจนหมด อบเชยเดินกลับไปที่ห้องนอน เธอควรอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อม จะได้ไม่เป็นการเสียเวลา พอเอาขนมไปวางในห้องนอนดีแลน เธอก็จะได้ขึ้นรถไปกับคนบ้านหวัง เด็กที่บ้านเด็กกำพร้าคงดีใจ ที่พี่เชยคนดีจะไปเล่านิทานให้ฟัง มันคงเป็นวันหยุดที่สนุกสำหรับเธอ เป็นการชาร์ทพลังในร่างกายได้เต็มที่ ด้วยการแบ่งปันสิ่งที่ตนเองมีกับผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า คุณท่านทั้งสองสอนให้อบเชยรู้จักเผื่อแผ่ เดวิด กับปรารถนาทำดีแบบนี้จนอบเชยซึมซับมาเต็มตัว อบเชยไม่เข้าใจเหมือนกัน ผู้ใหญ่ใจดีสองท่านมีแต่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม เหตุใดก็ไม่รู้ บุตรชายของท่านที่มีแค่คน