Red-Eye PUB
เสียงจังหวะดนตรีสไตล์ EDM ที่ดังขึ้นไปทั่วทั้งผับชื่อดังทำให้ร่างบางของหม่อนไหมอดไม่ได้ที่จะโยกตัวไปตามจังหวะเพลงเบาๆในขณะที่เพื่อนๆในกลุ่มต่างพากันพูดคุยเล่นกันอย่างสนุกสนานพร้อมกับยกแก้วเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นดื่มจนหมดแก้ว
“ไอ้หม่อนมึงแน่ใจนะว่าวันนี้เฮียรามเขาอยู่เคลียร์งานจนถึงเช้าอะ”
เตยหอมที่นั่งข้างๆหม่อนไหมเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงเพราะถ้าหากว่ารามสูรเกิดกลับมาที่คอนโดก่อนเวลาที่หม่อนไหมเล่าให้เธอฟังบอกได้คำเดียวเลยว่าเพื่อนของเธอซวยแน่
“แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีก เฮียเป็นคนโทรมาบอกกูเองว่าให้เข้านอนได้เลยไม่ต้องรอเพราะวันนี้เฮียติดงานอาจจะไม่ได้กลับ”
หม่อนไหมบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้กำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนๆที่เธอกับเตยหอมกำลังพูดถึงอยู่ รามสูรยกบรั่นดีขึ้นดื่มอย่างใจเย็นแต่ดวงตาสีดำสนิทกลับลุกวาวอย่างน่ากลัวเมื่อเมียตัวน้อยที่เขาสั่งห้ามไม่ให้เธอออกมาเที่ยวผับอีกเป็นอันขาดกำลังขัดคำสั่งของเขาด้วยการนั่งหัวเราะกับเพื่อนด้วยความสนุกสนาน
วันนี้ที่บริษัทของเขาเกิดปัญหาเมื่อรถรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีกำหนดจะเปิดตัวเร็วๆนี้เกิดปัญหาทางด้านขนส่งรวมไปถึงเอกสารที่ผิดพลาดทำให้เขาต้องรีบเข้าบริษัทไปตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองเมื่อ เขาจึงโทรบอกหม่อนไหมว่าเขาอาจจะกลับถึงคอนโดในช่วงเช้าแต่หลังจากที่เขารื้อเอกสารออกมาดูจนครบทั้งหมดภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมงปัญหาทุกอย่างก็ถูกแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
ในขณะที่เขาเตรียมตัวจะกลับคอนโดเพื่อไปอ้อนเมียเดลกับลุกซ์ลูกน้องคนสนิทของเขาก็โทรเข้ามาบอกว่าเมียตัวน้อยที่แสนซนแอบนัดให้เพื่อนมารับไปเที่ยวที่ผับประจำของพวกเธอ วินาทีที่ได้ยินประโยคนี้จากปากของลูกน้องกรามของเขาพลันขบเข้าหากันจนเป็นสันนูนนัยน์ตาสีดำสนิทเหมือนมีประกายไฟลุกโชนก่อนที่รามสูรจะรีบออกมาจากบริษัทและตรงมาที่ผับแห่งนี้ทันที
“แล้วถ้าเฮียรามเกิดกลับมาก่อนเวลาที่บอกมึงล่ะ”
เตยหอมยังไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆเธอยังคงคิดต่อไปว่าถ้าหากรามสูรเสร็จงานก่อนกำหนดและกลับมาที่คอนโดแล้วไม่เจอเพื่อนของเธอล่ะจะเกิดอะไรขึ้น พลันดวงหน้างามที่โดดเด่นไม่แพ้เพื่อนสาวก็ส่ายหน้าไปมาจนผมยาวสลวยกระจายส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณด้วยความรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
เตยหอมจำได้อย่างแม่นยำว่าหม่อนไหมเคยเล่าให้ฟังว่าถ้าหากเธอดื้อกับรามสูรขึ้นมาเมื่อไหร่เขาไม่เคยลงไม้ลงมือกับเธอเลยสักครั้ง แต่เขากลับลากเพื่อนของเธอขึ้นเตียงและลงโทษด้วยการกระแทกด้วยจูบลูบด้วยมือใหญ่และจบลงด้วยท่วงท่าที่แสนเร่าร้อน ซึ่งหม่อนไหมยอมรับกับเตยหอมอย่างตรงไปตรงมาตามนิสัยแมนๆของเธอว่ามันโคตรจะฟินจนแทบไม่อยากจะหลับตาลงเลยล่ะ
คิดมาถึงตรงนี้สาวน้อยที่อายุอานามเพียง 19 ปีและยังไม่เคยมีประสบการณ์รักๆใคร่ๆมาก่อนก็พลันหน้าแดงด้วยความรู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูก
“กลับก็กลับมาสิไม่เห็นจะเป็นไรเลยกูก็แค่หนีมาเที่ยวไม่ได้ดื่มเหล้าหรือออกไปเต้นยั่วเยตัวผู้ที่ไหนสักหน่อย ถ้าเฮียจะลงโทษกูเรื่องที่กูแอบหนีเที่ยวก็คงจะดูไร้เหตุผลเกินไปแล้ว”
“ไอ้หม่อนมึงลืมไปหรือเปล่าว่ามึงกำลังทะ ท้อง”
หมับ
มือบางของหม่อนไหมยกขึ้นปิดปากเพื่อนแทบไม่ทันเมื่อความลับที่เธอพยายามปกปิดเอาไว้กำลังจะหลุดออกมาจากปากของเพื่อนสนิทอย่างเตยหอมที่เผลอหลุดปากพูดออกมาด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ท่าทีของสองสาวเพื่อนสนิททำให้ธีร์ คินน์ นายน์และเจย์ ที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานต่างหันมามองอย่างให้ความสนใจ
“พวกมึงสองคนเป็นเหี้ยไรกัน”
ธีร์เอ่ยถามสองสาวเพื่อนสนิทด้วยความสงสัยก่อนที่หม่อนไหมจะรีบเอามือที่ปิดปากเตยหอมออกทันทีใบหน้าเนียนสวยยามที่ต้องแสงไฟพลันแสร้งยิ้มให้กลุ่มเพื่อนรักราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เปล่าสักหน่อยกูแค่แกล้งไอ้เตยเล่นแค่นั้นเอง”
หม่อนไหมตอบเพื่อนด้วยท่าทีลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติก่อนที่เธอจะหันไปมองเตยหอมที่พูดโดยที่ไม่ออกเสียงแต่หม่อนไหมกลับจับใจความคำพูดได้ว่า
“แกล้งพ่องมึงสิ”
“พ่อกูตายไปนานแล้วจ้ะ”
คำโต้กลับที่ไร้เสียงของหม่อนไหมทำให้เตยหอมได้แต่เบะปากด้วยความหมั่นไส้ก่อนที่สาวสวยจะยกแก้วเหล้าที่อยู่ตรงหน้าขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดแก้ว
“เห้ย เบาได้เบาเว้ยเตยเดี๋ยวก็เมาแอ๋หรอกจำไม่ได้ไงเวลาเมามึงเรื้อนแค่ไหน”
น้ำเสียงหยอกเย้าหลุดออกมาจากริมฝีปากสีไวน์ของชายหนุ่มที่มีใบหน้าคมคายนามว่าคินน์ทำให้เตยหอมได้แต่เบะปากทำหน้าไร้เดียงสาอย่างไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เพื่อนเอ่ยแซว
“ว่าแต่วันนี้มึงทำตัวแปลกๆนะไอ้หม่อนมาเที่ยวผับทั้งทีใครเขานั่งแดกน้ำส้มกัน”
คนที่ดื่มหนักมากกว่าเพื่อนแต่ใบหน้ากลับไม่เปลี่ยนสีแถมยังพูดจาหยอกเย้าเพื่อนได้อย่างไม่สะทกสะท้านอย่างเจย์เอ่ยถามหม่อนไหมพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความขบขัน เมื่อเพื่อนเอาแต่ดื่มน้ำส้มคั้นซึ่งขัดกับบุคลิกที่ห้าวๆแมนๆของหม่อนไหมเป็นอย่างมาก
“เปลี่ยนบรรยากาศไงดื่มเหล้ามากไปก็ไม่ดีเดี๋ยวโรคตับแข็งจะถามหากูก็เลยเปลี่ยนมาดื่มน้ำส้มคั้นบ้างวิตามินซีจะได้เข้าไปแทนที่แอลกอฮอล์ลิซึม”
ในยามที่ตอบกลับเพื่อนสีหน้าของเธอแฝงด้วยความภาคภูมิใจอย่างปิดไม่มิดในขณะที่เจย์รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกที่อยู่ๆสาวห้าวของกลุ่มอย่างหม่อนไหมก็หันมาดื่มน้ำส้มคั้นเพราะว่ารักสุขภาพ
“อืม ก็ถูกของไอ้หม่อนมันนะที่ผ่านมากูนึกว่ามันจะแดกแต่เหล้าแทนข้าวซะอีก”
นายน์พูดขึ้นอย่างเห็นด้วยกับคำแก้ตัวข้างๆคูๆของหม่อนไหมที่คิดหาเหตุผลด้วยความรวดเร็วเพื่อเอาตัวรอดจากความสงสัยของเพื่อนที่พากันจ้องหน้าเธออย่างกำลังจับผิด
“อูย ปวดฉี่ๆพวกมึงเดี๋ยวกูมานะ”
ยังไม่ทันที่จะมีใครได้พูดอะไรต่อหม่อนไหมก็แกล้งปวดฉี่ขึ้นมาก่อนที่มือเรียวบางจะจับแขนของเตยหอมพร้อมกับฉุดกระชากเพื่อนให้ลุกขึ้นจากโซฟาตามเธอออกมาทันที ก่อนที่เธอจะโดนธีร์ซักฟอกจนขาวสะอาดเพื่อจับผิดเธอที่กำลังทำตัวน่าสงสัยเพราะปกติแล้วน้ำส้มคั้นคือเครื่องดื่มที่เธอไม่ชอบเอาซะเลยหลายครั้งเวลาที่ไปกินข้าวด้วยกันเธอมักจะสั่งน้ำแตงโมปั่นไม่ก็น้ำมะพร้าวปั่นมากกว่าที่จะมานั่งดื่มน้ำนางเอกอย่างน้ำส้มคั้น
“แล้วมึงจะลากกูออกมาด้วยทำไมเนี่ย”
เมื่อเดินออกมาไกลพอสมควรเตยหอมก็หันมาถามเพื่อนด้วยความสงสัยเพราะปกติแล้วเวลาที่หม่อนไหมอยากจะเข้าห้องน้ำเธอก็มักจะมาคนเดียวเสมอ แต่วันนี้หม่อนไหมกลับลากเธอมาด้วยจนกระทั่งตอนนี้ทั้งคู่มาหยุดยืนอยู่ตรงบริเวณทางเดินซึ่งไกลจากโต๊ะที่พวกเพื่อนๆนั่งอยู่พอสมควร
“แล้วกูจะทิ้งมึงไว้ให้ไอ้ธีร์มันซักจนมึงเผลอหลุดปากพูดออกไปหรือไง”
คำพูดของหม่อนไหมทำให้เตยหอมได้แต่ส่งยิ้มแหยๆมาให้เพื่อนเพราะในกลุ่มของพวกเธอนั้นธีร์คือคนที่จับสังเกตุเพื่อนในกลุ่มเก่งที่สุดและมักจะต้อนเพื่อนด้วยคำพูดจนทำให้จนมุมและเผลอสารภาพออกมาจนหมดเปลือก แต่ก็แปลกที่มีเพียงหม่อนไหมเท่านั้นที่ไม่เคยตกหลุมพลางของธีร์เลยผิดกับเธอที่แค่อ้าปากลิ้นไก่ก็โผล่ให้ธีร์จับผิดได้อย่างง่ายดาย
“แล้วหนีผัวมาเที่ยวแบบนี้สนุกมากไหม”
“มึงก็ถามแปลกๆนะเตยถ้าไม่สนุกกูคงกลับไปนานแล้ว”
คำพูดของหม่อนไหมทำให้เตยหอมได้แต่กระพริบตาปริบๆด้วยความงุนงงก่อนที่สายตาของเธอจะเหลือบไปเห็นร่างสูงของรามสูรที่ยืนอยู่ข้างหลังหม่อนไหม อยู่ๆเตยหอมก็สัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตอันน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงที่พุ่งเข้ามาสู่ตัวเธอนัยน์ตาดุดันที่มองมาทำให้เตยหอมเสียวสันหลังวาบอย่างบอกไม่ถูก
ในขณะที่หม่อนไหมชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเพื่อนของเธอไม่ได้ขยับปากเลยสักนิดแล้วคำถามนั้นที่เธอโพล่งตอบออกไปเป็นคำถามจากใครกันคิดมาถึงตรงนี้ความรู้สึกหวาดกลัวก็ทำให้แผ่นหลังของเธอมีเหงื่อซึมออกมาบางๆ ก่อนที่หม่อนไหมจะค่อยๆหันหน้าไปมองยังด้านหลังของเธอตามสายตาของเตยหอมที่กำลังจ้องมองผู้มาใหม่ตาไม่กระพริบ
“ฮะ เฮียราม”
เสียงที่เปล่งออกไปราวกับเสียงกระซิบหัวใจดวงน้อยพลันเต้นอย่างหวาดหวั่นเมื่อเธอกำลังเผชิญหน้ากับโทสะอันน่าตกใจของเขานัยน์ตาสีดำสนิทสงบนิ่งเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธกำลังจ้องมองมาที่เธอเขม็ง
“อ้อ ยังดีนะที่จำชื่อผัวได้ด้วยนึกว่าจะลืมไปแล้วซะอีก เพราะขนาดผัวคนนี้ย้ำหนักย้ำหนาว่าห้ามหนีออกมาเที่ยวแต่เมียคนดีของผัวก็ยังจะลืม”
ชายหนุ่มหรี่ตาพูดเบาๆด้วยน้ำเสียงที่หนาวเหน็บยิ่งกว่าสายลมในคืนเดือนแรมท่าทางเย็นเยือกดูแข็งกระด้างดวงตาสีดำสนิทที่มองเธอเป็นประกายวาวโรจน์อย่างน่ากลัว
“คะ คือ คือว่า”
“หนูหม่อนอยากเปลี่ยนสถานที่ก็ไม่บอกจะว่าไปข้างนอกนี่ก็น่าตื่นเต้นดีนะ”
คำพูดของรามสูรทำให้เตยหอมอ้าปากค้างจนกรามแทบค้างในขณะที่หม่อนไหมค่อยๆถอยหลังเพื่อเตรียมจะเผ่นหนีไปจากตรงนี้แต่ช้ากว่ารามสูรที่รู้ทันทุกเสี้ยวความคิดของเธอ มือใหญ่ยื่นออกมากระชากร่างบอบบางหอมกรุ่นของหม่อนไหมเข้ามาแนบชิดก่อนที่เขาจะก้มลงจูบปิดปากที่เตรียมจะร้องกรี๊ดของหม่อนไหมเอาไว้ทันที
ปลายลิ้นเร่าร้อนสอดผ่านริมฝีปากเธอเข้าไปพันเกี่ยวลิ้นเล็กของเธออย่างไม่เกรงใจมือหนาพลันเคล้นคลึงสะโพกเธอเบาๆอุณหภูมิร้อนผ่าวของเขาแทบจะทำให้คนที่หลงใหลไปกับสัมผัสที่คุ้นเคยนั้นแทบหลอมละลาย เตยหอมมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึงพรึงเพริดใบหน้าเนียนสวยของสาวน้อยที่ไร้ซึ่งประสบการณ์ความรักขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายเรียวขาที่เคยวิ่งหนีคู่อริด้วยความรวดเร็วพลันขยับไม่ไปก้าวไม่ออกอย่างไม่รู้สาเหตุ
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ
ริมฝีปากร้อนผ่าวของรามสูรยังคงเชยชิมรสชาติหวานหอมกรุ่นของหม่อนไหมอย่างพึงพอใจเนิ่นนานที่เขายึดครองปากเล็กเอาไว้คล้ายเป็นทั้งการลงโทษและตักตวง ก่อนที่วงแขนแข็งแรงจะช้อนร่างแบบบางขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด อารมณ์ขุ่นมัวก่อนหน้านี้ดีขึ้นมาทันทีไฟโทสะที่สุมมาพักใหญ่พลันสลายหายไปกว่าครึ่งเพียงแค่ได้สัมผัสกลีบปากที่หอมนุ่มละมุนของหม่อนไหม
“เฮียขออนุญาตพาเมียไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
รามสูรเงยหน้าขึ้นมาบอกสาวน้อยที่แก้มยังคงขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อนที่เขาจะอุ้มหม่อนไหมเดินจากไป ลับหลังหนุ่มสาวทั้งคู่แข้งขาของเตยหอมพลันอ่อนแรงทรุดฮวบนั่งลงบนพื้นทางเดินก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นมาจับที่ตำแหน่งของหัวใจที่กำลังเต้นแรงด้วยความรู้สึกทั้งตื่นเต้น ตกใจระคนหวาดกลัวปะปนกันไปหมดจนแยกไม่ออกว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่
ปัง!!เสียงประตูที่ปิดลงทำให้หม่อนไหมเบิกตากว้างโดยพลันก่อนจะตั้งสติได้อย่างรวดเร็วเธอรู้สึกตื่นเต้นจนไหล่เกร็งริมฝีปากสีพีชเม้มแน่นขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่สายตาวาววับของรามสูรตรึงอยู่ที่นัยน์ตาคู่งามที่ตื่นกลัวและใสซื่อของหม่อนไหมส่วนมือทั้งสองก็โอบเอวบางของเธออย่างซุกซน“อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมาลองในห้องน้ำแคบๆแบบนี้ก็ไม่บอกเฮียจะได้พาหนูหม่อนมาที่นี่ด้วยตัวเอง หนูจะได้ไม่ต้องแอบหนีเฮียมาแบบนี้”เสียงทุ้มต่ำที่ดังติดริมหูผสมผสานกับเสียงหอบหายใจของเขาทำให้ใบหน้างดงามของหม่อนไหมแดงจัดหัวใจเต้นระรัวด้วยความเขินอายก่อนที่เธอจะแสร้งพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่“คะ ใครเขาอยากเปลี่ยนบรรยากาศกันเล่าหม่อนก็แค่ออกมานั่งเล่นกับเพื่อนแค่นั้นเอง อีกอย่างหม่อนไม่ได้ดื่มเหล้าสักหน่อยเพราะหม่อนรู้ตัวดีว่าหม่อนไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว”ยามพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอกับเขาต้องมาพัวพันกันจนค่อยๆก่อเกิดเป็นความรู้สึกบางอย่างพวงแก้มเนียนที่แดงอยู่แล้วก็พลันแดงวาบขึ้นมาทันตาเห็น ซึ่งอันที่จริงแล้วหม่อนไหมไม่ใช่สาวน้อยเรียบร้อยที่ขี้อายอะไรนักแต่พออยู่ต่อหน้าเขาแล้วสติของเธอกลับเตลิดเปิดเปิงทุกค
12 ปีที่แล้วประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่“วันนี้หนูหม่อนมีความสุขที่สุดเลยค่ะ ขอบคุณพ่อกับแม่มากนะคะที่พาหนูหม่อนมาเที่ยว”น้ำเสียงใสกังวาลของหม่อนไหมดังขึ้นใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มสดใสอย่างเสมอต้นเสมอปลายก่อนที่เด็กสาวจะกอดแขนมารดาเอาไว้อย่างมีความสุข ม่านฟ้ายกมือขึ้นมาลูบผมของลูกสาวด้วยความรักสุดหัวใจก่อนที่เธอจะหันไปยิ้มให้สามีที่หันมายิ้มให้เธออย่างมีความสุขเช่นกัน“วันเกิดปีนี้แม่ขอให้หนูหม่อนเป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่ซนและน่ารักกับทุกคนตลอดไปนะคะ”น้ำเสียงหวานเอ่ยอวยพรวันเกิดให้ลูกสาวตัวน้อยที่เงยหน้าขึ้นมายิ้มรับคำอวยพรของมารดาก่อนที่ใบหน้าเล็กจะพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย“หนูหม่อนสัญญาค่ะ ว่าหนูหม่อนจะไม่ดื้อ ไม่ซน จะไม่ทำให้พ่อกับแม่ต้องปวดหัวแน่นอนค่ะ”ริมฝีปากจิ้มลิ้มเอ่ยให้คำมั่นสัญญากับมารดาแต่มือเล็กกลับแอบไขว้กันเอาไว้ด้านหลังไม่ให้มารดาเห็นแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยรอดพ้นสายตาของบิดาอย่างอติรุจน์ไปได้เลย ใบหน้าหล่อเหลาของผู้เป็นพ่อพลันส่ายไปมาน้อยๆกับความแสบของลูกสาวที่คุณปู่คุณย่าถึงกับส่ายหัว“ส่วนพ่อก็ขอให้หนูหม่อนสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไม่ไข้ และก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่อ
การเดินทางไปเข้าร่วมทีมแพทย์อาสาเพื่อออกตรวจชาวบ้านบนดอยของวายุมีเหตุให้ต้องเลื่อนออกไปเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟป่าทำให้มีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บถูกส่งมาที่โรงพยาบาล N เป็นจำนวนมาก วายุกับแก้มใสที่ได้รับรายงานเรื่องไฟป่าตั้งแต่ช่วงเช้าจึงรีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลทันทีโดยที่มีรามสูรติดตามมาด้วยถึงแม้ว่าจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟป่าเป็นจำนวนมากแต่ระบบการจัดการของทางโรงพยาบาลที่เตรียมพร้อมทั้งสถานที่และบุคคลากรตั้งแต่ที่ได้รับรายงานเข้ามาทำให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกส่งตัวเข้ามาได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วในขณะที่สถานการณ์ภายในห้องฉุกเฉินเต็มไปด้วยความวุ่นวายภายในห้องพักผู้ป่วยเด็กหญิงตัวน้อยซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นย่า ไหล่บอบบางสั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้นเมื่อเธอตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าบิดามารดาของเธอได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ“ฮือ ฮือ ย่าขาหนูหม่อนคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน”หม่อนไหมเอ่ยขึ้นบอกผู้เป็นย่าด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้นน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลกลิ้งลงมาบนแก้มเนียนเป็นสายทำให้แม่เลี้ยงเอื้องคำที่ไม่รู้ว่าควรจะปลอบอย่างไรให้หลานสายตัวน้อยรู้สึกดีขึ้นทำได้เพียงร่วมหลั่งน้ำตาเคีย
เพราะต้องกลับไปจัดการงานศพของลูกชายและลูกสะใภ้ทำให้พ่อเลี้ยงแสงหล้าและแม่เลี้ยงเอื้องคำต้องจ้างพยาบาลพิเศษให้คอยดูแลหม่อนไหมในระหว่างที่ทั้งคู่ไม่อยู่ ซึ่งพยาบาลพิเศษที่รับหน้าที่ดูแลหม่อนไหมก็คือช่อแก้วคุณแม่ลูกหนึ่งที่เสียสามีไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้เธอเข้าใจหม่อนไหมดีว่าเด็กสาวรู้สึกอย่างไรที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียอย่างไม่ทันตั้งตัว“มื้อเช้าวันนี้พี่ช่อซื้อปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ของโปรดหนูหม่อนมาฝากด้วยนะคะ”เมื่อเดินเข้ามาในห้องช่อแก้วก็ชูถุงปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ร้านชื่อดังโชว์ให้หม่อนไหมดูทำให้ความปรีดาอันแสนหวานผุดหน่อเล็กๆขึ้นมาส่ายไหวอยู่ในหัวใจที่กำลังเศร้าหมองของเด็กสาว ดวงตากลมโตมองของกินตรงหน้าพร้อมกับแอบกลืนน้ำลายอย่างหักห้ามใจไม่อยู่ถึงแม้เธอจะเศร้าใจมากเพียงไรแต่เธอไม่สามารถที่จะเมินเฉยต่อความหิวได้เลยแม้แต่น้อย“อาหารสำหรับผู้ป่วยรสชาติจืดชืดไปหน่อยหนูหม่อนอาจจะเบื่อ คุณย่าบอกพี่ช่อว่าหนูหม่อนชอบทานน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋พี่ช่อก็เลยรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปต่อแถวซื้อมาฝากหนูหม่อนค่ะ”การกระทำที่แสดงออกถึงความเอาใจใส่ที่มีต่อเธอของช่อแก้วทำให้หม่อนไหมที่เอาแต่เงียบม
เช้าวันต่อมาโรงพยาบาล Nแววตาที่เศร้าสร้อยของเด็กสาวในเช้านี้ทำให้ช่อแก้วรู้สึกเป็นห่วงไม่น้อยเพราะเมื่อวานหลังจากที่คุณรามสูรหลานชายของท่านประธานโรงพยาบาล ที่ช่วยหม่อนไหมจากอุบัติเหตุแวะมาเล่นเป็นเพื่อนเด็กสาวทั้งวันรอยยิ้มที่ช่อแก้วคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นกลับเผยขึ้นอย่างง่ายดาย“ข้าวต้มหมูอร่อยมากๆเลยน้าหนูหม่อนทานหน่อยนะคะคนดี”น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยบอกเด็กสาวที่ยังคงเหม่อมองไปที่ประตูห้องราวกับว่ากำลังรอคอยการมาของใครบางคนที่ช่อแก้วเองก็ไม่รู้ว่าวันนี้คุณรามสูรจะมาเล่นกับเด็กสาวอีกไหม เพราะหลังจากที่หม่อนไหมหลับไปแล้วเขาก็จากไปเงียบๆโดยที่ไม่ได้บอกหรือฝากข้อความถึงหม่อนไหมเลยแม้แต่น้อย“วันนี้พี่ชายไม่มาเหรอคะ”เมื่อถามออกไปแล้วปลายจมูกก็พลันตีบตันในลำคอราวกับมีอะไรบางอย่างกลั้นอยู่ให้ยิ่งทรมานก่อนที่หม่อนไหมจะอดทนต่อความเสียใจแล้วออกแรงสูดลมหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวต้มหมูที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายเข้าปากในใจของเด็กสาวพยายามบอกตัวเองว่าไม่เป็นไรเธอจะต้องไม่ร้องไห้เพราะเธอให้สัญญากับพี่ชายเอาไว้แล้วว่าเธอจะเข็มแข็งและจะยิ้มทุกวันเพื่อให้พ่อกับแม่มีความสุข แต่สุดท้าย
เวลาต่อมา“หนูหม่อนยังไม่หายดีแอบพาไปข้างนอกแบบนี้จะไม่เป็นอะไรเหรอคะ”ช่อแก้วเอ่ยถามรามสูรพร้อมกับแอบมองเสี้ยวหน้าคมคายด้วยความกระวนกระวายใจเมื่อเขาจะพาหม่อนไหมออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก ส่วนเด็กสาวเมื่อรู้ว่าพี่ชายจะพาออกไปเที่ยวเล่นก็ตื่นเต้นดีใจพร้อมกับบอกให้ช่อแก้วเปลี่ยนชุดให้เธอทันทีอย่างเตรียมพร้อมที่จะออกไปเผชิญโลกภายนอกกับพี่ชายที่แสนดีของเธอแล้ว“ผมอยากพาหนูหม่อนออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างครับอยู่แต่ในโรงพยาบาลน่าเบื่อจะแย่ ถึงจะมีสนามเด็กเล่นแต่ก็คงไม่สนุกเท่ากับการได้ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกหรอกครับ”“แต่ว่า...”“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับผมสัญญาว่าจะดูแลหม่อนไหมให้ดีที่สุด ผมรับรองได้เลยว่าคืนนี้พี่ช่อจะได้นอนหลับฝันดีอย่างไร้กังวลแน่นอนครับ”คำพูดที่หนักแน่นและแววตาที่จริงใจของรามสูรทำให้ช่อแก้วถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่รอยยิ้มบางๆจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมื่อเธอเผลอสบเข้ากับดวงตากลมโตของหม่อนไหมที่ทอแสงเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น ความเศร้าหมองที่เธอเคยเห็นในวันวานค่อยๆจางหายไปเหลือเพียงรอยยิ้มที่สดใสและแววตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุขยามที่เธอมองใบหน้าของรามสูรในเมื่อความสุขเพียงหนึ่งเ
เช้าวันต่อมารามสูรตักน้ำซุปที่ส่งกลิ่นหอมไปทั้งห้องครัวขึ้นมาชิมก่อนที่เด็กหนุ่มจะพยักหน้าน้อยๆอย่างพึงพอใจกับรสชาติอาหารที่ตัวเองตั้งใจทำไปฝากหม่อนไหมที่โรงพยาบาล รามสูรหยิบกล่องใส่อาหารมาตักเกี๊ยวน้ำใส่จนเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็เดินไปดูซาลาเปาไส้ครีมคัสตาร์ดกับไส้ถั่วแดงที่กำลังนึ่งอยู่บนเตากลิ่นหอมของใบเตยจากแป้งของซาลาเปาที่รามสูรใส่ความตั้งใจลงไปตั้งแต่ขั้นตอนของการนวดแป้งไปจนถึงการทำไส้ของซาลาเปา ทำให้เด็กหนุ่มค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่รามสูรจะหยิบซาลาเปาออกมาหนึ่งชิ้นและยื่นให้เอเดนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ“เอเดนชิมซาลาเปาให้พี่รามหน่อยครับว่าอร่อยไหม”สายตาของเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ทอเป็นประกายอย่างรอคอยคำตอบทำให้เอเดินรีบหยิบซาลาเปาจากมือของนายน้อยมากัดชิมทันที ดวงตาที่เต็มไปด้วยไอสังหารของเอเดนเบิกกว้างด้วยความตกตะลึงเมื่อความนุ่มของแป้งผสมผสานกันอย่างลงตัวกับไส้ครีมที่หวานละมุนลิ้นชวนให้คนหยิบกินหลายชิ้นไม่รู้เบื่อ“อร่อยมากๆเลยครับคุณราม”เอเดนเอ่ยชมรามสูรพร้อมกับยกนิ้วให้อย่างชื่นชมจากใจจริงกับฝีมือทำอาหารของรามสูรที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากคุณยายตั้งแต่เด็กๆซึ่งโดยปกติแล้ว
โรงพยาบาล N“พี่รามหลานปู่” “พี่รามหลานตา” ตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้าของคนสองคนกำลังวิ่งแข่งกันมาตามทางเดินของโรงพยาบาลปากก็ร้องเรียกหลานชายคนโตด้วยความเป็นห่วงอย่างไม่มีใครยอมใคร ทำให้ที่รักกับกอหญ้าที่เดินตามหลังมาได้แต่ส่ายหน้าไปมาช้าๆพร้อมกันด้วยความเหนื่อยอกเหนื่อยใจกับนิสัยที่ไม่มีใครยอมใครของคุณตากับคุณปู่อดีตเพื่อนรักที่ปัจจุบันกลายเป็นไม่รักเพื่อนไปแล้ว“แล้วนายจะเบียดฉันทำไมวะไอ้หน้าหนังหมา”“อ้าว แล้วนายล่ะจะเบียดฉันทำไมไอ้หมาหน้าย่น นี่แหนะ”กฤษฎิ์ตอกกลับใส่หน้าเรียวอิจิด้วยคำพูดเผ็ดร้อนไม่แพ้กันก่อนที่เขาจะยื่นเท้าไปขัดขาเรียวอิจิทำให้เรียวอิจิที่ไม่ทันระวังสะดุดล้มจนหน้าคะมำลงไปจูบพื้นทันทีสร้างความสะใจให้แก่เพื่อนรักอย่างกฤษฎิ์เป็นอย่างมาก สะใจได้ไม่นานขาที่กำลังจะก้าววิ่งไปข้างหน้าพลันสะดุดล้มลงเมื่อคนที่จูบพื้นอยู่เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับยื่นมือมาจับขาของกฤษฎิ์เอาไว้แน่นด้วยความรวดเร็วจนทำให้กฤษฎิ์สะดุดล้มลงไปกองกับพื้นสภาพไม่ได้ต่างไปจากเรียวอิจิเลยแม้แต่น้อย“ปล่อยนะเว้ยไอ้หน้าแมว”“ปล่อยให้ไง่สิไอ้หน้าหมา นายอยากแกล้งฉันก่อนทำไม”เรียวอิจิยังคงจับขากฤษฎิ์