เมื่อกลับมาถึงบ้านหม่อนไหมกับรามสูรก็ตรงขึ้นไปบนห้องนอนทันทีเพื่อดูว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอหลับหรือยังเพราะปกติเวลานี้แพรไหมจะยังคงเล่นสนุกกับพี่สาลี่ไม่ยอมนอนเป็นประจำแต่วันนี้กลับแตกต่างออกไปเมื่อคุณพ่อยังหนุ่มคุณแม่ยังสาวเปิดประตูเข้ามากลับพบว่าดวงใจของทั้งคู่นั้นนอนหลับสนิทเรียบร้อยแล้วแถมน้ำลายยังไหลยืดจนเปรอะเต็มสองแก้ม“วันนี้เล่นซนเยอะไปหน่อยเลยหลับเร็วใช่ไหมคะลูกสาว”หม่อนไหมค่อยๆใช้ผ้าสะอาดเช็ดน้ำลายที่เปรอะบนแก้มออกให้ลูกสาวอย่างเบามือในขณะที่รามสูรยื่นนิ้วของตนเองไปเกี่ยวนิ้วลูกสาวเอาไว้เบาๆเมื่อถูกสัมผัสอย่างอบอุ่นเด็กน้อยก็ขยับตัวไปมาเล็กน้อยแต่ไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาแต่อย่างใดบนใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมาบางเบาคล้ายกำลังฝันดี“ไม่เจอกันแค่วันเดียวลูกสาวของพ่อจ้ำม่ำขึ้นหรือเปล่าเนี่ย”เพี๊ยะ“อูยเมียจ๋าพี่รามแค่แซวเล่นลูกไม่รู้เรื่องหรอกคนที่ถูกเมียฟาดจนขึ้นรอยแดงยื่นมือมาลูบแขนตัวเองปอยๆอย่างน่าสงสารในขณะที่หม่อนไหมถลึงตาใส่สามีที่บังอาจมาว่าลูกสาวของเธออ้วนขึ้นเป็นเพราะเขาไม่ใช่เหรอที่ขยันซื้ออาหารบำรุงร่างกายและสมองสำหรับเด็กมาฝากลูกเป็นประจำจนอ้วนจ้ำหม่ำขนาดนี้“แล้วใคร
หลังจากที่เคล้าคลอแนบชิดกันมาทั้งคืนเช้านี้รามสูรกลับทำตัวงอแงราวกับเด็กน้อยที่หาข้ออ้างมาบอกกับภรรยาว่าเมื่อวานเหน็ดเหนื่อยจนหมดแรงวันนี้เขาจึงขออนุญาตตัวเองลางานหนึ่งวันเพื่อพักผ่อนทำเอาหม่อนไหมถึงกับหัวเราะด้วยความขบขันกับเหตุผลหยุดงานของสามีที่เธอรู้ดีว่าเป็นข้ออ้างแต่กลับไม่ได้ตำหนิหรือเอ่ยห้ามแต่อย่างใดเพราะที่ผ่านมาสามีของเธอก็มักจะหาเหตุผลไร้สาระมาหยุดงานเพื่ออยู่ดูแลเธอที่กำลังตั้งครรภ์กับลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหัดพลิกตัวอยู่บ่อยๆจนบางครั้งแม่แก้มใสต้องมาลากสามีเธอให้กลับไปทำงานรามสูรถึงได้ยอมกลับไปรับบทเป็นท่านประธานบริษัทเหมือนเดิม แต่ถ้าหากว่าแม่แก้มใสเดินทางไปต่างประเทศเมื่อไรสามีของเธอก็จะกลับมารับบทผู้ชายที่คลั่งรักภรรยาและลูกสาวทันทีเช่นกันทำเอาแม่แก้มใสถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเลยทีเดียว“อู้งานอีกแล้วนะคะ”หม่อนไหมยื่นมือมาบีบจมูกรามสูรเบาๆอย่างมันเขี้ยวในขณะที่คนถูกต่อว่าได้แต่ซุกใบหน้าลงบนซอกคอหอมกรุ่นของภรรยาสาวสวยอย่างออดอ้อน“ก็พี่รามเหนื่อยนี่คะเมื่อคืนออกแรงมากไปหน่อยวันนี้เลยปวดเหมื่อยไปทั้งตัว อูย ตรงนี้ก็เจ็บ ตรงนั้นก็ช้ำไม่เชื่อหนูหม่อนมาดูสิคะ”ร
“เอามือออกไปจากชุดตัวนี้เดี๋ยวนี้”น้ำเสียงดุดันที่ดูคล้ายคนที่มีนิสัยชอบวางอำนาจจนเคยชินดังขึ้นบอกหม่อนไหมแต่เธอที่วางมือลงไปก่อนคนมาทีหลังมีหรือจะยอมเอามือออกจากชุดที่เธอหมายตาเอาไว้ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้าน ในเมื่อเธอเป็นคนจับชุดก่อนนั่นก็หมายความว่าชุดตัวนี้ต้องเป็นของเธอไม่ใช่ของคนที่กำลังออกคำสั่งราวกับต้องการอวดอำนาจบาตรใหญ่คนนี้“ฉันวางมือลงไปบนชุดก่อนคุณนะคะไม่ได้วางทีหลังมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้คนที่จับชุดก่อนเอามือออก คุณต่างหากที่มาทีหลังตามมารยาทแล้วสมควรต้องเอามือออกค่ะไม่ใช่มาบอกฉัน”จบประโยคเสียงหอบหายใจเบาๆก็ดังขึ้นบ่งบอกว่าผู้พูดกำลังสะกดกลั้นอารมณ์เดือดดาลอย่างเต็มที่ดวงตากลมโตที่เคยมองสามีด้วยสายตารักใคร่ก่อนหน้านี้พลันแปรเป็นเป็นดุดันเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบังเช่นเดียวกันกับคนที่ออกคำสั่งให้หม่อนไหมปล่อยมือเธอก็กำลังใช้สายตาดุดันจ้องตอบกลับคืนอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน“แต่ฉันจะเอาชุดนี้และต้องได้ชุดนี้ด้วย”“ฉันก็ต้องการจะซื้อเหมือนกันค่ะและอีกอย่างฉันจับก่อนเพราะฉะนั้นกรุณาเอามือของคุณออกไปด้วยค่ะ”ดวงตาสีดำสนิทของหม่อนไหมหรี่ลงฉายประกายความเกรี้ยวกราดที่ใก
เมื่อถึงกำหนดคลอดหม่อนไหมกลับไม่มีอาการปวดท้องหรือรู้สึกผิดปกติเลยแม้แต่น้อยเธอยังคงกินอิ่มนอนหลับสบายทำให้รามสูรรู้สึกวิตกกังวลไม่น้อยตรงข้ามกับหม่อนไหมที่ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอรู้สึกว่าลูกคนที่สองของเธอนั้นดื้อมากโดยเฉพาะช่วงเวลาที่ลูกของเธอเริ่มดิ้นเจ้าตัวน้อยในท้องแทบจะไม่ยอมให้เธอได้พักผ่อนเท้าน้อยๆพยายามถีบเธอทุกวันทั้งช่วงที่กำลังนอนหลับฝันดีจนน้ำลายแทบไหลยืดหรือจะเป็นช่วงพักสายตายามบ่ายเธอก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะแรงถีบมหาศาลจากเจ้าเด็กดื้อที่ไม่รู้ว่าเกิดอารมณ์ดีอะไรขึ้นมาถึงได้ชอบคึกคักยามบ่ายและยามดึกและอยู่แบบสุขสงบเพียงแค่ในยามเช้าเท่านั้น“พี่รามไปทำงานก่อนนะคะ”ยามเช้าที่อากาศสดใสรามสูรจำใจบอกลาภรรยาแสนรักที่กำลังนั่งทานผลไม้ที่สามีปอกให้ด้วยความเอร็ดอร่อยหม่อนไหมพยักหน้ารับเล็กน้อยอย่างเข้าใจเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่ต้องการให้สามีอยู่ด้วยตลอดเวลาในช่วงที่เธอใกล้จะคลอดถึงแม้ว่าตอนนี้จะเลยกำหนดมาแล้วสามวันก็ตาม“ตั้งใจทำงานนะคะแล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงหนูหม่อน หนูหม่อนโอเค”น้ำเสียงผ่อนคล้ายที่คล้ายกับเด็กสาวตัวน้อยคนหนึ่งทำให้รามสูรอดใจไม่ไหวต้องยื่นมือไปบีบแ
เมื่อทราบว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดแต่เจ้าตัวก็ยังลากสังขารมาหาหม่อนไหมที่เพิ่งคลอดวายุก็ถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกในใจอยากจะต่อว่าและหยิบไม้เรียวขึ้นมาฟาดลูกชายหัวดื้อสักสิบครั้งให้หลาบจำแต่มือเจ้ากรรมกลับหยิบได้เพียงมีดและเข็มมือไม้พันกันระวิงด้วยความวุ่นวายเมื่อการผ่าตัดเป็นไปด้วยความทุลักทุเลเพราะความดื้อดึงของรามสูรทำให้เขาเสียเลือดมากการผ่าตัดจึงเข้าขั้นวิกฤติแต่วายุกลับไม่รู้สึกหวั่นใจแต่อย่างใดเพราะคนที่เขากำลังใช้มีดกรีดลงไปบนผิวหนังสีขาวซีดคือลูกชายของเขาๆไม่มีวันปล่อยให้รามสูรเป็นอะไรแน่นอนต่อให้มัจจุราชที่อยู่ในนรกขุมที่สิบหกต้องการชีวิตของลูกชายเขามากแค่ไหนถ้าเขาไม่ยินยอมใครหน้าไหนก็พรากลูกชายไปจากอกเขาไม่ได้ทั้งนั้น“พ่อขาทำไมนานจังเลยคะ” แก้มใสเริ่มนั่งไม่ติดที่เมื่อการผ่าตัดยืดระยะเวลาออกไปจากเวลาที่บิดาบอกเธอบอกในครั้งแรกว่าเพียงสองชั่วโมงแต่นี่เกือบสามชั่วโมงแล้วไฟหน้าห้องผ่าตัดยังไม่มีทีท่าว่าจะดับลงเลย แก้มใสพลันก้มหน้าพลางวางมือเอาไว้บนหน้าอกราวกับความเจ็บปวดนั้นแล่นไปทั่วร่างอย่างมิอาจทานทนพร้อมกับความรู้สึกแสบท
Red-Eye PUBเสียงจังหวะดนตรีสไตล์ EDM ที่ดังขึ้นไปทั่วทั้งผับชื่อดังทำให้ร่างบางของหม่อนไหมอดไม่ได้ที่จะโยกตัวไปตามจังหวะเพลงเบาๆในขณะที่เพื่อนๆในกลุ่มต่างพากันพูดคุยเล่นกันอย่างสนุกสนานพร้อมกับยกแก้วเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นดื่มจนหมดแก้ว“ไอ้หม่อนมึงแน่ใจนะว่าวันนี้เฮียรามเขาอยู่เคลียร์งานจนถึงเช้าอะ”เตยหอมที่นั่งข้างๆหม่อนไหมเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงเพราะถ้าหากว่ารามสูรเกิดกลับมาที่คอนโดก่อนเวลาที่หม่อนไหมเล่าให้เธอฟังบอกได้คำเดียวเลยว่าเพื่อนของเธอซวยแน่“แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีก เฮียเป็นคนโทรมาบอกกูเองว่าให้เข้านอนได้เลยไม่ต้องรอเพราะวันนี้เฮียติดงานอาจจะไม่ได้กลับ”หม่อนไหมบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้กำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนๆที่เธอกับเตยหอมกำลังพูดถึงอยู่ รามสูรยกบรั่นดีขึ้นดื่มอย่างใจเย็นแต่ดวงตาสีดำสนิทกลับลุกวาวอย่างน่ากลัวเมื่อเมียตัวน้อยที่เขาสั่งห้ามไม่ให้เธอออกมาเที่ยวผับอีกเป็นอันขาดกำลังขัดคำสั่งของเขาด้วยการนั่งหัวเราะกับเพื่อนด้วยความสนุกสนาน วันนี้ที่บริษัทของเขาเกิดปัญหาเมื่อรถรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีกำหนดจะเปิดตัวเร็วๆนี้เ
ปัง!!เสียงประตูที่ปิดลงทำให้หม่อนไหมเบิกตากว้างโดยพลันก่อนจะตั้งสติได้อย่างรวดเร็วเธอรู้สึกตื่นเต้นจนไหล่เกร็งริมฝีปากสีพีชเม้มแน่นขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่สายตาวาววับของรามสูรตรึงอยู่ที่นัยน์ตาคู่งามที่ตื่นกลัวและใสซื่อของหม่อนไหมส่วนมือทั้งสองก็โอบเอวบางของเธออย่างซุกซน“อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมาลองในห้องน้ำแคบๆแบบนี้ก็ไม่บอกเฮียจะได้พาหนูหม่อนมาที่นี่ด้วยตัวเอง หนูจะได้ไม่ต้องแอบหนีเฮียมาแบบนี้”เสียงทุ้มต่ำที่ดังติดริมหูผสมผสานกับเสียงหอบหายใจของเขาทำให้ใบหน้างดงามของหม่อนไหมแดงจัดหัวใจเต้นระรัวด้วยความเขินอายก่อนที่เธอจะแสร้งพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่“คะ ใครเขาอยากเปลี่ยนบรรยากาศกันเล่าหม่อนก็แค่ออกมานั่งเล่นกับเพื่อนแค่นั้นเอง อีกอย่างหม่อนไม่ได้ดื่มเหล้าสักหน่อยเพราะหม่อนรู้ตัวดีว่าหม่อนไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว”ยามพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอกับเขาต้องมาพัวพันกันจนค่อยๆก่อเกิดเป็นความรู้สึกบางอย่างพวงแก้มเนียนที่แดงอยู่แล้วก็พลันแดงวาบขึ้นมาทันตาเห็น ซึ่งอันที่จริงแล้วหม่อนไหมไม่ใช่สาวน้อยเรียบร้อยที่ขี้อายอะไรนักแต่พออยู่ต่อหน้าเขาแล้วสติของเธอกลับเตลิดเปิดเปิงทุกค
12 ปีที่แล้วประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่“วันนี้หนูหม่อนมีความสุขที่สุดเลยค่ะ ขอบคุณพ่อกับแม่มากนะคะที่พาหนูหม่อนมาเที่ยว”น้ำเสียงใสกังวาลของหม่อนไหมดังขึ้นใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มสดใสอย่างเสมอต้นเสมอปลายก่อนที่เด็กสาวจะกอดแขนมารดาเอาไว้อย่างมีความสุข ม่านฟ้ายกมือขึ้นมาลูบผมของลูกสาวด้วยความรักสุดหัวใจก่อนที่เธอจะหันไปยิ้มให้สามีที่หันมายิ้มให้เธออย่างมีความสุขเช่นกัน“วันเกิดปีนี้แม่ขอให้หนูหม่อนเป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่ซนและน่ารักกับทุกคนตลอดไปนะคะ”น้ำเสียงหวานเอ่ยอวยพรวันเกิดให้ลูกสาวตัวน้อยที่เงยหน้าขึ้นมายิ้มรับคำอวยพรของมารดาก่อนที่ใบหน้าเล็กจะพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย“หนูหม่อนสัญญาค่ะ ว่าหนูหม่อนจะไม่ดื้อ ไม่ซน จะไม่ทำให้พ่อกับแม่ต้องปวดหัวแน่นอนค่ะ”ริมฝีปากจิ้มลิ้มเอ่ยให้คำมั่นสัญญากับมารดาแต่มือเล็กกลับแอบไขว้กันเอาไว้ด้านหลังไม่ให้มารดาเห็นแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยรอดพ้นสายตาของบิดาอย่างอติรุจน์ไปได้เลย ใบหน้าหล่อเหลาของผู้เป็นพ่อพลันส่ายไปมาน้อยๆกับความแสบของลูกสาวที่คุณปู่คุณย่าถึงกับส่ายหัว“ส่วนพ่อก็ขอให้หนูหม่อนสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไม่ไข้ และก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่อ