หลังจากแยกย้ายกันกลับบ้านดารินก็เข้ามาทำแผลให้ลูกชายด้วยความเป็นห่วง
"เจ็บไหมลูก" ดารินถาม "นิดหน่อยครับแม่" เทียนตอบ "พี่เทียน ไอ้เมฆมันทำแบบนั้นจริงๆ เหรอพี่" ธูปถาม "คุณปู่บอกพี่แบบนั้นอ่ะ" เทียนตอบ "นี่พ่อไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนเงียบๆ เรียบร้อยดูไร้พิษสงอย่างไอ้เจ้าเมฆมันจะกล้าทำอะไรแบบนี้" หล่งพูดออกมาด้วยความหงุดหงิดเพราะเมื่อก่อนเขาเองก็รักและเอ็นดูเมฆเหมือนกับลูกชายคนนึงของตัวเองเหมือนกัน "ตอนผมได้ยินครั้งแรกก็ตกใจไม่ต่างจากทุกคนหรอกครับ" เทียนตอบ "แล้วนี่แกรู้เรื่องใหญ่โตนี้ก็ยังจะปิดบังพ่อกับแม่อีกนะ" หล่งหันมาดุเทียนที่ปิดบังเรื่องของเมฆกับตัวเองมาตั้งหลายวัน "คุณเทียนครับ พวกเราได้เอกสารทั้งหมดมาแล้วครับ" เจสันกับเวกัสเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มและสมุดบัญชีจำนวนมาก "เอาเข้าไปวางที่ห้องทำงานของฉันเลย" ดารินตอบ "ครับ" เจสันและเวกัสตอบก่อนจะเดินเอาของไปไว้ให้เจ้านาย "แต่แม่ครับ~" เทียนกำลังจะพูดแต่ดารินยื่นมือไปจับมือของลูกชายไว้ก่อน "เดี๋ยวแม่ช่วยเทียนเอง" ดารินพูด เทียนค่อยๆ ยิ้มออกมา "ครับ" เทียนตอบ หลังจากมื้อเย็นเทียนและดารินก็ช่วยกับจัดการตรวจสอบบัญชีและเอกสารทั้งหมดด้วยกันโดยมีธูปนอนหลับอยู่บนโซฟาข้างๆ เป็นเพื่อนตอนแรกธูปก็กะจะช่วยแม่และพี่ชายตรวจสอบบัญชีนะแต่ว่าพอเจอตัวหลังสือเข้าไปเยอะๆ เขาก็รู้สึกง่วงขึ้นมาซะงั้นเลยทำให้ต้องหนีมานอนหลับก่อน เทียนยังคงนั่งตรวจสอบบัญชีอยู่อย่างนั้นไปเรื่อยๆ ไม่สนใจทานข้าวทานปลาอีกแล้วจนแม่ของเขารู้สึกเป็นห่วง ผ่านไปจนแล้วจนเล่าตั้งแต่ฟ้าสว่างจนมืดเขาก็ยังเอาแต่นั่งหลังขดหลังแข็งทำงานของเขาต่อไปและด้วยความที่เขาไม่ถนัดงานบัญชีมันเลยยิ่งทำให้งานของเขาช้าลง "เทียน~ไปนอนก่อนเถอะลูก" ดารินพูดหลังจากไปอาบน้ำกลับมาแล้วก็ยังเห็นเทียนนั่งหน้าเครียดอยู่หน้ากองเอกสารเหมือนเดิม "แม่ไปนอนก่อนเลยครับ ผมขอต่ออีกนิดเดียวนะครับ" เทียนตอบ "อย่าหักโหมตัวเองนะลูก แม่เป็นห่วง" ดารินพูด "ครับ" เทียนตอบ จากนั้นดารินก็เดินออกจากห้องไปแม้ในใจจะรู้สึกไม่วางใจเลยก็ตามเพราะตอนนี้เทียนกำลังฝืนร่างกายตัวเองอย่างหนักยิ่งก่อนหน้านี้ช่วงงานศพเขาก็แทบไม่ได้พักผ่อนอยู่แล้วด้วย 08:00 น. ดารินเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อลงไปทานข้าวกับทุกคนแต่พอเดินผ่านห้องทำงานเธอก็เหมือนจะเห็นอะไรแว๊บๆ เลยค่อยๆ หันหน้าไปดู ภาพที่เธอเห็นคือเทียนนั่งสัปหงกอยู่คากองเอกสารอยู่อย่างคนหมดสภาพ พอเขาสะดุ้งตื่นก็รีบดูเอกสารต่อแต่พอดูไปได้ไม่กี่วินาทีก็เผลอหลับอีก ในใจของดารินในฐานะของคนเป็นแม่มองเห็นสภาพลูกชายแบบนี้ก็รู้เจ็บปวดไปยิ่งนัก เธอเดินเข้ามาในห้องแล้วใช้มือวางบนไหล่ของเทียนเบาๆ "อ้าว~แม่มาแล้วเหรอครับ" เทียนถาม "ไปพักผ่อนเถอะลูก อย่าให้แม่ต้องเจ็บปวดใจไปมากกว่านี้เลย" ดารินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ แถมยังมีน้ำตาคลออยู่ที่ดวงตาซึ่งมันทำให้เทียนรู้สึกผิดมาก เขาค่อยๆ วางเอกสารลงแล้วลุกขึ้น "ขอโทษนะครับแม่~ผมจะไปนอนเดี๋ยวนี้แหละ" เทียนตอบแล้วเดินออกจากห้องทำงานของแม่ไป 21:30 น. แค่กๆ ๆ....เทียนไอออกมาด้วยน้ำเสียงแหบๆ เขารู้สึกเจ็บคอและปวดหัวนิดหน่อยจึงลุกขึ้นมาเพื่อหายากินแต่พอเดินลงมากลับรู้สึกว่าบ้านเงียบแปลกๆ "เดี๋ยวๆ ทำไมบ้านถึงเงียบแบบนี้ล่ะ" เทียสถามแม่บ้านที่เดินผ่านมาพอดี แม้จะบอกว่ามันดึกแล้วทุกคนคงเข้านอนกันไปแล้วแต่ปกติบ้านของเขาจะมีบอดี้การ์ดเดินพลุกพล่านอยู่ตลอดซึ่งมันไม่น่าเงียบได้ขนาดนี้ "อ่อ วันนี้คุณหล่งกับคุณดารินไปกินเลี้ยงบ้านสส.สุรศักดิ์ค่ะ" แม่บ้านตอบ "ขอบใจมาก" เทียนพูดตอบจากนั้นแม่บ้านก็เดินออกไป วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ทางสะดวกมากที่เขาจะเข้าไปตรวจสอบบัญชีต่อ ดังนั้นเทียนจึงรีบกลับขึ้นไปข้างบนแล้วตรงไปที่ห้องทำงานของแม่มันทีแต่พอเขาจะเปิดประตูมันก็ดันล็อคไว้ซะงั้น "อะไรว่ะเนี่ย" เทียนบ่นแล้วพยายามออกแรงบิดลูกบิดประตูแต่ว่าไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่มันก็เปิดไม่ได้ "ใครอยู่ข้างล่างอ่ะขึ้นมาหน่อยสิ เฮ้ย! ขึ้นมาหาผมหน่อย" เทียนตะโกนเสียงดังลั่นจนแม่บ้านต้องรีบวิ่งขึ้นมาด้วยความตกใจ "ขา~คุณเทียน" แม่บ้านตอบ "ไปเอากุญแจมาเปิดห้องให้ผมหน่อยซิ" เทียนพูด "เอ่อ~นี่เป็นห้องทำงานส่วนตัวของคุณดาริน นอกจากคุณดารินแล้วก็ไม่มีใครมีกุญแจห้องนี้หรอกค่ะ" แม่บ้านตอบ "กุญแจสำรองก็ไม่มีเหรอ" เทียนถาม "ไม่มีค่ะ" แม่บ้านตอบ "ไปพักผ่อนได้แล้วไป" เทียนพูด "ค่ะ" แม่บ้านตอบแล้วก็เดินออกไป เทียนหันกลับไปมองที่ห้องทำงานแล้วเขาถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดายก่อนจะเดินคอตกกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง เขาพยายามข่มตานอนแล้วแต่ไม่ว่าเขาจะลองแค่ไหนก็ไม่อาจนอนหลับได้สักที ในใจของเขามันรู้สึกว้าวุ่นจนไม่มีกระจิตกระใจจะนอนเลย เทียนเปิดผ้าห่มออกแล้วลุกขึ้นเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ขณะที่ยืนขึ้นเขาก็รู้สึกมึนหัวนิดหน่อยอาจจะเพราะนอนและมีไข้อ่อนๆ ด้วยแต่เขาก็ยังไม่หยุดเดินต่อไปยังห้องแต่งตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อเตรียมจะออกจากบ้าน "เอ่อ~คุณเทียนจะไปไหนครับ" บอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าดูแลคสามปลอดภัยรีบเข้ามาถามทันทีที่เห็นเทียนเดินออกมาจากบ้าน "ผมจะไปหาที่พักผ่อนหย่อนใจหน่อยอ่ะ" เทียนตอบ "ให้ผมขับรถไปให้ดีไหมครับ" บอดี้การ์ดถามด้วยความเป็นห่วงเพราะสีหน้าของเทียนดูไม่ดีเอามากๆ "ไม่เป็นไรผมไปเองได้ ถ้าพ่อกับแม่ถามหาก็บอกว่าผมไปนอนที่คอนโดแล้วกันนะ" เทียนตอบ "ครับ" หลังจากพูดคุยกับบอดี้การ์ดจบเทียนก็เดินตรงไปที่รถหรูคันโปรดของตัวเองก่อนที่จะสตาร์ทแล้วขับออกไปด้วยความเร็ว  "ทำไมถึงรีบออกไปขนาดนั้นหน่า~" บอดี้การ์ดพูดแล้วมองตามรถของเทียนด้วยความเป็นห่วง "เรื่องของเจ้านายอย่าไปสนใจเลยดีกว่า" บอดี้การ์ดอีกคนตอบ เทียนขับรถออกจากบ้านมาเพราะเขารู้สึกว่าอยู่ที่บ้านคนเดียวแล้วจิตใจค่อนข้างฟุ้งซ่านเลยกะว่าจะไปหาหมิงเพื่อดื่มและปรึกษาปัญหาชีวิตสักหน่อยเหมือนที่เคยทำมาตลอด "โอ๊ย~ทำไมถึงได้ปวดหัวขนาดนี้นะ" เทียนยกมือข้างนึงขึ้นมาจับศีรษะตัวเองไว้เขาออกแรงกดมันเบาๆ เพื่อบรรเทาความปวด เทียนไม่มีสมาธิในการขับรถเลยเพราะเขารู้สึกเหมือนจะหลับอยู่ตลอดแต่ก็พยายามฝืนตัวเองไว้ โชคดีที่ตอนนี้ดึกแล้วถนนเลยค่อนข้างโล่งมากไม่งั้นป่านนี้เขาต้องเกิดอุบัติเหตุแล้วแน่ๆ (ปล.การไม่มีสติในการขับขี่เป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น) เอี๊ยดดดดดด! "เฮ้ย!" เสียงเบรครถอย่างดังทำให้ปูนปั้นที่กำลังล็อคประตูร้านอยู่ร้องอุทานและต้องหันกลับมาดูด้วยความตกใจ "อะไรว่ะเนี่ย" ปูนปั้นพูดแล้วมองไปที่รถหรูของที่พึ่งเข้ามาจอดอยู่หน้าร้านของเขาพอดีด้วยความสงสัย เทียนเปิดประตูรถแล้วลงมาด้วยสภาพที่แทบจะเดินไม่ได้อยู่แล้ว เขาใช้มือเกาะประตูรถเอาไว้แล้วมองไปที่ปูนปั้น เฮือก เฮือก เฮือก~ เสียงหอบหายใจของเขาฟังดูเหนื่อยมาก หน้าตาอิดโรยจนหน้าเป็นห่วง "หมิง~อยู่ไหน" เทียนเอ่ยถามออกไปอย่างยากลำบากก่อนที่จะหมดแรงจนล้มลงไปแต่ด้วยความไวของปูนปั้น เขารีบทิ้งของในมือแล้ววิ่งมารับเทียนทันที "คุณ! คุณ" ปูนปั้นพยายามเรียกเทียนแต่เจ้าตัวหมดสติไปแล้วเลยไม่ได้ยินอะไร หน้าของเทียนจมอยู่ช่วงอกและคอของปูนปั้นจนเขาเองรู้สึกถึงลมหายใจของเทียน "ทำไมตัวหนักขนาดนี้เนี่ย" ปูนปั้นบ่นเพราะเทียนเล่นทิ้งน้ำนักลงมาใส่เขาทั้งตัวจนตอนนี้เขาแทบจะยืนไม่อยู่แล้ว "เอาไงดีว่ะ" ปูนปั้นสับสนเพราะไม่รู้จะเอาเทียนไปไว้ที่ไหนดีครั้นจะให้นอนอยู่ในรถก็อันตรายเกินไป จะโทรบอกหมิงให้มาเอาเพื่อนไปหมิงก็ดันไม่มีโทรศัพท์ซะงั้น "คุณ~ ตื่นก่อนสิ คุณ" ปูนปั้นเรียกแล้วใช้มือตีที่หลังของเทียนเบาๆ เพื่อปลุกเขาแต่เทียนก็ไม่ลุกขึ้นมาสักที"ช้าๆ ระวังเท้าด้วยสิ" ปูนปั้นพพูด เขาประคองเทียนเข้ามาในห้องนอนของตัวเองแล้วทิ้งคนตัวใหญ่ลงเตียงอย่างแรงแฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ปูนปั้นหอบหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยเพราะน้ำหนักตัวของเทียนไม่ใช่เล่นๆ เลย ปูนปั้นมองดูเทียนแล้วยกมือขึ้นมาเกาหัวด้วยความสับสน"หางานให้ตัวเองแท้ๆ เลยไอ้ปูนปั้นเอ้ย~" ปูนปั้นพูดแล้วหันหลังจะเดินกลับไปแต่เทียนก็คว้าข้อมือของเขาไว้ก่อนจนปูนปั้นต้องหันกลับมาหาเขา"อย่าทิ้งผมไป...อย่าทิ้งผมไปเลยนะครับปู่" เทียนพูดเจ้อออกมาเบาๆ ปูนปั้นแกะมือของเขาออกแล้วมองเขาด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย"ปู่ที่ไหนล่ะ นี่ปูนปั้นจ้า ชิส์!" พูดจบปูนปั้นก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเขาไปอาบน้ำทันที ผลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วปูนปั้นก็เดินเช็คผมออกมา เขามองไปที่เทียนอีกครั้งด้วยความรู้สึกแปลกๆ อาจเป็นเพราะปกติไม่เคยมีใครเข้ามาอยู่ในห้องนอนด้วยกันกับเขามันก็เลยทำให้เขาทำตัวไม่ถูก ปูนปั้นเดินออกจากห้องไปหยิบโถใส่น้ำกับผ้าเช็คตัวผืนเล็กๆ เข้ามาวางไว้ที่ตู้ข้างเตียงก่อนจะนั่งลงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเทียนออก ตอนที่เทียนล้มทับตัวเขาตอนนั้นเขาก็รู้สึกได้แล้วว่าอุณภูมิร่างกายของเทียนสูงผิดปกติแบบหน้าตาก็อิดโรยกว
เมื่อมาถึงร้านเทียนก็รีบเดินไปที่รถของเขาทันที"ซี๊ด!..." เขาร้องออกมาทันทีที่ใช้มือแตะหลังคารถพร้อมกับรีบชักมือกลับเพราะตอนนี้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนอนตากแดดมาหลายชั่วโมงแล้ว"โธ่~ตัวร้อนจี๋เลยลูกไว้กลับบ้ทนพ่อเปิดแอร์ให้นอนฉ่ำๆ เลยนะ" เทียนพูดกับรถเบาๆ ปูนปั้นเดินตามมาทีหลังก็ถึงกับส่ายหัวให้ความโอเว่อร์ของเทียนทันที เขาเดินล้วงหากุญแจเปิดร้านในกระเป๋าจนมาหยุดอยู่หน้าประตูร้านทันที"เจอแล้ว" ปูนปั้นพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมามองร้านของตัวเองแต่เขาก็ต้องตกใจ"เฮ้ย!" ทันทีที่เทียนได้ยินเสียงของปูนปั้นเขาก็รีบหันไปหาปูนปั้นด้วยความเป็นห่วงแต่ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าคือร้านของปูนปั้นถูกพ่นสีสเปรย์เขียนคำหยาบคายไว้เต็มไปหมด ตอนนี้ปูนปั้นเองก็ช็อคไม่ต่างกันเงยหน้ามองแล้วอ่านคำด้าท่อพวกนี้ทั้งหมดด้วยความโมโหและสับสน เทียนเดินเข้าไปหาปูนปั้นใกล้ๆ เพื่อดูปฏิกิริยาของเขาว่าโอเคหรือเปล่า"รู้ไหมว่าใครทำ" เทียนถาม ปูนปั้นส่ายหน้าตอบว่าไม่รู้ "เข้าไปตรวจดูข้างในก่อนเถอะว่ามีอะไรหายไปไหม" เทียนพูด ปูนปั้นหันมามองหน้าเขาด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจที่เขายังอยู่เป็นเพื่อน จากนั้นเขาก็ไขกุญแจเปิดร้านทันทีซึ่งสภาพภายใ
"คุณเทียนมีเรื่องอะไรอยากจะคุยกับผมหรอครับ" พายุถาม"ฉันมีคนรู้จักอยู่คนนึงเขาเป็นเจ้าร้านที่นี่" เทียนตอบแล้วยื่นโทรศัพท์ให้พายุดูซึ่งมันเป็นรูปหน้าร้านของปูนปั้นที่มีทั้งตอนปกติและตอนที่เกิดปัญหา"ร้าน Happy Time หรอครับ" พายุพูด"นายรู้จักเหรอ" เทียนถาม"ครับ ผมเคยไปหาเพื่อนแถวนั้นอยู่ 2-3 ครั้งแต่ไม่เคยเข้าไปทานหรอกนะครับ" พายุตอบ"ตอนนี้ที่นี่กำลังถูกคุกคาม มีคนเอาสีสเปรย์ไปพ่นที่หน้าร้านนี้จนดูไม่ได้ ฉันอยากให้นายไปสืบมาหน่อยว่าใครเป็นคนทำแต่นายห้ามบอกเรื่องนี้ให้คนที่บ้านรู้เด็ดขาด เข้าใจไหม" เทียนพูด"ได้ครับคุณเทียน" พายุตอบ"นายสามารถเอาคนไปใช้ได้ 2-3 คนแต่ต้องกำชับพวกนั้นให้ดีว่าอย่าแพร่งพรายเรื่องนี้ไม่งั้นคนที่จะเดือดร้อนก็คือนายเอง" เทียนพูด"ครับ" พายุตอบ"นี่เป็นงานแรกที่ฉันมอบให้นายทำ...อย่าทำให้ฉันผิดหวังนะ" เทียนพูด"ผมจะทำให้เต็มที่ครับ...เอ่อ~ว่าแต่คุณเทียนมีเวลากำหนดให้ผมไหมครับ" พายุถาม "เร็วที่สุด" เทียนตอบ "ครับ" พายุตอบ"กลับไปพักผ่อนได้แล้วไปพรุ่งนี้จะได้มีแรงไปทำงานให้ฉัน" เทียนพูด"ได้เลยครับคุณเทียน รับรองพรุ่งนี้งานเดินผ่านฉลุยแน่นอน" พายุตอบแล้วยกนิ้ว
"พวกเราได้ภาพคนร้ายมาจากกล้องวงจรปิดน่ะครับ" บอดี้การ์ดคนที่หนึ่งตอบ "เป็นไปไม่ได้ คุณเทียนบอกผมมาแล้วว่ากล้องวงจรปิดที่ร้านมันเสียแล้วแบบนี้พวกคุณจะไปเอามาได้ยังไง" พายุพูด "พวกผมก็ไปเอามาจากบ้านของคนในระแวกไงครับ" บอดี้การ์ดคนที่หนึ่งตอบ "ใช่ครับ กล้องที่ร้านเสียพวกเราเลยไปไล่ขอคลิปจากกล้องวงจรปิดจากชาวบ้านแถวนี้แทนแล้วก็ให้ค่าตอบแทนพวกเขาไปนิดหน่อย ลองเอาภาพจากกล้องวงจรปิดของทุกบ้านมารวมกันก็พบเห็นชายต้องสงสัยที่ใส่ชุดดำทั้งตัวเดินออกมาจากทางร้าน Happy Time ช่วงเวลาประมาณตี 3 กว่าๆ จากนั้นเขาก็เดินเอาถุงอะไรบ้างอย่างไปทิ้งที่หน้าตึกร้างที่อยู่ห่างไปอีก 3 ซอยพอพวกเราไปตรวจสอบดูก็พบว่าในนั้นมีอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับพ่นสี ถุงมือ มีดและกระป๋องสเปรย์อีกจำนวนมากเลยครับอุปกรณ์" บอดี้การ์ดคนที่สองตอบ หน้าของพายุดูอึ้งไปทันทีเขาไม่คิดว่าทุกคนจะฉลาดกันขนาดนี้เพราะตัวเขาเองคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ถ้าสองคนนี้ไม่พบหลักฐานอะไรป่านนี้เขาก็ยังคงเดินไล่ถามชาวบ้านต่อไปเรื่อยๆ จนหมดวันแน่ "เหรอ~ แล้วรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร"
ตอนนี้พายุมพาคนร้ายมานึงอยู่ที่เก้าอี้แล้วดึงผ้าคลุมสีดำออก "ต้องปิดปากเขาไว้ด้วยเหรอ" ปูนปั้นถามเพราะเห็นว่ามีเทปปิดปากของเขาไว้อยู่ "ตลอดทางมานี้ไอ้นี่มันร้องโวยวายตลอดเลยครับ พวกผมรำคาญก็เลยเอาเทปแปะไว้ก่อน" พายุตอบ ปูนปั้นถอนห่ยใจออกมาแล้วเดินเข้าไปแกะเทปออกให้เขา "พวกคุณบ้าไปแล้วเหรอ! ประเทศนี้มันมีกฎหมายนะเว้ย คอยดูเถอะผมจะไปแจ้งตำรวจมาจับพวกคุณให้หมดเลย" ผู้ชายคนนั้นต่อว่าทุกคนออกมาอย่างเสียงดังโดยไม่มีความสำนึกอะไรเลย "คุณทำแบบนั้นทำไม" ปูนปั้นถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาโกรธมากนะยิ่งรู้ว่าคนที่อยู่ตรวหน้าเป็นคนมำให้ร้านของเขาเสียหายเขายิ่งรู้สึกโกรธแต่ด้วยความที่เขาอยากเจรจาสอบถามเหตุผลกับคนตรงนั้นเขาเลยต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้ก่อน "ผมทำอะไร" ชายคนนั้นตอบตาใสเหมือนกับตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ "คุณมาพ่นสีที่ร้านผมทำไม" ปูนปั้นถาม สีหน้าของเขาดูตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะหลบตาปูนปั้น "ผมสีอะไร~ ผมไม่ได้" คนร้ายยังคงปฏิเสธทุกอย่างอย่างหน้าตาเฉย "ไม่ได้ทำบ้าอะไร คิดว
"น่าหงุดหงิดจริงๆ" เทียนขับรถกลับบ้านด้วยความน้อยใจ "ที่ฉันทำไปเพราะตัวเองหรือยังไง...ที่ทำไปก็เพราะหวังดีทั้งนั้น ถ้าไม่ชอบก็น่าจะบอกกันดีๆ สิทำไมต้องใส่อารมณ์ขนาดนั้นด้วย" เทียนนั่งบ่นคนเดียวตลอดทางอย่างกับคนบ้า เห็นใครขับรถปาดหรือขับรถไม่ดีก็ตะโกนด่าอยู่คนเดียวในรถตลอด ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ "ลั้ลลา ลั้ลลา~" พายุเดินเข้ามาในบ้านอย่างอารมณ์ดีเพราะว่าภารกิจแรกของเขาผ่านพ้นไปด้วยดีแม้จะไม่ใช่ฝีมือของเขาทั้งหมดก็เถอะ เจสันเห็นพายุเดินเข้ามบ้านมาก็รีบเดินมาหาเขาทันที "พายุ" เจสันเรียก "ครับ" พายุหยุดนิ่งแล้วยืนตรงตอบเขาอย่างกับทหารเจอครูฝึกอย่างงั้นแหละ "คุณเทียนสั่งไว้ว่าถ้านายมาแล้วให้ขึ้นไปหาที่ห้องทันที" เจสันพูด "รับทราบครับ" พายุตอบแล้วตะเบ๊ะใส่เจสันไปหนึ่งทีก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดไปหาเทียนที่ห้องนอนตามคคำสั่ง เจสันมองตามพายุด้วยสีหน้างงๆ "นี่มันคิดว่าตัวเองอยู่ในคค่ายทหารหรือไงว่ะ" เจสันพูดแล้วส่่ายหัวให้กับความเด๋อด๋าของพายุ ก๊อกๆๆ
"พี่ขอโทษนะ" หมิงรู้สึกผิดมากๆ เพราะจริงๆ ปูนปั้นเองก็เพิ่งมาดูแลร้านอาหารนี้ได้ไม่เท่าไหร่ ปูนปั้นยังมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้และปรับตัวอีกเยอะเพราะทุกอย่างมันใหม่ไปหมดสำหรับปูนปั้น ทุกครั้งที่พนักงานกลับบ้านกันหมดแล้วหมิงก็จะเห็นมีแต่ปูนปั้นเนี่ยแหละที่ยังอยู่ที่ร้านนั่งหน้าเครียดตรวจดูทุกอย่างเองคนเดียวทั้งหมดก่อนถึงจะกลับบ้าน ถึงจะบอกว่าเขาควรทำแบบนั้นในฐานะเจ้าของกิจการแต่มันก็หนักเกินไปจริงๆ สำหรับเด็กวัยรุ่นอย่างเขาเพราะนอกจากปัญหาที่ร้านจะมากมายก็ยังมีปัญหาพนักงานอีก ตอนที่หมิงมาทำงานแรกๆ เขามักจะได้ยินพนักงานแอบนินทาปูนปั้นอยู่บ่อยๆ พนักงานหลายคนไม่อต็มใจทำงานกับปูนปั้นแต่ที่ยังทนอยู่ก็เพราะที่ร้านของปูนปั้นให้เงินเดือนพนักงานสูงกว่าที่อื่นดังนั้นทุกคนจึงจำเป็นต้องอยู่ต่อเพื่อปากท้องของตัวเองแต่การทำงานก็ไม่ได้คุณภาพตามที่สมควรจะเป็น หมิงรู้สึกเห็นใจปูนปั้นมาตลอดเพราะปูนปั้นดีกับเขามากดังนั้นเขาเลยตั้งใจช่วยงานที่ร้านอย่างสุดความสามารถเพื่อตอบแทนที่ปูนปั้นเห็นใจรับเขาเข้ามาอยู่ที่ร้านแต่วันนี้เขากลับนำภัยมาให้ปูนปั้นซะงั้นและอีกเรื่องที่หมิงเป็นห่วงก็คือการที่ปูนปั้นต้องอยู่ท
"ทุกคนรออยู่แถวนี้นะถ้ามีอะไรให้รีบรายงานทันที" พายุออกคำสั่งให้บอดี้การ์ดทุกคนรออยู่บริเวณหน้างานและที่รถเพื่อดูความเรียบร้อยและป้องกันผู้แระสงค์แอบทำอะไรกับรถของเทียนหลังจากนั้นเขาก็รีบเดินตามเทียนเข้าไปในงาน"โอ้โห~คุณครับ...แน่ใจนะครับว่านี้แค่งานเลี้ยงต้อนรับลูกชายคุณไพบูลย์เฉยๆ ทำไมจัดใหญ่โตแถมเชิญแขกมามากมายขนาดนี้" พายุแอบกระซิบถามเทียนเบาๆ ด้วยความสงสันเพราะสเกลงานมันใหญ่มากจริงๆ แถมบุคคลที่มาร่วมงานก็มีแต่ตัวท็อปของแต่ละวงการทั้งนั้น"คุณไพบูลย์เป็นคนใหญ่คนโต มีอำนาจทางด้านการเงินไม่น้อยใครๆ ก็อยากผูกมิตรทั้งนั้น" เทียนตอบ"แล้วแบบนี้พวกเราควรจะเข้าไปหาคุณไพบูลย์ก่อนเลยไหมครับ" พายุถาม"ไม่ต้องหรอก พวกเรามาเป็นมารยาทไม่ได้มาเพื่อผูกสัมพันธ์การค้ากับใครและฉันก็เชื่อว่าต่อให้เราไม่เข้าหาใครมันก็จะมีคนอยากเข้าหาเราอยู่ดี" เทียนตอบแล้วกำลังจะเดินออกจากห้องโถงไปหาโต๊ะนั่งแต่จู่ๆ ก็มีใครบางคนมีเรียกเขาไว้ซะงั้น"คุณเทียนครับ" เสียงของผู้ชายคนนั้นทำให้เทียนหันไปกลับหาเขาทันทีด้วยความรู้สึกคุ้นหู"พี่บิ๊ก" พายุเรียกคนตรงหน้าด้ว
เทียนมาถึงโรงพยาบาลก็รีบตรงไปที่ห้องฉุกเฉินทันทีและเมื่อมาถึงเขาก็เห็นแม่ของตัวเองกำลังนั่งก้มหน้าร้องไห้โดยมีเจ๋งกับพายุยืนเฝ้าดูแลอยู่ข้าง ๆ "แม่" เทียนเรียกแล้วรีบเข้าไปหาแม่ทันที ดารินเองเมื่อได้ยินเสียงลูกชายก็รีบลุกขึ้นมาสวมกอด"หมอว่าไงบ้างครับ" เทียนถาม"ฮือ...ฮื้อ...อือ" "ยังไม่ออกมาเลยครับคุณเทียน" เจ๋งตอบแทนเมื่อเห็นว่าดารินเอาแต่ร้องไห้จนตอบอะไรเทียนไม่ได้"ใจเย็น ๆ นะครับแม่" เทียนพยายามปลอบแล้วใช้มือลูบหลังของดารินเบา ๆ "ฮึก...แม่...แม่ไม่เคยเห็นพ่อเป็นแบบนี้มาก่อนเลยเทียน...ฮือ...ฮื้อ" ดารินตอบ"แม่นั่งพักก่อนนะครับ" เทียนพูดแล้วพาดารินไปนั่งลงที่เดิมจากนั้นเขาก็หักไปมองหน้าพายุเพื่อส่งสัญญาณให้พายุเดินออกไปคุยกับเขา"ดูแลแม่ฉันดี ๆ " เทียนหันไปพูดกับเจ๋ง"ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบจากนั้นเทียนกับพายุก็เดินออกจากหน้าห้องฉุกเฉินไป"นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ ๆ พ่อฉันถึงเป็นแบบนี้" เทียนถาม"พี่เวกัสกับพี่เจสันกำลังตรวจสอบอยู่ครับ" พายุตอบ"ไหนนายลองเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้าที่พ่อฉันจะเป็นแบบนี้มาสิ" เทียนพูด"วันนี้หลังจากที่คุณหล่งกลับมาจากบ้านคุณมุกดาท่านก็ขังตัวเองทำงานอยู่
"โอ้โห~ หาวขนาดนี้มึงไปแดกกาแฟดีกว่าไหม" บอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าบ้านพักของเมฆทักบอดี้การ์ดอีกคนที่ยืนหาวติด ๆ กันมาหลายครั้งแล้ว"นี่เพิ่ง 4 ทุ่มกว่าเองทำไมผมง่วงแล้วว่ะพี่" "กูจะไปรู้มึงเหรอ เอ่อ! แต่จะว่าไปวันนี้กูก็รู้สึกง่วงแปลก ๆ นะ" "นั่นดิพี่ หาคนมาเปลี่ยนดีไหมผมกลัวผมเผลอหลับว่ะ" "มึงจะบ้าเหรอพวกเราเพิ่งจะผลัดเปลี่ยนกะกันไปเอง ใครเขาจะยอมมายืนแทนมึงเวลาเนี่ยอ่ะ" "แต่วันนี้บ้านใหญ่เงียบแปลก ๆ เนอะ" "เออว่ะ ปกติเดินกันให้วุ่นอย่างกับคนดีดยาทำไมวันนี้ไม่เห็นใครเลยว่ะ" "แปลก ๆ นะพี่ พวกเราไปดูกันหน่อยไหม" "ไปแล้วใครจะเฝ้าประตูว่ะ มึงไม่ต้องไปสนใจใครหรอกเอางานตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า""โธีพี่~ ไปแค่แป๊ปเดียวเองจะได้ไปหาอะไรมาไว้นั่งกินเล่นด้วย พี่ก็ดูดิล็อคแน่นหนาขนาดนี้ใครจะออกไปได้ต่อให้ไอ้คุณเมฆมันหายตัวได้จริงมันก็ยังหนีออกไปยากเลย" บอดี้การ์ดรุ่นพี่กำลังคิดตามคำพูดของรุ่นน้องคนสนิทอย่างลังเลใจเพราะตอนนี้เขาก็รู้สึกเบื่อเต็มทีที่ต้องมายืนประตูที่ปิดแน่นสนิทขนาดนี้"แต่ถ้าพี่เวกัสมาเดินลาดตระเวนแล้วไม่เจอคนเฝ้าที่นี่จะทำไงว่ะ" "พี่เวกัสเป็นคนของบ้านคุณหล่งเขาไม่ได้มาบ้านใหญ่ท
หลังจากที่เกรทเดินออกจากห้องไปเทียนก็รีบล้วงกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์ของเขาออกมาโทรหาปูนปั้นทันที"ครับลุง" ปูนปั้นพูด"อยู่ไหนอ่ะ" เทียนถาม"อยู่ที่ร้านครับ" ปูนปั้นตอบ"โอเคดีใช่ไหม" เทียนถาม"ครับ ลุงเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย" ปูนปั้นพูด"ไม่มีอะไรวันนี้ปิดร้านแล้วรีบกลับบ้านนะ" เทียนพูด"โอเคแค่นี้ก่อนนะ" ปูนปั้นตอบ"อืม" เทียนตอบจากนั้นทั้งคู่ก็วางสายไป"คุณเทียนกังวลเรื่องอะไรเหรอครับ" เจ๋งถาม"แค่รู้สึกไม่สบายใจเฉย ๆ น่ะ" เทียนตอบ"ผมว่าคุณเกรทเขาก็คงอยากจะปั่นหัวคุณเทียนเล่น ไม่มีอะไรหรอกครับ" เจ๋งพูด"ฉันรู้จักเกรทดี เขาเป็นที่แค้นฝังลึกมากและถ้าเขาไม่คิดว่าจะอะไรเลยก็คงไม่ลงแรงตามหาตัวปูนปั้นจนเจอแบบนี้หรอกไหนจะเรื่องที่บริษัทอีก เกรทกลับมาครั้งนี้ฉันคงต้องวางแผนรับมือดี ๆ หน่อยละ" เทียนตอบ"งั้นเดี๋ยวผมจะให้โอมคอยไปดูแลความเรียบร้อยแถวบริเวณร้านของคุณปูนปั้นให้นะครับ" เจ๋งพูด"ดี แต่อย่าให้ปูนปั้นหรือคนที่ร้านตกใจเป็นอันขาดนะ" เทียนตอบ"ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบ..ก๊อก ๆ ๆเสียงคนเคาะผนังบ้านน็อคดาวน์ของเมฆกดังมาจากข้างนอกซึ่งทำให้เมฆเลิกสนใจหนังสือการ์ตูนในมือแล้วขยับเข้าไปชิดกำแพ
กุ๊กไก่เห็นท่าทางไม่ประสาของธูปก็รู้สึกเอ็นดูมาก ๆ เพราะมันช่างต่างจากธูปที่ชอบเถียงเขาจนคอเป็นเอ็นที่ร้านมากเลย หลังจากขึ้นมานั่งบนรถทั้งคู่ก็ยังคงเกร็งกันอยู่ไม่น้อยแต่โดยรวมแล้วบรรยากาศมันมีความสุขมากกว่าความอึดอัดมาก "วันนี้พวกเราจะไปไหนกันเหรอ" กุ๊กไก่ถาม"ผมรู้มาว่าพี่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นก็เลยว่าจะพาไปทานโอมากะเสะร้านดังร้านนึงจองคิวยากมากแต่รับรองอร่อยแน่เพราะผมเห็นคนเขารีวิวกันเต็มเลยว่าระดับ 5 ดาว" ธูปตอบ"มันจะไม่แพงไปหน่อยเหรอ" กุ๊กไก่ถาม"ฮะ? อ๋อผมก็แค่อยากพาพี่ไปเลี้ยงของอร่อย ๆ ที่พี่ชอบก็แค่นั้นเอง" ธูปตอบ กุ๊กไก่มองไปรอบ ๆ ภายในรถแล้วก็หพยักหน้าออกมาเบา ๆ "ดูจากรถที่ขับแล้วอาหารมื้อนี้คงไม่แพงเกินไปสำหรับนายหรอกสินะ" กุ๊กไก่พูด ธูปอึ้งไม่น้อยที่อยู่ ๆ กุ๊กไก่ก็พูดกับเขาแบบนี้ในวันที่เขาเพิ่งจะชวนกุ๊กไก่ไปเดทครั้งแรกเลย"ถ้าพี่ไม่ชอบพวกเราไปทานอย่างอื่นก็ได้นะ" ธูปตอบ"ไม่ใช่ไม่ชอบแต่แค่เสียดายเงินอ่ะ" กุ๊กไก่พูด"ถ้างั้นเดี๋ยวผมจองร้านใหม่ให้ก็ได้ครับ" ธูปตอบแล้วยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาด้วยใบหน้าหงอย ๆ กุ๊กไก่ที่มองดูอยู่ก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองเผลอพลั้งปากพูดจา
หลังจากเช็คเอ้าค์ออกจากที่พักปูนปั้นก็ไม่สนใจเทียนอีกเลย เขาเอาแต่นั่งเงียบใส่หูฟังมาตลอดทั้งทางเหมือนต้องการปิดช่องทางการสนทนาของเขากับเทียนยังไงยังงั้น เทียนเแงก็รู้สึกแปลกนะแต่เขาก็พยายามคิดไปในทางที่ดีก็คือปูนปั้นอาจจะกำลังเครียดกับปัญหาที่ร้านอยู่เลยไม่อยากคุยอะไรตอนนี้มาถึงคอนโดเทียนก็ช่วยปูนปั้นเอากระเป๋าขึ้นมาเก็บบนห้องทันทีและเมื่อปูนปั้นเห็นว่าเทียนกำลังจะออกจากห้องเขาก็รีบเอ่ยถามด้วยความสงสัย"แล้วนี่ลุงจะไปไหนเหรอ" ปูนปั้นถาม"ฮะ! ไป...ไปบ้านน่ะ" เทียนตอบ"ไปบ้าน ไปทำไมเหรอ" ปูนปั้นถาม"ก็พี่ซื้อขนมกลับมาด้วยไงเลยอยากจะเอาไปฝากที่บ้านกับคุณย่าสักหน่อย" เทียนตอบ"ขนมอะไรทำไมผมไม่เห็นเห็นเลย" ปูนปั้นถาม"อยู่ที่เบาะหลังรถไง ไม่เห็นจริงเหรอ" เทียนพูด ความจริงแล้วเขากำลังโกหกปูนปั้นอยู่เพราะเขาก็ไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาจริง ๆ แต่ที่ต้องโกหกก็เพราะว่าเขากำลังจะออกไปเคลียร์ปัญหากับเกรทต่างหาก"งั้นผมขอติดรถลุงไปลงที่ร้านด้วยได้ป่ะ" ปูนปั้นถาม"พี่ว่าหนูเอารถตัวเองไปดีกว่านะเผื่ออยากกลับตอนไหนจะได้สะดวก พี่ไปก่อนนะ" เทียนพูดจบก็รีบชิ่งออกไปก่อนเลยเพราะกลัวจะหลุดโป๊ะต่อหน้าปูนปั้น"แ
เทียนเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำเห็นปูนปั้นกำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่จึงเดินเข้าไปหา"ทำอะไรอยู่เหรอ" เทียนถาม"อ่อ ผมกำลังดูรูปของเราสองคนที่ถ่ายด้วยกันวันนี้อยู่น่ะครับ" ปูนปั้นตอบ"อ๋อ" เทียนตอบแล้วนั่งลงข้างปูนปั้นทำให้ปูนปั้นต้องวางโทรศัพท์แล้วขยับลุกไปช่วยเช็คผมให้เขาแทน"ความจริงลุงไม่จำเป็นต้องปิเครื่องก็ได้นะเผื่อมีธุระจริง ๆ จะได้ใช้" ปูนปั้นพูด"ก็พี่สัญญาไว้แล้วไงว่าอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์พี่จะให้เวลาหนูแค่คนเดียวส่วนเรื่องงานกลับไปค่อยทำทีหลังก็ได้อีกอย่างมีเจ๋งกับพ่อพี่คอยดูแลอยู่มันไม่มีปัญหาอะไรหรอก" เทียนตอบ"ผมก็แค่บอกเฉย ๆ ผมไม่อยากให้ลุงรู้สึกว่าผมเอาแต่ใจเกินไปจนลุงต้องยอมทำเพื่อผมขนาดนี้" ปูนปั้นพูด"พี่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น" เทียนตอบแล้วหมุนตัวหันไปหาปูนปั้น"หนูเป็นไรเนี่ย" เทียนถาม"เปล่า ผมไม่ได้เป็นไร" ปูนปั้นตอบ"งั้นก็ไม่ต้องคิดมากเข้าใจไหม" เทียนพูด"ครับ" ปูนปั้นตอบด้วยรอยยิ้มจากนนั้นเทียนก็ยื่นหน้าเข้าไปจูบบนริมฝีปากของปูนปั้น ปูนปั้นเองเริ่มจูบตอบเทียนตามแรงชักนำของเทียนจากนั้นเทียนก็ค่อย ๆ ดันให้ปูนปั้นนอนลงบนเตียงดี ๆ แล้วซุกไซร้ไปทั่วคอทั้งสองข้างของปู
01:13 น.เทียนเปิดประตูเข้ามาด้วยสภาพอิดโรยเพราะทั้งดื่มทั้งเหนื่อยจากการทำงาน เขาคลำหาสวิตช์ไฟเพราะวันนี้ปูนปั้นดังไฟหมดทุกดวงเลยแต่เมื่อไฟสว่างขึ้นภาพตรงหน้าก็ทำเอาเทียนสตั๊นไปเลย เขาอึ้งกับภาพตรงหน้าขาก้าวขาไม่ออกเพราะรอบห้องเต็มไปด้วยลูกโป่งสีชมพูฟ้าบนนั้นมีข้อความแสดงความยินดีกับวันเกิดของเขาด้วยแถมข้างหน้ายังมีอาหารวางเต็มโต๊ะไปหมดพร้อมกับเค้กก้อนนึงซึ่งดูก็รู้ว่าไม่มีทางซื้อมาแน่ ๆ เพราะการตกแต่งของมันดูไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ เทียนมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างรู้สึกผิดก่อนจะก้าวขามาดูสิ่งที่ปูนปั้นตั้งใจทำไว้ให้ช้า ๆ ตอนนี้ในใจของเขารู้สึกเจ็บปวดมากและคิดว่าปูนปั้นเองคงเจ็บปวดไม่น้อย"เห้อ~" เทียนเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วนั่งลงที่เตียงเบา ๆ เื่อไม่ให้รบกวนการนอนของปูนปั้น เขายื่นมือไปเปิดโคมไฟตรงหัวเตียงเพื่อมองดูใบหน้าของปูนปั้นชัด ๆ"พี่ขอโทษนะครับ" เทียนพูดออกมาเบา ๆ แล้วก้มลงไปจุ๊บที่หน้าผากของปูนปั้นทำให้เขารู้สึกตัวทันทีแล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา"กลับมาแล้วเหรอ" ปูนปั้นถาม"ครับ" เทียนตอบ"เหนื่อยไหม" ปูนปั้นแม้จะรู้สึกง่ววจนแทบไม่อยากจะลืมตาแต่เขาก็เลือกที่จะถามไถ่เทียนก่อน"ไม่เหนื่อยคร
16:00 น."วันนี้ดูมีความสุขจังเลยนะครับคุณเทียน" เจ๋งเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าเจ้านายของเขาเอาแต่นั่งอมยิ้มมาตลอดทั้งทาง"ไม่อารมณ์ดีได้ไงวันนี้วันเกิดฉันนะ" เทียนตอบ"อ๋อ~ ถึงว่าสิทำไมให้ผมไปสั่งอาหารไว้ให้ตั้งเยอะตั้งแยะที่แท้ก็จะกลับไปฉลองวันเกิดกับคุณปูนปั้นนี่เอง" เจ๋งพูด"นายว่าปูนปั้นจะตกใจไหมที่ฉันสั่งเค้กกับอาหารไปฉลองให้ตัวเอง" เทียนถาม"ไม่หรอกครับ ผมว่าคุณปูนปั้นอาจจะเสียใจมากกว่าที่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณเทียนและไม่ได้เตรียมอะไรพิเศษไว้ให้" เจ๋งตอบ"ทำไมต้องเสียใจด้วยอ่ะ ฉันไม่เคยอยากได้อะไรจากปูนปั้นอยู่แล้ว" เทียนตอบตืด ตืด ตืดเทียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายจากที่บ้าน"เทียน~ สุขสันต์วันเกิดนะลูก" ดารินพูด"ขอบคุณครับแม่" เทียนตอบ“รีบมาที่บ้านเร็วแม่มีของจะให้" ดารินพูด"เอ่อ~ไว้เข้าไปพรุ่งนี้ได้ไหมครับ" เทียนถาม"ไม่ได้ พวกคุณย่าก็อยู่ท่านอยากอวยพรเทียนวันนี้ รีบมานะลูกพูดคุยรับของขวัญจากผู้ใหญ่แป๊ปเดียวเอง" ดารินตอบ"ได้ครับ" เทียนตอบด้วยน้ำเสียงอ่อย ๆ แล้ววางสายไป"ไปที่บ้าน" เทียนบอกเจ๋ง"แล้วไม่ไปฉลองกับคุณปูนปั้นแล้วเหรอครับ" เจ๋งถาม"อยู่สักทุ่มนึงค่อยกลับก็ได้
ณ ห้องอาหารส่วนตัวที่ร้านแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง"นึกยังไงถึงชวนเรามาทานข้าวเนี่ย" เกรทถาม หลังจากที่ได้รับของขวัญจากเกรทเทียนก็รู้สึกไม่สบายใจเอามาก ๆ จึงอยากนัดเกรทมาคุยด้วย"เราอยากเคลียร์เรื่องของพวกเราให้มันจบ ๆ น่ะ" เทียนตอบ"เรื่องอะไร" เกรทถาม"เรื่องที่เราบอกเลิกเกรทวันนั้น" เทียนตอบ สีหน้าของเกรทเปลี่ยนไปทันทีจากตอนแรกที่ดูยิ้ม ๆ อยู่"มันก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าเทียนไม่ได้เลือกเรา" เกรทพูด"มันไม่ใช่แบบนั้นนะเกรท ที่เราบอกเลิกเกรทเป็นเพราะเราไม่อยากให้เกรทต้องมาเดือดร้อนเพราะเรา เกรทก็รู้ว่ายังไงซะคุณปู่เราก็รับเรื่องนี้ไม่ได้และถ้าเราฝืนคบกับเกรทต่อ ป่านนี้เกรทอาจไม่มีใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนตอนนี้ก็ได้" เทียนตอบ"แล้วเทียนรู้ได้ไงว่าตอนนี้เรามีความสุข" เกรทถาม เทียนรู้สึกจุกจนหน้าชาไปเลย"เทียนบอกว่าปู่รับเรื่องของเราสองคนไม่ได้ใช่ป่ะ งั้นตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้วทำไมเทียนถึงไม่กลับมาหาเรา...หรือว่าตอนนี้เทียนเริ่มต้นใหม่ไปแล้ว" เกรทถาม เทียนก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด"เห็นป่ะ เทียนไม่ได้เลือกเราเว้ย เทียนทำใจบอกเลิกเราได้โดยไม่สนเลยว่าตอนนั้นเราจะเสียใจแค่ไหน เรารอเทียน