"ช้าๆ ระวังเท้าด้วยสิ" ปูนปั้นพพูด เขาประคองเทียนเข้ามาในห้องนอนของตัวเองแล้วทิ้งคนตัวใหญ่ลงเตียงอย่างแรง
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ปูนปั้นหอบหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยเพราะน้ำหนักตัวของเทียนไม่ใช่เล่นๆ เลย ปูนปั้นมองดูเทียนแล้วยกมือขึ้นมาเกาหัวด้วยความสับสน "หางานให้ตัวเองแท้ๆ เลยไอ้ปูนปั้นเอ้ย~" ปูนปั้นพูดแล้วหันหลังจะเดินกลับไปแต่เทียนก็คว้าข้อมือของเขาไว้ก่อนจนปูนปั้นต้องหันกลับมาหาเขา "อย่าทิ้งผมไป...อย่าทิ้งผมไปเลยนะครับปู่" เทียนพูดเจ้อออกมาเบาๆ ปูนปั้นแกะมือของเขาออกแล้วมองเขาด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย "ปู่ที่ไหนล่ะ นี่ปูนปั้นจ้า ชิส์!" พูดจบปูนปั้นก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเขาไปอาบน้ำทันที ผลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วปูนปั้นก็เดินเช็คผมออกมา เขามองไปที่เทียนอีกครั้งด้วยความรู้สึกแปลกๆ อาจเป็นเพราะปกติไม่เคยมีใครเข้ามาอยู่ในห้องนอนด้วยกันกับเขามันก็เลยทำให้เขาทำตัวไม่ถูก ปูนปั้นเดินออกจากห้องไปหยิบโถใส่น้ำกับผ้าเช็คตัวผืนเล็กๆ เข้ามาวางไว้ที่ตู้ข้างเตียงก่อนจะนั่งลงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเทียนออก ตอนที่เทียนล้มทับตัวเขาตอนนั้นเขาก็รู้สึกได้แล้วว่าอุณภูมิร่างกายของเทียนสูงผิดปกติแบบหน้าตาก็อิดโรยกว่าวันแรกที่เจอกันซะอีก ปูนปั้นก็เลยพอจะเดาได้ว่าเทียนไม่สบายดังนั้นเลยเลยจะช่วยเช็คตัวให้สักหน่อยเผื่อว่าตื่นมาแล้วเจ้าตัวจะรู้สึกดีขึ้น (หืม~ หุ่นดีมาก) ปูนปั้นคิดแล้วค่อยๆ เลื่อนสายตามองไปที่ใบหน้าของเทียน "หน้าตาก็ดีนะ~ วันนั้นมัวแต่หงุดหงิดจนไม่ทันได้สังเกตดีๆ แม้ว่าวันนี้จะดูโทรมไปหน่อยแต่ก็ถือว่าใช้ได้เลย...ฮึ~" ปูนปั้นพูดแล้วยิ้มออกมา เขาเอื้อมมือไปบิดผ้าแล้วนำมาเช็คให้เทียนเบาๆ ทั้งใบหน้าและลำตัว ตึก ตึก ตึก (เสียงหัวใจ) ปูนปั้นรู้สึกใจเต้นขึ้นมาหลังจากได้มองหน้าเทียนใกล้ๆ เขาจึงรีบถอยออกแล้วลุจากเตียงทันที ปูนปั้นไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่สถานการณ์แบบนี้มันอันตรายมากเกินไปสำหรับเขา เขารีบเอาผ้าห่มมาคลุกให้เทียนและหยิบโถน้ำกับผ้าขนหนูแล้วออกจากห้องนี้ไปทันที "เราแค่ไม่เคยอยู่ในห้องกับผู้ชายสองต่อสอง...ไม่มีอะไรหรอก" ปูนปั้นพูดแล้วเป่าลมหายใจออกมาช้าๆ เพื่อสลัดความคิดไม่ดีออกจากหัวของตัวเองและนี่ก็เป็นอีกวันที่เขาต้องนอนอยู่ที่โซฟาอีกแล้ว 11:23 น. เทียนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆ เขารู้สึกมึนงงนิดหน่อยที่ตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแต่ก็ไม่ได้ตื่นตูมเท่าไหร่ เขาลุกขึ้นมานั่งช้าๆ แล้วบิดตัวนิดหน่อยเพื่อยืดเส้นยืดสาย ตอนนี้ร่างกายของเทียนใส่แค่กางเกงอยู่เท่านั้นส่วนเสื้อของเขาถูกบาดไว้กับเก้าอี็ตัวนึงตรงมุมห้อง "มาอยู่นี่ได้ไงว่ะเนี่ย" เทียนพูดแล้ว เขาเงยหน้ามองไปรอบๆ ห้องอีกครั้งแล้วก็ไปสะดุดตากับกรอบรูปบนตู้ข้างเตียง เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบมันมาดูใกล้ๆ "ปูนปั้นเหรอ" เทียนพูดออกมาเบาๆ ด้วยความตกใจ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าสถานที่ที่เขามานอนอยู่ทั้งคืนนี้คือห้องของปูนปั้น เขาจำได้ว่าเมื่อคืนนี้เขาตั้งใจจะไปหาหมิงที่ร้านแต่ก็ไปไม่ทัน ตอนนั้นเขาเห็นภาพของปูนปั้นลางๆ แต่จู่ๆ ทุกอย่างก็ตัดไปจนเขาตื่นขึ้นมาอยู่ในสภาพนี้แล้ว "เขาพาฉันกลับมาที่นี่เหรอ" เทียนพูดแล้วมองไปที่รูปภาพของปูนปั้นอีกครั้ง พอเริ่มประมวลผลทุกอย่างได้รอยยิ้มเล็กๆ ก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา "ฮึ~" เขายิ้มแล้วเอากรอบรูปไปวางไว้ที่เดิมจากนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียงเดินออกไปข้างนอกทันที เทียนเดินออกมางงแล้วมองไปทั่วทั้งบ้านแต่ก็ไม่เจอปูนปั้น เขาเดินหาปูนปั้นไปทุกที่รวมทั้งแอบสำรวจบ้านหลังนี้ไปในตัว บ้านไม่ได้ใหญ่มากมีขนาดสองชั้น ไม่มีคนรับใช้ เงียบสงบอย่างกับไม่มีคนอยู่ เทียนเดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อมองออกไปข้างนอกว่ามีคนไหมแต่ก็ไม่เห็นใครอยู่ดี "บรรยากาศดีจัง" เทียนพูด บริเวณรอบตัวบ้านของปูนปั้นมีต้นไม้และดอกไม้เต็มไปหมดเพราะเอมม่าชอบทำสวนมากๆ หลังจากดูแล้วไม่เห็นใครเทียนจึงเดินลงมาที่ชั้นล่างระหว่างทางเดินขิงบันไดมีกรอบรูปห้อยอยู่เต็มไปหมดและส่วนใหญ่ก็เป็นรูปครอบครัวทั้งนั้น เทียนก็เริ่มได้ยินเสียงก๊อกแก๊กดังอยู่ไม่ไกลเขาจึงค่อยๆ เดินตามเสียงนั้นไป (หอมจัง) กลิ่นอาหารหอมโชยออกมาจนแตะจมูกของเทียน ช่างเป็นกลิ่นที่แค่สูดดมก็รับรู้ได้เลยว่าอาหารจานนี้ต้องอร่อยอย่างแน่นอนและเมื่อมาถึงเทีียนก็เห็นภาพด้านหลังของปูนปั้นที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ วันนี้เขาใส่เสื้อยืดสีพื้นกับกางเกงขาสั้นธรรมดาๆ เท่านั้นแต่ดูมีเสน่ห์กว่าชุดเชฟเมื่อวันแรกที่เขาได้เจอกันซะอีก "คุณตื่นแล้วเหรอ" ปูนปั้นเอ่ยถามทันทียังไม่ได้หันกลับมาดูทำเอาเทียนขนลุกจนหุบยิ้มทันที "อ่อ~ตื่นแล้ว" เทียนตอบ "แปรงวางอยู่บนโต๊ะน่ะ คุณเอาไปใช้ได้เลย" ปูนปั้นพูด เทียนหันไปดูที่โต๊ะกินข้าวก็เห็นถุงพลาสติกกับแปรงอันใหม่ที่ยังไม่ได้แกะวางไว้อยู่เขาเลยเดินเข้าไปหยิบซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ปูนปั้นหันมาพอดี "ฮึ้ย~" ปูนปั้นอุทานออกมาด้วยความตกใจเพราะเทียนเดินออกมาจากห้องทั้งที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อเลย เขาจึงรีบหันกลับไปทันที "จะออกจากห้องทำไมไม่รู้จักแต่งตัวให้เรียบร้อยล่ะ" เทียนพูด "นายเป็นคนถอดให้ฉันไม่ใช่เหรอ จะเขินทำไม" เทียนตอบ "คุณรีบไปล้างหน้าได้แล้วไปจะได้ลงมาทานข้าวเดี๋ยวผมต้องไปทำธุระต่ออีก" ปูนปั้นพูด "โอเค" เทียนตอบแล้วก็เดินออกไป ปูนปั้นหันมาดูช้าๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเทียนเดินออกไปแล้วจริงๆ พอเห็นว่าไม่มีใครเขาก็ถอนหายใจออกมาทันที ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ปูนปั้นนั่งทานอาหารเช้าแล้วรู้สึกเกร็งมากขนาดนี้เพราะว่าคนตรงหน้าของเขาเอาแต่มองเขาไม่หยุดเลย "จะเลิกจ้องผมได้หรือยังลุง" ปูนปั้นวางช้อนแล้วเงยหน้าขึ้นมาถามเขา ฉึก! คำว่าลุงจากปูนปั้นมันเจ็บมากเหมือนหัวใจที่ถูกมีดแทง "ระ เรียกลุงเลยเหรอ" เทียนถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เกิดมาชาตินี้ยังไม่เคยมีใครเรียกเขาว่าลุงสักที "ก็ถ้าลุงเป็นเพื่อนพี่หมิงจริงๆ ลุงก็อายุมากกว่าผมตั้ง 12 ปีเลยนะ" ปูนปั้นตอบแล้วก็เริ่มทานอาหารต่อ "แล้วทำไมทีไอ้หมิงถึงเรียกพี่ได้ล่ะ"เทียนถามหยั่งเชิงดูเพราะในใจเขาตอนนี้แอบคิดไปแล้วว่าจริงปูนปั้นอาจจะแอบชอบหมิงอยู่ก็ได้ "ก็เพราะพี่หมิงเขายังไม่แก่ไง" ปูนปั้นตอบ "แล้วฉันแก่เหรอ" เทียนถามอย่างหงุดหงิด "ก็แก่กว่าอ่ะ ยิ่งสภาพลุงเมื่อคืนอ่ะนะยิ่งดูไม่ได้กว่าคนแก่อีก...อีกอย่างนะลุงถ้าลุงไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะขับรถทีหลังอย่าจับพวกมาลัยอีก!" ปูนปั้นตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่พอใจมากๆ สีหน้าของเขาเองก็ดูจะโกรธเทียนไม่น้อยจนเทียนเองยังสงสัยเลยว่าทำไมปูนปั้นต้องไม่พอใจเขาขนาดนี้ด้วย "ไม่เห็นต้องดุขนาดนี้เลย" เทียนตอบ ปูนปั้นเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอทำกิริยาที่ไม่ดีกับเทียนเลยแสร้งทำเป็นไม่สนใจแล้วทานข้าวต่อ "เป็นห่วงฉันมากเลยดิ" เทียนถาม "ผมเป็นห่วงคนที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกันลุงมากกว่า" ปูนปั้นตอบ "ดุจังอ่ะ~ดุแบบนี้มีแฟนหรือยังนะ" เทียนถาม ปูนปั้นหยุดทานข้าวทันทีแล้วเงยหน้ามามองเทียนช้าๆ ซึ่งเขาเองก็จ้องปูนปั้นพร้อมกับยิ้มที่มุมปากอยู่ ปูนปั้นลุกขึ้นแล้วเก็บถ้วยชามทำทันทีโดยไม่พูดอะไรสักคำ "อ้าว~ฉันเพิ่งกินไปไม่กี่คำเองนะ" เทียนพูด "แต่ผมอิ่มแล้ว" ปูนปั้นตอบ "ก็รอหน่อยไม่ได้เหรอ" เทียนถาม ปูนปั้นเดินมายกจานข้าวเทียนแล้วมองหน้าเขาด้วยสายตาเย็นชา "ตอนให้กินก็เอาแต่พูดไร้สาระงั้นก็กลับไปหากินเองที่บ้านแล้วกัน" ปูนปั้นตอบแล้วเดินเอาข้าวของเทียนไปเททิ้งต่อหน้าต่อตาเขาเลย เทียนลุกขึ้นเดินไปหาปูนปั้นที่กำลังล้างจานอยู่แล้วนั่งจ้องเขาตรงหน้าเคาน์เตอร์ครัว ปูนปั้นถอนหายใจแล้วล้างจานต่อไปด้วยความรำคาญ "นายอยู่บ้านนี้คนเดียวเหรอ" เทียนถาม "ทำไม ลุงจะย้ายมาอยู่ด้วยเหรอ" ปูนปั้นถาม "ได้หรอ" เทียนเด้งตัวขึ้นมาตอบทันควันด้วยสายตาที่เป็นประกาย "ประชด" ปูนปั้นตอบ ปูนปั้นแม้จะยังเด็กแต่เขาก็พอจะรู้ตัวอยู่ว่าเทียนสนใจในตัวเขาแต่เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนแบบเทียนจะคิดอะไรจริงจังดังนั้นเขาจะไม่เอาใจลงไปเล่นเด็ดขาด "นายยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะว่ามีแฟนหรือยัง" เทียนถาม "ไม่มี" ปูนปั้นตอบ "ก็ดี~ว่าแต่คนในบ้านไปไหนกันหมดอ่ะ" เทียนถาม "เมื่อก่อนมีพี่สาวอยู่ด้วยแต่ว่าตอนนี้เธอย้ายไปอยู่กับแฟนชั่วคราวน่ะที่นี่ก็เลยมีผมอยู่แค่คนเดียว" ปูนปั้นตอบ "ทีหลังถ้าใครถามแบบนี้อย่าตอบตรงๆ อีกนะบอกคนแปลกหน้าว่าอยู่บ้านคนเกียวมันอันตรายรู้ไหม" เทียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ก็ลุงเป็นเพื่อนพี่หมิงไม่ใช่เหรอ...หรือลุงคิดไม่ดีกับผม" ปูนปั้นถาม "ฉันก็แค่เป็นห่วง~" เทียนตอบ แววตาและน้ำเสียงที่ดูเปลี่ยนไปของเทียนทำเอาปูนปั้นนิ่งไปเลย เขาไม่คิดว่าเทียนจะจริงจังขนาดนี้ก็เลยพูดออกไปแบบติดเล่น "อ๋อ" ปูนปั้นตอบแล้วหันกลับไปล้างจานต่อ หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้วปูนปั้นก็เตรียมตัวออกจากบ้านพร้อมกับเทียนเพราะรถของเทียนยังจอดอยู่ที่ร้านเขาจึงจำเป็นต้องให้เทียนติดรถไปลงที่ร้านด้วย "ร้านเปิด 5 โมงไม่ใช่เหรอนี่พึ่งจะบ่าย 2 เองต้องรีบไปขนาดนั้นเลย" เทียนถามอย่างเสียดาย "ร้านเปิด 5 โมงก็จริงแต่ก็ต้องไปเตรียมเปิดร้านก่อนอยู่ดีป่ะ" เทียนตอบแล้วกดรีโมทปลดล็อครถ "ก็ให้พนักงานเปิดไปสิเจ้าของร้านจะไปเปิดเองทำไม" เทียนพูด "ไม่ลงมือทำเองแล้วจะเข้าใจทุกอย่างได้ไง" ปูนปั้นตอบแล้วก็เข้าไปนั่งในรถ คำนี้ของปูนปั้นมันทำให้เทียนสตั๊นไปทันทีเพราะคุณปู่ของเขาก็เคยใช้คำนี้กับเขาตอนนี้เขาเริ่มเรียนรู้งานที่บ้านเหมือนกัน ปูนปั้นเห็นเทียนไม่ขึ้นรถมาสักทีจึงลดกระจกลง "จะไปไหมถ้าไม่ขึ้นจะไม่รอแล้วนะ" ปูนปั้นพูด "ฮะ? อ้อไปๆ" เทียนตอบแล้วรีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างปูนปั้นเมื่อมาถึงร้านเทียนก็รีบเดินไปที่รถของเขาทันที"ซี๊ด!..." เขาร้องออกมาทันทีที่ใช้มือแตะหลังคารถพร้อมกับรีบชักมือกลับเพราะตอนนี้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนอนตากแดดมาหลายชั่วโมงแล้ว"โธ่~ตัวร้อนจี๋เลยลูกไว้กลับบ้ทนพ่อเปิดแอร์ให้นอนฉ่ำๆ เลยนะ" เทียนพูดกับรถเบาๆ ปูนปั้นเดินตามมาทีหลังก็ถึงกับส่ายหัวให้ความโอเว่อร์ของเทียนทันที เขาเดินล้วงหากุญแจเปิดร้านในกระเป๋าจนมาหยุดอยู่หน้าประตูร้านทันที"เจอแล้ว" ปูนปั้นพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมามองร้านของตัวเองแต่เขาก็ต้องตกใจ"เฮ้ย!" ทันทีที่เทียนได้ยินเสียงของปูนปั้นเขาก็รีบหันไปหาปูนปั้นด้วยความเป็นห่วงแต่ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าคือร้านของปูนปั้นถูกพ่นสีสเปรย์เขียนคำหยาบคายไว้เต็มไปหมด ตอนนี้ปูนปั้นเองก็ช็อคไม่ต่างกันเงยหน้ามองแล้วอ่านคำด้าท่อพวกนี้ทั้งหมดด้วยความโมโหและสับสน เทียนเดินเข้าไปหาปูนปั้นใกล้ๆ เพื่อดูปฏิกิริยาของเขาว่าโอเคหรือเปล่า"รู้ไหมว่าใครทำ" เทียนถาม ปูนปั้นส่ายหน้าตอบว่าไม่รู้ "เข้าไปตรวจดูข้างในก่อนเถอะว่ามีอะไรหายไปไหม" เทียนพูด ปูนปั้นหันมามองหน้าเขาด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจที่เขายังอยู่เป็นเพื่อน จากนั้นเขาก็ไขกุญแจเปิดร้านทันทีซึ่งสภาพภายใ
"คุณเทียนมีเรื่องอะไรอยากจะคุยกับผมหรอครับ" พายุถาม"ฉันมีคนรู้จักอยู่คนนึงเขาเป็นเจ้าร้านที่นี่" เทียนตอบแล้วยื่นโทรศัพท์ให้พายุดูซึ่งมันเป็นรูปหน้าร้านของปูนปั้นที่มีทั้งตอนปกติและตอนที่เกิดปัญหา"ร้าน Happy Time หรอครับ" พายุพูด"นายรู้จักเหรอ" เทียนถาม"ครับ ผมเคยไปหาเพื่อนแถวนั้นอยู่ 2-3 ครั้งแต่ไม่เคยเข้าไปทานหรอกนะครับ" พายุตอบ"ตอนนี้ที่นี่กำลังถูกคุกคาม มีคนเอาสีสเปรย์ไปพ่นที่หน้าร้านนี้จนดูไม่ได้ ฉันอยากให้นายไปสืบมาหน่อยว่าใครเป็นคนทำแต่นายห้ามบอกเรื่องนี้ให้คนที่บ้านรู้เด็ดขาด เข้าใจไหม" เทียนพูด"ได้ครับคุณเทียน" พายุตอบ"นายสามารถเอาคนไปใช้ได้ 2-3 คนแต่ต้องกำชับพวกนั้นให้ดีว่าอย่าแพร่งพรายเรื่องนี้ไม่งั้นคนที่จะเดือดร้อนก็คือนายเอง" เทียนพูด"ครับ" พายุตอบ"นี่เป็นงานแรกที่ฉันมอบให้นายทำ...อย่าทำให้ฉันผิดหวังนะ" เทียนพูด"ผมจะทำให้เต็มที่ครับ...เอ่อ~ว่าแต่คุณเทียนมีเวลากำหนดให้ผมไหมครับ" พายุถาม "เร็วที่สุด" เทียนตอบ "ครับ" พายุตอบ"กลับไปพักผ่อนได้แล้วไปพรุ่งนี้จะได้มีแรงไปทำงานให้ฉัน" เทียนพูด"ได้เลยครับคุณเทียน รับรองพรุ่งนี้งานเดินผ่านฉลุยแน่นอน" พายุตอบแล้วยกนิ้ว
"พวกเราได้ภาพคนร้ายมาจากกล้องวงจรปิดน่ะครับ" บอดี้การ์ดคนที่หนึ่งตอบ "เป็นไปไม่ได้ คุณเทียนบอกผมมาแล้วว่ากล้องวงจรปิดที่ร้านมันเสียแล้วแบบนี้พวกคุณจะไปเอามาได้ยังไง" พายุพูด "พวกผมก็ไปเอามาจากบ้านของคนในระแวกไงครับ" บอดี้การ์ดคนที่หนึ่งตอบ "ใช่ครับ กล้องที่ร้านเสียพวกเราเลยไปไล่ขอคลิปจากกล้องวงจรปิดจากชาวบ้านแถวนี้แทนแล้วก็ให้ค่าตอบแทนพวกเขาไปนิดหน่อย ลองเอาภาพจากกล้องวงจรปิดของทุกบ้านมารวมกันก็พบเห็นชายต้องสงสัยที่ใส่ชุดดำทั้งตัวเดินออกมาจากทางร้าน Happy Time ช่วงเวลาประมาณตี 3 กว่าๆ จากนั้นเขาก็เดินเอาถุงอะไรบ้างอย่างไปทิ้งที่หน้าตึกร้างที่อยู่ห่างไปอีก 3 ซอยพอพวกเราไปตรวจสอบดูก็พบว่าในนั้นมีอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับพ่นสี ถุงมือ มีดและกระป๋องสเปรย์อีกจำนวนมากเลยครับอุปกรณ์" บอดี้การ์ดคนที่สองตอบ หน้าของพายุดูอึ้งไปทันทีเขาไม่คิดว่าทุกคนจะฉลาดกันขนาดนี้เพราะตัวเขาเองคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ถ้าสองคนนี้ไม่พบหลักฐานอะไรป่านนี้เขาก็ยังคงเดินไล่ถามชาวบ้านต่อไปเรื่อยๆ จนหมดวันแน่ "เหรอ~ แล้วรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร"
ตอนนี้พายุมพาคนร้ายมานึงอยู่ที่เก้าอี้แล้วดึงผ้าคลุมสีดำออก "ต้องปิดปากเขาไว้ด้วยเหรอ" ปูนปั้นถามเพราะเห็นว่ามีเทปปิดปากของเขาไว้อยู่ "ตลอดทางมานี้ไอ้นี่มันร้องโวยวายตลอดเลยครับ พวกผมรำคาญก็เลยเอาเทปแปะไว้ก่อน" พายุตอบ ปูนปั้นถอนห่ยใจออกมาแล้วเดินเข้าไปแกะเทปออกให้เขา "พวกคุณบ้าไปแล้วเหรอ! ประเทศนี้มันมีกฎหมายนะเว้ย คอยดูเถอะผมจะไปแจ้งตำรวจมาจับพวกคุณให้หมดเลย" ผู้ชายคนนั้นต่อว่าทุกคนออกมาอย่างเสียงดังโดยไม่มีความสำนึกอะไรเลย "คุณทำแบบนั้นทำไม" ปูนปั้นถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาโกรธมากนะยิ่งรู้ว่าคนที่อยู่ตรวหน้าเป็นคนมำให้ร้านของเขาเสียหายเขายิ่งรู้สึกโกรธแต่ด้วยความที่เขาอยากเจรจาสอบถามเหตุผลกับคนตรงนั้นเขาเลยต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้ก่อน "ผมทำอะไร" ชายคนนั้นตอบตาใสเหมือนกับตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ "คุณมาพ่นสีที่ร้านผมทำไม" ปูนปั้นถาม สีหน้าของเขาดูตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะหลบตาปูนปั้น "ผมสีอะไร~ ผมไม่ได้" คนร้ายยังคงปฏิเสธทุกอย่างอย่างหน้าตาเฉย "ไม่ได้ทำบ้าอะไร คิดว
"น่าหงุดหงิดจริงๆ" เทียนขับรถกลับบ้านด้วยความน้อยใจ "ที่ฉันทำไปเพราะตัวเองหรือยังไง...ที่ทำไปก็เพราะหวังดีทั้งนั้น ถ้าไม่ชอบก็น่าจะบอกกันดีๆ สิทำไมต้องใส่อารมณ์ขนาดนั้นด้วย" เทียนนั่งบ่นคนเดียวตลอดทางอย่างกับคนบ้า เห็นใครขับรถปาดหรือขับรถไม่ดีก็ตะโกนด่าอยู่คนเดียวในรถตลอด ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ "ลั้ลลา ลั้ลลา~" พายุเดินเข้ามาในบ้านอย่างอารมณ์ดีเพราะว่าภารกิจแรกของเขาผ่านพ้นไปด้วยดีแม้จะไม่ใช่ฝีมือของเขาทั้งหมดก็เถอะ เจสันเห็นพายุเดินเข้ามบ้านมาก็รีบเดินมาหาเขาทันที "พายุ" เจสันเรียก "ครับ" พายุหยุดนิ่งแล้วยืนตรงตอบเขาอย่างกับทหารเจอครูฝึกอย่างงั้นแหละ "คุณเทียนสั่งไว้ว่าถ้านายมาแล้วให้ขึ้นไปหาที่ห้องทันที" เจสันพูด "รับทราบครับ" พายุตอบแล้วตะเบ๊ะใส่เจสันไปหนึ่งทีก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดไปหาเทียนที่ห้องนอนตามคคำสั่ง เจสันมองตามพายุด้วยสีหน้างงๆ "นี่มันคิดว่าตัวเองอยู่ในคค่ายทหารหรือไงว่ะ" เจสันพูดแล้วส่่ายหัวให้กับความเด๋อด๋าของพายุ ก๊อกๆๆ
"พี่ขอโทษนะ" หมิงรู้สึกผิดมากๆ เพราะจริงๆ ปูนปั้นเองก็เพิ่งมาดูแลร้านอาหารนี้ได้ไม่เท่าไหร่ ปูนปั้นยังมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้และปรับตัวอีกเยอะเพราะทุกอย่างมันใหม่ไปหมดสำหรับปูนปั้น ทุกครั้งที่พนักงานกลับบ้านกันหมดแล้วหมิงก็จะเห็นมีแต่ปูนปั้นเนี่ยแหละที่ยังอยู่ที่ร้านนั่งหน้าเครียดตรวจดูทุกอย่างเองคนเดียวทั้งหมดก่อนถึงจะกลับบ้าน ถึงจะบอกว่าเขาควรทำแบบนั้นในฐานะเจ้าของกิจการแต่มันก็หนักเกินไปจริงๆ สำหรับเด็กวัยรุ่นอย่างเขาเพราะนอกจากปัญหาที่ร้านจะมากมายก็ยังมีปัญหาพนักงานอีก ตอนที่หมิงมาทำงานแรกๆ เขามักจะได้ยินพนักงานแอบนินทาปูนปั้นอยู่บ่อยๆ พนักงานหลายคนไม่อต็มใจทำงานกับปูนปั้นแต่ที่ยังทนอยู่ก็เพราะที่ร้านของปูนปั้นให้เงินเดือนพนักงานสูงกว่าที่อื่นดังนั้นทุกคนจึงจำเป็นต้องอยู่ต่อเพื่อปากท้องของตัวเองแต่การทำงานก็ไม่ได้คุณภาพตามที่สมควรจะเป็น หมิงรู้สึกเห็นใจปูนปั้นมาตลอดเพราะปูนปั้นดีกับเขามากดังนั้นเขาเลยตั้งใจช่วยงานที่ร้านอย่างสุดความสามารถเพื่อตอบแทนที่ปูนปั้นเห็นใจรับเขาเข้ามาอยู่ที่ร้านแต่วันนี้เขากลับนำภัยมาให้ปูนปั้นซะงั้นและอีกเรื่องที่หมิงเป็นห่วงก็คือการที่ปูนปั้นต้องอยู่ท
"ทุกคนรออยู่แถวนี้นะถ้ามีอะไรให้รีบรายงานทันที" พายุออกคำสั่งให้บอดี้การ์ดทุกคนรออยู่บริเวณหน้างานและที่รถเพื่อดูความเรียบร้อยและป้องกันผู้แระสงค์แอบทำอะไรกับรถของเทียนหลังจากนั้นเขาก็รีบเดินตามเทียนเข้าไปในงาน"โอ้โห~คุณครับ...แน่ใจนะครับว่านี้แค่งานเลี้ยงต้อนรับลูกชายคุณไพบูลย์เฉยๆ ทำไมจัดใหญ่โตแถมเชิญแขกมามากมายขนาดนี้" พายุแอบกระซิบถามเทียนเบาๆ ด้วยความสงสันเพราะสเกลงานมันใหญ่มากจริงๆ แถมบุคคลที่มาร่วมงานก็มีแต่ตัวท็อปของแต่ละวงการทั้งนั้น"คุณไพบูลย์เป็นคนใหญ่คนโต มีอำนาจทางด้านการเงินไม่น้อยใครๆ ก็อยากผูกมิตรทั้งนั้น" เทียนตอบ"แล้วแบบนี้พวกเราควรจะเข้าไปหาคุณไพบูลย์ก่อนเลยไหมครับ" พายุถาม"ไม่ต้องหรอก พวกเรามาเป็นมารยาทไม่ได้มาเพื่อผูกสัมพันธ์การค้ากับใครและฉันก็เชื่อว่าต่อให้เราไม่เข้าหาใครมันก็จะมีคนอยากเข้าหาเราอยู่ดี" เทียนตอบแล้วกำลังจะเดินออกจากห้องโถงไปหาโต๊ะนั่งแต่จู่ๆ ก็มีใครบางคนมีเรียกเขาไว้ซะงั้น"คุณเทียนครับ" เสียงของผู้ชายคนนั้นทำให้เทียนหันไปกลับหาเขาทันทีด้วยความรู้สึกคุ้นหู"พี่บิ๊ก" พายุเรียกคนตรงหน้าด้ว
"เอ่อ~ตาเทียน" เอกแสร้งยิ้มแล้วหันไปหาเทียน"ครับ" เทียตอบ"อามีเรื่องงานที่อยากจะปรึกษาหน่อยน่ะ ออกไปคุยกันข้างนอกสักแป๊ปได้ไหม" เอกพูด"ตอนนี้เหรอครับ" เทียนถาม"ใช่" เอกตอบ"แหม่~คุณเอกค่ะนี้มันเวลาไหนแล้วเรื่องงานก็พักบ้างเถอะค่ะ" หญิงป่านนภาพูด"ใช่ครับ ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ผมไม่รีบหรอก" เทียนตอบเพราะเขาไม่อยากออกไปกับใครตามลำพังในช่วงเวลาที่ไม่ปลอดภัยแบบนี้แถมพายุก็ยังไม่กลับมา"พอดีพรุ่งนี้อากับอาเอกต้องไปธุระที่ต่างจังหวัดกันหลายวันก็เลยกลัวจะไม่มีเวลาน่ะจ๊ะ" เหมยหลินพูด"ครับ" เทียนจำใจต้องตอบตกลงไปก่อนเพราะกลัวคนอื่นจะสงสัยหาว่าสิริยากรมีปัญหาภายใน เทียนลุกขึ้นเดินตามเอกออกไปหาที่หลบมุมคุยกัน ผ่านไปไม่ถึงนาทีพายุก็เดินเข้ามาพร้อมกับมองหาเทียนไปทั่วแต่ก็ไม่เจอเลยเดินเข้าไปใกล้ๆ บิ๊กเพื่อสอบถามแต่ด้วยท่าทางยุกยิกๆ เหมือนเด็กน้อยของเขามันทำเอาเหมยหลินรำคาญไม่น้อยจนต้องหันไปถลึงตาใส่ด้วยความไม่พอใจ พายุรีบก้มหัวขอโทษเหมยหลินทันทีเธอจึงได้ยอมหันกลับไปแล้วไม่เอาเรื่อง"พี่บิ๊กๆ พี่เห็นคุณเทียนบ้างไหมอ่ะ"
เทียนมาถึงโรงพยาบาลก็รีบตรงไปที่ห้องฉุกเฉินทันทีและเมื่อมาถึงเขาก็เห็นแม่ของตัวเองกำลังนั่งก้มหน้าร้องไห้โดยมีเจ๋งกับพายุยืนเฝ้าดูแลอยู่ข้าง ๆ "แม่" เทียนเรียกแล้วรีบเข้าไปหาแม่ทันที ดารินเองเมื่อได้ยินเสียงลูกชายก็รีบลุกขึ้นมาสวมกอด"หมอว่าไงบ้างครับ" เทียนถาม"ฮือ...ฮื้อ...อือ" "ยังไม่ออกมาเลยครับคุณเทียน" เจ๋งตอบแทนเมื่อเห็นว่าดารินเอาแต่ร้องไห้จนตอบอะไรเทียนไม่ได้"ใจเย็น ๆ นะครับแม่" เทียนพยายามปลอบแล้วใช้มือลูบหลังของดารินเบา ๆ "ฮึก...แม่...แม่ไม่เคยเห็นพ่อเป็นแบบนี้มาก่อนเลยเทียน...ฮือ...ฮื้อ" ดารินตอบ"แม่นั่งพักก่อนนะครับ" เทียนพูดแล้วพาดารินไปนั่งลงที่เดิมจากนั้นเขาก็หักไปมองหน้าพายุเพื่อส่งสัญญาณให้พายุเดินออกไปคุยกับเขา"ดูแลแม่ฉันดี ๆ " เทียนหันไปพูดกับเจ๋ง"ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบจากนั้นเทียนกับพายุก็เดินออกจากหน้าห้องฉุกเฉินไป"นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ ๆ พ่อฉันถึงเป็นแบบนี้" เทียนถาม"พี่เวกัสกับพี่เจสันกำลังตรวจสอบอยู่ครับ" พายุตอบ"ไหนนายลองเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้าที่พ่อฉันจะเป็นแบบนี้มาสิ" เทียนพูด"วันนี้หลังจากที่คุณหล่งกลับมาจากบ้านคุณมุกดาท่านก็ขังตัวเองทำงานอยู่
"โอ้โห~ หาวขนาดนี้มึงไปแดกกาแฟดีกว่าไหม" บอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าบ้านพักของเมฆทักบอดี้การ์ดอีกคนที่ยืนหาวติด ๆ กันมาหลายครั้งแล้ว"นี่เพิ่ง 4 ทุ่มกว่าเองทำไมผมง่วงแล้วว่ะพี่" "กูจะไปรู้มึงเหรอ เอ่อ! แต่จะว่าไปวันนี้กูก็รู้สึกง่วงแปลก ๆ นะ" "นั่นดิพี่ หาคนมาเปลี่ยนดีไหมผมกลัวผมเผลอหลับว่ะ" "มึงจะบ้าเหรอพวกเราเพิ่งจะผลัดเปลี่ยนกะกันไปเอง ใครเขาจะยอมมายืนแทนมึงเวลาเนี่ยอ่ะ" "แต่วันนี้บ้านใหญ่เงียบแปลก ๆ เนอะ" "เออว่ะ ปกติเดินกันให้วุ่นอย่างกับคนดีดยาทำไมวันนี้ไม่เห็นใครเลยว่ะ" "แปลก ๆ นะพี่ พวกเราไปดูกันหน่อยไหม" "ไปแล้วใครจะเฝ้าประตูว่ะ มึงไม่ต้องไปสนใจใครหรอกเอางานตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า""โธีพี่~ ไปแค่แป๊ปเดียวเองจะได้ไปหาอะไรมาไว้นั่งกินเล่นด้วย พี่ก็ดูดิล็อคแน่นหนาขนาดนี้ใครจะออกไปได้ต่อให้ไอ้คุณเมฆมันหายตัวได้จริงมันก็ยังหนีออกไปยากเลย" บอดี้การ์ดรุ่นพี่กำลังคิดตามคำพูดของรุ่นน้องคนสนิทอย่างลังเลใจเพราะตอนนี้เขาก็รู้สึกเบื่อเต็มทีที่ต้องมายืนประตูที่ปิดแน่นสนิทขนาดนี้"แต่ถ้าพี่เวกัสมาเดินลาดตระเวนแล้วไม่เจอคนเฝ้าที่นี่จะทำไงว่ะ" "พี่เวกัสเป็นคนของบ้านคุณหล่งเขาไม่ได้มาบ้านใหญ่ท
หลังจากที่เกรทเดินออกจากห้องไปเทียนก็รีบล้วงกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์ของเขาออกมาโทรหาปูนปั้นทันที"ครับลุง" ปูนปั้นพูด"อยู่ไหนอ่ะ" เทียนถาม"อยู่ที่ร้านครับ" ปูนปั้นตอบ"โอเคดีใช่ไหม" เทียนถาม"ครับ ลุงเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย" ปูนปั้นพูด"ไม่มีอะไรวันนี้ปิดร้านแล้วรีบกลับบ้านนะ" เทียนพูด"โอเคแค่นี้ก่อนนะ" ปูนปั้นตอบ"อืม" เทียนตอบจากนั้นทั้งคู่ก็วางสายไป"คุณเทียนกังวลเรื่องอะไรเหรอครับ" เจ๋งถาม"แค่รู้สึกไม่สบายใจเฉย ๆ น่ะ" เทียนตอบ"ผมว่าคุณเกรทเขาก็คงอยากจะปั่นหัวคุณเทียนเล่น ไม่มีอะไรหรอกครับ" เจ๋งพูด"ฉันรู้จักเกรทดี เขาเป็นที่แค้นฝังลึกมากและถ้าเขาไม่คิดว่าจะอะไรเลยก็คงไม่ลงแรงตามหาตัวปูนปั้นจนเจอแบบนี้หรอกไหนจะเรื่องที่บริษัทอีก เกรทกลับมาครั้งนี้ฉันคงต้องวางแผนรับมือดี ๆ หน่อยละ" เทียนตอบ"งั้นเดี๋ยวผมจะให้โอมคอยไปดูแลความเรียบร้อยแถวบริเวณร้านของคุณปูนปั้นให้นะครับ" เจ๋งพูด"ดี แต่อย่าให้ปูนปั้นหรือคนที่ร้านตกใจเป็นอันขาดนะ" เทียนตอบ"ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบ..ก๊อก ๆ ๆเสียงคนเคาะผนังบ้านน็อคดาวน์ของเมฆกดังมาจากข้างนอกซึ่งทำให้เมฆเลิกสนใจหนังสือการ์ตูนในมือแล้วขยับเข้าไปชิดกำแพ
กุ๊กไก่เห็นท่าทางไม่ประสาของธูปก็รู้สึกเอ็นดูมาก ๆ เพราะมันช่างต่างจากธูปที่ชอบเถียงเขาจนคอเป็นเอ็นที่ร้านมากเลย หลังจากขึ้นมานั่งบนรถทั้งคู่ก็ยังคงเกร็งกันอยู่ไม่น้อยแต่โดยรวมแล้วบรรยากาศมันมีความสุขมากกว่าความอึดอัดมาก "วันนี้พวกเราจะไปไหนกันเหรอ" กุ๊กไก่ถาม"ผมรู้มาว่าพี่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นก็เลยว่าจะพาไปทานโอมากะเสะร้านดังร้านนึงจองคิวยากมากแต่รับรองอร่อยแน่เพราะผมเห็นคนเขารีวิวกันเต็มเลยว่าระดับ 5 ดาว" ธูปตอบ"มันจะไม่แพงไปหน่อยเหรอ" กุ๊กไก่ถาม"ฮะ? อ๋อผมก็แค่อยากพาพี่ไปเลี้ยงของอร่อย ๆ ที่พี่ชอบก็แค่นั้นเอง" ธูปตอบ กุ๊กไก่มองไปรอบ ๆ ภายในรถแล้วก็หพยักหน้าออกมาเบา ๆ "ดูจากรถที่ขับแล้วอาหารมื้อนี้คงไม่แพงเกินไปสำหรับนายหรอกสินะ" กุ๊กไก่พูด ธูปอึ้งไม่น้อยที่อยู่ ๆ กุ๊กไก่ก็พูดกับเขาแบบนี้ในวันที่เขาเพิ่งจะชวนกุ๊กไก่ไปเดทครั้งแรกเลย"ถ้าพี่ไม่ชอบพวกเราไปทานอย่างอื่นก็ได้นะ" ธูปตอบ"ไม่ใช่ไม่ชอบแต่แค่เสียดายเงินอ่ะ" กุ๊กไก่พูด"ถ้างั้นเดี๋ยวผมจองร้านใหม่ให้ก็ได้ครับ" ธูปตอบแล้วยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาด้วยใบหน้าหงอย ๆ กุ๊กไก่ที่มองดูอยู่ก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองเผลอพลั้งปากพูดจา
หลังจากเช็คเอ้าค์ออกจากที่พักปูนปั้นก็ไม่สนใจเทียนอีกเลย เขาเอาแต่นั่งเงียบใส่หูฟังมาตลอดทั้งทางเหมือนต้องการปิดช่องทางการสนทนาของเขากับเทียนยังไงยังงั้น เทียนเแงก็รู้สึกแปลกนะแต่เขาก็พยายามคิดไปในทางที่ดีก็คือปูนปั้นอาจจะกำลังเครียดกับปัญหาที่ร้านอยู่เลยไม่อยากคุยอะไรตอนนี้มาถึงคอนโดเทียนก็ช่วยปูนปั้นเอากระเป๋าขึ้นมาเก็บบนห้องทันทีและเมื่อปูนปั้นเห็นว่าเทียนกำลังจะออกจากห้องเขาก็รีบเอ่ยถามด้วยความสงสัย"แล้วนี่ลุงจะไปไหนเหรอ" ปูนปั้นถาม"ฮะ! ไป...ไปบ้านน่ะ" เทียนตอบ"ไปบ้าน ไปทำไมเหรอ" ปูนปั้นถาม"ก็พี่ซื้อขนมกลับมาด้วยไงเลยอยากจะเอาไปฝากที่บ้านกับคุณย่าสักหน่อย" เทียนตอบ"ขนมอะไรทำไมผมไม่เห็นเห็นเลย" ปูนปั้นถาม"อยู่ที่เบาะหลังรถไง ไม่เห็นจริงเหรอ" เทียนพูด ความจริงแล้วเขากำลังโกหกปูนปั้นอยู่เพราะเขาก็ไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาจริง ๆ แต่ที่ต้องโกหกก็เพราะว่าเขากำลังจะออกไปเคลียร์ปัญหากับเกรทต่างหาก"งั้นผมขอติดรถลุงไปลงที่ร้านด้วยได้ป่ะ" ปูนปั้นถาม"พี่ว่าหนูเอารถตัวเองไปดีกว่านะเผื่ออยากกลับตอนไหนจะได้สะดวก พี่ไปก่อนนะ" เทียนพูดจบก็รีบชิ่งออกไปก่อนเลยเพราะกลัวจะหลุดโป๊ะต่อหน้าปูนปั้น"แ
เทียนเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำเห็นปูนปั้นกำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่จึงเดินเข้าไปหา"ทำอะไรอยู่เหรอ" เทียนถาม"อ่อ ผมกำลังดูรูปของเราสองคนที่ถ่ายด้วยกันวันนี้อยู่น่ะครับ" ปูนปั้นตอบ"อ๋อ" เทียนตอบแล้วนั่งลงข้างปูนปั้นทำให้ปูนปั้นต้องวางโทรศัพท์แล้วขยับลุกไปช่วยเช็คผมให้เขาแทน"ความจริงลุงไม่จำเป็นต้องปิเครื่องก็ได้นะเผื่อมีธุระจริง ๆ จะได้ใช้" ปูนปั้นพูด"ก็พี่สัญญาไว้แล้วไงว่าอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์พี่จะให้เวลาหนูแค่คนเดียวส่วนเรื่องงานกลับไปค่อยทำทีหลังก็ได้อีกอย่างมีเจ๋งกับพ่อพี่คอยดูแลอยู่มันไม่มีปัญหาอะไรหรอก" เทียนตอบ"ผมก็แค่บอกเฉย ๆ ผมไม่อยากให้ลุงรู้สึกว่าผมเอาแต่ใจเกินไปจนลุงต้องยอมทำเพื่อผมขนาดนี้" ปูนปั้นพูด"พี่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น" เทียนตอบแล้วหมุนตัวหันไปหาปูนปั้น"หนูเป็นไรเนี่ย" เทียนถาม"เปล่า ผมไม่ได้เป็นไร" ปูนปั้นตอบ"งั้นก็ไม่ต้องคิดมากเข้าใจไหม" เทียนพูด"ครับ" ปูนปั้นตอบด้วยรอยยิ้มจากนนั้นเทียนก็ยื่นหน้าเข้าไปจูบบนริมฝีปากของปูนปั้น ปูนปั้นเองเริ่มจูบตอบเทียนตามแรงชักนำของเทียนจากนั้นเทียนก็ค่อย ๆ ดันให้ปูนปั้นนอนลงบนเตียงดี ๆ แล้วซุกไซร้ไปทั่วคอทั้งสองข้างของปู
01:13 น.เทียนเปิดประตูเข้ามาด้วยสภาพอิดโรยเพราะทั้งดื่มทั้งเหนื่อยจากการทำงาน เขาคลำหาสวิตช์ไฟเพราะวันนี้ปูนปั้นดังไฟหมดทุกดวงเลยแต่เมื่อไฟสว่างขึ้นภาพตรงหน้าก็ทำเอาเทียนสตั๊นไปเลย เขาอึ้งกับภาพตรงหน้าขาก้าวขาไม่ออกเพราะรอบห้องเต็มไปด้วยลูกโป่งสีชมพูฟ้าบนนั้นมีข้อความแสดงความยินดีกับวันเกิดของเขาด้วยแถมข้างหน้ายังมีอาหารวางเต็มโต๊ะไปหมดพร้อมกับเค้กก้อนนึงซึ่งดูก็รู้ว่าไม่มีทางซื้อมาแน่ ๆ เพราะการตกแต่งของมันดูไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ เทียนมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างรู้สึกผิดก่อนจะก้าวขามาดูสิ่งที่ปูนปั้นตั้งใจทำไว้ให้ช้า ๆ ตอนนี้ในใจของเขารู้สึกเจ็บปวดมากและคิดว่าปูนปั้นเองคงเจ็บปวดไม่น้อย"เห้อ~" เทียนเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วนั่งลงที่เตียงเบา ๆ เื่อไม่ให้รบกวนการนอนของปูนปั้น เขายื่นมือไปเปิดโคมไฟตรงหัวเตียงเพื่อมองดูใบหน้าของปูนปั้นชัด ๆ"พี่ขอโทษนะครับ" เทียนพูดออกมาเบา ๆ แล้วก้มลงไปจุ๊บที่หน้าผากของปูนปั้นทำให้เขารู้สึกตัวทันทีแล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา"กลับมาแล้วเหรอ" ปูนปั้นถาม"ครับ" เทียนตอบ"เหนื่อยไหม" ปูนปั้นแม้จะรู้สึกง่ววจนแทบไม่อยากจะลืมตาแต่เขาก็เลือกที่จะถามไถ่เทียนก่อน"ไม่เหนื่อยคร
16:00 น."วันนี้ดูมีความสุขจังเลยนะครับคุณเทียน" เจ๋งเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าเจ้านายของเขาเอาแต่นั่งอมยิ้มมาตลอดทั้งทาง"ไม่อารมณ์ดีได้ไงวันนี้วันเกิดฉันนะ" เทียนตอบ"อ๋อ~ ถึงว่าสิทำไมให้ผมไปสั่งอาหารไว้ให้ตั้งเยอะตั้งแยะที่แท้ก็จะกลับไปฉลองวันเกิดกับคุณปูนปั้นนี่เอง" เจ๋งพูด"นายว่าปูนปั้นจะตกใจไหมที่ฉันสั่งเค้กกับอาหารไปฉลองให้ตัวเอง" เทียนถาม"ไม่หรอกครับ ผมว่าคุณปูนปั้นอาจจะเสียใจมากกว่าที่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณเทียนและไม่ได้เตรียมอะไรพิเศษไว้ให้" เจ๋งตอบ"ทำไมต้องเสียใจด้วยอ่ะ ฉันไม่เคยอยากได้อะไรจากปูนปั้นอยู่แล้ว" เทียนตอบตืด ตืด ตืดเทียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายจากที่บ้าน"เทียน~ สุขสันต์วันเกิดนะลูก" ดารินพูด"ขอบคุณครับแม่" เทียนตอบ“รีบมาที่บ้านเร็วแม่มีของจะให้" ดารินพูด"เอ่อ~ไว้เข้าไปพรุ่งนี้ได้ไหมครับ" เทียนถาม"ไม่ได้ พวกคุณย่าก็อยู่ท่านอยากอวยพรเทียนวันนี้ รีบมานะลูกพูดคุยรับของขวัญจากผู้ใหญ่แป๊ปเดียวเอง" ดารินตอบ"ได้ครับ" เทียนตอบด้วยน้ำเสียงอ่อย ๆ แล้ววางสายไป"ไปที่บ้าน" เทียนบอกเจ๋ง"แล้วไม่ไปฉลองกับคุณปูนปั้นแล้วเหรอครับ" เจ๋งถาม"อยู่สักทุ่มนึงค่อยกลับก็ได้
ณ ห้องอาหารส่วนตัวที่ร้านแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง"นึกยังไงถึงชวนเรามาทานข้าวเนี่ย" เกรทถาม หลังจากที่ได้รับของขวัญจากเกรทเทียนก็รู้สึกไม่สบายใจเอามาก ๆ จึงอยากนัดเกรทมาคุยด้วย"เราอยากเคลียร์เรื่องของพวกเราให้มันจบ ๆ น่ะ" เทียนตอบ"เรื่องอะไร" เกรทถาม"เรื่องที่เราบอกเลิกเกรทวันนั้น" เทียนตอบ สีหน้าของเกรทเปลี่ยนไปทันทีจากตอนแรกที่ดูยิ้ม ๆ อยู่"มันก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าเทียนไม่ได้เลือกเรา" เกรทพูด"มันไม่ใช่แบบนั้นนะเกรท ที่เราบอกเลิกเกรทเป็นเพราะเราไม่อยากให้เกรทต้องมาเดือดร้อนเพราะเรา เกรทก็รู้ว่ายังไงซะคุณปู่เราก็รับเรื่องนี้ไม่ได้และถ้าเราฝืนคบกับเกรทต่อ ป่านนี้เกรทอาจไม่มีใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนตอนนี้ก็ได้" เทียนตอบ"แล้วเทียนรู้ได้ไงว่าตอนนี้เรามีความสุข" เกรทถาม เทียนรู้สึกจุกจนหน้าชาไปเลย"เทียนบอกว่าปู่รับเรื่องของเราสองคนไม่ได้ใช่ป่ะ งั้นตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้วทำไมเทียนถึงไม่กลับมาหาเรา...หรือว่าตอนนี้เทียนเริ่มต้นใหม่ไปแล้ว" เกรทถาม เทียนก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด"เห็นป่ะ เทียนไม่ได้เลือกเราเว้ย เทียนทำใจบอกเลิกเราได้โดยไม่สนเลยว่าตอนนั้นเราจะเสียใจแค่ไหน เรารอเทียน