บทที่4.แค่คนในอดีต โนสน โนแคร์
แต่...
คนที่ไม่อยากเจอ กับโผล่หน้ามาให้รำคาญตาเสียนี่ หวานตาอารมณ์เสียขึ้นมาทันที เมื่อใครบางคนเสนอหน้ามาให้เห็น ตอนที่เธอควรจะมีความสุข และอารมณ์ดีตลอดค่ำคืนนี้
“ออกไปห่างๆ หวานค่ะ หวานไม่อยากให้ ‘แม่’ ของคุณมาเขม่นหวาน” หญิงสาวเอ่ยปากไล่ทันทีที่เรืองฤทธิ์ขยับเข้ามาจนเกือบตัวติดกับเธอ หวานตาจงใจพูดประชด เธอยิ้มมุมปาก ชำเลืองมองชายหนุ่มด้วยหางตา
ดวงตาคมวาวของม่านแก้วทอดมองมาที่เธอด้วยความไม่พอใจอย่างแรง!! สาวใหญ่ผู้นั้นไม่คิดปิดบังความจงชังที่มีต่อเธอ หล่อนพุ่งสายตามาจากชั้นลอยในคลับแห่งนี้นี่เอง
“ผมไม่คิดว่าจะเจอหวานที่นี่” เรืองฤทธิ์เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ เขาเบื่อที่ต้องคอยพินอบพิเทาสาวใหญ่ผู้นั้น จนบางครั้งก็อยากแหกกฏเกณฑ์ที่ม่านแก้วตั้งไว้
“เหรอ!” หวานตาแอบเบ้ปาก เธอกลอกตามองบน สลับกับมองหน้าเรืองฤทธิ์ตรงๆ
ชายหนุ่มหลุบเปลือกตาลง ซ่อนแววตาโลมเลียไม่ให้อีกฝ่ายเห็น หวานตาวันนี้ดูเซ็กซี่วายร้าย หล่อนไม่ได้แต่งตัวสไตน์เดิม ค่ำคืนนี้หวานตาอยู่ในชุดรัดรูป อวดสัดส่วนวัยสาวสะพรั่ง เนินเนื้ออวบอิ่มแทบจะล้นทะลักออกมาจากผ้ายืดรัดติ๋ว กางเกงสีดำขาสั้น เผยให้เห็นเรียวขาเพรียวที่เคยอยู่แต่ใต้กางเกงตัวใหญ่ๆ
“ป่วยการเปล่าค่ะเรืองฤทธิ์ เราสองคนไม่ได้จบสวยนัก หวานขี้เกียจปั้นหน้าดีๆ ใส่คุณ!”
“โธ่หวาน... เรายังเป็นเพื่อนกันได้ไม่ใช่เหรอครับ” ชายหนุ่มแสร้งคราง พร้อมกับมองสบนัยน์ตาของหวานตา
“หวานไม่อยากเป็นเพื่อนกับคุณค่ะ” หวานตาตอบตามตรง หากไม่อยากวุ่นวาย เธอควรอยู่ห่างชายตรงหน้าไว้
“เสียดายเวลานะหวาน ผมยังอยากเป็นเพื่อนคุณเสมอ”
เรืองฤทธิ์พยายามรอมชอม หากในอนาคต เขาอิ่ม เขาพอ...บางทีเขากับหวานตาอาจจะกลับมาคบกันอีกครั้ง
“อย่าดีกว่าค่ะ” หวานตาพูดตัดบทแบบไม่ยี่หระ เธอตวัดตามองสาวใหญ่ที่นั่งอยู่ไม่ไกล ด้วยแววตาสมเพช
“หวานเปลี่ยนเบอร์ใหม่เหรอ ผมพยายามติดต่อหวาน แต่...มันไร้ผล” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องพูด เขายื่นกระดาษชิ้นเล็กให้หวานตา แต่หญิงสาวทำแค่ชำเลืองมอง เรืองฤทธิ์จึงวางกระดาษชิ้นนั้นไว้บนโต๊ะแทน “นามบัตรผม หากวันหลังหวานอยากจะติดต่อผมบ้าง” หวานตาเหยียดยิ้ม ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ไม่แม้แต่จะขยับมือมาหยิบจับสิ่งที่เขายื่นให้
“หวานมากับใครเหรอ?”
ชายหนุ่มจับตามองหวานตามาพักใหญ่ๆ เขาแน่ใจว่าไม่เห็นเพื่อนสาวตัวแสบอย่างชลดาในรัศมีสายตา
หวานตาเบ้ปาก ถอนใจแรงๆ แสดงความเหนื่อยหน่ายกับการพูดคุยครั้งนี้
“มากับเพื่อนค่ะ” เพื่อตัดรำคาญ และบอกกับเรืองฤทธิ์เป็นนัยๆ ต่อให้ไม่มีเขา เธอก็ยังมีคนอื่นได้เรื่อยๆ
“ผมไม่เห็น ‘เพื่อน’ ที่หวานบอกมาสักประมาณ10นาทีได้” ชายหนุ่มแย้ง เขายิ้มมุมปาก แววตาเหมือนกับรู้ทัน
หวานตาเม้มปากจนเป็นเส้นตรง เธอชะเง้อมองหาภูมิ เขาออกไปคุยโทรศัพท์นานเกินไปแล้วนะ นานเสียจนปล่อยให้ผู้ชายตรงหน้าเดินเข้ามาทำให้เธอหงุดหงิดได้
“แอบมองหวานอยู่เหรอคะ ไม่กลัวว่า ‘แม่’ ของคุณจะโกรธเอาหรือไง!!”
หวานตาตอกกลับ เธอแหล่มองม่านแก้ว พร้อมกับมุมปากค่อยๆ ยกยิ้ม
“หวานสบายใจที่ได้พูดแบบนั้น ผมก็ไม่โกรธหวานหรอกนะครับ” เรืองฤทธิ์ชักกรุ่นๆ เขารู้ว่าหวานตาจงใจกระแทกให้เขาเจ็บปวด เขาเลือกผู้หญิงคนนั้นแทนเธอ หวานตาคงเจ็บใจ
แต่เรืองฤทธิ์เข้าใจผิด หวานตาไม่ได้เจ็บแค้นเขาเลย เธอแค่รู้สึกสมเพช ผู้ชายคนหนึ่งยอมทิ้งศักดิ์ศรี เลือกเงินกับความสบาย แทนความรักที่เขาเคยพูดถึง
สาวอินดี้เบ้ปากอีกครั้ง...เธอมองผู้ชายตรงหน้าตรงๆ ก่อนจะรำพันในใจ เมื่อก่อนเพราะอะไรที่ทำให้เธอตาบอด ชื่นชมผู้ชายคนนี้ได้?
“หวานพูดผิดตรงไหนเหรอคะ ป้าม่านแก้วน่ะ รุ่นเดียวกับแม่ของหวานจริงๆ นี่คะ”
“ผมกับคุณม่าน เป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องนะหวาน”
ที่คนในสังคมรับรู้ เรืองฤทธิ์เป็นเลขาฯ คนสนิทของม่านแก้วเท่านั้น เขาจึงไม่รีรอที่จะใช้โอกาสนี้ เพราะม่านแก้วเองก็ต้องการให้คนรอบตัวเข้าใจเช่นนั้นด้วย เพื่อหน้าตา ชื่อเสียงของหล่อนนั่นเอง
“เอาที่สบายใจค่ะ” หวานตาไหวไหล่ คำโกหกของเรืองฤทธิ์ทำให้เธอตาสว่างมากขึ้น
“หวานดูดีขึ้นนะครับ”
เป็นอีกครั้งที่เรืองฤทธิ์เปลี่ยนเรื่องพูดเพื่อให้ไกลตัวเอง
“ตรงไหน?”
“หวานไม่เคยแต่งตัวแบบนี้ ตอนที่เราคบกัน”
“แล้วหวานทำไมต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะคะ” หวานตาถามกลับทันควัน
“นั่นสินะ ผมลืมไป เวลานี้ผมไม่ใช่คนสำคัญของหวานแล้วนี่” เรืองฤทธิ์กล่าวประชดประชัน
หวานตาไม่ได้ตอกกลับ หล่อนฉวยแก้วเครื่อมดื่มขึ้นมาจิบแก้กระหาย เสียงของเรืองฤทธิ์ก็ยังดังต่อเนื่อง เขาขยันขุดเรื่องเดิมๆ ที่เธอเกือบลืมขึ้นมาย้ำใหม่อีกครั้ง
“เมื่อก่อน...หวานจะให้เกียรติผมเสมอ”
“พอเถอะค่ะ...ป่วยการพูดถึงอดีตแล้วเรืองฤทธิ์ เรามีอนาคตที่รออยู่ข้างหน้า หากยังมัวย่ำอยู่กับที่ เมื่อไหร่จะโตล่ะคะ” หวานตาโบกมือไปมา
“ผมไม่ได้เพิ่งคิดนะหวาน” ชายหนุ่มมองสบตาหวานตาตรงๆ “ผมคิดมานานแล้ว คิดมาตั้งแต่ครั้งเราสองคนยังดีต่อกัน” หวานตาเบ้ปาก ยกแก้วเครื่อมดื่มขึ้นจิบอีกครั้ง “ผมกับไอ้หมอนั่น!!” เสียงของเรืองฤทธิ์เริ่มเข้มขึ้น หวานตายกหัวคิ้วขึ้นสูง เธอรู้ทันว่าผู้ชายตรงหน้าจะพูดเรื่องอะไรต่อ “ผมยังเป็นอันดับรองจากมันอยู่ดี ไม่ว่าจะตอนนี้ หรือก่อนหน้านั้น”
หวานตาถอนหายใจแรงๆ สีหน้าเคร่งขึ้น เธอแปลกใจไม่เลิก ทำไมเรืองฤทธิ์ไม่หยุดคิดแบบนั้นเสียที
ระหว่างเธอกับภูมิคือเพื่อนสนิท เพื่อนที่คบหากันมาตั้งแต่ยังเด็ก
ไม่มีอะไรนอกจากนั้น หวานตาไม่เข้าใจ ทำไมผู้ชายหลายคนรอบตัวเธอ ถึงระแวงไม่เข้าเรื่อง
ภูมิไม่เคยมีทีท่านอกเหนือกว่าความเป็นเพื่อน เขาเป็นสุภาพบุรุษ เป็นเพื่อนที่เข้าใจเธอที่สุด ภูมิเป็นคนเดียวที่ทนนิสัยแย่ๆ ของเธอได้ ภูมิเป็นผู้ชายคนเดียวก็ว่าได้ ที่ไม่เคยมองเธอแบบชู้สาว สายตาของเขาว่างเปล่า และไร้ซึ่งรอยกรุ่มกริ่ม
“หวานคิดว่าคุณ เข้าใจเรื่องระหว่างหวานกับภูมิดีแล้วเสียอีกค่ะ”
หวานตาบ่น น้ำเสียงติดความรำคาญเต็มเปี่ยม
บ่อยครั้งที่ทะเลาะกัน ภูมิจะเป็นหัวข้อแรกที่เรืองฤทธิ์ลากเข้ามาในบทสนทนา และทำให้เธออารมณ์ขึ้นทุกครั้ง
หวานตาแน่ใจ หากต้องเลือก เธอไม่มีวัน...ไม่เลือกภูมิอยู่แล้ว
ในเมื่อความสัมพันธ์ฉันท์แฟนหากจบลง ก็เป็นแค่คนแปลกหน้า ในขณะเดียวกัน ต่อให้เธอมีแฟนใหม่อีกกี่คน ภูมิก็ยังเป็นเพื่อน และคอยอยู่ข้างๆ เธอเสมอ
ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจ หากถึงเวลาที่เธอต้องเลือก หวานตาจะไม่รีรอที่จะเลือกภูมิ
“หวาน ปีนี้คุณอายุเท่าไหร่แล้วครับ ผมไม่ได้ตำหนิคุณนะ แต่ขอโทษเถอะ ไอ้หมอนั่น มันแอบเป็นมดแดง เฝ้าคุณมากี่ปีแล้วล่ะ”
ในสายตาผู้ชายเพศเดียวกัน เรืองฤทธิ์แน่ใจ ใต้สีหน้าเรียบๆ นั่นซ่อนความร้ายกาจไว้มากมาย ภูมิฉลาดเป็นกรด เขาไม่เคยแสดงตัว ไม่เคยทำอะไรให้หวานตาระแวง ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน หากเอ่ยถึงภูมิขึ้นมา เขาจะไม่มีทางชนะหวานตาได้เลย หล่อนเถียงใจขาด และไม่ยอมจบหากหล่อนไม่ชนะ เรืองฤทธิ์เก็บความแค้นไว้จนแน่นนอก ในตอนที่เขาอยู่ข้างกายหวานตา เขายังมีค่าน้อยกว่าผู้ชายที่หวานตาย้ำนักหนาว่าเป็นแค่...เพื่อน
“ตามใจคุณเลยค่ะ อยากคิดอะไร ยังไง แล้วแต่...อย่าลืมนะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว คุณไม่เกี่ยวกับหวาน หวานไม่เกี่ยวข้องกับคุณ” หวานตาไหวไหล่ เบ้ปากจนมุมปากบิด ปรายตามองเรืองฤทธิ์ด้วยสายตาปนความสังเวช เรืองฤทธิ์กำหมัดแน่น เขาทรงตัวลุกขึ้นยืน “ผมคงทำให้หวานอารมณ์เสีย” เสียงเปรยดังแผ่วๆ “รู้ตัวก็ดีนะคะ หวานมาเที่ยว หวานต้องการความสบายใจ และหวานไม่อยากเครียดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง” หวานตาโบกมือเรียกบริกรที่เดินผ่านหน้าโต๊ะของเธอพอดี “ขอเบียร์แบบนี้อีกเหยือกนะคะ” เธอบอกพนักงานหนุ่มน้อยด้วยเสียงที่หวานเกินปกติ เรืองฤทธิ์เดินจากไปพร้อมกับขุ่นเขืองอัดแน่นอยู่ในใจ ขนาดทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับม่านแก้ว เขายังเก็บความไม่พอใจนั่นออกไปจากสีหน้าไม่หมด “แค่เจออดีตแฟนมาเที่ยวกับหนุ่นคนใหม่ ถึงกับฉุนขาดเลยเหรอคะ!!” สาวใหญ่พูดแดกดัน ถึงนางจะออกตัวแรง บอกใครๆ ไม่ได้ แต่เรืองฤทธิ์ก็เป็นกึ่งสามี เขาทำหน้าที่บนเตียง พร้อมกับตำแหน่งเลขานุการส่วนตัวของนางด้วย “มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับพี่” ชายหนุ่มพยายามแก้ตัว แต่มันฟังไม่ขึ้น
ภูมิเริ่มรู้สึกตัวว่าตนเองพลาด... เขาตามมาอารักขาหวานตาหลายครั้งในสถานที่เช่นนี้ แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะมายืนใกล้ๆ หวานตา ตอนที่หล่อนกำลังวาดลวดลายอยู่กลางฟลอร์เต้นรำ นี่เป็นครั้งแรก และน่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ภูมิถอนใจแรงๆ เขาทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนตะลึงมองหวานตาที่ออกสเต็ปเต้นด้วยลีลาแบบที่เคยเห็นผ่านคลิปหลายๆ คลิปในยูทูป ปลายนิ้วแข็งแรงเผลอยกขึ้นดันตรงตำแหน่งที่เคยมีแว่นตา เขารู้สึกเหมือนแว่นตาเคลื่อนต่ำลงมาจนเกือบหลุดสันจมูก แต่กลับไม่เจอแว่น เพราะวันนี้ภูมิถอดแว่นไว้ที่บ้านเพื่อความสะดวก เขาใส่คอนแทคเลนส์มา และหลังจากนั้น...นิ้วของภูมิก็ถูอยู่ข้างๆ แก้ม หวานตาอมยิ้ม เธอขยับเขามาใกล้เพื่อนชาย ก่อนจะวางมือบนแผงอกของภูมิ โยกตัวไปมา พร้อมกับเงยหน้ามองสบนัยน์ตาของเขา...ภูมิมองตอบ เขาพยายามสะกดความตื่นเต้นไว้แค่ในใจ หวานตาไม่มีทางรู้... ใต้สีหน้าที่นิ่งเรียบ ภูมิตื่นเต้นจนเหงื่อชื้น ความชอบที่มีอยู่เป็นทุนเดิม เพิ่มพูนมากขึ้น แววตาของหวานตาเป็นประกายสะท้อนแสงไฟหลากสี ที่สาดแสงส่ายไปมา... กว่าภูมิจะตัดสินใจทำอะไร หวานตาก็เริ่มรุกก่อน เธอหมุนตัวหันหลัง
บทที่5.จะเสียเพื่อนเพราะ ‘จูบ’ “ชลลลลล!” หวานตาแบกสังขารไม่เต็มร้อยมาหาชลดาถึงบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อนของเธอยังไม่ลุกจากที่นอนเลย “อะไรอีกกกกกก!!?” ชลดาถามเสียงอู้อี้ งัวเงียตื่น...เพราะหวานตาพยายามปลุก หวานตาตะโกนเสียงดังไม่พอ เธอยังเขย่าชลดาแรงๆ หญิงสาวใจร้อนเป็นไฟ เธอกำลังต้องการความช่วยเหลือแบบเร่งด่วน... ก่อนที่ทุกอย่างจะพัง “ชลถามหน่อยสิ... สมมุตินะชล ถ้าแกพลาดไปจูบกับผู้ชายที่เป็นแค่เพื่อน แกกับเพื่อนคนนั้นยังเหมือนเดิมอีกไหมฮะ?” หวานตากลั้นใจถาม เธอลุ้นคำตอบด้วยหัวใจเต้นตึกตัก ชลดาเงยหน้ามอง ยกมือขยี้เปลือกตาเพื่อดึงสติ แต่คำตอบของเพื่อนสนิทเล่นเอาหวานตาตัวเย็นวาบ “ถามทำไมยะ? ก็เสียเพื่อนไปตั้งแต่ตอนที่ ‘จูบ’ แล้วล่ะมั้ง” ชลดาพูดหน้าตาย เธอไม่เห็นเข้าใจ หวานตาปลุกเธอขึ้นมาถามเรื่องนี้กับเพื่ออะไร? “แล้วถ้าอ้างว่าทำงไปเพราะเมาล่ะ ยังจะรักษาเพื่อนคนนั้นไว้ได้อีกหรือเปล่า?” หญิงสาวพยายามหาเหตุผลประกอบ มันต้องมีสักทางสิที่จะรั้งความรู้สึกดีๆ เกือบ20ปีไว้ได้ เธอยกมือขึ้นต
“อย่ามาโกหกพ่อ...เราไม่เคยมีท่าทางแบบนั้น แล้วถ้าอ้างว่าเมา ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่” บิดาดักทางออกของเขาจนหมด เพราะทั้งท่านและเขาพิสิทธิโยทินสองพ่อลูก ไม่ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์สักคน “ไม่มีอะไรจริงๆ ครับพ่อแค่ผมถูก ‘จูบ’” ภูมิตอบหน้าตาย เคล้ง! ช้อนในมือของสายใจหล่นบนพื้น นางมืออ่อนหลังได้ยินคำตอบของบุตรชาย ในขณะที่ภาคหัวเราะลั่น “ผู้หญิงที่จูบลูก คือหนูหวานงั้นสินะ” ไม่จำเป็นต้องเดาเลย ท่าทางบุตรชายยิ่งกว่าดอกไม้ได้ฝน กลีบสีสดแย้มบานรับแสงแรกแห่งรุ่งอรุณ ความยินดีที่ปิดไม่มิดนั่น แสดงออกทั้งสีหน้าและแววตา “โอ้ย!! แม่จะเป็นลม เกิดอะไรขึ้นกันล่ะนี่” สายใจโบกมือพัดลมใส่หน้า นางถามเสียงสั่นๆ “ไม่มีอะไรหรอกครับ” ภูมิตอบเสียงเรียบ เขาอมยิ้มมุมปากแววตาพราวระยิบตลอดเวลา “มันเป็นผลมาจาก การมีใครเข้ามาในชีวิตลูกหรือเปล่า?” “ไม่ใช่หรอกครับ แต่มาคิดๆ ดู มันก็อาจจะมีส่วน” ภูมิตอบ เขาทรงตัวลุกขึ้นยืน เตรียมตัวจะไปทำงาน “เดี๋ยวๆ แม่งง ทำไมลูกไม่เห็นเดือดร้อนอะไรเลย” สายใจรั้งไว้ ท่าทางบุตรชายสบายๆ เหมือนไม่มีอ
ผู้ชายคนนั้นหายหน้าหายตาไป เธอรู้เรื่องเขาจากคนอื่น เฝ้าตามดูเขาห่างๆ เพราะความเป็นห่วง แต่ไม่มีสักครั้งที่เขาจะส่งข่าวให้เธอรู้โดยตรง พอนานวันเข้า หัวใจของเธอก็ชาด้าน และยอมรับได้ในที่สุด เธอถูกเท... หญิงสาวถอนใจแรงๆ นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เธอเปิดใจให้ผู้ชาย นับจากนั้นชลดาก็เป็นผู้หญิงเก่งที่ผู้ชายหน้าไหนก็เข้าไม่ถึง เธอก้าวขึ้นไปยืนบนตำแหน่งสูงสุด ด้วยความสามารถ หญิงสาวสัญญากับตัวเอง ชีวิตนี้เธอไม่จำเป็นต้องมีคนข้างกายก็ได้ เมื่อผู้ชายส่วนใหญ่รักแต่ตัวเอง และเห็นแก่ตัว ใครจะรู้ล่ะ ผู้หญิงที่รอบรู้ไปทุกเรื่อง เก่งรอบด้านอย่างชลดา กลับเป็น ‘สาวเวอร์จิ้น’ “ผู้ชายเฮงซวยอย่างนั้น จำทำไมให้รกสมอง” ชลดาบอกกับตัวเอง พยายามคิดในแง่ร้าย เธอจะได้ลืมความหลังเก่าๆ เสียที เธอวนเวียนคิดแต่เรื่องที่ทำให้ฟุ้งซ่าน ชลดากระแทกสันมือกับผิวโต๊ะทำงาน ระเบิดความเกลียดออกมาเสียงดัง “ไอ้ผู้ชายบ้า ไอ้ผู้ชายใจดำ!!” หญิงสาวถอนใจแรงๆ ยกมือเสยผม แล้วก็ต้องรีบปรับความรู้สึก เมื่อเลขานุการที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้องของเธอดันประตูโ
บทที่6.ความรู้สึกเกินเพื่อน หวานตาวางมือไม่ถูก เธอไม่เคยรู้สึกกระอักกระอ่วนหากอยู่กับภูมิ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกแบบนี้ เธอเริ่มนับหนึ่งถึงสิบในใจ พยายามสำรวมความรู้สึกไม่ให้ตื่นตระหนก “หวานไม่ต้องคิดมากนะ ผมเข้าใจว่าหวานอาจจะมีเหตุผล” ภูมิชิงพูดก่อน จนหวานตาอึ้ง นัยน์ตาของเขาไร้แววตาอย่างอื่น นอกจากใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนก่อนที่จะเกิดเรื่อง “แหะๆ” หวานตาแสร้งหัวเราะแก้เก้อ ภูมิยิ้มร้ายในใจ เขาไม่มีวันปล่อยให้หวานตาหลุดมือหรอก หล่อน ‘จูบ’ เขาแล้ว หวานตาต้องรับผิดชอบชีวิตเขาต่อจากนี้ “เราสองคนเป็นเพื่อนกันมานาน ผมเข้าใจหวานครับ” ใบหน้าเล็กๆ ขยับขึ้นลงรัวๆ แม้ตอนนี้หวานตาจะยังหาเหตุผลไม่ได้ เธอทำแบบนั้นกับภูมิทำไม แต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ หากเธอยังไม่อยากเสียเพื่อนดีๆ แบบภูมิไป “หวานดีใจที่ภูมิไม่คิดมาก” หญิงสาวพูดอ้อมๆ แอ้มๆ “เรื่องนั้นหวานไม่ต้องเป็นห่วงไปเลย ผมไม่คิดอะไรอยู่แล้วครับ” ภูมิตอบเสียงขึงขัง เขาซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้ใต้สีหน้าใสซื่อ “หวานดีใจจังเลยค่ะ ที่
“อ้าว...คุณหวานมายืนทำอะไรตรงนี้คะ” น้อยประคองถาดใส่ของว่าง มีน้ำมะตูมเย็นฉ่ำ กับขวดน้ำเปล่าใสวิ้งวางอยู่ด้วย “หวานยกเข้าไปเองค่ะ” หวานตายื่นมือออกมารั้งถาดที่น้อยถือมา “น้อยยกเข้าไปเองค่ะคุณหวาน มันหนักนะคะ” น้อยซึ่งยังไม่รู้ว่าระหว่างคนสนิทสองคน มีช่องว่างเกิดขึ้นแล้วเลยพยายามเสนอตัวทำหน้าที่เดิม หวานตาเดินตามหลังสาวใช้เข้ามา เธอทรุดนั่ง พยายามไม่มองจุดที่เพื่อนชายนั่งอยู่ เธออยากร้องกรี๊ดๆ ตั้งแต่ ‘จูบ’ เขา ภูมิดูเซ็กซี่มากขึ้น ไม่ว่าจะท่านั่ง ท่านอน ล้วนแล้วแต่ทำให้หัวใจเธอเต้นผิดปกติ ดูอย่างตอนนี้สิ เขานอนเอนๆ ดูรายการโปรดที่เขาและเธอเคยชมการแสดงนั่นร่วมกันบ่อยๆ แต่วันนี้ไม่เหมือนวันก่อน ภูมิดูมีเสน่ห์จนรายการโปรดที่หวานตาพลาดไม่ได้ ตัวแสดงหลักกลับดึงดูดสายตาเธอไม่ได้เท่ากับแผงอกขาวๆ ที่โผล่แพล่มออกมาร่ำไรๆ นี่เลย “ฝีมือพี่น้อยไม่เคยตกเลยนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยชม หลังจิ้มสาคูไส้หมูลูกโตๆ เข้าไปในปาก เขาเคี้ยวขนมไทยได้อรรถรสดีเหลือเกิน หวานตาปรายตามองจานขนมของว่าง สายตาเธอไม่ได้เพี้ยน ขนมก็คือขนม แต่ที่เธออยากชิม กลับไม่ใช่ข
ชลดากลอกตามองบน เพื่อนของเธอความรู้สึกช้าเสียจริงๆ ผ่านมายี่สิบปีเพิ่งจะมาฉุกใจ... หากไม่เผลอตัวไป ‘จูบ’ ผู้ชายคนนั้นเข้า ป่านนี้หวานตาก็ยังมองไม่เห็นความสำคัญของภูมิอยู่ดี “ผู้ชายนะหวาน มันก็ต้องมีบ้างแหละ” “ฉันไม่เคยเห็นนะ” หวานตาท้วง มีผู้หญิงมาเกาะแกะภูมิจริง...แต่เขาไม่ได้ตอบสนองนี่ “แกเป็นแค่เพื่อนนะยัยหวาน เขาไม่ต้องบอกแกทั้งหมดหรอก นั่นมันเรื่องส่วนตัวของเขา” บรรณาธิการหนังสือผู้หญิงพยายามกระตุ้น เผื่อบางทีหวานตาจะตาสว่างขึ้นมาบ้าง “ฉันรู้ทุกเรื่องของเขานะ” หวานตาไม่วายแย้ง ทุกสิ่งที่เป็นเรื่องของภูมิ ผ่านตาเธอตลอด “ฉันไม่เชื่อหรอก ไม่มีผู้หญิง ผู้ชายคนไหนที่เป็นเพื่อนกันจริง ยกเว้น...” ชลดาขยักคำพูดไว้ เธออาจจะล้ำเส้นเกินไป เดี๋ยวหวานตาจะเตลิด “ยกเว้นอะไรยัยชล?” หวานตารีบซัก เมื่อจู่ๆ เพื่อนก็หยุดพูดไปดื้อๆ “ฉันจะอธิบายยังไงให้แกเข้าใจดีล่ะ... เอาเป็นว่า ลองทำตามที่ฉันบอกนะ” ชลดาแนะนำหวานตาหลายเรื่อง เสียงครางจากสาวอินดี้ดังมาเป็นระยะ บ้างครั้งก็มี