“ตามใจคุณเลยค่ะ อยากคิดอะไร ยังไง แล้วแต่...อย่าลืมนะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว คุณไม่เกี่ยวกับหวาน หวานไม่เกี่ยวข้องกับคุณ”
หวานตาไหวไหล่ เบ้ปากจนมุมปากบิด ปรายตามองเรืองฤทธิ์ด้วยสายตาปนความสังเวช
เรืองฤทธิ์กำหมัดแน่น เขาทรงตัวลุกขึ้นยืน “ผมคงทำให้หวานอารมณ์เสีย” เสียงเปรยดังแผ่วๆ
“รู้ตัวก็ดีนะคะ หวานมาเที่ยว หวานต้องการความสบายใจ และหวานไม่อยากเครียดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
หวานตาโบกมือเรียกบริกรที่เดินผ่านหน้าโต๊ะของเธอพอดี “ขอเบียร์แบบนี้อีกเหยือกนะคะ” เธอบอกพนักงานหนุ่มน้อยด้วยเสียงที่หวานเกินปกติ
เรืองฤทธิ์เดินจากไปพร้อมกับขุ่นเขืองอัดแน่นอยู่ในใจ ขนาดทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับม่านแก้ว เขายังเก็บความไม่พอใจนั่นออกไปจากสีหน้าไม่หมด
“แค่เจออดีตแฟนมาเที่ยวกับหนุ่นคนใหม่ ถึงกับฉุนขาดเลยเหรอคะ!!”
สาวใหญ่พูดแดกดัน ถึงนางจะออกตัวแรง บอกใครๆ ไม่ได้ แต่เรืองฤทธิ์ก็เป็นกึ่งสามี เขาทำหน้าที่บนเตียง พร้อมกับตำแหน่งเลขานุการส่วนตัวของนางด้วย
“มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับพี่”
ชายหนุ่มพยายามแก้ตัว แต่มันฟังไม่ขึ้นหรอก
“หึ!” ม่านแก้วพยายามสะกดความไม่พอใจไว้ในอก เธอแสดงออกถึงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของชายตรงหน้ามากไม่ได้ เพราะที่นี่ไม่ใช่รังรักระหว่างนางกับเรืองฤทธิ์ แต่นางก็จะไม่ยอมปล่อยผ่าน หากมีครั้งต่อไป ชายตรงหน้าจะออกท่าทาง แสดงความไม่พอใจแบบครั้งนี้ไม่ได้ หากเขายังใช้เงินในกระเป๋าสตางค์ของนางอยู่...
เรืองฤทธิ์ดื่มบรั่นดีเพรียวๆ หลายแก้ว เขาถึงกับตาลุกวาบ เมื่อเห็นใครบางคนเดินมาทรุดนั่งใกล้ๆ หวานตา
จะเป็นใครไปได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่ผู้ชายที่หวานตาบอกใครๆ รวมทั้งเขาด้วย ว่าคน คนนั้นคือ...เพื่อน
‘ภูมิ พิสิทธิโยทิน’
ม่านแก้วเลิกหัวคิ้วเรียวสวยขึ้นสูง นางยิ้มมุมปาก เมื่อเห็นสิ่งเดียวกับผู้ชายของตน
“โอ่!! คู่แข่งของคุณ ดูจะดีกรีแรงไม่เบาเลยนะคะ”
ม่านแก้วรู้จักภูมิในฐานะบุตรชายคนเดียวของเศรษฐีใหม่ เจ้าของอสังหาฯขนาดใหญ่ ชายที่ประสบความสำเร็จต่อยอดความร่ำรวยของบิดาด้วยวัยแค่20ต้นๆ เขาฉลาดเป็นกรด เทียบเท่ากับนักบริหารรุ่นเก่าๆ ขนาดเขาเรียนจบแค่ระดับปริญญาตรี และมีความรู้แค่ประสบการณ์ผ่านทางบิดา พิสิทธิโยทินพร็อพเพอร์ตี้ ยังรุ่งเรื่องได้ขนาดนี้เลย
“เขาเป็นเพื่อนกันครับ” เรืองฤทธิ์กัดฟันตอบ
“ไม่มีหญิง-ชาย คู่ไหนที่เป็นเพื่อนกันจริงๆ หรอกค่ะ นอกจากพวกเขายังไม่เปิดตัว น้อยคู่มากเลยนะคะที่จะคงความเป็นเพื่อนไว้ได้จนยืนยาว ยิ่งในกรณีนี้ ฉันว่าเป็นไปไม่ได้ที่อดีตแฟนของคุณ จะเป็นแค่เพื่อนกับพ่อหนุ่มคนนั้น”
ภูมิคือผู้ชายในฝันที่สาวๆ ต้องการครอบครอง หากหวานตามองข้ามความดีของเขา หล่อนก็เป็นผู้หญิงที่ตาต่ำมาก
“แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด ไม่ใช่เหรอครับพี่”
เรืองฤทธิ์เถียงแบบยังมีความหวัง
“ใช่...ฉันไม่เถียง แต่ก็ส่วนน้อยล่ะค่ะ”
สาวใหญ่ไหวไหล่ นางยกแก้วบรั่นดีขึ้นจิบ
ชายหนุ่มจมกับความคิดในหัว ครั้งหนึ่งหวานตาเคยรักเขา...เป็นไปไม่ได้หรอกที่หล่อนจะลืมเขาจนหมดแค่เพียงชั่วเวลาไม่นาน เรืองฤทธิ์ได้แต่แอบหวัง วันใดที่เขากอบโกยจากหญิงสูงวัยตรงหน้าจนพอ เขาจะกลับไปหาหวานตา
“มีอะไรหรือเปล่า?”
ภูมิถามหวานตา สีหน้าของหล่อนดูเคร่งเครียดแปลกๆ
หญิงสาวไหวหัวไหล่ เบ้ปากนิดๆ ตอนตอบ “เจอคนที่ไม่ควรเจอน่ะ เสียอารมณ์เลยล่ะค่ะ” หวานตาบ่น
“ใครล่ะ?” ภูมิมองฝ่าความมืด พยายามมองหาคนที่ทำให้หวานตาขุ่นเคือง
“อย่าไปสนใจเลยค่ะ...หวานมาสนุก” หวานตาคิดถึงชลดาขึ้นมาติดหมัด เรื่องบางเรื่อง พูดไปผู้ชายก็คงไม่เข้าใจเหมือนคนเพศเดียวกันหรอก
“หวานไม่ออกไปแดนซ์อีกเหรอไงครับ?” ภูมิเปลี่ยนเรื่องพูด เพื่อความพอใจของหวานตา
“ไม่!” หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่ใช่เพราะกำลังหงุดหงิด แต่เธอไม่มีเพื่อนลงไปวาดลวดลาย จะหวังพึ่งภูมิ คงไม่มีทาง
“ทำไมล่ะ ไหนหวานบอกมาสนุกไงครับ”
“ถามเหมือนจะลงไปแดนซ์เป็นเพื่อนหวาน”
“ผมก็ทำได้ไม่ใช่เหรอครับ?”
หวานตาเงยหน้ามองภูมิตรงๆ วันนี้เพื่อนชายของเธอกินอะไรมานะ เขาถึงอยากทำในสิ่งที่เขาปฏิเสธมาตลอด
“ไม่อะ” หวานตาตัดสินใจปฏิเสธ
“ทำไมล่ะครับ?” แล้วก็ตามมาด้วยคำถามจากผู้ชายที่เธอแอบปรามาสเขาในใจ
“หวานกลัวขายขี้หน้า” หญิงสาวตอบพร้อมกับหัวไหล่ที่ขยับไหวน้อยๆ
ภูมิหัวเราะหึๆ เขาฉวยแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม ใช่เลย...ภูมิดื่มน้ำเปล่าในผับ เขาไม่อยากผิดคำสัญญากับตัวเอง...ภูมิคงเป็นผู้ชายคนแรกที่ดื่มแค่น้ำ แม้จะนั่งอยู่ในสถานที่ที่ควรดื่มเครื่อมดื่มมีแอลกอฮอล์
“ก็แค่ขยับแขนขา ตามเสียงเพลง ยากตรงไหนครับ?”
ผู้ชายที่มีไอคิวน่าจะเกิน180 พูดลอยๆ
หวานตาเบ้ปาก กลอกตามองบน เกลียดความมั่นหน้าของภูมิจนอยากจะพิสูจน์ อยากเห็นเหมือนกันมนุษย์ผู้ชายสุดเพอร์เฟค ที่สาวๆ ปลื้มกันหนักหนา จะปล่อยไก่ตัวอ้วนๆ ได้หรือไม่?
ไม่มีใครทำได้ทุกอย่างตั้งแต่แรกคลอด ทุกคนต้องฝึก แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาผู้นั้นจะทำได้แม้จะเป็นอัจฉริยะ
เมื่อการแดนซ์มันต้องใช้ทักษะขั้นสูง ไอ้อย่างไปยืนส่ายไหล่ ส่ายเอว...มันไม่ใช่มืออาชีพ
“เอ้า...ลองดูก็ได้ค่ะ”
หวานตาทรงตัวลุกขึ้นยืน เธอวอร์มร่างกายเบาๆ ด้วยการยืดแขนออกมาข้างหน้า สอดนิ้วประสานกันแล้วจึงยืดออกไปตรงๆ พร้อมกับเอี้ยวตัวไปทางซ้ายที และหมุนกลับมาอยู่ท่าเดิม ก่อนจะเอี้ยวตัวบิดไปทางขวาซ้ำเหมือนเดิม ภูมิอมยิ้ม เขาทรงตัวลุกขึ้นยืน เริ่มด้วยการท้าวแขนไว้ที่เอว และเริ่มวอร์มร่างกายคล้ายๆ กับที่หวานตาทำ
หวานตาอมยิ้ม เธอพยักหน้าให้เพื่อนชาย เอียงศีรษะไปทางซ้าย และเดินนำไปที่ฟลอร์เต้นรำ
เสียงเพลงดังอึกกะทึกในจังหวะเร้าใจ แสงหลากสีหมุนวนไปมาเหนือศีรษะ แสงสว่างมีแค่พอมองเห็น แต่จะให้ชัดเจนเป็นไปไม่ได้เลย หวานตาเดินแหวกกลุ่มคน มีภูมิเดินตามมาติดๆ หญิงสาวหยุดยืนตรงพื้นที่ว่าง เธอออกสเต็ปแรกนำหน้าภูมิ ประหนึ่งกำลังทำให้เขาดู
หวานตาเป็นผู้หญิงสูงโปร่ง...ท่าทางทะมัดทะแมง แต่ใครจะไปคิดล่ะ ผู้หญิงลักษณะอินดี้อย่างหวานตา พอได้เต้นจะมีท่าเซ็กซี่วายร้าย
ภูมิเริ่มรู้สึกตัวว่าตนเองพลาด... เขาตามมาอารักขาหวานตาหลายครั้งในสถานที่เช่นนี้ แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะมายืนใกล้ๆ หวานตา ตอนที่หล่อนกำลังวาดลวดลายอยู่กลางฟลอร์เต้นรำ นี่เป็นครั้งแรก และน่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ภูมิถอนใจแรงๆ เขาทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนตะลึงมองหวานตาที่ออกสเต็ปเต้นด้วยลีลาแบบที่เคยเห็นผ่านคลิปหลายๆ คลิปในยูทูป ปลายนิ้วแข็งแรงเผลอยกขึ้นดันตรงตำแหน่งที่เคยมีแว่นตา เขารู้สึกเหมือนแว่นตาเคลื่อนต่ำลงมาจนเกือบหลุดสันจมูก แต่กลับไม่เจอแว่น เพราะวันนี้ภูมิถอดแว่นไว้ที่บ้านเพื่อความสะดวก เขาใส่คอนแทคเลนส์มา และหลังจากนั้น...นิ้วของภูมิก็ถูอยู่ข้างๆ แก้ม หวานตาอมยิ้ม เธอขยับเขามาใกล้เพื่อนชาย ก่อนจะวางมือบนแผงอกของภูมิ โยกตัวไปมา พร้อมกับเงยหน้ามองสบนัยน์ตาของเขา...ภูมิมองตอบ เขาพยายามสะกดความตื่นเต้นไว้แค่ในใจ หวานตาไม่มีทางรู้... ใต้สีหน้าที่นิ่งเรียบ ภูมิตื่นเต้นจนเหงื่อชื้น ความชอบที่มีอยู่เป็นทุนเดิม เพิ่มพูนมากขึ้น แววตาของหวานตาเป็นประกายสะท้อนแสงไฟหลากสี ที่สาดแสงส่ายไปมา... กว่าภูมิจะตัดสินใจทำอะไร หวานตาก็เริ่มรุกก่อน เธอหมุนตัวหันหลัง
บทที่5.จะเสียเพื่อนเพราะ ‘จูบ’ “ชลลลลล!” หวานตาแบกสังขารไม่เต็มร้อยมาหาชลดาถึงบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อนของเธอยังไม่ลุกจากที่นอนเลย “อะไรอีกกกกกก!!?” ชลดาถามเสียงอู้อี้ งัวเงียตื่น...เพราะหวานตาพยายามปลุก หวานตาตะโกนเสียงดังไม่พอ เธอยังเขย่าชลดาแรงๆ หญิงสาวใจร้อนเป็นไฟ เธอกำลังต้องการความช่วยเหลือแบบเร่งด่วน... ก่อนที่ทุกอย่างจะพัง “ชลถามหน่อยสิ... สมมุตินะชล ถ้าแกพลาดไปจูบกับผู้ชายที่เป็นแค่เพื่อน แกกับเพื่อนคนนั้นยังเหมือนเดิมอีกไหมฮะ?” หวานตากลั้นใจถาม เธอลุ้นคำตอบด้วยหัวใจเต้นตึกตัก ชลดาเงยหน้ามอง ยกมือขยี้เปลือกตาเพื่อดึงสติ แต่คำตอบของเพื่อนสนิทเล่นเอาหวานตาตัวเย็นวาบ “ถามทำไมยะ? ก็เสียเพื่อนไปตั้งแต่ตอนที่ ‘จูบ’ แล้วล่ะมั้ง” ชลดาพูดหน้าตาย เธอไม่เห็นเข้าใจ หวานตาปลุกเธอขึ้นมาถามเรื่องนี้กับเพื่ออะไร? “แล้วถ้าอ้างว่าทำงไปเพราะเมาล่ะ ยังจะรักษาเพื่อนคนนั้นไว้ได้อีกหรือเปล่า?” หญิงสาวพยายามหาเหตุผลประกอบ มันต้องมีสักทางสิที่จะรั้งความรู้สึกดีๆ เกือบ20ปีไว้ได้ เธอยกมือขึ้นต
“อย่ามาโกหกพ่อ...เราไม่เคยมีท่าทางแบบนั้น แล้วถ้าอ้างว่าเมา ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่” บิดาดักทางออกของเขาจนหมด เพราะทั้งท่านและเขาพิสิทธิโยทินสองพ่อลูก ไม่ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์สักคน “ไม่มีอะไรจริงๆ ครับพ่อแค่ผมถูก ‘จูบ’” ภูมิตอบหน้าตาย เคล้ง! ช้อนในมือของสายใจหล่นบนพื้น นางมืออ่อนหลังได้ยินคำตอบของบุตรชาย ในขณะที่ภาคหัวเราะลั่น “ผู้หญิงที่จูบลูก คือหนูหวานงั้นสินะ” ไม่จำเป็นต้องเดาเลย ท่าทางบุตรชายยิ่งกว่าดอกไม้ได้ฝน กลีบสีสดแย้มบานรับแสงแรกแห่งรุ่งอรุณ ความยินดีที่ปิดไม่มิดนั่น แสดงออกทั้งสีหน้าและแววตา “โอ้ย!! แม่จะเป็นลม เกิดอะไรขึ้นกันล่ะนี่” สายใจโบกมือพัดลมใส่หน้า นางถามเสียงสั่นๆ “ไม่มีอะไรหรอกครับ” ภูมิตอบเสียงเรียบ เขาอมยิ้มมุมปากแววตาพราวระยิบตลอดเวลา “มันเป็นผลมาจาก การมีใครเข้ามาในชีวิตลูกหรือเปล่า?” “ไม่ใช่หรอกครับ แต่มาคิดๆ ดู มันก็อาจจะมีส่วน” ภูมิตอบ เขาทรงตัวลุกขึ้นยืน เตรียมตัวจะไปทำงาน “เดี๋ยวๆ แม่งง ทำไมลูกไม่เห็นเดือดร้อนอะไรเลย” สายใจรั้งไว้ ท่าทางบุตรชายสบายๆ เหมือนไม่มีอ
ผู้ชายคนนั้นหายหน้าหายตาไป เธอรู้เรื่องเขาจากคนอื่น เฝ้าตามดูเขาห่างๆ เพราะความเป็นห่วง แต่ไม่มีสักครั้งที่เขาจะส่งข่าวให้เธอรู้โดยตรง พอนานวันเข้า หัวใจของเธอก็ชาด้าน และยอมรับได้ในที่สุด เธอถูกเท... หญิงสาวถอนใจแรงๆ นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เธอเปิดใจให้ผู้ชาย นับจากนั้นชลดาก็เป็นผู้หญิงเก่งที่ผู้ชายหน้าไหนก็เข้าไม่ถึง เธอก้าวขึ้นไปยืนบนตำแหน่งสูงสุด ด้วยความสามารถ หญิงสาวสัญญากับตัวเอง ชีวิตนี้เธอไม่จำเป็นต้องมีคนข้างกายก็ได้ เมื่อผู้ชายส่วนใหญ่รักแต่ตัวเอง และเห็นแก่ตัว ใครจะรู้ล่ะ ผู้หญิงที่รอบรู้ไปทุกเรื่อง เก่งรอบด้านอย่างชลดา กลับเป็น ‘สาวเวอร์จิ้น’ “ผู้ชายเฮงซวยอย่างนั้น จำทำไมให้รกสมอง” ชลดาบอกกับตัวเอง พยายามคิดในแง่ร้าย เธอจะได้ลืมความหลังเก่าๆ เสียที เธอวนเวียนคิดแต่เรื่องที่ทำให้ฟุ้งซ่าน ชลดากระแทกสันมือกับผิวโต๊ะทำงาน ระเบิดความเกลียดออกมาเสียงดัง “ไอ้ผู้ชายบ้า ไอ้ผู้ชายใจดำ!!” หญิงสาวถอนใจแรงๆ ยกมือเสยผม แล้วก็ต้องรีบปรับความรู้สึก เมื่อเลขานุการที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้องของเธอดันประตูโ
บทที่6.ความรู้สึกเกินเพื่อน หวานตาวางมือไม่ถูก เธอไม่เคยรู้สึกกระอักกระอ่วนหากอยู่กับภูมิ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกแบบนี้ เธอเริ่มนับหนึ่งถึงสิบในใจ พยายามสำรวมความรู้สึกไม่ให้ตื่นตระหนก “หวานไม่ต้องคิดมากนะ ผมเข้าใจว่าหวานอาจจะมีเหตุผล” ภูมิชิงพูดก่อน จนหวานตาอึ้ง นัยน์ตาของเขาไร้แววตาอย่างอื่น นอกจากใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนก่อนที่จะเกิดเรื่อง “แหะๆ” หวานตาแสร้งหัวเราะแก้เก้อ ภูมิยิ้มร้ายในใจ เขาไม่มีวันปล่อยให้หวานตาหลุดมือหรอก หล่อน ‘จูบ’ เขาแล้ว หวานตาต้องรับผิดชอบชีวิตเขาต่อจากนี้ “เราสองคนเป็นเพื่อนกันมานาน ผมเข้าใจหวานครับ” ใบหน้าเล็กๆ ขยับขึ้นลงรัวๆ แม้ตอนนี้หวานตาจะยังหาเหตุผลไม่ได้ เธอทำแบบนั้นกับภูมิทำไม แต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ หากเธอยังไม่อยากเสียเพื่อนดีๆ แบบภูมิไป “หวานดีใจที่ภูมิไม่คิดมาก” หญิงสาวพูดอ้อมๆ แอ้มๆ “เรื่องนั้นหวานไม่ต้องเป็นห่วงไปเลย ผมไม่คิดอะไรอยู่แล้วครับ” ภูมิตอบเสียงขึงขัง เขาซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้ใต้สีหน้าใสซื่อ “หวานดีใจจังเลยค่ะ ที่
“อ้าว...คุณหวานมายืนทำอะไรตรงนี้คะ” น้อยประคองถาดใส่ของว่าง มีน้ำมะตูมเย็นฉ่ำ กับขวดน้ำเปล่าใสวิ้งวางอยู่ด้วย “หวานยกเข้าไปเองค่ะ” หวานตายื่นมือออกมารั้งถาดที่น้อยถือมา “น้อยยกเข้าไปเองค่ะคุณหวาน มันหนักนะคะ” น้อยซึ่งยังไม่รู้ว่าระหว่างคนสนิทสองคน มีช่องว่างเกิดขึ้นแล้วเลยพยายามเสนอตัวทำหน้าที่เดิม หวานตาเดินตามหลังสาวใช้เข้ามา เธอทรุดนั่ง พยายามไม่มองจุดที่เพื่อนชายนั่งอยู่ เธออยากร้องกรี๊ดๆ ตั้งแต่ ‘จูบ’ เขา ภูมิดูเซ็กซี่มากขึ้น ไม่ว่าจะท่านั่ง ท่านอน ล้วนแล้วแต่ทำให้หัวใจเธอเต้นผิดปกติ ดูอย่างตอนนี้สิ เขานอนเอนๆ ดูรายการโปรดที่เขาและเธอเคยชมการแสดงนั่นร่วมกันบ่อยๆ แต่วันนี้ไม่เหมือนวันก่อน ภูมิดูมีเสน่ห์จนรายการโปรดที่หวานตาพลาดไม่ได้ ตัวแสดงหลักกลับดึงดูดสายตาเธอไม่ได้เท่ากับแผงอกขาวๆ ที่โผล่แพล่มออกมาร่ำไรๆ นี่เลย “ฝีมือพี่น้อยไม่เคยตกเลยนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยชม หลังจิ้มสาคูไส้หมูลูกโตๆ เข้าไปในปาก เขาเคี้ยวขนมไทยได้อรรถรสดีเหลือเกิน หวานตาปรายตามองจานขนมของว่าง สายตาเธอไม่ได้เพี้ยน ขนมก็คือขนม แต่ที่เธออยากชิม กลับไม่ใช่ข
ชลดากลอกตามองบน เพื่อนของเธอความรู้สึกช้าเสียจริงๆ ผ่านมายี่สิบปีเพิ่งจะมาฉุกใจ... หากไม่เผลอตัวไป ‘จูบ’ ผู้ชายคนนั้นเข้า ป่านนี้หวานตาก็ยังมองไม่เห็นความสำคัญของภูมิอยู่ดี “ผู้ชายนะหวาน มันก็ต้องมีบ้างแหละ” “ฉันไม่เคยเห็นนะ” หวานตาท้วง มีผู้หญิงมาเกาะแกะภูมิจริง...แต่เขาไม่ได้ตอบสนองนี่ “แกเป็นแค่เพื่อนนะยัยหวาน เขาไม่ต้องบอกแกทั้งหมดหรอก นั่นมันเรื่องส่วนตัวของเขา” บรรณาธิการหนังสือผู้หญิงพยายามกระตุ้น เผื่อบางทีหวานตาจะตาสว่างขึ้นมาบ้าง “ฉันรู้ทุกเรื่องของเขานะ” หวานตาไม่วายแย้ง ทุกสิ่งที่เป็นเรื่องของภูมิ ผ่านตาเธอตลอด “ฉันไม่เชื่อหรอก ไม่มีผู้หญิง ผู้ชายคนไหนที่เป็นเพื่อนกันจริง ยกเว้น...” ชลดาขยักคำพูดไว้ เธออาจจะล้ำเส้นเกินไป เดี๋ยวหวานตาจะเตลิด “ยกเว้นอะไรยัยชล?” หวานตารีบซัก เมื่อจู่ๆ เพื่อนก็หยุดพูดไปดื้อๆ “ฉันจะอธิบายยังไงให้แกเข้าใจดีล่ะ... เอาเป็นว่า ลองทำตามที่ฉันบอกนะ” ชลดาแนะนำหวานตาหลายเรื่อง เสียงครางจากสาวอินดี้ดังมาเป็นระยะ บ้างครั้งก็มี
บทนำ... ‘ไม่มีชีวิตใครบนโลกใบนี้ที่ไม่มีปัญหา ทุกคนต่างมีมุมมองที่น่าอิจฉา และน่าสงสารแตกต่างกันไป’ คนสองคนที่เป็นเพื่อนกันมา20ปี และยังคงสถานะการเป็นเพื่อนไว้ตลอด จะทำยังไงกันดีล่ะ?!! หากอีกคนความรู้สึกเปลี่ยนไป หวานตาเริ่มมีความรัก จนทำให้ตัวเองห่างเหินจากเพื่อนสนิท จวบจนวันหนึ่ง ความรักที่ตัวเองทึกทักไปเองจบลง...หวานตารู้สึกเคว้งคว้าง เธอเลยหันมาปรึกษาเพื่อนใกล้ตัว ภูมิเป็นที่ปรึกษาที่ดี เขาช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้น แต่แล้ว...ไอ้ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้น ตอนที่ภูมิมีผู้หญิงมาสนใจนี่ล่ะ มันคืออะไรอีกหะ? หวานตาไม่ใคร่เข้าใจตัวเองนักหรอก เธอไม่พอใจอะไร? หากเพื่อนของเธอจะทดลองมีความรักบ้าง...มันไม่ใช่เพราะเธอแอนตี้ความรู้สึกแบบนั้นเพราะตัวเองไม่สมหวังหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะเธอ...รัก เพื่อนที่ยังคงเป็นเพื่อนอยู่นั่นเอง เธอจะจัดการอย่างไรกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น ครั้นจะบอกภูมิตรงๆ เธอก็กลัวว่าความเป็นเพื่อนที่มีมายาวนานจะจบลง หากในอนาคต ไม่มีภูมิในชีวิต หวานตาแน่ใจ...เธอคงเฟลไปตลอดชีวิตเหมือนกันบทที่1.เรื่องมันเริ่มต้นที่นี่แหละ