“อ้าว...คุณหวานมายืนทำอะไรตรงนี้คะ” น้อยประคองถาดใส่ของว่าง มีน้ำมะตูมเย็นฉ่ำ กับขวดน้ำเปล่าใสวิ้งวางอยู่ด้วย “หวานยกเข้าไปเองค่ะ” หวานตายื่นมือออกมารั้งถาดที่น้อยถือมา “น้อยยกเข้าไปเองค่ะคุณหวาน มันหนักนะคะ” น้อยซึ่งยังไม่รู้ว่าระหว่างคนสนิทสองคน มีช่องว่างเกิดขึ้นแล้วเลยพยายามเสนอตัวทำหน้าที่เดิม หวานตาเดินตามหลังสาวใช้เข้ามา เธอทรุดนั่ง พยายามไม่มองจุดที่เพื่อนชายนั่งอยู่ เธออยากร้องกรี๊ดๆ ตั้งแต่ ‘จูบ’ เขา ภูมิดูเซ็กซี่มากขึ้น ไม่ว่าจะท่านั่ง ท่านอน ล้วนแล้วแต่ทำให้หัวใจเธอเต้นผิดปกติ ดูอย่างตอนนี้สิ เขานอนเอนๆ ดูรายการโปรดที่เขาและเธอเคยชมการแสดงนั่นร่วมกันบ่อยๆ แต่วันนี้ไม่เหมือนวันก่อน ภูมิดูมีเสน่ห์จนรายการโปรดที่หวานตาพลาดไม่ได้ ตัวแสดงหลักกลับดึงดูดสายตาเธอไม่ได้เท่ากับแผงอกขาวๆ ที่โผล่แพล่มออกมาร่ำไรๆ นี่เลย “ฝีมือพี่น้อยไม่เคยตกเลยนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยชม หลังจิ้มสาคูไส้หมูลูกโตๆ เข้าไปในปาก เขาเคี้ยวขนมไทยได้อรรถรสดีเหลือเกิน หวานตาปรายตามองจานขนมของว่าง สายตาเธอไม่ได้เพี้ยน ขนมก็คือขนม แต่ที่เธออยากชิม กลับไม่ใช่ข
ชลดากลอกตามองบน เพื่อนของเธอความรู้สึกช้าเสียจริงๆ ผ่านมายี่สิบปีเพิ่งจะมาฉุกใจ... หากไม่เผลอตัวไป ‘จูบ’ ผู้ชายคนนั้นเข้า ป่านนี้หวานตาก็ยังมองไม่เห็นความสำคัญของภูมิอยู่ดี “ผู้ชายนะหวาน มันก็ต้องมีบ้างแหละ” “ฉันไม่เคยเห็นนะ” หวานตาท้วง มีผู้หญิงมาเกาะแกะภูมิจริง...แต่เขาไม่ได้ตอบสนองนี่ “แกเป็นแค่เพื่อนนะยัยหวาน เขาไม่ต้องบอกแกทั้งหมดหรอก นั่นมันเรื่องส่วนตัวของเขา” บรรณาธิการหนังสือผู้หญิงพยายามกระตุ้น เผื่อบางทีหวานตาจะตาสว่างขึ้นมาบ้าง “ฉันรู้ทุกเรื่องของเขานะ” หวานตาไม่วายแย้ง ทุกสิ่งที่เป็นเรื่องของภูมิ ผ่านตาเธอตลอด “ฉันไม่เชื่อหรอก ไม่มีผู้หญิง ผู้ชายคนไหนที่เป็นเพื่อนกันจริง ยกเว้น...” ชลดาขยักคำพูดไว้ เธออาจจะล้ำเส้นเกินไป เดี๋ยวหวานตาจะเตลิด “ยกเว้นอะไรยัยชล?” หวานตารีบซัก เมื่อจู่ๆ เพื่อนก็หยุดพูดไปดื้อๆ “ฉันจะอธิบายยังไงให้แกเข้าใจดีล่ะ... เอาเป็นว่า ลองทำตามที่ฉันบอกนะ” ชลดาแนะนำหวานตาหลายเรื่อง เสียงครางจากสาวอินดี้ดังมาเป็นระยะ บ้างครั้งก็มี
บทที่7.เพื่อนคนนี้ ดีที่หนึ่ง!! ภาคทอดสายตามองบุตรสาวคนรู้จักด้วยแววตาสงสาร อรดีนั่งเช็ดน้ำตาป้อยๆ เธอร้องไห้ด้วยท่าทางที่ดูไม่น่าเกลียด ครอบครัวนั่นอบรมบุตรสาวให้ออกมาสมบูรณ์แบบ น่าเสียดายที่ภูมิไม่ถูกใจ ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาจะได้คู่คิดที่เหมาะสม สามารถเชิดหน้าชูตาในสังคมได้ แบบไร้เสียงติติง... “อรไม่โกรธคุณภูมิหรอกค่ะ เรื่องหัวใจ ใครก็กำหนดเองไม่ได้” เรื่องตีบทผู้หญิงน่าสงสาร อรดีชำนาญนัก เธอชำนาญในการตบตาผู้สูงวัย เธอใช้วิธีนี้เอาตัวรอดมาหลายครั้ง ไม่คิดว่าครั้งนี้ต้องงัดวิธีน่าเบื่อนี่ขึ้นมาใช้อีกครั้ง เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากบิดาของผู้ชายที่ตนเองตั้งใจจับจอง “ฉันต้องขอโทษหนูอรด้วยนะ ฉันไม่น่าดึงหนูอรเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเลย” ภาคโครงศีรษะ เหนื่อยใจกับบุตรชายคนเดียว ภูมิรักมั่นอยู่แค่หวานตา ไม่สนใจผู้หญิงคนอื่น ตอนแรกท่านก็คิดว่าบุตรชายคงแค่ห่วงใยหวานตาตามประสาเพื่อน พอนานวันไปแล้วนั่นแหละ ภาคถึงได้เข้าใจแจ่มแจ้ง...ภูมิหลงรักหวานตามาตั้งแต่รุ่นหนุ่มจวบจนปัจจุบัน บุตรชายท่านมองหวานตาในฐานะผู้หญิง ไม่ใช่เพื่อนเหมือนที่ทุกคนรอบตั
งานอดิเรกของไซม่อนคือการเกร็งกำไร เขาชอบเล่นหุ้นมาตั้งแต่หนุ่ม แถมโชคเข้าข้างเขาเสียด้วย หุ้นตัวไหนที่เขาจับไม่เคยทำให้ผิดหวัง เขามีเงินเก็บตั้งแต่รุ่นหนุ่ม ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่ไซม่อนก็ไม่เคยสุรุ่ยสุร่าย “บังเอิญผมมันคนไม่มีวาสนาน่ะ ก็เลยยังโสด ว่าแต่คุณเถอะภูมิ หาแฟนได้หรือยัง” สองหนุ่ม สองสไตน์ที่ไม่น่ารู้จักกันเลย แต่คนสองคนกลับสนิทสนมกัน ทั้งที่วิถีการดำเนินชีวิตแตกต่างกันสุดขั้ว พวกเขาเป็นเพื่อนแท้ที่พร้อมที่จะช่วยเหลือกัน ไซม่อนอายุมากกว่าภูมิ5ปี เขาเป็นรุ่นพี่ ที่ภูมินับถือคนหนึ่ง “ระวังเถอะ จะไม่มีน้ำยาตอนที่เจอสาวถูกใจ” ภูมิอดไม่ได้ที่จะกระเซ้า “ขอโทษ เคยอ่านหนังสือไหม ผู้ชายวัย30เขาเรียกวัยฉกรรจ์ ไม่ใช่คนแก่นะเฟ้ย” “ขอโทษครับ ผมลืมไปว่าคุณน่ะหนุ่มตลอดกาล” “ว่าแต่...ยังทำตัวเป็นมดแดงเหมือนเคยหรือเปล่า?” ไซม่อนกระเซ้า เขารู้ใจภูมิดี เพื่อนรุ่นน้องทำตัวเป็นมดแดง เฝ้ามะม่วงสุกรสหวานมานานหลายปีดีดัก “ผมไม่ได้เป็นมดแดงแล้ว ตอนนี้ผมพัฒนาเป็นกระรอกแล้วล่ะ” ภูมิคุยฟุ้ง “ใช้เวลานานไปนะ ปีนี
บทที่8.คงต้องเดินเกมรุกแบบไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวทัน เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นตอนบ่าย หวานตาชะเง้อมอง “พี่น้อยไม่ต้องค่ะ หวานไปเปิดประตูเอง” น้อยโผล่หน้ามามอง เธอกำลังยุ่งกับการล้างพื้นหลังบ้าน หน้าเปื้อนเหงื่อจนหวานตาอาสาทำแทนเอง หญิงสาวละสายตาจากคอมพิวเตอร์ เธอมีงานด่วนที่เร่งด่วนมากๆ จากลูกค้าเจ้าเดิม งานชิ้นนี้ระบุให้เธอเป็นคนทำตั้งแต่แรก เป็นการรีโนเวทบ้านเก่า ให้ดูดีขึ้น ด้วยงบประมาณ5แสนบาท หวานตาดันประตูให้เปิด “อ้าว!!” หญิงสาวอุทาน เพราะอาคันตุกะที่มาเยือนไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลย สาวยืนยิ้มแผล่ มีแก้วกาแฟกับถุงพลาสติกโปร่งๆ ในมือ&
บางทีชายผู้นั้นอาจจะมองเธอใหม่ เธอมีภาคเป็นฝ่ายสนับสนุนทั้งคน... หวานตามาถึงห้องของภูมิโดยไร้เงาของหญิงผู้นั้น แทนที่เธอจะสบายใจ กลับกลายเป็นว่าหัวใจเธอหนักอึ้ง จนขาแทบไม่อยากขยับ ยิ่งเดินมาถึงห้องทำงานที่เคยมาจนนับครั้งไม่ถ้วน...หวานตาก็ยิ่งลังเล เธอจะวางหน้ายังไง เมื่อความรู้สึกของตนเองเริ่มเพี้ยน เธอใช้สิทธิอะไรไม่พอใจการมีอยู่ของอรดี เธอเป็นเพื่อนเขา อรดีก็เช่นกัน สถานะของเธอกับหญิงผู้นั้นเสมอกัน แถมอรดียังเหนือชั้นกว่า เธอทำงานที่นี่ มีเวลาพบเจอภูมิถึง12ชั่วโมง “หวาน...แกควรทำใจให้สงบ หล่อนก็แค่ทำงานที่นี่เองนะ” หญิงสาวปรามตัวเอง เธอคิดมากทำไม เธอกับภูมิรั้วบ้านติดกัน ถึงไม่ได้เจอกันทุกวัน แต่ระยะห่างของเธอกับชายหนุ่ม ใกล้กว่าแม่นั่นร้อยเท่า “โอ้ย...” หวานตาอยากร้องกรี๊ด เธอกลุ้มใจทำไม เธอเป็นเพื่อนกับภูมิ
“เหอะ!! ทั้งฉันและแก น่าจะคิดเหมือนกันนั่นแหละ” หวานตาเบือนหน้าหนี เรื่องสุมหัวนินทาเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เพศหญิง พอปลอดคนเมื่อไหร่ เป็นต้องหันหน้าเข้าหากันเพื่อนินทาชาวบ้าน หรือไม่ก็เพื่อนร่วมงาน “แม่นั่น วางท่าเหมือนตัวเองกำลังขึ้นหม้อเลยนะ” หวานตาไม่อยากสนใจเลย แต่พื้นที่แคบๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ได้ยิน “น่าหมั่นไส้...เห็นแล้วรำคาญตาเนอะ” “หล่อนวางท่ายโสได้เพราะเห็นว่า... เป็นเด็กเส้นผู้อำนวยการนะ” อีกคนพูดเยาะๆ เรื่องเส้นสายในที่ทำงานเป็นอีกเรื่องที่หวานตาไม่อยากไปทำงานบริษัท ความอดทนของเธอต่ำ หากมีใครพูดเข้าหูเรื่องนี้ เธอคงได้วีนแตก หญิงสาวตัดปัญหาเรื่องนี้ ด้วยการรับทำงานเป็นจ็อบๆ&n
หลังหย่อนหวานตาที่ยังหลับไม่รู้เรื่องไว้กลางเตียง ภูมิก็เลยเอื้อมมือเปิดไฟที่หัวเตียง เขาใช้แสงสว่างแค่นั้นเพื่อจัดการบางอย่าง หวานตาหลับอุตุ...เธอยกมือปัดอะไรบางอย่างที่ยุ่มย่ามแถวเนินอก พร้อมกับเสียงบ่นงึมงำ “อย่างกวนน่าชิงลี่ แม่จะนอนแล้ว” ‘ชิงลี่’ คือแมวตัวอ้วนสีขาวที่ภูมิยกให้ตั้งแต่หวานตาเริ่มเรียนในรั้ววิทยาลัย’ แมวเพศผู้ แต่หวานตาเป็นคนตั้งชื่อให้ หน้าตาบ้องแบ๋วนั่น เธอเลยตั้งเสียหวานแหว๋ว แล้วเจ้าของแมวมีหรือจะคัดค้านได้ เมื่อคนตั้งชื่อนั่นคือหวานตา เจ้าแมวอ้วนเลยมีชื่อว่า ‘ชิงลี่’ นับแต่นั้นมา ชิงลี่ มีหวานตาเป็นแม่อุปถัมภ์ และมีภูมิเป็นพ่อบุญธรรม แมวอ้วนตัวนั้นเลยใช้ชีวิตแสนสุขอยู่ในบ้านเกียรติขจรเรื่อยมา&n
หญิงสาวชะโงกหน้าเข้าไปมองด้านใน เศษซากขวดเหล้าเปล่าหล่นเกลื่อน ไม่เหมือนกับที่เธอสร้างภาพไว้ในใจ พื้นห้องระเกะระกะไปด้วยขยะและเศษบุหรี่ เธอเงยหน้ามองหมายเลขห้องซ้ำอีกครั้ง คนระเบียบจัดและไม่สูบบุหรี่อย่างภูมิ พอเปลี่ยนที่ เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวเหรอ “ไม่หรอกน่า...” หวานตาพึมพำพยายามคิดในแง่ดี เธอชะเง้อมองเข้าไปด้านในอีกครั้ง เริ่มไม่แน่ใจว่าตัวองตัดสินใจผิดหรือเปล่า... สายตาหวานตาสะดุดเข้ากับกระโปรงผ้าสีหวาน มันกองอยู่ที่พื้น ด้านข้างมีชั้นในผู้หญิงหล่นอยู่ใกล้ๆ หวานตากำมือแน่น กัดริมฝีปากล่างจนชา เธอสูดลมหายใจลึกๆ หมุนตัวเดินหนี เธอไม่ควรมาเพื่อรับรู้อีกด้านหนึ่งของภูมิเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หวานตาคิดว่าตัวเองตัดสินใจพลาด เธอควรรอให้เขากลับไป ไม่ใช่วิ่งโร่มาเจอความจริงที่น่ากลัว หวานตาหยุดเดิน เธอไม่เคยวิ่งหนีปัญหานี่นา ห
ไหนๆ ก็คันปากอยากหาเรื่องกัดใครสักคนแล้ว ไซม่อนนี่น่าจะเหมาะสุดสำหรับการลับฝีปากของเธอ ชลดาหัวเราะกิ๊ก “ไหมล่ะ พูดอะไรไม่พ้นตัวเอง ดีนะที่ชลขอดูผลตรวจเลือดก่อนแต่งงาน ไม่งั้นชลคงระแวงตัวเองจนตาย ชลกลัวเป็นเอดส์ค่ะ” “หวังว่าธามโตมาจะไม่ปากเสียเหมือนพ่อหรอกนะ” หลานชายของเธอจะต้องไม่สืบสานสันดานจากบิดาแย่ๆ อย่างไซม่อน หวานตาพยายามสอนให้ธามมองเห็นความไม่ดีในตัวบิดา ซึ่งหลานชายไม่ค่อยคล้อยตามเท่าไหร่ ธามติดพ่อมากกว่าแม่ คงเพราะไซม่อนมีเวลาดูแลลูกมากกว่าชลดานั่นเอง เขาเป็นตัวตั้งตัวตีในการเลี้ยงบุตรชายเกือบทั้งหมดนี่ รายละเอียดเกี่ยวกับหอพักทวีทรัพย์รับหน้าที่จัดหามาให้ บิดายัดใส่มือก่อนขึ้นเครื่องไม่กี่นาที ตอนแรกหวานตาก็หวั่นๆ เธอจะต้องมาคลำหาทางเอาเองที่ลอนดอนเสียก็ไม่รู้ พอได้ที่อยู่ภูมิมาเลยโล่งใจไปหนึ่งเปราะ อย่างน้อยก็ช่วยร่นระยะเวลาในการเจอหน้าภูมิ
“คุณภูมิกินแต่อาหารจืดๆ เลยไม่รู้ว่าบนโลกใบนี้มีอาหารรสอื่นที่อร่อยมากกว่าสิ่งที่คุณเคยลิ้มรสมาค่ะ” “ผมเป็นคนรักสุขภาพครับ อะไรที่ก่อผลร้ายกับตัวเอง ผมเลยไม่อยากเอาตัวเข้าไปเสี่ยง” “คุณกำลังบอกโรซี่เหรอคะ เรื่องบางเรื่องก็ไม่ได้น่ากลัวหรอกค่ะ ลองสักครั้งแล้วคุณจะติดใจ” “ผมไม่ชอบลองอะไรที่ไม่มีประโยชน์ครับ เสียพลังงานเปล่าๆ แต่ไม่ได้คุณค่าอะไรกลับมาเลย” แค่นี้คงทำให้โรสิตาสำนึกได้บ้าง ในฐานะเพื่อนมนุษย์เขาก็ไม่อยากทำลายน้ำใจหล่อนมากนัก แต่ภูมิไม่รู้ มนุษย์บางคนก็ดื้อด้านเกินกว่าที่จะขุดรากที่หยั่งลึกได้ เหมือนโรสิตา หล่อนถลำลงไปในวังวนที่อยากไถ่ถอนตัวเองคืน คำปรามาสของภูมิเลยก่อให้เกิดความไม่พอใจ และหล่อนจะไม่มีวันถอย จนกว่าจะสยบภูมิให้ศิโรราบได้&nbs
มันเป็นเรื่องน่ารำคาญสำหรับภูมิ แต่กลับเป็นเรื่องน่าสนุกของคนรอบตัว ภูมิรู้มีสายตาหลายคู่คอยสอดส่อง และรอดูบทสรุปเรื่องวุ่นวายในชีวิตเขา มีทั้งคนชื่นชมที่เขายึดมั่นในตัวเอง จนไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งลวงล่อที่โรสิตาพยายามสร้าง ชายหนุ่มถอนหายใจ หยุดปั่นจักรยาน เขาเหวี่ยงปลายเท้าลงยืนบนพื้น อิงจักรยานไว้กับพนักเก้าอี้เหล็กที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ “คิดถึงหวานจัง” เสียงพึมพำแผ่วหวิวปนเปไปด้วยความคิดถึง เวลาต่างกันหากเช้าที่ลอนดอน ที่ประเทศไทยคงดึกเอาการ หลายครั้งที่ภูมิห้ามใจตัวเองไว้ ไม่ติดต่อหาหวานตานอกจากเวลาที่กำหนด เขาอยากเห็นหน้า อยากได้ยินเสียง และก็เริ่มเห็นด้วยกับความคิดหวานตา ทั้งเขาและเธอต้องอดทน การจากกันครั้งนี้แค่ชั่วคราว ไม่ใช่ตลอดไป หากจะมีคนตะบะแตก ไม่หวานตาก็เขา
ริมฝีปากล่างถูกกัด มือหมุนปากกาในมือไปมา เรื่องนี้เธอควรมีตัวช่วย หากเก็บเงียบไว้แบบนี้คงอกระเบิดตาย ก่อนที่ภูมิจะกลับมา...เช้าวันใหม่... หวานตาแบกหน้าตาโทรมๆ ของตัวเองไปหาชลดาถึงบ้าน ชลดากับไซม่อนกำลังยุ่งกับการเลี้ยงบุตรชายวัยสามเดือนที่กำลังซนได้ที่ ขนาดเคลื่อนไหวเองไม่ได้ก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วลั่นบ้าน พ่อแม่มือใหม่ที่กำลังหลงลูกชายเลยพากันหยุดงานเลี้ยงลูก หวานตาเพิ่งรู้ไซม่อนไม่ใช่นักข่าวกระจอกๆ เขามีเงินเก็บจากการเทรดหุ้น ไม่ทำงานสักสองสามปียังได้ นับว่าชลดาตาแหลม ได้สามีเงินถุงเงินถังไว้ดูแล ไซม่อนเลิกอาชีพเป็นนักข่าวแล้ว เขาเขียนบทความให้สำนักข่าวของเพื่อนสนิทเขาแทน มีรายได้พอเลี้ยงตัวได้ ไซม่อนเลยกลายเป็นพ่อที่เลี้ยงลูกชายเต็มตัว คงเพราะชลดาไม่สามารถวางมือจากการเป็นบรรณาธิการหนังสือแฟชั่นได้นั่นเอง ชลดาเลยเป็นฝ่ายที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แต่เพราะหลงลูก หมู
สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ถูกยื่นมาให้ภูมิคว้าเอาไว้ ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นไม่รู้ เขาส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง “ทำไมคะ คุณไม่ชอบฉันเหรอ” ธรรมดาการปฏิเสธแบบสุภาพ จะทำให้ผู้หญิงมียางอายยอมถอย แต่สำหรับโรซี่แล้ว เธอเลยขีดจำกัดแบบนั้น เธอใช้ชีวิตในต่างแดนเกินหกปี ผ่านผู้ชายมานับไม่ถ้วน ไม่เคยสะดุดตาใครเท่าผู้ชายตรงหน้า เขาดูละมุนน่าครอบครองจนห้ามใจไม่ได้เลย ภูมิแอบผ่อนลมหายใจ เขายอมให้โรสิตาเดินข้ามเส้นแบ่งที่ตัวเองกำหนดไว้ เพราะคิดว่าคุยภาษาเดียวกันแล้วจะรู้เรื่อง เขาแน่ใจว่าโรซสิตารู้ เขาไม่ใช่ผู้ชายโสด ถึงจะยังไม่แต่งงาน แต่ภูมิแน่ใจตัวเอง เขาไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากหวานตาแน่ๆ “คุณกับผมมาจากถิ่นเดียวกัน ทำไมผมจะไม่ชอบคุณล่ะ” “มากกว่าชอบได้ไหมคะ โรซี่ไม่ถือ” โรสิตากระแซะต่อ
“ยัยชล แกจะแต่งงานเหรอ...เมื่อไหร่ล่ะ หมอนั่นยอมแล้วใช่ไหม?” หวานตาถามเสียงสั่น กลั้นยิ้มจนปวดแก้ม ชลดาตวัดสายตามองผ่าน ผิวแก้มร้อนวูบวาบ “เร็วๆ นี้แหละ เอาฤกษ์สะดวกนะ ฉันกับไซม่อนไม่มีญาติผู้ใหญ่แล้วทั้งคู่นี่” “ว้าว...ดีแล้วล่ะ หวานก็ไม่ชอบนักหรอก หมอนั่นกินตับแกหลายครั้งแล้ว อย่าคิดนะว่าหวานไม่รู้” หวานตากระเซ้า จนชลดาตาโต “ยัยหวาน” “ทำไม หวานไม่ใช่เด็ก ไม่มีประสบการณ์ก็จริง แต่หวานพอมองออกย่ะ หมอนั่นมองแกเหมือนขนมหวาน แบบนั้นมีหรือจะปล่อยให้แกครองจิ้นถึงวันแต่งงาน” “พอเลยๆ เลอะเทอะ” “หวานไม่ได้เลอะเทอะ ถามใครในออฟฟิตแกก็ได้ โธ่ๆ อย่าให้ห
บทพิเศษเติมความหวาน การแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดของคนสองคนที่รักกันมากๆ งานวิวาห์คือบททดสอบเบื้องต้นของชีวิตคู่ จุดเริ่มของนิยามความรักที่ไม่มีข้อจำกัด ภูมิกับหวานตาได้แต่หวังให้เขาและเธอยังจับมือกันเช่นนี้ต่อไปในอนาคต โดยไม่มีอุปสรรคมาทำลายความรักของเขาทั้งสองคนลงได้ “ภูมิยกเลิกไปเรียนต่อแล้วเหรอคะ ทำไมล่ะ?” หวานตาถามเสียงหลง เธอรู้สึกแปลกใจนิดๆ ภูมิไม่ใช่คนเหลาะแหละ เขาไม่มีทางเปลี่ยนใจหากตัดสินใจอะไรไปแล้ว และเรื่องเรียนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในอนาคตภูมิต้องใช้วิชาความรู้ทั้งหมดเพื่อดูแลกิจการของเขา ภูมิย่นปลายจมูก ก้มหน้าหลบสายตาแฟนสาวหมาดๆ “...” “หวานต้องการเหตุผลค่ะ ภูมิไม่ตอบหวานไม่ได้นะคะ&
“จะถามทำไม ไม่เยอะเท่าที่แกถูกหมอนั่นจูบหรอก” หวานตาตอบเสียงแข็ง รีบชิ่งหนี ด้วยการกดวางสาย “ร้อนตัวนะยะหล่อน รีบวางสายหนีเลย” ชลดาบ่นพึมพำ เธอมองหาไซม่อน และ “คุณๆ พรุ่งนี้ไปโรงพยาบาลกันนะ” ไซม่อนเลกหัวคิ้วขึ้นสูง เขาละสายตาจากการแต่งภาพ เงยหน้ามองแม่สาวข้างบ้าน ที่ยืนท้าวเอวอยู่หน้าโต๊ะทำงาน “ไปทำไม ไม่สบายเหรอ?” “เปล่า...” “อ้าว แล้วจะไปทำไม?” “จะพาคุณไปตรวจเลือด ยัยหวานโทร. มาบอกชลเมื่อซักครู่ ชลเห็นด้วย ดีกว่ามาเสียใจทีหลัง คุณยิ่งมั่วๆ อยู่แล้วด้วย”