บทที่3. Secret love มันใช่เหรอ?
หวานตากลับลงมาอีกครั้งหลังหายไปไม่ถึง10นาที เธอเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านสบายๆ เสื้อยืดตัวใหญ่ กับกางเกงผ้าขาสั้น ผมยาวสลวยถูกมัดไว้ด้านหลังท้ายทอย วงหน้าเกลี้ยงเกลาปราศจากเครื่องสำอาง หวานตาคงล้างเครื่องประทินโฉมพวกนั้นออกจนหมด แม้ไม่ได้แต่งหน้า ไร้สีสันบนใบหน้าของเธอ หวานตาก็ยังดูโดดเด่นเสมอ
อาจจะเป็นเพราะว่า หวานตาไม่นิยมใช้เครื่องสำอาง
และหากจำเป็นต้องใช้ เธอจะมีแค่ลิปสติกกับบรัชออนเท่านั้น หวานตาผิวดี ผิวเธอละเอียดจนมองไม่เห็นรูขุมขน
คิ้วเข้มๆ ของหวานตาได้มรดกมาจากทวีทรัพย์ โครงหน้าเธอคมอยู่แล้ว ดังนั้นการแต่งเติมเพิ่มสีสรรบนใบหน้าจึงไม่จำเป็นเลยสำหรับหวานตา
“ผมงานยุ่ง เลยไม่มีเวลามาที่ร้าน พ่อเลยหาคนมาช่วย คนที่หวานเห็นวันนี้นั่นแหละครับ”
ภูมิเปรยเหมือนอธิบายให้หวานตารับรู้ หวานตาไหวไหล่เ ธอฉวยช้อนส้อมมาจิ้มสาคูไส้หมูใส่ปาก ทำท่าไม่ยี่หระ ทั้งที่ใจเต้นตุบๆ เธอรู้ ‘ยัยนั่น’ เป็นลูกจ้างภูมิ หล่อนก็ไม่มีสิทธิมาเปลี่ยนแปลงความชอบของเธอ หวานตาร้องเอะในใจ! เธอจะไม่พอใจทำไมกับการเปลี่ยนแปลงนั่น เธอไม่สามารถยึดติดกับความชอบส่วนตัวของตัวเอง หากร้านกาแฟนั้น ไม่ได้มีชื่อเธอเป็นเจ้าของ
ผู้ชายตรงหน้าคือเจ้าของร้านกาแฟที่เธออ้างสิทธิความเป็นเพื่อน ยัดเหยียดบางสิ่งที่เขาอาจจะไม่พอใจให้ หวานตาผ่อนลมหายใจ เธอควรปรับตัวและยอมรับ และหากถึงที่สุดจริงๆ ร้านกาแฟของภูมิก็คงไม่ใช่ที่ทำงานแสนสบายของเธออีกต่อไปแล้ว
“ก็ดีแล้วนี่ ท่าทางขยันเอางานเอาการดี”
เสียงพูดราบเรียบไม่บ่งบอกความรู้สึก ภูมิแอบชำเลืองมอง เวลานี้เขาเดาใจหวานตาไม่ถูกเลย
“หากอรดีทำให้หวานไม่พอใจ บอกได้นะครับ ผมจะบอกเขาเอง”
ยังไงเสียหวานตาก็สำคัญสำหรับเขาเป็นอันดับต้นๆ แม้จะอยากล้วงความลับในใจของเธอ อยากทำให้เธอหันกลับมามองเขาบ้าง แต่ก็นั่นแหละ หากหวานตาไม่พอใจจนหมางเมิน ภูมิคิดว่าไม่คุ้มสักนิด
“ไม่ต้องหรอก” อารมณ์ตะบึงตะบอนผุดขึ้นมาอีกครั้ง
ความรู้สึกของเธอเสียไปแล้ว คงกลับคืนมาไม่ได้ง่ายๆ
“เรื่องขนม” ภูมิเปรย เขาเพิ่งได้ชิมเครปเค้กของโปรดของหวานตา ภูมิแทบเต้น อรดีกำลังล้ำเส้น หล่อนเปลี่ยนแปลงบางอย่าง จนอาจจะก่อให้เกิดความบาดหมางระหว่างเขากับหวานตา ก็เครปเค้กนั่นเป็นสูตรของหวานตา หล่อนยกให้เขาทำขาย และเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ แม้จะเป็นการเพิ่มต้นทุน แต่นั่นทำให้หวานตาพอใจ ภูมิก็ยอม...
เรื่องกำไรไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขาอยู่แล้ว
เรื่องความพอใจของหวานตาคือเรื่องใหญ่ เขาพยายามทำทุกทางเพื่อยื้อให้หวานตาอยู่ในสายตาของเขานั่นแหละ
หญิงสาวตวัดตามองผ่านแบบเร็วๆ รีบยิ้มให้เมื่อน้อยโผล่หน้ามามอง “มีอะไรหรือเปล่าคะพี่น้อย?”
“คุณภูมิอยู่ทานข้าวมื้อเย็นกับคุณหวานด้วยเลยไหมคะ?”
ทวีทรัพย์ออกไปธุระนอกบ้าน ไม่มีกำหนดว่าจะกลับมาตอนไหน หากภูมิจะอยู่กินมื้อค่ำเป็นเพื่อนนายสาวคงดีไม่น้อย
“คุณพ่อกลับดึกเหรอคะพี่น้อย?”
“ค่ะ... คุณท่านไม่ได้บอกไว้ แต่น้อยเดาไม่เคยพลาด”
“อย่าไปกวนเขาเลย คนงานยุ่งหน่ะ” มันอดไม่ได้ที่จะแขวะ แต่พอจิกกัดไปแล้ว หวานตาเลยเริ่มรู้สึกไม่ดี เธอทำตัวเหมือนภรรยาแก่ๆ ที่จับได้ว่าสามีมีกิ๊ก ตามระราน ตามกระแทกแดกดันใส่เขา
ชายหนุ่มอมยิ้ม “พี่น้อยทำอะไรเป็นมื้อเย็นล่ะครับ” เขาหันไปถามเสียงสุภาพกับแม่บ้านของหวานตาแทน
น้อยยิ้มกว้าง “ไข่พะโล้ของโปรดคุณภูมิค่ะ มียำปลาหมึกของชอบของคุณหวานด้วยนะคะ” น้อยหันไปพูดประจบนายสาว เมื่อสีหน้าของหวานเปลี่ยนไปนิดๆ เธอเลยรู้สึกผ่อนคลายลง เลยยกมือขึ้นกอดอกแก้เก้อ
“แหม...มีเบียร์เย็นๆ สักแก้วคงดีพิลึก” หวานตาเปรย เธอเห็นหางตาภูมิตวัดผ่านหน้า แต่ไม่มีเสียงตำหนิเหมือนเคย
หวานตาหัวเราะในใจ...เธอกับภูมิแตกต่างกันตรงนี้แหละ
เธอดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ได้ แต่ผู้ชายหุ่นน้องๆ นักเพาะกาย กลับไม่แตะต้องเครื่องดื่มพวกนั้นเลย บางครั้ง... หวานตาก็อยากจะแกล้งเขาเหมือนกัน...อยากรู้นัก เวลาที่ภูมิเมา...เขาจะเป็นอย่างไร?
เพื่อนหลายคนเคยพูดให้ฟัง...คนเมาคือคนที่มีสติไม่เต็มร้อย เขารู้ตัว เพียงแต่จะรู้สึกมึนๆ เบลอๆ หลายสิ่งหลายอย่างที่เก็บกดไว้จะระเบิดออกมาช่วงนั้นแหละ หวานตาอยากเห็นช่วงเวลาหลุดๆ ของภูมิบ้าง? มนุษย์สุดเพอร์เฟคแบบเขา มีอะไรเก็บไว้ในใจหรือไม่...คงมีสักวันที่เธอจะต้องหาทางพิสูจน์...
ภูมิรู้สึกเย็นวาบไปตลอดแผ่นหลัง...
เขาเห็นแววตาแปลกๆ จากหวานตา หล่อนต้องคิดอะไรพิลึกๆ อยู่ในหัวของหล่อนแน่
ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจ ความรู้สึกหน่วงๆ ในอกจางหายไป ขอแค่เพียงหวานตาไม่โกรธเขา...แค่นั้นก็พอแล้ว
น้อยถอยหลังกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองเงียบๆ ปล่อยให้นายสาวอยู่กับเพื่อนชายของเธอ
“เมื่อไหร่คุณภูมิจะกล้าพูดออกมาสักทีคะ?”
แม่บ้านสาวใหญ่เปรยออกมาลอยๆ คนรอบตัวหวานตามองออกว่าภูมิคิดอย่างไรกับนายสาวของเธอ มีหวานตาคนเดียวมั้ง!! ที่ไม่เคยรู้ว่า...เพื่อนของตัวเอง คิดเกินกว่าคำว่าเพื่อนด้วย...น้อยได้แต่เอาใจช่วย เธอเป็นแค่ลูกจ้างที่ไม่กล้าละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย ได้แต่ภาวนาให้หวานตามองเห็นความรู้สึกเกินเพื่อนนั่นเสียที
มันก็เหมือนทุกครั้ง...ช่วงเวลาที่มีภูมิอยู่ใกล้ๆ หวานตาจะรู้สึกผ่อนคลาย เธอไม่ต้องปั้นหน้า ไม่ต้องฝืนทำเป็นแกร่ง เพราะต่อให้เธอโกหกคนทั้งโลกว่าเธอมีความสุข คน คนเดียวที่สามารถจับความรู้สึกเศร้าๆ ของเธอได้ ก็คงมีแค่ภูมิ
สำหรับเรื่องเรืองฤทธิ์ หวานตาเสียใจเช่นกัน
เธอคิดว่าตัวเองเลือกคนที่เหมาะที่ดีกับตัวเองแล้ว ไม่คิดเหมือนกันว่า...ที่เธอคาดหวังไว้นั้น...มันจะคลาดเคลื่อนไปจากความตั้งใจ
มันเสียเซลฟ์เล็กๆ เสียใจนิดๆ
แต่...แปลก เธอไม่ได้เจ็บปวดเพราะความรัก เหมือนที่เคยเห็นจากเพื่อนๆ เวลาที่พวกเขาผิดหวัง
ไม่มีน้ำตา เธอไม่ได้ฟูมฟาย...แม้จะรู้ดีว่า เรืองฤทธิ์คงไม่มีทางย้อนกลับคืนมาอีกแล้ว เขาเลือกทางเดินทางนั้น ซึ่งหวานตารับไม่ได้
ภูมิปรายตามองสีหน้าหมองๆ ของหวานตา เขาลืมตัวกำหมัดแน่น นึกอยากจะแล่นไปถลุงปากของชายคนนั้นสักครั้ง
หากมีใครสักคนบนโลกทำให้หวานตาเสียใจ คน คนนั้นคือศัตรูของเขา!!
“อิ่มแล้ว หวานอยากออกไปแดนซ์ย่อยอาหารไหม?”
หวานตายิ้ม มันก็ไม่เลวหรอกนะ ที่จะไปออกกำลังเรียกเหงื่อ
“ยัยชลไม่ว่างสิ...วันนี้”
หญิงสาวบ่น ชลดาน่าจะติดพันกับการทำงาน เพราะช่วงใกล้ๆ สิ้นเดือนแบบนี้ เพื่อนของเธอจะกลายร่างเป็นซอมบี้ ไม่กินไม่นอนจนกว่างานจะเสร็จ “หวานก็ไปกับผมสิครับ” “ก็ได้นะ...” มันก็ดีกว่านอนพลิกไปพลิกมาบนเตียงคนเดียวแหละ ออกไปยืดเส้นยืดสายก็ดีเหมือนกัน ภูมิเจริญอาหาร ไม่ใช่เพราะพี่น้อยทำกับข้าวอร่อยหรอก สายใจมารดาของเขา มีรสมือพอๆ กับคนที่เรียนทำอาหารกับครูชาววัง แต่มันเป็นเพราะเพื่อนร่วมโต๊ะต่างหาก เพราะหวานตา เลยทำให้กับข้าวธรรมดา เหมือนอาหารทิพย์ การเป็นเพื่อนสนิทก็มีประโยชน์ไม่ใช่น้อย อย่างน้อยก็ทำให้เขากับหวานตามีเวลาส่วนตัวแบบไม่มีใครรบกวน บางครั้งภูมิมีความสำคัญกว่า ‘แฟน’ ของหวานตาเสียอีก เพราะเพื่อนชายคนสนิทเหล่านั้น ไม่ผ่านเกณฑ์ทวีทรัพย์ บางคนไม่เคยได้มาเหยียบบ้านหวานตาเลย หวานตาขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ภูมิเลยถือโอกาสนั้นไปเปลี่ยนชุดด้วยเช่นกัน บ้านเขากับบ้านเธอ มีรั้วที่เชื่อมถึงกัน นั่นเป็นการยืนยันความสนิทสนมของสองครอบครัวเป็นอย่างดี “หล่อเหมือนกันนะนี่” หวานตาชม เมื่อภูมิเดินกลับมาพร้อ
บทที่4.แค่คนในอดีต โนสน โนแคร์ แต่... คนที่ไม่อยากเจอ กับโผล่หน้ามาให้รำคาญตาเสียนี่ หวานตาอารมณ์เสียขึ้นมาทันที เมื่อใครบางคนเสนอหน้ามาให้เห็น ตอนที่เธอควรจะมีความสุข และอารมณ์ดีตลอดค่ำคืนนี้“ออกไปห่างๆ หวานค่ะ หวานไม่อยากให้ ‘แม่’ ของคุณมาเขม่นหวาน” หญิงสาวเอ่ยปากไล่ทันทีที่เรืองฤทธิ์ขยับเข้ามาจนเกือบตัวติดกับเธอ หวานตาจงใจพูดประชด เธอยิ้มมุมปาก ชำเลืองมองชายหนุ่มด้วยหางตาดวงตาคมวาวของม่านแก้วทอดมองมาที่เธอด้วยความไม่พอใจอย่างแรง!! สาวใหญ่ผู้นั้นไม่คิดปิดบังความจงชังที่มีต่อเธอ หล่อนพุ่งสายตามาจากชั้นลอยในคลับแห่งนี้นี่เอง“ผมไม่คิดว่าจะเจอหวานที่นี่” เรืองฤทธิ์เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ เขาเบื่อที่ต้องคอยพินอบพิเทาสาวใหญ่ผู้นั้น จนบางครั้งก็อยากแหกกฏเกณฑ์ที่ม่านแก้วตั้งไว้ “เหรอ!” หวานตาแอบเบ้ปาก เธอกลอกตามองบน สลับกับมองหน้าเรืองฤทธิ์ตรงๆชายหนุ่มหลุบเปลือกตาลง ซ่อนแววตาโลมเลียไม่ให้อีกฝ่ายเห็น หวานตาวันนี้ดูเซ็กซี่วายร้าย หล่อนไม่ได้แต่งตัวสไตน์เดิม ค่ำคืนนี้หวานตาอยู่ในชุดรัดรูป อวดสัดส่วนวัยสาวสะพรั่ง เนินเนื้ออวบอิ่มแทบจะล้นทะลักออกมาจากผ้ายืดรัดติ๋ว
“ตามใจคุณเลยค่ะ อยากคิดอะไร ยังไง แล้วแต่...อย่าลืมนะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว คุณไม่เกี่ยวกับหวาน หวานไม่เกี่ยวข้องกับคุณ” หวานตาไหวไหล่ เบ้ปากจนมุมปากบิด ปรายตามองเรืองฤทธิ์ด้วยสายตาปนความสังเวช เรืองฤทธิ์กำหมัดแน่น เขาทรงตัวลุกขึ้นยืน “ผมคงทำให้หวานอารมณ์เสีย” เสียงเปรยดังแผ่วๆ “รู้ตัวก็ดีนะคะ หวานมาเที่ยว หวานต้องการความสบายใจ และหวานไม่อยากเครียดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง” หวานตาโบกมือเรียกบริกรที่เดินผ่านหน้าโต๊ะของเธอพอดี “ขอเบียร์แบบนี้อีกเหยือกนะคะ” เธอบอกพนักงานหนุ่มน้อยด้วยเสียงที่หวานเกินปกติ เรืองฤทธิ์เดินจากไปพร้อมกับขุ่นเขืองอัดแน่นอยู่ในใจ ขนาดทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับม่านแก้ว เขายังเก็บความไม่พอใจนั่นออกไปจากสีหน้าไม่หมด “แค่เจออดีตแฟนมาเที่ยวกับหนุ่นคนใหม่ ถึงกับฉุนขาดเลยเหรอคะ!!” สาวใหญ่พูดแดกดัน ถึงนางจะออกตัวแรง บอกใครๆ ไม่ได้ แต่เรืองฤทธิ์ก็เป็นกึ่งสามี เขาทำหน้าที่บนเตียง พร้อมกับตำแหน่งเลขานุการส่วนตัวของนางด้วย “มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับพี่” ชายหนุ่มพยายามแก้ตัว แต่มันฟังไม่ขึ้น
ภูมิเริ่มรู้สึกตัวว่าตนเองพลาด... เขาตามมาอารักขาหวานตาหลายครั้งในสถานที่เช่นนี้ แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะมายืนใกล้ๆ หวานตา ตอนที่หล่อนกำลังวาดลวดลายอยู่กลางฟลอร์เต้นรำ นี่เป็นครั้งแรก และน่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ภูมิถอนใจแรงๆ เขาทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนตะลึงมองหวานตาที่ออกสเต็ปเต้นด้วยลีลาแบบที่เคยเห็นผ่านคลิปหลายๆ คลิปในยูทูป ปลายนิ้วแข็งแรงเผลอยกขึ้นดันตรงตำแหน่งที่เคยมีแว่นตา เขารู้สึกเหมือนแว่นตาเคลื่อนต่ำลงมาจนเกือบหลุดสันจมูก แต่กลับไม่เจอแว่น เพราะวันนี้ภูมิถอดแว่นไว้ที่บ้านเพื่อความสะดวก เขาใส่คอนแทคเลนส์มา และหลังจากนั้น...นิ้วของภูมิก็ถูอยู่ข้างๆ แก้ม หวานตาอมยิ้ม เธอขยับเขามาใกล้เพื่อนชาย ก่อนจะวางมือบนแผงอกของภูมิ โยกตัวไปมา พร้อมกับเงยหน้ามองสบนัยน์ตาของเขา...ภูมิมองตอบ เขาพยายามสะกดความตื่นเต้นไว้แค่ในใจ หวานตาไม่มีทางรู้... ใต้สีหน้าที่นิ่งเรียบ ภูมิตื่นเต้นจนเหงื่อชื้น ความชอบที่มีอยู่เป็นทุนเดิม เพิ่มพูนมากขึ้น แววตาของหวานตาเป็นประกายสะท้อนแสงไฟหลากสี ที่สาดแสงส่ายไปมา... กว่าภูมิจะตัดสินใจทำอะไร หวานตาก็เริ่มรุกก่อน เธอหมุนตัวหันหลัง
บทที่5.จะเสียเพื่อนเพราะ ‘จูบ’ “ชลลลลล!” หวานตาแบกสังขารไม่เต็มร้อยมาหาชลดาถึงบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อนของเธอยังไม่ลุกจากที่นอนเลย “อะไรอีกกกกกก!!?” ชลดาถามเสียงอู้อี้ งัวเงียตื่น...เพราะหวานตาพยายามปลุก หวานตาตะโกนเสียงดังไม่พอ เธอยังเขย่าชลดาแรงๆ หญิงสาวใจร้อนเป็นไฟ เธอกำลังต้องการความช่วยเหลือแบบเร่งด่วน... ก่อนที่ทุกอย่างจะพัง “ชลถามหน่อยสิ... สมมุตินะชล ถ้าแกพลาดไปจูบกับผู้ชายที่เป็นแค่เพื่อน แกกับเพื่อนคนนั้นยังเหมือนเดิมอีกไหมฮะ?” หวานตากลั้นใจถาม เธอลุ้นคำตอบด้วยหัวใจเต้นตึกตัก ชลดาเงยหน้ามอง ยกมือขยี้เปลือกตาเพื่อดึงสติ แต่คำตอบของเพื่อนสนิทเล่นเอาหวานตาตัวเย็นวาบ “ถามทำไมยะ? ก็เสียเพื่อนไปตั้งแต่ตอนที่ ‘จูบ’ แล้วล่ะมั้ง” ชลดาพูดหน้าตาย เธอไม่เห็นเข้าใจ หวานตาปลุกเธอขึ้นมาถามเรื่องนี้กับเพื่ออะไร? “แล้วถ้าอ้างว่าทำงไปเพราะเมาล่ะ ยังจะรักษาเพื่อนคนนั้นไว้ได้อีกหรือเปล่า?” หญิงสาวพยายามหาเหตุผลประกอบ มันต้องมีสักทางสิที่จะรั้งความรู้สึกดีๆ เกือบ20ปีไว้ได้ เธอยกมือขึ้นต
“อย่ามาโกหกพ่อ...เราไม่เคยมีท่าทางแบบนั้น แล้วถ้าอ้างว่าเมา ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่” บิดาดักทางออกของเขาจนหมด เพราะทั้งท่านและเขาพิสิทธิโยทินสองพ่อลูก ไม่ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์สักคน “ไม่มีอะไรจริงๆ ครับพ่อแค่ผมถูก ‘จูบ’” ภูมิตอบหน้าตาย เคล้ง! ช้อนในมือของสายใจหล่นบนพื้น นางมืออ่อนหลังได้ยินคำตอบของบุตรชาย ในขณะที่ภาคหัวเราะลั่น “ผู้หญิงที่จูบลูก คือหนูหวานงั้นสินะ” ไม่จำเป็นต้องเดาเลย ท่าทางบุตรชายยิ่งกว่าดอกไม้ได้ฝน กลีบสีสดแย้มบานรับแสงแรกแห่งรุ่งอรุณ ความยินดีที่ปิดไม่มิดนั่น แสดงออกทั้งสีหน้าและแววตา “โอ้ย!! แม่จะเป็นลม เกิดอะไรขึ้นกันล่ะนี่” สายใจโบกมือพัดลมใส่หน้า นางถามเสียงสั่นๆ “ไม่มีอะไรหรอกครับ” ภูมิตอบเสียงเรียบ เขาอมยิ้มมุมปากแววตาพราวระยิบตลอดเวลา “มันเป็นผลมาจาก การมีใครเข้ามาในชีวิตลูกหรือเปล่า?” “ไม่ใช่หรอกครับ แต่มาคิดๆ ดู มันก็อาจจะมีส่วน” ภูมิตอบ เขาทรงตัวลุกขึ้นยืน เตรียมตัวจะไปทำงาน “เดี๋ยวๆ แม่งง ทำไมลูกไม่เห็นเดือดร้อนอะไรเลย” สายใจรั้งไว้ ท่าทางบุตรชายสบายๆ เหมือนไม่มีอ
ผู้ชายคนนั้นหายหน้าหายตาไป เธอรู้เรื่องเขาจากคนอื่น เฝ้าตามดูเขาห่างๆ เพราะความเป็นห่วง แต่ไม่มีสักครั้งที่เขาจะส่งข่าวให้เธอรู้โดยตรง พอนานวันเข้า หัวใจของเธอก็ชาด้าน และยอมรับได้ในที่สุด เธอถูกเท... หญิงสาวถอนใจแรงๆ นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เธอเปิดใจให้ผู้ชาย นับจากนั้นชลดาก็เป็นผู้หญิงเก่งที่ผู้ชายหน้าไหนก็เข้าไม่ถึง เธอก้าวขึ้นไปยืนบนตำแหน่งสูงสุด ด้วยความสามารถ หญิงสาวสัญญากับตัวเอง ชีวิตนี้เธอไม่จำเป็นต้องมีคนข้างกายก็ได้ เมื่อผู้ชายส่วนใหญ่รักแต่ตัวเอง และเห็นแก่ตัว ใครจะรู้ล่ะ ผู้หญิงที่รอบรู้ไปทุกเรื่อง เก่งรอบด้านอย่างชลดา กลับเป็น ‘สาวเวอร์จิ้น’ “ผู้ชายเฮงซวยอย่างนั้น จำทำไมให้รกสมอง” ชลดาบอกกับตัวเอง พยายามคิดในแง่ร้าย เธอจะได้ลืมความหลังเก่าๆ เสียที เธอวนเวียนคิดแต่เรื่องที่ทำให้ฟุ้งซ่าน ชลดากระแทกสันมือกับผิวโต๊ะทำงาน ระเบิดความเกลียดออกมาเสียงดัง “ไอ้ผู้ชายบ้า ไอ้ผู้ชายใจดำ!!” หญิงสาวถอนใจแรงๆ ยกมือเสยผม แล้วก็ต้องรีบปรับความรู้สึก เมื่อเลขานุการที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้องของเธอดันประตูโ
บทที่6.ความรู้สึกเกินเพื่อน หวานตาวางมือไม่ถูก เธอไม่เคยรู้สึกกระอักกระอ่วนหากอยู่กับภูมิ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกแบบนี้ เธอเริ่มนับหนึ่งถึงสิบในใจ พยายามสำรวมความรู้สึกไม่ให้ตื่นตระหนก “หวานไม่ต้องคิดมากนะ ผมเข้าใจว่าหวานอาจจะมีเหตุผล” ภูมิชิงพูดก่อน จนหวานตาอึ้ง นัยน์ตาของเขาไร้แววตาอย่างอื่น นอกจากใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนก่อนที่จะเกิดเรื่อง “แหะๆ” หวานตาแสร้งหัวเราะแก้เก้อ ภูมิยิ้มร้ายในใจ เขาไม่มีวันปล่อยให้หวานตาหลุดมือหรอก หล่อน ‘จูบ’ เขาแล้ว หวานตาต้องรับผิดชอบชีวิตเขาต่อจากนี้ “เราสองคนเป็นเพื่อนกันมานาน ผมเข้าใจหวานครับ” ใบหน้าเล็กๆ ขยับขึ้นลงรัวๆ แม้ตอนนี้หวานตาจะยังหาเหตุผลไม่ได้ เธอทำแบบนั้นกับภูมิทำไม แต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ หากเธอยังไม่อยากเสียเพื่อนดีๆ แบบภูมิไป “หวานดีใจที่ภูมิไม่คิดมาก” หญิงสาวพูดอ้อมๆ แอ้มๆ “เรื่องนั้นหวานไม่ต้องเป็นห่วงไปเลย ผมไม่คิดอะไรอยู่แล้วครับ” ภูมิตอบเสียงขึงขัง เขาซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้ใต้สีหน้าใสซื่อ “หวานดีใจจังเลยค่ะ ที่