'น้ำส้ม' ต้องกลายเป็นหม้ายลูกติด เมื่อสามีของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ การจากไปของเขาทำให้เธอต้องดิ้นรนสู้ชีวิตฟันฝ่าเพื่อลูก ชีวิตที่พลิกผันทำให้ได้เจอกับ 'นักรบ' นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ใครต่อใครจ้องจะจับ ทว่ากับไม่ได้เป็นตัวเลือกของเขาสักนิด ก็เพราะเขามันคนเอาแต่ใจ อยากได้น้ำส้มเพียงแรกสบตา โดยมีกามเทพตัวน้อยนำพาให้ได้พบเจอกัน...ภายใต้สัญญาที่เธอยากจะปฏิเสธ
View More"ทำงานชดใช้จนกว่าผมจะพอใจ""มันไม่มากไปหน่อยเหรอคะ แล้วฉันต้องทำไปถึงไหนกันระยะเวลาสิ้นสุดก็ไม่มี"นักรบเผยตัวเลือกที่สร้างความตกใจแก่น้ำส้มไม่น้อย จนเธอพรวดพราดลุกขึ้นยืนค้ำโต๊ะ เผลอเสียงดังใส่หน้าเขา ที่ตอนนี้เอาแต่จ้องมองด้วยใบหน้าเรียบตึง ท่าทางขึงขังของน้ำส้มแทบอยากตะปบหัวนักรบกดลงพื้นโต๊ะ แต่เธอก็ทำได้เพียงกำมือและกัดฟันแน่นเท่านั้น"มีสิครับ" นักรบลุกยืนช้า ๆ ทำท่าเดียวกับน้ำส้ม ทั้งสองประจันหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมกัน แล้วนักรบจึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง สายตาไม่ละห่างจากคนที่อยู่ตรงหน้าเพียงเสี้ยววินาที"แล้วกี่ปีกี่เดือนละคะ" เธอย้อนถาม"ตลอดชีวิตไงครับระยะเวลาสิ้นสุด" เขาตอบเธอ จากนั้นจึงนั่งลงเก้าอี้ตามเดิม จรดปลายปากกาลงเอกสารอย่างคนสบายใจ จำให้น้ำส้มต้องนั่งลงด้วยใจอ่อนแรง เธอไม่รู้จะแข่งหรือต่อกลอนกับผู้ชายคนนี้ยังไงแล้ว เพื่อให้เขาผ่อนปรนยอมให้เธอได้ผ่อนผันสิ่งที่ลูกสาวก่อขึ้นด้วยความเดียงสา"หน้าตาก็ดีทำไมถึงใจดำโหดเหี้ยมแบบนี้ละคะ...เสียแรงที่เคยชื่นชมคุณ เมื่อวานฉันไม่น่าขอร้องคนใจดำแบบคุณเลย" เธอนั่งลงชักสีหน้าบึ้งตึงแล้วบ่นต่อหน้าเขา สองมือกุมหัวแสดงความกลัดก
"ลูกนะลูกหางานให้ตลอด แค่เรื่องเมื่อวานยังไม่รู้จะรอดไหม นี่ยังมีหน้าไปเป็นหนี้เขาอีก ตายแน่ฉันจะไม่ใช้หนี้หัวโตเลยหรือไง ค่าผ่อนบ้านเดือนนี้ก็ยังไม่ได้จ่าย" น้ำส้มบ่นยุบยิบระหว่างขับรถเพื่อไปพบนักรบตามที่เขานัดไว้ ข้อเท้าที่บาดเจ็บก็เหมือนพลันหายไปเมื่อเทียบกับเรื่องมากมายที่หนักอก บาดแผลจึงดูเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับปัญหาที่เธอต้องเผชิญ"มาพบคุณนักรบค่ะ นัดไว้สิบเอ็ดโมงตรง" น้ำส้มเดินเข้ามาในบริษัทติดต่อเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ แจ้งนัดกับพนักงานให้รับทราบ"คุณน้ำส้มใช่ไหมคะ? " พนักงานถามย้ำ"ใช่ค่ะ" เธอตอบรับอย่างสุขุม"รอสักครู่นะคะ" "ค่ะ"จากนั้นพนักงานต้อนรับจึงได้ต่อสายขึ้นไปเพื่อแจ้งให้กับเลขาหน้าห้องได้ทราบ แล้วต่อมาจึงได้เชื้อเชิญชี้ทางให้น้ำส้มขึ้นไปพบ เธอเพิ่งเคยมาสถานที่นี้ครั้งแรกจึงประหม่า และรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลย ดั่งปัญหาที่เธอกำลังจะพบเจอมันดูยากเย็น"นัดสิบเอ็ดโมงตรงมาแล้วค่ะท่านประธาน...เชิญค่ะคุณน้ำส้ม""ขอบคุณค่ะ"เมื่อมาถึงหน้าห้องผู้บริหารระดับสูง ยังไม่ทันที่น้ำส้มจะได้แนะนำตัว เลขาที่นั่งอยู่เบื้องหน้าก็ยกหูโทรศัพท์ต่อสาย จากนั้นจึงเชิญเธอเข้าไปในห้องทำงา
(ว่าไงคะพี่ชาย เดี๋ยวนี้หายหัวตลอดไม่ค่อยอยู่บริษัทเลย) เอมอรกดรับสายที่เรียกเข้ามา เมื่อเห็นว่าเป็นพี่ชายจึงได้ตอบรับปลายสายอย่างสนิทสนม เหมือนที่เคยพูดคุยกันในปกติ"หายอะไรก็เข้าบริษัททุกวัน" เขาตอบน้องสาว(ก็อรไปทีไรไม่ค่อยเห็นอยู่ห้อง) เอมอรโต้ตอบสวนคืน เธอจะเข้าไปหาพี่ชายทีไรก็ไม่เคยเจอหน้าสักที สุดท้ายก็ถ่อกลับออกมาโดยไม่ได้อะไรตามที่ต้องการเลยสักอย่าง พักหลังพี่ชายของเธอชอบแอบหนีออกจากบริษัทบ่อยครั้ง จากที่รู้คือการไปดูงานถ่ายแบบซึ่งปกติแล้วนักรบไม่ค่อยจะไป นอกจากการถ่ายแบบของแอนนา"มาหาไม่ถูกเวลาเองช่วยไม่ได้ แกหยุดถามพี่ก่อนได้ไหม พอดีมีเรื่องจะถาม" (ถามอะไร)"แกพอจะรู้จักร้านที่ทำสแตนดี้หรืองานสั่งทำหมอนข้างอะไรนี่ไหม แบบเร่งด่วนภายในสองสามชั่วโมง"(พี่จะหาไปทำไมอะ)"เออน่า แกรู้จักบ้างไหมช่วยสั่งทำให้หน่อยดิ"(เออมี แล้วพี่จะทำแบบไหนล่ะ)"เขามีอะไรก็ทำหมดนั่นแหละ สแตนดี้ตั้งพื้นสูงเท่าคนจริง หมอนข้าง แก้วน้ำ อะไรพวกนี้"(พี่จะทำไปเพื่อ!?)สิ่งที่พี่ชายบอกผ่านเครื่องมือสื่อสาร มันทำให้เอมอรถึงกับต้องย้อนถามด้วยความงุนงง เธอไม่เคยพี่ชายจะใส่ใจในสิ่งของพรีเมี่ยมเหล่านี้เลย ทำ
"รับน้องซะยับเยินเลยนะ" นักรบที่จัดการล้างหน้าตัวเองจนสะอาด เขามานั่งบนโซฟาตัวเดิมที่นอนหลับก่อนหน้า สายตาจ้องมองสองแม่ลูกที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องล่าง ที่ตอนนี้สีหน้าซีดเผือดอย่างรู้สึกผิด“ฉันขอโทษแทนลูกด้วยนะคะคุณนักรบ ฉันอบรมแกไม่ดีเอง” น้ำส้มพูดขึ้นพลางเงยหน้ามองนักรบด้วยแววตาอ้อนวอน เธอเห็นสีหน้าของเขาดูเกรี้ยวโกรธ จึงกลัวว่าจะส่งผลกับงานที่กำลังไปได้ดี“..........” แต่นักรบยังนั่งนิ่งมือกอดอก สีหน้าเรียบตึงจนน้ำส้มและน้องมะนาวนั่งหงอย ใบหน้าห่อเหี่ยวอย่างหวาดหวั่น พยายามพูดเว้าวอน แต่เหมือนคนงอนด้วยอารมณ์จะยังไม่ตอบรับใด ๆ“เงียบแบบนี้โกรธแน่เลย คุณนักรบฉันขอโทษจริง ๆ ค่ะ ต่อไปจะไม่ให้มะนาวทำแบบนี้กับคุณอีก...คุณไม่โกรธใช่ไหม?” ลักษณะที่เงียบกริบของนักรบ ทำให้น้ำส้มหวั่นใจหนักกว่าเดิม จนต้องวิงวอนเขายืนกรานและกล่าวโทษตัวเอง เพราะยังไงลูกคือสิ่งที่แม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะทำผิดหรือถูกก็ตาม นั่นคือสิ่งที่คนเป็นแม่ต้องทำ“ผมควรทำยังไงกับพวกคุณสองแม่ลูกดี” นักรบวางท่าทางนิ่งขรึม แล้วถอนลมหายใจออกมา ก่อนจะเอ่ยวาจาอย่างกับว่าเขาหน่ายใจ กับสิ่งที่ได้พบเจอวันนี้“น้องก็แค่อยากให้คุณอาหล
"คุณแม่น้องหิวข้าว...แล้วนั่นคุณแม่ไปกัดคุณอานักรบทำไมคะ" เสียงแหลมดั่งสนั่นลั่นบ้าน จึงสามารถปลุกคนที่ตกในภวังค์อื้ออึงแยกห่างจากกัน และมันสามารถปลุกคนที่หลับใหลให้ลุกตื่นมานั่ง ทั้งสองคนมีอาการลุกลี้ลุกลนไปคนละทิศทาง ต่างอายสายตาของกันและกัน นักรบแสร้งเป็นเปิดทีวีแต่มือดีคว้ารีโมทแอร์มาแทน ใช้กดเปิดหน้าจอทีวีที่ไร้ภาพบนนั้น แต่เขาดันมองเเละหัวเราะเหมือนสนุกสนานอีกด้านของน้ำส้มก็ก้มเช็ดพื้นด้วยมือเปล่าอย่างตั้งใจ ทำให้เด็กหญิงมะนาวที่วิ่งเข้ามากะทันหันเห็นแล้วเกิดอาการอย่างงุนงง ได้แต่เอียงคอมองเกาหัวยิก ๆ ในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทั้งสองทำ"คุณอานักรบหัวเราะอะไรเหรอคะ" ความสงสัยทำให้เด็กหญิงต้องไปนั่งข้าง ๆ แล้วเอ่ยถามอย่างใคร่รู้ ก็เธอกำลังงง!"ดูหนังตลกไงครับ ตลกมาก ๆ เลยเนอะ ฮ่าฮ่า" นักรบหันมาพูดตอบ และปล่อยเสียงหัวเราะออกมา"ไม่เห็นจะมีอะไรตลกเลยค่ะ หรือว่าคุณอานักรบมีตาทิพย์เหรอคะ ไม่เปิดทีวีก็ดูหนังตลกได้ด้วย" เด็กหญิงทักท้วงด้วยใบหน้าแสนใสซื่อ พลางชี้มือไปตรงทีวีที่ไร้ภาพเคลื่อนไหวและการแสดงอย่างที่นักรบว่า"เชี้ยแล้วไง!" นักรบถึงกับหันหน้าหนีแล้วสบถอย่างหัวเสีย รู้สึกอายหนักกว่าเดิ
"มะนาวไปล้างมือมาทะ....." หลังจากที่ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยพร้อมตั้งโต๊ะเตรียมทานมื้อเย็น น้ำส้มจึงเดินมาเรียกลูกสาวและแขกของบ้าน แต่ต้องมีอาการชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ที่สร้างความตกใจแก่เธอเป็นอย่างมาก มันคือความเละเทะ! จนยากจะปริปากพูด "ชู่~~คุณแม่เบา ๆ สิคะเดี๋ยวคุณอาจะตื่น" เด็กหญิงรีบยกนิ้วแตะริมฝีปาก ทำท่าทางห้ามปรามผู้เป็นแม่ที่เสียงดัง"น้องทำอะไรคะเนี่ย! ทำไมหน้าคุณอานักรบเละแบบนี้" น้ำส้มปรี่ประชิดตัวลูกสาวแล้วถามด้วยความใคร่รู้ แม้จากสิ่งที่เห็นจะเดาได้ว่าเป็นฝีมือลูกสาวแสนซนของเธอ"ทำเหมือนคุณแม่ไงคะ น้องอยากให้คุณอาหล่อเวอร์ ๆ กว่าเดิม....น้องทำดีไหมคะคุณแม่ขา" เด็กหญิงอธิบายตาใส แววตาไร้เดียงสา ปากฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี ทว่าท่าทีนั้นทำเอาผู้เป็นแม่ควันแทบออกหู"ทำดีอะไรล่ะ น้องทำคุณอาแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะน้องมะนาว ไปเอาที่เช็ดเครื่องสำอางกับสำลีมาให้แม่เลยนะคะ ก่อนที่คุณอานักรบจะตื่น" ผู้เป็นแม่จับแขนลูกสาวออกห่างจากนักรบ แล้วพูดเสียงเบาตำหนิลูกสาวแสนซนที่ปั้นหน้าแป้นไร้เดียงสา อย่างกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด จนแม่ต้องถลึงตาเขียวใส่"คุณแม่อย่าเพิ่งแปลงร่างนะคะ...เดี๋ยวน้องจะ
"มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ" เขาเดินเข้ามาในครัวเเล้วอาสา เมื่อเห็นว่าน้ำส้มกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมวัตถุดิบทำอาหารเย็น"ไม่เป็นไรค่ะคุณเป็นแขกฉันจะกล้าให้คุณทำได้ยังไงกันล่ะคะ...คุณนักรบไปนั่งรอที่โซฟานั่งเล่นก็ได้ค่ะ" เธอบอกเขาพลางระบายยิ้มแสนหวาน ที่ทำเอาคนมองตราติดในสายตา"ไม่อยากเป็นแขกอะ ขอเป็นแฟนได้ป้ะครับ" เขาพูดหยอดจนทำให้น้ำส้มถึงกับชะงักเสียการทรงตัว วันนี้เธอจะทนไม่ไหวกับคำหวานและความเจ้าเล่ห์ที่เขาถาโถมใส่ ตั้งรับไม่หวาดไม่ไหวจนอายแทบแทรกแผ่นดินหนี"คุณนักรบ" น้ำส้มเอื้อนเอ่ยกดน้ำเสียงต่ำพลางจ้องหน้าเขาอย่างห้ามปราม พยายามจะไม่แสดงความเขินอาย แต่ก็ไม่สามารถเก็บกลั้นความรู้สึกเอาไว้ได้ ก็เขาเล่นหยอดเธอแทบทุกโอกาส มีแต่เธอนั่นแหละที่พลาดทำให้เขากลั่นแกล้ง ตอบโต้ไม่ทันสักครั้ง แค่ถูกเขาจูบตรงหน้าบ้านก็เขินจนจังหวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแทบช็อก"โอเค...งั้นผมไปเล่นกับน้องมะนาวรอนะ" เขาชี้นิ้วกลับไปด้านหลังแล้วบอกเธอ "ไปเลยค่ะ ตามสบายนะไม่ต้องเกรงใจฉัน ทีวีก็เปิดดูได้เลยรีโมทก็วางอยู่บนโต๊ะ" "ครับผม"นักรบเดินออกมาจากห้องครัว แล้วทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาวหน้าทีวี เขายิ้มแก้มแทบปริเพี
"ทำอะไรกันเหรอคะ" เสียงแหลมดังแทรกพร้อมกับแรงกระตุกชายเสื้อของนักรบและน้ำส้ม ทำให้ทั้งสองคนนั้นดึงสติกลับคืนมา แล้วก้มหน้ามอองต่ำตามเสียง มีหนูน้อยเงยหน้ามองผู้ใหญ่สองคนสลับกันไปมา นั่นเพราะว่าเธอกำลังสงสัยในสิ่งที่เห็น((อะเอ่อ~~)) สายตาของเด็กน้อยทำให้ผู้ใหญ่มองหน้ากันอย่างเขินอายจนอ้ำอึ้ง นึกถึงคำตอบโต้ไม่ทัน ยิ่งสายตากดดันของน้องมะนาวก็ยิ่งทำให้ผู้เป็นแม่เม้มปากแน่นคิดไม่ออก จะบอกลูกสาวที่ช่างซักไซ้ยังไงให้ละม่อมเข้าใจ ในภาพที่มันล่อแหลม"คุณอานักรบหิวเหรอคะ เลยจะกินคุณแม่...Oh No!!" เด็กหญิงมะนาวพูดออกมาด้วยความเดียงสาตามภาพที่เธอเห็นและเข้าใจ ก่อนจะสบถและเบิกตาโตยกมือสองข้างขึ้นปิดปาก ส่ายสายตามองผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยจินตนาการของเด็กที่กำลังแล่นภาพมโนในหัว"น้องกำลังคิดอะไรอยู่มะนาว มันไม่มีอะไรหรอกนะคะ" ผู้เป็นแม่ที่เดากิริยาของลูกสาว เธอเกิดความวิตกกลัวว่าลูกสาวผู้จินตนาการเลิศล้ำ จะถลำความคิดไปไกล จนต้องรีบแก้ต่างดักทางเอาไว้ด้วยความลุกลี้ลุกลน จนคนตัวสูงที่ยืนมองนั้นกลั้นขำไม่ไหว ได้แต่เบือนหน้าออกด้านข้างเปล่งหัวเราะเบา ๆ จนน้ำส้มจิกสายตาข่ม นั่นจึงทำให้นักรบเบาลง"ไม่นะคะ!! น
"คุยอะไรกันเหรอคะเบาจังน้องไม่ได้ยิน" เด็กหญิงที่นั่งขมวดคิ้วจ้องมองด้วยความสงสัย เธออยากมีส่วนร่วมจึงชะเง้อหน้าแทรกกลาง ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองรีบละห่างจากกันด้วยท่าทีเอียงอายไปคนละทิศละทาง"ไม่ได้คุยอะไรค่ะ...เราเข้าบ้านกันค่ะมะนาวน้องหิวไม่ใช่เหรอ" ผู้เป็นแม่ตอบลูกสาวทั้งที่พวงแก้มยังแดงระเรื่อเพื่อบ่ายเบี่ยง เธอแทบไม่กล้ามองหน้าเขาเพียงเสี้ยวสายตา เพราะว่าเขินจากกิริยาที่เขากระทำ มันปุกปั่นจังหวะการเต้นของหัวใจเธอจนยากจะสั่งห้าม แม้จะพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ดึงสติให้อยู่กับตัวก็ยากจะทำได้ ยิ่งเห็นหน้าเขาก็ยิ่งประหม่าทรงตัวไม่ไหว"แล้วผมล่ะ! ไม่ชวนเข้าบ้านหน่อยเหรอ"นักรบชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแล้วถามขึ้น เมื่อสองแม่ลูกจ้ำเท้าจะเดินเข้าบ้านอย่างกับคนลืมเจ็บ ทิ้งเขาไว้ด้านหลังเหมือนมองข้ามเป็นอากาศที่ไร้ตัวตน".........." คำทักท้วงทำให้น้ำส้มชะงักและหันกลับมามอง ทำเงียบไม่ตอบโต้เพราะว่ายังอายไม่หาย ได้แต่เม้มปากแน่นมองหน้านักรบอย่างเคอะเขิน"โคตรใจดำเลย" นักรบยืนสองมือล้วงกระเป๋าแล้วยกไหล่สูง สายตามองไปทางอื่นพูดออกมาเลื่อนลอย แสร้งเหมือนไม่ตั้งใจพูด แต่แอบลุ้นหวังสะกิดใจคนที่อยากให้ได
สวัสดีค่ะน้องชื่อว่ามะนาว แต่เพื่อนที่โรงเรียนอนุบาลจะเรียกน้องว่าเปรี้ยวจี๊ด เพราะมะนาวมันเปรี้ยวสุด ๆ ไงคะ แต่น้องก็ชอบที่เพื่อนเรียกแบบนี้นะ ไม่เหมือนใครแปลกดีค่ะ ตอนนี้น้องเรียนอยู่ชั้นอนุบาลฉามแล้ว น้องมีเพื่อนเยอะแยะเลย โตขึ้นน้องมีความฝันว่าอยากจะเป็นคนสวยที่รวยเวอร์ ๆ น้องไม่อยากรวยแบบธรรมดาหรอกนะคะต้องเวอร์ ๆ ค่ะ เพราะน้องน่ะชอบอะไรที่แตกต่าง ตอนนี้น้องเป็นลูกสาวของคุณแม่ อยู่กับคุณแม่ฉองคน คุณแม่บอกว่าคุณพ่อไปอยู่บนฟ้าน้องคิดถึงคุณพ่อ แต่ว่าต้องอดทนเอาไว้ แล้วมันก็สูงมาก ๆ น้องตามไปไม่ไหว จะบินก็ไม่ได้ค่ะน้องตัวอ้วนแถมไม่มีปีกไว้บินเหมือนนก และตอนนี้คุณแม่ก็กำลังไปเข้าห้องน้ำค่ะ น้องเลยแอบมาเล่นโทรศัพท์ของคุณแม่ โอ๊ะ ๆ นั่นคุณแม่มาแล้วแค่นี้ก่อนนะคะ บ๊ายบายจุ๊บ ๆ“มะนาวทำอะไรคะ”“ปะ เปล่าค่ะคุณแม่”เด็กหญิงตัวน้อยสะดุ้งตกใจ เมื่อเสียงของผู้เป็นแม่เรียกขานโดยเธอไม่ทันได้ตั้งตัว โชคดีที่เธอนั้นอัดวีดีโอก่อนหน้าเสร็จทัน จึงรีบวางโทรศัพท์มือถือของแม่ลงเตียงนอน นั่งเอามือขัดหลังอย่างมีพิรุธ จนผู้เป็นแม่นั้นอมยิ้มและเดินมานั่งข้าง ๆ รู้แก่ใจว่าลูกสาวตัวน้อยนั้นแอบเล่นมือถือ แต่ก็ไ...
Comments