แชร์

ตอนที่6.ฉันเมา

ฉันเมา

"ผมไปส่ง” สายตาคมสื่ออารมณ์ที่หลากหลายยากแก่การคาดเดา ฉันลังเลใจว่าเขาจะมาไม้ไหนกันแน่ ทุกวันที่ออฟฟิศเป็นท่านรองฯที่คอยจิกกัดฉันตลอดทั้งวัน

แล้วไหงวันนี้เขาใจดีหรือว่ากินยาผิดสำแดงมาหรือเปล่า

"น้ำขิงยังมีคิวอีกหนึ่งชั่วโมงค่ะ"

"ไม่เป็นไร ผมรอได้" สายตาเขาเป็นประกายระยิบระยับ มือใหญ่ยังลูบเบาๆที่ต้นแขนอย่างทะนุถนอมชวนให้คนเคลิบเคลิ้ม

ที่จริงเขาโคตรหล่อนะแต่ฉันยังเด็กอยู่นะท่านรองฯจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมีอาการเขินต่อเพศตรงข้าม กับไอ้กอล์ฟก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ นั่งมานานรู้สึกคอแห้งจึงเอื้อมไปหยิบแก้วโค้กของตนเองแล้วดื่มลงคอจนหมดแก้วในคราวเดียว

"อึ๊ก..." ฉันทำตาโตรู้สึกได้ว่ามันเป็นรสชาติแปลกใหม่ที่ยังไม่เคยได้ลิ้มลอง ฉันใช้หลังมือปาดคราบน้ำที่ริมฝีปากบาง

"นี่มันเหล้านี่ " ดื่มเข้าไปแล้วก็ได้แต่นั่งมองหน้าเจ้าของแก้วอย่างรู้สึกผิดฉันเห็นท่านรองฯใช้สายตาจับอยู่ที่แก้วเหล้าราคาแพงของเขาที่ฉันดื่มจนหมด 

"ฮ้า...คุณดื่มหมดแก้ว" แล้วเขาก็แย่งแก้วเหล้าไปจากมือฉัน

"นี่คุณเป็นเด็กเป็นเล็ก" พอเหล้าเข้าปากฉันก็เริ่มรู้สึกซู่ซ่าใบหน้าร้อนผ่าว อารมณ์คึกคะนองอยากแกล้งคนแก่ขึ้นมา จงใจวางมือแหมะบนต้นขาแกร่งอย่างห้ามใจไม่อยู่ ทำให้เขาชะงักเล็กน้อยหลุบตามองฉันดวงตาคู่นั้นสั่นไหวแต่ไม่พูดอะไร 

"อุ๊ย! ขอโทษค่ะ" แล้วชักมือกลับทันที

ตอนนี้เขาไม่สะดุ้งแล้ว ฉันเห็นใบหน้าเขาเหมือนว่าจะพอใจยิ้มเย็นที่มุมปาก

"คุณธามคะ เหล้าคุณธามหวานจังค่ะ"

"น้ำขิงขออีกแก้วนะคะ"

"พอแล้วเดี๋ยวเมา"

"ไม่ค่ะรับรองได้ว่าไม่เมา หวานดีค่ะน้ำขิงชอบไม่บาดคอด้วยค่ะ" 

ไม่รู้ว่าเป็นอะไรตอนนี้ ฉันอยากหัวเราะอยากจะฉอเลาะกับท่านรองฯให้มากกว่าเดิมเกาะแกะเขาอย่างกับเด็กติดของเล่นใหม่ จนลืมฐานะระหว่างเจ้านายกับลูกน้องไปเสียสนิท นั่งคุยกันอีกสักพักพี่อุ้มผู้จัดการร้านก็ให้คนมาตามฉันไปเตรียมตัวทำงานหลังจากจบคอนเสิร์ตช่วงพักครึ่งแรกเพื่อให้นักร้องไปพักผ่อน

"น้ำขิง น้ำขิง จะถึงคิวแล้ว"

"ได้...ได้ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ"

ฉันยันกายลุกขึ้นจากโซฟาตอนนั่งอยู่ก็แน่ใจว่าไม่เมาแน่นอน แต่พอลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าจะเดินจากไปเท่านั้นฉันก็เริ่มเวียนหัวเหมือนจะทรงตัวไม่อยู่

แต่สติสัมปชัญญะฉันยังดีอยู่เอามือกุมหัวไว้

ฉันไม่เมา ฉันแน่ใจ

"เฮ้ย! ไอ้คุณธามเทคแคร์น้องเขาหน่อย" คุณโน๊ตเป็นคนพูดอย่างเป็นห่วง

ท่านรองฯพยักหน้ารีบลุกขึ้นประคองหลังฉันอีกแรง มือเขาโอบเอวเล็กให้พิงไว้กับอกกว้าง เขาแนบริมฝีปากที่ข้างหูแล้วกระซิบว่า

"คุณไหวไหม? " คำพูดทุ้มนุ่มกังวาลอยู่ในแก้วหูทำเอาขนลุกเกรียว ฉันพยามยืดตัวตรงรวบรวมสติอีกครั้งแล้วถอดเสื้อแขนยาวยัดใส่มือเขา

"นี่ค่ะเสื้อ" เขารับเสื้อแล้วรีบใส่แบบลวกๆ ฉันกำลังขยับขาก้าวออกไปเขาจึงรั้งตัวฉันไว้ในวงแขน โน้มใบหน้าลงกระซิบที่ข้างหูแผ่วเบาอีกครั้งว่า

"ผมไปส่ง"

"ไม่เป็นไรค่ะ น้ำขิงเดินเองได้” ถ้าหากเขาเดินไปส่งฉันถึงที่สเตทดีเจมีหวังฉันต้องได้เรตติ้งตกเป็นแน่ แล้วคิดจะดันตัวเขาออกห่างอีกครั้ง

"อย่าดื้อกับผม" เขาบังคับฉันด้วยสายตาทำให้ฉันต้องยอมจำนนให้เขา ดันตัวเข้าใกล้อย่างว่าง่าย เขาสอดแขนเข้ามาประคองที่เอวคอดแล้วเดินไปพร้อมกันถึงสเตทดีเจ การที่จู่ๆฉันมีผู้ชายหน้าตาดีแถมยังมีบุคคลิกที่โดดเด่น ทำให้ฉันต้องตกเป็นเป้าสายตาของใครอีกหลายคนอย่างช่วยไม่ได้

ตอนนี้คงต้องทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนไปก่อน

เมื่อฉันขึ้นไปที่สเตทดีเจผลพวงเหล้าแก้วนั้นของท่านรองฯ ทำให้ฉันดูเซ็กซี่ขึ้นมากกว่าเดิมเหมือนวิญญาณนางแมวเข้าสิง จากนั้นฉันเตรียมเพลงที่คิดขึ้นสดๆตอนนี้ ปรับความเร็วและความดังของเพลงแล้วมิกซ์ทันที

"น้้ำขิงมาแล้วค่ะ"

"สนุกต่อกันเลยนะคะ"

พอพูดจบทั้งแสงเลเซอร์และแสงจากสปอตไลท์ พร้อมใจกันกระพริบทุกครั้งที่ฉันสแครชแผ่น ฟู่... (เอฟเฟคจากทางร้าน)ปล่อยควันขาวพวยพุ่งออกมา คนที่อยู่ด้านล่างกระโดดโลดเต้นไปพร้อมกับฉันพอได้แอลกอฮอล์เข้าปาก ในมือนักท่องราตรีต่างมีแก้วเครื่องดื่มกันทุกคน ทำให้เพิ่มดีกรีความสนุกแบบเท่าทวีคูณ

อารมณ์ฉันตอนนี้ร้อนแรงจนฉุดไม่อยู่ เพลงแล้วเพลงเล่าที่ฉันมิกซ์มันช่างเร้าอารมณ์ผู้คนในผับอย่างบ้าคลั่ง ลีลาการแสดงบนหน้าเวทีของฉันก็ไม่เป็นสองรองใครอีกด้วย

ฉันเต็มที่กับวันนี้มากสะโพกฉันกับหน้าอกเหมือนกำลังจะระเบิด การเต้นที่เร่าร้อนเซ็กซี่นี้ท่านรองฯกลับมองอย่างไม่พอใจ

"สงสัยต้องพาไปซื้อเสื้อผ้าใหม่แล้ว"

 "ทำไมต้องเต้นเซ็กซี่ขนาดนี้ด้วย" ท่านรองฯยืนเอามือกอดอกใบหน้าเคร่งเครียด 

"ชุดนี้สมควรโยนทิ้ง" 

เวลาเที่ยงคืน

การแสดงบนเวทีจบลงแล้วฉันกล่าวลาลูกค้าพอเป็นพิธีแล้วรีบเก็บโน๊ตบุ๊คใส่กระเป๋า พี่โอปอล์จะยังอยู่อีกถึงตีสองแทนฉัน

"น้ำขิงกลับก่อนนะคะพี่โอปอล์" ฉันโบกมือลาอย่างเหนื่อยล้า

กำลังจะเดินออกจากผับ ไอ้กอล์ฟก็มาดักหน้าไว้อีกทำท่าเหมือนอยากรั้งไว้  

"กลับแล้วเหรอ?"

"อืม...เรากลับแล้ว"

"เหนื่อยจังวันนี้ขอกลับไปนอนก่อนนะ"

"บาย..."

ฉันต้องรีบลามันไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมันต้องไปพาลกับท่านรองฯอีกแน่ โชคดีที่ไอ้กอล์ฟมันต้องเล่นดนตรีต่อจากฉัน เป็นอันว่าวันนี้คงต้องกลับบ้านคนเดียวโดยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ คว้าเสื้อแขนยาวสีดำมาใส่ไว้ช่วยให้ดูไม่โป๊

"แอบหนีท่านรองฯกลับบ้านดีกว่า" ฉันคิดแล้วทำในคราวเดียวเมื่อลองมองหาเขาจากข้างเวทีแล้วไม่เห็นว่าเขายืนอยู่ฉันจึงเดินเอ้อระเหยออกจากผับอย่างสบายใจ

"มา...ผมช่วย" เขารีบวิ่งตามฉันมาเมื่อเห็นฉันเดินออกจากร้าน กำลังจะไปเรียกแท็กซี่แล้วดึงกระเป๋าไปจนหมด

"น้ำขิง คุณนี่พูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม"

"เรื่องอะไรคะ?" ฉันแกล้งทำหน้าแบบเด็กนิสัยเสียที่ชอบแกล้งให้คนโมโหเล่น

เห้อ!...เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพูดว่า

"ไปเถอะรถผมจอดอยู่ทางนั้น" เขาชี้ไปที่รถของเขา เจ้าปอร์เช่คันเดิมจอดนิ่งที่โรงจอดรถ Vipของผับกระเป๋าสัมภาระของฉันถูกวางไว้ด้านหลัง แล้วเขาก็เอี้ยวตัวมาทางฉัน ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เมื่อเห็นฉันมีปัญหากับการคาดเบลล์

"มาผมช่วย" ลมหายใจอุ่นอยู่ใกล้แค่คืบเราสบตากันอีกครั้ง เขาจับมือฉันแล้วสอนวิธีการคาดเบลล์อย่างตั้งใจ  

กริ๊ก...

"แค่นี้เองไม่เห็นจะยากเลยค่ะ รับรองคราวหน้าน้ำขิงจะไม่รบกวนท่าน..." ฉันพลาดแล้ว

"เรียกใหม่ซิ"

"ค่ะคุณธาม..."

ฉันบอกชื่ออพาร์ทเม้นท์ของฉันให้เขาแล้ว นั่งพิงเบาะนุ่มตาปรือแล้วหลับไปในที่สุด

"ระวังนะถ้าหลับแบบนี้ ผมจะพาไปคอนโด” การแกล้งหญิงสาวทำให้เขาอารมณ์ดีที่สุด

ธามนิธิเป็นห่วงหญิงสาวที่นอนตัวเย็นจึงถอดเสื้อตัวเดิม คลุมให้หญิงสาวอีกตัว  "เสื้อผ้าก็ไม่เปลี่ยนใช้ชีวิตเสี่ยงมากนะเรา"

เขามองร่างสาวน้อยที่มีอายุน้อยกว่าเขาถึง14 ปี ใบหน้าอ่อนเยาว์ต้องทำงานกลางคืนอาชีพที่เสี่ยงกับผู้ชายมักมากทั้งหลาย เขาใช้มือลูบไปที่ผมนุ่มอย่างเบามือ 

"คุณคงลำบากมากใช่ไหม?" ครึ่งชั่วโมงจากนั้น ปอร์เช่สีขาวก็ได้ลดความเร็วแล้วจอดที่ไหล่ทางหน้าอพาร์ทเม้นท์ของหญิงสาว โดยที่อีกฝ่ายยังหลับสนิท

"น้ำขิง ถึงแล้ว" เขากระซิบที่ข้างหู

เงียบ...และนอนหลับเหมือนเดิม

"คนอะไรขี้เซาชะมัด" 

"น้ำขิงตื่นได้แล้ว” ฉันนอนหลับอยู่ดีๆก็มีเสียงคนมาตะโกนที่ข้างหู และยังรู้สึกเหมือนกับว่าที่ปากฉันเหมือนมีน้ำหรืออะไรที่อ่อนนุ่มและก็เหมือนกับขนอะไรซักอย่างแข็งๆทิ่มที่ปากฉัน

ความรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนโดนผีอำ

อ๊ะ...อีกละ

อะ อะไรกัน 

มันกำลังจะเข้ามาในปากแล้ว น้ำขิง ตื่นสิตื่น...

ฉันพยายามรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีแม้ว่าจะยากลำบากเต็มทน ตั้งสติแล้วนึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วไว้ในใจแล้วตั้งนะโม3จบ เพื่อไล่ผีกำลังจะสวดพาหุงอีกหนึ่งบท

อะ....ฉันลืมตาจนได้อย่างยากลำบาก

สิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าของท่านรองฯอยู่ใกล้ชิดฉันมากเขาก้มลงมาทำไม?

"ท่าน...เอ้ย คุณธาม” ฉันกระพริบตาไล่ความมึนงงอีกครั้ง บีบนวดขมับปรับจูนจนได้สติกลับมาแล้วเอามือแตะที่ริมฝีปาก พบว่ามันสั่นระริกแบบแปลกๆ ฉันกระพริบตาปริบ...ปริบมองหน้าเขาแบบค้นหา

"คุณธามก้มหน้ามาทำไมคะ?" 

"ผมปลุกคุณด้วยวิธีของผม"

"วิธีอะไรคะ?" ฉันกลัวเขามากเลยตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก สมองมันตื้อไปหมดจึงจับเสื้อตัวใหญ่คลุมตัวไว้แน่นสายตาหลุกหลิก มือฉันพยายามเปิดประตูรถ 

แต่... 

"มันล๊อค..."

ออนไรท์

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status