•2•เพื่อนเก่าคนหนึ่ง!
เมื่อสังเกตดีแล้วพบว่า.. ทรงผมที่คล้ายจะยุ่งเหยิง แต่กลับถูกเซตเอาไว้เป็นอย่างดี เส้นคิ้วเรียวสวยราวกับรูปทรงของดาบ ดวงตาดุจนกเหยี่ยวโฉบเฉี่ยวหางตาเชิดขึ้น แววตาอบอุ่นช่างสะกดจิตชวนหลงใหล
จนไม่อาจละสายตาไปสนใจสิ่งอื่นใดได้อีก ขนตาหนาเป็นแพยาว ลดความดุดันบนใบหน้าจนทำให้ดูอ่อนหวาน สันจมูกโด่งยาว จับคู่กับริมฝีปากบนกระจับบางได้รูป
ใบหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยมคางโค้งมน สีผิวขาวอมชมพู รูปร่างล่ำสันที่หลบซ่อนภายใต้เสื้อผ้า หุ่นคล้ายสามเหลี่ยมหัวกลับ ราวกับเป็นคนดูแลสุขภาพมาเป็นอย่างดี
'ลุกไหวไหมครับ?'
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่เขายังคงสุภาพ ราวกับตั้งใจจะช่วยพยุงฉันจริงๆ หัวใจสั่นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาตลอดหลายปี จนเกือบลืมว่ามีมันอยู่ในร่างกาย แต่ถ้าคนเราไม่มีหัวใจคงตายไปแล้วแหละฮ่าๆ คิดฟุ้งซ่านไม่นานก่อนจะเอื้อมมือจับเขาไว้
'เอ่อ! ขอบคุณมากค่ะ!'
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ใช้แขนข้างหนึ่งยันพื้นรับน้ำหนักตัวเองเอาไว้ ความซวยมันไม่จบแค่ตรงนั้น ไม่รู้ใครมันเผลอทำน้ำหกเอาไว้น่ะสิ!
จนมือข้างที่รับน้ำหนักของร่างกายลื่นไถล กลายเป็นคว้าดึงชายคนนั้น ให้ล้มลงมานั่งกองอยู่ที่พรมด้วยแทน จากผู้ช่วยเหลือกลายเป็นผู้ประสบภัยแล้วตอนนี้ อ้าปากค้างดวงตาเบิกกว้าง รีบพลิกร่างกายเขาดูว่ามีแผลถลอกไหม กล่าวออกมาอย่างร้อนรน
'ขอโทษด้วยค่ะฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ? บังเอิญตรงนี้มันมีน้ำทำให้ลื่นค่ะ'
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าว พร้อมทำสีหน้าเศร้าสลดรู้สึกผิดมาก เนื่องจากเผลอทำเขาขายหน้าแล้วตอนนี้
'แค่อุบัติเหตุอย่าคิดมากเลยครับ มาเดี๋ยวผมช่วยคุณเอง! ค่อยๆ ลุกขึ้นมาครับไม่ต้องรีบหรอก'
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวพร้อมลุกขึ้นยืน พยายามช่วยประคองร่างกายของฉันเอาไว้ กลัวจะลื่นล้มไปอีกรอบเมื่อลุกขึ้นยืนได้สำเร็จ ยกมือไหว้อย่างมีมารยาท
'ขอบคุณที่ช่วยเหลือค่ะ!'
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมยิ้มหวาน ขณะนั้นเอง! เจ้าสาวเดินลงจากเวที วิ่งมาหน้าตั้งเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
'แคนดี้เหรอ ทำไมร่างกายเธอขยายขนาดนี้ พวกเราไม่ได้เจอกันเพียงแค่3ปีเองนะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าเนี่ย ขอโทษด้วยจริงๆ เมื่อกี้เธอไม่น่าถอยหนีเลยแค่รับมันไว้ก็จบแล้ว แค่ช่อดอกไม้จะกลัวอะไรขนาดนั้นกัน เจ็บหมดเลยเนี่ยเห็นไหม?'
ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู เอ่ยอย่างเป็นมิตรเช่นเคย เธอนิสัยดีตั้งแต่เด็กค่อนข้างเรียบร้อย แต่ยังคงดุในความเปิ่นของฉัน ราวกับเป็นแม่อย่างเช่นเคย ช่วงเวลาก่อน3ปี ที่ยังไม่ได้เลิกรากับไอ้คนสาSเลว พวกเรานัดเจอไปเที่ยวด้วยกันบ่อย ไม่แปลกใจที่เธอจะตะลึงความร่างใหญ่หรอก!
เมื่อก่อนฉันรักษาหุ่นยิ่งชีพเลยแหละ รับจ้างถ่ายแบบลงตามปกนิตยสาร ไม่ได้ดังอะไรมากแต่งานเข้าไม่เคยขาดสาย ไหนจะพวกถ่ายตามกระแสชุดแฟชั่นอีก หน้าต้องเป๊ะหุ่นต้องปังเสมอ
ถึงได้บอกรักพังพร้อมงานพังเพิ่มอีกฮ่าๆ ผู้ชายที่ช่วยเหลือเอาไว้มองฉันตาค้างเมื่อได้รู้ชื่อ ราวกับเขาเคยรู้จักฉันเสียอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเขาหรอก หันหน้าเพื่อพูดคุยกับเจ้าสาวคนสวยต่อ
'ใช่! เราคือแคนดี้เอง! จะไม่ให้ถอยหนีได้อย่างไร แค่ก้าวขาเข้ามาก็เจอดอกไม้ช่อโตทักทาย อีกอย่างหนึ่งร่างฉันใหญ่ขนาดนี้ จะไปเจอรักแท้ได้อย่างไรเอาเถอะ! นี่ซองช่วยงานเธอนะ ขอให้มีความสุขชีวิตคู่มากๆ เราขอตัวกลับก่อน หากยังอยู่ต่อไปอีก! คงมีหวังจะทำงานเธอพังเอาได้'
น้ำเสียงนุ่มนวลบอกลาเจ้าสาว ยกมือขึ้นโบกอำลาเตรียมเดินออกจากงาน แต่ต้องหยุดชะงักฟังเจ้าสาวพูดต่ออีกครั้ง..
'จะรีบกลับไปไหนเธอลืมแล้วหรือเปล่า พอจบงานแล้วยังมี after party รวมเพื่อนสมัยเรียนมัธยมอีกนะ อยู่สนุกด้วยกันก่อนสิ'
ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูเอ่ยชักชวนด้วยใจจริง
'เธอก็รู้! มีคนที่ฉันไม่อยากเจอ เขาก็อยู่ภายในงานนี้ด้วย หากว่าเผลอทำงานเธอพังขึ้นมา จะให้ทำอย่างไร ขายหน้าตายไม่พอช่วงนี้ยิ่งตกงานอยู่ด้วย ไม่มีงบประมาณมารับผิดชอบ ช่วยจ่ายให้เธอหรอกนะ'
น้ำเสียงนุ่มนวลบอกเจ้าสาว พยายามยืนกรานจะปฏิเสธต่อ
'แคนดี้อยู่ต่อเถอะ! สมมุติถ้าเธอทำลายข้าวของพังจริง เราจะเป็นคนชดใช้ให้เองไม่ต้องกลัวหรอก'
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวพร้อมคลี่รอยยิ้มกว้างมาให้
'รู้จักฉันด้วยเหรอ?'
น้ำเสียงนุ่มนวลถามผู้ชายที่เคยช่วยเหลือเธอไว้
'ไม่เจอกันนานไปหน่อย สมองเธอยังคงเป็นปลาทอง อยู่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ หึ!'
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวตบท้ายหัวเราะในลำคอ
พร้อมยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ จ้องคนเส้นผมดกดำเงางามยาวสลวยกึ่งกลางหลัง มัดรวบจนเหลือปอยผมเล็กน้อย อำพรางใบหน้าให้เล็กลง
คิ้วบางเป็นรูปทรงช่วยเพิ่มความอ่อนหวาน ดวงตาคล้ายเม็ดอัลมอนด์ ราวกับเป็นคนจิตใจดีแต่เข้มแข็งพอสมควร แฝงความมั่นใจเป็นของตนเอง ขนตางอนงามยิ่งทำให้ดูน่ารักมาก
จมูกโด่งเล็กปลายทรงหยดน้ำ ริมฝีปากล่างหนาน่าจุ๊บรับกับใบหน้ารูปเพชร ผิวขาวอมชมพู หุ่นทรงแอปเปิลอวบอ้วนเป็นสาวไซส์ใหญ่ เขายกมือขึ้นมาลูบหัวเธอเบาๆ แถมด้วยกำปั้นเขกกะโหลกอีกครั้ง อย่างหมั่นไส้คนตรงหน้า
'โอ๊ยมันเจ็บนะ! เหมือนไอ้หมอนั่นไม่ผิดเลย อย่าบอกนะว่านายคือ..จ้ำม่ำ! คนที่ชอบกินข้าวขาหมูเป็นชีวิตจิตใจ ใช่คนนั้นจริงนะเหรอ? ทั้งคำพูดและการกระทำนี้ เหมือนกันชะมัด!'
น้ำเสียงนุ่มนวลร้องอุทานดวงตาเบิกกว้าง ยกมือขึ้นปิดปากตนเองเมื่อความรู้สึกที่แสนคุ้นเคย เริ่มแล่นเข้ามาฉายภาพวันวาน เรื่องราวในอดีตอีกครั้งหนึ่งภายในสมอง ราวกับตกใจไม่อยากจะเชื่อว่าคนตรงหน้า จะเป็นคนเดียวกันได้
ก็เพื่อนคนนั้นทั้งร่างกายอ้วนใหญ่ เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่นนี่นา ผิดหูผิดตากับคนนี้มากที่สูงหล่อเหลา ร่างใหญ่หุ่นล่ำน่าขย้ำสุดๆ ไม่เจอกันนานเกือบ14ปีเต็ม เพราะเขาลาออกไปช่วงมัธยมต้นปีที่1เทอม2 ประมาณว่าออกกะทันหันนั่นแหละ!
ใครจะคิดว่าเขาจะมาร่วมงานสนุกด้วยได้กัน แต่ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่หรอก พวกเราเคยเรียนร่วมห้องกัน แถมตอนเรียนยังนั่งใกล้กันด้วย
'หล่อขึ้นจนตะลึงเลยใช่ไหมฮ่าๆ ขอโทษที่ขาดการติดต่อกับทุกคน ถ้าไม่เห็นบัตรเชิญร่วมงานส่งให้ที่บ้านหลังเก่า คงไม่ได้มาที่นี่เหมือนกันแหละ!'
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวพร้อมหัวเราะชอบใจ
'รวยแล้วเหรอไง? ทำมาเป็นช่วยรับผิดชอบ! ตอนเด็กฉันยังนั่งเลี้ยงข้าวนาย ตั้งหลายมื้อเลยนะเอาล่ะ! ไม่ต้องยื้อฉันแล้วขอกลับก่อนนะทั้งสองคน ไว้พบกันใหม่คิดถึงเสมอ'
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวหยอกล้อ กำลังโบกมือลาแล้วเตรียมเดินจากไปจริงๆ แต่ฝีเท้าต้องหยุดชะงักลง เพราะอยากเตะปากคน ที่เข้ามาทำลายบรรยากาศมากกว่า!
'ไอ้เราก็นึกว่าเป็นใครที่ไหน มานั่งบนพรมเล่นในงานแต่งเพื่อนผมเสียอีก! ที่แท้เป็นแฟนเก่าที่ไม่ได้เรื่อง คนนั้นของผมเองเหรอเนี่ย? ทำไมกันลืมผมไม่ลงเหรอถึงได้โศกเศร้า ขนาดกินอาหารย้อมใจอย่างหนักหน่วง จนกลายร่างเป็นโอ่งมังกรเชียวน่ะ จะรีบกลับก็ไปเสียเถอะ! ผมอับอายคนอื่นเขาที่มีคุณเป็นแฟนเก่าหึ!'
น้ำเสียงเย้ยหยันพูดถากถาง จนต้องกำหมัดแน่นหันขวับ มาเพื่อต่อปากต่อคำกับคนถ่อยทันที!
แคนดี้ : นี่ไอ้คนสาsเลว! ฉันไม่จำเป็นจะต้องอายใครหรอกนะ เพราะไม่ใช่คนทำผิดอะไรสักหน่อย!
แผลบนศีรษะในปีนั้นเย็บไปกี่เข็มเหรอ รอบนี้จะเอาให้ใหญ่กว่าเดิมเลยดีไหม? ความจริงหมอเขาน่าจะเผลอเย็บปาก ให้เป็นของแถมด้วยนะ
จะได้ไม่ต้องพ่นแต่สิ่งสกปรกเหม็นเน่า จนแสลงหูขนาดนี้ให้คนอื่นเขาได้ฟังกัน น่ารำคาญชะมัด!
กระแทกเสียงใส่คู่แค้นอย่างโมโห
•3•เมาไม่ไหวแล้ว!ทราย : โอ๊ยหยุดเลยนะฟีเวอร์! นายอย่ามาพูดจาไม่ดีกับแคนดี้แบบนี้นะ นี่มันงานแต่งของเราค่ะ! จะเชิญใครมาร่วมย่อมได้อยู่แล้ว ต่อให้นายเป็นเพื่อนสนิทของสามี ฉันก็ไม่ยอมไว้หน้าหรอกนะ ช่วยให้เกียรติกันหน่อยเถอะ ไม่เช่นนั้นก็ออกจากงานเราไปได้เลยค่ะ เชิญ! เราไม่ชอบคนอันธพาลค่ะ!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวห้ามทัพในครั้งนี้ เธอเองย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ต้องเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทั้งคู่ แต่ก็ไม่นึกว่าผู้ชายน่ารังเกียจคนนี้ จะไม่ไว้หน้าคนอื่นบ้างเลย ถ้าพิธีการแต่งงานยังไม่เสร็จสิ้นคงได้ให้หน่วยรักษาความปลอดภัย มาลากตัวเขาออกไปแล้ว โชคดีตอนนี้เหลือเพียงเพื่อนที่เคยสนิทชิดเชื้อ ช่วงสมัยที่ยังเรียนมัธยม รอเวลาอยู่ร่วมปาร์ตี้ของคืนนี้ด้วยกันฉันยืนนิ่งเฉยเกรงใจทรายเขามากจริงๆ แต่เพื่อนคนอื่นล้วนจ้องมองมาทางพวกเรา เป็นสายตาเดียวกันหมด ซึ่งต่อให้ฉันจะมั่นอกมั่นใจแค่ไหน ก็ไม่อยากถูกคนเอาไปนินทาว่าร้ายเสียหาย อยากจะดูแย่แค่เฉพาะสิ่งที่ตนกระทำเอง มากกว่ายอมตกเป็นขี้ปากคนอื่น ให้เขาหัวเราะเยาะสนุกปาก เฮ้อ~แคนดี้ : เราไม่มีอารมณ์แล้วกลับก่อนนะทราย!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าว ก้าวเท้าเดินออกจากห
•4•ทุกปัญหามีทางเข้าเสมอ!หลับตาพริ้มขมวดคิ้วชนกันอยู่กับที่ดังเดิม คล้ายว่าคำขออธิษฐานเหล่านั้น ภายในจิตใจทั้งหมดมันจะเกิดผลแล้ว เมื่อคนที่ต้องการมากที่สุดเวลานี้ เขาเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเอ่ยถามฉัน เรื่องการนั่งนิ่งอยู่หน้าห้องน้ำ ราวกับเป็นพวกปูนปั้นที่คอยเฝ้าประตู อยู่ตรงช่วงทางเข้าเสียอย่างนั้นแหละ!ผับCcชายผู้มีนัยน์ตาคมกริบดุจนกเหยี่ยว กำลังเดินหามุมเงียบสงบด้านนอกร้าน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมสั่งงานลูกน้อง เปิดปากกล่าวอย่างรีบร้อน เพราะกลัวสาวสวยที่พามาด้วยกัน เธอจะกลับมาหลังจากการเข้าห้องน้ำเสร็จโคล่า : ช่วยไปขับรถจากโรงแรม มาจอดเอาไว้ที่บ้านแทนหน่อย! กุญแจฝากเอาไว้อยู่กับผู้จัดการโรงแรมแล้ว เออมึงอย่าลืม! เปิดกล้องวงจรปิดย้อนหลังด้วย ช่วยดูไอ้ผู้ชายคนที่มันยืนเถียง อยู่กับผู้หญิงรูปร่างอวบอ้วนต่อหน้ากูด้วย ตามสืบข้อมูลมาให้ครบ อย่าให้ขาดไปสักนิดเดียวก็ไม่ได้เข้าใจนะ!น้ำเสียงเคร่งขรึม กล่าวพร้อมกดตัดสายทิ้ง กลับเข้ามายืนรอตรงโต๊ะที่มีผู้คนเบียดเสียด ยิ่งกว่าพวกปลากระป๋องแปรรูปอีกครั้ง รออยู่นานก็ยังไม่พบเธอสักทีนะ ไม่รู้เข้าห้องน้ำขนาดนี้ทำอะไรอยู่กันแน่!ผมก้าวเดินเตรีย
•5•ไม่ไหวแล้วนะ!แคนดี้ : อา~ เสร็จแล้วซี้ด~ เสียวไม่ไหวแล้วอื้อ~ ช่วยสอดใส่มันเข้ามาแทนจะได้ไหม เราต้องการมากเหลือเกินซี้ด~เธอส่งเสียงร้องครวญคราง หลับตาพริ้มกัดเม้มริมฝีปากตนเอง ฝ่ามือนุ่มนิ่มบีบเคล้นคลึงเต้าอวบอึ๋ม สะบัดส่ายยั่วยวนสายตาชายตรงหน้าโคล่า : เราเป็นใครเธอช่วยลืมตาดูก่อนไหม?โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ สันจมูกโด่งยาวเกลี่ยไล้ทั่วบนพวงแก้มนุ่มนิ่ม ลมหายใจพ่นใส่เธอครั้งแล้วครั้งเล่ากัดกรามแน่น เส้นเลือดตรงขมับทั้งสองข้างกระตุกตุบๆ มองเธอด้วยสายตาแสนอบอุ่น แต่ก็แฝงความอยากกระหายในจังหวะเดียวกันใช้แขนแกร่งค้ำยันร่างตัวเองบนที่นอน ลุกขึ้นมาคร่อมร่างเธอเอาไว้ จะได้ไม่มีโอกาสขยับถอยหนีไปไหนได้ทั้งนั้น แค่แกล้งแสดงคล้ายจะไม่ยอมทำให้ แต่พฤติกรรมเขานั้น มันช่างสวนทางกับคำพูดเสียเหลือเกินแคนดี้ : อา~ จ้ำม่ำเหรอ? นายจะเป็นคนยอมทำดีๆ หรืออยากให้เรา กลายเป็นคนจัดการแทนเองล่ะ?น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวอ้อนวอน ส่งสายตาเย้ายวนไม่เลิกราง่าย ฝ่ามือนุ่มนิ่มสัมผัสแผงอกแกร่งไต่ไปเรื่อย จนอีกคนทนไม่ไหวแทน ก้มลงซุกไซ้ลำคอขาวดูดเลียผิวเนื้อนุ่ม จนเกิดรอยแดงจ้ำๆ
•6•หลบหน้า!เธอกลืนกินน้ำลงคอทุกหยาดหยด แลบลิ้นเลียรอบริมฝีปาก ส่งสายตาเย้ายวนพร้อมคลี่ยิ้มหวาน เคลื่อนย้ายเรือนร่างนั่งคร่อมอย่างนวยนาด ใช้สองมือนุ่มนิ่มแหวกบั้นท้ายก่อนยกสะโพกขึ้นลอยเอื้อมคว้าหัวบานสีชมพูสด ถูไถตามรอยแยกหยอกเย้าคนตรงหน้าเล่น กดมันลงใส่รูจีบด้วยความรู้สึกวูบวาบ สองแขนยืดไปด้านหลังแถมเอนลำตัวตามเล็กน้อยราวกับทำโยคะ บีบจับหน้าขาคนด้านล่าง ค่อยๆ ขย่มตอขึ้นสุดลงสุดถี่ระรัว จนเขาร้องครางอย่างชอบใจโคล่า : โอ๊ยแคนดี้เสียวหัวไม่ไหวแล้วอื้อ~เสียงแหบพร่าของเขา ทำให้ฉันหน้ามืดตามัว เร่งควบความเร็วสะโพกอัดใส่เต็มแรง ความชุ่มฉ่ำภายในร่องสวาท ทำให้เกิดความเสียวกระสันหนักหน่วงบั้นท้ายสั่นกระเพื่อมไหวเป็นลูกคลื่น ขมิบท่อนเอ็นถี่กระชั้น ควงเอวร่อนรอบท่อนลำแกร่ง เขาคว้าเต้าอวบอึ๋มสองข้างบีบนวด อ้าปากกัดดูดดึงยอดอกชูชัน จนต้องแอ่นตัวตามกลัวมันขาด ก่อนจะหวีดร้องเสียงหลงแคนดี้ : อา~ จะเสร็จอีกแล้ว!ฝ่ามือใหญ่จับบั้นท้ายไว้แน่นถนัด กระแทกกระทั้นลำแกร่งเสยเข้าออกอย่างฮึกเหิม ไม่ผ่อนแรงให้มีโอกาสหายใจได้เลย ตอกอัดเต็มแรงจนคนด้านบนขมิบร่องสวาทถี่ยิบ หลับตาอ้าปากครวญครางยกใหญ่เกร็งกล้า
•7•โดนเพื่อนแซวแล้ว!ห้างสรรพสินค้า4Bทรายนัดฉันมาทานอาหารช่วงมื้อค่ำของวันนี้ เนื่องจากสามีไปเจรจางานต่างจังหวัด เหงาไม่อยากอยู่บ้านเพียงลำพัง แถมไม่รู้เมื่อไหร่เขาจะกลับมาส่วนเธอนั้นหลังจากแต่งงานแล้ว ก็กลายเป็นแม่บ้านเต็มตัวไม่ได้ทำงานนอกบ้าน เธอนั่งรออยู่คนเดียวภายในร้านอาหาร เมื่อหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเธอ จึงกล่าวเปิดบทสนทนาทันทีทราย : เจ้าหญิงนิทราตื่นแล้วเหรอจ๊ะ!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวทักทายแคนดี้ : แหม~ เจ้าหญิงอะไรของเธอ!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวถามเลิกคิ้วสูงใส่ทราย : นอนจนเกือบครบ24ชม. ถ้าวันนี้เธอไม่ตื่นตั้งใจเอาไว้แล้วนะ จะไปปลุกที่คอนโดเลยคอยดูสิซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวพร้อมหัวเราะคิกคักแคนดี้ : เธอไม่เคยอ่านหนังสือเหรอ คนเราควรนอนพักผ่อนให้มากหลายชั่วโมงน่ะ! จะได้มีอายุยืนยาวน้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมคลี่ยิ้มหวานทราย : แต่แกจะนอนตลอดทั้งวันไม่ได้ค่ะสาว~ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวพร้อมมองค้อนใส่แคนดี้ : ฉันเอาสิ่งนี้มาฝากด้วยนะ รับมันไปสิ!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมหยิบรองเท้าส้นสูงหรูหราคู่หนึ่งมอบให้ แค่เธอเปิดกล่องเห็นก็ตาลุกวาวแล้ว เป็นรองเท้าที่ฉ
•8•โดนปลอบโยน!ทราย : หึ! มันช่างคุ้มค่ากับช่อดอกไม้งานแต่งจริง แคนดี้เธอจะปิดกั้นตัวเองทำไมกัน เวลามันผ่านมาตั้ง3ปีแล้วนะ เราอยากเห็นแกมีความสุขอีกครั้งมากเลย โคล่าก็พยายามเข้านะรู้ไหม แม้กำแพงของยัยนี่จะสูงลิ่วแค่ไหน นายก็ต้องแสดงตนเป็นเปรตค่ะ เพื่อก้าวข้ามมันไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วมีหวังได้ขึ้นคานคู่กันแน่งานนี้!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวเชิงเป็นกำลังใจให้เพื่อนทั้งสองคน แม้จะพูดตรงด้วยความจริงใจก็ตาม คนหนึ่งพยายามไล่จีบสุดความสามารถ เพราะแอบมีความรู้สึกดีต่อกันมานานแล้ว ส่วนอีกคนอกหักยังทำใจจากคนเก่าไม่ได้ตอนนี้นั่งอมยิ้มหวานไล่เรียงเรื่องราว ความสัมพันธ์แสนซับซ้อนนี้ ของพวกเขาทั้งสองคน เธอรับรู้ความลับของเพื่อนมาโดยตลอด ที่กล้าเอ่ยยุยงให้ทั้งสองปลงใจต่อกันนั้น ก็หวังอยากให้พวกเขาสมหวังสักที อายุจะใกล้เลขสามอยู่รอมร่อ ยังไม่ลงเอยกันอีก! เมื่อไหร่จะมีหลานตัวน้อย เฮ้อ~ตั้งใจเอาไว้แน่แล้ว อยากให้ลูกของพวกเราแต่งงานกัน ฉันจะสมหวังไหมเนี่ย? นิ่งเงียบไม่พูดจาอะไร นั่งมองพวกเขาสองคนเฉยๆแคนดี้ : คิดอะไรอยู่เหรอแกทำหน้าเครียดเชียว!น้ำเสียงนุ่มนวลถามขึ้นเมื่อเห็นทรายเงียบสงบโคล่า :
•9•ใจอ่อนหรือยังจ๊ะ!แขนนุ่มนิ่มทั้งสองข้างโดนเขาจับมารวบไขว้กัน อยู่บนช่วงด้านหลัง หันใบหน้าไปด้านข้างเอียงคอมอง ด้วยความรู้สึกวาบหวิว อ้าปากค้างส่งเสียงเล็กน้อย เมื่อถูกพันธนาการกับสายเนกไทเส้นนั้น เขายกนิ้วชี้ขึ้นมาปิดปากฉันเชิงดุ อย่าร้องเสียงดังคนอื่นจะได้ยินเอาได้โน้มใบหน้าหล่อแนบชิดแผ่นหลังคลอเคลีย จุมพิตไล่งับแผ่วเบาไล่ไปทั่วบริเวณ ตั้งแต่ช่วงลำคอจนลงไปถึงบั้นท้ายงอนงาม ร่างกายสั่นสะท้านจนต้องแหงนใบหน้า กัดริมฝีปากตนเองแน่นคิ้วขมวดชนกัน เตรียมรอรับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น คนด้านหลังชักท่อนลำรูดเพียงไม่กี่ครั้งขยับร่างกายเดินเข้ามาใกล้ กลั้นลมหายใจเกร็งตัวด้วยความสยิว ฝ่ามือใหญ่ลูบคลำแผ่วเบาตามเนื้อนุ่มนิ่ม หวังให้ฉันผ่อนคลายจะได้ไม่เจ็บมาก เขากดหัวบานสีชมพูสด ถูไถเฉียดไปมาตามรอยแยกรูจีบ น้ำเมือกใสเคลือบล้อมรอบหัวจนฉ่ำแฉะ เริ่มกดสอดใส่ดันเข้าทีละนิดหลับตาพริ้มกัดฟันทนความคับแน่น ถูกบดเบียดเสียดสีภายในผนังร่องสวาท ร่างกายกระตุกฮวบด้วยความจุก ปวดหน่วงท้องน้อยเป็นระยะ เมื่อดุ้นแข็งขืนชูชันถลำเข้าลึกจนมิดด้าม สะโพกเคลื่อนไหวจากเนิบนาบ เริ่มถี่กระชั้นชิดจนต้องแหกปาก ร้องครางเสียงห
•10•ปากแข็งเก่งไปอีก!เสียงปืนหลายรุ่นกำลังสาดกระสุนใส่กันดังลั่น ภายในป่าทึบแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดนัดพบส่งของให้ลูกค้ารายใหญ่ จ่ายเงินส่งของกันจนเสร็จเรียบร้อยพอดี เมื่อขับรถยนต์ออกมาก็โดนดักซุ่มโจมตี ช่วงกลางทางก่อนจะถึงถนนใหญ่เสียอย่างนั้น'นาย! รีบหนีไปก่อนเถอะครับ! พวกเราจะสกัดไว้เอง'ลูกน้องคนสนิทตะเบ็งเสียงมาจากทางด้านหลังโคล่า : รถเรามีแค่คันเดียว! กูไม่หนีหรอกลุยเข้าไปพร้อมกันเนี่ยแหละ! กระสุนทั้งหมดยังพอเหลืออยู่ไหม?ขมวดคิ้วชนกัน น้ำเสียงขึงขังร้องถามลูกน้องตนเอง คิดจะยิงฝ่าวงล้อมพวกศัตรูให้มันลดปริมาณ คนตามล่าจะได้น้อยลง เนื่องจากรถยนต์มีเพียงคันเดียว หากโดนเจาะล้อยางได้จบเห่กันหมดแน่! อีกอย่างให้ทิ้งลูกน้องไว้ด้านหลัง คงไม่ใช่คนอย่างผมที่จะทำได้ลงคอหรอก!'เหลือไม่เยอะแล้วครับนาย! ฝั่งศัตรูทั้งคนและของมันเยอะกว่าเราครับ ผมว่านายทิ้งพวกผมไว้เถอะครับ ค่อยมาเอาคืนให้ก็ยังไม่สาย หากยังยื้อเวลาอยู่ต่ออีก ทางเราจะไม่เหลือชีวิตรอดเอาได้นะ สถานการณ์ทางเราเป็นรองอยู่ครับตอนนี้'สีหน้าเคร่งเครียด น้ำเสียงเอาจริงเอาจังกล่าวไล่เจ้านายโคล่า : เฮ่ย! ไอ้กลก้มหัวลงเร็วเข้าโว้ย!ตะโกนสั่ง