•1• รักล่มพร้อมงานพัง!'พวกเราเลิกกันเถอะ!'น้ำเสียงเอาจริงเอาจังจากชายตรงหน้าทำให้หัวใจฉันมันเต้นผิดจังหวะกระตุกวูบ ตัวสั่นคลอนชาวาบเบาโหวงเหวงเคว้งคว้าง ราวกับลอยอ้างว้างไร้หลักแหล่งยึดเกาะ เหมือนจะกระจายตนเองไปรวมกลุ่มก้อนอยู่ ภายในหมู่มวลของอากาศของร้านแห่งนี้ค่อยๆ เงยใบหน้าละสายตา ออกห่างไกลจากถ้วยไอศกรีมอย่างมึนงง ฝืนใจกลืนลงคออย่างเหนียวหนืด ก่อนถามเขากลับอย่างยากลำบากสุดๆ'เกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างเราอย่างนั้นเหรอ?'ดวงตาเริ่มแข็งกร้าว เต็มไปด้วยความโกรธคลุกเคล้าความเสียใจ น้ำตาเอ่อคลอเบ้าจนแทบล้นทะลักทลาย มันเกือบไหลรินออกมา ชโลมอาบสองแก้มแล้วจังหวะนั้นฝืนใจตัวเองกัดฟันถามเขาต่อ พร้อมรอยยิ้มหวาน ดั่งเช่นเคยในครั้งเมื่อวันวาน'ผมมีคนอื่นแล้ว! ถ้าอย่างนั้นจะแนะนำให้รู้จักกันเอาไว้'เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตานิ่งสงบราวกับไม่รู้สึกอะไรสักนิดเดียว กวักมือเรียกหาผู้หญิงอีกคนทันที เธอนั่งทานไอศกรีมอยู่ตรงโต๊ะถัดไป ให้เดินเข้ามาหาตนเอง ได้แต่เบิกตากว้างอ้าปากค้างยิ่งกว่าเดิม เขาแอบคบซ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เป็นสิ่งที่ถามย้ำเตือนอยู่ภายในสมองอันน้อยนิดแต่ไม่อยากพูดมันออกไปเล
•2•เพื่อนเก่าคนหนึ่ง!เมื่อสังเกตดีแล้วพบว่า.. ทรงผมที่คล้ายจะยุ่งเหยิง แต่กลับถูกเซตเอาไว้เป็นอย่างดี เส้นคิ้วเรียวสวยราวกับรูปทรงของดาบ ดวงตาดุจนกเหยี่ยวโฉบเฉี่ยวหางตาเชิดขึ้น แววตาอบอุ่นช่างสะกดจิตชวนหลงใหลจนไม่อาจละสายตาไปสนใจสิ่งอื่นใดได้อีก ขนตาหนาเป็นแพยาว ลดความดุดันบนใบหน้าจนทำให้ดูอ่อนหวาน สันจมูกโด่งยาว จับคู่กับริมฝีปากบนกระจับบางได้รูปใบหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยมคางโค้งมน สีผิวขาวอมชมพู รูปร่างล่ำสันที่หลบซ่อนภายใต้เสื้อผ้า หุ่นคล้ายสามเหลี่ยมหัวกลับ ราวกับเป็นคนดูแลสุขภาพมาเป็นอย่างดี'ลุกไหวไหมครับ?'โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่เขายังคงสุภาพ ราวกับตั้งใจจะช่วยพยุงฉันจริงๆ หัวใจสั่นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาตลอดหลายปี จนเกือบลืมว่ามีมันอยู่ในร่างกาย แต่ถ้าคนเราไม่มีหัวใจคงตายไปแล้วแหละฮ่าๆ คิดฟุ้งซ่านไม่นานก่อนจะเอื้อมมือจับเขาไว้'เอ่อ! ขอบคุณมากค่ะ!'น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมรอยยิ้มใช้แขนข้างหนึ่งยันพื้นรับน้ำหนักตัวเองเอาไว้ ความซวยมันไม่จบแค่ตรงนั้น ไม่รู้ใครมันเผลอทำน้ำหกเอาไว้น่ะสิ!จนมือข้างที่รับน้ำหนักของร่างกายลื่นไถล กลายเป็นคว้าดึงชายคนนั้น ให้ล
•3•เมาไม่ไหวแล้ว!ทราย : โอ๊ยหยุดเลยนะฟีเวอร์! นายอย่ามาพูดจาไม่ดีกับแคนดี้แบบนี้นะ นี่มันงานแต่งของเราค่ะ! จะเชิญใครมาร่วมย่อมได้อยู่แล้ว ต่อให้นายเป็นเพื่อนสนิทของสามี ฉันก็ไม่ยอมไว้หน้าหรอกนะ ช่วยให้เกียรติกันหน่อยเถอะ ไม่เช่นนั้นก็ออกจากงานเราไปได้เลยค่ะ เชิญ! เราไม่ชอบคนอันธพาลค่ะ!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวห้ามทัพในครั้งนี้ เธอเองย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ต้องเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทั้งคู่ แต่ก็ไม่นึกว่าผู้ชายน่ารังเกียจคนนี้ จะไม่ไว้หน้าคนอื่นบ้างเลย ถ้าพิธีการแต่งงานยังไม่เสร็จสิ้นคงได้ให้หน่วยรักษาความปลอดภัย มาลากตัวเขาออกไปแล้ว โชคดีตอนนี้เหลือเพียงเพื่อนที่เคยสนิทชิดเชื้อ ช่วงสมัยที่ยังเรียนมัธยม รอเวลาอยู่ร่วมปาร์ตี้ของคืนนี้ด้วยกันฉันยืนนิ่งเฉยเกรงใจทรายเขามากจริงๆ แต่เพื่อนคนอื่นล้วนจ้องมองมาทางพวกเรา เป็นสายตาเดียวกันหมด ซึ่งต่อให้ฉันจะมั่นอกมั่นใจแค่ไหน ก็ไม่อยากถูกคนเอาไปนินทาว่าร้ายเสียหาย อยากจะดูแย่แค่เฉพาะสิ่งที่ตนกระทำเอง มากกว่ายอมตกเป็นขี้ปากคนอื่น ให้เขาหัวเราะเยาะสนุกปาก เฮ้อ~แคนดี้ : เราไม่มีอารมณ์แล้วกลับก่อนนะทราย!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าว ก้าวเท้าเดินออกจากห
•4•ทุกปัญหามีทางเข้าเสมอ!หลับตาพริ้มขมวดคิ้วชนกันอยู่กับที่ดังเดิม คล้ายว่าคำขออธิษฐานเหล่านั้น ภายในจิตใจทั้งหมดมันจะเกิดผลแล้ว เมื่อคนที่ต้องการมากที่สุดเวลานี้ เขาเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเอ่ยถามฉัน เรื่องการนั่งนิ่งอยู่หน้าห้องน้ำ ราวกับเป็นพวกปูนปั้นที่คอยเฝ้าประตู อยู่ตรงช่วงทางเข้าเสียอย่างนั้นแหละ!ผับCcชายผู้มีนัยน์ตาคมกริบดุจนกเหยี่ยว กำลังเดินหามุมเงียบสงบด้านนอกร้าน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมสั่งงานลูกน้อง เปิดปากกล่าวอย่างรีบร้อน เพราะกลัวสาวสวยที่พามาด้วยกัน เธอจะกลับมาหลังจากการเข้าห้องน้ำเสร็จโคล่า : ช่วยไปขับรถจากโรงแรม มาจอดเอาไว้ที่บ้านแทนหน่อย! กุญแจฝากเอาไว้อยู่กับผู้จัดการโรงแรมแล้ว เออมึงอย่าลืม! เปิดกล้องวงจรปิดย้อนหลังด้วย ช่วยดูไอ้ผู้ชายคนที่มันยืนเถียง อยู่กับผู้หญิงรูปร่างอวบอ้วนต่อหน้ากูด้วย ตามสืบข้อมูลมาให้ครบ อย่าให้ขาดไปสักนิดเดียวก็ไม่ได้เข้าใจนะ!น้ำเสียงเคร่งขรึม กล่าวพร้อมกดตัดสายทิ้ง กลับเข้ามายืนรอตรงโต๊ะที่มีผู้คนเบียดเสียด ยิ่งกว่าพวกปลากระป๋องแปรรูปอีกครั้ง รออยู่นานก็ยังไม่พบเธอสักทีนะ ไม่รู้เข้าห้องน้ำขนาดนี้ทำอะไรอยู่กันแน่!ผมก้าวเดินเตรีย
•5•ไม่ไหวแล้วนะ!แคนดี้ : อา~ เสร็จแล้วซี้ด~ เสียวไม่ไหวแล้วอื้อ~ ช่วยสอดใส่มันเข้ามาแทนจะได้ไหม เราต้องการมากเหลือเกินซี้ด~เธอส่งเสียงร้องครวญคราง หลับตาพริ้มกัดเม้มริมฝีปากตนเอง ฝ่ามือนุ่มนิ่มบีบเคล้นคลึงเต้าอวบอึ๋ม สะบัดส่ายยั่วยวนสายตาชายตรงหน้าโคล่า : เราเป็นใครเธอช่วยลืมตาดูก่อนไหม?โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ สันจมูกโด่งยาวเกลี่ยไล้ทั่วบนพวงแก้มนุ่มนิ่ม ลมหายใจพ่นใส่เธอครั้งแล้วครั้งเล่ากัดกรามแน่น เส้นเลือดตรงขมับทั้งสองข้างกระตุกตุบๆ มองเธอด้วยสายตาแสนอบอุ่น แต่ก็แฝงความอยากกระหายในจังหวะเดียวกันใช้แขนแกร่งค้ำยันร่างตัวเองบนที่นอน ลุกขึ้นมาคร่อมร่างเธอเอาไว้ จะได้ไม่มีโอกาสขยับถอยหนีไปไหนได้ทั้งนั้น แค่แกล้งแสดงคล้ายจะไม่ยอมทำให้ แต่พฤติกรรมเขานั้น มันช่างสวนทางกับคำพูดเสียเหลือเกินแคนดี้ : อา~ จ้ำม่ำเหรอ? นายจะเป็นคนยอมทำดีๆ หรืออยากให้เรา กลายเป็นคนจัดการแทนเองล่ะ?น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวอ้อนวอน ส่งสายตาเย้ายวนไม่เลิกราง่าย ฝ่ามือนุ่มนิ่มสัมผัสแผงอกแกร่งไต่ไปเรื่อย จนอีกคนทนไม่ไหวแทน ก้มลงซุกไซ้ลำคอขาวดูดเลียผิวเนื้อนุ่ม จนเกิดรอยแดงจ้ำๆ
•6•หลบหน้า!เธอกลืนกินน้ำลงคอทุกหยาดหยด แลบลิ้นเลียรอบริมฝีปาก ส่งสายตาเย้ายวนพร้อมคลี่ยิ้มหวาน เคลื่อนย้ายเรือนร่างนั่งคร่อมอย่างนวยนาด ใช้สองมือนุ่มนิ่มแหวกบั้นท้ายก่อนยกสะโพกขึ้นลอยเอื้อมคว้าหัวบานสีชมพูสด ถูไถตามรอยแยกหยอกเย้าคนตรงหน้าเล่น กดมันลงใส่รูจีบด้วยความรู้สึกวูบวาบ สองแขนยืดไปด้านหลังแถมเอนลำตัวตามเล็กน้อยราวกับทำโยคะ บีบจับหน้าขาคนด้านล่าง ค่อยๆ ขย่มตอขึ้นสุดลงสุดถี่ระรัว จนเขาร้องครางอย่างชอบใจโคล่า : โอ๊ยแคนดี้เสียวหัวไม่ไหวแล้วอื้อ~เสียงแหบพร่าของเขา ทำให้ฉันหน้ามืดตามัว เร่งควบความเร็วสะโพกอัดใส่เต็มแรง ความชุ่มฉ่ำภายในร่องสวาท ทำให้เกิดความเสียวกระสันหนักหน่วงบั้นท้ายสั่นกระเพื่อมไหวเป็นลูกคลื่น ขมิบท่อนเอ็นถี่กระชั้น ควงเอวร่อนรอบท่อนลำแกร่ง เขาคว้าเต้าอวบอึ๋มสองข้างบีบนวด อ้าปากกัดดูดดึงยอดอกชูชัน จนต้องแอ่นตัวตามกลัวมันขาด ก่อนจะหวีดร้องเสียงหลงแคนดี้ : อา~ จะเสร็จอีกแล้ว!ฝ่ามือใหญ่จับบั้นท้ายไว้แน่นถนัด กระแทกกระทั้นลำแกร่งเสยเข้าออกอย่างฮึกเหิม ไม่ผ่อนแรงให้มีโอกาสหายใจได้เลย ตอกอัดเต็มแรงจนคนด้านบนขมิบร่องสวาทถี่ยิบ หลับตาอ้าปากครวญครางยกใหญ่เกร็งกล้า
•7•โดนเพื่อนแซวแล้ว!ห้างสรรพสินค้า4Bทรายนัดฉันมาทานอาหารช่วงมื้อค่ำของวันนี้ เนื่องจากสามีไปเจรจางานต่างจังหวัด เหงาไม่อยากอยู่บ้านเพียงลำพัง แถมไม่รู้เมื่อไหร่เขาจะกลับมาส่วนเธอนั้นหลังจากแต่งงานแล้ว ก็กลายเป็นแม่บ้านเต็มตัวไม่ได้ทำงานนอกบ้าน เธอนั่งรออยู่คนเดียวภายในร้านอาหาร เมื่อหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเธอ จึงกล่าวเปิดบทสนทนาทันทีทราย : เจ้าหญิงนิทราตื่นแล้วเหรอจ๊ะ!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวทักทายแคนดี้ : แหม~ เจ้าหญิงอะไรของเธอ!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวถามเลิกคิ้วสูงใส่ทราย : นอนจนเกือบครบ24ชม. ถ้าวันนี้เธอไม่ตื่นตั้งใจเอาไว้แล้วนะ จะไปปลุกที่คอนโดเลยคอยดูสิซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวพร้อมหัวเราะคิกคักแคนดี้ : เธอไม่เคยอ่านหนังสือเหรอ คนเราควรนอนพักผ่อนให้มากหลายชั่วโมงน่ะ! จะได้มีอายุยืนยาวน้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมคลี่ยิ้มหวานทราย : แต่แกจะนอนตลอดทั้งวันไม่ได้ค่ะสาว~ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวพร้อมมองค้อนใส่แคนดี้ : ฉันเอาสิ่งนี้มาฝากด้วยนะ รับมันไปสิ!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมหยิบรองเท้าส้นสูงหรูหราคู่หนึ่งมอบให้ แค่เธอเปิดกล่องเห็นก็ตาลุกวาวแล้ว เป็นรองเท้าที่ฉ
•8•โดนปลอบโยน!ทราย : หึ! มันช่างคุ้มค่ากับช่อดอกไม้งานแต่งจริง แคนดี้เธอจะปิดกั้นตัวเองทำไมกัน เวลามันผ่านมาตั้ง3ปีแล้วนะ เราอยากเห็นแกมีความสุขอีกครั้งมากเลย โคล่าก็พยายามเข้านะรู้ไหม แม้กำแพงของยัยนี่จะสูงลิ่วแค่ไหน นายก็ต้องแสดงตนเป็นเปรตค่ะ เพื่อก้าวข้ามมันไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วมีหวังได้ขึ้นคานคู่กันแน่งานนี้!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวเชิงเป็นกำลังใจให้เพื่อนทั้งสองคน แม้จะพูดตรงด้วยความจริงใจก็ตาม คนหนึ่งพยายามไล่จีบสุดความสามารถ เพราะแอบมีความรู้สึกดีต่อกันมานานแล้ว ส่วนอีกคนอกหักยังทำใจจากคนเก่าไม่ได้ตอนนี้นั่งอมยิ้มหวานไล่เรียงเรื่องราว ความสัมพันธ์แสนซับซ้อนนี้ ของพวกเขาทั้งสองคน เธอรับรู้ความลับของเพื่อนมาโดยตลอด ที่กล้าเอ่ยยุยงให้ทั้งสองปลงใจต่อกันนั้น ก็หวังอยากให้พวกเขาสมหวังสักที อายุจะใกล้เลขสามอยู่รอมร่อ ยังไม่ลงเอยกันอีก! เมื่อไหร่จะมีหลานตัวน้อย เฮ้อ~ตั้งใจเอาไว้แน่แล้ว อยากให้ลูกของพวกเราแต่งงานกัน ฉันจะสมหวังไหมเนี่ย? นิ่งเงียบไม่พูดจาอะไร นั่งมองพวกเขาสองคนเฉยๆแคนดี้ : คิดอะไรอยู่เหรอแกทำหน้าเครียดเชียว!น้ำเสียงนุ่มนวลถามขึ้นเมื่อเห็นทรายเงียบสงบโคล่า :