•4•ทุกปัญหามีทางเข้าเสมอ!
หลับตาพริ้มขมวดคิ้วชนกันอยู่กับที่ดังเดิม คล้ายว่าคำขออธิษฐานเหล่านั้น ภายในจิตใจทั้งหมดมันจะเกิดผลแล้ว เมื่อคนที่ต้องการมากที่สุดเวลานี้ เขาเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเอ่ยถามฉัน เรื่องการนั่งนิ่งอยู่หน้าห้องน้ำ ราวกับเป็นพวกปูนปั้นที่คอยเฝ้าประตู อยู่ตรงช่วงทางเข้าเสียอย่างนั้นแหละ!ผับCc
ชายผู้มีนัยน์ตาคมกริบดุจนกเหยี่ยว กำลังเดินหามุมเงียบสงบด้านนอกร้าน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมสั่งงานลูกน้อง เปิดปากกล่าวอย่างรีบร้อน เพราะกลัวสาวสวยที่พามาด้วยกัน เธอจะกลับมาหลังจากการเข้าห้องน้ำเสร็จ
โคล่า : ช่วยไปขับรถจากโรงแรม มาจอดเอาไว้ที่บ้านแทนหน่อย! กุญแจฝากเอาไว้อยู่กับผู้จัดการโรงแรมแล้ว เออมึงอย่าลืม! เปิดกล้องวงจรปิดย้อนหลังด้วย ช่วยดูไอ้ผู้ชายคนที่มันยืนเถียง อยู่กับผู้หญิงรูปร่างอวบอ้วนต่อหน้ากูด้วย ตามสืบข้อมูลมาให้ครบ อย่าให้ขาดไปสักนิดเดียวก็ไม่ได้เข้าใจนะ!
น้ำเสียงเคร่งขรึม กล่าวพร้อมกดตัดสายทิ้ง กลับเข้ามายืนรอตรงโต๊ะที่มีผู้คนเบียดเสียด ยิ่งกว่าพวกปลากระป๋องแปรรูปอีกครั้ง รออยู่นานก็ยังไม่พบเธอสักทีนะ ไม่รู้เข้าห้องน้ำขนาดนี้ทำอะไรอยู่กันแน่!
ผมก้าวเดินเตรียมจะไปห้องน้ำหญิง ดันพบเธอนั่งกองอยู่กับพื้นกระเบื้อง ตรงหน้าประตูทางเข้าห้องน้ำเสียอย่างนั้น ขมวดคิ้วมองก้มลงถามทันที
โคล่า : ทำไมเธอมาอยู่ตรงนี้ กำลังจำลองเป็นรูปปั้นเหรอ? เรารออยู่ที่โต๊ะตั้งนานเป็นห่วงรู้บ้างไหม?
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวอย่างสงสัย ผมเอื้อมมือช้อนปลายคางเธอขึ้น พลิกไปมามองอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพราะไม่รู้ที่หายไปนาน มัวแอบมานั่งร้องไห้คนเดียวอยู่หรือเปล่า? แม้จะบอกเธอแข็งแกร่งมาก ซึ่งเป็นแค่พฤติกรรมภายนอก ที่คนอื่นเห็นกันเท่านั้นแหละ!
แคนดี้ : นายฉันเป็นอะไรก็ไม่รู้! สงสัยจะเมาหนักเดินไม่ไหวแล้ว ช่วยพาไปส่งคอนโดหน่อยจะได้ไหม?
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวออกมาใบหน้าบู้บี้ เธอคงจะไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่ทว่าผมคนเดียว คงแบกเธอกลับไม่ได้หรอกครับตัวเธอใหญ่ขนาดนี้ ยกมือขึ้นตบหน้าตนเองเบาๆ ลืมคิดถึงเรื่องเมานี้ไปสนิทเลย ตอนแรกอยากให้เธอผ่อนคลาย ถึงได้ชวนมาดื่มจะได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง! กดโทรศัพท์หาลูกน้องอย่างรวดเร็ว รออยู่ไม่นานชายฉกรรจ์นับสิบคน ยืนเรียงแถวเข้ามาทำสีหน้าเคร่งเครียดถาม
'เกิดอะไรขึ้นครับนาย! เรียกคนมาเยอะขนาดนี้จะไปจัดการใคร หรืออยากถล่มแก๊งไหนเหรอครับ?'
ลูกน้องคนสนิทกล่าวถาม พร้อมกวาดสายตามองโดยรอบร้าน อย่างพวกคนจ้องจะหาเรื่อง ส่วนผมหรี่ตาขมวดคิ้วยกนิ้วชี้ไปที่เธอ เป็นคำตอบให้แก่พวกมันที่ยืนทันที
'จะจัดการอย่างไรครับ เผาทิ้งเอากระดูกฝังลงดิน ให้พาไปลอยทะเลหรือลอยแม่น้ำใกล้ๆ ดีครับ?'
น้ำเสียงขึงขังถาม พร้อมยกมือขึ้นมาหักกระดูกตามข้อนิ้ว เม้มริมฝีปากแน่นหนา รังสีอำมหิตแผ่ซ่านปกคลุมไปทั่วบริเวณ ที่พวกเรายืนรวมกันเป็นก้อนกระจุก
โคล่า : มึงประสาทหรือไง! กูไม่ได้สั่งให้ฆ่าเธอสักหน่อย! กูเรียกพวกมึงมาเป็นสิบคน ตั้งใจให้มายกเธอกลับบ้านเข้าใจไหม? เอะอะจะฆ่าแกงคนเป็นผักปลาเชียวนะ! มาเร็วเข้ารีบยกอย่าให้ต้องพูดซ้ำ!
น้ำเสียงเคร่งขรึมด่าทอลูกน้องตนเอง ยกมือขึ้นเตรียมจะโบกหน้าพวกมัน ด้วยความโมโหเพราะพวกมัน พูดจาขวางหูขวางตาเข้า ไอ้พวกนี้ชอบขัดใจจริงเชียวเลย มันน่าโดนนักแต่ละคนเนี่ย!
'ปกตินายไม่พอใจใคร ก็สั่งฆ่าคนยิ่งกว่ามดอีกครับ! ผมพูดอะไรผิดอย่างนั้นเหรอครับ? ก่อนหน้านี้ยังให้ตรวจกล้องวงจรปิดอยู่เลย เธอก็อยู่ในวิดีโอด้วยจะไม่ให้ผมคิด ได้อย่างไรครับตกลงๆ ผมไม่เถียงแล้วครับ'
พูดตะกุกตะกักราวกับน้อยใจนายตนเอง รีบเข้ารุมยกเธอด้วยความเร็ว เมื่อผมถลึงตาดุใส่ราวกับบอกโดยไม่ออกเสียง ว่าถ้ายังขืนชักช้ากูจะฆ่าพวกมึงแทน แล้วสุดท้ายก็พาเธอกลับบ้านผมเนี่ยแหละ! เพราะพยายามปลุกเธอเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น เฮ้อ~
เมื่อลูกน้องพากันยกเธอ แบกขึ้นบันไดหลายร้อยขั้น จนมาถึงหน้าห้องนอนได้สำเร็จ ก็วางเธอบนเตียงนั่งหอบหายใจกันพักใหญ่ ผมสงสารเลยยังไม่อยากไล่พวกมัน ก่อนแกล้งพูดแหย่เหล่าลูกน้องเล่น!
โคล่า : เออกูให้เวลาพวกมึงได้พักนั่งหายใจกัน แต่ถ้ากูออกมาจากห้องน้ำแล้วพวกมึงยังอยู่อีก เตรียมโดนหักเงินเดือนกันได้เลยนะ กูไปอาบน้ำแล้วหึ!
น้ำเสียงเคร่งขรึม กล่าวพร้อมเดินเข้าไปอาบน้ำ แต่เมื่อลูกน้องได้ฟังพากันพยุงตัวลุกขึ้น กุลีกุจอเผ่นแนบออกจากห้องทันที ผมกระตุกยิ้มชอบใจมีความสุขมาก อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย สำหรับทุกคนคงคิดว่ามันแปลกมากใช่ไหม? เรื่องที่ผมดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี ดุจดั่งเจ้าหญิงเลย
ผมจะบอกให้ก็ได้ครับ เธอคือรักแรกของผมตอนเรียนนั่นแหละ! แม้ว่าจะผ่านไปนานหลายสิบปีแล้วก็ตาม ผมไม่มีวันลืมเธอได้ลง ภาพจำยังคงฝังลึกอยู่ในดวงใจนี้เสมอ ที่สำคัญผมเองยังไม่เคยลองก้าวข้าม เส้นแบ่งเขตของความเป็นเพื่อนนี้ไปเลย
เพราะตอนนั้น เรียกได้ว่าสลับภาพกับเธอในยามนี้เลยแหละ! ผมอ้วนมากจนไม่มีใครอยากคบหา เพื่อนเพศเดียวกันชอบรังแกพูดจาไม่ดีใส่ตลอด มีแค่เธอและทรายที่อยู่ร่วมเคียงข้างกันมานาน พวกเราสามคนมักไปไหนด้วยกันเสมอ ใครเดือดร้อนก็ช่วยเหลือ ผลัดกันปกป้องอีกฝ่ายตลอด เป็นความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นอีกรูปแบบหนึ่ง
ตอนนี้ผมกลายเป็นผู้ชาย พร้อมมากในหลายด้านแล้วจริงๆ อยากลองเดินหน้าจีบเธอดูแต่ก็ไม่กล้าบอก กลัวความสัมพันธ์นั้นจะจบลง เมื่ออาบน้ำเสร็จก็เดินออกมา สายตาเลื่อนโฟกัสไปรอบห้อง หวังผ่อนคลายอย่างเช่นเคย แต่ต้องหยุดชะงักลง เพราะเธอกำลังทำบางสิ่งอยู่บนเตียง
โคล่า : เฮ้ย! ไม่ได้นะแคนดี้ เธอจะถอดเสื้อผ้าออกหมดแบบนี้ไม่ได้นะยัยบ้า! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!
ผมโหวกเหวกโวยวายร้องเสียงดังลั่นห้อง ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาเธอที่เตียงนอนขนาดใหญ่ หยิบผ้านวมผืนใหญ่ลากมันมา เพื่อคลุมปกปิดร่างกายเธอเอาไว้ ผมยกมือขึ้นลูบแผงอกแกร่งอยู่หลายครั้ง ช่วยลดอัตราการเต้นของชีพจรตนเอง
โคล่า : เธออยากจะทำให้คนอื่น เขาหัวใจวายตายหรืออย่างไรกันเนี่ย? แคนดี้ช่วยตื่นก่อนมีสติหน่อยสิ!
ผมพูดพร้อมจับแขนนุ่มนิ่ม ค้างเอาไว้อยู่เหนือบนศีรษะ ให้เธอหยุดเอาผ้าออกสักที แต่เพราะไม่ได้ออกแรงบีบจับให้แน่นพอ กลัวเธอตื่นขึ้นมาพรุ่งนี้แล้วจะรู้สึกเจ็บ กลายเป็นว่าเธอดิ้นจนหลุดจากการถูกขึงไว้ แถมยังคว้าแขนผมดึงอย่างแรง จนถลาล้มลงบนที่นอนแทน รั้งร่างกายผมไปกอดจนใบหน้าซุกไซ้ บริเวณบนหน้าอกอึ๋มใหญ่มากนั่น!
หัวใจผมเต้นแรงตึกตัก แทบทะลุออกมากระโดดโลดเต้น กลั้นลมหายใจควบคุมความรู้สึกตัวเองสุดชีวิต พยายามจะผลักดันเธอออกไปไกล มันช่างเปล่าประโยชน์เหลือเกิน แขนที่โอบกอดผมไว้มันเหนียวแน่น ยิ่งกว่ามือของตุ๊กแกเสียอีก
สุดท้ายตบะแห่งความอดกลั้นต่อสิ่งเร้า ภายในห้วงอารมณ์ของผมก็ขาดสะบั้นลง ฝ่ามือเลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นเต้าทั้งสองข้าง ริมฝีปากบางกระจับได้รูปอ้ากัดยอดอกถัน ดูดเลียอย่างว่องไวให้แก้เธอ
คนโดนส่งเสียงร้องอื้ออึงอยู่ภายในลำคอ เชิดใบหน้าแหงนกัดริมฝีปากตนเอง ราวกับสยิวเสียวมาก เกลียวลิ้นร้อนลากเลียเล่นอยู่นาน ก่อนจะเริ่มออกแรงดูดดึง หยอกล้ออย่างสนุกสนาน
จนน้ำลายเยิ้มฉ่ำแฉะรอบจุกนุ่มนิ่ม อ้อมกอดเธอเริ่มผ่อนคลายลงช้าๆ แปรเปลี่ยนเป็นดิ้นดุกดิก ถูไถเรือนร่างบนเตียงนอนแทน ฝ่ามือนุ่มนิ่มสองข้างลงน้ำหนัก กอบกำขย้ำผ้าปูที่นอน เกร็งตัวแข็งทื่อค้างอยู่นาน
นิ้วเรียวยาวกดขยี้คลึงจุดสั่นไหว ทแยงเข้าออกลึกไม่กี่ครั้ง ก็สัมผัสได้ถึงน้ำเมือกใสเหนียวหนืดชุ่มฉ่ำ ยืดหยดเป็นสายจนฉ่ำแฉะเต็มอุ้งมือใหญ่ เธออ้าปากร้องเสียงหลงทันที
•5•ไม่ไหวแล้วนะ!แคนดี้ : อา~ เสร็จแล้วซี้ด~ เสียวไม่ไหวแล้วอื้อ~ ช่วยสอดใส่มันเข้ามาแทนจะได้ไหม เราต้องการมากเหลือเกินซี้ด~เธอส่งเสียงร้องครวญคราง หลับตาพริ้มกัดเม้มริมฝีปากตนเอง ฝ่ามือนุ่มนิ่มบีบเคล้นคลึงเต้าอวบอึ๋ม สะบัดส่ายยั่วยวนสายตาชายตรงหน้าโคล่า : เราเป็นใครเธอช่วยลืมตาดูก่อนไหม?โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ สันจมูกโด่งยาวเกลี่ยไล้ทั่วบนพวงแก้มนุ่มนิ่ม ลมหายใจพ่นใส่เธอครั้งแล้วครั้งเล่ากัดกรามแน่น เส้นเลือดตรงขมับทั้งสองข้างกระตุกตุบๆ มองเธอด้วยสายตาแสนอบอุ่น แต่ก็แฝงความอยากกระหายในจังหวะเดียวกันใช้แขนแกร่งค้ำยันร่างตัวเองบนที่นอน ลุกขึ้นมาคร่อมร่างเธอเอาไว้ จะได้ไม่มีโอกาสขยับถอยหนีไปไหนได้ทั้งนั้น แค่แกล้งแสดงคล้ายจะไม่ยอมทำให้ แต่พฤติกรรมเขานั้น มันช่างสวนทางกับคำพูดเสียเหลือเกินแคนดี้ : อา~ จ้ำม่ำเหรอ? นายจะเป็นคนยอมทำดีๆ หรืออยากให้เรา กลายเป็นคนจัดการแทนเองล่ะ?น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวอ้อนวอน ส่งสายตาเย้ายวนไม่เลิกราง่าย ฝ่ามือนุ่มนิ่มสัมผัสแผงอกแกร่งไต่ไปเรื่อย จนอีกคนทนไม่ไหวแทน ก้มลงซุกไซ้ลำคอขาวดูดเลียผิวเนื้อนุ่ม จนเกิดรอยแดงจ้ำๆ
•6•หลบหน้า!เธอกลืนกินน้ำลงคอทุกหยาดหยด แลบลิ้นเลียรอบริมฝีปาก ส่งสายตาเย้ายวนพร้อมคลี่ยิ้มหวาน เคลื่อนย้ายเรือนร่างนั่งคร่อมอย่างนวยนาด ใช้สองมือนุ่มนิ่มแหวกบั้นท้ายก่อนยกสะโพกขึ้นลอยเอื้อมคว้าหัวบานสีชมพูสด ถูไถตามรอยแยกหยอกเย้าคนตรงหน้าเล่น กดมันลงใส่รูจีบด้วยความรู้สึกวูบวาบ สองแขนยืดไปด้านหลังแถมเอนลำตัวตามเล็กน้อยราวกับทำโยคะ บีบจับหน้าขาคนด้านล่าง ค่อยๆ ขย่มตอขึ้นสุดลงสุดถี่ระรัว จนเขาร้องครางอย่างชอบใจโคล่า : โอ๊ยแคนดี้เสียวหัวไม่ไหวแล้วอื้อ~เสียงแหบพร่าของเขา ทำให้ฉันหน้ามืดตามัว เร่งควบความเร็วสะโพกอัดใส่เต็มแรง ความชุ่มฉ่ำภายในร่องสวาท ทำให้เกิดความเสียวกระสันหนักหน่วงบั้นท้ายสั่นกระเพื่อมไหวเป็นลูกคลื่น ขมิบท่อนเอ็นถี่กระชั้น ควงเอวร่อนรอบท่อนลำแกร่ง เขาคว้าเต้าอวบอึ๋มสองข้างบีบนวด อ้าปากกัดดูดดึงยอดอกชูชัน จนต้องแอ่นตัวตามกลัวมันขาด ก่อนจะหวีดร้องเสียงหลงแคนดี้ : อา~ จะเสร็จอีกแล้ว!ฝ่ามือใหญ่จับบั้นท้ายไว้แน่นถนัด กระแทกกระทั้นลำแกร่งเสยเข้าออกอย่างฮึกเหิม ไม่ผ่อนแรงให้มีโอกาสหายใจได้เลย ตอกอัดเต็มแรงจนคนด้านบนขมิบร่องสวาทถี่ยิบ หลับตาอ้าปากครวญครางยกใหญ่เกร็งกล้า
•7•โดนเพื่อนแซวแล้ว!ห้างสรรพสินค้า4Bทรายนัดฉันมาทานอาหารช่วงมื้อค่ำของวันนี้ เนื่องจากสามีไปเจรจางานต่างจังหวัด เหงาไม่อยากอยู่บ้านเพียงลำพัง แถมไม่รู้เมื่อไหร่เขาจะกลับมาส่วนเธอนั้นหลังจากแต่งงานแล้ว ก็กลายเป็นแม่บ้านเต็มตัวไม่ได้ทำงานนอกบ้าน เธอนั่งรออยู่คนเดียวภายในร้านอาหาร เมื่อหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเธอ จึงกล่าวเปิดบทสนทนาทันทีทราย : เจ้าหญิงนิทราตื่นแล้วเหรอจ๊ะ!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวทักทายแคนดี้ : แหม~ เจ้าหญิงอะไรของเธอ!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวถามเลิกคิ้วสูงใส่ทราย : นอนจนเกือบครบ24ชม. ถ้าวันนี้เธอไม่ตื่นตั้งใจเอาไว้แล้วนะ จะไปปลุกที่คอนโดเลยคอยดูสิซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวพร้อมหัวเราะคิกคักแคนดี้ : เธอไม่เคยอ่านหนังสือเหรอ คนเราควรนอนพักผ่อนให้มากหลายชั่วโมงน่ะ! จะได้มีอายุยืนยาวน้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมคลี่ยิ้มหวานทราย : แต่แกจะนอนตลอดทั้งวันไม่ได้ค่ะสาว~ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวพร้อมมองค้อนใส่แคนดี้ : ฉันเอาสิ่งนี้มาฝากด้วยนะ รับมันไปสิ!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมหยิบรองเท้าส้นสูงหรูหราคู่หนึ่งมอบให้ แค่เธอเปิดกล่องเห็นก็ตาลุกวาวแล้ว เป็นรองเท้าที่ฉ
•8•โดนปลอบโยน!ทราย : หึ! มันช่างคุ้มค่ากับช่อดอกไม้งานแต่งจริง แคนดี้เธอจะปิดกั้นตัวเองทำไมกัน เวลามันผ่านมาตั้ง3ปีแล้วนะ เราอยากเห็นแกมีความสุขอีกครั้งมากเลย โคล่าก็พยายามเข้านะรู้ไหม แม้กำแพงของยัยนี่จะสูงลิ่วแค่ไหน นายก็ต้องแสดงตนเป็นเปรตค่ะ เพื่อก้าวข้ามมันไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วมีหวังได้ขึ้นคานคู่กันแน่งานนี้!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวเชิงเป็นกำลังใจให้เพื่อนทั้งสองคน แม้จะพูดตรงด้วยความจริงใจก็ตาม คนหนึ่งพยายามไล่จีบสุดความสามารถ เพราะแอบมีความรู้สึกดีต่อกันมานานแล้ว ส่วนอีกคนอกหักยังทำใจจากคนเก่าไม่ได้ตอนนี้นั่งอมยิ้มหวานไล่เรียงเรื่องราว ความสัมพันธ์แสนซับซ้อนนี้ ของพวกเขาทั้งสองคน เธอรับรู้ความลับของเพื่อนมาโดยตลอด ที่กล้าเอ่ยยุยงให้ทั้งสองปลงใจต่อกันนั้น ก็หวังอยากให้พวกเขาสมหวังสักที อายุจะใกล้เลขสามอยู่รอมร่อ ยังไม่ลงเอยกันอีก! เมื่อไหร่จะมีหลานตัวน้อย เฮ้อ~ตั้งใจเอาไว้แน่แล้ว อยากให้ลูกของพวกเราแต่งงานกัน ฉันจะสมหวังไหมเนี่ย? นิ่งเงียบไม่พูดจาอะไร นั่งมองพวกเขาสองคนเฉยๆแคนดี้ : คิดอะไรอยู่เหรอแกทำหน้าเครียดเชียว!น้ำเสียงนุ่มนวลถามขึ้นเมื่อเห็นทรายเงียบสงบโคล่า :
•9•ใจอ่อนหรือยังจ๊ะ!แขนนุ่มนิ่มทั้งสองข้างโดนเขาจับมารวบไขว้กัน อยู่บนช่วงด้านหลัง หันใบหน้าไปด้านข้างเอียงคอมอง ด้วยความรู้สึกวาบหวิว อ้าปากค้างส่งเสียงเล็กน้อย เมื่อถูกพันธนาการกับสายเนกไทเส้นนั้น เขายกนิ้วชี้ขึ้นมาปิดปากฉันเชิงดุ อย่าร้องเสียงดังคนอื่นจะได้ยินเอาได้โน้มใบหน้าหล่อแนบชิดแผ่นหลังคลอเคลีย จุมพิตไล่งับแผ่วเบาไล่ไปทั่วบริเวณ ตั้งแต่ช่วงลำคอจนลงไปถึงบั้นท้ายงอนงาม ร่างกายสั่นสะท้านจนต้องแหงนใบหน้า กัดริมฝีปากตนเองแน่นคิ้วขมวดชนกัน เตรียมรอรับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น คนด้านหลังชักท่อนลำรูดเพียงไม่กี่ครั้งขยับร่างกายเดินเข้ามาใกล้ กลั้นลมหายใจเกร็งตัวด้วยความสยิว ฝ่ามือใหญ่ลูบคลำแผ่วเบาตามเนื้อนุ่มนิ่ม หวังให้ฉันผ่อนคลายจะได้ไม่เจ็บมาก เขากดหัวบานสีชมพูสด ถูไถเฉียดไปมาตามรอยแยกรูจีบ น้ำเมือกใสเคลือบล้อมรอบหัวจนฉ่ำแฉะ เริ่มกดสอดใส่ดันเข้าทีละนิดหลับตาพริ้มกัดฟันทนความคับแน่น ถูกบดเบียดเสียดสีภายในผนังร่องสวาท ร่างกายกระตุกฮวบด้วยความจุก ปวดหน่วงท้องน้อยเป็นระยะ เมื่อดุ้นแข็งขืนชูชันถลำเข้าลึกจนมิดด้าม สะโพกเคลื่อนไหวจากเนิบนาบ เริ่มถี่กระชั้นชิดจนต้องแหกปาก ร้องครางเสียงห
•10•ปากแข็งเก่งไปอีก!เสียงปืนหลายรุ่นกำลังสาดกระสุนใส่กันดังลั่น ภายในป่าทึบแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดนัดพบส่งของให้ลูกค้ารายใหญ่ จ่ายเงินส่งของกันจนเสร็จเรียบร้อยพอดี เมื่อขับรถยนต์ออกมาก็โดนดักซุ่มโจมตี ช่วงกลางทางก่อนจะถึงถนนใหญ่เสียอย่างนั้น'นาย! รีบหนีไปก่อนเถอะครับ! พวกเราจะสกัดไว้เอง'ลูกน้องคนสนิทตะเบ็งเสียงมาจากทางด้านหลังโคล่า : รถเรามีแค่คันเดียว! กูไม่หนีหรอกลุยเข้าไปพร้อมกันเนี่ยแหละ! กระสุนทั้งหมดยังพอเหลืออยู่ไหม?ขมวดคิ้วชนกัน น้ำเสียงขึงขังร้องถามลูกน้องตนเอง คิดจะยิงฝ่าวงล้อมพวกศัตรูให้มันลดปริมาณ คนตามล่าจะได้น้อยลง เนื่องจากรถยนต์มีเพียงคันเดียว หากโดนเจาะล้อยางได้จบเห่กันหมดแน่! อีกอย่างให้ทิ้งลูกน้องไว้ด้านหลัง คงไม่ใช่คนอย่างผมที่จะทำได้ลงคอหรอก!'เหลือไม่เยอะแล้วครับนาย! ฝั่งศัตรูทั้งคนและของมันเยอะกว่าเราครับ ผมว่านายทิ้งพวกผมไว้เถอะครับ ค่อยมาเอาคืนให้ก็ยังไม่สาย หากยังยื้อเวลาอยู่ต่ออีก ทางเราจะไม่เหลือชีวิตรอดเอาได้นะ สถานการณ์ทางเราเป็นรองอยู่ครับตอนนี้'สีหน้าเคร่งเครียด น้ำเสียงเอาจริงเอาจังกล่าวไล่เจ้านายโคล่า : เฮ่ย! ไอ้กลก้มหัวลงเร็วเข้าโว้ย!ตะโกนสั่ง
•11•โดนดุแล้วหนึ่ง!ก๊อกๆ~เสียงประตูดังลั่นให้สัญญาณเพียงไม่กี่ครั้ง ผมค่อยๆ ขยับลำตัวกลัวคนหลับจะตื่นขึ้น อาหารคงเสร็จเรียบร้อยรอคนไปรับประทาน แต่ยัยคนที่เป็นห่วงผมออกนอกหน้านี้ ยังคงหลับตาพริ้มนอนขดตัวบนวงแขนอยู่เลย แหม~ แล้วทำเหมือนจะมาดูแลกันนะ อย่างน้อยเธอก็อุตส่าห์มา ยัยขี้เซาเอ๊ย!บ่นงึมงำก่อนจะโน้มใบหน้าแนบชิดพวงแก้มนุ่มนิ่ม จุมพิตแผ่วเบาคนโดนกลับยังคงนอนหลับนิ่ง เชื่อเขาเลย! ผมลุกขึ้นยืนเดินไปหมุนลูกบิดประตู กลไกถือถาดอาหารเข้ามาให้ ผมยกนิ้วชี้ปิดปากให้มันทำเสียงเบาๆ จึงพยักหน้าอมยิ้มรับคำทันที เมื่อวางเสร็จเรียบร้อย แอบกระซิบบอกงานด่วน'แก๊งจระเข้มันเหิมเกริมอีกแล้วครับนาย!'น้ำเสียงแผ่วเบาบอกผมจึงขมวดคิ้ว ใช้สายตาบ่งบอกให้ไปคุยกันที่ห้องทำงาน มันเดินออกไปก่อนผมจึงเดินตาม หมุนลูกบิดประตูปิดลงเบามือที่สุดโคล่า : พวกมันทำอะไรกันอีกแล้วรีบว่ามาเลย!กดเสียงต่ำถามกลไก : มันเอา€ารักไปแอบปล่อยตัดราคาเรา อยู่เต็มตลาดมืดหมดแล้วครับ แถมไม่จบแค่นั้นนะยังห้าวหาญชาญชัยมาขายในผับCcอีกด้วยครับ!น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวฟ้องเจ้านายโคล่า : ดีนักไอ้เวS! ไอ้ไคโรยังไม่รู้เรื่องใช่ไหม?กดเสียง
•12•เกิดเรื่องกับทราย!หลังจากบาดแผลบนร่างกายของเขา หายสนิทดีเป็นปลิดทิ้งตอนนี้พวกเราทั้งคู่ ก็มายังสถานที่นัดหมายพบกับเพื่อนคนสำคัญ แต่ทว่ารออยู่นานก็ยังไม่ปรากฏตัวให้เห็นหน้าเลย ไม่รู้ว่าเธอเกิดปัญหาอะไรขึ้นระหว่างทาง มายังห้างสรรพสินค้าหรือไม่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหา รอคอยอยู่นานกว่าจะมีคนรับได้สักที!แต่ไร้ซึ่งเสียงพูดตอบกลับ หยิบออกห่างจากใบหูเพื่อดูหน้าจออีกครั้ง กลับพบว่าปลายทางกดรับสายอยู่ รอฟังเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ดวงตาคล้ายเม็ดอัลมอนด์เบิกกว้างขึ้น พยายามตีความจากเสียง ทะเลาะเบาะแว้งผ่านสายโทรศัพท์ ตั้งใจฟังอยู่นานช่วงแรกแค่มีปากเสียง ราวกับมันจะส่งผลให้เกิดการกระทบกระทั่ง อึกทึกครึกโครมหนักมากพอสมควร เพราะมีเสียงหวีดร้องโอดครวญ เธอคล้ายจะโดนสามีทำร้ายร่างกายหยิบโทรศัพท์ออกมา กดปุ่มปิดเสียงเพื่อแอบฟังสถานการณ์ กระซิบบอกคนนั่งใกล้ เพราะเขาคงอยากรู้มากเช่นกัน หลังจากสังเกตสีหน้าไม่สู้ดีของฉันเข้า สิ่งที่ได้ยินทำให้อกสั่นขวัญแขวน ใบหน้าซีดเผือดเม็ดเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก ร่างกายสั่นเทิ้มราวกับคิดว่าเรื่องนี้ มันเกิดขึ้นกับตัวเองอยู่แคนดี้ : เกิดเรื่องแย่ขึ้นแล้วนาย! ฉั