•3•เมาไม่ไหวแล้ว!
ทราย : โอ๊ยหยุดเลยนะฟีเวอร์! นายอย่ามาพูดจาไม่ดีกับแคนดี้แบบนี้นะ นี่มันงานแต่งของเราค่ะ! จะเชิญใครมาร่วมย่อมได้อยู่แล้ว ต่อให้นายเป็นเพื่อนสนิทของสามี ฉันก็ไม่ยอมไว้หน้าหรอกนะ ช่วยให้เกียรติกันหน่อยเถอะ ไม่เช่นนั้นก็ออกจากงานเราไปได้เลยค่ะ เชิญ! เราไม่ชอบคนอันธพาลค่ะ!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวห้ามทัพในครั้งนี้ เธอเองย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ต้องเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทั้งคู่ แต่ก็ไม่นึกว่าผู้ชายน่ารังเกียจคนนี้ จะไม่ไว้หน้าคนอื่นบ้างเลย ถ้าพิธีการแต่งงานยังไม่เสร็จสิ้น
คงได้ให้หน่วยรักษาความปลอดภัย มาลากตัวเขาออกไปแล้ว โชคดีตอนนี้เหลือเพียงเพื่อนที่เคยสนิทชิดเชื้อ ช่วงสมัยที่ยังเรียนมัธยม รอเวลาอยู่ร่วมปาร์ตี้ของคืนนี้ด้วยกัน
ฉันยืนนิ่งเฉยเกรงใจทรายเขามากจริงๆ แต่เพื่อนคนอื่นล้วนจ้องมองมาทางพวกเรา เป็นสายตาเดียวกันหมด ซึ่งต่อให้ฉันจะมั่นอกมั่นใจแค่ไหน ก็ไม่อยากถูกคนเอาไปนินทาว่าร้ายเสียหาย อยากจะดูแย่แค่เฉพาะสิ่งที่ตนกระทำเอง มากกว่ายอมตกเป็นขี้ปากคนอื่น ให้เขาหัวเราะเยาะสนุกปาก เฮ้อ~
แคนดี้ : เราไม่มีอารมณ์แล้วกลับก่อนนะทราย!
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าว ก้าวเท้าเดินออกจากห้องโถงจัดงาน ไม่มองใครหน้าไหนและไม่รอฟัง ประโยครั้งขอให้อยู่ต่ออีก
เข้าลิฟต์พร้อมกำลังจะกดเลือกชั้นล่าง เพื่อมุ่งหน้าขับรถกลับคอนโด อารมณ์บูดขนาดนี้แล้ว กลัวเผลอตัวพูดจาไม่ดีเหวี่ยงใส่คนอื่น คงดูไม่ดีเอาสักเท่าไหร่
แต่ประตูลิฟต์ก็ดันเปิดออกกว้าง เป็นเขาที่วิ่งหอบแฮกหน้าตั้งมาหา ไม่รู้เขาเองจะรีบไปไหนกัน คงจะมีเรื่องเร่งด่วนแหละ ได้แต่ยืนนิ่งเงียบมองเงาประตูเหมือนเดิม อย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
คิ้วรูปทรงดาบขมวดชนกันหรี่ตามอง ก่อนจะแทรกตัวเข้ามา ยืนพิงผนังเหล็กพักหายใจ พูดขึ้นมาทำลายความเงียบงัน
โคล่า : อยากไปที่ไหนเหรอ ให้เราไปด้วยได้ไหม? กำลังเบื่อหน่ายเหมือนกันเลย เธอยังโอเคอยู่ใช่หรือเปล่า?
โทนเสียงทุ้มต่ำเลิกคิ้วสูงกล่าวถาม เอียงคอมองฉันที่ยืนนิ่งใจลอย ไม่สั่นไหวตอบอะไรกลับ มัวคิดเรื่องราวแย่ๆ จากไอ้เวsนั่นอยู่ รู้ตัวอีกครั้งเมื่อเขาจับแขนฉันเขย่าเรียกสติ จึงถามกลับเพราะไม่ได้ตั้งใจฟังคำพูดเขาเลย แม้แต่น้อยสักคำเดียว
แคนดี้ : นายว่าอะไรเหรอ? ขอโทษด้วยนะ เมื่อกี้เราไม่ได้ฟังอะไรเลยน่ะ! พูดอีกรอบได้หรือเปล่า?
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าว หันหน้าสบตาคนยืนด้านข้างโคล่า : ไปดื่มด้วยกันไหมเราเลี้ยงเธอเอง!
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าว พร้อมยิ้มให้พยักหน้าถามแคนดี้ : ไปสิ! อารมณ์ไม่ดีเหมือนกัน นายบอกเองนะว่าเลี้ยง เราจะกินให้จ่ายไม่ไหวเลยคอยดูเถอะ! พอดีเลยเราขับรถมาเอง ถ้าอย่างนั้นเราให้ติดรถยนต์ไปด้วยแล้วกัน ส่วนนายขับเป็นใช่ไหม?
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวยืดยาวก่อนจะถาม พร้อมส่งกุญแจรีโมตคอนโทรลให้แก่เขาแทน
โคล่า : หน้าตาเราดูเป็นคน ไม่เอาไหนขนาดนั้นเลยเหรอ? พอดีเลยไม่ได้เอารถยนต์มาเหมือนกัน เดี๋ยวขับพาไปเองครับคนสวย~ นั่งสบายใจได้เลย!
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าว พร้อมผิวปากส่งเสียง ราวกับอารมณ์ดีมาก ผิดกับอีกคนทำหน้าบึ้งตึงอยู่ ขึ้นรถนั่งลงฝั่งด้านข้างคนขับ ปรับเอนเบาะหลับตาพริ้ม พยายามสลัดความรู้สึกแย่ทิ้ง
ใช้เวลาเพียงไม่นาน รถยนต์เลี้ยวเข้ามาจอดอยู่ ตรงด้านหน้าลานของผับหรูแห่งหนึ่ง สายตาทอดมองไปเรื่อยเจอแต่ความหรูหรา คิดว่าราคาคงแพงน่าดู มัวชื่นชมดื่มด่ำบรรยากาศ ร่วมสนุกกับเหล่านักท่องเที่ยวยามราตรี
เขานั้นอยากเปิดห้องพิเศษเป็นเอามากเลยแหละ! จะได้อยู่เป็นแบบส่วนตัวดี แต่ฉันก็แอบเกรงใจเขาอยู่เหมือนกัน จึงยอมมาแออัดยืนเต้นแร้งเต้นกากับคนหมู่มาก เพราะคิดว่ามันน่าจะสนุกสุดเหวี่ยงกว่า
ฉันไม่ได้ดูแคลนฐานะเขาหรอก จำได้เมื่อก่อนเขาชอบพาไปวัดตลอด เขาบอกพ่อเขาบวชอยู่ที่นั่น! ถึงเป็นสาเหตุที่คอยเลี้ยงข้าวขาหมู ให้เขาอยู่บ่อยๆ ส่วนฐานะทางบ้านฉัน ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรหรอกนะ!
แค่เปิดร้านขายอาหารตามสั่งแต่ขายดีมาก ก็ทั้งซอยมีขายอยู่ร้านเดียวฮ่าๆ พอช่วยงานครอบครัวแล้ว พ่อแม่ก็มักจะมอบเงินให้เยอะมาก จะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่ ถือว่าใช้เหงื่อแลกมาด้วยความยากลำบาก เขาบอกเป็นค่าแรงงานโตไปก็ต้องทำงาน แลกเงินแบบนี้แหละ
แต่มีช่วงหนึ่งใช้เงินเกินตัวไปหน่อย พอไปขอเพิ่มกลับไม่ได้สักบาท แถมต้องทำหน้าที่เยอะขึ้นเพื่อจะได้เงินมาใช้ ยังได้คำสอนเพิ่มอีกจำขึ้นใจเลย!
ถ้าไม่มีเงินโตไปต้องทำงาน อย่าได้แบมือขอคนอื่นง่ายนัก! ศักดิ์ศรีต้องมีบ้างรู้ไหม? ตอนใช้ก็ควรวางแผนให้รอบคอบ อย่าได้ขาดการยั้งคิดอีก ยังมีการถามว่าเหนื่อยไหม ให้จดจำความรู้สึกนี้เอาไว้ พอนึกถึงเรื่องเก่าเหล่านี้ ก็อดยิ้มขึ้นมาอย่างมีความสุขไม่ได้ จนคนที่เงียบกริบนั่งด้านข้างถาม
โคล่า : มีความสุขอะไรเหรอ ถึงยิ้มหน้าบานบอกเราบ้างสิ!
โทนเสียงทุ้มต่ำ กล่าวถามพร้อมกระตุกยิ้มตามแคนดี้ : คิดถึงพ่อแม่เราน่ะ!
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวตอบโคล่า : พูดแล้วก็คิดถึงเหมือนกันเลย ไม่ได้กินอาหารฝีมือทั้งสองท่านมานานมากแล้ว ยังสุขภาพแข็งแรงกันอยู่ไหมเหรอ?
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวถามอีกครั้ง ฉันนิ่งเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ราวกับพยายามทำใจยอมรับความเป็นจริง ก่อนฝืนใจตอบเขากลับไป
แคนดี้ : พวกท่านอยู่บนสวรรค์กันหมดแล้วฮ่าๆ
น้ำเสียงนุ่มนวล กล่าวบอกเขาเหมือนฝืนหัวเราะโคล่า : เสียใจด้วยนะ พวกท่านไปสบายแล้ว แต่เธอยังอยู่ก็ต้องมีความสุขให้มากรู้ไหม เดี๋ยวพวกท่านจะไม่สบายใจมีห่วงเอาได้นะ พ่อเราก็ไม่อยู่แล้วเหมือนกัน พอท่านเสียเราเลยต้องย้ายโรงเรียน ช่วงนั้นปรับตัวค่อนข้างยาก แต่ก็ผ่านมาได้แล้ว
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่
แคนดี้ : อืมเสียใจด้วยเหมือนกัน นายคงเจอความลำบากสาหัสมากเลยสินะ หากเป็นเราคงเคว้งคว้าง ถ้าต้องเจอเรื่องโหดร้าย ยากจะทำใจนี้ได้เลยน่ะ!
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวอย่างห่วงใยดั่งเช่นเคย
พวกเราคุยไร้สาระกันไปเรื่อย ก่อนที่ฉันจะปลีกตัวหนีไปเข้าห้องน้ำ เมื่อท่อน้ำพร้อมเปิดระบายแล้ว ตั้งแต่มาก็ดื่มแอลกอฮอล์ไม่พักเลย จะไม่ให้ปวดปัสสาวะได้อย่างไรกันฮ่าๆ
สองขาก้าวเดินไปตามทางเอื่อยเฉื่อย อาการกรึ่มกำลังเมาได้ที่เลยนะเนี่ย จู่ๆ มีมือหนึ่งจับดึงแขนฉันเอาไว้ จึงหันหน้าไปมองกะพริบตาถี่ยิบ สายตาพร่าเลือนรางไม่ไหวแล้ว
แคนดี้ : ใครคะ?
น้ำเสียงนุ่มนวลถามอย่างสงสัย แสงที่ส่องวิบวับก็ยังทำให้มองไม่ออกว่าคนรั้งแขนไว้ เขาเป็นใครกันแน่ รู้แค่เป็นรูปทรงผู้หญิงก็เท่านั้นเอง!
'ดื่มเป็นเพื่อนสักแก้วได้หรือเปล่าคะ?'
เสียงเจื้อยแจ้วกล่าวถาม พร้อมส่งแก้วเหล้ามาให้ ฉันอมยิ้มรับมาดื่มหมดอย่างรวดเร็ว ส่งแก้วคืนเธอและเดินไปเข้าห้องน้ำต่อ เพราะอั้นไว้จะไม่ไหวแล้วตอนนี้ เมื่อทำภารกิจเรียบร้อยก็ยืนล้างมือ เริ่มรู้สึกมึนงงผิดปกติ คิดว่าคงจะเมาแล้วแหละ
จึงค่อยๆ เดินเกาะจับขอบอ่างล้างมือ พยุงร่างกายเอาไว้ฝืนใจเดินตรงจนถึงหน้าประตู ก่อนจะนั่งฟุบลงพักกับพื้นกระเบื้อง เพราะรู้สึกขยับตัวไปไหนไม่ไหวแล้ว อาการในร่างกายตีรวนกันยุ่งเหยิง ทำได้แค่นั่งนิ่งเผื่อมันจะดีขึ้นเล็กน้อยก็ยังดี ค่อยให้โคล่าพาไปหาหมอไม่ได้ดื่มเหล้านานแล้ว จึงออกอาการเยอะขนาดนี้แหละมั้ง
นั่งอยู่นานก็ยังแย่อยู่เหมือนเดิม เพิ่มความรู้สึกพะอืดพะอมแปลกจนผิดปกติ เม็ดเหงื่อเริ่มออกพร่างพราวตามรูขุมขน จนแทบจะเปียกชุ่มฉ่ำเสื้อผ้าไปหมดแล้ว ถอนหายใจภาวนาให้โคล่ามันเดินมาตามสักที จวนจะฝืนร่างกายเอาไว้ไม่ไหวแล้ว
•4•ทุกปัญหามีทางเข้าเสมอ!หลับตาพริ้มขมวดคิ้วชนกันอยู่กับที่ดังเดิม คล้ายว่าคำขออธิษฐานเหล่านั้น ภายในจิตใจทั้งหมดมันจะเกิดผลแล้ว เมื่อคนที่ต้องการมากที่สุดเวลานี้ เขาเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเอ่ยถามฉัน เรื่องการนั่งนิ่งอยู่หน้าห้องน้ำ ราวกับเป็นพวกปูนปั้นที่คอยเฝ้าประตู อยู่ตรงช่วงทางเข้าเสียอย่างนั้นแหละ!ผับCcชายผู้มีนัยน์ตาคมกริบดุจนกเหยี่ยว กำลังเดินหามุมเงียบสงบด้านนอกร้าน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมสั่งงานลูกน้อง เปิดปากกล่าวอย่างรีบร้อน เพราะกลัวสาวสวยที่พามาด้วยกัน เธอจะกลับมาหลังจากการเข้าห้องน้ำเสร็จโคล่า : ช่วยไปขับรถจากโรงแรม มาจอดเอาไว้ที่บ้านแทนหน่อย! กุญแจฝากเอาไว้อยู่กับผู้จัดการโรงแรมแล้ว เออมึงอย่าลืม! เปิดกล้องวงจรปิดย้อนหลังด้วย ช่วยดูไอ้ผู้ชายคนที่มันยืนเถียง อยู่กับผู้หญิงรูปร่างอวบอ้วนต่อหน้ากูด้วย ตามสืบข้อมูลมาให้ครบ อย่าให้ขาดไปสักนิดเดียวก็ไม่ได้เข้าใจนะ!น้ำเสียงเคร่งขรึม กล่าวพร้อมกดตัดสายทิ้ง กลับเข้ามายืนรอตรงโต๊ะที่มีผู้คนเบียดเสียด ยิ่งกว่าพวกปลากระป๋องแปรรูปอีกครั้ง รออยู่นานก็ยังไม่พบเธอสักทีนะ ไม่รู้เข้าห้องน้ำขนาดนี้ทำอะไรอยู่กันแน่!ผมก้าวเดินเตรีย
•5•ไม่ไหวแล้วนะ!แคนดี้ : อา~ เสร็จแล้วซี้ด~ เสียวไม่ไหวแล้วอื้อ~ ช่วยสอดใส่มันเข้ามาแทนจะได้ไหม เราต้องการมากเหลือเกินซี้ด~เธอส่งเสียงร้องครวญคราง หลับตาพริ้มกัดเม้มริมฝีปากตนเอง ฝ่ามือนุ่มนิ่มบีบเคล้นคลึงเต้าอวบอึ๋ม สะบัดส่ายยั่วยวนสายตาชายตรงหน้าโคล่า : เราเป็นใครเธอช่วยลืมตาดูก่อนไหม?โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ สันจมูกโด่งยาวเกลี่ยไล้ทั่วบนพวงแก้มนุ่มนิ่ม ลมหายใจพ่นใส่เธอครั้งแล้วครั้งเล่ากัดกรามแน่น เส้นเลือดตรงขมับทั้งสองข้างกระตุกตุบๆ มองเธอด้วยสายตาแสนอบอุ่น แต่ก็แฝงความอยากกระหายในจังหวะเดียวกันใช้แขนแกร่งค้ำยันร่างตัวเองบนที่นอน ลุกขึ้นมาคร่อมร่างเธอเอาไว้ จะได้ไม่มีโอกาสขยับถอยหนีไปไหนได้ทั้งนั้น แค่แกล้งแสดงคล้ายจะไม่ยอมทำให้ แต่พฤติกรรมเขานั้น มันช่างสวนทางกับคำพูดเสียเหลือเกินแคนดี้ : อา~ จ้ำม่ำเหรอ? นายจะเป็นคนยอมทำดีๆ หรืออยากให้เรา กลายเป็นคนจัดการแทนเองล่ะ?น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวอ้อนวอน ส่งสายตาเย้ายวนไม่เลิกราง่าย ฝ่ามือนุ่มนิ่มสัมผัสแผงอกแกร่งไต่ไปเรื่อย จนอีกคนทนไม่ไหวแทน ก้มลงซุกไซ้ลำคอขาวดูดเลียผิวเนื้อนุ่ม จนเกิดรอยแดงจ้ำๆ
•6•หลบหน้า!เธอกลืนกินน้ำลงคอทุกหยาดหยด แลบลิ้นเลียรอบริมฝีปาก ส่งสายตาเย้ายวนพร้อมคลี่ยิ้มหวาน เคลื่อนย้ายเรือนร่างนั่งคร่อมอย่างนวยนาด ใช้สองมือนุ่มนิ่มแหวกบั้นท้ายก่อนยกสะโพกขึ้นลอยเอื้อมคว้าหัวบานสีชมพูสด ถูไถตามรอยแยกหยอกเย้าคนตรงหน้าเล่น กดมันลงใส่รูจีบด้วยความรู้สึกวูบวาบ สองแขนยืดไปด้านหลังแถมเอนลำตัวตามเล็กน้อยราวกับทำโยคะ บีบจับหน้าขาคนด้านล่าง ค่อยๆ ขย่มตอขึ้นสุดลงสุดถี่ระรัว จนเขาร้องครางอย่างชอบใจโคล่า : โอ๊ยแคนดี้เสียวหัวไม่ไหวแล้วอื้อ~เสียงแหบพร่าของเขา ทำให้ฉันหน้ามืดตามัว เร่งควบความเร็วสะโพกอัดใส่เต็มแรง ความชุ่มฉ่ำภายในร่องสวาท ทำให้เกิดความเสียวกระสันหนักหน่วงบั้นท้ายสั่นกระเพื่อมไหวเป็นลูกคลื่น ขมิบท่อนเอ็นถี่กระชั้น ควงเอวร่อนรอบท่อนลำแกร่ง เขาคว้าเต้าอวบอึ๋มสองข้างบีบนวด อ้าปากกัดดูดดึงยอดอกชูชัน จนต้องแอ่นตัวตามกลัวมันขาด ก่อนจะหวีดร้องเสียงหลงแคนดี้ : อา~ จะเสร็จอีกแล้ว!ฝ่ามือใหญ่จับบั้นท้ายไว้แน่นถนัด กระแทกกระทั้นลำแกร่งเสยเข้าออกอย่างฮึกเหิม ไม่ผ่อนแรงให้มีโอกาสหายใจได้เลย ตอกอัดเต็มแรงจนคนด้านบนขมิบร่องสวาทถี่ยิบ หลับตาอ้าปากครวญครางยกใหญ่เกร็งกล้า
•7•โดนเพื่อนแซวแล้ว!ห้างสรรพสินค้า4Bทรายนัดฉันมาทานอาหารช่วงมื้อค่ำของวันนี้ เนื่องจากสามีไปเจรจางานต่างจังหวัด เหงาไม่อยากอยู่บ้านเพียงลำพัง แถมไม่รู้เมื่อไหร่เขาจะกลับมาส่วนเธอนั้นหลังจากแต่งงานแล้ว ก็กลายเป็นแม่บ้านเต็มตัวไม่ได้ทำงานนอกบ้าน เธอนั่งรออยู่คนเดียวภายในร้านอาหาร เมื่อหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเธอ จึงกล่าวเปิดบทสนทนาทันทีทราย : เจ้าหญิงนิทราตื่นแล้วเหรอจ๊ะ!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวทักทายแคนดี้ : แหม~ เจ้าหญิงอะไรของเธอ!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวถามเลิกคิ้วสูงใส่ทราย : นอนจนเกือบครบ24ชม. ถ้าวันนี้เธอไม่ตื่นตั้งใจเอาไว้แล้วนะ จะไปปลุกที่คอนโดเลยคอยดูสิซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวพร้อมหัวเราะคิกคักแคนดี้ : เธอไม่เคยอ่านหนังสือเหรอ คนเราควรนอนพักผ่อนให้มากหลายชั่วโมงน่ะ! จะได้มีอายุยืนยาวน้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมคลี่ยิ้มหวานทราย : แต่แกจะนอนตลอดทั้งวันไม่ได้ค่ะสาว~ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวพร้อมมองค้อนใส่แคนดี้ : ฉันเอาสิ่งนี้มาฝากด้วยนะ รับมันไปสิ!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมหยิบรองเท้าส้นสูงหรูหราคู่หนึ่งมอบให้ แค่เธอเปิดกล่องเห็นก็ตาลุกวาวแล้ว เป็นรองเท้าที่ฉ
•8•โดนปลอบโยน!ทราย : หึ! มันช่างคุ้มค่ากับช่อดอกไม้งานแต่งจริง แคนดี้เธอจะปิดกั้นตัวเองทำไมกัน เวลามันผ่านมาตั้ง3ปีแล้วนะ เราอยากเห็นแกมีความสุขอีกครั้งมากเลย โคล่าก็พยายามเข้านะรู้ไหม แม้กำแพงของยัยนี่จะสูงลิ่วแค่ไหน นายก็ต้องแสดงตนเป็นเปรตค่ะ เพื่อก้าวข้ามมันไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วมีหวังได้ขึ้นคานคู่กันแน่งานนี้!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวเชิงเป็นกำลังใจให้เพื่อนทั้งสองคน แม้จะพูดตรงด้วยความจริงใจก็ตาม คนหนึ่งพยายามไล่จีบสุดความสามารถ เพราะแอบมีความรู้สึกดีต่อกันมานานแล้ว ส่วนอีกคนอกหักยังทำใจจากคนเก่าไม่ได้ตอนนี้นั่งอมยิ้มหวานไล่เรียงเรื่องราว ความสัมพันธ์แสนซับซ้อนนี้ ของพวกเขาทั้งสองคน เธอรับรู้ความลับของเพื่อนมาโดยตลอด ที่กล้าเอ่ยยุยงให้ทั้งสองปลงใจต่อกันนั้น ก็หวังอยากให้พวกเขาสมหวังสักที อายุจะใกล้เลขสามอยู่รอมร่อ ยังไม่ลงเอยกันอีก! เมื่อไหร่จะมีหลานตัวน้อย เฮ้อ~ตั้งใจเอาไว้แน่แล้ว อยากให้ลูกของพวกเราแต่งงานกัน ฉันจะสมหวังไหมเนี่ย? นิ่งเงียบไม่พูดจาอะไร นั่งมองพวกเขาสองคนเฉยๆแคนดี้ : คิดอะไรอยู่เหรอแกทำหน้าเครียดเชียว!น้ำเสียงนุ่มนวลถามขึ้นเมื่อเห็นทรายเงียบสงบโคล่า :
•9•ใจอ่อนหรือยังจ๊ะ!แขนนุ่มนิ่มทั้งสองข้างโดนเขาจับมารวบไขว้กัน อยู่บนช่วงด้านหลัง หันใบหน้าไปด้านข้างเอียงคอมอง ด้วยความรู้สึกวาบหวิว อ้าปากค้างส่งเสียงเล็กน้อย เมื่อถูกพันธนาการกับสายเนกไทเส้นนั้น เขายกนิ้วชี้ขึ้นมาปิดปากฉันเชิงดุ อย่าร้องเสียงดังคนอื่นจะได้ยินเอาได้โน้มใบหน้าหล่อแนบชิดแผ่นหลังคลอเคลีย จุมพิตไล่งับแผ่วเบาไล่ไปทั่วบริเวณ ตั้งแต่ช่วงลำคอจนลงไปถึงบั้นท้ายงอนงาม ร่างกายสั่นสะท้านจนต้องแหงนใบหน้า กัดริมฝีปากตนเองแน่นคิ้วขมวดชนกัน เตรียมรอรับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น คนด้านหลังชักท่อนลำรูดเพียงไม่กี่ครั้งขยับร่างกายเดินเข้ามาใกล้ กลั้นลมหายใจเกร็งตัวด้วยความสยิว ฝ่ามือใหญ่ลูบคลำแผ่วเบาตามเนื้อนุ่มนิ่ม หวังให้ฉันผ่อนคลายจะได้ไม่เจ็บมาก เขากดหัวบานสีชมพูสด ถูไถเฉียดไปมาตามรอยแยกรูจีบ น้ำเมือกใสเคลือบล้อมรอบหัวจนฉ่ำแฉะ เริ่มกดสอดใส่ดันเข้าทีละนิดหลับตาพริ้มกัดฟันทนความคับแน่น ถูกบดเบียดเสียดสีภายในผนังร่องสวาท ร่างกายกระตุกฮวบด้วยความจุก ปวดหน่วงท้องน้อยเป็นระยะ เมื่อดุ้นแข็งขืนชูชันถลำเข้าลึกจนมิดด้าม สะโพกเคลื่อนไหวจากเนิบนาบ เริ่มถี่กระชั้นชิดจนต้องแหกปาก ร้องครางเสียงห
•10•ปากแข็งเก่งไปอีก!เสียงปืนหลายรุ่นกำลังสาดกระสุนใส่กันดังลั่น ภายในป่าทึบแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดนัดพบส่งของให้ลูกค้ารายใหญ่ จ่ายเงินส่งของกันจนเสร็จเรียบร้อยพอดี เมื่อขับรถยนต์ออกมาก็โดนดักซุ่มโจมตี ช่วงกลางทางก่อนจะถึงถนนใหญ่เสียอย่างนั้น'นาย! รีบหนีไปก่อนเถอะครับ! พวกเราจะสกัดไว้เอง'ลูกน้องคนสนิทตะเบ็งเสียงมาจากทางด้านหลังโคล่า : รถเรามีแค่คันเดียว! กูไม่หนีหรอกลุยเข้าไปพร้อมกันเนี่ยแหละ! กระสุนทั้งหมดยังพอเหลืออยู่ไหม?ขมวดคิ้วชนกัน น้ำเสียงขึงขังร้องถามลูกน้องตนเอง คิดจะยิงฝ่าวงล้อมพวกศัตรูให้มันลดปริมาณ คนตามล่าจะได้น้อยลง เนื่องจากรถยนต์มีเพียงคันเดียว หากโดนเจาะล้อยางได้จบเห่กันหมดแน่! อีกอย่างให้ทิ้งลูกน้องไว้ด้านหลัง คงไม่ใช่คนอย่างผมที่จะทำได้ลงคอหรอก!'เหลือไม่เยอะแล้วครับนาย! ฝั่งศัตรูทั้งคนและของมันเยอะกว่าเราครับ ผมว่านายทิ้งพวกผมไว้เถอะครับ ค่อยมาเอาคืนให้ก็ยังไม่สาย หากยังยื้อเวลาอยู่ต่ออีก ทางเราจะไม่เหลือชีวิตรอดเอาได้นะ สถานการณ์ทางเราเป็นรองอยู่ครับตอนนี้'สีหน้าเคร่งเครียด น้ำเสียงเอาจริงเอาจังกล่าวไล่เจ้านายโคล่า : เฮ่ย! ไอ้กลก้มหัวลงเร็วเข้าโว้ย!ตะโกนสั่ง
•11•โดนดุแล้วหนึ่ง!ก๊อกๆ~เสียงประตูดังลั่นให้สัญญาณเพียงไม่กี่ครั้ง ผมค่อยๆ ขยับลำตัวกลัวคนหลับจะตื่นขึ้น อาหารคงเสร็จเรียบร้อยรอคนไปรับประทาน แต่ยัยคนที่เป็นห่วงผมออกนอกหน้านี้ ยังคงหลับตาพริ้มนอนขดตัวบนวงแขนอยู่เลย แหม~ แล้วทำเหมือนจะมาดูแลกันนะ อย่างน้อยเธอก็อุตส่าห์มา ยัยขี้เซาเอ๊ย!บ่นงึมงำก่อนจะโน้มใบหน้าแนบชิดพวงแก้มนุ่มนิ่ม จุมพิตแผ่วเบาคนโดนกลับยังคงนอนหลับนิ่ง เชื่อเขาเลย! ผมลุกขึ้นยืนเดินไปหมุนลูกบิดประตู กลไกถือถาดอาหารเข้ามาให้ ผมยกนิ้วชี้ปิดปากให้มันทำเสียงเบาๆ จึงพยักหน้าอมยิ้มรับคำทันที เมื่อวางเสร็จเรียบร้อย แอบกระซิบบอกงานด่วน'แก๊งจระเข้มันเหิมเกริมอีกแล้วครับนาย!'น้ำเสียงแผ่วเบาบอกผมจึงขมวดคิ้ว ใช้สายตาบ่งบอกให้ไปคุยกันที่ห้องทำงาน มันเดินออกไปก่อนผมจึงเดินตาม หมุนลูกบิดประตูปิดลงเบามือที่สุดโคล่า : พวกมันทำอะไรกันอีกแล้วรีบว่ามาเลย!กดเสียงต่ำถามกลไก : มันเอา€ารักไปแอบปล่อยตัดราคาเรา อยู่เต็มตลาดมืดหมดแล้วครับ แถมไม่จบแค่นั้นนะยังห้าวหาญชาญชัยมาขายในผับCcอีกด้วยครับ!น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวฟ้องเจ้านายโคล่า : ดีนักไอ้เวS! ไอ้ไคโรยังไม่รู้เรื่องใช่ไหม?กดเสียง