•7•โดนเพื่อนแซวแล้ว!
ห้างสรรพสินค้า4Bทรายนัดฉันมาทานอาหารช่วงมื้อค่ำของวันนี้ เนื่องจากสามีไปเจรจางานต่างจังหวัด เหงาไม่อยากอยู่บ้านเพียงลำพัง แถมไม่รู้เมื่อไหร่เขาจะกลับมา
ส่วนเธอนั้นหลังจากแต่งงานแล้ว ก็กลายเป็นแม่บ้านเต็มตัวไม่ได้ทำงานนอกบ้าน เธอนั่งรออยู่คนเดียวภายในร้านอาหาร เมื่อหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเธอ จึงกล่าวเปิดบทสนทนาทันที
ทราย : เจ้าหญิงนิทราตื่นแล้วเหรอจ๊ะ!
ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวทักทายแคนดี้ : แหม~ เจ้าหญิงอะไรของเธอ!
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวถามเลิกคิ้วสูงใส่ทราย : นอนจนเกือบครบ24ชม. ถ้าวันนี้เธอไม่ตื่นตั้งใจเอาไว้แล้วนะ จะไปปลุกที่คอนโดเลยคอยดูสิ
ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวพร้อมหัวเราะคิกคักแคนดี้ : เธอไม่เคยอ่านหนังสือเหรอ คนเราควรนอนพักผ่อนให้มากหลายชั่วโมงน่ะ! จะได้มีอายุยืนยาว
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมคลี่ยิ้มหวานทราย : แต่แกจะนอนตลอดทั้งวันไม่ได้ค่ะสาว~
ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวพร้อมมองค้อนใส่แคนดี้ : ฉันเอาสิ่งนี้มาฝากด้วยนะ รับมันไปสิ!
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมหยิบรองเท้าส้นสูงหรูหราคู่หนึ่งมอบให้ แค่เธอเปิดกล่องเห็นก็ตาลุกวาวแล้ว เป็นรองเท้าที่ฉันเคยซื้อเอาไว้ สำหรับตอนใส่ถ่ายแบบเมื่อก่อน ราคาหลักแสนเลยแหละ เธอขอซื้อต่อเพราะอยากได้มาก แต่ตอนนั้นฉันตัดใจขายไม่ได้ เป็นคนประเภทหวงของน่ะ!
แถมยังเป็นคู่ที่ถ่ายรูปแล้วสวยมาก รองเท้าเสริมราศีของขลังเลยแหละ ใส่ไปเจรจางานผ่านฉลุยตลอด ปัจจุบันเก็บไว้คงไม่มีแววจะได้ใช้อีกแล้ว จึงยกให้เพื่อนสนิทไปใช้แทนดีกว่า หลังจากเธอชื่นชมราวกับเด็กได้ขนม เก็บลงกล่องอย่างทะนุถนอม ฉันได้แต่ยิ้มชอบใจ เมื่อให้สิ่งของสุดหวงกับคนที่เห็นค่ามัน ทำให้มีความสุขมากไปด้วยเลย
ทราย : ราคาลดลงจากปีนั้นไหมแก~ ดีใจมากที่แกยอมส่งต่อมาให้ ฉันจะร้องไห้แล้วนะตื้นตันใจน่ะ!
ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าว พร้อมแสดงสีหน้าร่าเริง จ้องมองฉันแทบจะกลืนกินกันเลยฮ่าๆแคนดี้ : หยุดมองแบบนั้นเลยนะ! ไม่ได้มีรสนิยมเพศเดียวกัน หนึ่งแสนพอจบๆ คงไม่มีโอกาสได้ใส่แล้ว จึงอยากให้เธอไปช่วยดูแลต่อแทนน่ะ!
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมคลี่ยิ้มหวานให้อีกครั้ง คนตรงหน้าเก็บความรู้สึกไม่อยู่ วางกล่องไว้บนเก้าอี้ วิ่งเข้ามากอดรัดฉันแน่นก่อนจุ๊บลงบนแก้ม
ทราย : ขอบคุณมากนะ เพื่อนใครเนี่ยน่ารักที่สุดเลย!
ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าว พร้อมใช้ใบหน้าซุกไซ้ลำคอ จนอีกคนหัวเราะร่วนสนุกสนานเพราะจั๊กจี้โคล่า : ยัยทราย! เธอทำบ้าอะไรกับแคนดี้เนี่ย?
โทนเสียงทุ้มต่ำไม่รู้โผล่มาจากไหน วิ่งเข้ามาแยกเพื่อนรักอีกคน ออกห่างจากฉันเสียอย่างนั้น หัวใจมันเริ่มเต้นตึกตัก เสียงดังอึกทึกครึกโครมอีกครั้ง ตัวชาจนสมองเบลอไปหมด เมื่อเขาเลื่อนเก้าอี้หย่อนลำตัว มานั่งเคียงข้างฉันอย่างสบายใจเฉิบ
ทราย : เฮ้! แคนดี้แกเป็นอะไรทำไมต้องหน้าแดงด้วย
เธอร้องถามอย่างสงสัย เมื่อสีเลือดฝาดเผยบนใบหน้าฉัน ก็เริ่มแสดงออกมาจนแดงก่ำ แอบคิดอยู่คนเดียวเขามาได้อย่างไรกันนะ เม้มริมฝีปากตนเองแน่น ขมวดคิ้วหรี่ตามองคนตรงหน้า ก่อนจะพูดจาห้วนๆ ตอบเธอ
แคนดี้ : ไม่ใช่สักหน่อยไร้สาระ! ไปสั่งอาหารเถอะ!
โคล่า : คนมันหล่อนี่! สาวจะไม่เขินอายได้อย่างไร? แคนดี้ : หึ! หลงตัวเองชะมัด!ทราย : ฉันว่ามันต้องมีอะไร แอบซุ่มในกอไผ่แน่เลย! พวกแกสองคนทำตัวมีพิรุธมากเลยนะ แอบมีความลับอะไร ที่ปิดบังกันอยู่ใช่หรือเปล่า ฮั่นแน่!
อีกคนยังไม่หยุดกระเซ้าเย้าแหย่ จ้องเขม็งจับผิดอยู่แคนดี้ : คิดมากไปแล้ว! ไม่มีอะไรสักหน่อย!
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าว กลบความเขินอายจนมิดชิดโคล่า : ไปสั่งอาหารเถอะนั่น! ดูแถวหน่อยยาวเป็นหางว่าวแล้ว มื้อนี้เราเลี้ยงเองข้าวขาหมูสองจานด้วย!
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวพร้อมยื่นบัตรเครดิตให้ทราย : มัวแต่เล่นฮ่าๆ ลืมดูเลยเดี๋ยวเรามานะขอบคุณมากค่ะ เสี่ยโคล่าหล่อแล้วยังจิตใจดีอีก!
ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวพร้อมไหว้ย่อประหนึ่งนางงาม แทบจะอดกลั้นขำไม่อยู่ หลังจากที่เธอเดินไปเข้าแถวเพื่อรอสั่งอาหาร
คนด้านข้างอยู่ดีๆ โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ หอมแก้มฟอดใหญ่เลื่อนมาจุ๊บตรงลำคอ พร้อมกระซิบข้างใบหูจนชวนขนลุกซู่ซ่า ร้อนระอุทั่วเรือนร่างไปหมดแล้วจังหวะนี้
โคล่า : คิดถึงเมียมากเลยนะครับ! ไม่เจอกันตั้งนาน
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าว ทำเอาฉันถลึงตาโตใส่เขา มือปลาหมึกเอื้อมมากอด แถมเอาใบหน้าแนบชิดด้านหลังอีก เฮ้อ~ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูด
แคนดี้ : คนเยอะแยะทำอะไรของนาย! แล้วใครเป็นเมียนายไม่ทราบ ปล่อยเราเดี๋ยวนี้เลยนะโคล่า!
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าว พร้อมแกะกล้ามแขนอันแข็งแกร่ง แถมผลักเขาออกไปให้พ้นจากร่างกาย ดิ้นอยู่นานเขาก็ไม่ยอมปล่อย
จึงนั่งทำตัวแข็งทื่ออยู่นิ่งๆ เขาจึงเริ่มคลายอ้อมกอด ค้ำยันข้อศอกบนโต๊ะอาหาร ใช้ฝ่ามือใหญ่รองรับใบหน้าหล่อเหลา ตั้งท่าทางเอียงคอมอง พร้อมสบสายตาหยาดเยิ้ม
โคล่า : เธออย่าปากไม่ตรงกับใจได้ไหม หึ! แล้วคือต้องให้พูดย้ำอีกเหรอ ว่าใครเป็นเมียของคนนี้กันน่ะ หรือว่าอยากให้ทรายรู้เรื่องของเราแล้วฮึ~
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวออกมาอย่างหน้าตาเฉย ยกนิ้วขึ้นมาชี้ที่ตนเองก่อนจะหันเหไปทางทราย เขายกยิ้มร้ายกาจที่มุมปากขึ้นมาอีกครั้ง มองเพื่อนอีกคนที่ยืนเข้าแถวอยู่ด้วยหางตา ราวกับข่มขู่กัน
แคนดี้ : จะเอาอะไรพูดมา! ไม่คิดว่านายโตมาแล้ว จะกลายเป็นคนแบบนี้นะเนี่ย! ข้อต่อรองเยอะจริง!
น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวอย่างรู้ทันคนด้านข้างโคล่า : คืนนี้ขอไปนอนที่คอนโดด้วยคนนะ
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวพร้อมเลิกคิ้วสูง มาพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ราวกับมีแผนร้ายอยู่ในใจแคนดี้ : ได้เงียบปากนายให้สนิทไปเลยนะ!
กระแทกเสียงใส่อย่างไม่พอใจ ยกมือขึ้นกอดอกตัวเองแน่น พร้อมเชิดใบหน้าหันมองไปอีกทาง อย่างไม่สนใจเขาอีก เมื่อเพื่อนอีกคนที่เดินกลับมาถึงโต๊ะ บ่นพึมพำราวกับเหนื่อยหน่าย พร้อมนั่งลงมองพวกเรา ยังคงทำท่าทางเหมือนทะเลาะกันอีกแล้วทราย : คิวยาวมาก! อ้าวแล้วเป็นอะไรกันเนี่ย?
ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวถามอย่างมึนงง เมื่อเห็นพฤติกรรมเพื่อนทั้งสองคนแปลกๆ แคนดี้/โคล่า : เปล่า!!! ทั้งคู่ดันใจตรงกันตอบออกมาพร้อมเพรียงทราย : พวกแกสองคนยังโสดอยู่ไม่ใช่เหรอ ไม่ลองคบกันดูหน่อยสักตั้งล่ะ! สมัยเรียนก็เห็นสนิทกันจะตาย ตัวติดกันบ่อยจนแทบจะกลืนกินกันอยู่แล้ว โตขึ้นมาราวกับว่าเป็นคู่แค้นกัน เสียอย่างนั้นน่ะฮ่าๆ
ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวหัวเราะคิกคักหยอกเย้า
แคนดี้ : หึ! ตอนเรียนสนิทกันตอนนี้ไม่แล้ว ฉันก็สนิทกับแกเหมือนกันนะ คบกับแกไม่ดีกว่าเหรอ?
น้ำเสียงนุ่มนวลเถียงออกมาทันควันโคล่า : ก็พยายามตามจีบอยู่เนี่ย! เสียดายแคนดี้ไม่ยอมให้โอกาสเลย เราจะทำยังไงดีทรายแกแนะนำทีสิ!
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าว พร้อมเหล่มองสาวสวย อมยิ้มหวานอย่างมีความสุขที่ได้หยอดอีกคน
•8•โดนปลอบโยน!ทราย : หึ! มันช่างคุ้มค่ากับช่อดอกไม้งานแต่งจริง แคนดี้เธอจะปิดกั้นตัวเองทำไมกัน เวลามันผ่านมาตั้ง3ปีแล้วนะ เราอยากเห็นแกมีความสุขอีกครั้งมากเลย โคล่าก็พยายามเข้านะรู้ไหม แม้กำแพงของยัยนี่จะสูงลิ่วแค่ไหน นายก็ต้องแสดงตนเป็นเปรตค่ะ เพื่อก้าวข้ามมันไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วมีหวังได้ขึ้นคานคู่กันแน่งานนี้!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวเชิงเป็นกำลังใจให้เพื่อนทั้งสองคน แม้จะพูดตรงด้วยความจริงใจก็ตาม คนหนึ่งพยายามไล่จีบสุดความสามารถ เพราะแอบมีความรู้สึกดีต่อกันมานานแล้ว ส่วนอีกคนอกหักยังทำใจจากคนเก่าไม่ได้ตอนนี้นั่งอมยิ้มหวานไล่เรียงเรื่องราว ความสัมพันธ์แสนซับซ้อนนี้ ของพวกเขาทั้งสองคน เธอรับรู้ความลับของเพื่อนมาโดยตลอด ที่กล้าเอ่ยยุยงให้ทั้งสองปลงใจต่อกันนั้น ก็หวังอยากให้พวกเขาสมหวังสักที อายุจะใกล้เลขสามอยู่รอมร่อ ยังไม่ลงเอยกันอีก! เมื่อไหร่จะมีหลานตัวน้อย เฮ้อ~ตั้งใจเอาไว้แน่แล้ว อยากให้ลูกของพวกเราแต่งงานกัน ฉันจะสมหวังไหมเนี่ย? นิ่งเงียบไม่พูดจาอะไร นั่งมองพวกเขาสองคนเฉยๆแคนดี้ : คิดอะไรอยู่เหรอแกทำหน้าเครียดเชียว!น้ำเสียงนุ่มนวลถามขึ้นเมื่อเห็นทรายเงียบสงบโคล่า :
•9•ใจอ่อนหรือยังจ๊ะ!แขนนุ่มนิ่มทั้งสองข้างโดนเขาจับมารวบไขว้กัน อยู่บนช่วงด้านหลัง หันใบหน้าไปด้านข้างเอียงคอมอง ด้วยความรู้สึกวาบหวิว อ้าปากค้างส่งเสียงเล็กน้อย เมื่อถูกพันธนาการกับสายเนกไทเส้นนั้น เขายกนิ้วชี้ขึ้นมาปิดปากฉันเชิงดุ อย่าร้องเสียงดังคนอื่นจะได้ยินเอาได้โน้มใบหน้าหล่อแนบชิดแผ่นหลังคลอเคลีย จุมพิตไล่งับแผ่วเบาไล่ไปทั่วบริเวณ ตั้งแต่ช่วงลำคอจนลงไปถึงบั้นท้ายงอนงาม ร่างกายสั่นสะท้านจนต้องแหงนใบหน้า กัดริมฝีปากตนเองแน่นคิ้วขมวดชนกัน เตรียมรอรับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น คนด้านหลังชักท่อนลำรูดเพียงไม่กี่ครั้งขยับร่างกายเดินเข้ามาใกล้ กลั้นลมหายใจเกร็งตัวด้วยความสยิว ฝ่ามือใหญ่ลูบคลำแผ่วเบาตามเนื้อนุ่มนิ่ม หวังให้ฉันผ่อนคลายจะได้ไม่เจ็บมาก เขากดหัวบานสีชมพูสด ถูไถเฉียดไปมาตามรอยแยกรูจีบ น้ำเมือกใสเคลือบล้อมรอบหัวจนฉ่ำแฉะ เริ่มกดสอดใส่ดันเข้าทีละนิดหลับตาพริ้มกัดฟันทนความคับแน่น ถูกบดเบียดเสียดสีภายในผนังร่องสวาท ร่างกายกระตุกฮวบด้วยความจุก ปวดหน่วงท้องน้อยเป็นระยะ เมื่อดุ้นแข็งขืนชูชันถลำเข้าลึกจนมิดด้าม สะโพกเคลื่อนไหวจากเนิบนาบ เริ่มถี่กระชั้นชิดจนต้องแหกปาก ร้องครางเสียงห
•10•ปากแข็งเก่งไปอีก!เสียงปืนหลายรุ่นกำลังสาดกระสุนใส่กันดังลั่น ภายในป่าทึบแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดนัดพบส่งของให้ลูกค้ารายใหญ่ จ่ายเงินส่งของกันจนเสร็จเรียบร้อยพอดี เมื่อขับรถยนต์ออกมาก็โดนดักซุ่มโจมตี ช่วงกลางทางก่อนจะถึงถนนใหญ่เสียอย่างนั้น'นาย! รีบหนีไปก่อนเถอะครับ! พวกเราจะสกัดไว้เอง'ลูกน้องคนสนิทตะเบ็งเสียงมาจากทางด้านหลังโคล่า : รถเรามีแค่คันเดียว! กูไม่หนีหรอกลุยเข้าไปพร้อมกันเนี่ยแหละ! กระสุนทั้งหมดยังพอเหลืออยู่ไหม?ขมวดคิ้วชนกัน น้ำเสียงขึงขังร้องถามลูกน้องตนเอง คิดจะยิงฝ่าวงล้อมพวกศัตรูให้มันลดปริมาณ คนตามล่าจะได้น้อยลง เนื่องจากรถยนต์มีเพียงคันเดียว หากโดนเจาะล้อยางได้จบเห่กันหมดแน่! อีกอย่างให้ทิ้งลูกน้องไว้ด้านหลัง คงไม่ใช่คนอย่างผมที่จะทำได้ลงคอหรอก!'เหลือไม่เยอะแล้วครับนาย! ฝั่งศัตรูทั้งคนและของมันเยอะกว่าเราครับ ผมว่านายทิ้งพวกผมไว้เถอะครับ ค่อยมาเอาคืนให้ก็ยังไม่สาย หากยังยื้อเวลาอยู่ต่ออีก ทางเราจะไม่เหลือชีวิตรอดเอาได้นะ สถานการณ์ทางเราเป็นรองอยู่ครับตอนนี้'สีหน้าเคร่งเครียด น้ำเสียงเอาจริงเอาจังกล่าวไล่เจ้านายโคล่า : เฮ่ย! ไอ้กลก้มหัวลงเร็วเข้าโว้ย!ตะโกนสั่ง
•11•โดนดุแล้วหนึ่ง!ก๊อกๆ~เสียงประตูดังลั่นให้สัญญาณเพียงไม่กี่ครั้ง ผมค่อยๆ ขยับลำตัวกลัวคนหลับจะตื่นขึ้น อาหารคงเสร็จเรียบร้อยรอคนไปรับประทาน แต่ยัยคนที่เป็นห่วงผมออกนอกหน้านี้ ยังคงหลับตาพริ้มนอนขดตัวบนวงแขนอยู่เลย แหม~ แล้วทำเหมือนจะมาดูแลกันนะ อย่างน้อยเธอก็อุตส่าห์มา ยัยขี้เซาเอ๊ย!บ่นงึมงำก่อนจะโน้มใบหน้าแนบชิดพวงแก้มนุ่มนิ่ม จุมพิตแผ่วเบาคนโดนกลับยังคงนอนหลับนิ่ง เชื่อเขาเลย! ผมลุกขึ้นยืนเดินไปหมุนลูกบิดประตู กลไกถือถาดอาหารเข้ามาให้ ผมยกนิ้วชี้ปิดปากให้มันทำเสียงเบาๆ จึงพยักหน้าอมยิ้มรับคำทันที เมื่อวางเสร็จเรียบร้อย แอบกระซิบบอกงานด่วน'แก๊งจระเข้มันเหิมเกริมอีกแล้วครับนาย!'น้ำเสียงแผ่วเบาบอกผมจึงขมวดคิ้ว ใช้สายตาบ่งบอกให้ไปคุยกันที่ห้องทำงาน มันเดินออกไปก่อนผมจึงเดินตาม หมุนลูกบิดประตูปิดลงเบามือที่สุดโคล่า : พวกมันทำอะไรกันอีกแล้วรีบว่ามาเลย!กดเสียงต่ำถามกลไก : มันเอา€ารักไปแอบปล่อยตัดราคาเรา อยู่เต็มตลาดมืดหมดแล้วครับ แถมไม่จบแค่นั้นนะยังห้าวหาญชาญชัยมาขายในผับCcอีกด้วยครับ!น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวฟ้องเจ้านายโคล่า : ดีนักไอ้เวS! ไอ้ไคโรยังไม่รู้เรื่องใช่ไหม?กดเสียง
•12•เกิดเรื่องกับทราย!หลังจากบาดแผลบนร่างกายของเขา หายสนิทดีเป็นปลิดทิ้งตอนนี้พวกเราทั้งคู่ ก็มายังสถานที่นัดหมายพบกับเพื่อนคนสำคัญ แต่ทว่ารออยู่นานก็ยังไม่ปรากฏตัวให้เห็นหน้าเลย ไม่รู้ว่าเธอเกิดปัญหาอะไรขึ้นระหว่างทาง มายังห้างสรรพสินค้าหรือไม่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหา รอคอยอยู่นานกว่าจะมีคนรับได้สักที!แต่ไร้ซึ่งเสียงพูดตอบกลับ หยิบออกห่างจากใบหูเพื่อดูหน้าจออีกครั้ง กลับพบว่าปลายทางกดรับสายอยู่ รอฟังเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ดวงตาคล้ายเม็ดอัลมอนด์เบิกกว้างขึ้น พยายามตีความจากเสียง ทะเลาะเบาะแว้งผ่านสายโทรศัพท์ ตั้งใจฟังอยู่นานช่วงแรกแค่มีปากเสียง ราวกับมันจะส่งผลให้เกิดการกระทบกระทั่ง อึกทึกครึกโครมหนักมากพอสมควร เพราะมีเสียงหวีดร้องโอดครวญ เธอคล้ายจะโดนสามีทำร้ายร่างกายหยิบโทรศัพท์ออกมา กดปุ่มปิดเสียงเพื่อแอบฟังสถานการณ์ กระซิบบอกคนนั่งใกล้ เพราะเขาคงอยากรู้มากเช่นกัน หลังจากสังเกตสีหน้าไม่สู้ดีของฉันเข้า สิ่งที่ได้ยินทำให้อกสั่นขวัญแขวน ใบหน้าซีดเผือดเม็ดเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก ร่างกายสั่นเทิ้มราวกับคิดว่าเรื่องนี้ มันเกิดขึ้นกับตัวเองอยู่แคนดี้ : เกิดเรื่องแย่ขึ้นแล้วนาย! ฉั
•13•มีแผนร้าย!แคนดี้ : นี่! คุณคนขับรถ~ จะพาฉันไปไหนมิทราบ?น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวร้องประท้วง เมื่อเส้นทางมันเริ่มแปรเปลี่ยนไปจากเดิม ร้านอาหารก็ไม่จอดแวะเลยสักนิด แม้แต่ร้านสะดวกซื้อ ผ่านเป็นสิบร้านก็ไม่หยุดจอด เหมือนมันกำลังจะเป็นเส้นทาง ไปบ้านของเขาแล้วตอนนี้ ยังคงเงียบกริบเขาไม่ตอบอะไรกลับมา มีเพียงกระตุกยิ้มมุมปาก ชำเลืองมองหางตาใส่แค่นั้น ไม่สนใจอะไรฉันเลยเหยียบคันเร่งเลขไมล์ขึ้นเป็นร้อย จับพวงมาลัยแน่นเมื่อเครื่องยนต์จอดนิ่งเงียบ หรี่ตาจ้องมองภาพคฤหาสน์ตรงหน้า ขมวดคิ้วชนกันพร้อมหันหน้าไปเบะปาก ให้แก่คนด้านข้างทันทีโคล่า : จะลุกเดินเข้าไปดีๆ หรือจะให้ผมอุ้ม?โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวถามใบหน้าเรียบนิ่งแคนดี้ : หึ~ นายจะอุ้มไหวเหรอ?น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าว ประชดประชันยิ้มกรุ้มกริ่ม คล้ายว่าเขาจะลืมตัวนะ เรื่องน้ำหนักมากกว่าปกติของฉัน ไม่เหมือนสาวคนอื่นที่ร่างบางอุ้มได้ง่าย ถ้าถามว่าหนักแค่ไหน? ขอบอกไว้ตรงนี้เลยค่ะ 80กิโลกรัม!!! ตอนยังไม่ได้รับประทานอะไร ก็จะอยู่ประมาณนี้แหละค่ะโคล่า : ผมอาจจะอุ้มคุณไม่ไหวหรอก! แต่อย่าลืมผมมีลูกน้องนะครับ! วันที่คุณเมาเป็นลูกหมา~ ผมยังมีปัญญาพากลับบ้านม
•14•มีคนโดนรังแก!แคนดี้ : ผัวขา~ เมียเสียวไม่ไหวแล้วอาอื้อ~ร้องเสียงอ่อนเสียงหวาน แหกขาออกกว้างยิ่งกว่าเดิม ขยับเขยื้อนเรือนร่างบนเตียง มือข้างหนึ่งจิกเกร็งบนผ้าปูที่นอน ส่วนอีกข้างขยุ้มกลุ่มเส้นผมคนด้านล่าง เขายังคงมุดใบหน้าง่วนอยู่กับร่องสวาท กวาดลิ้นเลียไปทั่วทุกซอกเล็กซอกน้อยเรียวนิ้วยาวเกลี่ยแหวกกรีดผ่าตามรอยแยก เสียวสะท้านน้ำเมือกใสไหลนอง สะดุ้งเฮือกกัดริมฝีปากตนเองแน่น เขาเล่นกดสอดใส่ครั้งเดียวถึงสามนิ้ว กระแทกกระทั้นชนด้านในอย่างแม่นยำ ขมิบตอบรับตุบๆ ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดเม็ดสวาท หน้าท้องเสียววูบวาบจวนใกล้เวลาถึงฝั่งฝันแคนดี้ : อื้อจะเสร็จแล้วอา~ร้องครวญครางเสียงดังลั่น กางนิ้วมือนุ่มนิ่มจิกเล็บลงบนที่นอนขีดข่วน พยายามกลั้นความเสียวซ่าน พร้อมขยุ้มเส้นผมเขาหนักยิ่งขึ้น กระตุกเรือนร่างสั่นคลอน น้ำแห่งความสุขทะลักทลายคนด้านล่างเก็บเล็มทุกหยาดหยด นิ้วยังคงแช่ค้างอยู่ด้านในโพรงนุ่ม ค่อยๆ เงยหน้าอ้าปากไล่งับตามผิวเนื้อ แกล้งใช้นิ้วชอนไชไปมาหาจุดกระสันเสียว ใบหน้าหล่อเหลาหยุดตรงปลายยอดอกถัน ดูดเลียหยอกเย้าอย่างยาวนาน สัมผัสจากฝ่ามือนวดคลึงเคล้นเต้าอวบอึ๋ม เคลิบเคลิ้มทำให้ผ่อนคล
•15•ไข้ขึ้นสูง!ชายหนุ่มหน้าดำคร่ำเครียด เดินวนเวียนอยู่หน้าห้องนอน หลังจากเฝ้ารอให้หมอตรวจร่างกายเธอ พออาบน้ำแต่งกายเรียบร้อย เตรียมตัวพร้อมแล้วกำลังจะไปหาทรายกัน แต่เธอดันมาเป็นลมซะงั้น จึงต้องเรียกหมอประจำตระกูล ให้เร่งเข้ามารักษาตัวทันที ตอนแรกก็ไม่ยอมหรอก เพราะหมอเป็นผู้ชาย วุ่นวายจนภรรยาหมอต้องมาด้วย ถึงได้วางใจลงก็คนมันหวงจะทำไมล่ะ?ประตูห้องนอนเปิดออก หมอค่อยๆ เดินนวยนาดทิ้งภรรยาอยู่หน้าประตู ก่อนจะเปิดปากพูดเกี่ยวกับอาการให้ผมได้รับรู้หมอ : คุณรุนแรงกับเธอหนักมากเกินควรครับ!น้ำเสียงสุขุมกล่าวให้คนร้อนใจฟังโคล่า : แค่ 6 - 7รอบ ภายในวันเดียวเองนะครับ?เลิกคิ้วสูงโต้แย้งอย่างไม่เชื่อหูว่ามันคือเรื่องจริงหมอ : คนปกติเขาไม่ระห่ำแบบคุณหรอกครับ! ผมแค่ทำประจำ 1 - 3รอบต่อวันเอง ภรรยาผมก็แทบจะไม่ไหวแล้ว แต่คุณเล่นจนอักเสบต้องพักกินยาก่อน หากยังดื้อดึงอีก! รอบหน้าคงต้องหยอดน้ำเกลือ รักษาอวัยวะภายในที่โรงพยาบาลแล้วครับ!น้ำเสียงเนือยๆ อธิบายโดยละเอียดให้คนไม่เชื่อฟังผมได้แต่พยักหน้ารับให้กลไกจัดการ เรื่องค่ารักษาและพาหมอไปส่งด้วย ผมเดินเข้าห้องนอนเอามืออังหน้าผาก คนโดนนอนนิ่งไม่ยอมข