•1• รักล่มพร้อมงานพัง!
'พวกเราเลิกกันเถอะ!'
น้ำเสียงเอาจริงเอาจังจากชายตรงหน้า
ทำให้หัวใจฉันมันเต้นผิดจังหวะกระตุกวูบ ตัวสั่นคลอนชาวาบเบาโหวงเหวงเคว้งคว้าง ราวกับลอยอ้างว้างไร้หลักแหล่งยึดเกาะ เหมือนจะกระจายตนเองไปรวมกลุ่มก้อนอยู่ ภายในหมู่มวลของอากาศของร้านแห่งนี้
ค่อยๆ เงยใบหน้าละสายตา ออกห่างไกลจากถ้วยไอศกรีมอย่างมึนงง ฝืนใจกลืนลงคออย่างเหนียวหนืด ก่อนถามเขากลับอย่างยากลำบากสุดๆ
'เกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างเราอย่างนั้นเหรอ?'
ดวงตาเริ่มแข็งกร้าว เต็มไปด้วยความโกรธคลุกเคล้าความเสียใจ น้ำตาเอ่อคลอเบ้าจนแทบล้นทะลักทลาย มันเกือบไหลรินออกมา ชโลมอาบสองแก้มแล้วจังหวะนั้น
ฝืนใจตัวเองกัดฟันถามเขาต่อ พร้อมรอยยิ้มหวาน ดั่งเช่นเคยในครั้งเมื่อวันวาน
'ผมมีคนอื่นแล้ว! ถ้าอย่างนั้นจะแนะนำให้รู้จักกันเอาไว้'
เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตานิ่งสงบราวกับไม่รู้สึกอะไรสักนิดเดียว กวักมือเรียกหาผู้หญิงอีกคนทันที เธอนั่งทานไอศกรีมอยู่ตรงโต๊ะถัดไป ให้เดินเข้ามาหาตนเอง ได้แต่เบิกตากว้างอ้าปากค้างยิ่งกว่าเดิม เขาแอบคบซ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เป็นสิ่งที่ถามย้ำเตือนอยู่ภายในสมองอันน้อยนิด
แต่ไม่อยากพูดมันออกไปเลยด้วยซ้ำ กลัวจะดูเป็นตัวตลกเพิ่มขึ้นอีก แค่นี้เขาสองข้างก็ผุดอยู่บนศีรษะแล้ว เนื่องจากทำตัวไม่ถูกร้อนรนมากในจังหวะนี้ รอฟังอย่างอื่นก่อนดีกว่าใจเย็นก่อนนะ เผื่ออาจจะมีบางสิ่ง พอทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้างแต่ผิดคาด
'ผมแอบคุยกับฟางมาสักพักแล้ว! จนเกิดความรู้สึกลึกซึ้งไม่สามารถขาดเธอได้ ผมทบทวนตนเองอย่างละเอียดซ้ำๆ ยิ่งพบว่าฟางเหมาะกับการเป็นแฟนผม มากกว่าเธออีกนะ!
เพราะฉะนั้นแล้ว! วันนี้พวกเรามาจบความสัมพันธ์กันเถอะ ข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ภายในคอนโดของคุณ เชิญโยนทิ้งไปให้หมดได้เลย ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ที่จะพูดบอกมีแค่นี้แหละขอให้โชคดีนะ'กล่าวเหตุผลและตัดบทจบประโยค พร้อมลุกขึ้นยืนเขาเตรียมเดินหนีฉันไป ยิ่งฟังก็ยิ่งโมโหหงุดหงิดมากกว่าเดิม หัวใจดวงนี้กลายมาเป็นโดนจุดชนวนให้ลุกโชน มันถูกเติมเต็มด้วยความโกรธแค้นใจเป็นที่สุด
เมื่อความรักตลอด3ปี ถูกพังทลายลงจากน้ำมือคนที่ฉันยึดมั่น คิดจะผูกพันกับเขาไปอีกแสนนาน ต้นไม้ที่คอยเฝ้าถนอมเอาใจใส่ ถูกบ่มเพาะด้วยความอดทน บัดนี้จะย้ายกระถางหนีไปหาคนอื่นแล้วฮึ่ม!
ถ้าอย่างนั้นคงต้องทำเป็นแข็งใจ ปล่อยให้มันไปแล้วแหละ อย่าได้คิดเผลอฉุดรั้งเอาไว้เชียว ยกถ้วยแก้วใบใหญ่ใส่ไอศกรีมขึ้นมาถือไว้ กำมันจนแน่นถนัดง้างเรียวแขนขว้างเต็มแรง ผลสรุปคือเป้าหมายไม่ทันได้ระวังตัว หัวแตกเลือดไหลซึมตามระเบียบเรียบร้อยดี
ฉันเดินไปจ่ายเงินค่าเสียหายทันที แต่ต้องชะงักฝีเท้าหยุดลงหันหน้ากลับมา เมื่อเขาโวยวายเสียงดังลั่น เรียกสายตาจากทุกคนภายในร้านนี้ จ้องมองมายังพวกเราอย่างเป็นจุดหมายเดียวกัน กลายเป็นเรื่องสนุกสนานที่ใหญ่โตทันที แถมคนอื่นยังคงอึ้งตาค้างหยุดชะงักตั้งแต่ตอน ถ้วยไอศกรีมปาโดนใส่หัวคน พร้อมร่วงหล่นมาตกแตกเสียงดังกึกก้องร้านแล้ว
'แบบนี้มันจะมากเกินไปแล้วนะ! ผมจะแจ้งความดำเนินคดี เอาเรื่องกับคุณให้ถึงที่สุด! ข้อหาทำร้ายร่างกายผม!'
ตะเบ็งเสียงดังด้วยความโมโหและเจ็บใจ
'ถ้าอย่างนั้นแค่หัวแตกยังไม่พอหรอกนะ อยากได้แผลสดเพิ่มใช่ไหม ทุกคนดูเอาไว้นะ ถ้าเป็นพวกคุณจะโกรธกันไหม ผู้ชายคนนี้คบกับฉันมาตลอด3ปีเต็ม
คอยบีบบังคับให้ฉันต้องเป็นในสิ่งที่เขาชอบ ไม่เคยรักฉันด้วยใจจริง จากอุปนิสัยของฉันเลยสักนิด หลอกให้ทุ่มเททั้งเวลาทั้งหัวใจทั้งเงินทองซึ่งอยู่มาวันหนึ่ง เขาเปิดตัวว่าคุยกับผู้หญิงอีกคน ยังจะมีหน้าพามาแนะนำให้รู้จักกันอีก ต้นไม้ที่เฝ้าถนอมหล่อเลี้ยงมาเป็นปีๆ วันนี้อยากเปลี่ยนกระถางไปอยู่กับคนอื่น
ถ้าเป็นพวกคุณที่นั่งอยู่จะรู้สึกอย่างไรบ้าง บางคนคงร้องไห้ฟูมฟายจบลงแค่ตรงนั้นแล้วแต่สำหรับฉัน มันคือการถูกหักหลังและหยามศักดิ์ศรีกันมาก เพราะฉะนั้นต้องมีคนเจ็บกันบ้างแหละค่ะ! ไอ้คนใจดำไม่ห่วงใยความรู้สึกคนอื่น มันสมควรโดนสั่งสอนให้จำบ้างแล้วหึ!'
ฉันกล่าวระบายอย่างหมดเปลือก ทุกคนที่ได้รับฟังช่วยตะโกนด่าทอ โห่ร้องแทนกันยกใหญ่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าพึงพอใจอย่างมาก จนคนสร้างเรื่องอับอายเหล่านี้ วิ่งหนีเตลิดออกจากร้านไปแทนฉัน
ทุกคนพากันเข้ามาแสดงความเห็นใจ พร้อมอวยพรให้เจอความรักที่ดีกว่านี้ เมื่อพนักงานกำลังกวาดพื้นเก็บเศษแก้วที่แตก ฉันจึงแสดงความรับผิดชอบโดยการทำแทนเอง
หลังจากนั้นก็แวะเข้าร้านอาหาร ตั้งใจกินเพื่อเติมพลังงานที่สูญเสีย ถึงแม้จะได้ระบายอารมณ์แล้ว แต่หัวใจคงยังเจ็บช้ำอยู่ไม่น้อย!
ความโศกเศร้าจากความผิดหวัง ทำให้กินไม่หยุดยั้งอาหารและขนมหวาน ช่วยเยียวยาหัวใจอันบอบช้ำได้จริง วันเวลาเลยผ่านไปนานนับหลายปี
จนวันนี้น้ำหนักของฉันพุ่งทะยานสูง ทำให้อาชีพที่ต้องใช้หุ่นและหน้าตา พังทลายลงตามไปกับความรักครั้งนั้นด้วย เป็นจุดตกต่ำที่สุดของช่วงชีวิต คนอย่างฉันเลยก็ว่าได้ น้ำตาที่ไหลรินออกมาเป็นทะเล มันก็หยุดลงตามกาลเวลาที่แสนยาวนานนี้
3ปีผ่านไป..
ฉันคือแคนดี้อายุ28ปี สาวโลกสวยใช้ชีวิตบนทุ่งดอกไม้ เคยมองโลกในแง่ดีมาตลอด เพราะเจอไอ้ความรักย่ำแย่เข้า จึงกลายเป็นคนปิดกั้นหัวใจ มาวันนี้หุ่นพังยังไม่พอตกงานอีกด้วย อย่างน้อยก็ยังได้ใช้เงินเก็บที่หามาได้ อย่างยากลำบากแสนเข็ญตลอดหลายปี ซึ่งซ่อนเอาไว้ไม่ให้ไอ้หมอนั่นรู้ ถ้ามันรู้คงไถฉันเป็นตู้กดเงินสดน่ะสิ!
บทเรียนแรกที่ได้รับรู้คือ ผู้หญิงที่หาเงินด้วยตนเองได้ จะไม่มีวันบาดเจ็บจากอะไรทั้งนั้นค่ะ ตั้งแต่เลิกกับคนสาSเลวนั่นแล้ว ก็อยู่กับตนเองไม่ได้เคลื่อนไหว ช่องทางการติดต่อบนโทรศัพท์เลย จู่ๆ ก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานแต่ง ของเพื่อนสมัยวัยรุ่นอยู่คนหนึ่ง
ซึ่งฉันไม่ได้อายที่ตัวเองหุ่นพังหรอกนะ ความจริงที่ไม่กล้าไปเพราะรู้ว่าไอ้คนนิสัยไม่ดี ได้รับเชิญด้วยเหมือนกัน บังเอิญมันเป็นเพื่อนทางฝ่ายเจ้าบ่าวน่ะสิ!
ยอมรับว่ายังลืมเขาไม่ลง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ถ้าถามว่าฉันจะกลับไปอีกไหม คงมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีวัน กลับไปยืนอยู่ตรงจุดเดิมอย่างแน่นอน มันเหลือแค่เพียงความรู้สึกเจ็บปวดสาหัส ที่เขาฝากเอาไว้ซึ่งมันยังคงฝังลึกลงกระดูกดำ
โรงแรมหรูCL
ค่อยๆ ก้าวเท้าออกจากรถยนต์ กดรีโมตคอนโทรลล็อกพร้อมเดิน มุ่งหน้าเข้าสู่ด้านในลิฟต์ของทางโรงแรม แต่เนื่องจากมาถึงช้าประตูมันจึงค่อยๆ ปิดลงแต่โชคดีที่กดปุ่มค้างได้ทันเวลา เหมือนผู้ชายด้านในจะเห็นฉันด้วยแหละ จึงกดเปิดให้เข้ามายืนก้มหน้าลง พร้อมเอ่ยขอบคุณอย่างจริงใจ
แต่ไม่ได้สังเกตใบหน้าของเขาเลยสักนิด เพราะมัวรีบร้อนอยู่มางานสาย จนพิธีเริ่มดำเนินการไปได้สักพักแล้วด้วย เมื่อแอบชำเลืองมองไฟแสดงเลขชั้น เขาเองก็กดเลือกไปที่ชั้นเดียวกัน จึงชวนเขาคุยเพราะพวกเรา ยืนกันอยู่แค่เพียงสองคนเท่านั้น ภายในพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสแห่งนี้
'ไปงานแต่งเหมือนกันเหรอคะ'
น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยปากถาม แต่ไม่ได้หันไปตั้งใจสบสายตาอีกคนหรอกนะ มองเพียงเงาเลือนราง ผ่านหน้าประตูลิฟต์แทน รับรู้ได้ว่าเค้าโครงหน้าตาของเขา จะต้องเป็นคนหล่อเหลามากเลยแหละ
'ครับ!'
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวเพียงประโยคแสนสั้น
จึงเม้มริมฝีปากแน่นยืนนิ่งเงียบ ไม่อยากเพิ่มความอึดอัดใจต่อกัน แอบเหล่มองเขาแทนก่อนจะหันหน้ากลับมา เมื่อประตูเปิดก้าวเท้าออกด้วยความว่องไว กลัวเพื่อนเจ้าสาวที่ชวนมางานแต่งจะโกรธ เพราะมาไม่ทันนาทีโยนช่อดอกไม้
สองเท้าก้าวเดินเข้ามาภายในงาน ซึ่งเป็นจังหวะที่ทุกคนต่างเฝ้ารอคอย ย่อมไม่ใช่คนอย่างฉัน ที่จะต้องการเลยแม้แต่น้อย เจ้าสาวยืนหันหลังให้แก่แขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย กำลังโยนช่อดอกไม้อยู่ ปัญหามันไม่ใช่ตรงนั้นหรอกนะ
ประเด็นคือสิ่งที่ลอยเคว้งคว้างในอากาศ เริ่มเข้ามาใกล้ร่างกายอันใหญ่โตของฉันแล้ว โอ้ไม่นะฉันยังไม่พร้อม ที่จะแต่งงานกับใครทั้งนั้น กำลังจะก้าวเท้าถอยหลัง เพื่อหลีกหนีความเป็นจริงแต่ดันหกล้ม นั่งลงบนพรมแดงและไอ้สิ่งที่ฉันตั้งใจ หลบเลี่ยงแทบตายสุดชีวิต ร่วงหล่นกระทบศีรษะ เคลื่อนย้ายด้วยแรงโน้มถ่วง มาอยู่บนหน้าตักของฉันแทน ให้ตายเถอะ! ถอนหายใจเฮือกใหญ่
ทุกสายตาภายในงานจับจ้องมาทางฉันกันหมด ราวกับหัวเราะเยาะขบขันและแอบเหน็บแนม อยู่ภายในใจกันไปหมด พยายามลุกขึ้นแต่ก็มีฝ่ามือหนึ่ง ยื่นออกมาราวกับตั้งใจจะช่วยจริง ๆ คล้ายจะเป็นชายคนเดียวกัน ที่เคยอยู่ในลิฟต์กับฉันก่อนหน้านี้
•2•เพื่อนเก่าคนหนึ่ง!เมื่อสังเกตดีแล้วพบว่า.. ทรงผมที่คล้ายจะยุ่งเหยิง แต่กลับถูกเซตเอาไว้เป็นอย่างดี เส้นคิ้วเรียวสวยราวกับรูปทรงของดาบ ดวงตาดุจนกเหยี่ยวโฉบเฉี่ยวหางตาเชิดขึ้น แววตาอบอุ่นช่างสะกดจิตชวนหลงใหลจนไม่อาจละสายตาไปสนใจสิ่งอื่นใดได้อีก ขนตาหนาเป็นแพยาว ลดความดุดันบนใบหน้าจนทำให้ดูอ่อนหวาน สันจมูกโด่งยาว จับคู่กับริมฝีปากบนกระจับบางได้รูปใบหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยมคางโค้งมน สีผิวขาวอมชมพู รูปร่างล่ำสันที่หลบซ่อนภายใต้เสื้อผ้า หุ่นคล้ายสามเหลี่ยมหัวกลับ ราวกับเป็นคนดูแลสุขภาพมาเป็นอย่างดี'ลุกไหวไหมครับ?'โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่เขายังคงสุภาพ ราวกับตั้งใจจะช่วยพยุงฉันจริงๆ หัวใจสั่นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาตลอดหลายปี จนเกือบลืมว่ามีมันอยู่ในร่างกาย แต่ถ้าคนเราไม่มีหัวใจคงตายไปแล้วแหละฮ่าๆ คิดฟุ้งซ่านไม่นานก่อนจะเอื้อมมือจับเขาไว้'เอ่อ! ขอบคุณมากค่ะ!'น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมรอยยิ้มใช้แขนข้างหนึ่งยันพื้นรับน้ำหนักตัวเองเอาไว้ ความซวยมันไม่จบแค่ตรงนั้น ไม่รู้ใครมันเผลอทำน้ำหกเอาไว้น่ะสิ!จนมือข้างที่รับน้ำหนักของร่างกายลื่นไถล กลายเป็นคว้าดึงชายคนนั้น ให้ล
•3•เมาไม่ไหวแล้ว!ทราย : โอ๊ยหยุดเลยนะฟีเวอร์! นายอย่ามาพูดจาไม่ดีกับแคนดี้แบบนี้นะ นี่มันงานแต่งของเราค่ะ! จะเชิญใครมาร่วมย่อมได้อยู่แล้ว ต่อให้นายเป็นเพื่อนสนิทของสามี ฉันก็ไม่ยอมไว้หน้าหรอกนะ ช่วยให้เกียรติกันหน่อยเถอะ ไม่เช่นนั้นก็ออกจากงานเราไปได้เลยค่ะ เชิญ! เราไม่ชอบคนอันธพาลค่ะ!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวห้ามทัพในครั้งนี้ เธอเองย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ต้องเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทั้งคู่ แต่ก็ไม่นึกว่าผู้ชายน่ารังเกียจคนนี้ จะไม่ไว้หน้าคนอื่นบ้างเลย ถ้าพิธีการแต่งงานยังไม่เสร็จสิ้นคงได้ให้หน่วยรักษาความปลอดภัย มาลากตัวเขาออกไปแล้ว โชคดีตอนนี้เหลือเพียงเพื่อนที่เคยสนิทชิดเชื้อ ช่วงสมัยที่ยังเรียนมัธยม รอเวลาอยู่ร่วมปาร์ตี้ของคืนนี้ด้วยกันฉันยืนนิ่งเฉยเกรงใจทรายเขามากจริงๆ แต่เพื่อนคนอื่นล้วนจ้องมองมาทางพวกเรา เป็นสายตาเดียวกันหมด ซึ่งต่อให้ฉันจะมั่นอกมั่นใจแค่ไหน ก็ไม่อยากถูกคนเอาไปนินทาว่าร้ายเสียหาย อยากจะดูแย่แค่เฉพาะสิ่งที่ตนกระทำเอง มากกว่ายอมตกเป็นขี้ปากคนอื่น ให้เขาหัวเราะเยาะสนุกปาก เฮ้อ~แคนดี้ : เราไม่มีอารมณ์แล้วกลับก่อนนะทราย!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าว ก้าวเท้าเดินออกจากห
•4•ทุกปัญหามีทางเข้าเสมอ!หลับตาพริ้มขมวดคิ้วชนกันอยู่กับที่ดังเดิม คล้ายว่าคำขออธิษฐานเหล่านั้น ภายในจิตใจทั้งหมดมันจะเกิดผลแล้ว เมื่อคนที่ต้องการมากที่สุดเวลานี้ เขาเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเอ่ยถามฉัน เรื่องการนั่งนิ่งอยู่หน้าห้องน้ำ ราวกับเป็นพวกปูนปั้นที่คอยเฝ้าประตู อยู่ตรงช่วงทางเข้าเสียอย่างนั้นแหละ!ผับCcชายผู้มีนัยน์ตาคมกริบดุจนกเหยี่ยว กำลังเดินหามุมเงียบสงบด้านนอกร้าน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมสั่งงานลูกน้อง เปิดปากกล่าวอย่างรีบร้อน เพราะกลัวสาวสวยที่พามาด้วยกัน เธอจะกลับมาหลังจากการเข้าห้องน้ำเสร็จโคล่า : ช่วยไปขับรถจากโรงแรม มาจอดเอาไว้ที่บ้านแทนหน่อย! กุญแจฝากเอาไว้อยู่กับผู้จัดการโรงแรมแล้ว เออมึงอย่าลืม! เปิดกล้องวงจรปิดย้อนหลังด้วย ช่วยดูไอ้ผู้ชายคนที่มันยืนเถียง อยู่กับผู้หญิงรูปร่างอวบอ้วนต่อหน้ากูด้วย ตามสืบข้อมูลมาให้ครบ อย่าให้ขาดไปสักนิดเดียวก็ไม่ได้เข้าใจนะ!น้ำเสียงเคร่งขรึม กล่าวพร้อมกดตัดสายทิ้ง กลับเข้ามายืนรอตรงโต๊ะที่มีผู้คนเบียดเสียด ยิ่งกว่าพวกปลากระป๋องแปรรูปอีกครั้ง รออยู่นานก็ยังไม่พบเธอสักทีนะ ไม่รู้เข้าห้องน้ำขนาดนี้ทำอะไรอยู่กันแน่!ผมก้าวเดินเตรีย
•5•ไม่ไหวแล้วนะ!แคนดี้ : อา~ เสร็จแล้วซี้ด~ เสียวไม่ไหวแล้วอื้อ~ ช่วยสอดใส่มันเข้ามาแทนจะได้ไหม เราต้องการมากเหลือเกินซี้ด~เธอส่งเสียงร้องครวญคราง หลับตาพริ้มกัดเม้มริมฝีปากตนเอง ฝ่ามือนุ่มนิ่มบีบเคล้นคลึงเต้าอวบอึ๋ม สะบัดส่ายยั่วยวนสายตาชายตรงหน้าโคล่า : เราเป็นใครเธอช่วยลืมตาดูก่อนไหม?โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ สันจมูกโด่งยาวเกลี่ยไล้ทั่วบนพวงแก้มนุ่มนิ่ม ลมหายใจพ่นใส่เธอครั้งแล้วครั้งเล่ากัดกรามแน่น เส้นเลือดตรงขมับทั้งสองข้างกระตุกตุบๆ มองเธอด้วยสายตาแสนอบอุ่น แต่ก็แฝงความอยากกระหายในจังหวะเดียวกันใช้แขนแกร่งค้ำยันร่างตัวเองบนที่นอน ลุกขึ้นมาคร่อมร่างเธอเอาไว้ จะได้ไม่มีโอกาสขยับถอยหนีไปไหนได้ทั้งนั้น แค่แกล้งแสดงคล้ายจะไม่ยอมทำให้ แต่พฤติกรรมเขานั้น มันช่างสวนทางกับคำพูดเสียเหลือเกินแคนดี้ : อา~ จ้ำม่ำเหรอ? นายจะเป็นคนยอมทำดีๆ หรืออยากให้เรา กลายเป็นคนจัดการแทนเองล่ะ?น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวอ้อนวอน ส่งสายตาเย้ายวนไม่เลิกราง่าย ฝ่ามือนุ่มนิ่มสัมผัสแผงอกแกร่งไต่ไปเรื่อย จนอีกคนทนไม่ไหวแทน ก้มลงซุกไซ้ลำคอขาวดูดเลียผิวเนื้อนุ่ม จนเกิดรอยแดงจ้ำๆ
•6•หลบหน้า!เธอกลืนกินน้ำลงคอทุกหยาดหยด แลบลิ้นเลียรอบริมฝีปาก ส่งสายตาเย้ายวนพร้อมคลี่ยิ้มหวาน เคลื่อนย้ายเรือนร่างนั่งคร่อมอย่างนวยนาด ใช้สองมือนุ่มนิ่มแหวกบั้นท้ายก่อนยกสะโพกขึ้นลอยเอื้อมคว้าหัวบานสีชมพูสด ถูไถตามรอยแยกหยอกเย้าคนตรงหน้าเล่น กดมันลงใส่รูจีบด้วยความรู้สึกวูบวาบ สองแขนยืดไปด้านหลังแถมเอนลำตัวตามเล็กน้อยราวกับทำโยคะ บีบจับหน้าขาคนด้านล่าง ค่อยๆ ขย่มตอขึ้นสุดลงสุดถี่ระรัว จนเขาร้องครางอย่างชอบใจโคล่า : โอ๊ยแคนดี้เสียวหัวไม่ไหวแล้วอื้อ~เสียงแหบพร่าของเขา ทำให้ฉันหน้ามืดตามัว เร่งควบความเร็วสะโพกอัดใส่เต็มแรง ความชุ่มฉ่ำภายในร่องสวาท ทำให้เกิดความเสียวกระสันหนักหน่วงบั้นท้ายสั่นกระเพื่อมไหวเป็นลูกคลื่น ขมิบท่อนเอ็นถี่กระชั้น ควงเอวร่อนรอบท่อนลำแกร่ง เขาคว้าเต้าอวบอึ๋มสองข้างบีบนวด อ้าปากกัดดูดดึงยอดอกชูชัน จนต้องแอ่นตัวตามกลัวมันขาด ก่อนจะหวีดร้องเสียงหลงแคนดี้ : อา~ จะเสร็จอีกแล้ว!ฝ่ามือใหญ่จับบั้นท้ายไว้แน่นถนัด กระแทกกระทั้นลำแกร่งเสยเข้าออกอย่างฮึกเหิม ไม่ผ่อนแรงให้มีโอกาสหายใจได้เลย ตอกอัดเต็มแรงจนคนด้านบนขมิบร่องสวาทถี่ยิบ หลับตาอ้าปากครวญครางยกใหญ่เกร็งกล้า
•7•โดนเพื่อนแซวแล้ว!ห้างสรรพสินค้า4Bทรายนัดฉันมาทานอาหารช่วงมื้อค่ำของวันนี้ เนื่องจากสามีไปเจรจางานต่างจังหวัด เหงาไม่อยากอยู่บ้านเพียงลำพัง แถมไม่รู้เมื่อไหร่เขาจะกลับมาส่วนเธอนั้นหลังจากแต่งงานแล้ว ก็กลายเป็นแม่บ้านเต็มตัวไม่ได้ทำงานนอกบ้าน เธอนั่งรออยู่คนเดียวภายในร้านอาหาร เมื่อหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเธอ จึงกล่าวเปิดบทสนทนาทันทีทราย : เจ้าหญิงนิทราตื่นแล้วเหรอจ๊ะ!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวทักทายแคนดี้ : แหม~ เจ้าหญิงอะไรของเธอ!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวถามเลิกคิ้วสูงใส่ทราย : นอนจนเกือบครบ24ชม. ถ้าวันนี้เธอไม่ตื่นตั้งใจเอาไว้แล้วนะ จะไปปลุกที่คอนโดเลยคอยดูสิซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวพร้อมหัวเราะคิกคักแคนดี้ : เธอไม่เคยอ่านหนังสือเหรอ คนเราควรนอนพักผ่อนให้มากหลายชั่วโมงน่ะ! จะได้มีอายุยืนยาวน้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมคลี่ยิ้มหวานทราย : แต่แกจะนอนตลอดทั้งวันไม่ได้ค่ะสาว~ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวพร้อมมองค้อนใส่แคนดี้ : ฉันเอาสิ่งนี้มาฝากด้วยนะ รับมันไปสิ!น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวพร้อมหยิบรองเท้าส้นสูงหรูหราคู่หนึ่งมอบให้ แค่เธอเปิดกล่องเห็นก็ตาลุกวาวแล้ว เป็นรองเท้าที่ฉ
•8•โดนปลอบโยน!ทราย : หึ! มันช่างคุ้มค่ากับช่อดอกไม้งานแต่งจริง แคนดี้เธอจะปิดกั้นตัวเองทำไมกัน เวลามันผ่านมาตั้ง3ปีแล้วนะ เราอยากเห็นแกมีความสุขอีกครั้งมากเลย โคล่าก็พยายามเข้านะรู้ไหม แม้กำแพงของยัยนี่จะสูงลิ่วแค่ไหน นายก็ต้องแสดงตนเป็นเปรตค่ะ เพื่อก้าวข้ามมันไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วมีหวังได้ขึ้นคานคู่กันแน่งานนี้!ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู กล่าวเชิงเป็นกำลังใจให้เพื่อนทั้งสองคน แม้จะพูดตรงด้วยความจริงใจก็ตาม คนหนึ่งพยายามไล่จีบสุดความสามารถ เพราะแอบมีความรู้สึกดีต่อกันมานานแล้ว ส่วนอีกคนอกหักยังทำใจจากคนเก่าไม่ได้ตอนนี้นั่งอมยิ้มหวานไล่เรียงเรื่องราว ความสัมพันธ์แสนซับซ้อนนี้ ของพวกเขาทั้งสองคน เธอรับรู้ความลับของเพื่อนมาโดยตลอด ที่กล้าเอ่ยยุยงให้ทั้งสองปลงใจต่อกันนั้น ก็หวังอยากให้พวกเขาสมหวังสักที อายุจะใกล้เลขสามอยู่รอมร่อ ยังไม่ลงเอยกันอีก! เมื่อไหร่จะมีหลานตัวน้อย เฮ้อ~ตั้งใจเอาไว้แน่แล้ว อยากให้ลูกของพวกเราแต่งงานกัน ฉันจะสมหวังไหมเนี่ย? นิ่งเงียบไม่พูดจาอะไร นั่งมองพวกเขาสองคนเฉยๆแคนดี้ : คิดอะไรอยู่เหรอแกทำหน้าเครียดเชียว!น้ำเสียงนุ่มนวลถามขึ้นเมื่อเห็นทรายเงียบสงบโคล่า :
•9•ใจอ่อนหรือยังจ๊ะ!แขนนุ่มนิ่มทั้งสองข้างโดนเขาจับมารวบไขว้กัน อยู่บนช่วงด้านหลัง หันใบหน้าไปด้านข้างเอียงคอมอง ด้วยความรู้สึกวาบหวิว อ้าปากค้างส่งเสียงเล็กน้อย เมื่อถูกพันธนาการกับสายเนกไทเส้นนั้น เขายกนิ้วชี้ขึ้นมาปิดปากฉันเชิงดุ อย่าร้องเสียงดังคนอื่นจะได้ยินเอาได้โน้มใบหน้าหล่อแนบชิดแผ่นหลังคลอเคลีย จุมพิตไล่งับแผ่วเบาไล่ไปทั่วบริเวณ ตั้งแต่ช่วงลำคอจนลงไปถึงบั้นท้ายงอนงาม ร่างกายสั่นสะท้านจนต้องแหงนใบหน้า กัดริมฝีปากตนเองแน่นคิ้วขมวดชนกัน เตรียมรอรับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น คนด้านหลังชักท่อนลำรูดเพียงไม่กี่ครั้งขยับร่างกายเดินเข้ามาใกล้ กลั้นลมหายใจเกร็งตัวด้วยความสยิว ฝ่ามือใหญ่ลูบคลำแผ่วเบาตามเนื้อนุ่มนิ่ม หวังให้ฉันผ่อนคลายจะได้ไม่เจ็บมาก เขากดหัวบานสีชมพูสด ถูไถเฉียดไปมาตามรอยแยกรูจีบ น้ำเมือกใสเคลือบล้อมรอบหัวจนฉ่ำแฉะ เริ่มกดสอดใส่ดันเข้าทีละนิดหลับตาพริ้มกัดฟันทนความคับแน่น ถูกบดเบียดเสียดสีภายในผนังร่องสวาท ร่างกายกระตุกฮวบด้วยความจุก ปวดหน่วงท้องน้อยเป็นระยะ เมื่อดุ้นแข็งขืนชูชันถลำเข้าลึกจนมิดด้าม สะโพกเคลื่อนไหวจากเนิบนาบ เริ่มถี่กระชั้นชิดจนต้องแหกปาก ร้องครางเสียงห