"ไหนบอกไม่ชอบผู้หญิงไงคะทำไมรู้ทุกจุดเลยล่ะ" "อย่าพูดมากแล้วอ้าขาให้พี่สิครับเด็กดี"
View More“เอิงเอยแกดูอะไรอยู่ได้ทั้งวี่ทั้งวัน” เสียงเรียกจากเพื่อนสาว ทำให้หญิงสาวเจ้าของชื่อเอิงเอย หันไปหาเพื่อนสนิทก่อนจะส่งยิ้มให้
เธอชื่อเอิงเอย อายุ 22 ปี ตัวเล็กผอมบางหน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตาบาร์บี้ น้ำหนักเพียง 43 กิโลกรัม อาศัยอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ไม่มีญาติพี่น้อง พ่อและแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งคู่ แต่ท่านก็ทิ้งเงินค่าประกันไว้ให้เธอคนละหนึ่งร้อยล้านบาท
ตอนนี้ผ่านมากว่าสามปีแล้วที่ทั้งสองจากไป เอิงเอยใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ ด้วยการเขียนนิยาย แต่เป็นนักเขียนนิยายวายนะ ไม่ได้ดังมากเท่าไหร่แถมรายได้ก็น่ารัก พอได้ค่าปกที่เอฟมาไม่หยุด แต่ก็นะ ยังไงเธอก็มีเงินเก็บจากเงินค่าประกันของพ่อแม่ด้วยเงินสดในบัญชีรวมกันถึงสองร้อยล้านบ้าน เรียกว่าสบายไปทั้งชาติ“แก้~ ฉันชอบผู้ชายคนนี้”
เอิงเอยส่งมือถือให้กับเพื่อนสนิทดู ที่เห็นเธอเอาแต่นั่งจ้องมือถือก็เพราะว่า ในขณะที่กำลังอ่านนิยายวายจากแอปชื่อดัง
จู่ ๆ ภาพมุมจอขวาด้านล่างก็ปรากฏหนุ่มหล่อขึ้นมา เธอเลยลองกดคลิกไปดู และพบว่าทางเว็บกำลังโปรโมทนิยายวายเรื่องนึง ซึ่งในหน้าจอมีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งหล่อมาก เป็นไทป์ของเธอเลย เขาแต่งตัวเป็นพระเอกของเรื่อง ยืนถ่ายรูปคู่กับนายเอกของเรื่องอยู่
“แกพลาดแล้วเอิง นั่นพี่เจย์เขาไม่มองหญิงจ้ะ!”
“หา...”
O _ O
เหมือนมีสายฟ้าผ่าลงกลางใจเอิงเอย เธอนิ่งไปชั่วครู่
แต่แล้วยังไงผู้ชายหน้าตาดีขนาดนี้จะหาจากไหนได้อีก เขาหล่อเหมือนคังซึงฮยอนจากเรื่องเธอคือดาวกลางใจ เป็นผู้ชายที่ตรงไทป์เธอทุกอย่างเธอจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ไงกัน
“แล้วแกรู้จักเขาด้วยเหรอ?”
เอิงเอยเอ่ยถามก่อนจะยื่นมือถือกลับ สายตายังคงมองใบหน้าหล่อของอีกฝ่ายที่อยู่ในมือถือด้วยความหลงใหล หัวใจของเธอเต้นรัวเร็วจนเกือบจะทะลุออกมาข้างนอก ทั้งที่ยังไม่เคยได้เห็นตัวจริงของผู้ชายคนนี้เลยด้วยซ้ำ
“รู้สิ ก็พี่เจย์น่ะดังจะตาย”
“เหรอจริงดิ เขาเป็นนายแบบเหรอ” เธอถามอีกครั้งด้วยความสนใจ ปกติติเอิงเอยติดอ่านนิยายมากกว่าดูซีรีส์หรือละครไทย เธอเลยไม่ค่อยได้ตามข่าว แต่ถ้าเป็นซีรีส์เกาหลีก็ไม่แน่
“พี่เขาเป็นโฮสต์จ๊ะ”
คำตอบของเพื่อนทำเอาเอิงเอยหน้าเหวอ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าคนหล่อขนาดนี้จะไปทำงานแบบนั้นได้
“โฮสต์ที่หมายถึง ...อ่า?”
“ใช่ โฮสต์ที่เป็นเหมือนเพื่อนกินเหล้านะแหละ..แบบต้องไปดูแลไปเอนเตอร์เทนคนที่ซื้อตัวเองไป..เรียกง่ายๆ ว่าเหมือนเด็กดริ้งแหละ สรุปที่พูดไปนี่แกจะเข้าใจงี้?”
คำถามของเพื่อนทำเอาเอิงเอยยิ้มแห้ง ๆ เธอพอรู้อยู่บ้างเรื่องโฮสต์ แต่ไม่เคยสนใจหรือมีข้อมูลเรื่องพวกนี้ในหัวเลย วัน ๆ อยู่แต่บ้านแต่งนิยายกับอ่านนิยายได้ทั้งวันทั้งคืน ส่วนเพื่อนสาวก็มาหาเป็นครั้งคราว
ถามว่าเคยเหงาไหม ก็ไม่ได้เหงาสักเท่าไหร่ วัน ๆ ก็ดูซีรี่ส์แต่งนิยายหรืออ่านการ์ตูนแป๊บ ๆ ก็หมดไปหนึ่งวันแล้ว
“แกฉันอยากไปดูหน้าเจย์ตัวเป็น ๆ อะ”
“แต่ที่นั่นมันเป็นบาร์โฮสต์เกย์เลยนะ แกจะไปเหรอ?”
เอิงเอยพยักหน้าทำตาปริบ ๆ ถามได้เธออยากไหม อยากไปสิ อยากไปเจอผู้ชายที่ตรงไทป์ใจจะขาด
“เค ได้เลยงั้นก็ไปแต่งตัวกัน”
🐇🐇🐇
ห้าปีต่อมา“เดซี่”“พ่อคะแม่คะ” ใบหน้าสวยหวานโบกมือทักทายผู้เป็นพ่อกับแม่ด้วยรอยยิ้มใสเด็กตัวน้อยที่หน้าตาน่ารักเหมือนนางฟ้านางสวรรค์คนนี้มีชื่อว่าเดซี่และแน่นอนว่าเอิงเอยคือลูกสาวของเอิงเอยและเจย์“ขอบคุณพ่อกับแม่นะครับที่ดูแลเดซี่ให้” เจย์เอ่ยขึ้นมองพ่อกับแม่ที่เริ่มแก่ลงแต่ก็ยังมาคอยช่วยเลี้ยงหลานในวันที่เขาและเอิงเอยติดธุระ“ไม่เป็นไรลูกแล้วเอิงเอยไปไหนล่ะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม“หลับน่ะครับสงสัยเดินเยอะแล้วคงจะเพลีย” เจย์เอ่ยบอกพร้อมกับหอมแก้มลูกสาวตัวน้อยด้วยความคิดถึง“ดูแลกันดีๆ นะลูกพ่อกับแม่ขอตัว” เจย์โบกมือลาพ่อกับแม่รวมถึงเดซี่ที่ยิ้มส่งลาทั้งคู่อย่างน่ารัก“แม่หลับเหรอคะ” เดซี่เอ่ยถาม“ครับสงสัยน้องน่าจะกวนทั้งคืน” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มวันนี้เขาพาเอิงเอยไปตรวจครรภ์ครบแปดเดือนมา ท้องของเอิงเอยใหญ่มาก เนื่องจากใกล้จะคลอดเต็มที่เด็กในท้องเป็นผู้ชายร่างกายสมบูรณ์และคึกมากๆ เพราะเจ้าตัวถีบท้องเล่นตลอดจนเอิงเอยต้องตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้ง“น้องดีน่ะเหรอคะ” คำพูดของลูกสาวทำเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะวางเดซี่ลงนั่งบนโซฟาและเดินไปหาน้ำมาให้ลูกสาวดื่ม“น้องดีเหรอใครเป็นคนตั้งชื่อ” เขาเอ่
วันต่อมา“พ่อคะแม่คะ หนูพาลูกเขยพ่อกับแม่มาหาแล้วนะ” เอิงเอยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสกับหลุมศพของพ่อกับแม่ซึ่งเจย์ก็ได้แต่ยืนนิ่งแม้จะรู้ว่าเอิงเอยในตอนนี้กำลังยิ้มอยู่แต่ภายในของเอิงเอยก็คงเศร้ามากอย่างแน่นอน“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมเจย์ครับ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพก่อนจะวางดอกไม้เป็นการเคารพทั้งสองท่านเอิงเอยยิ้มและปัดไปที่รูปภาพเล็กๆ ของทั้งสองอย่างคิดถึง“ไม่ต้องห่วงหนูนะคะหนูใช้ชีวิตอย่างดีมาโดยตลอดและต่อไปนี้หนูก็จะมีคนมาดูแลด้วย” เอิงเอยพูดพร้อมหันไปหาเจย์ที่ส่งยิ้มและบีบมือของเอิงเอยอยู่“คิดถึงนะคะ..นะ..หนูคิดถึงฮึกก....พะพ่อกับแม่มากๆ เลย” เจย์มองเอิงเอยที่เริ่มร้องไห้ออกมาเขาโอบไหล่บางเป็นการปลอบเอิงเอยเข้มแข็งมากที่อยู่ตัวคนเดียวได้บนโลกใบนี้“ตะต่อไปฮึกหนูก็จะคิดถึงพ่อกับแม่อีกฮึกถ้าชาติหน้ามีจริงหนูขอเกิดมาเป็นลูกพ่อกับแม่อีกนะคะ” เอิงเอยเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเศร้าเจย์ดึงเอิงเอยมาก่อนพร้อมกับลูบผมของเอิงเอยอย่างแผ่วเบา ปล่อยให้เอิงเอยร้องไห้ออกมาจนพอใจก่อนจะผละตัวออกไป“พี่สัญญาว่าต่อจากนี้พี่จะเป็นคนดูแลเราแทนพ่อกับแม่ของเอิงเอง” เจย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะกดจู
“พร้อมไหม?” เจย์เอิงถามกับเอิงเอยตอนนี้ทั้งคู่มายืนอยู่หน้าบ้านของเจย์แล้ว สายตาคมจ้องมองบ้านตัวเองที่ไม่ได้มานาน ไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อกับแม่จะแก่ไปมากขนาดไหนซึ่งก่อนมาเขาก็ฝากบอกน้องชายให้บอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว“ค่ะ!” เอิงเอยเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มเจย์ประหลาดใจเล็กน้อยที่เอิงเอยดูไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่าไหร่ และทั้งสองก็พากันเดินเข้าไปในบ้านทันที“ลูก/เจย์” ใบหน้าหล่อมองบุคคลทั้งสองด้วยความคิดถึง เอิงเอยปล่อยมือให้เจย์ได้เข้าไปกอดกับพ่อแม่ทั้งสามยืนกอดกันและเป็นแม่ของเจย์ที่ร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงลูกชายส่วนเจย์ก็ยิ้มดีใจที่ได้กลับมาเจอพ่อกับแม่อีกครั้ง“ผมขอโทษนะครับ” เจย์เอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิดแต่ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้เขาก็คงจะเลือกหนีออกจากบ้านเหมือนเดิมเพราะเขาคงทนอยู่ด้วยความอับอายกับความโง่เขลาของตัวเองไม่ได้เหรอ“ไม่เป็นไรลูกผิดพลาดแล้วก็ช่างมัน” แม่ของเจย์เอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นพร้อมกับกอดเจย์อีกครั้ง ส่วนพ่อของเขาก็ยกมือขึ้นลูบผมลูกชายด้วยความรักเช่นกันเอิงเอยมองภาพอบอุ่นด้วยน้ำตาคลอเบ้า เธอเองก็อยากกอดพ่อกับแม่แบบนี้บ้างจัง“แล้วแม่สาวน้อย..”“สวัสดีค่ะหนูชื่อเอิงเอยค่ะ^^” เอิงเอยเอ่ยขึ
เคร้ง!คำพูดของเอิงเอยทำเขาถึงกับทำช้อนตกใส่จานอาหาร เอิงเอยถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเจย์ทำท่าช็อก“พูดอะไรเนี่ย!” เจย์เอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะอย่างไม่เชื่อหู มีที่ไหนผู้หญิงจะขอผู้ชายแต่งงานก่อน“ไม่แต่งเหรอคะหนูให้สินสอดพี่เยอะๆ เลยก็ได้” เอิงเอยยังคงพูดต่อ เธอเกรงใจที่เจย์ต้องไปๆ มาๆ ที่คอนโดกับที่บ้านเอิงเอย สู้ย้ายมาอยู่บ้านเธอให้เป็นเรื่องเป็นราวก็สิ้นเรื่อง“เอิงครับ พี่สิต้องเป็นคนขอ ไม่ใช่เรา” เจย์เอ่ยตอบเสียงเรียบ“นี่มันสมัยไหนกันแล้วค่ะไม่สำคัญหรอกว่าใครจะเป็นคนขอก่อน นะๆ แต่งงานกันนะคะ พี่เจย์จะได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเอิงไง”เจย์ผ่อนลมหายใจด้วยความเหนื่อยใจต้องเป็นเขาสิที่เป็นคนขอเอิงเอยแต่งงานและต้องเป็นเขาสิที่ต้องพาเอิงเอยย้ายมาอยู่ด้วยกัน“น้าๆ ~” เอิงเอยยังคงเว้าวอนไม่เลิกดวงตาสวยกะพริบกันถี่ ๆ จนคนเจย์อมยิ้มออกมา“ไหนแหวนล่ะ” เขาเอ่ยถามเอิงเอยชะงักไปทันทีเพราะไม่ได้เตรียมมา“อะเอ่อเป็นจุ้บ ๆ ขัดไว้ก่อนได้ไหมคะแหะ ๆ ^^” เจย์มองเอิงเอยที่จำแห้งเขาลุกขึ้น ก่อนจะเชยคางเอิงเอยมาจูบอย่างดูดดื่มเอิงเอยจูบตอบด้วยรอยยิ้มเขินในทันทีไม่นานเจย์ก็ผละจูบออกไปสองสายตามองกันพร้อมกับ
“แย่จังนะคะ พอดีพ่อแม่เอิงทิ้งมรดกไว้ให้เยอะมากเสียด้วยสิ” เอิงเอยเอ่ยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากเมย่าได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ แต่ที่ไม่สามารถเอาชนะผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเอิงเอยได้แล้วตอนนี้ผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาใสซื่ออย่างเอิงเอยก็กำลังควบคุมเอิงเอยจนอยู่หมัดเมย่ามองทั้งสองด้วยความแค้นก่อนจะเอ่ยขึ้น“ฝากไว้ก่อนเถอะ!” เมย่าเอ่ยขึ้นก่อนจะหันหลังเดินจากไป ส่วนเอิงเอยได้ยักไหล่ออกมาอย่างไม่แคร์ “ไม่รับฝากจ้าขี้เกียจถือมันหนักคิกๆ” เจย์ส่ายหน้าให้กับความขี้เล่นของเอิงเอยเขาถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกไม่สบายใจทั้ง ๆ ที่เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้กับเข้ามาสะสางปัญหาให้เขาจนหมดสิ้น“ขอโทษนะครับ เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะพี่แท้ ๆ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด เอิงเอยมองใบหน้าหล่อก่อนฉีกยิ้มกว้าง“งั้นเอิงขอกอดจากพี่เจย์แน่น ๆ เป็นของรางวัลได้ไหม?”"แถมให้มากกว่ากอด ทั้งคืนเลยครับ"ใบหน้าหล่อระบายยิ้มออกมาก่อนจะสวมกอดอีกฝ่ายเต็มรัก เอิงเอยจมอยู่ในอ้อมกอดแกร่งด้วยรอยยิ้มและหวังว่าต่อจากนี้ผู้ชายของเอิงเอยจะมีแต่ความสุขในทุกๆ วันหนึ่งเดือนต่อมากระแสคู่จิ้นของเจย์และเควินได้ค่อย ๆ หาย
“นายแบบชิดกับนางแบบหน่อยครับ” เจย์ขยับตามคำสั่งเขาโอบเอวบางอันเปลือยเปล่าของเอิงเอยก่อนจะบีบเคล้นมันเบาๆ เอิงเอยเบ้หน้าด้วยความเจ็บเล็กน้อยเงยหน้ามองเจย์ที่ส่งสายตาดุให้กับเธอ แต่เจ้าตัวก็ได้แต่ส่งยิ้มหวานกลับไป“ดีครับน้องนางแบบขอยิ้มแบบสดใสเลยนะครับ” เอิงเอยทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะปรับเปลี่ยนท่าไปตามที่ช่างภาพบอกทุกคนต่างมองด้วยความอึ้งเพราะทั้งสองดูเข้ากันได้ดีมากประหนึ่งถ่ายแบบคู่รักก็ไม่ปาน“ดีครับเจย์กอดจากด้านหลังได้ไหมครับนางแบบโอเครึเปล่า” ช่างภาพเอ่ยถามเอิงเอยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มไม่นานเจย์ก็เดินไปทางด้านหลังของเอิงเอย ก่อนจะสวมกอดจากด้านหลังและใช้ใบหน้าหล่อเกยบนไหล่ของเอิงเอย“ดีมากครับยิ้มหน่อยครับนางแบบเอามือ แตะหน้านายแบบ เยี่ยมครับ” ทั้งสองถ่ายอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะออกไปรอเปลี่ยนฉากเอิงเอยโดนช่างแต่งหน้าเรียกไปเติมหน้า เช่นเดียวกับเจย์ไม่นานฉากใหม่ก็ถูกจัดขึ้นและทั้งสองต้องลงไปนั่งในบ่อน้ำด้วยกันเอิงเอยลงนั่งเป็นคนแรกระดับน้ำอยู่ตรงช่วงอกของเอิงเอยพอดีไม่นานเจย์ก็เดินตามเข้ามา“กลับบ้านไปเจอแน่” เขาเอ่ยเสียงดุก่อนจะหันไปสนใจช่างภาพอีกครั้ง เอิงเอยที่ได้ยินแบบนั้นก็
ในที่สุดก็มาถึงวันที่มีนัดถ่ายแบบเอิงเองกับเจย์แยกกันมาเพราะเมื่อวานเจย์มีถ่ายงาน ส่วนเรื่องข่าวที่เจย์ลงรูปเอิงเอย เธอก็พึ่งรู้ แน่นอนว่าเจ้าตัวเขินมากแต่ก็แอบเสียใจนิดหน่อยที่คอมเม้นส่วนใหญ่คิดว่าคนในรูปเป็นเควินดารานายแบบที่กำลังมีข่าวกันอยู่ แถมทั้งคู่ก็ยังไม่ได้ออกมาเคลียร์แต่อย่างใด“สวัสดีครับ” เจย์ที่อยู่เปลือยกายท่อนบ่นโชว์แผงอกและหน้าท้องแกร่งเอ่ยทักทายเหล่าทีมงานด้วยรอยยิ้ม เขาแต่งกายด้วยเสื้อสีขาวตัวบางแต่ไม่ได้ติดกระดุม เพราะเป็นคอนเซ็ปต์ชุดว่ายน้ำฉากหลังเลยจัดเป็นคล้ายๆ ทะเล ด้านล่างก็มีทรายจริงพร้อมของตกแต่งทีมงานที่เป็นสาว ๆ ต่างพากันน้ำลายย้อยให้กับความหล่อความสมบูรณ์ของเจย์กันยกใหญ่“เจย์” เจย์หันไปตามเสียงเรียกใบหน้าหล่อมีสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะโค้งทักทายอีกฝ่ายที่มีอายุกว่า“สวัสดีครับพี่เมย่า” เขาเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพมองเมย่าที่มาในชุดคลุมอาบน้ำ ผมของเธอดัดลอน และแต่งหน้าจัดใบหน้าของพี่เมย่ายิ้มแย้มให้กับเขา แต่เจย์กลับก็ไม่ได้ยิ้มตอบแต่อย่างใด หลังจากที่เขารู้ความจริงที่น่ารังเกียจว่าคนที่อยู่เบื้องหลังที่ลอบทำร้ายเอิงเอยคือเมย่าเขากลับรู้สึกรังเกียจเธอขึ้นมาก“ไม่ได
ในที่สุด ตอนนี้เอิงเอยกลายเป็นผู้บริหารสูงสุดแทนเจ้าของบริษัทไปโดยปริยาย “แต่ว่าเอิงเอยมีเรื่องให้ช่วยหน่อยได้รึเปล่าคะถ้าได้เอิงเอยจะเพิ่มให้พิเศษอีกสองแสน” คนที่ฟังตาลุกวาวทันที“ได้สิครับได้เลยครับ”“คือกำหนดการถ่ายแบบของนายแบบที่ชื่อเจย์กับนางแบบที่ชื่อเมย่าในวันมะรืนนี้น่ะค่ะ” คนที่ได้ฟังชะงักไปเล็กน้อยที่อีกฝ่ายรู้ตารางงานของทั้งสองด้วยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป“พอเปลี่ยนจะนางแบบได้ไหม” เอิงเอยเอียงคอถามอีกฝ่ายอย่างน่ารักแม้ตอนนี้เอิงเอยจะเป็นผู้บริหารสูงสุดแต่ก็ยังไม่ได้ยืนยันในทันทีอำนาจต่างๆ จึงยังอยู่กับผู้ชายตรงหน้าอยู่แม้จะเซ็นเอกสารโอนหุ้นแล้วก็ตาม“คะคือว่า..” เจ้าของบริษัทหนักใจทันทีเพราะงานนี้เมย่าเป็นคนมาขอทำเอง และบอกว่าจะทำให้นิตยสารขายหมดให้ได้ซึ่งเขาก็แอบหนักใจเพราะนายแบบดันมีข่าวไม่ดีอยู่ตอนนี้“สองแสนค่ะ^^” เอิงเอยเอ่ยย้ำด้วยรอยยิ้มก่อนจะโชว์เงินสดในกระเป๋าล่อตาล่อใจอีกฝ่าย“ไม่ทราบว่านางแบบที่จะเปลี่ยนเป็นนางแบบในสังกัดของผมหรือเปล่าครับ” เขาเอ่ยถามเพราะนางแบบดัง ๆ ของสังกัดเขามีแค่เมย่าเท่านั้นเขาเลยเอ็นดูเอิงเอยเป็นพิเศษส่วนคนอื่นๆ ก็พอขายงานออกแต่ไม่ได้ปังเท่
รุ่งเช้าเพี้ยะ!“โอ๊ยอะไรเนี่ยพี่!” เจย์เบ้หน้าด้วยความเจ็บเมื่อโดนฝ่ามือของผู้จัดการ ฟาดมาเต็มหลังพร้อมกับสายตาอาฆาตนั่นอีก“จะอะไรซะอีกล่ะรูปเมื่อคืนคืออะไรยังไง” ผู้จัดการเอ่ยถามทันทีเมื่อวาน เพราะแทบไม่ได้นอน หลังจากต้องตอบคำถามมากมายจากลูกค้าที่ทักเข้ามา บางคนก็ไม่พอใจถึงขนาดแคนเซิ่ลงานเลยก็มี ทั้งที่ยังไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้าของมือปริศนาคือใครเลยด้วยซ้ำ“เอิงเอย” คำตอบของเจย์ทำเอาผู้จัดการที่หน้าบูดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นอมยิ้มทันที พร้อมกับหันไปมองเจย์ที่ตั้งใจขับรถอยู่ก่อนเอ่ยแซว“ฮันแหน่ แพ้ภัยตัวเองแล้วหรือจ๊ะเจย์ ไหนว่าไม่ชอบผู้หญิงแอ๊บแบ๊ว บลาๆ ~” เจย์มองอีกฝ่ายที่เล่นแซวเขาไม่หยุดรวมถึงเอาคำพูดเก่าๆ ของเขามาล้อเพิ่มเติมอีกใบหน้าหล่อส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะตั้งใจขับรถออกไปRrrrrr เสียงจากมือถือของเจย์ดังขึ้น ในขณะที่ผู้จัดการหันไปมองเห็นพอดี “ไอ้เจย์~ นายทำอะไรเนี่ย!” เจย์รีบหันมาด้วยความตกใจทันทีเมื่อเห็นผู้จัดการกำลังชี้ไปที่กลางจอภายในรถที่เชื่อมกับมือถือของเขาเผยให้เห็นชื่อขอคนโทรมา“เอิงเอยสุดที่รัก…โอ้ยยยย~ ไอ้เจย์ อึ่ยขนลุกอะ~” ผู้จัดการตัวท่าทีขนลุกเขาหัวเราะเล็กน้อยก่อ
Comments