“งั้นเรามาเริ่มประมูลดื่มของเจย์กันครับเริ่มต้นที่500ดื่มครับ”
“700ดื่มค่ะ!”
“1200ดื่มครับ!”
“1500ดื่มค่ะ!”
“มะ มิ้น ไอ้ดื่ม ๆ มันคืออะไรเหรอ?” เอิงเอยหันไปถามเพื่อนทันทีหลังทุกคนต่างแย่งกันซื้อดื่ม ก่อนที่ยัยมิ้นจะส่ายหัว เบา ๆ แล้วเริ่มอธิบาย
“มันก็เหมือนกับซื้อตัวเขามาอยู่ด้วยนั่นแหละแต่เขาจะเรียกเป็นดื่มกัน ซึ่งแต่ละคนราคาก็จะต่างกันออกไป ส่วนพี่เจย์ของแกอะหนึ่งดื่มก็น่าจะเท่ากับเงินหลักพันแล้วมั้ง”
เอิงเอยเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ฟัง
ถ้าหนึ่งดื่มเท่ากับหลักพันและตอนนี้ที่จำนวนดื่มอยู่หลักพันงั้นเท่ากับว่า 1500 ดื่มก็เป็นเงินหลักล้านแล้วงั้นสิ! O _ O
“3000 ดื่มครับ”
เกิดเสียงโห่ร้องวี๊ดวิ้วขึ้นทันที เอิงเอยมองชายหนุ่มสุดหล่อที่อยู่บนเวที เห็นเขาส่งยิ้มให้กับผู้ชายหน้าตาดีอีกคนหนึ่งที่พึ่งจะประมูลเจย์ไปสามพันดื่ม และใช่...เท่ากับว่านั่นเป็นเงินกว่าสามล้านบาท!
โห…นี่เขาแค่ทำงานวันเดียวก็ได้เงินหลักล้านแล้วเหรอเนี่ย!
“มีใครให้เพิ่มอีกไหมครับเราจะเริ่มนับถอยหลังที่สามพันดื่มนะครับ!”
หัวใจของเอิงเอยเต้นถี่แรง แข่งกับจังหวะดนตรีบีทบนเวที เธอหันไปมองผู้ชายคนที่เพิ่งประมูลพี่เจย์ไปในราคา3000 ดื่มที่ดูจะมั่นอกมั่นใจว่า ต้องชนะประมูลแน่
หญิงสาวหันกลับมองไปยังบนเวที เห็นพี่เจย์สุดหล่อของเธอกำลังส่งยิ้มให้กับผู้ชายคนนั้นอยู่
พลันความเสียดายที่พี่เจย์ของเธอ ต้องตกเป็นของตาเกย์นั่น ความฮึกเหิมของเอิงเอยก็พุ่งทะยานขึ้นสุด มือเรียวยกขึ้นท่ามกลางความเงียบของทุกคน ก่อนจะตะโกนไปสุดเสียงว่า
“5พันดื่มค่ะ!”
หลังจากที่เธอตะโกนประมูลดื่มออกไปสุดเสียง ทุกคนในผับก็เงียบกริบ!
ก่อนที่สายตาทุกคน จะหันมาหาเอิงเอยเป็นตาเดียว
เธอยิ้มแหย ค่อย ๆ หดมือลง ก่อนจะเงยหน้าไปมองเจย์ที่ยืนส่งยิ้มให้เธออยู่ พลันใบหน้าก็ฉีกยิ้มกว้างด้วยความเขิน
เย้...ในที่สุด พี่เจย์ก็เห็นเธอแล้ว
“หะ..ห้าพันดื่มนะครับวู้วววววว พึ่งเคยเจอเลยมีใครให้มากกว่าแม่สาวน้อยตรงนั้นอีกรึเปล่าครับถ้าไม่มีเราจะเริ่มนับถอยหลังพร้อมกันนะครับ!”
“ยะ ยัยเอิงงงง~ บ้าไปแล้วเหรอห้าพันดื่ม มันห้าล้านบาทเลยนะเว้ย!!” มิ้นทำตาเหลือกหันมาหาเอิงเอยที่กำลังนั่งฝันหวาน
ทำยังไงได้…
รักเค้า…
หลงเค้า…
พร้อมเปย์สุด ๆ...
ก็เธออยากให้พี่เจย์มองเธอบ้างนี่นา
“และแล้วเราก็ได้ผู้ชนะวันนี้ เจย์ของเราตกเป็นทาสแม่สาวน้อยแล้วครับวู้ววววว~” เสียงตบมือและเสียงโห่ร้องขึ้นดังก้องแข่งกับเสียงดนตรีที่ดังตุบตึบแข่งกับหัวใจ
“เอ้าพนักงาน ให้น้องคนสวยสแกนจ่ายเงินจำนวนห้าล้านบาทให้กับเจย์ของเราเลยคร้าบบบบ”
พูดถึงเงินปุ๊ป สติกลับมาปั๊ป พอรู้ตัวเองว่าอาจจะต้องเสียเงินห้าล้านในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เอิงเอยถึงกับลอบกินน้ำลายอึกใหญ่
เสียงโห่ร้อง ทำให้เอิงเอยหันไปกวาดสายตามองทุกคน ก่อนจะยิ้มเขินออกมาอย่างทำตัวไม่ค่อยถูก ทว่าพอหันกลับมาก็เห็นพนักงานกำลังเดินเข้ามาหาพร้อมนำเครื่องรูดบัตรมาให้เอิงเอยสแกนชำระเงิน
อึก…เงินห้าล้านของเอิงเอยจะหายไปจากบัญชีแล้ว
ทุกสายตามองกดดัน รวมถึงพนักงานที่อยู่ตรงหน้า เอิงเอยหยิบมือถือขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะเงยหน้าไปมองทางเวทีที่เจย์ที่ส่งยิ้มหวานมาให้
แค่นั้นแหละ รอยยิ้มกระชากใจของเจย์ ทำให้มือเรียวของเอิงเอยรีบกดสแกนจ่ายพร้อมกดตัวเลขจำนวนเงินทันที
โอนไว พร้อมเปย์เพื่อผู้ชายสุด ๆ
ทว่าพอเสียงสัญญาณดังติ้ง~ ว่าเงินหายวับเรียบร้อยแล้ว หัวใจก็กระตุกแกว่งไปเหมือนกัน
เมื่อพนักงานกล่าวขอบคุณ เอิงเอยเลยเงยหน้าขึ้นไปยิ้มแห้งให้พนักงานหนึ่งที
แง…ถ้าพ่อกับแม่บนสวรรค์รู้ว่า เธอเอาเงินมาใช้แบบนี้มีหวังต้องโดนตีจนตายอย่างแน่นอน
-คุณพ่อคุณแม่บนสวรรค์อย่าโกรธเอิงเลยนะคะ คุณพ่อคุณแม่คงอยากให้ลูกสาวที่อยู่ตัวคนเดียวมีความสุขใช่ไหมคะ-
“เจย์มีอะไรจะบอกกับการประมูลดื่มครั้งนี้ไหมครับ?”
เมื่อเสียงพิธีกรประกาศอีกครั้ง สติของเอิงเอยก็กลับมาสู่ความเป็นจริงอีกรอบ เอิงเอยมองบนเวทีอย่างตื่นเต้น เมื่อพิธีกรจ่อไมค์ให้เจย์พูดบ้าง
“ขอบคุณมากนะครับ สำหรับน้องคนสวย”
ความเสียดายเงินห้าล้านที่เสียไปเมื่อครู่ หายวับไปทันที เมื่อได้ยินเสียงหล่อ ๆ ของเจย์พูด
เคลิ้มไปเลย~
“นี่เป็นการประมูลที่มากที่สุดที่เจย์เคยได้รับเลยนะครับ เพราะฉะนั้นเจย์ขอมอบสิทธิพิเศษให้กับคุณน้องคนสวย โดยการที่เจย์จะตามใจคุณน้องคนสวยทุกอย่างเป็นเวลาสามวันครับ”
เกิดเสียงกรี๊ดขึ้นมาทันทีเมื่อร่างสูงพูดจบ ทุกคนต่างกรีดร้องด้วยความอิจฉา รวมถึงเอิงเอยที่ตอนนี้ดีใจจนนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้วเช่นกัน
กรี๊ดดดด~
“ว้าวววว นี่มันอะไรกันครับเนี่ย ผมละอิจฉาน้องคนสวยมาก ๆ เลย ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมขอปล่อยพี่เจย์เดย์ของเราไปหาแม่สาวน้อยคนนั้นนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปครับ”
พิธีกรประกาศอีกครั้ง ก่อนที่เอิงเอยจะฉีกยิ้มกว้างทันที เมื่อเห็นเจย์ส่งยิ้มให้เธอ ก่อนจะเดินลงมาจากเวที
“แก้~ พี่เขากำลังมาหาฉันใช่ปะวะ~”
เอิงเอยถามเพื่อนซี้อย่างตื่นเต้น แต่ตามองจ้องพี่เจย์ของเธอไม่กะพริบ
“เออค่า~ พี่เขากำลังเดินมาหาแกเลยค่า~”
มิ้นตอบเอิงเอย ทำให้เธอหันไปยิ้มหวานให้นาง เห็นเพื่อนสาวส่ายหน้าเบา ๆ เหมือนจะเอือมนิด ๆ เพราะไม่คิดว่าเอิงเอยจะกล้าเปย์เพื่อผู้ชายคนเดียวได้ขนาดนี้
แต่…
เกือบลืมไปเลยว่าพี่เจย์ไม่ชอบผู้หญิง
แง...จะคุ้มกับเงินห้าล้านที่เสียไปหรือเปล่านะ
🐇🐇🐇
Jay & Aeng Aei – 3 พี่ไม่ชอบผู้หญิงครับ“สวัสดีครับ”เอิงเอยมองเจย์ที่เดินเข้ามานั่งด้วยรอยยิ้ม ส่วนยัยมิ้นตอนนี้ถูกเชิญให้ออกไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่ง เพราะเป็นกฎของทางผับ คนที่ซื้อดื่มของดาวบาร์โฮสต์แห่งนี้จะได้รับการดูแลแบบพิเศษแค่คนเดียว พอเจย์เดินมาถึง เอิงเอยเลยรีบลุกขึ้นโค้งให้อีกฝ่ายอย่างสุภาพก่อนจะนั่งลงตาม“สวัสดีค่ะ” รอยยิ้มฉีกกว้างหวานสุด ส่วนเจย์เองก็ส่งยิ้มกลับมากให้หญิงสาว ก่อนที่เขาจะเริ่มทำงานของตัวเองด้วยการเริ่มชงเหล้าที่อยู่บนโต๊ะให้ ส่วนเอิงเอยไม่ได้พูดอะไรอีกเพราะมัวแต่เขิน ได้แต่มองเจย์ที่ชงเหล้าจนเสร็จแล้วจึงส่งแก้วเหล้ามาให้กับเธอ“ผมไม่รู้ว่าคุณชอบแบบไหนเลยชงเป็นกลาง ๆ ให้นะครับ” เจย์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ยิ่งทำให้เอิงเอยคลั่งเขาไปกันใหญ่“ไม่ต้องเกร็งนะครับทำตัวตามสบาย อยากคุยหรืออยากถามอะไรผมได้หมด”“อ่าค่ะ..” ยิ่งคุยก็ยิ่งหล่อ เขาบอกว่าไม่ให้เธอเกร็ง แต่เธอสิมือเย็นไปหมดแล้ว กำลังพยายามหาเรื่องชวนคุย แต่ก็ไม่รู้จะคุยอะไรดี“ว่าแต่พี่เจย์อายุเท่าไหร่หรือคะ“ผมหรือครับ ปีนี้ 29 ครับ”“โห...หน้าเด็กมากเอิงนึกว่าพี่เจย์เพิ่งยี่สิบสี่ ยี่สิบห้าห่างจากเอิงไม่เท่
Jay & Aeng Aei – 4ขอย้ำ พี่ไม่ชอบผู้หญิงครับ“เออ...เรื่องสิทธิพิเศษสามวัน งั้นเราไปทานข้าวกันไหมคะวันละหนึ่งมื้อ จะตอนเช้าหรือเย็นก็ได้ค่ะ^^” เอิงเอยเพิ่งนึกคำตอบที่พี่เจย์ถามที่นั่งเงียบ ๆ ไปเป็นเพราะเอิงเอยกำลังนั่งคิดอยู่ว่าจะทำอะไรดีในสามวัน แต่ที่คิดออกมา ก็มีแค่การไปกินข้าวธรรมดา ๆ นั่นแหละเจย์ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพยักหน้ารับทำเอาเอิงเอยยิ้มกว้าง เพราะเธอก็แค่กินชวนพี่เขากินข้าวไม่ได้ฝืนใจให้เขาทำอย่างอื่น“พี่ว่า น้องเอิงควรกลับบ้านดีไหมครับ ดูเหมือนจะเมามากแล้ว”คำพูดของเจย์ ทำเอาเอิงเอยเอนศีรษะออกมาจากอกกว้าง ก่อนจะยกมือเล็กๆ ตีเบา ๆ เข้าที่ใบหน้าเพื่อดึงสติของตัวเอง พยายามทำตาเบิกกว้าง ให้เขาเห็นว่าเธอยังไม่เมา“ไม่ค่ะ เอิงไม่เมาเลยสบายมากฮ่า ๆ” เอิงเอยตอบด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะบอกให้เจย์ชงเหล้าให้เอิงเอยต่อ เจย์เลยทำตามเงียบ ๆ เหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยดื่มเลย แต่ปล่อยให้เอิงเอยดื่มอยู่ฝ่ายเดียวอยู่ ๆ ยัยมิ้นเพื่อนสาวก็เดินเข้ามาหาเอิงเอยที่โต๊ะ หลังจากที่นางก็ได้หนุ่มโฮสต์อีกคนหนึ่งไปบริการอยู่ข้าง ๆ เหมือนกัน“เอิง ฉันกลับก่อนนะ พอดีพ่อโทรมาตามอะ” เอิงเอยมองเพื่อนสนิทที่เดินเข
Jay & Aeng Aei - 5เซอร์วิสพิเศษ เอิงเอยควานหามือถือก่อนจะเลื่อนหาเบอร์เพื่อนอีกคนที่เอิงเอยสนิทและสามารถนั่งรถไปกับเขาได้“ฮัลโหลเจมส์”(ว่า...)“แกว่างรึเปล่า” เอิงเอยเอ่ยขึ้น(มีอะไร ทำไมเสียงเป็นงั้น เมาอ่อ)“ทายเก่ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า งั้นมารับหน่อยดิ”(โอเค อยู่ที่ไหนเดี๋ยวไปรับ เพิ่งเลิกงานกำลังจะขับรถเข้าบ้านอยู่พอดี เดี๋ยวหันรถกลับเลย?)เจมส์ที่ไม่เคยขัดใจเพื่อนอย่างเอิงเอยเลยสักครั้ง เขารู้ว่าเอิงเอยกลัวการขึ้นแท็กซี่เพราะอะไร“ไม่เป็นไร ไม่ต้องมารับหรอกแค่ล้อเล่น ฉันโทรมาแค่คิดถึงอะ ก็นายเล่นทำงานเยอะจนไม่ค่อยมีเวลาให้พวกฉันเลยนี่นา” เอิงเอยรีบเปลี่ยนคำตอบทันทีเอิงเอยรู้ว่าเจมส์ทำงานหนัก และการที่รบกวนเพื่อนตอนดึก ๆ แบบนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นแก่ตัวมากไปหน่อยในตอนนี้เขาก็ควรจะพักผ่อนได้แล้ว เฮ้อ...เอิงเอยนี่มันแย่จริงๆ(ไรวะ ล้อเล่นได้ไง)“ก็ล้อเล่นจริง ๆ นี่แค่นี้นะ จะนอนแล้ว”(ทำเสียงคนเมาซะเหมือน งั้นไม่ต้องไปรับใช่ป่าว อยู่บ้านใช่ไหม)“อือ อยู่บ้านกำลังจะนอนล่ะ ฝันดีนะ”(โอเค ฝันดี ไว้เคลียร์งานเสร็จจะโทรไปนัดมากินข้าวนะ)“เคค่า”พูดจบเอิงเอยก็ตัดสายไปทันที เธอถอนหายใจออกมาอ
Jay & Aeng Aei – 6เซอร์วิสพิเศษส่งที่บ้าน “ถึงแล้วครับ”เจย์เอ่ยขึ้น แต่เพราะมัวแต่สนใจในการขับรถจนไม่รู้เลยว่าตอนนี้คนข้างๆ ได้หลับปุ๋ยเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นยิ่งทำให้เจย์ต้องถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ เพราะมุกแบบนี้เจย์เจอมานักต่อนักแล้วเหมือนกัน ไอ้ที่ผู้หญิงแกล้งหลับเพื่อที่จะได้ถูกผู้ชายอุ้มเฮ้อ…เอาเถอะ แต่วันนี้เขาจะยอม ๆ ไปก็แล้วกัน ไหน ๆ ผู้หญิงตรงหน้าก็ประมูลดื่มเจย์มาตั้งหลักห้าล้านขนาดนั้น แถมเซอร์วิสเล็ก ๆ น้อยๆ จะเป็นไรเจย์เปิดประตูลงจากรถ ก่อนจะเดินไปหาร่างเล็กที่นอนหลับอยู่ แล้วเปิดประตูปลดสายเข็มขัด ค่อย ๆ ช้อนตัวเธอขึ้น ผู้หญิงคนนี้ตัวเบามาก เบาจนเหมือนอุ้มเด็กน้อยอยู่อย่างไงอย่างงั้นโชคยังดีที่ก่อนที่เธอจะหลับคอพับคออ่อน เธอจิ้มแผนที่ในเอิงเอยเกิ้ลพร้อมบอกที่อยู่ให้เรียบร้อย แต่พอบอกทางเสร็จก็หลับเลย แบบนี้ไม่เรียกว่าเป็นแผนของเธอ แล้วจะเรียกอะไรถามหน่อยเจย์มองไปยังบ้านตรงหน้า มันมืดสนิทเหมือนไม่มีใครอยู่เลยสักคน ก่อนที่เจย์จะตัดสินใจกดกริ่งเพื่อดูว่าพ่อกับแม่ของเธอจะอยู่รึเปล่า แต่สุดท้ายก็เงียบกริบเหมือนเดิม บ้านทั้งหลังยังคงมืดสนิทไร้การตอบรับ ถ้าให้เดา คือไม
Jay & Aeng Aei – 7เซอร์วิสพิเศษเลี้ยงข้าวที่ร้านอาหาร“เอ่อสวัสดีค่ะ” เอิงเอยเอ่ยทักทายเจย์เมื่ออีกฝ่ายเข้ามานั่งตอนนี้เอิงเอยทำตัวไม่ถูกเลยแม้แต่น้อย เพราะเมื่อวานจู่ ๆ เอิงเอยก็เผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนโซฟาที่บ้านแถมยังมีผ้าห่มคลุมตัวให้อีกเสร็จสรรพตอนตื่นนอนตอนแรก เธอยอมรับว่าตกใจมากอยู่เหมือนกัน แต่ทว่าพอได้อ่านโน้ตที่อีกฝ่ายเขียนแปะไว้ให้ก็ยิ่งเขินใหญ่[ขอโทษที่รื้อกระเป๋าหากุญแจนะครับ แล้วก็ประตูรั้วหาช่างมาทำที่ล็อกไว้ก็ดี]ตอนนั้นเอิงเอยกรี๊ดหนักมากผู้ชายอะไรทั้งอบอุ่นทั้งใจดี แถมลายมือที่เขียนก็ยังดูสุภาพสมกับเป็นเขาเสียเหลือเกินแต่ความจริงแล้วประตูรั้วมันพังมานานแล้วแหละเอิงเอยแค่ยังไม่มีเวลาเรียกช่างมาซ่อม เพราะจะให้ช่างมาซ่อมก็ต้องมีเพื่อนคอยอยู่ด้วย นี่ไม่ใช่ความคิดของเอิงเอยเหรอนะแต่เป็นความคิดของมิ้นและเจมส์ต่างหาก และตอนนี้ทั้งสองก็ยังไม่ค่อยว่างก็เลยยังไม่ถูกซ่อมเสียที“สวัสดีครับ เมื่อคืนหลับสบายดีนะครับ” เจย์เอ่ยถามเอิงเอยตามมารยาท ก่อนจะนั่งลงพร้อมกับเรียกพนักงานมารับออเดอร์“ค่ะ..ขอบคุณมากนะคะเจย์ที่พาเอิงเข้าบ้านไปนอ
Jay & Aeng Aei – 8โดนทิ้ง“เอิงเอย โทษทีรอนานเปล่า พอดีเราเจอพี่ชายที่หน้าร้านเลยแวะคุยกันแปปหนึ่ง”“ไม่นาน ๆ มานั่งก่อนเถอะ หิวไหมกินอะไรมาหรือยัง”เอิงเอยทักทายเพื่อนสนิทสุดหล่อของเธอก่อนจะชวนเขาให้นั่งลงเพื่อคุยกันก่อนจะชวนกันไปดูหนังต่อตามที่นัดเอาไว้“เป็นไง นิยายช่วงนี้ขายดีไหม”“อืม...ก็ดีอยู่นะคนชอบอ่านนิยายวายเยอะอะเลยขายพอได้ค่าเอฟปก...ว่าแต่นายเถอะสบายดีใช่ไหมที่ทำงานเป็นยังไงบ้าง?” เอิงเอยเอ่ยถามกลับ“ก็ดีแหละแต่งานหนักไปหน่อย เอิงดูตาเจมส์สิดำเหมือนหมีแพนด้าเลย” เจมส์เอ่ยพร้อมชี้เข้าที่ตาของตัวเอง พร้อมเบะปากออกมาเอิงเอยมองด้วยความเอ็นดูก่อนจะหัวเราะออกมาให้ความน่ารักของอีกฝ่าย“แล้วมิ้นอะไม่มาด้วยเหรอ”“อย่าบอกใคร นางมีหนุ่มค่าช่วงนี้”“หึ หึ มิ้นนะมิ้นมีแฟนไม่บอกกันเลย”“ใครว่าแฟน แค่คนคุยค่า”“แล้วเธอละเมื่อไหร่มีเอิง”“บ้าน่า...ยังไม่ถึงเวลา ไว้ถ้ามีเราจะบอกนายเป็นคนแรกเลย แต่นี่ใกล้หนังฉายแล้ว ไปกันเลยไหม” เธอเอ่ยขึ้นเมื่อใกล้ถึงเวลาหนังฉาย เจมส์พยักหน้ารับ ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันไปโรงหนังเย็นวันต่อมา“สวัสดีค่ะ” เจย์มองเอิงเอยในชุดสบาย ๆ เสื้อยืดครอปสีขาวกับกระโปรง
“ไม่เอาน่าพี่ ค่อยคุยกันผมทำงานอยู่” เจย์ตอบยิ้ม ๆ เหมือนทีเล่นทีจริง เอิงเอยเลยพยายามทำตัวให้เป็นปกติและนั่งฟังทั้งสองคุยกันเงียบๆ แต่เท่าที่ฟังจากบทสนทนาที่ทั้งสองคุยกัน ก็รู้ได้เลยว่าทั้งสองมีซัมติงกันอย่างแน่นอน“รู้แล้วน่า พี่แค่ผ่านมาแต่เห็นรถเจย์จอดอยู่ งั้นพี่ไปก่อนนะเจอกันที่คอนโดนะเจย์” เมย่าเอ่ยขึ้น ก่อนก้มลงกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูของเจย์ ทันทีที่เธอดึงตัวกลับ เจย์กลับรั้งแขนของอีกฝ่ายไว้“รอด้วยดิงั้นกลับเลยก็ได้” เจย์บอกกับเมย่า แล้วหันกลับมามองเอิงเอยที่นั่งกินเค้กอยู่“พี่ขอตัวก่อนได้ไหมครับ พอดีมีธุระต่อ” เอิงเอยนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะฉีกยิ้มออกมา“ออได้ค่ะเจย์ ตามสบาย งั้นเอาไว้เจอกันพรุ่งนี้นะคะ” เอิงเอยเอ่ยตอบพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง มองเจย์ที่ลุกขึ้นเดินจับมือไปกับผู้หญิงที่ชื่อเมย่า ทั้งคู่พากันเดินออกไปยังรถที่จอดอยู่ใกล้ ๆ กันจังหวะที่เธอมองผ่านกระจกออกไปที่หน้าร้านพอดี เห็นว่าพี่เจย์กำลังขึ้นรถ ส่วนคุณเมย่าหันกลับมามองเธอ พร้อมกับยกยิ้มคล้ายยิ้มเหยียด แล้วขึ้นรถอีกคันขับตามไป“ประหลาดคน” เธอรู้สึกแปลก ๆ กับรอยยิ้มของเมย่าที่ยิ้มให้เมื่อครู่ยังไงก็ไม่รู้แต่...ไหน
Jay & Aeng Aei – 10 โดนรถชนวันรุ่งขึ้นในขณะที่เจย์เพิ่งเสร็จงานแล้วเดินเข้ามาในห้องพัก ผู้จัดการก็นำช่อดอกไม้ช่อโตมายื่นให้“ของใครอะพี่?” เจย์เอ่ยถามก่อนจะรับช่อดอกไม้จากมือของผู้จัดการอย่างงง ๆ แต่ผู้จัดการกลับมีสายเข้ามาก่อนแล้วหันไปคุยโทรศัพท์ เจย์เลยไม่ได้ถามต่อ และคิดเอาว่าคงเป็นช่อดอกไม้ขอบคุณจากการมาถ่ายแบบในวันนี้ เลยตัดสินใจเดินไปรอที่รถแทนนอกจากเจย์จะมีอาชีพเป็นโฮสต์แล้ว ช่วงนี้เขายังรับงานถ่ายแบบอีกพอสมควร แม้จะไม่ได้ดังจนพลุแตกแต่ก็อยู่ในระดับกลาง ๆ และอีกไม่นานก็คงดังขึ้นเรื่อย ๆ ละมั้งนะ เพราะตั้งแต่ไปถ่ายแบบการ์ตูนวายให้เว็บนึงมา เขาก็มีงานถ่ายแบบมากขึ้นเรื่อย ๆเจย์เดินออกมารอผู้จัดการที่รถ ด้วยการนั่งเล่นมือถือพร้อมกับแชทคุยกับเมย่า เพราะรู้ว่าผู้จัดการยังคงคุยโทรศัพท์อยู่ไม่น่าเสร็จMEYA : คืนนี้เจย์มาหาพี่ได้ไหมJAY : น่าจะไม่ได้นะพี่ ผมมีนัดทานข้าวกับลูกค้าคนเดิมครับMEYA : แต่เหมือนพี่จะไม่สบายเลยอะ จะไม่มาดูแลจริงๆ เหรอเจย์ถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างคิดไม่ตกอีกใจนึงก็เป็นห่วงพี่เมย่าในฐานะคนสนิท แต่จะให้เทงานไปหาก็ไม่ใช่เรื่องอีกอยู่ดีก๊อก ๆ เสียงเคาะนิ้วของผู
ห้าปีต่อมา“เดซี่”“พ่อคะแม่คะ” ใบหน้าสวยหวานโบกมือทักทายผู้เป็นพ่อกับแม่ด้วยรอยยิ้มใสเด็กตัวน้อยที่หน้าตาน่ารักเหมือนนางฟ้านางสวรรค์คนนี้มีชื่อว่าเดซี่และแน่นอนว่าเอิงเอยคือลูกสาวของเอิงเอยและเจย์“ขอบคุณพ่อกับแม่นะครับที่ดูแลเดซี่ให้” เจย์เอ่ยขึ้นมองพ่อกับแม่ที่เริ่มแก่ลงแต่ก็ยังมาคอยช่วยเลี้ยงหลานในวันที่เขาและเอิงเอยติดธุระ“ไม่เป็นไรลูกแล้วเอิงเอยไปไหนล่ะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม“หลับน่ะครับสงสัยเดินเยอะแล้วคงจะเพลีย” เจย์เอ่ยบอกพร้อมกับหอมแก้มลูกสาวตัวน้อยด้วยความคิดถึง“ดูแลกันดีๆ นะลูกพ่อกับแม่ขอตัว” เจย์โบกมือลาพ่อกับแม่รวมถึงเดซี่ที่ยิ้มส่งลาทั้งคู่อย่างน่ารัก“แม่หลับเหรอคะ” เดซี่เอ่ยถาม“ครับสงสัยน้องน่าจะกวนทั้งคืน” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มวันนี้เขาพาเอิงเอยไปตรวจครรภ์ครบแปดเดือนมา ท้องของเอิงเอยใหญ่มาก เนื่องจากใกล้จะคลอดเต็มที่เด็กในท้องเป็นผู้ชายร่างกายสมบูรณ์และคึกมากๆ เพราะเจ้าตัวถีบท้องเล่นตลอดจนเอิงเอยต้องตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้ง“น้องดีน่ะเหรอคะ” คำพูดของลูกสาวทำเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะวางเดซี่ลงนั่งบนโซฟาและเดินไปหาน้ำมาให้ลูกสาวดื่ม“น้องดีเหรอใครเป็นคนตั้งชื่อ” เขาเอ่
วันต่อมา“พ่อคะแม่คะ หนูพาลูกเขยพ่อกับแม่มาหาแล้วนะ” เอิงเอยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสกับหลุมศพของพ่อกับแม่ซึ่งเจย์ก็ได้แต่ยืนนิ่งแม้จะรู้ว่าเอิงเอยในตอนนี้กำลังยิ้มอยู่แต่ภายในของเอิงเอยก็คงเศร้ามากอย่างแน่นอน“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมเจย์ครับ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพก่อนจะวางดอกไม้เป็นการเคารพทั้งสองท่านเอิงเอยยิ้มและปัดไปที่รูปภาพเล็กๆ ของทั้งสองอย่างคิดถึง“ไม่ต้องห่วงหนูนะคะหนูใช้ชีวิตอย่างดีมาโดยตลอดและต่อไปนี้หนูก็จะมีคนมาดูแลด้วย” เอิงเอยพูดพร้อมหันไปหาเจย์ที่ส่งยิ้มและบีบมือของเอิงเอยอยู่“คิดถึงนะคะ..นะ..หนูคิดถึงฮึกก....พะพ่อกับแม่มากๆ เลย” เจย์มองเอิงเอยที่เริ่มร้องไห้ออกมาเขาโอบไหล่บางเป็นการปลอบเอิงเอยเข้มแข็งมากที่อยู่ตัวคนเดียวได้บนโลกใบนี้“ตะต่อไปฮึกหนูก็จะคิดถึงพ่อกับแม่อีกฮึกถ้าชาติหน้ามีจริงหนูขอเกิดมาเป็นลูกพ่อกับแม่อีกนะคะ” เอิงเอยเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเศร้าเจย์ดึงเอิงเอยมาก่อนพร้อมกับลูบผมของเอิงเอยอย่างแผ่วเบา ปล่อยให้เอิงเอยร้องไห้ออกมาจนพอใจก่อนจะผละตัวออกไป“พี่สัญญาว่าต่อจากนี้พี่จะเป็นคนดูแลเราแทนพ่อกับแม่ของเอิงเอง” เจย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะกดจู
“พร้อมไหม?” เจย์เอิงถามกับเอิงเอยตอนนี้ทั้งคู่มายืนอยู่หน้าบ้านของเจย์แล้ว สายตาคมจ้องมองบ้านตัวเองที่ไม่ได้มานาน ไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อกับแม่จะแก่ไปมากขนาดไหนซึ่งก่อนมาเขาก็ฝากบอกน้องชายให้บอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว“ค่ะ!” เอิงเอยเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มเจย์ประหลาดใจเล็กน้อยที่เอิงเอยดูไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่าไหร่ และทั้งสองก็พากันเดินเข้าไปในบ้านทันที“ลูก/เจย์” ใบหน้าหล่อมองบุคคลทั้งสองด้วยความคิดถึง เอิงเอยปล่อยมือให้เจย์ได้เข้าไปกอดกับพ่อแม่ทั้งสามยืนกอดกันและเป็นแม่ของเจย์ที่ร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงลูกชายส่วนเจย์ก็ยิ้มดีใจที่ได้กลับมาเจอพ่อกับแม่อีกครั้ง“ผมขอโทษนะครับ” เจย์เอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิดแต่ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้เขาก็คงจะเลือกหนีออกจากบ้านเหมือนเดิมเพราะเขาคงทนอยู่ด้วยความอับอายกับความโง่เขลาของตัวเองไม่ได้เหรอ“ไม่เป็นไรลูกผิดพลาดแล้วก็ช่างมัน” แม่ของเจย์เอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นพร้อมกับกอดเจย์อีกครั้ง ส่วนพ่อของเขาก็ยกมือขึ้นลูบผมลูกชายด้วยความรักเช่นกันเอิงเอยมองภาพอบอุ่นด้วยน้ำตาคลอเบ้า เธอเองก็อยากกอดพ่อกับแม่แบบนี้บ้างจัง“แล้วแม่สาวน้อย..”“สวัสดีค่ะหนูชื่อเอิงเอยค่ะ^^” เอิงเอยเอ่ยขึ
เคร้ง!คำพูดของเอิงเอยทำเขาถึงกับทำช้อนตกใส่จานอาหาร เอิงเอยถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเจย์ทำท่าช็อก“พูดอะไรเนี่ย!” เจย์เอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะอย่างไม่เชื่อหู มีที่ไหนผู้หญิงจะขอผู้ชายแต่งงานก่อน“ไม่แต่งเหรอคะหนูให้สินสอดพี่เยอะๆ เลยก็ได้” เอิงเอยยังคงพูดต่อ เธอเกรงใจที่เจย์ต้องไปๆ มาๆ ที่คอนโดกับที่บ้านเอิงเอย สู้ย้ายมาอยู่บ้านเธอให้เป็นเรื่องเป็นราวก็สิ้นเรื่อง“เอิงครับ พี่สิต้องเป็นคนขอ ไม่ใช่เรา” เจย์เอ่ยตอบเสียงเรียบ“นี่มันสมัยไหนกันแล้วค่ะไม่สำคัญหรอกว่าใครจะเป็นคนขอก่อน นะๆ แต่งงานกันนะคะ พี่เจย์จะได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเอิงไง”เจย์ผ่อนลมหายใจด้วยความเหนื่อยใจต้องเป็นเขาสิที่เป็นคนขอเอิงเอยแต่งงานและต้องเป็นเขาสิที่ต้องพาเอิงเอยย้ายมาอยู่ด้วยกัน“น้าๆ ~” เอิงเอยยังคงเว้าวอนไม่เลิกดวงตาสวยกะพริบกันถี่ ๆ จนคนเจย์อมยิ้มออกมา“ไหนแหวนล่ะ” เขาเอ่ยถามเอิงเอยชะงักไปทันทีเพราะไม่ได้เตรียมมา“อะเอ่อเป็นจุ้บ ๆ ขัดไว้ก่อนได้ไหมคะแหะ ๆ ^^” เจย์มองเอิงเอยที่จำแห้งเขาลุกขึ้น ก่อนจะเชยคางเอิงเอยมาจูบอย่างดูดดื่มเอิงเอยจูบตอบด้วยรอยยิ้มเขินในทันทีไม่นานเจย์ก็ผละจูบออกไปสองสายตามองกันพร้อมกับ
“แย่จังนะคะ พอดีพ่อแม่เอิงทิ้งมรดกไว้ให้เยอะมากเสียด้วยสิ” เอิงเอยเอ่ยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากเมย่าได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ แต่ที่ไม่สามารถเอาชนะผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเอิงเอยได้แล้วตอนนี้ผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาใสซื่ออย่างเอิงเอยก็กำลังควบคุมเอิงเอยจนอยู่หมัดเมย่ามองทั้งสองด้วยความแค้นก่อนจะเอ่ยขึ้น“ฝากไว้ก่อนเถอะ!” เมย่าเอ่ยขึ้นก่อนจะหันหลังเดินจากไป ส่วนเอิงเอยได้ยักไหล่ออกมาอย่างไม่แคร์ “ไม่รับฝากจ้าขี้เกียจถือมันหนักคิกๆ” เจย์ส่ายหน้าให้กับความขี้เล่นของเอิงเอยเขาถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกไม่สบายใจทั้ง ๆ ที่เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้กับเข้ามาสะสางปัญหาให้เขาจนหมดสิ้น“ขอโทษนะครับ เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะพี่แท้ ๆ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด เอิงเอยมองใบหน้าหล่อก่อนฉีกยิ้มกว้าง“งั้นเอิงขอกอดจากพี่เจย์แน่น ๆ เป็นของรางวัลได้ไหม?”"แถมให้มากกว่ากอด ทั้งคืนเลยครับ"ใบหน้าหล่อระบายยิ้มออกมาก่อนจะสวมกอดอีกฝ่ายเต็มรัก เอิงเอยจมอยู่ในอ้อมกอดแกร่งด้วยรอยยิ้มและหวังว่าต่อจากนี้ผู้ชายของเอิงเอยจะมีแต่ความสุขในทุกๆ วันหนึ่งเดือนต่อมากระแสคู่จิ้นของเจย์และเควินได้ค่อย ๆ หาย
“นายแบบชิดกับนางแบบหน่อยครับ” เจย์ขยับตามคำสั่งเขาโอบเอวบางอันเปลือยเปล่าของเอิงเอยก่อนจะบีบเคล้นมันเบาๆ เอิงเอยเบ้หน้าด้วยความเจ็บเล็กน้อยเงยหน้ามองเจย์ที่ส่งสายตาดุให้กับเธอ แต่เจ้าตัวก็ได้แต่ส่งยิ้มหวานกลับไป“ดีครับน้องนางแบบขอยิ้มแบบสดใสเลยนะครับ” เอิงเอยทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะปรับเปลี่ยนท่าไปตามที่ช่างภาพบอกทุกคนต่างมองด้วยความอึ้งเพราะทั้งสองดูเข้ากันได้ดีมากประหนึ่งถ่ายแบบคู่รักก็ไม่ปาน“ดีครับเจย์กอดจากด้านหลังได้ไหมครับนางแบบโอเครึเปล่า” ช่างภาพเอ่ยถามเอิงเอยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มไม่นานเจย์ก็เดินไปทางด้านหลังของเอิงเอย ก่อนจะสวมกอดจากด้านหลังและใช้ใบหน้าหล่อเกยบนไหล่ของเอิงเอย“ดีมากครับยิ้มหน่อยครับนางแบบเอามือ แตะหน้านายแบบ เยี่ยมครับ” ทั้งสองถ่ายอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะออกไปรอเปลี่ยนฉากเอิงเอยโดนช่างแต่งหน้าเรียกไปเติมหน้า เช่นเดียวกับเจย์ไม่นานฉากใหม่ก็ถูกจัดขึ้นและทั้งสองต้องลงไปนั่งในบ่อน้ำด้วยกันเอิงเอยลงนั่งเป็นคนแรกระดับน้ำอยู่ตรงช่วงอกของเอิงเอยพอดีไม่นานเจย์ก็เดินตามเข้ามา“กลับบ้านไปเจอแน่” เขาเอ่ยเสียงดุก่อนจะหันไปสนใจช่างภาพอีกครั้ง เอิงเอยที่ได้ยินแบบนั้นก็
ในที่สุดก็มาถึงวันที่มีนัดถ่ายแบบเอิงเองกับเจย์แยกกันมาเพราะเมื่อวานเจย์มีถ่ายงาน ส่วนเรื่องข่าวที่เจย์ลงรูปเอิงเอย เธอก็พึ่งรู้ แน่นอนว่าเจ้าตัวเขินมากแต่ก็แอบเสียใจนิดหน่อยที่คอมเม้นส่วนใหญ่คิดว่าคนในรูปเป็นเควินดารานายแบบที่กำลังมีข่าวกันอยู่ แถมทั้งคู่ก็ยังไม่ได้ออกมาเคลียร์แต่อย่างใด“สวัสดีครับ” เจย์ที่อยู่เปลือยกายท่อนบ่นโชว์แผงอกและหน้าท้องแกร่งเอ่ยทักทายเหล่าทีมงานด้วยรอยยิ้ม เขาแต่งกายด้วยเสื้อสีขาวตัวบางแต่ไม่ได้ติดกระดุม เพราะเป็นคอนเซ็ปต์ชุดว่ายน้ำฉากหลังเลยจัดเป็นคล้ายๆ ทะเล ด้านล่างก็มีทรายจริงพร้อมของตกแต่งทีมงานที่เป็นสาว ๆ ต่างพากันน้ำลายย้อยให้กับความหล่อความสมบูรณ์ของเจย์กันยกใหญ่“เจย์” เจย์หันไปตามเสียงเรียกใบหน้าหล่อมีสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะโค้งทักทายอีกฝ่ายที่มีอายุกว่า“สวัสดีครับพี่เมย่า” เขาเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพมองเมย่าที่มาในชุดคลุมอาบน้ำ ผมของเธอดัดลอน และแต่งหน้าจัดใบหน้าของพี่เมย่ายิ้มแย้มให้กับเขา แต่เจย์กลับก็ไม่ได้ยิ้มตอบแต่อย่างใด หลังจากที่เขารู้ความจริงที่น่ารังเกียจว่าคนที่อยู่เบื้องหลังที่ลอบทำร้ายเอิงเอยคือเมย่าเขากลับรู้สึกรังเกียจเธอขึ้นมาก“ไม่ได
ในที่สุด ตอนนี้เอิงเอยกลายเป็นผู้บริหารสูงสุดแทนเจ้าของบริษัทไปโดยปริยาย “แต่ว่าเอิงเอยมีเรื่องให้ช่วยหน่อยได้รึเปล่าคะถ้าได้เอิงเอยจะเพิ่มให้พิเศษอีกสองแสน” คนที่ฟังตาลุกวาวทันที“ได้สิครับได้เลยครับ”“คือกำหนดการถ่ายแบบของนายแบบที่ชื่อเจย์กับนางแบบที่ชื่อเมย่าในวันมะรืนนี้น่ะค่ะ” คนที่ได้ฟังชะงักไปเล็กน้อยที่อีกฝ่ายรู้ตารางงานของทั้งสองด้วยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป“พอเปลี่ยนจะนางแบบได้ไหม” เอิงเอยเอียงคอถามอีกฝ่ายอย่างน่ารักแม้ตอนนี้เอิงเอยจะเป็นผู้บริหารสูงสุดแต่ก็ยังไม่ได้ยืนยันในทันทีอำนาจต่างๆ จึงยังอยู่กับผู้ชายตรงหน้าอยู่แม้จะเซ็นเอกสารโอนหุ้นแล้วก็ตาม“คะคือว่า..” เจ้าของบริษัทหนักใจทันทีเพราะงานนี้เมย่าเป็นคนมาขอทำเอง และบอกว่าจะทำให้นิตยสารขายหมดให้ได้ซึ่งเขาก็แอบหนักใจเพราะนายแบบดันมีข่าวไม่ดีอยู่ตอนนี้“สองแสนค่ะ^^” เอิงเอยเอ่ยย้ำด้วยรอยยิ้มก่อนจะโชว์เงินสดในกระเป๋าล่อตาล่อใจอีกฝ่าย“ไม่ทราบว่านางแบบที่จะเปลี่ยนเป็นนางแบบในสังกัดของผมหรือเปล่าครับ” เขาเอ่ยถามเพราะนางแบบดัง ๆ ของสังกัดเขามีแค่เมย่าเท่านั้นเขาเลยเอ็นดูเอิงเอยเป็นพิเศษส่วนคนอื่นๆ ก็พอขายงานออกแต่ไม่ได้ปังเท่
รุ่งเช้าเพี้ยะ!“โอ๊ยอะไรเนี่ยพี่!” เจย์เบ้หน้าด้วยความเจ็บเมื่อโดนฝ่ามือของผู้จัดการ ฟาดมาเต็มหลังพร้อมกับสายตาอาฆาตนั่นอีก“จะอะไรซะอีกล่ะรูปเมื่อคืนคืออะไรยังไง” ผู้จัดการเอ่ยถามทันทีเมื่อวาน เพราะแทบไม่ได้นอน หลังจากต้องตอบคำถามมากมายจากลูกค้าที่ทักเข้ามา บางคนก็ไม่พอใจถึงขนาดแคนเซิ่ลงานเลยก็มี ทั้งที่ยังไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้าของมือปริศนาคือใครเลยด้วยซ้ำ“เอิงเอย” คำตอบของเจย์ทำเอาผู้จัดการที่หน้าบูดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นอมยิ้มทันที พร้อมกับหันไปมองเจย์ที่ตั้งใจขับรถอยู่ก่อนเอ่ยแซว“ฮันแหน่ แพ้ภัยตัวเองแล้วหรือจ๊ะเจย์ ไหนว่าไม่ชอบผู้หญิงแอ๊บแบ๊ว บลาๆ ~” เจย์มองอีกฝ่ายที่เล่นแซวเขาไม่หยุดรวมถึงเอาคำพูดเก่าๆ ของเขามาล้อเพิ่มเติมอีกใบหน้าหล่อส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะตั้งใจขับรถออกไปRrrrrr เสียงจากมือถือของเจย์ดังขึ้น ในขณะที่ผู้จัดการหันไปมองเห็นพอดี “ไอ้เจย์~ นายทำอะไรเนี่ย!” เจย์รีบหันมาด้วยความตกใจทันทีเมื่อเห็นผู้จัดการกำลังชี้ไปที่กลางจอภายในรถที่เชื่อมกับมือถือของเขาเผยให้เห็นชื่อขอคนโทรมา“เอิงเอยสุดที่รัก…โอ้ยยยย~ ไอ้เจย์ อึ่ยขนลุกอะ~” ผู้จัดการตัวท่าทีขนลุกเขาหัวเราะเล็กน้อยก่อ