แชร์

บทที่7.ผมจะอยู่ข้างๆคุณ

ผู้เขียน: Luna of The Sea
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18 05:40:35

เปรี้ยง เปรี้ยง! “อีฟ ตื่นเร็ว สายแล้ว” แนนซี่เปล่งเสียงเรียกพลางกำมือกระแทกประตูอยู่หน้าห้อง

เปรี้ยง เปรี้ยง ! " อีฟ ! " เสียงดังลั่นทั่วอะพาร์ตเมนต์จนข้างห้องต้องเปิดประตูออกมาดู " เบาๆหน่อยน้อง คนกำลังหลับนอน จะทุบประตูแหกปากลั่นทำไมเกรงใจชาวบ้านบ้าง " หญิงวัยกลางคนในชุดนอนผ้ามันผมม้วนเป็นลอนใบหน้าดูราวยังไม่ได้นอนเพราะเครื่องสำอางบนใบหน้าของนางยังแน่น พูดด้วยน้ำเสียงฟัดเหวี่ยง จนแนนซี่ทำหน้าแหยๆ กล่าวคำขอโทษ ให้หล่อนได้พอใจ

“ตื่นแล้ว แนนซี่” แล้วอีฟก็ขานรับเสียงเรียกดังของแนนซี่พลางหันมองมือถือบนหัวเตียงที่ไม่ดังเตือนเช่นทุกวันพลันนึกได้ ว่า ลืมตั้งนาฬิกาปลุกรู้เลยทันทีว่าสายแล้วเธอรีบเด้งตัวออกจากเตียง

“รอฉันด้วย แนนซี่” รีบเร่งจัดการแต่งตัว

......

สองสาวต่างไซซ์หน้าตาตื่นก้าวยาวเข้าห้องเรียนแทรกตัวลงนั่งตรงที่ว่าง ขณะที่อาจารย์กำลังถือไมค์บรรยายอยู่หน้ากระดาน

“อีฟ” เสียงของอาจารย์หญิงวัยกลางคนสวมแว่นหนาเตอะ ขานชื่อของเธอที่ยังนั่งหลุกหลิกจัดท่าเพราะพึ่งมาถึง

“อธิบายถึงหัวข้อที่อาจารย์พึ่งบรรยายไปให้กระจ่างหน่อย”

อีฟเงยหน้าขึ้นตามเสียงที่กังวานดวงตาจ้องบนกระดานด้วยใบหน้างุนงงอ้ำอึ้งกับคำถามไม่รู้จะเริ่มอย่างไง ทุกคนในห้องต่างหันหน้ามาทางอีฟเพื่อรอฟังพลางหัวเราะ คิกคักนึกขำในสภาพของเธอที่ราวคนพึ่งตื่น...

“มีใคร พอจะช่วยอธิบายแทนอีฟหน่อย ให้อีฟได้เข้าใจ” ลิซซี่ได้ยืดตัวขึ้นทันที แล้วอธิบายหัวข้อสำคัญนั้นได้อย่างคล่องแคล่วจนจบ หล่อนชายตามาที่อีฟด้วยความผยอง พร้อมเสียงปรบมือที่ดัง อีฟได้แต่นั่งนิ่งเอียงหน้าลงเพราะรู้สึกขายหน้าตัวเองต่อเพื่อนทุกคนในห้องยิ่งนักเพราะในมหาลัยลือกันหนาหูเรื่องที่ทั้งสองไม่กินเส้นกันแล้วไอวาอดีตแฟนเก่าก็เลือกจะคบกับหล่อนอีกต่อให้จะอายและแค้นอยู่บ้างแต่ตบมือข้างเดียวมันใช่จะดัง เธอได้แต่ยอมรับความจริงว่า เธอแพ้หล่อนแล้วทุกทาง

ถึงเวลาเที่ยงในรั้วมหาลัยเป็นช่วงเวลาพัก เธอหยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมาเปิดเข้าเว็บไซต์หางาน ดวงตาจดจ่ออ่านประกาศบนหน้าจอ “อีฟ” เสียงเรียกที่เคยคุ้นหูได้ยินในระยะใกล้ เธอก็พอเดาออกเสียงว่าเสียงนี้คือไอวาแฟนเก่าของเธอ ยืนตัวตรงมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เว้าวอนให้เธอรับฟังในสิ่งที่เขากำลังจะพูด “เราขอโทษนะ ถ้าลิซซี่ด้วยพูดอะไรที่ไม่ดีมากไป” อีฟอึ้งกับคำพูดของไอวาภายในใจของเธอคิดว่า เขาต้องการจะสื่อถึงอะไร เพราะระหว่างเธอและเขาจบไม่สวยและไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้อีกเลยอีฟเลื่อนสายตาเฉยชาลงและไร้คำตอบจากปากของเธอ ไอวารอฟังคำบางคำที่จะหลุดออกจากปากของอีฟอดีตคนเคยคบ

“ไอวา” เสียงของลิซซี่ยืนเท้าเอวตะโกนเรียกแฟนของหล่อนให้เขาต้องหันหลังกลับไป แนนซี่มองเห็นไอวาจากระยะไกลรีบเดินจ้ำอ้าวกลับมาพร้อมถุงขนมขบเคี้ยว

“มันมา ทำไมอีกไอ้นี่”

“ไม่มีอะไรหรอก แนนซี่ นั่งลงก่อน” ผ่านไปชั่วครู่พอได้ดื่มน้ำอัดลมเย็นๆ กับขนมขบเคี้ยวแสนอร่อย แนนซี่ก็ขยับปากเอ่ยถามเพื่อนรัก

“หลังจบแล้วเธอจะไปที่ไหนทำอะไร อีฟ” อีฟที่กำลังจ้องหน้าจอสี่เหลี่ยมหันมองแนนซี่เมื่อได้ยินคำถาม

“หางานทำ และก็กำลังหา แค่นั้นเพื่อน”

“แล้วเธอละ แนนซี่”

“ฉันจะกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดอะอีฟที่บ้านอยากให้ไปช่วยดูแลงานที่บ้าน” แนนซี่ตอบพลางหยิบขนมขบเคี้ยวเข้าปาก

“ไปเที่ยวบ้านฉันสิ เที่ยวสวนยางดูภูเขาทะเล”

“คิดดูก่อน” เธอก็อยากตอบตกลงเหมือนกันแต่ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต

......

ช่วงบ่ายที่คอนโดของแซม ซึ่งเขากำลังยุ่งกับการเตรียมงานบนโต๊ะที่มีเอกสารวางเรียงแต่เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องที่ตกลงกับอีฟเมื่อคืนไว้เลื่อนเสิร์ซหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เพื่อจะเดินทางไปพร้อมกับเธอ แล้วจุดหมายปลายทางแรกที่เขาอยากจะไปคือ กาญจนบุรี

เย็นนี้อีฟกับแนนซี่ถึงห้องก็ค่ำมืดและอีฟได้ส่งข้อความหาเจ๊แตงก่อนหน้าไว้แล้วว่าไม่ต้องรอ ทั้งสองเดินเข้าห้องของอีฟแต่แนนซี่ยังคงเป็นสาวช่างฝัน พูดถึงแต่พระเอกในซีรีส์ที่ติดงอมแงมไม่หยุดแต่ด้วยความเทอะทะ เท้าสะดุดซองสีน้ำตาลที่สอดเข้ามาจากประตู

“อีฟ นี่ซองอะไรอะ”

“เปิดดูให้หน่อย” อีฟยืนหันหลังกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเอ่ยกับแนนซี่

“อีฟ”

“อะไร แนนซี่”

“ผู้ชายเขียน เซอร์ไพรส์อะไรให้กับเธอ”

อีฟเดินมาคว้ากระดาษจากมือแนนซี่ มองดูใบเสร็จรับเงินค่าเช่าล่วงหน้า เวลาชำระ 7.40amของวันนี้ แนบกระดาษอีกใบเขียนข้อความว่า

"I really like you and would like to help. Even though it's a little, I did it with my heart. because what you are That face is Fight to graduate, I will be beside you" (ผมชอบคุณมาก อยากจะช่วยบ้าง แม้ว่ามันจะเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ด้วยหัวใจ เพราะสิ่งที่คุณกำลัง เผชิญนั้นคือความ ต่อสู้ให้เรียนจบ ผมจะอยู่ข้างๆ คุณ)

ซองสี่เหลี่ยมนี้ลุงชัยเป็นคนจัดการให้คุณป้าแม่บ้านนำมาสอดไว้นั้นเองเพราะแซมได้เขียนฝากไว้ให้ใส่ลงในซองพร้อมกับใบเสร็จเพื่อให้เธอได้เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังทำ

นัยน์ตาดำของอีฟมีน้ำใสคลอด้วยความซาบซึ้ง แนนซี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานตาเยิ้มราวกับกำลังอินกับพระเอกซีรีส์ที่กำลังติดงอมแงม

“ทำไมโรแมนติกอะไร ขนาดนี่นะแซม” แต่เธอมองเพื่อนด้วยความยินดีอย่างน้อยอีฟก็รอดไปช่วงหนึ่ง

“ปะๆ สั่งพิซซ่า กินกัน ฉันจ่ายเอง” แนนซี่พูดขึั้นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศไม่ให้อีฟคิดมากเพราะแลดูใบหน้าอีฟแล้วคล้ายกำลังจะร้องไห้พลางหยิบมือถือกดสั่งร้านพิซซ่าตามโบรชัวร์ที่จัดโปร

ต่อให้อีฟจะซึ้งใจมากกับสิ่งที่เขาทำ แต่เธอก็ยังแอบคิดเล็กคิดน้อยในใจ อยู่เอง ว่า “คืออะไร ค่าตัวฉันเหรอเมื่อคืนที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา เธอทำมันด้วยหัวใจที่ต้องการจริง” เธอพยายามข่มความรู้สึกนึกคิดอกุศลแบบนี้เอาไว้ เพราะเธอก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมายที่ขาวสะอาดไม่เคยแปดเปื้อนสิ่งใด ถอนหายใจออกเบาๆ ตัดใจลบเรื่องไม่ดีออกจากหัวสมอง หยิบมือถือ พิมพ์ข้อความ ถึงแซม

“Sam, thank you so much for the Surprise gift in the envelope. I sincerely accept it. It's not about the money.” (แซม ขอบคุณมากสำหรับ ของขวัญเซอร์ไพรส์ในซองจดหมาย ฉันขอรับมันไว้ด้วยความจริงใจไม่เกี่ยวกับเงิน)

บทที่เกี่ยวข้อง

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)    บทที่8. HAPPY BIRTH DAY MELON

    สองอาทิตย์ ผ่านไป…..“อีฟ เธอช่วยฉันเลือกหน่อยสิลองมาหลายชุดแล้วตัดสินใจเลือกไม่ถูกเลย” แนนซี่เอียงซ้ายทีขวาทีมองดูตัวเองอยู่หน้ากระจกใสห้องของเธอมีอีฟนั่งเขี่ยมือถือรอแนนซี่แต่งตัวเพื่อจะไปงานคืนนี้กันเพราะราตรีนี้เจ้าของไนต์คลับได้จัดวันเกิดให้กับเจ๊แตงผู้จัดการดีเด่นที่ทำยอดได้ตามเป้าทุกเดือนและนี่ก็เป็นโอกาสเดียวที่แนนซี่จะได้ออกไปเปิดหูเปิดตาสักทีหลังจากที่อยากติดตามอีฟไปหลายครั้งแล้วแต่เธอกลับถูกปฏิเสธแทบทุกครั้ง“ชุดไหนก็ได้แนนซี่ สวยทุกชุด เดรสยาวสวยเหมาะกับเธอแล้ว” อีฟเงยหน้าตอบแนนซี่ที่กำลังจ้องตัวเองอยู่หน้ากระจก“โอเค ตามนี้ฉันเชื่อเธอเพราะก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน”ก๊อก ก๊อก ก๊อก . ไปกันยังจ๊ะสาวๆ“ปะ แนนซี่ไปกันเถอะ เจ๊แตงมาเรียกแล้ว”อีฟหมุนลูกปิด คลิก ! เจ๊แตงยืนบนรองเท้าแก้วใบหน้าขาววอกยกยิ้มอยู่หน้าประตู“Happy birth day ค่ะเจ๊แตงมีความสุขมากๆ กิจการรุ่งเรืองนะคะ” พลางทั้งสองเข้าสวมกอดเจ๊แตง“ขอบใจจ้า อีฟและแนนซี่ เจ๊ขออวยพรกลับ ให้ทั้งสองเรียนจบประสบความสำเร็จนะ”“ปะสาวๆ เราไปกันเถอะแท็กซี่มารอรับแล้ว”คืนงานปาร์ตี้วันเกิดของเจ๊แตง ทางร้านได้จัดถาดอาหารวางเรียงตั้งอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่9.ที่มีแต่เราเพียงสองคน

    รุ่งเช้าของวันหยุดสุดสัปดาห์ก็มาถึงหลังจากที่อีฟได้ลาออกจากงานที่ไนต์คลับได้หลายวันแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านเธอได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มใบหน้าสดใสดวงตาสดชื่นเพ่งอ่านอีเมลของบริษัทประกัน อยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ในห้องของเธอติ้ง!“See you at the train station,I’m on my way” (เจอกันที่สถานีรถไฟนะ ผมกำลังไป)เธอเลื่อนสายตาอ่านข้อความบนหน้าจอมือถือ พลางพับจอโน้ตบุ๊กลงแล้วโยกตัวไปคว้ากระเป๋าเป้ใบตุงที่อัดแน่นด้วยเสื้อผ้าเพื่อเตรียมจะออกเดินทางไปท่องเที่ยวกับหนุ่มแดนนอกช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวันและชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นก็ได้จัดตารางงานของเขาไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน เขาทำตามเพลนท่องเที่ยวที่เขาได้เสิร์ชหาข้อมูลมาล่วงหน้าไว้หลายอาทิตย์มาอย่างดี หนุ่มสูงยาวในชุดฟรีสไตล์ยืนตัวตรงหน้าตู้รถไฟที่จอดเทียบชานชาลา ปู้น ปู้น เสียงเรียกดังเร่งให้ผู้โดยสารรีบขึ้นขบวน“แซม! ” อีฟในเสื้อสีขาวตัวจิ๋วกางเกงยีนขาสั้นโชว์ขาเรียวบนรองเท้าผ้าใบเดินตรงมาด้วยใบหน้ายิ้มเปล่งเสียงเรียกแซมให้เงยหน้าที่กำลังก้มดูตั๋วที่ถืออยู่ในมือ“ Eve” แซมยิ้มกว้างกางแขนรับสาวร่างเล็กสวมกอดทักทาย“Let’s go (ไปกันเถอะ) ทั้งสองจับมือ ก้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)    บทที่10.สวรรค์ชั้น 7

    เสียงนกเจื้อยแจ้วบ่งบอกว่าเป็นรุ่งอรุณของวันใหม่คู่หนุ่มสาวที่ผ่านศึกรักที่หนักหน่วง ฝูงนกได้ปลุกให้แซมตื่น เขาขยับร่างมือค่อยเลื่อนสัมผัสร่างสาวเจ้าเสน่ห์เข้ามาชิดแล้วลูบไล้ทั่วร่างเนียน อีฟขยับเปลือกตาด้วยความเคลิ้มรู้สึกได้ถึงมือที่ซุกซนสอดแทรกไปทุกจุดที่ไวต่อการสัมผัสพลันท่อนรักผ่าเข้าร่องสาวที่ตื่นตัว เธอลืมตามองชายหนุ่ม ที่คร่อมร่างเธอและแสงแดดยามเช้าสาดส่องให้เห็นหน้าอกหนุ่มแน่นขาวผ่องผมสีบอลนด์เธอมองลึกลงไปในดวงตาฟ้าใสละมุนเก็บรายละเอียดนี้ไว้ด้วยสายตาแห่งความหลงใหล แล้วจังหวะรักที่แซมเร่งขย่มถี่เพียงครู่ก็สำเร็จกิจหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วอีฟออกมานั่งที่ตรงระเบียงด้วยความรื่นรมย์ กางแผนที่และกระดาษแพลนเที่ยวของแซมที่จดไว้แล้วตามลำดับ มือจับปากกาวงไว้เป็นจุดๆ เพราะที่จริงแล้วนี่คือครั้งแรกของเธอที่ได้ไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้แม้เธอจะรู้ข้อมูลมามากพอสมควรจากตำรา" Are you hungry? "(คุณหิวไหม) แซมเดินออกมาจากห้องเอ่ยถามอีฟที่มองแผนที่สลับกับกระดาษสีขาวพลางมือที่กำลังขยุกขยิก"Yes,I’m hungry" (หิวค่ะ) เธอเงยหน้าขึ้นเพราะท้องร้องได้เริ่มร้อง ว่าหิว“So let’go,Shall we?”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)    บทที่11.กวางป่าหนุ่มผู้มีเขาที่สง่างาม

    11.00am ณ ที่สถานีขนส่งแห่งหนึ่งซึ่งเป็นประตูสู่ภาคอีสาน มีผู้คนพลุกพล่านเข้าออกขึ้นลง อีฟและแซมก้าวลงจากรถทัวร์สะพายเป้ใบตุง เดินมองหาผู้ให้บริการรถเช่าที่แซมได้จองไว้ทางอินเทอร์เน็ต“Sam I think that man” (แซม ฉันคิดว่าผู้ชายคนนั้นนะ) เธอพูดพลางนิ้วชี้ให้เขาดูชายวัยกลางคนยืนยิ้มกว้างหน้ารถออฟโรดสีดำซึ่งมองดูแล้วก็ตรงตามรูปบนใบจองที่เธอถืออยู่ในมือเส้นทางที่มุ่งสู่จุดหมายบนถนนลาดยางแหวกป่าเขาลำเนาไพรแซมขับรถสองที่นั่งสี่ล้อยกสูงไปอย่างช้าๆ ตาเลื่อนสลับไปมาแลมองแผนที่บนมือถือเป็นระยะๆ กระจกรถเลื่อนลงสุดคางของอีฟวางลงบนขอบกระจกให้ใบหน้ารับลมสูดอากาศที่บริสุทธิ์ ผ่านหุบเขาทุ่งหญ้าสีเหลืองทอง ชายหนุ่มผู้สายตายาวไกลเลี้ยวจอดรถริมขอบทาง ดวงตามุ่งมั่นก้าวลงค่อยๆย่องเท้าฝ่าดงหญ้า พลางมือยกกล้องที่คล้องไว้บนคอ มือนิ่งตาเล็งเป้าโฟกัสแล้วซูมไปที่กวางป่าเขายาวกำลังกินหญ้าอย่างสำราญ แซมรอจังหวะกวางเขายาวสง่าเงยหัวขึ้น เขาอธิษฐาน อยู่ในใจ “อย่าขยับนะ ได้โปรด ๆ อยู่นิ่งๆ” ..แสงแดดย่ามบ่ายแก่ๆ สาดแสงหญ้าเหลืองทองอร่าม กวางหนุ่มผู้มีเขายาวคล้ายกิ่งไม้เงยหัวเผยดวงตาที่น่าเอ็นดู นิ้วเขารีบกดชัตเตอร์ร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่12.สมุดบันทึกรัก

    “Sam,Can you stop the car for a moment?” (แซมหยุดรถสักครู่ได้ไหม)อีฟพูดขึ้นในขณะที่แซมกำลังขับรถตรงไปยังจุดอื่นระหว่างทางหลังจากที่ได้รับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วเพราะเธอได้ มองเห็นกลุ่มช้างที่น่ารักซึ่งเป็นสัตว์ที่เธอชอบเป็นพิเศษและขวานช้างรอให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและใกล้ชิดที่หน้ารีสอร์ต แซมชำเลืองมองกลุ่มช้างนั้นแล้วเขาก็ได้เลี้ยวหยุดรถชิดขอบทาง อีฟยกกล้องมือถือถ่ายรูป ซื้ออาหารให้ช้างเหล่านั้นพลางมือลูบคลำงวงช้างที่แสนเชื่อง เขามองเธอที่มีความสุข ในห้วงเวลานั้น พลางมือกดรัวชัตเตอร์บนกล้องที่คล้องมา สองมือประสานแน่นเธอเอียงศีรษะพิงไหล่กว้าง มองฟ้าสีคราม ในหัวใจนึก อยากหยุดเวลาไว้เพียงเท่านี้ แซมเอียงหน้าจูบบนหน้าผากเธอเบาๆ มือซ้ายขยับกอด เพื่อบ่งบอกว่า เขาอยู่ข้างเธอไม่ต้องกังวล แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ซึ่งคือความจริงที่ต้องดำเนินไปแล้วทั้งสองก็ขึ้นมาถึงจุดสูงของภูเขาเพื่ออำลาผืนป่าก่อนกลับไปใช้ ชีวิตในเมืองกรุง มีเพียงสายตาและรอยยิ้มที่มองกันด้วยความลึกซึ้งยืนคู่ชิดโดดเด่นมองท้องฟ้าที่กว้างไกลป่าสีเขียวสุดลูกตา พวกเขาจะบันทึกไว้ในความทรงจำไว้ว่าที่ตรงนี้บนเขาใหญ่เป็นพยานแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่13.คอนโดสูงกลางเมือง

    หลังจากเจ๊แตงได้จัดการติดต่อหางานพาร์ตไทม์ช่วยอีฟให้ได้ทำงานแล้ว วันนี้ก็เป็นวันแรกของการทำงานพาร์ตไทม์ในร้านขนมหวานซึ่งใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน ผมยาวถักเปียเรียงซ้อนงามเป็นระเบียบ สาวหุ่นเพรียวในเสื้อยืดสีดำชายเสื้อเข้าในกระโปรงยีนสั้นบนรองเท้าผ้าใบสีขาวคลุมด้วยผ้ากันเปื้อนเดินจัดเสิร์ฟขนมหวานและเครื่องดื่มน้ำผลไม้ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซึ่งทั้งร้านมีพนักงานสองสามคนสลับกันเข้าออกเป็นกะ เพื่อนร่วมงานที่เป็นมิตรอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอและอีฟเองก็พึงพอใจกับงานที่ทำและในวันแรกเธอไม่ได้กดดันหรืออึดอัดอะไรเลยดูแล้วงานนี้ก็เหมาะกับเธอด้วยซ้ำแม้รายได้เพียงเป็นค่าอาหารและค่าเดินทางในแต่ละวันซึ่งก็เพียงพอสำหรับเธอในช่วงนี้และใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงก็เสร็จงานของเธอในวันนี้เย็นนี้เธอได้นัดกับแซมไว้ให้มาเจอกันที่หน้าร้านขนมหวานหลังจากเธอเสร็จงาน อีฟยืนก้มหน้าพิมพ์ข้อความบนมือถือถึงชายหนุ่มที่นัดแล้วเขาก็มาตรงเวลาเป๊ะ“Hi,sam” ทั้งสองสวมกอดทักทายด้วยความคิดถึง “Shall we go? ” (เราไปกันเลยไหม) แซมตั้งใจไว้ว่าจะแวะดูคอมพิวเตอร์เพื่อไว้ใช้สำหรับธุรกิจของเขาที่กำลังจะเปิดเร็วๆนี้แต่นั่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่14.บททดสอบ

    เวลา10โมงเช้าบรรยากาศในห้องสอบที่เงียบทุกคนต่างเพ่งตาทำข้อสอบอีฟใบหน้าผ่อนคลายอย่างมีสมาธิเธอรู้สึกดีใจที่ถึงวันนี้เสียทีเพราะเท่ากับว่าเธอได้นับเวลาถอยหลังถึงเส้นชัยแม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาอันรวดเร็วเธอจะผ่านประสบการณ์ทำงานที่แปลกใหม่ในชีวิตจนได้พบกับใครบางคนที่ชะตาฟ้าลิขิตให้มาเจอ พอถึงช่วงเวลาบ่ายหลังจากสอบเสร็จอีฟกับแนนซี่กำลังนั่งเม้าท์กันตามประสาเพื่อนสนิทใต้ต้นไม้ใหญ่ในรั้วมหาวิทยาลัยแต่ทั้งสองต้องเหลียวมองตามเสียงผู้หญิงที่กำลังพูดไฟแลบด้วยท่าทางฟึดฟัดอย่างไม่พอใจและนั่นคือ ไอวาและลิซซี่กำลังทะเลาะกัน “สองคนนั้นเขาทะเลาะอะไรกัน” “ฉันว่าสงสัยเจอฤทธิ์หนุ่มแบดบอยเข้าให้ไอวาก็คงทำนิสัยเดิมๆ เจ้าชู้ไปทั่วแหงๆ แต่ว่าสองคนนั้นคบกันแป๊บเดียวเองนะไม่ทันไรก็เผยสันดานออกมาละ สมน้ำหน้า จะอยู่ด้วยกันได้อย่างไรยัยลิซซี่ที่ขี้เหวี่ยงขึ้วีนขนาดนั้น กับคาสโนว่าตัวพ่อ”แนนซี่พูดรัวชุดใหญ่ แต่อีฟเมื่อได้ฟังก็รู้สึกเฉยๆเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาแล้วอีฟก็มองดูเวลาเพราะเธอได้เวลาต้องไปเปลี่ยนกะที่ร้านขนมหวานกลางเมือง“แนนซี่ ฉันจะต้องไปทำงานต่อที่ร้านขนมเดี๋ยวเจอกันตอนเย็นที่ห้องนะ ” “ได้สิ แล้วเจอกัน” แน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่15.เฉลิมฉลอง

    หนึ่งเดือนผ่านไปเช้าของวันที่อากาศสดใสปลอดโปร่งในรั้วมหาวิทยาลัยที่ สองสาวใช้เวลาหลายปีในการร่ำเรียนและมีความผูกพันกับสถานที่เรียนแห่งนี้ก็มาถึงช่วงท้ายสุดของชีวิตนักศึกษา นักศึกษามากมายหลายคนต่างยื่นหน้าจ้องบนกระดาษที่แปะไว้ที่บอร์ดของคณะพลางนิ้วไล่เช็กรหัสของตัวเอง “อีฟฉันผ่านแล้ว”แนนซี่กระโดดกอดอีฟด้วยความดีใจเมื่อเห็นรหัสประจำตัวและชื่อของตัวเองติดอยู่ว่าสอบได้และอีฟยิ้มอย่างภูมิใจที่ทำสำเร็จเมื่อเห็นชื่อของเธอว่าสอบผ่านด้วยเช่นกันและตัวเธอเองจะไม่โอเคแน่ๆถ้าต้องเสียเวลาสอบใหม่อีกรอบเพราะฐานะการเงินที่ฝืดเคืองไม่สามารถประคองชีวิตต่อไปได้อีกหลายเดือนหากยังไม่มีงานประจำทำแล้ววันนี้เธอก็ทำสำเร็จซึ่งเธอก็ภูมิใจกับตัวเองอยู่ไม่น้อย สองสาวที่แพลนเอาไว้เป็นเดือนแล้วว่าจะรวบรวมเงินกันจัดงานฉลองเล็กๆกันที่ร้านข้างหอถ้าสอบผ่านและสำเร็จทั้งสองคน “แนนซี่ เดี๋ยวเจอกันที่ร้านเจ๊แตงนะเราต้องเฉลิมฉลองกันตามที่เราได้สัญญากันไว้แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบไปก่อนนะเพื่อนมีนัดกับแซมไว้เจอกันเย็นนี้นะ ” อีฟพูดพลางก้าวถอยหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าที่แจ่มใสและเธอก็ยิ้มไม่หุบระหว่างการเดินทางไปหาชายหนุ่มที่คบแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18

บทล่าสุด

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่18.บทสุดท้าย

    สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องของแซมอาจเพราะด้วยความกดดันของทั้งสองที่ต้องการเพียงระยะห่างเท่านั้นและอีฟก็แค่ตั้งใจจะไปปรึกษาเรื่องงานของเธอกับแซม ยังไม่ทันได้ปริปากพูดถึงมันเลยกลับต้องจบลงแบบนี้จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่างแต่บทสุดท้ายคือตอนนี้เธอเศร้าใจนัก และคำปลอบใจที่พูดกับตัวเองก็มีเพียงอย่างเดียวคือ ต้องมูฟออน เมื่อถึงห้องเธอก็ไม่รอช้าคว้าโน้ตบุ๊กขึ้นมาเปิดแล้วตอบกลับอีเมลงานที่รอคำตอบจากเธอมาหลายวันแล้วด้วยใจที่แน่วแน่มั่นใจและพร้อมเดินทางในวันถัดไปโดยไม่จำเป็นต้องรีรอ วันต่อมา… บางครั้งโชคชะตาก็พลิกผันรวดเร็วเกินตั้งตัวให้เราเดินตามทางที่ถูกกำหนดมาตามเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้เธอได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆแพ็กลงกล่องเพื่อจัดการส่งให้กับบริษัทขนส่งที่กำลังจะมารับ หนังสือที่ตั้งวางอยู่ด้านหน้ามือหยิบลงใส่กล่องกระดาษสี่เหลี่ยมที่เตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับหนังสือเล่มโปรดของเธอแต่แล้วดวงตาต้องสะดุดกับสมุดบันทึกรักที่เคยจดบันทึกไว้เธอหยิบขึ้นมาแล้วเพ่งมองชวนให้นึกถึงและคิดว่าจะเปิดดูและอ่านอีกรอบแต่แล้วทันใดนั้นเสียงประตูหน้าห้องก็ดังแทรก ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ใครคะ?” “แม่บ้านจ้า” เธอตั

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)    บทที่17.ถึงเวลาต้องเลือกทางเดิน

    ที่ร้านอาหารตามสั่งของเจ๊แตงอีฟและแนนซี่ได้ทยอยขนของลงมาไว้บ้างแล้วเพื่อรอครอบครัวของแนนซี่จะมารับในไม่ช้า บนโต๊ะอาหารทุกคนนั่งรับประทานอาหารพร้อมสนทนากันไปพลางๆพลันสายตาหลายคู่ต้องหันมองไปทางเดียวกันเพราะรถเบนซ์คันหรูที่ดูคุ้นตาและนานๆจะมีเข้ามาที่อะพาร์ตเมนต์ราคาประหยัดเช่นนี้ซึ่งดูคลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อหลายเดือนก่อนนั้นน่าจะเป็นคันเดียวกันที่เคลื่อนเข้าเมื่ออีฟและแนนซี่จ้องมองไปยังแผ่นป้ายทะเบียนนั้นแล้วก็ตรงเป๊ะและคิดว่า “ต้องใช่!หล่อนแน่ๆ”แต่วันนี้กลับมีสาวสวยสวมแว่นดำเดินออกมาจากรถมันเงาเพียงลำพังไร้เงาชายหนุ่มข้างกาย ลิซซี่ยืนบนรองรองเท้าส้นแหลม คอหันซ้ายหันขวาแล้วสายตาสะดุดเห็นอีฟและแนนซี่นั่งอยู่ที่ร้านอาหารข้างๆหอหล่อนจึงรีบเดินดุ่มๆมาแล้วเอ่ยถาม “อีฟเจอไอวาไหมฉันตามหาเขาอยู่เขาพยายามหลบหน้าหลบตาฉัน”เธอพูดด้วยเสียงที่กระซิกๆคล้ายกับจะร้องไห้ใต้แว่นดำแต่ไร้ซึ่งหยดน้ำตาต่อให้ลิซซี่จะสวยเพอร์เฟกต์แค่ไหนแต่หล่อนก็เป็นคนเอาแต่ใจให้ได้มาซึ่งทุกอย่างตามประสาลูกคนรวยที่ถูกสปอยล์แต่ตอนนี้เสียงของหล่อนที่พูดกับอีฟได้อ่อนปวกเปียกต่างจากเมื่อก่อนเพียงเพื่อต้องการให้ได้สิ่งที่หล่อนต

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่16.ความสัมพันธ์เหินห่าง

    ในห้องสี่เหลี่ยมที่บรรยากาศอึมครึมเพราะชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นและจริงจังตอนนี้เขาได้เก็บตัวปิดประตูสังคมนั่งหน้าดำคร่ำเครียดปล่อยหนวดเครายาวสมองหมกมุ่นหนักกับงานที่ไม่ลงตัว แม้แต่อีฟคนที่กำลังคบหาเขาก็ไม่ได้สนใจตอบข้อความของเธออย่างเช่นเคยเพราะตอนนี้เขาแทบจะถวายชีวิตให้กับงานเลยก็ว่าได้ สามารถยอมแลกได้ทุกอย่างให้ได้มาซึ่งความสำเร็จแต่เขาอยากระบายออกมาบ้างในบางครั้งแล้วเสียงของชายหนุ่มได้ตะโกนลั่นปลดปล่อยอารมณ์ความเครียดจากสมองพลางมือขยำกระดาษเป็นก้อนแล้วปามันติดกำแพงผนัง..ที่อะพาร์ตเมนต์ในที่พักอาศัยของอีฟและแนนซี่ ตอนนี้ทั้งสองกำลังยุ่งกับการเก็บข้าวของ แนนซี่มองดูรูปถ่ายที่ถืออยู่ในมือเป็นภาพของเธอกับอีฟในชุดนักศึกษาสมัยปีหนึ่งที่ถ่ายคู่กันด้วยความสนิทสนมด้วยความปลาบปลื้มที่มีเพื่อนดีๆเช่น อีฟ แล้วเก็บใส่กล่องสี่เหลี่ยมส่วนตัวของเธอ ข้าวของเครื่องใช้ที่แพ็กไว้เรียบร้อยพร้อมขนย้ายเพื่อเตรียมกลับบ้านที่ต่างจังหวัดอย่างถาวร ในขณะที่อีฟมือแพ็กกล่องสลับหยิบมือถือขึ้นมาดูเป็นระยะๆเพื่อเช็กข้อความแซมที่จะตอบกลับเธอ“มีอะไรหรือเปล่าอีฟ เช็กมือถือตลอดเลย”แนนซี่เอ่ยถามเมื่อสังเกตว่าอีฟพะวงดูมื

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่15.เฉลิมฉลอง

    หนึ่งเดือนผ่านไปเช้าของวันที่อากาศสดใสปลอดโปร่งในรั้วมหาวิทยาลัยที่ สองสาวใช้เวลาหลายปีในการร่ำเรียนและมีความผูกพันกับสถานที่เรียนแห่งนี้ก็มาถึงช่วงท้ายสุดของชีวิตนักศึกษา นักศึกษามากมายหลายคนต่างยื่นหน้าจ้องบนกระดาษที่แปะไว้ที่บอร์ดของคณะพลางนิ้วไล่เช็กรหัสของตัวเอง “อีฟฉันผ่านแล้ว”แนนซี่กระโดดกอดอีฟด้วยความดีใจเมื่อเห็นรหัสประจำตัวและชื่อของตัวเองติดอยู่ว่าสอบได้และอีฟยิ้มอย่างภูมิใจที่ทำสำเร็จเมื่อเห็นชื่อของเธอว่าสอบผ่านด้วยเช่นกันและตัวเธอเองจะไม่โอเคแน่ๆถ้าต้องเสียเวลาสอบใหม่อีกรอบเพราะฐานะการเงินที่ฝืดเคืองไม่สามารถประคองชีวิตต่อไปได้อีกหลายเดือนหากยังไม่มีงานประจำทำแล้ววันนี้เธอก็ทำสำเร็จซึ่งเธอก็ภูมิใจกับตัวเองอยู่ไม่น้อย สองสาวที่แพลนเอาไว้เป็นเดือนแล้วว่าจะรวบรวมเงินกันจัดงานฉลองเล็กๆกันที่ร้านข้างหอถ้าสอบผ่านและสำเร็จทั้งสองคน “แนนซี่ เดี๋ยวเจอกันที่ร้านเจ๊แตงนะเราต้องเฉลิมฉลองกันตามที่เราได้สัญญากันไว้แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบไปก่อนนะเพื่อนมีนัดกับแซมไว้เจอกันเย็นนี้นะ ” อีฟพูดพลางก้าวถอยหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าที่แจ่มใสและเธอก็ยิ้มไม่หุบระหว่างการเดินทางไปหาชายหนุ่มที่คบแล

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่14.บททดสอบ

    เวลา10โมงเช้าบรรยากาศในห้องสอบที่เงียบทุกคนต่างเพ่งตาทำข้อสอบอีฟใบหน้าผ่อนคลายอย่างมีสมาธิเธอรู้สึกดีใจที่ถึงวันนี้เสียทีเพราะเท่ากับว่าเธอได้นับเวลาถอยหลังถึงเส้นชัยแม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาอันรวดเร็วเธอจะผ่านประสบการณ์ทำงานที่แปลกใหม่ในชีวิตจนได้พบกับใครบางคนที่ชะตาฟ้าลิขิตให้มาเจอ พอถึงช่วงเวลาบ่ายหลังจากสอบเสร็จอีฟกับแนนซี่กำลังนั่งเม้าท์กันตามประสาเพื่อนสนิทใต้ต้นไม้ใหญ่ในรั้วมหาวิทยาลัยแต่ทั้งสองต้องเหลียวมองตามเสียงผู้หญิงที่กำลังพูดไฟแลบด้วยท่าทางฟึดฟัดอย่างไม่พอใจและนั่นคือ ไอวาและลิซซี่กำลังทะเลาะกัน “สองคนนั้นเขาทะเลาะอะไรกัน” “ฉันว่าสงสัยเจอฤทธิ์หนุ่มแบดบอยเข้าให้ไอวาก็คงทำนิสัยเดิมๆ เจ้าชู้ไปทั่วแหงๆ แต่ว่าสองคนนั้นคบกันแป๊บเดียวเองนะไม่ทันไรก็เผยสันดานออกมาละ สมน้ำหน้า จะอยู่ด้วยกันได้อย่างไรยัยลิซซี่ที่ขี้เหวี่ยงขึ้วีนขนาดนั้น กับคาสโนว่าตัวพ่อ”แนนซี่พูดรัวชุดใหญ่ แต่อีฟเมื่อได้ฟังก็รู้สึกเฉยๆเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาแล้วอีฟก็มองดูเวลาเพราะเธอได้เวลาต้องไปเปลี่ยนกะที่ร้านขนมหวานกลางเมือง“แนนซี่ ฉันจะต้องไปทำงานต่อที่ร้านขนมเดี๋ยวเจอกันตอนเย็นที่ห้องนะ ” “ได้สิ แล้วเจอกัน” แน

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่13.คอนโดสูงกลางเมือง

    หลังจากเจ๊แตงได้จัดการติดต่อหางานพาร์ตไทม์ช่วยอีฟให้ได้ทำงานแล้ว วันนี้ก็เป็นวันแรกของการทำงานพาร์ตไทม์ในร้านขนมหวานซึ่งใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน ผมยาวถักเปียเรียงซ้อนงามเป็นระเบียบ สาวหุ่นเพรียวในเสื้อยืดสีดำชายเสื้อเข้าในกระโปรงยีนสั้นบนรองเท้าผ้าใบสีขาวคลุมด้วยผ้ากันเปื้อนเดินจัดเสิร์ฟขนมหวานและเครื่องดื่มน้ำผลไม้ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซึ่งทั้งร้านมีพนักงานสองสามคนสลับกันเข้าออกเป็นกะ เพื่อนร่วมงานที่เป็นมิตรอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอและอีฟเองก็พึงพอใจกับงานที่ทำและในวันแรกเธอไม่ได้กดดันหรืออึดอัดอะไรเลยดูแล้วงานนี้ก็เหมาะกับเธอด้วยซ้ำแม้รายได้เพียงเป็นค่าอาหารและค่าเดินทางในแต่ละวันซึ่งก็เพียงพอสำหรับเธอในช่วงนี้และใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงก็เสร็จงานของเธอในวันนี้เย็นนี้เธอได้นัดกับแซมไว้ให้มาเจอกันที่หน้าร้านขนมหวานหลังจากเธอเสร็จงาน อีฟยืนก้มหน้าพิมพ์ข้อความบนมือถือถึงชายหนุ่มที่นัดแล้วเขาก็มาตรงเวลาเป๊ะ“Hi,sam” ทั้งสองสวมกอดทักทายด้วยความคิดถึง “Shall we go? ” (เราไปกันเลยไหม) แซมตั้งใจไว้ว่าจะแวะดูคอมพิวเตอร์เพื่อไว้ใช้สำหรับธุรกิจของเขาที่กำลังจะเปิดเร็วๆนี้แต่นั่น

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)   บทที่12.สมุดบันทึกรัก

    “Sam,Can you stop the car for a moment?” (แซมหยุดรถสักครู่ได้ไหม)อีฟพูดขึ้นในขณะที่แซมกำลังขับรถตรงไปยังจุดอื่นระหว่างทางหลังจากที่ได้รับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วเพราะเธอได้ มองเห็นกลุ่มช้างที่น่ารักซึ่งเป็นสัตว์ที่เธอชอบเป็นพิเศษและขวานช้างรอให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและใกล้ชิดที่หน้ารีสอร์ต แซมชำเลืองมองกลุ่มช้างนั้นแล้วเขาก็ได้เลี้ยวหยุดรถชิดขอบทาง อีฟยกกล้องมือถือถ่ายรูป ซื้ออาหารให้ช้างเหล่านั้นพลางมือลูบคลำงวงช้างที่แสนเชื่อง เขามองเธอที่มีความสุข ในห้วงเวลานั้น พลางมือกดรัวชัตเตอร์บนกล้องที่คล้องมา สองมือประสานแน่นเธอเอียงศีรษะพิงไหล่กว้าง มองฟ้าสีคราม ในหัวใจนึก อยากหยุดเวลาไว้เพียงเท่านี้ แซมเอียงหน้าจูบบนหน้าผากเธอเบาๆ มือซ้ายขยับกอด เพื่อบ่งบอกว่า เขาอยู่ข้างเธอไม่ต้องกังวล แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ซึ่งคือความจริงที่ต้องดำเนินไปแล้วทั้งสองก็ขึ้นมาถึงจุดสูงของภูเขาเพื่ออำลาผืนป่าก่อนกลับไปใช้ ชีวิตในเมืองกรุง มีเพียงสายตาและรอยยิ้มที่มองกันด้วยความลึกซึ้งยืนคู่ชิดโดดเด่นมองท้องฟ้าที่กว้างไกลป่าสีเขียวสุดลูกตา พวกเขาจะบันทึกไว้ในความทรงจำไว้ว่าที่ตรงนี้บนเขาใหญ่เป็นพยานแ

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)    บทที่11.กวางป่าหนุ่มผู้มีเขาที่สง่างาม

    11.00am ณ ที่สถานีขนส่งแห่งหนึ่งซึ่งเป็นประตูสู่ภาคอีสาน มีผู้คนพลุกพล่านเข้าออกขึ้นลง อีฟและแซมก้าวลงจากรถทัวร์สะพายเป้ใบตุง เดินมองหาผู้ให้บริการรถเช่าที่แซมได้จองไว้ทางอินเทอร์เน็ต“Sam I think that man” (แซม ฉันคิดว่าผู้ชายคนนั้นนะ) เธอพูดพลางนิ้วชี้ให้เขาดูชายวัยกลางคนยืนยิ้มกว้างหน้ารถออฟโรดสีดำซึ่งมองดูแล้วก็ตรงตามรูปบนใบจองที่เธอถืออยู่ในมือเส้นทางที่มุ่งสู่จุดหมายบนถนนลาดยางแหวกป่าเขาลำเนาไพรแซมขับรถสองที่นั่งสี่ล้อยกสูงไปอย่างช้าๆ ตาเลื่อนสลับไปมาแลมองแผนที่บนมือถือเป็นระยะๆ กระจกรถเลื่อนลงสุดคางของอีฟวางลงบนขอบกระจกให้ใบหน้ารับลมสูดอากาศที่บริสุทธิ์ ผ่านหุบเขาทุ่งหญ้าสีเหลืองทอง ชายหนุ่มผู้สายตายาวไกลเลี้ยวจอดรถริมขอบทาง ดวงตามุ่งมั่นก้าวลงค่อยๆย่องเท้าฝ่าดงหญ้า พลางมือยกกล้องที่คล้องไว้บนคอ มือนิ่งตาเล็งเป้าโฟกัสแล้วซูมไปที่กวางป่าเขายาวกำลังกินหญ้าอย่างสำราญ แซมรอจังหวะกวางเขายาวสง่าเงยหัวขึ้น เขาอธิษฐาน อยู่ในใจ “อย่าขยับนะ ได้โปรด ๆ อยู่นิ่งๆ” ..แสงแดดย่ามบ่ายแก่ๆ สาดแสงหญ้าเหลืองทองอร่าม กวางหนุ่มผู้มีเขายาวคล้ายกิ่งไม้เงยหัวเผยดวงตาที่น่าเอ็นดู นิ้วเขารีบกดชัตเตอร์ร

  • A World for Just Us Two (โลกที่มีเพียงเราสองคน)    บทที่10.สวรรค์ชั้น 7

    เสียงนกเจื้อยแจ้วบ่งบอกว่าเป็นรุ่งอรุณของวันใหม่คู่หนุ่มสาวที่ผ่านศึกรักที่หนักหน่วง ฝูงนกได้ปลุกให้แซมตื่น เขาขยับร่างมือค่อยเลื่อนสัมผัสร่างสาวเจ้าเสน่ห์เข้ามาชิดแล้วลูบไล้ทั่วร่างเนียน อีฟขยับเปลือกตาด้วยความเคลิ้มรู้สึกได้ถึงมือที่ซุกซนสอดแทรกไปทุกจุดที่ไวต่อการสัมผัสพลันท่อนรักผ่าเข้าร่องสาวที่ตื่นตัว เธอลืมตามองชายหนุ่ม ที่คร่อมร่างเธอและแสงแดดยามเช้าสาดส่องให้เห็นหน้าอกหนุ่มแน่นขาวผ่องผมสีบอลนด์เธอมองลึกลงไปในดวงตาฟ้าใสละมุนเก็บรายละเอียดนี้ไว้ด้วยสายตาแห่งความหลงใหล แล้วจังหวะรักที่แซมเร่งขย่มถี่เพียงครู่ก็สำเร็จกิจหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วอีฟออกมานั่งที่ตรงระเบียงด้วยความรื่นรมย์ กางแผนที่และกระดาษแพลนเที่ยวของแซมที่จดไว้แล้วตามลำดับ มือจับปากกาวงไว้เป็นจุดๆ เพราะที่จริงแล้วนี่คือครั้งแรกของเธอที่ได้ไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้แม้เธอจะรู้ข้อมูลมามากพอสมควรจากตำรา" Are you hungry? "(คุณหิวไหม) แซมเดินออกมาจากห้องเอ่ยถามอีฟที่มองแผนที่สลับกับกระดาษสีขาวพลางมือที่กำลังขยุกขยิก"Yes,I’m hungry" (หิวค่ะ) เธอเงยหน้าขึ้นเพราะท้องร้องได้เริ่มร้อง ว่าหิว“So let’go,Shall we?”

DMCA.com Protection Status