ฉินอันอันตกใจมากจนเผลอถอยไปสองสามก้าว เขาเป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ตอนเขาหลับไม่ได้สติไม่รู้สึกว่าเขาน่ากลัวหรือเป็นอันตราย แต่เมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วนั้นมันช่างอันตรายเหลือเกิน ป้าจางออกมาจากห้องแล้วปิดประตู เมื่อเห็นฉินอันอันหวาดกลัวราวกับกวางที่ตื่นกลัวแบบนั้น เธอจึงพูดปลอบใจว่า "คุณนาย ไม่ต้องกลัวนะคะ นายท่านเพิ่งฟื้นยังไม่รู้เรื่องอะไร คืนนี้คุณนอนที่ห้องรับรองแขกก่อน ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ฉันคิดว่าคุณนายใหญ่ชอบคุณมาก เธออาจจะเข้าข้างคุณก็ได้” ฉินอันอันสับสนว้าวุ่นใจไปหมด เธอเคยคิดว่าฟู่ซื่อถิงจะตายเมื่อไหร่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาได้ “ป้าจาง ของของฉันยังอยู่ในห้องเขา…” ฉินอันอันเหลือบมองไปที่ห้องนอนใหญ่ อยากจะเข้าไปเอาของของตัวเองทั้งหมดออกมา จากที่ฟู่ซื่อถิงมองดูเธออย่างดุร้ายและน่ากลัวในตอนนี้ เธอมั่นใจมากว่าเขาอาจจะไม่ยอมรับเธอเป็นภรรยาของเขา เธอต้องเตรียมตัวพร้อมที่จะออกจากตระกูลฟู่ได้ทุกเวลา ป้าจางถอนหายใจเบา ๆ "ถ้ามันไม่ใช่ของสำคัญก็วางไว้ตรงนั้นก่อนค่ะ! พรุ่งนี้ฉันจะเอามันไปให้คุณเองนะ" ฉินอันอัน "ค่ะ ป้าก็กลัวเขาเหมือนกันเหรอ
เนื่องจากมีภาวะเลือดออก ดังนั้นต้องฝากครรภ์แล้ว! ข่าวนี้เหมือนกับสายฟ้าดลงมา ทำให้ฉินอันอันตกใจมาก “คุณหมอ ถ้าหากฉันไม่ต้องการเด็กคนนี้ล่ะ?” เธอกำลังจะหย่ากับฟู่ซื่อถิง และเด็กในท้องของเธอก็มาผิดเวลา แพทย์ที่ได้ยินเช่นนี้จึงมองเธอแล้วพูดว่า "ทำไมถึงไม่อยากได้ล่ะค่ะ? รู้ไหมว่ามีคนมากมายที่อยากมีลูกแต่มีลูกไม่ได้?" เธอหลุบตาลงแล้วเงียบไป “ทำไมสามีถึงไม่มาด้วย?” แพทย์เอ่ยถาม “ถึงไม่อยากมีลูก ยังไงคุณก็ควรปรึกษาเรื่องนี้กับสามีก่อน” ฉินอันอันขมวดคิ้วแน่น เห็นว่าเธอดูเครียงเครียดขนาดนี้ แพทย์จึงหยิบบันทึกการรักษาของเธอขึ้นมาอ่านดู "คุณเพิ่งอายุยี่สิบเอ็ดปีเอง! คุณยังไม่ได้แต่งงานเหรอ?" ฉินอันอัน "แต่ง...แต่ช่างเถอะค่ะ แต่จะหย่ากันเร็ว ๆ นี้!" “การทำแท้งไม่ใช่การผ่าตัดเล็ก แม้ว่าคุณจะตัดสินใจแล้วที่จะทำ แต่วันนี้ฉันไม่ว่าง คุณลองกลับไปคิดทบทวนก่อน ไม่ว่าความสัมพันธ์ของคุณกับแฟนจะเป็นอย่างไร เด็กก็เป็นผู้บริสุทธิ์” แพทย์ให้บันทึกการรักษาของเธอและบอกว่า "ตอนนี้คุณมีภาวะเลือดออก ถ้าคุณไม่ฝากครรภ์ ก็ยากที่จะบอกว่าเด็กจะรอดได้ไหม?" ทันใดนั้นฉินอันอันก็รู้สึกสงบใจขึ้นมาได้บ
เขาไม่ได้ตั้งรหัสผ่านและเครื่องก็รันเร็วมากเร็วมากซะจนหัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะเธอหายใจเข้าลึก เพื่อเสียบแฟลชไดรฟ์และลงชื่อเข้าใช้บัญชีโซเชียลของเธอหลังจากเข้าสู่ระบบสำเร็จ เธอก็รีบส่งเอกสารไปให้รุ่นพี่ของเธอทันทีทุกอย่างผ่านไปด้วยดีอย่างน่าประหลาดใจส่งเอกสารเรียบร้อยแล้วก่อนเวลาสิบสองนาฬิกาเธอไม่กล้าที่จะอยู่ในห้องอ่านหนังสือต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว เมื่อเธอปิดคอมพิวเตอร์ นิ้วของเธอที่ถือเมาส์สั่นเล็กน้อย และก็คลิกไปที่โฟลเดอร์บางโฟลเดอร์ในคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้ตั้งใจโฟลเดอร์ก็เด้งขึ้นมาดวงตากลมรีของเธอเบิกกว้าง และบังเอิญได้เห็นเนื้อหาของโฟลเดอร์ที่น่าสงสัยนั้น…ห้านาทีต่อมา เธอก็เดินออกจากห้องอ่านหนังสือป้าจางถอนหายใจด้วยความโล่งอก "เห็นไหมคะ ฉันบอกคุณแล้วว่านายท่านไม่รีบกลับมาหรอก?"อารมณ์ของฉินอันอันซับซ้อนมาก ดูเหมือนเธอจะพบความลับของฟู่ซื่อถิงแล้วถ้ารู้แต่แรกเธอคงไม่ใช้คอมพิวเตอร์ของเขาหรอก“ป้าจาง มีกล้องวงจรปิดที่ห้องอ่านหนังสือของเขาหรือเปล่าคะ?”“มีหนึ่งตัวอยู่ข้างนอกห้องค่ะ”ทันใดนั้นฉินอันอันก็หน้าซีด "เขาต้องรู้แน่ ๆ ว่าฉันเข้าห้องหนังสือของเข
เมื่อประตูเปิดออก คุณนายใหญ่ฟู่ก็ยืนอยู่ที่หน้าประตูมองเข้าไปข้างใน ฉินอันอันกอดเข่านั่งพิงกำแพง ผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงมาจากประตู เธอก็หันศีรษะไปอย่างเหม่อลอย… “อันอัน! เธอเป็นยังไงบ้าง!” คุณนายใหญ่ฟู่มองใบหน้าซีดเซียวของฉินอันอัน เธอก็ปรี้ดแตกจนความดันขึ้นทันที “ทำไมเธอถึงกลายเป็นแบบนี้? ใช่... ใช่ซื่อถิงใช่ไหม? เขาทำร้ายเธอใช่ไหม?” เมื่อพูดถึงตรงนี้ เสียงของคุณนายใหญ่ฟู่ก็สั่นเล็กน้อย ฉินอันอันผอมลงมากกว่าเดิม ใบหน้าของเธอซีดเซียวปากก็แห้งแตกไปหมด หน้าอกของเธอยังขยับขึ้นลง และเธออยากจะพูดอะไร แต่ไม่มีเสียงออกมา ป้าจางเดินเข้ามาพร้อมนมอุ่นหนึ่งแก้วแล้วนำมาป้อน "คุณนาย คุณดื่มนมสักแก้วก่อนนะ ไม่ต้องกลัว คุณนายใหญ่อยู่ที่นี่ คุณกินมันได้ค่ะ" คุณนายใหญ่ฟู่ขมวดคิ้วแน่น "เกิดอะไรขึ้น! ซื่อถิงไม่ให้อันอันกินข้าว? อันอันผอมขนาดนี้! เขาอยากจะให้อันอันอดตายรึไง!" เรื่องนี้ทำให้คุณนายใหญ่ฟู่โมโหมาก เธอรีบเดินไปที่ห้องนั่งเล่นไปหาลูกชายเธอ แล้วถามว่า "ซื่อถิง อันอันเป็นภรรยาที่แม่หามาให้ลูก รังแกเธอแบบนี้ จะทำให้แม่คิดยังไง" “ถ้าทำผิดต้องถูกลงโทษ
ก่อนหน้านั้นที่ตรวจ ไม่มีถุงน้ำคร่ำสองถุงนี้ปรากฏขึ้น คิดไม่ถึงเลยว่าเพียงหนึ่งสัปดาห์ เธอจะมีลูกสองคนอยู่ในท้องของเธอ ฉินอันอันหยิบแผ่นอัลตราซาวนด์นั้นแล้วนั่งเหม่อบนม้านั่งในทางเดินเงียบ ๆ แพทย์บอกโอกาสที่จะตั้งครรภ์ลูกแฝดมีน้อยมาก หากทำแท้งครั้งนี้ เธออาจจะไม่สามารถตั้งครรภ์แฝดได้อีก ฉินอันอันยิ้มอย่างขมขื่นในใจ ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของแพทย์ส่วนตัวของตระกูลฟู่ ตอนที่พวกเขาย้ายไข่ที่ปฏิสนธิแล้วไปฝังให้เธอ พวกเขาไม่ได้บอกเธอว่าอาจจะตั้งครรภ์ลูกแฝด บางทีในสายตาของพวกเขา เธอเป็นเพียงเครื่องมือในการสืบพันธุ์ของตระกูลฟู่ตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เธอมีเลือดออก เลยคิดว่าตัวเองกำลังมีประจำเดือน หลังจากเธอบอกแพทย์ส่วนตัวของตระกูลฟู่ไป พวกเขาคิดว่าการปลูกถ่ายล้มเหลวและฟู่ซื่อถิงฟื้นขึ้นมาจะหย่ากับเธอ แพทย์ส่วนตัวของตระกูลฟู่จึงไม่เคยโทรหาเธออีกเลย จะคลอดลูกหรือไม่ ตอนนี้เธอกำลังคิดทบทวนวนไปวนมา หลังจากนั่งอยู่ในโรงพยาบาลนานกว่าหนึ่งชั่วโมง โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์ออกมายืนขึ้นแล้วเดินออกไปนอกโรงพยาบาล “อันอัน พ่อจะไม่ไหวแล้ว! หนูรีบบ้านเร็ว
ทันใดนั้นห้องนั่งเล่นก็เงียบสงบจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น ฉินอันอันกลับไปที่ห้องแล้วปิดประตูดังปัง ‘ปัง’! ดูเหมือนทั้งคฤหาสน์จะสะเทือน กล้าทุบประตูบ้านของฟู่ซื่อถิง ผู้หญิงคนนี้ไม่กลัวตายเลยจริง ๆ ทุกคนแอบมองสีหน้าของฟู่ซื่อถิง และเห็นว่าเขาดูสงบและไม่โกรธ แต่ถ้าใครส่งเสียงดังเกินหกสิบเดซิเบลต่อหน้าเขา เขาจะต้องขมวดคิ้วแน่นอน เสียงของฉินอันอันกระแทกประตูเมื่อครู่นี้น่าจะดังอย่างน้อยเก้าสิบเดซิเบล ทำไมเขาถึงไม่โกรธกัน? ที่สำคัญกว่านั้น ขวดไวน์ที่ฉินอันอันเพิ่งทุบไปมีมูลค่าเกือบสองล้าน และพวกเขายังไม่ได้ดื่มมันเลย เธอทุบมัน...แบบไม่กระพริบตาเลย “เอ่อ... ฉันได้ยินมาว่าพ่อของคุณฉินเสียชีวิตเมื่อวันก่อน ดูจากการที่วันนี้เธอสวมชุดสีดำล้วน เธอคงเพิ่งกลับมาจากไปร่วมงานศพของพ่อเธอ!” มีคนกล้าพูดทำลายความเงียบนี้ ผู้หญิงในชุดสีขาวคือถังเฉียน ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเอสทีกรุ๊ป วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ และเพื่อเฉลิมฉลองการฟื้นขึ้นมาของฟู่ซื่อถิง เธอจึงเชิญเพื่อน ๆ ของฟู่ซื่อถิงมาดื่มที่บ้านของฟู่ซื่อถิง การต่อสู้กับฉินอันอันเมื่อครู่นี้ทำให้เธอเสียหน้าเป็นอย่างมาก
เขายื่นมือออกมานอกหน้าต่างรถ เขายื่นกระดาษทิชชู่ออกมาให้ เธอสะดุ้งตกใจอยากจะปฏิเสธ แต่ยื่นมือไปรับไว้อย่างไม่ได้ตั้งใจ "ขอบคุณนะ" ความอบอุ่นจากฝ่ามือของเขายังคงเหลืออยู่บนทิชชู่ เขารีบละสายตาจากใบหน้าเธอ หน้าต่างรถปิดลงและเร่งความเร็วออกไป สิบโมงเช้า ฉินกรุ๊ป พนักงานยังคงทำงานตามตำแหน่งของตนเองต่อไป บริษัทไม่ได้จ่ายค่าจ้างมานานกว่าหนึ่งเดือน แต่เนื่องจากฉินกรุ๊ปเป็นบริษัทเก่าแก่ในเมือง แม้จะมีข่าวเชิงลบแทบทุกประเภทบนอินเทอร์เน็ต แต่พนักงานไม่ยอมแพ้จนกว่าจะวินาทีสุดท้าย หากไม่รู้ว่าบริษัทมีหนี้จำนวนมาก ฉินอันอันเองก็คงไม่อยากเชื่อเลยว่าความสงบที่อยู่ตรงหน้าเป็นแค่ภาพลวงตา ฉินอันอันเข้าไปในห้องประชุมพร้อมกับรองประธาน เมื่อทนายความเห็นฉินอันอัน เขาก็พูดเข้าประเด็นเลยว่า "คุณฉิน ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ ผมได้รับมอบหมายจากคุณพ่อของคุณ ให้เปิดพินัยกรรมของเขาในตอนนี้" ฉินอันอันพยักหน้า ทนายความเปิดเอกสารและพูดอย่างใจเย็น "พ่อของคุณเป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมดหกรายการ แต่ละทรัพย์สินอยู่ใน... นี่คือเอกสาร โปรดตรวจสอบด้วยครับ" ฉินอันอันหยิบเอกสารตรวจสอบอย่างละเอียด
เวลาสามทุ่ม ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดไหว ใบไม้ร่วงหล่นลงสู่พื้นทำให้เกิดเสียงกรอบแกรบ ทันทีที่ฉินอันอันลงจากรถแท็กซี่ เธอก็รู้สึกหนาวสั่นจนสะดุ้ง เธอถือกระเป๋าแล้วรีบเดินไปที่ประตูบ้านตระกูลฝู ในคืนสลัว เธอสวมชุดกระโปรงสีแดงเซ็กซี่และมีเสน่ห์ เมื่อเช้าตอนที่เธอออกไปข้างนอก เธอสวมเสื้อเชิ้ตธรรมดาและกางเกงลำลอง เมื่อคิดว่าเธอแต่งตัวแบบนี้เพื่อเอาใจผู้ชายคนอื่น ฝูสือถิงจึงอดกำนิ้วแน่นไม่ได้ เมื่อฉินอันอันเดินไปเปลี่ยนรองเท้าที่ทางเข้า เธอก็เห็นฝูสือถิงกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก เสื้อเชิ้ตสีดำที่เขาสวมวันนี้ทำให้เขาดูเย็นชาละน่าเกรงขามมากขึ้น สีหน้าของเขาเย็นชาและไร้อารมณ์เช่นเคย และเธอก็ไม่กล้ามองนานเกินไป หลังจากเปลี่ยนรองเท้าแล้ว เธอก็ลังเลว่าทักทายเขาดีไหม อย่างน้อยเมื่อเช้าเขาก็ยื่นกระดาษทิชชู่ให้เธอ เธอเดินไปที่ห้องรับแขกอย่างใจจดใจจ่อ พลางมองไปทางเขา คืนนี้บรรยากาศแตกต่างจากปกติเล็กน้อย ปกติเวลาเธอกลับมา แม่บ้านจางจะออกมาต้อนรับเธอ วันนี้แม่บ้านจางไม่อยู่เหรอ? เธอสูดหายใจเข้า หัวใจเต้นแรงราวกับกลอง ในที่สุด เธอก็ตัดสินใจไม่ทักเขา “มานี่” น้ำเสียงเย็นชาดั