แชร์

บทที่ 6

เนื่องจากมีภาวะเลือดออก ดังนั้นต้องฝากครรภ์แล้ว!

ข่าวนี้เหมือนกับสายฟ้าดลงมา ทำให้ฉินอันอันตกใจมาก

“คุณหมอ ถ้าหากฉันไม่ต้องการเด็กคนนี้ล่ะ?”

เธอกำลังจะหย่ากับฟู่ซื่อถิง และเด็กในท้องของเธอก็มาผิดเวลา

แพทย์ที่ได้ยินเช่นนี้จึงมองเธอแล้วพูดว่า "ทำไมถึงไม่อยากได้ล่ะค่ะ? รู้ไหมว่ามีคนมากมายที่อยากมีลูกแต่มีลูกไม่ได้?"

เธอหลุบตาลงแล้วเงียบไป

“ทำไมสามีถึงไม่มาด้วย?” แพทย์เอ่ยถาม “ถึงไม่อยากมีลูก ยังไงคุณก็ควรปรึกษาเรื่องนี้กับสามีก่อน”

ฉินอันอันขมวดคิ้วแน่น

เห็นว่าเธอดูเครียงเครียดขนาดนี้ แพทย์จึงหยิบบันทึกการรักษาของเธอขึ้นมาอ่านดู "คุณเพิ่งอายุยี่สิบเอ็ดปีเอง! คุณยังไม่ได้แต่งงานเหรอ?"

ฉินอันอัน "แต่ง...แต่ช่างเถอะค่ะ แต่จะหย่ากันเร็ว ๆ นี้!"

“การทำแท้งไม่ใช่การผ่าตัดเล็ก แม้ว่าคุณจะตัดสินใจแล้วที่จะทำ แต่วันนี้ฉันไม่ว่าง คุณลองกลับไปคิดทบทวนก่อน ไม่ว่าความสัมพันธ์ของคุณกับแฟนจะเป็นอย่างไร เด็กก็เป็นผู้บริสุทธิ์”

แพทย์ให้บันทึกการรักษาของเธอและบอกว่า "ตอนนี้คุณมีภาวะเลือดออก ถ้าคุณไม่ฝากครรภ์ ก็ยากที่จะบอกว่าเด็กจะรอดได้ไหม?"

ทันใดนั้นฉินอันอันก็รู้สึกสงบใจขึ้นมาได้บ้าง "หมอ ฉันจะฝากครรภ์ได้อย่างไรคะ"

แพทย์คนนั้นมองเธออีกครั้ง “คุณไม่ได้อยากทำแท้งเหรอ? ทำใจไม่ได้สินะ? คุณสวยมาก ลูกของคุณก็ต้องสวยมากแน่นอน ถ้าคุณจะฝากครรภ์ ฉันจะสั่งยาให้คุณแล้วกลับไปพักผ่อนหนึ่งสัปดาห์ แล้วสัปดาห์หน้าค่อยกลับมาตรวจอีกครั้ง”

หลังจากออกจากโรงพยาบาล แดดแรงมากจนลืมตาไม่ขึ้น เธอมีเหงื่อเย็นออกเต็มหลัง ขาเธอรู้สึกหนักอึ้งเหมือนถูกตะกั่วถ่วงไว้

ตอนนี้เธอสับสนไม่รู้จะไปที่ไหนหรือจะบอกเรื่องนี้กับใคร

แต่ที่แน่ ๆ บอกฟู่ซื่อถิงไม่ได้

ไม่เช่นนั้น เขาคงสั่งให้บอดี้การ์ดลากเธอขึ้นเตียงผ่าตัดแน่

เธอไม่ได้ตัดสินใจที่จะคลอดลูก ตอนนี้เธอว้าวุ่นใจเกินไปและอยากให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ

เธอจอดรถข้างถนนและโทรหาบ้านลุงของเธอ

ตั้งแต่พ่อกับแม่หย่ากัน แม่ก็กลับมาอยู่กับลุง

ครอบครัวลุงไม่รวยเท่าตระกูลฉิน แต่ก็ยังถือว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะดี

“อันอัน มาคนเดียวเหรอ?” เมื่อป้าสะใภ้เห็นว่าเธอมามือเปล่า สีหน้าก็อึมครึมขึ้นมาทันที “ได้ยินมาว่าเธอเอาของฝากหรูหราตั้งเยอะไปฝากตอนที่กลับไปบ้านพ่อครั้งที่แล้ว! ใช่สิ ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ เลยไม่สนใจเรื่องมารยาทเอาของฝากมาให้”

เดิมทีว่าจะต้อนรับฉินอันอันอย่างดี แต่พอเห็นเธอมามือเปล่า ก็ทำตัวเย็นชาใส่ทันที

ฉินอันอันสะดุ้งตกใจ "ป้า ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ครั้งหน้าฉันจะเตรียมของขวัญมาแน่นอน"

“ช่างเถอะ! ดูจากหน้าเธอแล้ว คงถูกไล่ออกจากตระกูลฟู่แล้วสินะ ฉันได้ยินมาว่าฟู่ซื่อถิงฟื้นขึ้นมาแล้ว ในบ้านนั้นคงไม่เห็นหัวเธอแล้วสินะ ไม่งั้นจะมาหาแม่ทั้งน้ำตาไหม?”

ฉินอันอันถูกด่าจนหน้าร้อนไปหมด

จางหยุนเห็นลูกสาวของเธอถูกรังแกและพูดทันทีว่า "ถึงลูกสาวของฉันจะถูกตระกูลฟู่ไล่ออกมา เธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาหัวเราะเยาะใส่หรอกนะ"

“จางหยุน ฉันพูดเรื่องจริงไม่กี่คำ แทงใจดำเธอรึไง? ฉันไม่สนใจด้วยซ้ำว่าจะมีใครอยู่ที่นี่... ถ้าเธอเก่งนักนะ ก็ย้ายออกไปเลยสิ!”

จางหยุนโกรธมาก อยากจะเถียงแต่ทำไม่ได้

ฉินอันอันเห็นทั้งหมดนี้ด้วยตาตัวเอง เธอรู้สึกจุกอกด้วยความรู้สึกที่ประดังประเดเข้ามา

เธอคิดเสมอว่าแม้ว่าชีวิตของแม่เธอที่บ้านลุงคงจะไม่ดีเท่ากับครอบครัวฉิน แต่ก็คงไม่ได้แย่เกินไป

คิดไม่ถึงเลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับป้าจะแย่ขนาดนี้

“แม่ ทำไมไม่ย้ายออกไปเช่าบ้านล่ะคะ หนูยังพอมีเงินอยู่…” ฉินอันอันพูดอย่างยากลำบาก

จางหยุนพยักหน้า "อืม งั้นแม่ไปเก็บของนะ"

ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แม่และลูกสาวก็ออกมาจากบ้านตระกูลจางและขึ้นแท็กซี่

“อันอัน หนูไม่ต้องกังวลเรื่องแม่หรอกนะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม่เก็บเงินได้นิดหน่อย ที่แม่ยังไม่ย้ายออกก็เพราะว่าคุณยายเราสุขภาพไม่ดีเลย เธอขอให้แม่อยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะยายของเรา แม่คงย้ายออกไปนานแล้ว” จางหยุนฝืนยิ้มแล้วพูดออกมา

ฉินอันอันหลุบตาลงเล็กน้อย คิดสักครู่แล้วพูดว่า "อันที่จริงสิ่งที่ป้าพูดมานั้นก็ถูก อีกสองวันนี้หนูจะหย่ากับฟู่ซื่อถิง"

จางหยุนตกใจและเข้ามาปลอบเธอ "ไม่เป็นไร เรายังเรียนไม่จบ ไว้หลังจากหย่าแล้วค่อยมาจัดการเรื่องเรียนจบกัน"

“แม่คะ หลังจากหย่าแล้ว หนูจะไม่กลับไปอยู่กับตระกูลฉิน หนูจะอยู่กับแม่!” ฉินอันอันเอาหัวซบไหล่แม่ ไม่คิดจะบอกแม่เรื่องที่ตัวเองท้อง

ถ้าบอกแม่ แม่ต้องกังวลจนแทบบ้าแน่

ในตอนเย็น ฉินอันอันกลับมาที่คฤหาสถ์

ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่เงียบสงบจนจนแทบได้ยินเสียงเข็มหล่น

“คุณนาย คุณกินข้าวมาหรือยัง? ฉันเก็บกับข้าวไว้ให้คุณ มีผ้าอนามัยด้วย ฉันซื้อมาให้คุณแล้ว” จู่ ๆ ป้าจางก็ออกมา ฉินอันอันก็ตกใจเหงื่อเย็นไหลซึม

“ป้าจาง ฉันกินข้าวแล้วค่ะ ขอบคุณนะ ทำไมบ้านถึงเงียบขนาดนี้ เขาไม่อยู่บ้านเหรอ?” ฉินอันอันถามอย่างสบาย ๆ ก่อนเข้าห้อง

“นายท่านยังไม่กลับมาค่ะ ขนาดหมอจะขอให้เขาพักฟื้นที่บ้าน แต่เขาก็ไม่ฟังหมอเลย” นางจางถอนหายใจ “นายท่านคงมีความคิดเป็นของตัวเองและไม่มีใครสั่งเขาได้"

ฉินอันอันพยักหน้าเล็กน้อย

การเจอกับเขาแค่ระยะสั้น ๆ ความประทับใจของเธอที่มีต่อเขาช่างลึกซึ้งจริง ๆ

เขาเป็นคนไม่ฟังใคร โหดร้ายและเหย่อหยิ่ง...

เธอรู้สึกสงสารเขานิดหน่อยตอนที่เขาป่วย และความรู้สึกเหล่านั้นก็หายไปเมื่อเขาฟื้นขึ้นมา

ในตอนกลางคืน ฉินอันอันนอนไม่หลับ

เมื่อนึกถึงเด็กในท้อง เธอก็ไม่ได้สงบกว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลเลย แต่กลับรู้สึกว้าวุ่นและเจ็บปวดมากกว่า

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในพริบตา จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น

เธอไม่อยากเห็นฟู่ซื่อถิง เธอจึงไม่ออกจากห้อง

ตอนเก้าโมงครึ่ง นางจางเคาะประตู "คุณนาย นายท่านออกไปแล้ว ออกมาทานอาหารเถอะค่ะ"

ฉินอันอันเองก็คิดไม่ถึงว่านางจางจะเข้าใจความคิดในใจเธอขนาดนี้ แก้มเธอก็แดงขึ้นมาทันที

หลังอาหารเช้า ฉินอันอันได้รับโทรศัพท์

เป็นสายจากรุ่นพี่คนหนึ่งขอให้เธอทำงานแปลต้นฉบับ

“อันอัน ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังยุ่งอยู่กับวิทยานิพนธ์ แต่ต้นฉบับนี้น่าจะธรรมดาสำหรับเธอ และราคาที่ลูกค้าให้ก็สูงมาก แต่จะต้องทำให้เสร็จก่อนเที่ยงวันนะ”

ตอนนี้ฉินอันอันขาดเงิน หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเธอจึงตอบตกลง

ตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง ก็แปลเสร็จ เธอตรวจสอบต้นฉบับสองรอบ หลังจากแน่ใจว่าไม่มีปัญหา เธอว่าจะส่งเอกสารให้รุ่นพี่ของเธอ

ทันใดนั้นหน้าจอก็กระพริบสองครั้ง

เธอมองดูด้วยความกลัวเมื่อหน้าจอเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน จากนั้นจากสีน้ำเงินเป็นสีดำ...

แล็ปท็อปค้างโดยสิ้นเชิง!

โชคดีที่เอกสารถูกบันทึกไว้ในแฟลชไดรฟ์

เธอหายใจออก และดึงแฟลชไดรฟ์ออกจากแล็ปท็อป

เธอต้องหาคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เพื่อส่งไฟล์ในแฟลชไดรฟ์ให้รุ่นพี่ของเธอ

“ป้าจางคะ คอมฉันมีปัญหา ตอนนี้มีเรื่องเร่งด่วนต้องใช้คอม พอจะมีคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่บ้านไหม ฉันจะส่งไฟล์เอกสารน่ะค่ะ”

“มีค่ะ แต่เป็นของนายท่าน”

ฉินอันอันรู้สึกขนลุกมาก

เธอกล้าใช้คอมพิวเตอร์ของฟู่ซื่อถิงได้อย่างไร

“คุณแค่ส่งไฟล์เอกสารไปก็ไม่น่าจะใช้เวลานานใช่ไหมคะ?” ป้าจางมองดูสีหน้ากังวลของเธอและอยากช่วย “ถึงแม้นายท่านจะดุ แต่ก็ไม่ใช่คนใจดำ ถ้ารีบ ก็รีบใช้เถอะค่ะ เขาไม่โทษคุณหรอก”

ฉินอันอันดูเวลา

นี่ก็สิบเอ็ดโมงห้าสิบแล้ว

เธอต้องส่งเอกสารก่อนเที่ยง

ห้องอ่านหนังสือของฟู่ซื่อถิงอยู่บนชั้นสอง

ในระหว่างที่เขาป่วย ไม่มีใครเข้ามาในห้องอ่านหนังสือของเขาอีก นอกจากคนรับใช้ทำความสะอาด

ฉินอันอันกลัวว่าฟู่ซื่อถิงจะรู้ แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็อยากได้รับค่าจ้างงานง่าย ๆ นี้ด้วย

เธอต้องการเงิน

ถ้าหากอยากทำแท้งก็ต้องหาเงินมาทำแท้งก่อน

เด็กไม่ได้เกิดจากโดยเธอเพียงลำพัง แต่ยังเกิดจากฟู่ซื่อถิงด้วย

เธอยืมคอมพิวเตอร์ของเขามาใช้ ก็ถือว่าเขาช่วยในการทำแท้งด้วย

เมื่อเข้าวสู่ห้องอ่านหนังสือ เธอเดินไปที่โต๊ะแล้วเปิดคอมพิวเตอร์

เธอคิดว่าถ้าเขาน่าตั้งรหัสผ่านบนคอมพิวเตอร์ของเขา เธอจึงไม่ใช้คอมพิวเตอร์ของเขา จู่ ๆ หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็สว่างขึ้นทันที

ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
วรินยา แซ่ข้อ
สงสารอันๆๆ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status