All Chapters of นางมารหมื่นบุปผา: Chapter 1 - Chapter 10

83 Chapters

บทที่ 1

รัชสมัยแห่งพระเจ้าซ่งไทจู่ ราชวงศ์ซ่งที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยความขัดแย้งและการรวบรวมอาณาจักรจากความแตกแยกและขัดแย้งให้เป็นปึกแผ่น ชีวิตของประชาชนอยู่ท่ามกลางการแปลงเปลี่ยน ในราชสำนักเต็มไปด้วยการแก่งแย่งเพื่อผลประโยชน์ของตน ไม่ว่าโลกภายนอกจะวุ่นวายสักเพียงใดหากยังมีอีกโลกหนึ่งซึ่งไกลห่างจากความสับสนทั้งมวล นั่นคืออารามวัดโค้วอิงยี่ บนยอดเขางังฮ้วยฮง หนึ่งในยอดเขาสูงในม่านเมฆแห่งเขาเหลียงซาน หยางเซิงไต้ซือเฒ่านั่งสวดคำภีร์ต่อหน้าองค์พระภายในอารามเก่าแก่แม้เวลาล่วงเลยไปจนดึก แสงจันทร์สาดส่องลอดเข้ามาทางช่องลมบนผนังอาบควันธูปเทียนที่ลอยอวลภายในนั้น ทว่าทุกอย่างดูเหมือนเกิดความผิดปกติขึ้นในฉับพลันเมื่อเปลวเทียนสะบัดไหวราวถูกเป่าด้วยลมแรงหากไม่ยอมดับลง หยางเซิงไต้ซือลืมตาขึ้นพร้อมกันนั้นและวางลูกประคำในมือลงก่อนเอียงหน้าเล็กน้อยหากไม่ยอมเหลียวหลังกลับไปแม้รู้สึกถึงการมาของใครคนหนึ่งทั้งที่ไม่ได้ยินเสียงประตูอารามที่เปิดเข้ามาแม้แต่น้อย รอยปากหยักล้อมรอบด้วยหนวเครายาวขาวโพลนบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งกาลเวลาหยัดขึ้น “เจ้ามิได้เข้ามาในที่นี
last updateLast Updated : 2024-11-07
Read more

บทที่ 2

น้ำเสียงหนักของนางบังเกิดลมพัดไหววูบจนเปลวเทียนที่จุดรอบอารามดับไปเกือบททั้งหมด ยังเหลือเปลวสีทองของเทียนต่อหน้าองค์พระและทำให้หยางเซินไต้ซือชะงักงันเมื่อเขานึกอะไรได้บางอย่าง“นี่คืออำนาจแห่งลมปราณภายในกายเจ้า มันหนักหน่วงและทรงพลังยิ่งจนอาจทำลายอารามเล็ก ๆ นี้ได้ในพริบตา ไม่สิ...มันอาจทำลายอารามในวัดนี้ได้ทีเดียวทั้งหมด ฟางซิน...นี่เจ้าฝึกวรยุทธจากคัมภีร์ฟางเหลยถึงขั้นสูงแล้วใช่หรือไม่”เมื่อถูกเตือนสติอารมณ์ของฟางซินจึงสงบลง นางตวัดสายตาเพียงน้อยเปลวไฟก็จุดขึ้นบนเทียนไขจนอารามเล็กสว่างไสวขึ้นอีกครั้งแต่ยังความตระหนกแก่ไต้ซือเฒ่ายิ่งนัก นางไม่ยอมตอบขณะหยางเซินไต้ซือส่ายหน้าและทอดถอนใจ“ฟางซิน...เจ้าไม่บอกข้าก็ไม่เป็นไร เมื่อเจ้ามาที่นี่ก็ดีแล้ว ข้ามีเรื่องที่อยากถาม...เมื่อไม่กี่วันมานี้มีคนจากราชสำนักเดินทางมายังเขาหวงซานแต่ถูกฆ่าตายทั้งหมด เจ้า...คือผู้ปลิดชีพคนเหล่านั้นใช่หรือไม่?”“ข้าไม่รู้ไม่เห็นกับเรื่องที่ท่านว่ามา”ผู้ฟังเลิกคิ้วขาวโพลนด้วยความฉงน “เจ้าว่าอย่างไรนะ นี่เจ้าแกล้งไม่รู้หรือว่าไม่รู้เรื่องจริง ๆ กันแน่”“ผิดก็ว่าผิด ถูกก็ว่าถูก ถึงข้าจะอยู่พรรคมารแต่ก็รู้ถึงคุณ
last updateLast Updated : 2024-11-07
Read more

บทที่ 3

“ท่านประมุขคะ”“เจ้ากลับไปยังสำนัก ส่วนข้าจะเข้าไปในหมู่บ้าน”“แต่...ท่านประมุข ท่านจะไปคนเดียวหรือคะ”“ข้าจะไปสืบเรื่องการตายของคนจากวังหลวง มีคนป้ายสีว่าข้าเป็นคนปลิดชีพคนพวกนั้น หากรู้ว่าเป็นผู้ใดข้าจักไม่เก็บมันไว้ให้เป็นขวากหนามของพรรคเรา”“แต่ตอนนี้ท่านยังอยู่ในช่วงเวลาของการฝึกวรยุทธขั้นสุดท้ายนี่ไม่ใช่หรือคะ”“ข้าจะรีบกลับไปให้เร็วที่สุด อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่ราตรี”“แล้วจะให้ข้าเรียนต่อท่านเพ่ยหลินว่าเช่นไร”“บอกเพียงว่าข้ามีธุระสำคัญที่ต้องสะสาง...เจ้าไปได้แล้ว”สิ้นคำสั่งเหมยเหม่ยก็ค้อมศีรษะลงอีกครั้งโดยไม่ตั้งคำถามใดก่อนจะใช้วิชาตัวเบาลอยละลิ่วข้ามหลังคาอารามวัดหายไปในเงามืดใต้แสงจันทร์เสี้ยว ฟางซินก้มมองตัวเองที่บัดนี้เหลือเพียงชุดเสมือนหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา เรือนผมยาวเงางามดำขลับมุ่นไว้เหนือศีรษะปราศจากเครื่องประดับอลังการอย่างประมุขพรรคมาร นางหันกลับไปมองอารามเล็กก่อนก้าวลงไปตามทางเดินลาดชันของหุบเขาในหมู่เมฆเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังหมู่บ้านด้านล่าง*************************“ท่านแม่ทัพเฉิง...ข้าเห็นแสงคบเพลิงอยู่ไม่ไกล เราเดินทางจวนถึงหมู่บ้านแล้วขอรับ”หวังซื่ออยู่บนหลังม้า
last updateLast Updated : 2024-11-07
Read more

บทที่ 4

เฉิงจิ้นเหอตะโกนถามกลับอย่างไม่กลัวเกรงยังความไม่พอใจแก่หนุ่มวัยฉกรรจ์ทั้งสาม“ไม่ใช่เรื่องของเจ้าอย่ามายุ่งย่ามจะดีกว่า ถ้าไม่อยากถูกฆ่ายามวิกาลโดยมิมีผู้รู้เห็นก็จงไปซะ!“แสดงว่าพวกเจ้ากำลังทำเรื่องไม่ดีจริง ๆ ด้วย แต่ขอโทษที ข้าล่ะชอบนักกับไอ้การเข้าไปยุ่งย่ามเรื่องชาวบ้าน”“จิ้นเหอ!”หวังซื่อร้องปรามตัวสั่นเพราะตนเองนั้นไร้วรยุทธ หากไม่ทันเสียแล้วเมื่อแม่ทัพหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้า เฉิงจิ้นเหอตวัดผ้าคลุมออกทำให้เห็นรูปร่างสูงใหญ่กำยำในชุดสีดำน่าเกรงขาม ดวงตายาวรีบนใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลักของเทพจ้องคนทั้งสามที่ย่างสามขุมเข้ามาพร้อมกันหญิงสาวซึ่งถูกรายล้อมเมื่อครู่ขยับก้าวถอยหลังแต่กลับสะดุดตอไม้ล้มลง นางเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็เห็นประกายเงาวับสะท้อนจากปลายดาบของชายหนุ่มที่ตวัดไปมาปะทะคมดาบของชายทั้งสามเสียงดังสนั่นหวั่นไหวก่อนคนเลวทั้งหมดจะถูกปลายดาบคมกริบตวัดลงกลางหลังและกลางลำตัวล้มลุกคลุกคลานวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงทั้งที่ตามร่างกายเปื้อนเปรอะด้วยโลหิตแดงฉานหายไปคนละทิศคนละทางในความมืด“แม่นาง...เป็นอย่างไรบ้าง”เฉิงจิ้นเหอปราดเข้าไปประคองร่างของสตรีที่นั่งตกตะลึงบนพื้น นางเงยหน้าขึ้น
last updateLast Updated : 2024-11-07
Read more

บทที่ 5

“แต่เลือดของเจ้าออกมาก เห็นทีว่าเจ้าจะเดินไม่ไหว เอาอย่างนี้ข้าจะรัดปากแผลให้เจ้าก่อน ว่าแต่...เจ้ากำลังจะไปไหน”“ข้าเดินทางมาหาญาติของข้าในหมู่บ้าน”“เขาอยู่ที่ไหนรึ”“ข้าไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน คิดว่าจะมาหาที่พักนอนก่อนสักราตรีแล้ววันพรุ่งจึงจะออกไปถามคนในหมู่บ้าน ว่าแต่...ท่านล่ะ เอ้อ...ข้ายังไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของท่านเลย”“เรียกข้าว่าจิ้นเหอ”“ท่านมาทำอะไรที่นี่”“ข้ากำลังจะเดินทางไปยังวัดโค้วอิงยี่ ข้ามีธุระสำคัญที่นั่น...หากเจ้าเดินไม่ไหวจริง ๆ ข้าจะให้เจ้านั่งบนหลังม้าของข้าเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกัน”เฉิงจิ้นเหอไม่กล่าวอันใดมากไปกว่านั้น เขาให้หวังซื่อหยิบผ้าและยาจากถุงย่ามบนหลังม้าเพื่อทำแผลให้หญิงสาวอย่างว่องไวแต่ก็เรียบร้อยดีก่อนจะอุ้มนางขึ้นไปนั่งบนหลังอาชาสีเผือกโดยยอมเป็นผู้จูงม้าเดินเข้าไปยังหมู่บ้าน ท่าทีของเขาสงบเยือกเย็นดุจน้ำใต้ขุนเขา แววตากล้าแข็งของเขาบ่งบอกอะไรบางอย่างที่นางคาดการว่าบุรุษงามสง่าดุจเทพผู้นี้หาใช่ชาวบ้านธรรมดาสามัญทั่วไป และสิ่งที่จุดความสงสัยแก่นางอย่างยิ่งคือจุดประสงค์ของการเดินทางไปยังอารามบนยอดเขาหวงซานทั้งสามเข้าไปในหมู่บ้านยามวิกาลกระทั่
last updateLast Updated : 2024-11-07
Read more

6

จิ้นเหอหันมาถามหญิงสาวที่เขากำลังประคองไหล่ของนางไว้ ทว่าฟางซินกลับมิได้รู้สึกว่าเขาฉวยโอกาสแต่อย่างใดเพราะแววตาที่เขามองมายังนางนั้นสำแดงความห่วงใยอย่างจริงจัง เขาค่อย ๆ ผละห่างและนางต้องแสดงว่าสามารถเดินเองได้“ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก มันอาจลำบากแค่เวลาที่ข้าลงจากหลังม้าเท่านั้น หลังจากนี้ข้าช่วยเหลือตัวเองได้”จิ้นเหอพยักหน้าและเดินนำหน้าเข้าไปในโรงเตี๊ยมเล็ก ๆ สร้างติดหน้าผาอันเป็นเส้นทางแคบก่อนเข้าไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ ภายในโรงเตี๊ยมมีคนนั่งอยู่สองสามคนล้วนเป็นผู้ชาย ที่โต๊ะหนึ่งมีคนยกไหเหล้าขึ้นซดอย่างไม่ยี่หระขณะเจ้าของโรงเตี๊ยมเป็นชายแก่อายุประมาณสักหกสิบกว่าวิ่งเข้ามาหาคนทั้งสาม“นายท่าน...เชิญครับเชิญนั่ง คนของข้าได้จัดเตรียมห้องพักไว้ให้ท่านแล้วสองห้อง สำหรับท่านกับฮูหยินหนึ่งห้องและเพื่อนของท่านหนึ่งห้อง ไม่ทราบว่าท่านต้องการรับน้ำชาและอาหารก่อนหรือไม่”“จัดอาหารและน้ำชามาให้เพื่อนของข้าและฮูหยินของข้า จะเป็นอาหารอะไรก็ได้ที่โรงเตี๊ยมของเจ้ามีในตอนนี้”“ครับท่าน”เจ้าของโรงเตี๊ยมกุลีกุจอวิ่งกลับเข้าไปด้านในเมื่อได้ยินเสียงจิ้นเหอสั่ง ฟางซินนึกประหลาดใจที่เขายอมรับออกมาว่านางเ
last updateLast Updated : 2024-11-09
Read more

7

“อือ” เสี่ยวเอ้อส่ายหน้าพร้อมหรี่นัยน์ตา “ไม่เคยเห็นหรอก ไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของนาง แต่มีคนหนึ่งที่เคยออกมาประกาศว่าเคยสับประยุทธ์กับนางมารใจอำมหิต”“เขาเป็นใคร?” จิ้นเหอถามอย่างใคร่รู้“เขาคือไป๋เจี้ยน...จอมยุทธกระบี่ขาวประมุขพรรคเฟิงอี้ เขาคือผู้เยี่ยมยุทธในดินแดนหวงซาน มิมีผู้ใดกล้าต่อกรกับคนผู้นี้ ฝีมือกระบี่ของเขาล้ำเลิศยอดยี่ยมหาผู้ใดเทียม”“แล้วการสับประยุทธ์กันผู้ใดเป็นฝ่ายชนะกันเล่า”หวังซื่อถามอย่างใคร่รู้เช่นกันขณะฟางซินนั่งอย่างเยือกเย็น นางไล่ความร้อนบนผิวน้ำชาในถ้วยใบเล็กตรงหน้าด้วยปลายนิ้วที่ส่งพลังออกมาโดยมิมีผู้ใดสังเกตเห็น“ไป๋เจี้ยนบอกว่าเขาเกือบเอาชนะนางได้ แต่นางหนีไปเสียก่อน...ข้าว่าเขามิได้โป้ปดหรือสร้างเรื่องขึ้นมาแน่นอน ผู้เยี่ยมยุทธ์เช่นเขาน่านับถือยิ่งนัก ข้าเคยพบเขาแล้ว เขาผ่านมายังหมู่บ้านนี้และแวะดื่มน้ำชาที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ด้วยนะท่าน”หน้าตาของเสี่ยวเอ้อบ่งบอกถึงความภูมิใจที่ได้รู้จักกับผู้เปี่ยมวิทยายุทธ์สูงส่ง ฟางซินตวัดสายตามอง หัวใจของนางกำลังร้อนรุ่มขึ้นมาทีละน้อยหากก็ต้องสยบคลื่นอารมณ์ที่จะทำให้ลมปราณภายในผันผวน คงมีนางเท่านั้นที่รู้ว่าไ
last updateLast Updated : 2024-11-09
Read more

8

“ขอบคุณท่านมาก...คนอย่างท่านหาได้ยากยิ่ง วันหนึ่งข้าคงได้ตอบแทนบุญคุณของท่านที่ช่วยเหลือข้าในครั้งนี้”“เจ้าเคยได้ยินคำนี้หรือไม่...ไม่มีใครเลี้ยงอาหารใครเปล่า ๆ โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน แต่ข้าเลี้ยงอาหารเจ้าหนนี้หวังเพียงเจ้าจะได้มีแรงเดินทางไปพบญาติของเจ้าในวันพรุ่ง นอนหลับพักผ่อนเถิด เมื่อฟ้าสางข้าจะพาเจ้าเข้าไปส่งในหมู่บ้าน”ฟางซินมิรู้ว่าจะตอบกลับไปเช่นใด ในหัวใจของนางบังเกิดความซาบซึ้งอย่างมิเคยเป็นมาก่อน ชั่วชีวิตของนางจมอยู่กับความแค้นและเจ็บปวดเพราะคิดว่าคงมิมีผู้ใดในปฐพีนี้จริงใจหากมิมีผลประโยชน์ต่อกัน จิ้นเหอเป็นคนแรกที่ทำให้หัวใจของนางมารอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาดแม้นี่จะเป้นครั้งแรกที่ได้พบ ฟางซินเข้าไปในห้องพักที่ได้รับการปัดกวาดอย่างสะอาดสะอ้านแม้เป็นห้องเล็ก หากแต่นางมิได้คิดว่าจะนอนหลับอย่างสบายใจ มีอะไรบางอย่างที่กระตุ้นเตือนให้นางใคร่รู้มากกว่าการเดินทางเข้ามายังหมู่บ้านแห่งนี้ และสิ่งที่ทำให้นางมิอาจล้มตัวลงนอนได้ในทันทีทันใดคือความสงสัยในตัวบุรุษหนุ่มรูปงามผู้นั้น แม้เขาจะแสดงความดีและจริงใจหากฟางซินก็ยังคงเคลือบแคลง นางตรงไปยังหน้าต่างห้องและเปิดมันออก มองออกไปเห
last updateLast Updated : 2024-11-09
Read more

9

จิ้นเหอร้องเรียกและไม่ยอมลดละติดตามร่างอรชรในชุดพลิ้วเบาที่ลอยตัวอยู่ไม่ห่างจากสายตาของเขาแม้เป็นคืนเดือนเสี้ยว ด้วยวิชาการรบและชั้นเชิงการต่อสู้ที่ไม่เป็นรองผู้ใดทำให้หนึ่งในแม่ทัพใหญ่แห่งองค์ซ่งไท่จู่ผู้เกรียงไกรที่แม้มิอาจลอยตัวเหยียบปลายไม้ได้หากก็สามารถกระโดดข้ามจากไม้ต้นหนึ่งไปยังอีกต้นอย่างว่องไว“หยุดเดี๋ยวนี้...อย่าคิดว่าจะหนีพ้น!”จิ้นเหอตะโกนและเสียงกังวานที่แหวกความมืดไปนั้นทำให้ร่างอรชรในชุดพลิ้วไหวที่ลอยตัวลงบนพื้นหยุดนิ่งอยู่ด้านหน้าห่างจากเขาเพียงไม่กี่ก้าว นางหันกลับมาและแสงสว่างจากจันทรานั้นมิเพียงพอจะให้เขาเห็นหน้าชัดเจนหากก็ทำให้แม่ทัพผู้กล้าแกร่งซึ่งดึงดาบออกจากฝักต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าผู้ที่เขาตามติดมานั้นเป็นอิสตรี แม่ทัพหนุ่มอึ้งไปเพียงเสี้ยวความรู้สึกทว่ายังกุมดาบในมือมั่นด้วยประหวัดนึกได้ว่านางผู้อยู่ตรงหน้ามิใช่หญิงธรรมดาด้วยนางมีวิชาตัวเบา“บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเจ้าเป็นใคร เมื่อกี๊เจ้าแอบดูข้าจากหลังคาโรงเตี๊ยมใช่หรือไม่”เขาถามเสียงกังวานในความหมองของราตรี ฟางซินถอยหลังไปหนึ่งก้าว นางไม่อาจตอบเขาได้เพราะเกรงว่าจิ้นเหอจะจำได้หากได้ยินเสียงของนางจึงหยุดยืนนิ่
last updateLast Updated : 2024-11-09
Read more

10

“แล้วท่านเห็นหรือไม่ว่านางเป็นใคร”“นางใช้ผ้าปิดหน้าและราตรีนี้แทบไม่มีแสงจันทร์ จึงไม่อาจรู้ได้เลยว่านางเป็นใคร แต่นางมิใช่ธรรมดาเพราะสามารถฆ่าหมาป่าตัวใหญ่ด้วยวิทยายุทธ์ไม่ถึงหนึ่งกระบวนท่า”“ท่านได้สับประยุทธ์กับนางหรือไม่”“ข้าพลาดท่าและนางหนีไปเสียก่อน แต่ฝีมือของนางมิใช่ธรรมดาเลย ฟางซิน...นั่นชุดของเจ้าเปื้อนเลือด!”จิ้นเหอก้มลงมองที่ชายกระโปรงของหญิงสาว ฟางซินชะงักกึก นางมิทันสังเกตด้วยซ้ำว่าชุดของนางเปื้อนเปรอะโลหิต คงเป็เมื่อครู่ที่นางใช้กลีบดอกไม้ปลิดวิญญาณล้มเจ้าหมาป่าดุร้ายตัวนั้นอย่างรวดเร็วฉับไว“อ้อ...เลือดที่ข้อเท้าของข้าเองนั่นล่ะท่านจิ้นเหอ...เอ้อ...ข้าเผลอเดินสะดุดขาโต๊ะจึงมีเลือดไหลออกมา”“ถ้าเช่นนั้นข้าก็โล่งใจ แต่เจ้าต้องระมัดระวังตัวเพราะข้าชักไม่แน่ใจว่าจะมีผู้ประสงค์ร้ายอยู่แถวนี้อีกหรือไม่ หากมิมิสิ่งใดแล้วข้าก็คงต้องขอตัวก่อน ต้องขอโทษด้วยที่มารบกวนเจ้า”“มิเป็นไร ท่านแสดงความเป็นห่วงข้าก็ซาบซึ้งในน้ำใจยิ่งนัก”“ฟางซิน”จิ้นเหอที่หันหลังให้หันกลับมาอีกครั้งและทำให้ฟางซินที่กำลังจะปิดประตูห้องต้องชะงัก“มีอะไรหรือคะ ท่านจิ้นเหอ”“ปิดประตูหน้าต่างให้แน่นหนา หา
last updateLast Updated : 2024-11-09
Read more
PREV
123456
...
9
DMCA.com Protection Status