สมัยมัธยมปลาย ฉันกับเฉินมั่วไป๋นั่งข้างกันมาสามปีเต็มๆที่ฉันจำได้มาถึงตอนนี้คือ ตอนที่เฉินมั่วไป๋เลือกที่จะเรียนสายภาษาครูที่ปรึกษามองคะแนนสายวิทยาศาสตร์ที่สูงลิบลิ่วของเขาด้วยความไม่เข้าใจเฉินมั่วไป๋ปรายตามองฉันเล็กน้อย บอกว่าเขาอยากถ่ายทอดเรื่องราวฉันกลับนิ่งเงียบตอนนั้น ฉันรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แม้กระทั่งความฝันวัยรุ่นที่มากมายก็พูดออกมาไม่ได้หลังจากนั้น เฉินมั่วไป๋ก็นำบทความที่ฉันเขียนเข้าร่วมการแข่งขันแทนฉันเขานำประกาศนียบัตรที่ได้รับ มากองไว้ตรงหน้าฉัน ชี้ไปตรงด้านบนที่เขียนว่า “เสิ่นหนานอี้” แล้วกล่าวว่า:“ไม่ต้องกลัว เสิ่นหนานอี้ เธอดูสิ เธอยอดเยี่ยมมากเลยนะ”ช่วงเวลานั้น ตอนที่แสงอาทิตย์สาดส่องลงมา เขามักจะชอบเอนตัวงีบหลับมาทางฉันเสมอหากวันใดที่ฉันเขียนโครงเรื่อง เขาก็จะหรี่ตาแล้วพูดพึมพำว่า:“ต่อจากนี้เธอเขียนเรื่องราว ฉันถ่ายทอดเรื่องราว พวกเราจะอยู่ด้วยกันนิจนิรันดร์”ตอนนั้นยังเด็ก หลังจากที่คิดวาดฝันอย่างเป็นจริงเป็นจังฉันเองก็คิดอยู่ช่วงหนึ่งว่า นั่นจะเป็นอนาคตของพวกเราวันที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จสิ้น วันนั้นฝนตกอย่างหนักตอนที่ฉันเดินออกมาจาก
Read more