All Chapters of บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง: Chapter 131 - Chapter 140

274 Chapters

บทที่ 131

“ดวงชะตาขององค์หญิง ข้าได้ฟังมาบ้างแล้วเช่นกัน ค่อนข้างคู่ควรกับหวนเอ๋อร์เพคะ”นางพูดมาถึงตรงนี้ก็จ้องมองซือเจ๋อเยว่ด้วยดวงตาที่เปล่งประกายระยิบระยับทั้งสองข้าง “หากองค์หญิงทรงมีความคิดเรื่องแต่งงานใหม่ ทรงพิจารณาหวนเอ๋อร์ดูนะเพคะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”คำพูดประโยคนี้ของฮูหยินเหวยค่อนข้างตรงไปตรงมา ถึงแม้ว่าซือเจ๋อเยว่จะไม่รู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ยังรู้สึกแปลก ๆตัวตนของนาง ในราชสำนักเดิมทีก็มีความน่าอึดอัดอยู่บ้าง เมื่อทอดสายตามองในราชสำนัก มีเพียงไม่กี่คนที่กล้าแต่งงานกับนางนางขมวดคิ้วเล็กน้อย เสียงของพระชายาเยียนอ๋องดงลอยมา “องค์หญิง ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่!”ฮูหยินเหวยเห็นพระชายาเยียนอ๋องที่ยืนอยู่บริเวณไม่ไกล นางรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย เกรงว่าพระชายาเยียนอ๋อง จะได้ยินบทสนทนาของพวกนางเมื่อครู่นี้เข้าความรู้สึกของการถูกจับได้คาหนังคาเขาว่าแย่งลูกสะใภ้ของคนอื่นแบบนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้างนางรีบทำความเคารพ จากนั้นกล่าว “ข้าขอไปแก้บนที่พระอุโบสถก่อน ขอทูลลาเพคะ”พระชายาเยียนอ๋องพยักหน้าเล็กน้อยทีหนึ่ง “เชิญฮูหยินเฒ่า”ฮูหยินเหวยเดินออกไปอย่างรวดเร็วทันทีท
Read more

บทที่ 132

ซือเจ๋อเยว่ปลอบโยนนาง “เสด็จแม่อย่าได้ร้อนใจ เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหนทางแก้ไขเลย”“วันนี้จ้าวซือหว่านล้มเหลว ผู้ที่อยู่เบื้องหลังนางจะต้องร้อนใจแน่”“พวกเราสามารถอาศัยความคิดนี้ของคนคนนั้น ตามรอยไปสืบดู ตามหาตัวคนผู้นั้นออกมา จากนั้นหาหนทางทำลายค่ายกลนั่น”พระชายาเยียนอ๋องไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้เลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าในเวลานี้ซือเจ๋อเยว่จะอธิบายเรื่องราวอย่างชัดเจนแล้วก็ตาม ในใจของนางยังคงร้อนรนเช่นเดิมซือเจ๋อเยว่ไม่ได้กล่าวโน้มน้าวพระชายาเยียนอ๋องอีกตลอดหลายปีที่ผ่านมา พระชายาเยียนอ๋องถูกเหล่าไท่จวินปกป้องเอาไว้ดีเกินไป จนแบกรับปัญหาไม่ไหวจวนเยียนอ๋องในเวลานี้ แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง พระชายาเยียนอ๋องไม่สามารถเป็นคนที่แบกรับปัญหาไม่ได้เหมือนดังเช่นเมื่อก่อนอีกแล้วนางเพียงกล่าวเสียงเบา “วิธีการทำลายคนบนโลกไปนี้มากมายนัก บางวิธีก็โหดเหี้ยมและอำมหิต”“ครั้งนี้จ้าวซือหว่านยืมมือเสด็จแม่ เกือบจะสังหารน้องสาม ต่อไปเสด็จแม่จะทำอะไรก็จะต้องระวังให้มากขึ้นอีกหน่อย อย่าเปิดโอกาสให้คนอื่นอีก”พระชายาเยียนอ๋องกำหมัดแน่นกล่าว “ต่อไปข้าทำอะไรจะระวังให้มาก ไม่มีทางเชื่อใจผู้ใดง
Read more

บทที่ 133

วัน ๆ เขาเอาแต่ทำหน้าเย็นชา ทั้งยังคบค้าสมาคมกับคนตายตลอดทั้งปี ท่าทางดูค่อนข้างเย็นชา จ้าวอวี่ชุนจึงรู้สึกหวาดกลัวเขาเล็กน้อยเขายื่นมือออกไปชี้เยียนเซียวหราน กล่าว “ซือหว่านตายเพราะจวนเยียนอ๋อง”“ไม่ว่าสาเหตุการตายที่แท้จริงของนางจะเป็นอะไร จวนเยียนอ๋องจะเป็นต้องชดใช้!”ในเวลานี้นับว่าเขาสงบสติอารมณ์ลงบ้างแล้ว จ้าวซือหว่านก็ตายไปแล้ว ในเวลาแบบนี้ เขาจำต้องต่อสู้เพื่อผลประโยชน์บางอย่างของตัวเองซือเจ๋อเยว่กล่าวพร้อมยิ้มร่า “หากแม่นางจ้าวตายเพราะจวนเยียนอ๋องจริง จวนเยียนอ๋องย่อมไม่มีทางนั่งดูอยู่เฉยๆ เป็นแน่”เหวยอิ้งหวนหันหน้าไปมองนางแวบหนึ่ง ฟังจากคำพูดของนางยังมีประโยคหลังอีก เพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นพระชายาเยียนอ๋องก้าวออกมาพูดเสริมอีกครึ่งประโยคหลังที่ซือเจ๋อเยว่ไม่ได้พูดออกมา “จวนเยียนอ๋องไม่เคยปฏิบัติต่อแม่นางจ้าวอย่างไม่ยุติธรรม”“หากนางตายเพราะมีเจตนาไม่ซื่อสัตย์ รนหาที่ตายเอง เช่นนั้นก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจวนเยียนอ๋อง”จ้าวอวี่ชุนกล่าวด้วยความโมโห “หมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าซือหว่านมีเจตนาไม่ซื่อสัตย์? พระชายาเยียนอ๋อง เหตุใดท่านจึงกล่าวอย่างไม่มีมโนธรรมเช่นนี้
Read more

บทที่ 134

พระชายาเยียนอ๋องหันหน้าไปมองเหล่าไท่จวินด้วยดวงตาแดงก่ำ เช็ดน้ำตาอีกครั้งเหล่าไท่จวินถอนหายใจทีหนึ่งแล้วกล่าว “บัดนี้เจ้าเป็นนายหญิงผู้ดูแลจวนอ๋อง มีเรื่องราวมากมายจำเป็นต้องให้เจ้าตัดสินใจ”“ข้าไม่ขอให้เจ้าสามารถประคับประคองจวนเยียนอ๋องได้ แต่เจ้าก็ไม่ควรกลายเป็นภาระของบรรดาลูกๆ”“ครั้งนี้ที่จ้าวซือหว่านมีโอกาสทำร้ายเซียวเอ๋อร์ สุดท้ายก็เป็นเพราะเจ้าตัดสินใจเอง”“ก่อนหน้านี้องค์หญิงก็เคยเตือนเจ้า บอกว่าจ้าวซือหว่านมีปัญหา แต่เจ้ากลับไม่เอามาใส่ใจเลยสักนิด”“หลังจากที่ท่านอ๋องจากไป เดิมทีเซียวเอ๋อร์ก็ต้องไว้ทุกข์เป็นเวลาสามปี สามปีนี้จวนอ๋องไม่ควรมีงานแต่งงาน”“เมื่อวานนี้ข้าก็เตือนเจ้าเช่นกัน จ้าวซือหว่านตามไปที่วัดเป้ากั๋วนั้นไม่เหมาะสม เจ้ากลับไม่ฟัง ยืนกรานที่จะให้เซียวเอ๋อร์กับจ้าวซือหว่านพัฒนาความสัมพันธ์กัน”“หากไม่ใช่เพราะองค์หญิงเตรียมการตั้งแต่เนิ่น ๆ วันนี้คนที่ตายคงไม่ใช่จ้าวซือหว่าน แต่คงเป็นเซียวเอ๋อร์!”เดิมทีพระชายาเยียนอ๋องก็รู้สึกเสียใจเพราะเรื่องหยกแขวนชิ้นนั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การที่ถูกเหล่าไท่จวินหยิบเรื่องนี้ออกพูดเช่นนี้ ในใจของนางก็ยิ่งรู้สึกเสียใจบ
Read more

บทที่ 135

ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า เตรียมที่จะไปพบเหวยอิ้งหวนเยียนเซียวหรานวางแผ่นป้ายวิญญาณในมือลง กล่าวเสียงเรียบ “ข้าจะไปพบเขาพร้อมกับองค์หญิง”ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วเล็กน้อยกล่าว “เขามีธุระอยากจะถามข้าเป็นการส่วนตัว น้องสามไปด้วย เขาอาจจะคิดมากได้ ข้าไปคนเดียวก็พอ”นางพูดจบก็เห็นทุกคนในห้องหันหน้ามามองนาง นางตบหน้าผากเบา ๆ ทีหนึ่ง “ที่เขามาในวันนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะถามเรื่องค่ายกล”“เรื่องนี้นอกจากข้าแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถอธิบายได้อย่างละเอียด”“ประตูโถงบุปผาเปิดอยู่ ด้านนอกมีคนรับใช้กับสาวใช้คอยเฝ้าอยู่ ทั้งยังอยู่ที่จวนอ๋อง ข้าไม่มีอันตรายหรอก”เหล่าไท่จวินรู้ว่าคำพูดประโยคนี้ของนางไม่เกี่ยวกับเรื่องอันตรายหรือไม่อันตรายเลยสักนิด แต่พูดเพื่อหลบเลี่ยงความสงสัยถึงอย่างไรการที่สตรีที่มีครอบครัวแล้วเจอผู้ชายที่ไม่ใช่คนในครอบครัวตามลำพัง ก็ไม่ถูกต้องตามกฎสักเท่าใดเหล่าไท่จวินกล่าวเสียงอ่อนโยน “ท่านไปเถอะ ข้าเชื่อท่าน”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้าเล็กน้อยทีหนึ่ง แล้วจึงเดินไปยังโถงบุปผาเหล่าไท่จวินหันหน้ากลับมา เห็นว่าเยียนเซียวหรานกำลังมองซือเจ๋อเยว่ นางไม่ได้คิดมาก เพียงกล่าว “องค์หญิงเป็นคน
Read more

บทที่ 136

‘คน’ คนนั้นใบหน้าซีดเซียว มุมปากมีเขี้ยวยื่นออกมา ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำบนร่างกายของมันถูกรัดด้วยสายสีแดงเส้นหนึ่ง ไม่รู้ว่าสายนั้นมีไว้ทำอะไร มัดมันเอาไว้แน่นมันกล่าวด้วยความเกลียดชัง “ซือเจ๋อเยว่ ข้าจะฆ่าเจ้า!”เล็บของมันทั้งดำทั้งยาวทั้งแหลม พุ่งเข้าไปหาซือเจ๋อเยว่ด้วยความดุร้าย แต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้นาง ก็ถูกสายสีแดงมัดเอาไว้ เข้าใกล้ตัวนางไม่ได้ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ใต้เท้าเหวยไม่ต้องกลัว นี่เป็นวิญญาณร้ายที่ข้าจับได้ก่อนหน้านี้”“ในมือของมันมีดวงชะตาคนอยู่สิบดวง ค่อนข้างดุร้าย ตอนนั้นไม่ได้ฆ่ามันทันที เป็นเพราะคิดว่าการฆ่ามันเลยจะเป็นการดูถูกมันเกินไป”สีหน้าของเหวยอิ้งหวนซีดขาวเล็กน้อย “ดังนั้นบนโลกใบนี้มีผีจริงๆ?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ถือว่ามี ปกติใต้เท้าสืบคดี น่าจะได้พบเจอเรื่องราวแปลกประหลาดและไม่สามารถอธิบายได้อยู่บ้าง”“วันนี้ข้าปล่อยของสิ่งนี้ออกมา เพียงแค่อยากจะให้ใต้เท้ามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟ้าผ่าคนตายบนโลกใบนี้”เหวยอิ้งหวนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง สายตาที่จ้องมองซือเจ๋อเยว่ค่อนข้างซับซ้อนวิญญาณร้ายดวงนั้นกล่า
Read more

บทที่ 137

ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ไม่ใช่ข้าใช้ยันต์ห้าอัสนีบาตรสังหารจ้าวซือหว่าน แต่จ้าวซือหว่านคิดจะสังหารพวกข้า พวกข้าจึงจำใจต้องตอบโต้”“ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อจ้าวซือหว่าน แต่การกำจัดปีศาจและจับวิญญาณชั่วร้ายถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบของสำนักเต๋า ใต้เท้าได้โปรดอภัย”เหวยอิ้งหวนจ้องมองนางอยู่นาน อดกลั้นอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็พ่นประโยคหนึ่งออกมา “ให้อภัยกับผีนะสิพ่ะย่ะค่ะ!”เขาพูดจบก็สะบัดแขนเสื้อ แล้วสาวเท้าเดินออกไปซือเจ๋อเยว่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าไปส่งใต้เท้า!”เหวยอิ้งหวนรีบกล่าว “องค์หญิงหยุดก่อนพ่ะย่ะค่ะ หากเป็นไปได้ ต่อไปองค์หญิงอยู่ห่างจากข้าสักหน่อยเถิด ต่อไปข้าไม่อยากจะพบองค์หญิงอีก”ซือเจ๋อเยว่ที่อยู่ด้านหลังเขากล่าว “ใต้เท้าเหวยช่างพูดเสียจริง คดีของจวนเยียนอ๋องยังไม่จบสิ้น วันข้างหน้าพวกเรายังมีโอกาสจะต้องได้เจอกันหน้ากันอีก”“ใต้เท้ามีความเชี่ยวชาญในการสืบคดี ข้านับถือจริง ๆ ยังคิดอยู่ว่าต่อไปหากมีเวลาว่างจะไปขอคำชี้แนะจากใต้เท้า”เหวยอิ้งหวนยิ่งเดินเร็วขึ้นกว่าเดิม ไม่อยากจะได้ยินคำพูดของนางเลยสักนิดเดียวซือเจ๋อเยว่เห็นท่าทางของเขา ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเหวยอิ้งหวนได้ยิน
Read more

บทที่ 138

เหวยอิ้งหวน “...”เขาเป็นผู้ควบคุมดูแลการลงโทษ มีวิธีการตายแบบไหนที่ไม่เคยเห็นบ้าง แต่การตายของ ‘คน’ คนนี้นับว่าค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์‘คน’ คนนั้นบ่นพึมพำต่อไป “สิ่งที่น่าโมโหที่สุดคือข้าตกลงมาตายไปในบ้านของตนเอง พวกเขาไม่ชดใช้เงินให้ข้าแม้แต่แดงเดียว”“หลายปีมานี้ข้าก่อความวุ่นวายในบ้านของเขา ทำให้ทุกคนในครอบครัวของเข้าตกใจจนย้ายนี้ไป แต่ว่าจนถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่ได้กินสาลี่เลยสักลูก”“ใต้เท้า ท่านช่วยบอกกับลูกชายของข้าที ว่าอย่าเอาอาหารที่เย็นชืดมาเป็นของเซ่นไหว้บ่อย ๆ ได้หรือไม่? ข้าอยากจะชิมรสชาติของสาลี่ดูบ้าง”เหวยอิ้งหวน “...”เขารู้สึกเหมือนกำลังจะป่วยเป็นโรคจากการทำงานเจ้าหมอนี่ไปขโมยสาลี่ของชาวบ้านแต่ขโมยไม่ได้ จากนั้นตกลงมาตาย ไม่คิดเลยว่าที่ยังวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ไม่ยอมไปเกิดใหม่ ก็เพื่อกินสาลี่!เขาคิดว่าตนไม่เข้าใจ ‘คน’ คนนั้นก็ช่างแล้ว ไม่คิดเลยว่าเจ้าหมอนั่นจะเดินมาที่ตรงหน้าแล้วจะโกนว่า “อาฮวา อาจู อาหนิว รีบมาเร็วเข้า!”“ใต้เท้าท่านนี้มองเห็นข้า แล้วก็ได้ยินสิ่งที่ข้าพูดอีกด้วย พวกเขามีเรื่องคับข้องใจอะไรก็รีบมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม”เหวยอิ้งหวน “...”‘ค
Read more

บทที่ 139

เขารู้ว่าสถานการณ์แบบเขาในตอนนี้ เป็นไปได้สูงที่เป็นเพราะถูกซือเจ๋อเยว่เบิกตาทิพย์เขาเคยได้ยินคนพูดว่า การเบิกตาทิพย์เป็นเรื่องที่ยากมากเรื่องหนึ่ง พอเป็นนาง เพียงแค่โบกมือก็ทำให้เรื่องราวสำเร็จได้ทุกอย่างที่ได้ยินและได้เห็นในคืนนี้ ได้ทำลายสามมุมมองและความรู้ของเขาจนพังทลายคืนนี้ซือเจ๋อเยว่เบิกตาทิพย์ให้เขาแบบนี้ เพียงเพราะแค่อยากจะบอกเขาว่าจ้าวซือหว่านเกี่ยวพันธ์กับสิ่งชั่วร้ายจริง ๆ ถึงได้ถูกฟ้าผ่าตายเพียงแต่สายฟ้านี้อยู่ในยันต์ของซือเจ๋อเยว่ นางกำลังขจัดความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเดิมทีเหวยอิ้งหวนก็กำลังคาดเดาว่าซือเจ๋อเยว่เป็นผู้สังหารจ้าวซือหว่าน ครั้งนี้นับว่ามั่นใจอย่างสมบูรณ์แล้วเพียงแต่วิธีการสังหารคนของซือเจ๋อเยว่ อยู่เหนือที่เขาได้คาดการณ์เอาไว้เรื่องราวในค่ำคืนนี้ส่งผลกระทบต่อเขาเป็นอย่างมากจริง ๆ เขาอดทนไม่ไหวแล้วจริง ๆเขาไม่ได้พาคนมาด้วย ไปที่จวนเยียนอ๋องเพียงลำพังตอนที่เขามาถึง ประตูห้องก็ได้นำเขาตรงไปยังแท่นดาราของจวนอ๋องแท่นดาราเป็นลานกว้างขนาดประมาณสองตารางเมตร ที่นั่นสามารถมองเห็นทั่วทั้งจวนอ๋องตรงกลางของแท่นดาราในเวลานี้มีโต๊ะหนึ่งตัววางอยู่ บน
Read more

บทที่ 140

ซือเจ๋อเยว่พูดจบกำลังจะลงมืออีกครั้ง เหวยอิ้งหวนรีบกล่าว “ไม่ต้องพ่ะย่ะค่ะ!”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปหาเขา เขารู้สึกว่าปฏิกิริยาของตนมากเกินไปหน่อยจริง ๆ รีบสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง เพื่อให้ตนสงบสติขึ้นเล็กน้อยเขากระแอมเสียงเบาแล้วกล่าว “ความหมายของข้าคือไม่ต้องยุ่งยากเช่นนี้ ข้าเชื่อคำพูดขององค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ”ซือเจ๋อเยว่ยิ้มตาหยี “ขอบคุณในความเชื่อมั่นของใต้เท้า”“ข้าขออธิบายเรื่องหยกแขวนชิ้นนี้กับใต้เท้าเสียหน่อย รอยดำด้านบนคิดว่าใต้เท้าน่าจะมองเห็น”“ตอนนี้ใต้เท้าไม่มีตาทิพย์ มองเห็นอะไรได้ไม่มากนัก แต่ข้ารู้ว่าใต้เท้าสามารถสัมผัสได้”เหวยอิ้งหวนสัมผัสได้จริง ๆ หยกแขวนชิ้นนั้นทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยสบาย แสดงออกถึงความชั่วร้ายเขากล่าวเสียงขรึม “หลังจากที่องค์หญิงทำลายค่ายกลของหยกแขวนชิ้นนี้ คำเชิญของจ้าวซือหว่านครั้งนี้อันที่จริงคือการลองหยั่งเชิง และองค์หญิงวางแผนซ้อนแผน?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ไม่ผิด แต่ข้าก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจ้าวซือหว่านจะลงมือวันนี้”“นางคิดจะสังหารน้องสาม ข้าผู้เป็นพี่สะใภ้คนโตไม่สามารถทนยืนดูอยู่เฉย ๆ ได้ ดังนั้นจึงลงมือ”“แต่ข้าก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่านา
Read more
PREV
1
...
1213141516
...
28
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status