All Chapters of บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง: Chapter 141 - Chapter 150

274 Chapters

บทที่ 141

เยียนเซียวหรานเหลือบมองเขาแวบหนึ่งก่อนจะกล่าว “บิดาและพี่ชายตายอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ในฐานะที่ข้าเป็นบุรุษเพียงคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ในจวนเยียนอ๋อง ย่อมมีหน้าที่ของตนที่ต้องรับผิดชอบ”“ข้ารู้ว่าใต้เท้าเหวยเจตนาดี ทว่าเรื่องนี้ข้ามิอาจทำตามที่ใต้เท้าเหวยบอกได้”“ข้าสามารถสืบคดีกับใต้เท้าเหวย แม้บิดาและพี่ข้าจะตายไปแล้ว ทว่าจวนเยียนอ๋องก็ยังมีข้าอยู่!”เขากล่าวจบก็ชี้นิ้วไปทางลานสวนด้านหน้าพลางพูด “ท่านย่าชราภาพแล้ว ท่านแม่ร่างกายมิสู้ดีนัก พี่สะใภ้รองก็ตั้งครรภ์”“ข้าเป็นบุรุษในจวนเยียนอ๋อง ก็ต้องแบกรับจวนเยียนอ๋องไว้”เหวยอิ้งหวนทอดถอนลมหายใจเสียงยาวออกมาแล้วเอ่ย “หากคุณชายสามดึงดันจะสืบให้จงได้ ข้าก็จะไม่ขัดขวาง”“เพียงแค่อยากขอให้คุณชายสามโปรดระวังตัวด้วย เมื่อประสบกับเรื่องยุ่งยาก ก็มาหาข้าได้เลย”คนทั้งสองประสานมือคารวะซึ่งกันและกัน จากนั้นเหวยอิ้งหวนตั้งท่าเดินจากไปขณะถึงปากทางบันไดเขาพลันหันกลับมาเอ่ยต่อซือเจ๋อเยว่ “องค์หญิง กระหม่อมหวังว่าต่อไปจะไม่ได้เห็นของพวกนั้นอีก”ซือเจ๋อเยว่เอ่ยอย่างเชื่อฟัง “ได้”เหวยอิ้งหวนเอามือไพล่หลังข้างหนึ่ง แล้วสาวเท้ายาวเดินจากไป
Read more

บทที่ 142

เยียนเซียวหรานไม่มีทีท่าว่าจะสนใจนาง เคลื่อนไหวฝีเท้าเดินหน้าอย่างไม่มีหยุดพัก เสื้อคลุมพลิ้วไหวในยามราตรี แผ่รังสีสง่างามและสุขุมซือเจ๋อเยว่เอามือกอดอก บึนปากเล็กน้อยนางรีบถกแขนเสื้อขึ้นดูเส้นสีแดงบนข้อมือ เป็นดังที่นางคาดไว้ เส้นสีแดงยาวขึ้นอีกนิดแล้วนางหัวเราะอย่างมีความสุข ที่แท้เข้าใกล้เขาในระยะประชิดแบบนี้ ก็ต่อชีวิตของนางได้เช่นนั้นต่อไปนางแค่หาโอกาสเข้าใกล้เขา ก็ไม่ต้องลำบากลำบนหาหนทางหลับนอนกับเขาอีกแล้วนี่เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมากสำหรับนาง!เพราะเข้าใกล้เขาง่าย ร่วมเรียงเคียงหมอนกับเขานั้นยากแสนยากนักแววตาที่นางมองเขาพลันเป็นกระกายลุกวาวในพริบตาเดียวเขาก็คืออุปกรณ์ต่อชีวิตเคลื่อนที่ของนางดี ๆ นี่เอง!จากนี้นางต้องหาโอกาสเข้าใกล้เขาให้มาก ๆ จะได้สะสมเวลาชีวิตไว้เยอะ ๆเยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงแววตาร้อนแรงของนาง เขาพลันเกิดความรู้สึกสับสนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือว่านางชอบเขา?หลังจากความคิดนี้แล่นปราดเข้ามาในหัว เพลิงราคะราวกับถูกจุดขึ้นให้ลุกโชนเขาสูดลมหายใจเข้าลึกติดต่อกันหลายที พร่ำบอกตนเองว่าเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ นางคงแค่เย้าแหย่เขาอยู่เท่านั้
Read more

บทที่ 143

เยียนเซียวหรานกล่าวพึมพำ “เมื่อสองปีก่อน เวลาช่างประจวบเหมาะเหลือเกิน”สองปีที่แล้วก็คือช่วงเวลาที่เขาถูกสตรีลึกลับทำเรื่องอย่างว่าที่ตำบลนั้นสัญชาตญาณบอกเขาว่าเรื่องนั้นอาจมีความเกี่ยวข้องอยู่บ้างกับการที่จู่ ๆ อารามเต๋าก็ประกอบพิธิสะเดาะเคราะห์ยิ่งใหญ่แต่เขาก็มิอาจล่วงรู้ได้ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไรฉางซานกล่าวต่อ “ส่วนลายปักดอกกล้วยไม้บนผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น ก็เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในตำบลนั้นขอรับ”“ร้านเย็บปักในตำบลต่างเย็บลวดลายนี้เป็นกันทั้งนั้น”“ข้าน้อยได้สอบถามโดยละเอียดแล้ว ต้นแบบแรกเริ่มของลายปักดอกกล้วยไม้นั้นมาจากองค์หญิงขอรับ”อารามเต๋าแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ ๆ ประเภทแรกคืออารามสำหรับให้บุรุษฝึกฝนวิชา ส่วนอีกประเภทก็คือสำหรับสตรีซือเจ๋อเยว่กลับเติบโตมาในอารามเต๋าซึ่งเป็นสถานที่ฝึกฝนวิชาสำหรับบุรุษ ทั้งยังไม่ใช่นักพรตหญิงอย่างเต็มตัว เดิมทีนี่ก็ถือว่าแปลกมากอยู่แล้วชาวบ้านแถวนั้นไม่รู้ฐานะองค์หญิงของนาง กลับรู้ว่านางเป็นสตรีเพียงคนเดียวในอารามเต๋า นางรู้จักมักคุ้นกับคนแถวนั้นและเป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้านเยียนเซียวหรานได้ยินเช่นนี้ พลันนึกถึงคำพูดที่นางได้เอ่ย
Read more

บทที่ 144

เยียนเซียวหรานไม่รู้ ยามนี้ก็ไร้ซึ่งหนทางที่จะจัดการด้วยวิธีที่ดีที่สุดเหมือนว่าเขาคงต้องแสร้งทำเป็นว่าไม่รู้เรื่องนี้ แล้วปฏิบัติต่อนางเหมือนเช่นที่ผ่านมาเพียงแต่เพิ่งมีความคิดนี้ผุดขึ้นมา เขาก็นึกถึงค่ำคืนอันแสนงดงามอย่างหาที่สุดมิได้นั้นอีกครั้งบัดนี้เขารู้แล้วว่าซือเจ๋อเยว่ก็คือสตรีผู้นั้น ภาพในค่ำคืนนั้นจึงซ้อนทับกับภาพเมื่อไม่กี่คืนก่อนอย่างสมบูรณ์เดิมทีเขาจำได้ไม่ชัดเจนนัก แต่กลับนึกขึ้นมาได้เพราะเรื่องนี้เยียนเซียวหรานสบถเสียงค่อย “คนลวงโลกที่หาความจริงจากปากไม่ได้เลย!”ซือเจ๋อเยว่ยามนี้กำลังจัดวางค่ายกลอยู่ที่ห้องของนาง เกิดจามดังลั่นอย่างกลั้นไม่อยู่ “ใครกันที่กำลังด่าข้า?”นางเอ่ยจบก็หัวเราะ “คงจะเป็นตาแก่นิสัยแย่ไร้มโนธรรมพวกนั้นแน่นอน”นางเติบโตขึ้นมาโดยมีอาจารย์ทั้งเก้าคอยเลี้ยงดู แม้พวกเขาล้วนไม่ใช่คนจริงจังอะไรมากนัก และดูไม่ค่อยเหมือนนักพรตที่น่าเคารพนับถือแต่ภายในใจของนาง แม้พวกเขาจะน่ารำคาญ ทว่าก็เป็นคนใกล้ชิดที่นางไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุดนางคิดถึงท่าทางไม่สนใจไยดีต่อสิ่งใดของพวกเขา เดาว่ายามนี้ก็คงกำลังหลอกลวงผู้คนอยู่ ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่งเป็นแน่ นา
Read more

บทที่ 145

เขาบันดาลโทสะ ยกเท้าถีบเข้ายอดอกของบ่าวรับใช้คนนั้นพร้อมพ่นคำสบถ “ไสหัวไป!”บ่าวรับใช้รีบจากไปด้วยท่าทางล้มลุกคลุกคลานอวิ๋นเยว่หยางถามนักพรตรูปนั้น “นักพรตจื่อหยาง เรื่องนี้ท่านมองว่าอย่างไร?”นักพรตจื่อหยางตอบ “ข้าไม่เห็นศพของแม่นางจ้าว จึงไม่รู้สถานการณ์ของนาง”“แต่ดูจากคำบอกเล่าเมื่อครู่นี้ น่าจะมีคนใช้ยันต์ห้าอัสนีบาตกับนางแล้ว”เขาคือนักพรตฝีมือเลิศล้ำที่อวิ๋นเยว่หยางทุ่มเงินมหาศาลเชิญตัวมาเขาเป็นหนึ่งในนักพรตผู้มีอาคมแก่กล้าที่สุดในสำนักเต๋าทั้งปวง แต่ถึงเขาแก่กล้าวิชา กระนั้นกลับมีจิตใจชั่วร้ายไม่ตรงไปตรงมาปีนั้นอาจารย์ของเขามีความประสงค์จะมอบตำแหน่งเจ้าอาวาสอารามเต๋าให้กับศิษย์น้องที่มีวิชาอาคมสู้เขาไม่ได้ เขาก็วางแผนฆ่าศิษย์น้องคนนั้นทันที แล้วกลายเป็นเจ้าอาวาสคนใหม่อารามเต๋าที่เขาอยู่เป็นหนึ่งในอารามที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นต้าฉู่ และเขามองว่าตนเองเป็นนักพรตที่เก่งกาจที่สุดรองจากประมุขลัทธิเต๋าเท่านั้นส่วนประมุขลัทธิเต๋าไม่ปรากฏกายมาหลายปีแล้ว เขาจึงไม่ใส่ใจประมุขลัทธิเต๋าที่ว่านี้นัก“ยันต์ห้าอัสนีบาต?” อวิ๋นเยว่หยางถามด้วยความฉงน “มันคือสิ่งใดกัน?”นักพรตจื่อหยาง
Read more

บทที่ 146

สามวันต่อมา ทานด้านศาลต้าหลี่ได้สรุปสำนวนคดีการตายของจ้าวซือหว่านออกมาแล้ว ซึ่งสำนวนความสลับซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง ทว่าพอสรุปออกมาก็เป็นเพียงประโยคเดียวจ้าวซือหว่านถูกฆ่าตายโดยผู้ใช้คาถามนตร์ดำ ทางราชสำนักจะสืบสวนลัทธิชั่วร้ายนี้อย่างเข้มงวดซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำสรุปสำนวนคดีนี้แล้ว มุมปากกระตุกเล็กน้อยก่อนนี้นางคิดว่าเหวยอิ้งหวนเป็นคนเที่ยงตรง ตอนนี้ดูแล้วเขาก็ไม่เห็นจะเที่ยงตรงอย่างที่คิดไว้นักนางรู้สึกว่าบางทีคืนนั้นนางคงเปิดเนตรวิเศษให้เขามากไปหน่อย มันกระตุ้นเขาเข้า จึงโยงไปถึงลัทธิชั่วร้ายอย่างนี้ทว่าเรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้ นับว่านางและเยียนเซียวหรานถูกลบออกจากสมการแล้ว นางคิดว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้วเพียงแต่เมื่อนางนึกถึงเยียนเซียวหราน ก็รู้สึกขึ้นมาว่าหลายวันนี้พอเจอนางเขามีท่าทางแปลก ๆ ชอบกลแต่นางก็บอกไม่ได้ว่าแปลกตรงไหน มันเป็นแค่สัญชาตญาณบอกเท่านั้นเหมือนกับตอนนี้ นางทำท่าจะเข้าไปพูดกับเขาใกล้ ๆ ทว่านางยังไม่ทันขยับตัว เขาก็ถอยหลังไปก้าวใหญ่เขาเอ่ยเสียงเรียบ “องค์หญิงมีเรื่องอันใดก็พูดดี ๆ เถิด”เมื่อครั้งอยู่ที่แท่นดาราคราวก่อนซือเจ๋อเยว่ค้นพบว่าแค่เข้าใกล้เขา
Read more

บทที่ 147

ซือเจ๋อเยว่ “…”เรื่องนี้เข้าใจยากอยู่บ้างนางจึงแต่งเรื่องขึ้น “ก็หมูตัวนั้นกระดูกหัก ด้านในเลยเป็นสีดำทั้งหมด พอแล่หนังออก ก็เป็นขาหมูสีขาวตัดสลับกับสีดำอย่างไรเล่า!”เยียนเหนียนเหนียนเอ่ยอย่างสงสัย “แล้วอยู่ดี ๆ พี่ชายข้ากลายไปเป็นหมูที่กระดูกหักได้อย่างไร?”ซือเจ๋อเยว่ “…”อันนี้เหมือนว่าคงจะแถไม่ได้แล้วเยียนเหนียนเหนียนกลับคิดจนเข้าใจเอาเองแล้ว “วันนั้นเขาถูกจ้าวซือหว่านขังไว้ในค่ายกล หากมิใช่เพราะองค์หญิงลงมือ เกรงว่ากระดูกเขาคงไม่หักเพียงจุดเดียว”“เขาลงมือกับจ้าวซือหว่านโดยไม่รั้งรอจนกว่าพวกเราจะไปถึง นั่นจึงเป็นคนที่โง่เหมือนหมู องค์หญิง อธิบายเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ “…เหนียนเหนียนอธิบายได้ถูกต้อง!”นางว่าแล้วยกนิ้วหัวแม่มือให้เยียนเหนียนเหนียนเยียนเหนียนเหนียนยิ้มด้วยความเคอะเขิน “เมื่อก่อนพี่สามเอาแต่รังแกข้า ก่อนนี้ข้าเห็นองค์หญิงสนิทสนมกับเขา เลยไม่กล้าพูดถึงเขาในแง่ไม่ดีต่อหน้าองค์หญิง”“ข้าเพิ่งรู้ตอนนี้ ที่แท้องค์หญิงก็มองเขาแล้วไม่เจริญตามานานแล้วเช่นกัน! จากนี้ในที่สุดจวนอ๋องก็มีคนด่าเขาไปด้วยกันกับข้าแล้ว!”ซือเจ๋อเยว่ “…”คำพูดนี้ทำเอานางไ
Read more

บทที่ 148

เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเรียบ “เรื่องนี้ง่ายนัก ขอเพียงข้าบอกเขาว่าข้ารู้ว่าจ้าวซือหว่านจัดวางค่ายกลชั่วร้ายเพื่อทำร้ายข้า และรู้ความลับของพวกเขาก็เพียงพอแล้ว”เยียนเหนียนเหนียนดวงตาลุกวาวเป็นประกาย “ดังนั้นพี่สามใช้กลอุบายหลอกล่อให้เขาติดกับสินะ?”ซือเจ๋อเยว่ทอดถอนใจพลางกล่าว “พี่สามเจ้ามิได้วางกลลวงเขาหรอก แต่กำลังหยั่งเชิงเขาต่างหาก อยากดูว่าเขารู้มากน้อยเพียงใด”นางเอ่ยถึงตรงนี้หันมองไปที่เยียนเซียวหรานก่อนกล่าว “หากข้าเดาไม่ผิด น้องสามส่งคนติดตามเขาไปแล้วสินะ?”เยียนเซียวหรานพยักหน้า “ถูกต้อง”เยียนเหนียนเหนียนมองซือเจ๋อเยว่สลับกับเยียนเซียวหราน แล้วทำปากยื่นพลางเอ่ย “องค์หญิง ทำไมท่านรู้ไปเสียหมดทุกอย่าง?”“ตอนนี้ข้าสงสัยว่าเจ้าต่างหากที่เป็นครอบครัวเดียวกับพี่สาม ส่วนข้าเป็นคนนอก”ตอนนี้เยียนเซียวหรานไม่อาจทนฟังคำพูดในเชิงนี้ที่กล่าวว่าเขาเป็นครอบครัวเดียวกับซือเจ๋อเยว่ได้ เขายื่นมือมาเขกหัวนางแล้วกล่าว “สมองเป็นสิ่งที่ดี เสียดายที่เจ้าไม่มี”“ไว้ข้าจะบอกในครัวให้ซื้อสมองหมูกลับมาตุ๋นให้เจ้ากินเยอะ ๆ เจ้าจะได้บำรุงสักหน่อย”เยียนเหนียนเหนียนกุมหัวพลางพูด “ท่านเขกหัวข้าอี
Read more

บทที่ 149

“ข้ารู้ว่าต่อไปจวนอ๋องจำเป็นต้องให้พวกเขาแบกเอาไว้ พวกเขาจึงจำต้องรีบเติบโตให้เร็วที่สุด”“แต่ข้าในฐานะผู้อาวุโส เห็นพวกเขาเติบโตด้วยวิธีการเช่นนี้แล้ว จะมากหรือน้อยก็รู้สึกปวดใจอยู่บ้าง”เยียนซุ่ยซุ่ยได้ยินจากด้านข้าง เม้มริมฝีปากเล็กน้อย จากนั้นกลับไปที่ห้อง แล้วค้นตำราพิษออกมาก่อนนี้นางเรียนรู้แต่วิชาช่วยเหลือคน จึงไม่เคยแตะต้องยาพิษมาก่อนทว่าตอนนี้ทุกคนในจวนอ๋องต่างพยายามปกป้องจวนอ๋องกันอย่างแข็งขัน นางก็อยากทำอะไรเพื่อจวนอ๋องบ้างเช่นกันนางไม่มีวรยุทธ์แก่กล้าอย่างเยียนเหนียนเหนียน และไม่มีความเชี่ยวชาญเช่นซือเจ๋อเยว่ สิ่งเดียวที่นางมีคือฝีมือการแพทย์นางสามารถปรุงยาพิษร้ายแรงให้พวกเขาจำนวนหนึ่ง หากเจอกับศัตรูที่สู้ไม่ไหวจริง ๆ พวกเขาจะได้มียาพิษไว้ใช้หลังจากพวกซือเจ๋อเยว่ทั้งสามคนออกไปจากจวนอ๋อง ก็มุ่งหน้าตรงไปยังจวนตระกูลจ้าวซือเจ๋อเยว่รู้นานแล้วว่าเยียนเหนียนเหนียนมีวรยุทธ์ที่ไม่เลว ตอนนี้กลับพบว่ายัยหนูน้อยคนนี้กลับมีวรยุทธ์แก่กล้ากว่าที่นางคิดไว้เยียนเหนียนเหนียนแบกนางวิ่งมาตลอดทาง กลับไม่มีอาการเหนื่อยหอบเลย ร่างกายเบาหวิวเป็นอย่างยิ่งทั้งสามคนยังต้องป้องกันคน
Read more

บทที่ 150

เขาเอ่ยถึงตรงนี้น้ำเสียงพลันเย็นเยียบ “นางมีความคิดชั่วร้าย ศึกษาคาถามนตร์ดำ วางแผนทำร้ายผู้อื่น สวรรค์จึงไม่อาจละเว้น”เขาพูดไปพลาง ทำมือส่งสัญญาณบอกเยียนเหนียนเหนียนไปพลาง ให้นางหาโอกาสพาซือเจ๋อเยว่หนีไปเยียนเหนียนเหนียนเห็นแล้วกัดริมฝีปากเบา ๆ มิได้เอ่ยสิ่งใดความสนใจของซือเจ๋อเยว่กลับไม่ได้อยู่ที่จุดเดียวกับพวกเขา นางได้กลิ่นอายความชั่วร้ายที่ลอยคละคลุ้งในอากาศอย่างผิดปกติกลิ่นอายความชั่วร้ายนั้นคละเคล้ากับกลิ่นที่ทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมากอยู่ด้วยหลายส่วนนางพิเคราะห์อยู่ชั่วครู่ ก็พบว่านั่นคือดวงชะตาของเยียนเซียวหรานที่หายไป มันคือวัตถุที่ลงอาคมดูดดวงชะตาของเยียนเซียวหรานเอาไว้นางหลับตาลง ใช้ใจสัมผัสโดยรอบ อยากรู้ว่ากลิ่นอายความชั่วร้ายนั้นถูกปลดปล่อยออกมาจากที่ใดทว่ากลิ่นอายนั้นมา ๆ หาย ๆ กว่านางจะคาดเดาตำแหน่งคร่าว ๆ ได้ กลิ่นนั้นก็จางไปเสียแล้วจ้าวอวี่ชุนเอ่ยด้วยสีหน้าขึงขัง “หากจวนเยียนอ๋องยังเป็นจวนเยียนอ๋องในอดีต เจ้าก็พอถูไถเป็นเขยของข้าได้อยู่หรอก”“ทว่าตอนนี้เจ้าลองตรึกตรองบ้างสิ จวนเยียนอ๋องตกต่ำถึงเพียงนั้นแล้ว เจ้าไม่คู่ควรแต่งงานกับซือหว่านของข้า
Read more
PREV
1
...
1314151617
...
28
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status