Share

บทที่ 146

Penulis: เจียงหนานเยียน
สามวันต่อมา ทานด้านศาลต้าหลี่ได้สรุปสำนวนคดีการตายของจ้าวซือหว่านออกมาแล้ว ซึ่งสำนวนความสลับซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง ทว่าพอสรุปออกมาก็เป็นเพียงประโยคเดียว

จ้าวซือหว่านถูกฆ่าตายโดยผู้ใช้คาถามนตร์ดำ ทางราชสำนักจะสืบสวนลัทธิชั่วร้ายนี้อย่างเข้มงวด

ซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำสรุปสำนวนคดีนี้แล้ว มุมปากกระตุกเล็กน้อย

ก่อนนี้นางคิดว่าเหวยอิ้งหวนเป็นคนเที่ยงตรง ตอนนี้ดูแล้วเขาก็ไม่เห็นจะเที่ยงตรงอย่างที่คิดไว้นัก

นางรู้สึกว่าบางทีคืนนั้นนางคงเปิดเนตรวิเศษให้เขามากไปหน่อย มันกระตุ้นเขาเข้า จึงโยงไปถึงลัทธิชั่วร้ายอย่างนี้

ทว่าเรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้ นับว่านางและเยียนเซียวหรานถูกลบออกจากสมการแล้ว นางคิดว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

เพียงแต่เมื่อนางนึกถึงเยียนเซียวหราน ก็รู้สึกขึ้นมาว่าหลายวันนี้พอเจอนางเขามีท่าทางแปลก ๆ ชอบกล

แต่นางก็บอกไม่ได้ว่าแปลกตรงไหน มันเป็นแค่สัญชาตญาณบอกเท่านั้น

เหมือนกับตอนนี้ นางทำท่าจะเข้าไปพูดกับเขาใกล้ ๆ ทว่านางยังไม่ทันขยับตัว เขาก็ถอยหลังไปก้าวใหญ่

เขาเอ่ยเสียงเรียบ “องค์หญิงมีเรื่องอันใดก็พูดดี ๆ เถิด”

เมื่อครั้งอยู่ที่แท่นดาราคราวก่อนซือเจ๋อเยว่ค้นพบว่าแค่เข้าใกล้เขา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 147

    ซือเจ๋อเยว่ “…”เรื่องนี้เข้าใจยากอยู่บ้างนางจึงแต่งเรื่องขึ้น “ก็หมูตัวนั้นกระดูกหัก ด้านในเลยเป็นสีดำทั้งหมด พอแล่หนังออก ก็เป็นขาหมูสีขาวตัดสลับกับสีดำอย่างไรเล่า!”เยียนเหนียนเหนียนเอ่ยอย่างสงสัย “แล้วอยู่ดี ๆ พี่ชายข้ากลายไปเป็นหมูที่กระดูกหักได้อย่างไร?”ซือเจ๋อเยว่ “…”อันนี้เหมือนว่าคงจะแถไม่ได้แล้วเยียนเหนียนเหนียนกลับคิดจนเข้าใจเอาเองแล้ว “วันนั้นเขาถูกจ้าวซือหว่านขังไว้ในค่ายกล หากมิใช่เพราะองค์หญิงลงมือ เกรงว่ากระดูกเขาคงไม่หักเพียงจุดเดียว”“เขาลงมือกับจ้าวซือหว่านโดยไม่รั้งรอจนกว่าพวกเราจะไปถึง นั่นจึงเป็นคนที่โง่เหมือนหมู องค์หญิง อธิบายเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ “…เหนียนเหนียนอธิบายได้ถูกต้อง!”นางว่าแล้วยกนิ้วหัวแม่มือให้เยียนเหนียนเหนียนเยียนเหนียนเหนียนยิ้มด้วยความเคอะเขิน “เมื่อก่อนพี่สามเอาแต่รังแกข้า ก่อนนี้ข้าเห็นองค์หญิงสนิทสนมกับเขา เลยไม่กล้าพูดถึงเขาในแง่ไม่ดีต่อหน้าองค์หญิง”“ข้าเพิ่งรู้ตอนนี้ ที่แท้องค์หญิงก็มองเขาแล้วไม่เจริญตามานานแล้วเช่นกัน! จากนี้ในที่สุดจวนอ๋องก็มีคนด่าเขาไปด้วยกันกับข้าแล้ว!”ซือเจ๋อเยว่ “…”คำพูดนี้ทำเอานางไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 148

    เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเรียบ “เรื่องนี้ง่ายนัก ขอเพียงข้าบอกเขาว่าข้ารู้ว่าจ้าวซือหว่านจัดวางค่ายกลชั่วร้ายเพื่อทำร้ายข้า และรู้ความลับของพวกเขาก็เพียงพอแล้ว”เยียนเหนียนเหนียนดวงตาลุกวาวเป็นประกาย “ดังนั้นพี่สามใช้กลอุบายหลอกล่อให้เขาติดกับสินะ?”ซือเจ๋อเยว่ทอดถอนใจพลางกล่าว “พี่สามเจ้ามิได้วางกลลวงเขาหรอก แต่กำลังหยั่งเชิงเขาต่างหาก อยากดูว่าเขารู้มากน้อยเพียงใด”นางเอ่ยถึงตรงนี้หันมองไปที่เยียนเซียวหรานก่อนกล่าว “หากข้าเดาไม่ผิด น้องสามส่งคนติดตามเขาไปแล้วสินะ?”เยียนเซียวหรานพยักหน้า “ถูกต้อง”เยียนเหนียนเหนียนมองซือเจ๋อเยว่สลับกับเยียนเซียวหราน แล้วทำปากยื่นพลางเอ่ย “องค์หญิง ทำไมท่านรู้ไปเสียหมดทุกอย่าง?”“ตอนนี้ข้าสงสัยว่าเจ้าต่างหากที่เป็นครอบครัวเดียวกับพี่สาม ส่วนข้าเป็นคนนอก”ตอนนี้เยียนเซียวหรานไม่อาจทนฟังคำพูดในเชิงนี้ที่กล่าวว่าเขาเป็นครอบครัวเดียวกับซือเจ๋อเยว่ได้ เขายื่นมือมาเขกหัวนางแล้วกล่าว “สมองเป็นสิ่งที่ดี เสียดายที่เจ้าไม่มี”“ไว้ข้าจะบอกในครัวให้ซื้อสมองหมูกลับมาตุ๋นให้เจ้ากินเยอะ ๆ เจ้าจะได้บำรุงสักหน่อย”เยียนเหนียนเหนียนกุมหัวพลางพูด “ท่านเขกหัวข้าอี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 149

    “ข้ารู้ว่าต่อไปจวนอ๋องจำเป็นต้องให้พวกเขาแบกเอาไว้ พวกเขาจึงจำต้องรีบเติบโตให้เร็วที่สุด”“แต่ข้าในฐานะผู้อาวุโส เห็นพวกเขาเติบโตด้วยวิธีการเช่นนี้แล้ว จะมากหรือน้อยก็รู้สึกปวดใจอยู่บ้าง”เยียนซุ่ยซุ่ยได้ยินจากด้านข้าง เม้มริมฝีปากเล็กน้อย จากนั้นกลับไปที่ห้อง แล้วค้นตำราพิษออกมาก่อนนี้นางเรียนรู้แต่วิชาช่วยเหลือคน จึงไม่เคยแตะต้องยาพิษมาก่อนทว่าตอนนี้ทุกคนในจวนอ๋องต่างพยายามปกป้องจวนอ๋องกันอย่างแข็งขัน นางก็อยากทำอะไรเพื่อจวนอ๋องบ้างเช่นกันนางไม่มีวรยุทธ์แก่กล้าอย่างเยียนเหนียนเหนียน และไม่มีความเชี่ยวชาญเช่นซือเจ๋อเยว่ สิ่งเดียวที่นางมีคือฝีมือการแพทย์นางสามารถปรุงยาพิษร้ายแรงให้พวกเขาจำนวนหนึ่ง หากเจอกับศัตรูที่สู้ไม่ไหวจริง ๆ พวกเขาจะได้มียาพิษไว้ใช้หลังจากพวกซือเจ๋อเยว่ทั้งสามคนออกไปจากจวนอ๋อง ก็มุ่งหน้าตรงไปยังจวนตระกูลจ้าวซือเจ๋อเยว่รู้นานแล้วว่าเยียนเหนียนเหนียนมีวรยุทธ์ที่ไม่เลว ตอนนี้กลับพบว่ายัยหนูน้อยคนนี้กลับมีวรยุทธ์แก่กล้ากว่าที่นางคิดไว้เยียนเหนียนเหนียนแบกนางวิ่งมาตลอดทาง กลับไม่มีอาการเหนื่อยหอบเลย ร่างกายเบาหวิวเป็นอย่างยิ่งทั้งสามคนยังต้องป้องกันคน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 150

    เขาเอ่ยถึงตรงนี้น้ำเสียงพลันเย็นเยียบ “นางมีความคิดชั่วร้าย ศึกษาคาถามนตร์ดำ วางแผนทำร้ายผู้อื่น สวรรค์จึงไม่อาจละเว้น”เขาพูดไปพลาง ทำมือส่งสัญญาณบอกเยียนเหนียนเหนียนไปพลาง ให้นางหาโอกาสพาซือเจ๋อเยว่หนีไปเยียนเหนียนเหนียนเห็นแล้วกัดริมฝีปากเบา ๆ มิได้เอ่ยสิ่งใดความสนใจของซือเจ๋อเยว่กลับไม่ได้อยู่ที่จุดเดียวกับพวกเขา นางได้กลิ่นอายความชั่วร้ายที่ลอยคละคลุ้งในอากาศอย่างผิดปกติกลิ่นอายความชั่วร้ายนั้นคละเคล้ากับกลิ่นที่ทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมากอยู่ด้วยหลายส่วนนางพิเคราะห์อยู่ชั่วครู่ ก็พบว่านั่นคือดวงชะตาของเยียนเซียวหรานที่หายไป มันคือวัตถุที่ลงอาคมดูดดวงชะตาของเยียนเซียวหรานเอาไว้นางหลับตาลง ใช้ใจสัมผัสโดยรอบ อยากรู้ว่ากลิ่นอายความชั่วร้ายนั้นถูกปลดปล่อยออกมาจากที่ใดทว่ากลิ่นอายนั้นมา ๆ หาย ๆ กว่านางจะคาดเดาตำแหน่งคร่าว ๆ ได้ กลิ่นนั้นก็จางไปเสียแล้วจ้าวอวี่ชุนเอ่ยด้วยสีหน้าขึงขัง “หากจวนเยียนอ๋องยังเป็นจวนเยียนอ๋องในอดีต เจ้าก็พอถูไถเป็นเขยของข้าได้อยู่หรอก”“ทว่าตอนนี้เจ้าลองตรึกตรองบ้างสิ จวนเยียนอ๋องตกต่ำถึงเพียงนั้นแล้ว เจ้าไม่คู่ควรแต่งงานกับซือหว่านของข้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 151

    ในหมู่บรรดาคุณชายทั้งหลาย เขาทุ่มเทความสนใจให้กับเยียนเซียวหรานมากที่สุดเมื่อเยียนอ๋องยังมีชีวิตอยู่ หากเยียนเซียวหรานมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมแม้เพียงเล็กน้อย แต่เมื่อเยียนอ๋องพบเห็น เขาจะถูกลงโทษอย่างหนักเสมอ เมื่อเวลาผ่านไป เยียนเซียวหรานจึงกลายเป็นคุณชายที่อ่อนน้อมต่อหน้าผู้คน แม้ว่าลับหลังจะไม่ทำสิ่งที่เกินขอบเขตมากเกินไป แต่เขาก็มักจะทำตามความต้องการของตนเองหลังจากที่เยียนอ๋องเสียไป ย่อมไม่มีผู้ใดที่จะควบคุมเยียนเซียวหรานได้อีกต่อไป สิ่งที่เขาสามารถทำได้ย่อมเพิ่มมากขึ้นการที่ศาลต้าหลี่มีคำตัดสินเช่นนั้น หกไตร่ตรองอย่างละเอียดก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเกี่ยวข้องกับเขาหากเขายังคงยึดมั่นอย่างเยียนอ๋อง เกรงว่าจวนเยียนอ๋องคงจะถูกกลืนกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกแล้วเมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะกัน เดิมทีเยียนเซียวหรานให้เยียนเหนียนเหนียนปกป้องซือเจ๋อเยว่แต่เมื่อเยียนเหนียนเหนียนเริ่มต่อสู้ นางกลับตื่นเต้นเกินไป จึงยกดาบใหญ่ในมือของตนเองแล้วฟาดฟันใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างบ้าคลั่งเหล่ามือสังหารเจอสตรีที่ต่อสู้อย่างดุเดือดเช่นนี้เป็นครั้งแรก กอปรกับการโจมตีจากเจ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่จากภายนอก ทำให้พวกเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 152

    เยียนเซียวหราน "…"ด้วยสถานะระหว่างทั้งสอง การแบกนางไม่ค่อยเหมาะสม แต่ในสถานการณ์ฉุกเฉินอาจจะต้องยืดหยุ่นบ้างยามนี้เขารู้แล้วว่านางคือสตรีที่มีความสัมพันธ์ทางกายกับเขาในคืนนั้น แม้จะเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เขาก็ไม่อยากแบกนางแต่ในวินาทีต่อมา ซือเจ๋อเยว่กระโดดขึ้นหลังเขาโดยตรง เขาก็จับขานางด้วยสัญชาตญาณนางยื่นมือโอบรอบคอเขาเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น "อย่าชักช้า รีบไปเถอะ หากช้าอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น"เยียนเซียวหรานมองมือขาวเรียวยาวที่ห้อยอยู่หน้าอกตนเอง เกิดความรู้สึกที่ซับซ้อนเล็กน้อย ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับซือเจ๋อเยว่รู้สึกร้อนรนเล็กน้อย "รีบไปสิ อย่าทำท่าลังเลเลย ข้าไม่สนใจ แล้วเจ้าจะสนใจอันใด?"เยียนเซียวหรานก้มหน้าคิ้วลู่ ขนตายาวขยับเล็กน้อย ปิดบังอารมณ์ซับซ้อนในดวงตา แบกนางวิ่งไปข้างหน้าเมื่อซือเจ๋อเยว่พิงลงไปบนหลังเขา นางก็รู้สึกสบายขึ้นไม่น้อย ความเหนื่อยล้าอันเกิดจากการวิ่งที่รีบเร่งก่อนหน้านี้จึงหายไปมากนางรีบหดมือที่มีเส้นด้ายแดงกลับมา และพบว่าเส้นด้ายแดงค่อยๆ ยกระดับสูงขึ้น ชดเชยพลังที่นางใช้ไปในช่วงนี้กลับมาได้ไม่น้อยนางขอบน้ำใจคนที่ต้องการทำร้ายเยียนเซียวห

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 153

    ก่อนหน้านี้หากเยียนเซียวหรานได้ยินคำว่ามีคนที่สามารถจับตนเองได้ เขาคงจะไม่เชื่อแต่หลังจากที่เขาได้เห็นด้านที่ชั่วร้ายของจ้าวซือหว่านในวัดเป้ากั๋ว เขาจึงรู้ว่าในโลกนี้มีวิธีชั่วร้ายที่ยากจะป้องกันเขาพยักหน้าเบาๆ "ท่านระวังตัวด้วย"ซือเจ๋อเยว่แย้มยิ้ม "ข้ารักโลกนี้ อยากมีชีวิตอยู่นานขึ้น ดังนั้นจะทำตัวต่ำต้อยและระมัดระวัง"เดิมทีเยียนเซียวหรานเชื่อคำกล่าวนี้ของนาง แต่เมื่อพวกเขาเดินถึงประตูหน้าอารามเต๋า เขาก็ไม่เชื่อคำกล่าวของนางอีกต่อไปเพราะนางมาเพิ่งถึงหน้าอารามเต๋า ก็ถือกระบี่ไม้ท้อขึ้นมา แล้วฟาดฟันเข้าใส่เทวรูปไม้ตรงประตูโดยตรงเยียนเซียวหรานได้ยินเสียงแหลมเล็กที่คล้ายดั่งในคืนที่หยกแตก รู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่กระจายตัวออกมาโดยรอบในวินาทีต่อมา ซือเจ๋อเยว่ก็หยิบยันต์ห้าอัสนีบาตออกมาหนึ่งผืนแล้วแปะไว้บนเทวรูปที่ทำจากไม้ เปลวเพลงสายฟ้าผ่าลงมา เริ่มแผดเผาอารามเต๋าแห่งนี้เยียนเซียวหราน "…"เยียนเซียวหราน "!!!!!!"นี่เรียกว่าทำตัวต่ำต้อย? หรือเพราะโลกทัศน์ของเขาแคบเกินไป?เขาเตรียมตัวอย่างเงียบ ๆ  พร้อมสำหรับการยกพวกต่อสู้ในขณะนั้นเอง มีนักพรตที่มีเคราสีขาวไปกว่าก็ว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 154

    ต้นท้อเป็นไม้ที่ขับไล่สิ่งชั่วร้าย แม้จะพบได้ทั่วไป แต่ก็ง่ายต่อการถูกแมลงกัดกิน มีชีวิตอยู่ได้ถึงร้อยปีนับว่าหายากแล้วซึ่งต้นท้อที่มีชีวิตอยู่ได้ถึงพันปี ทั้งยังบังเอิญถูกฟ้าผ่า ได้รับพลังบริสุทธิ์จากฟ้าดิน สามารถฟาดฟันสิ่งชั่วร้ายทุกอย่าง นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของลัทธิเต๋าอาวุธเช่นนี้ เป็นสิ่งที่คนในลัทธิเต๋าใฝ่ฝันซือเจ๋อเยว่ยังไม่ทันเอ่ยปากตอบ นักพรตจื่อหยางก็กระตุกยิ้มอย่างชั่วร้าย "ไม่ว่ากระบี่นี้เจ้าจะได้มาจากใด วันนี้ข้าจะเอามาเป็นของข้า!""หากเจ้ายอมยกให้ข้าแต่โดยดี ข้าอาจจะให้เจ้าตายโดยครบทั้งสามสิบสอง"ซือเจ๋อเยว่ส่งเสียง "จิ๊" ขึ้นมา "เหอะ! เอ่ยเสียใหญ่โต! หากเจ้ามีฝีมือก็เข้ามาแย่งไปสิ!"นักพรตจื่อหยางยกกระบี่แทงเข้ามาที่นาง เยียนเซียวหรานก็ลงมือทันทีเขาใช้คาถาลัทธิเต๋าในการโจมตี ซือเจ๋อเยว่ก็ใช้กระบี่ไม้ท้อพันปีฟาดฟันไม่ว่าจะเป็นวิญญาณที่ชั่วร้ายเพียงใด ก็ไม่สามารถทนต่อพลังของกระบี่เล่มนี้ได้ทุกครั้งที่เขาถูกเยียนเซียวหรานใช้พลังของวิทยายุทธกดดัน เขาสู้ไม่ได้จึงถอยเข้าไปในอารามเต๋าเยียนเซียวหรานกำลังจะเข้าไป แต่ซือเจ๋อเยว่ก็ห้ามไว้แต่เขาก็รู้สึกอิจฉากระบ

Bab terbaru

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status