แชร์

บทที่ 151

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
ในหมู่บรรดาคุณชายทั้งหลาย เขาทุ่มเทความสนใจให้กับเยียนเซียวหรานมากที่สุด

เมื่อเยียนอ๋องยังมีชีวิตอยู่ หากเยียนเซียวหรานมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมแม้เพียงเล็กน้อย แต่เมื่อเยียนอ๋องพบเห็น เขาจะถูกลงโทษอย่างหนักเสมอ

เมื่อเวลาผ่านไป เยียนเซียวหรานจึงกลายเป็นคุณชายที่อ่อนน้อมต่อหน้าผู้คน แม้ว่าลับหลังจะไม่ทำสิ่งที่เกินขอบเขตมากเกินไป แต่เขาก็มักจะทำตามความต้องการของตนเอง

หลังจากที่เยียนอ๋องเสียไป ย่อมไม่มีผู้ใดที่จะควบคุมเยียนเซียวหรานได้อีกต่อไป สิ่งที่เขาสามารถทำได้ย่อมเพิ่มมากขึ้น

การที่ศาลต้าหลี่มีคำตัดสินเช่นนั้น หกไตร่ตรองอย่างละเอียดก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเกี่ยวข้องกับเขา

หากเขายังคงยึดมั่นอย่างเยียนอ๋อง เกรงว่าจวนเยียนอ๋องคงจะถูกกลืนกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกแล้ว

เมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะกัน เดิมทีเยียนเซียวหรานให้เยียนเหนียนเหนียนปกป้องซือเจ๋อเยว่

แต่เมื่อเยียนเหนียนเหนียนเริ่มต่อสู้ นางกลับตื่นเต้นเกินไป จึงยกดาบใหญ่ในมือของตนเองแล้วฟาดฟันใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างบ้าคลั่ง

เหล่ามือสังหารเจอสตรีที่ต่อสู้อย่างดุเดือดเช่นนี้เป็นครั้งแรก กอปรกับการโจมตีจากเจ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่จากภายนอก ทำให้พวกเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 152

    เยียนเซียวหราน "…"ด้วยสถานะระหว่างทั้งสอง การแบกนางไม่ค่อยเหมาะสม แต่ในสถานการณ์ฉุกเฉินอาจจะต้องยืดหยุ่นบ้างยามนี้เขารู้แล้วว่านางคือสตรีที่มีความสัมพันธ์ทางกายกับเขาในคืนนั้น แม้จะเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เขาก็ไม่อยากแบกนางแต่ในวินาทีต่อมา ซือเจ๋อเยว่กระโดดขึ้นหลังเขาโดยตรง เขาก็จับขานางด้วยสัญชาตญาณนางยื่นมือโอบรอบคอเขาเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น "อย่าชักช้า รีบไปเถอะ หากช้าอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น"เยียนเซียวหรานมองมือขาวเรียวยาวที่ห้อยอยู่หน้าอกตนเอง เกิดความรู้สึกที่ซับซ้อนเล็กน้อย ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับซือเจ๋อเยว่รู้สึกร้อนรนเล็กน้อย "รีบไปสิ อย่าทำท่าลังเลเลย ข้าไม่สนใจ แล้วเจ้าจะสนใจอันใด?"เยียนเซียวหรานก้มหน้าคิ้วลู่ ขนตายาวขยับเล็กน้อย ปิดบังอารมณ์ซับซ้อนในดวงตา แบกนางวิ่งไปข้างหน้าเมื่อซือเจ๋อเยว่พิงลงไปบนหลังเขา นางก็รู้สึกสบายขึ้นไม่น้อย ความเหนื่อยล้าอันเกิดจากการวิ่งที่รีบเร่งก่อนหน้านี้จึงหายไปมากนางรีบหดมือที่มีเส้นด้ายแดงกลับมา และพบว่าเส้นด้ายแดงค่อยๆ ยกระดับสูงขึ้น ชดเชยพลังที่นางใช้ไปในช่วงนี้กลับมาได้ไม่น้อยนางขอบน้ำใจคนที่ต้องการทำร้ายเยียนเซียวห

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 153

    ก่อนหน้านี้หากเยียนเซียวหรานได้ยินคำว่ามีคนที่สามารถจับตนเองได้ เขาคงจะไม่เชื่อแต่หลังจากที่เขาได้เห็นด้านที่ชั่วร้ายของจ้าวซือหว่านในวัดเป้ากั๋ว เขาจึงรู้ว่าในโลกนี้มีวิธีชั่วร้ายที่ยากจะป้องกันเขาพยักหน้าเบาๆ "ท่านระวังตัวด้วย"ซือเจ๋อเยว่แย้มยิ้ม "ข้ารักโลกนี้ อยากมีชีวิตอยู่นานขึ้น ดังนั้นจะทำตัวต่ำต้อยและระมัดระวัง"เดิมทีเยียนเซียวหรานเชื่อคำกล่าวนี้ของนาง แต่เมื่อพวกเขาเดินถึงประตูหน้าอารามเต๋า เขาก็ไม่เชื่อคำกล่าวของนางอีกต่อไปเพราะนางมาเพิ่งถึงหน้าอารามเต๋า ก็ถือกระบี่ไม้ท้อขึ้นมา แล้วฟาดฟันเข้าใส่เทวรูปไม้ตรงประตูโดยตรงเยียนเซียวหรานได้ยินเสียงแหลมเล็กที่คล้ายดั่งในคืนที่หยกแตก รู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่กระจายตัวออกมาโดยรอบในวินาทีต่อมา ซือเจ๋อเยว่ก็หยิบยันต์ห้าอัสนีบาตออกมาหนึ่งผืนแล้วแปะไว้บนเทวรูปที่ทำจากไม้ เปลวเพลงสายฟ้าผ่าลงมา เริ่มแผดเผาอารามเต๋าแห่งนี้เยียนเซียวหราน "…"เยียนเซียวหราน "!!!!!!"นี่เรียกว่าทำตัวต่ำต้อย? หรือเพราะโลกทัศน์ของเขาแคบเกินไป?เขาเตรียมตัวอย่างเงียบ ๆ  พร้อมสำหรับการยกพวกต่อสู้ในขณะนั้นเอง มีนักพรตที่มีเคราสีขาวไปกว่าก็ว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 154

    ต้นท้อเป็นไม้ที่ขับไล่สิ่งชั่วร้าย แม้จะพบได้ทั่วไป แต่ก็ง่ายต่อการถูกแมลงกัดกิน มีชีวิตอยู่ได้ถึงร้อยปีนับว่าหายากแล้วซึ่งต้นท้อที่มีชีวิตอยู่ได้ถึงพันปี ทั้งยังบังเอิญถูกฟ้าผ่า ได้รับพลังบริสุทธิ์จากฟ้าดิน สามารถฟาดฟันสิ่งชั่วร้ายทุกอย่าง นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของลัทธิเต๋าอาวุธเช่นนี้ เป็นสิ่งที่คนในลัทธิเต๋าใฝ่ฝันซือเจ๋อเยว่ยังไม่ทันเอ่ยปากตอบ นักพรตจื่อหยางก็กระตุกยิ้มอย่างชั่วร้าย "ไม่ว่ากระบี่นี้เจ้าจะได้มาจากใด วันนี้ข้าจะเอามาเป็นของข้า!""หากเจ้ายอมยกให้ข้าแต่โดยดี ข้าอาจจะให้เจ้าตายโดยครบทั้งสามสิบสอง"ซือเจ๋อเยว่ส่งเสียง "จิ๊" ขึ้นมา "เหอะ! เอ่ยเสียใหญ่โต! หากเจ้ามีฝีมือก็เข้ามาแย่งไปสิ!"นักพรตจื่อหยางยกกระบี่แทงเข้ามาที่นาง เยียนเซียวหรานก็ลงมือทันทีเขาใช้คาถาลัทธิเต๋าในการโจมตี ซือเจ๋อเยว่ก็ใช้กระบี่ไม้ท้อพันปีฟาดฟันไม่ว่าจะเป็นวิญญาณที่ชั่วร้ายเพียงใด ก็ไม่สามารถทนต่อพลังของกระบี่เล่มนี้ได้ทุกครั้งที่เขาถูกเยียนเซียวหรานใช้พลังของวิทยายุทธกดดัน เขาสู้ไม่ได้จึงถอยเข้าไปในอารามเต๋าเยียนเซียวหรานกำลังจะเข้าไป แต่ซือเจ๋อเยว่ก็ห้ามไว้แต่เขาก็รู้สึกอิจฉากระบ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 155

    "หากเจ้าไม่อยากแลก ก็บอกตรงๆ ได้เลย"เอ่ยจบนางก็บอกกับเยียนเซียวหราน "เจ้าเตะเสาเล่มนั้นให้หักที"นักพรตจื่อหยางเห็นทิศทางที่นางชี้ ก็เลือดขึ้นหน้าทันทีเสานั้นเป็นเสาค้ำยันของอารามเต๋า หากเตะมันหัก อารามเต๋าก็จะพังลงหากอารามเต๋าพัง เช่นนั้นแผนที่เขาทำไว้ในอารามเต๋าก่อนหน้านี้ก็จะสูญเปล่าเขายิ้มขึ้นมาเล็กน้อย "แม่นางน้อยช่างอารมณ์ร้อนแรงเสียจริง ก็ได้ ข้าจะไปเอาค่ายกลมาบัดเดี๋ยวนี้"ซือเจ๋อเยว่แย้มยิ้ม "เช่นนี้ค่อยดีหน่อย!"เมื่อนักพรตจื่อหยางเข้าไป ซือเจ๋อเยว่ก็บอกกับเยียนเซียวหราน "ไปเตะเสา"เยียนเซียวหรานมองนางชั่วครู่ หมายความนางกับนักพรตเต๋าคนนั้นกำลังเล่นละครที่ไม่มีผู้ใดเชื่อใจอีกฝ่ายหรือ?ซือเจ๋อเยว่ดันร่างกายเขาพลางเอ่ยขึ้น "รีบไป"เยียนเซียวหรานไม่เอ่ยอันใด แต่ก็ขยับเท้าเดินไป เขาไม่มีความเกรงใจแม้แต่น้อย ที่จะเตะเสาต้นนั้นให้หักลงกำแพงมีเสียง "เอี๊ยด" ดังขึ้น เป็นเสียงโครงสร้างภายในกำแพงที่ไม่สามารถรับน้ำหนักได้ หลังจากเสาถูกเตะให้หักซือเจ๋อเยว่ได้ยินเสียงนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ดึงเยียนเซียวหรานถอยหลังไปอย่างรวดเร็วเยียนเซียวหรานเห็นว่าเมื่อกำแพงแตก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 156 

    อารามเต๋าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยการที่นักพรตจื่อหยางขอให้อวิ๋นเยว่หยางช่วยเหลือ ต้องใช้ทั้งความทุ่มเทและกำลังแรงที่มากมาย เพื่อหวังจะได้รับพลังอันมหาศาลจากเทพชั่วร้าย เขาคิดไม่ถึงแม้แต่น้อย ว่าคืนนี้กลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหราน เพราะกำแพงถูกทำลาย เทพชั่วร้ายไม่สามารถดูดกลืนพลังได้ พลังจึงตีย้อนกลับมาหาเขา!นักพรตจื่อหยางพานักพรตน้อยวิ่งหนีออกมาจากข้างใน เอ่ยอย่างดุร้าย "ฆ่าพวกมัน!" ทันทีที่เขาเอ่ยจบ ดวงตาของนักพรตน้อยเหล่านั้นก็กลายเป็นสีแดงสด และพุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขา เยียนเซียวหรานตวัดกระบี่ขวางพวกเขาเอาไว้ แต่ก็พบว่าพละกำลังของพวกเขาพลันเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดูชั่วร้ายอย่างยิ่งซือเจ๋อเยว่หลับตาและท่องคาถาต่อไป นักพรตจื่อหยางกระตุกยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น "ตนเองยังเอาตัวไม่รอด ยังคิดจะช่วยคนอื่นอีกหรือ?" เขาเอ่ยจบก็ตวัดกระบี่ในมือ หมอกดำลอยออกมาจากกระบี่ พุ่งเข้าใส่ซือเจ๋อเยว่ ซือเจ๋อเยว่ยังคงท่องคาถาต่อไป ใช้มือข้างหนึ่งสร้างมุทราเพื่อป้องกันหมอกดำ ในดวงตาของนักพรตจื่อหยางมีความแปลกใจปรากฏขึ้นมาเล็กน้อย ยามที่นางใช้กระบี่ไม้ท้อฟาดพันปีฟันวิญญาณร้ายก่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 157

    ในที่สุด เยียนซุ่ยซุ่ยก็นึกถึงวิธีที่เคยใช้ในการรักษาซือเจ๋อเยว่ยามที่นางหมดสติครั้งก่อน นางลองใช้วิธีการฝังเข็มให้กับร่างกายของซือเจ๋อเยว่ดูอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าซือเจ๋อเยว่มีสีหน้าดีขึ้น นางก็ทำเช่นนี้ทุกวัน หลังจากใช้วิธีการลองผิดลองถูกในการฝังเข็มให้ซือเจ๋อเยว่ไปหลายวัน สีหน้าของนางก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งหลับสนิทไปถึงเจ็ดวันเต็ม ก่อนจะฟื้นขึ้นมาอย่างแท้จริง ซือเจ๋อเยว่ยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น "ข้าไม่เป็นไร พักผ่อนอีกไม่กี่วันก็คงดีขึ้น" นางยกแขนขึ้นเพื่อมองดูข้อมือของตนเอง ก็พบว่าเส้นสีแดงที่ข้อมือกลับมาเหลือเพียงเล็กน้อยอีกครั้งนางอดไม่ได้ที่จะสบถในใจอย่างเดือดดาล ทั้งที่เห็นได้ชัดว่าก่อนที่นางจะหมดสติไปนางดูดกลืนอายุขัยจากเยียนเซียวหรานมาได้มากมาย แต่ยามนี้กลับหายไปหมดอีกแล้ว?นางเพียงแค่ต่อสู้กับนักพรตชั่วที่หน้าประตูของอารามเต๋าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เส้นสีแดงถึงกับหายไปมากมายเพียงนี้เชียวหรือ?เจ้าบ้านี่ คล้ายดั่งเจอผีไม่มีผิด!ไม่สิ ต่อให้เจอผีก็ไม่ได้น่ากลัวถึงเพียงนี้!นางถามขึ้น "ข้านอนหลับไปนานเพียงใดแล้ว?" เยียนเหนียนเหนียนตอบไป "เจ็ดวัน องค์หญิง ขอโทษด้ว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 158

    แท้จริงแล้วเยียนเซียวหรานไม่อยากพบนางเพียงลำพังนัก สำหรับเรื่องพลังชั่วร้าย เขากลับไม่กังวลอันใด เพราะเขาคุ้นเคยกับมันมานาน ครั้งนี้จึงไม่มีผลกระทบมากนัก เพียงแต่เขารู้ว่าการที่ซือเจ๋อเยว่เรียกหาเขา ต้องมีเรื่องอื่นเป็นแน่หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง กว่าเขาจะไปหานางก็ช่วงบ่ายแล้วเมื่อมาถึงเขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องนอน แต่ยืนอยู่ด้านนอกใกล้ฉากกั้นลมแล้วเอ่ยขึ้น "องค์หญิงอยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นใช่หรือไม่?" "วันนั้นหลังจากองค์หญิงหมดสติไป ข้าขับไล่พวกนักพรตน้อยเหล่านั้นออกไป และกลัวว่านักพรตเฒ่าจะแผลงฤทธิ์ จึงพาตัวองค์หญิงออกมาทันที" ซือเจ๋อเยว่เห็นเงาของเขาผ่านฉากกั้นลม นางรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เขาไม่ยอมเข้ามาใกล้ ซึ่งนางในสภาพนี้ก็ไม่สามารถกระโดดไปอยู่ด้านหน้าเขาได้ นางจึงถามเขาเกี่ยวกับเรื่องสำคัญโดยตรง "นักพรตเฒ่าไม่ได้ทำร้ายเจ้าหรือ?" "ทำ" เยียนเซียวหรานตอบ "แต่ยามที่เขามาแย่งกระบี่ไม้ท้อ เขากลับถูกยันต์บนด้ามกระบี่ทำให้กระเด็นกลับไป" ซือเจ๋อเยว่หัวเราะขึ้นมา "ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าเฒ่าขี้ขลาดคนนั้นจะต้องมาแย่งกระบี่ไม้ท้อ" เยียนเซียวหรานมองลึกลงไปในด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 159

    ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว พลางถามขึ้น "หากครั้งนี้ก็ยังไม่สามารถหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังได้ เราเสียเวลาเปล่าหรือ?""ก็ไม่ถึงกับเสียเวลาเปล่า" เยียนเซียวหรานตอบเสียงเรียบ "ข้าคาดเดาได้บ้างแล้วว่าผู้ใดคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง"ซือเจ๋อเยว่ถามด้วยความสงสัย "ผู้ใดหรือ?"เยียนเซียวหรานมองนางผ่านฉากกั้นลม มันเป็นฉากกั้นลมกึ่งโปร่งแสง เขาเห็นร่างกายที่อ่อนแอของนางนอนอยู่บนเตียงได้อย่างเลือนรางเขานึกถึงการคาดเดาของตนเอง เดิมทีเรื่องการวางแผนที่โหดร้ายเจ้าเล่ห์ของราชสำนักที่มีต่อจวนเยียนอ๋องไม่เกี่ยวข้องกับนางแต่ยามนี้กลับลากนางเข้ามาในวังวนใหญ่ของจวนเยียนอ๋องจวนเยียนอ๋องเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เขายังรับมือไม่ไหวซึ่งนางที่ถูกส่งไปยังสำนักเต๋าตั้งแต่ยังเด็ก พลัดพรากจากญาติสนิท เมื่อกลับมายังเมืองหลวงก็ถูกญาติสนิทคิดร้าย นางจึงเป็นคนที่โดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งอย่างแท้จริงเขาคิดถึงสิ่งเหล่านี้แล้วใจอ่อนลงเล็กน้อย เอ่ยเสียงเบา "องค์หญิงร่างกายยังไม่หายดี พักฟื้นให้สบาย เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง"ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "ก็ได้ หากเจ้าไม่อยากเอ่ยก็ไม่ต้องเอ่ย"นางเพิ่งมาเมืองหลวงไม่นาน บา

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 359

    นั่นเป็นเพราะหลังจากที่ตอนนั้นเขาเข้าไปในค่ายกลแล้ว ตกอยู่ในภาพลวงตา เหมือนเช่นเยียนเซียวหรานในตอนนี้ตัวประหลาดนั่นโหดเหี้ยมน่ากลัวเกินไป ภายในร่างกายกักขังเศษวิญญาณเอาไว้มากมายขนาดนั้นนางไม่จำเป็นต้องเดา เศษวิญญาณที่ตัวประหลาดกักขังเอาไว้ภายในร่างกายพวกนั้น เกรงว่าทั้งหมดจะเป็นองครักษ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อเมื่อนางนึกถึงเรื่องศพอันไม่สมบูรณ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อที่ถูกขนกลับมายังจวนเยียนอ๋อง เกรงว่าจะไม่ได้โดนสัตว์ป่ากัดเอา ทว่าถูกตัวประหลาดนี้ฉีกนางไม่สามารถจินตนาการได้ เยียนอ๋องซื่อจื่อและกลุ่มคนถูกขังอยู่ภายในค่ายกลนี้ ตอนที่ถูกตัวประหลาดฉีกกินทั้งเป็น จะน่าเวทนาและหมดหนทางมากขนาดไหน!ทว่าเรื่องทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงแค่ต้องการฆ่าปิดปากพวกเขา จากนั้นก็ทำเป็นตาค่ายกล ถูกกักขังระหว่างหยินกับหยางตลอดไป กลับชาติมาเกิดใหม่ไม่ได้ต่อให้วิญญาณที่ไม่สมบูรณ์จะหนีไปแล้วกลับชาติมาเกิดใหม่ หากไม่โง่ ปัญญาอ่อน ก็จะอายุสั้น เพราะดวงวิญญาณไม่สมบูรณ์ ได้รับความทุกข์ทรมานเพราะกลับชาติมาเกิดคนผู้นี้จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ทำให้รู้สึกโกรธมากจริง ๆ!พวกเขาวิ่งไปข้างหน้าอยู่ครู่หนึ่งถึงได้หยุดลงแล

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 358

    ตัวประหลาดจับลูกธนูดอกนั้นไว้แล้วโยนใส่พวกเขาเยียนเซียวหรานหลบด้วยความรวดเร็ว ธนูดอกนั้นลอยเฉียดหัวของเขาไปซือเจ๋อเยว่ส่งเสียงร้องประหลาดใจออกมาเบา ๆ พลังสังหารของตัวประหลาดตัวนี้มากเสียจนน่าหวาดกลัวสีหน้าของเยียนเซียวหรานเองก็ค่อนข้างดูแย่เช่นกัน หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปอยากจะยิงให้ถูกตัวประหลาดอีกก็คงกลายเป็นเรื่องที่ยากมากตอนที่ซือเจ๋อเยว่เห็นตัวประหลาดไล่ตามมา พลังชั่วร้ายสีดำที่แผ่ซ่านออกมาจากมือ นางจึงมีวิธีการแล้วนางหยิบลูกธนูดอกหนึ่งขึ้นมาแล้วติดยันต์ที่ด้านบน ให้เยียนเซียวหรานยิงอีกครั้งตัวประหลาดในเวลานี้อยู่ใกล้กับพวกเขามาก เยียนเซียวหรานทำได้เพียงหลบไปก่อน แล้วค่อยยิงธนูดอกนั้นออกไปตัวประหลาดตัวนั้นมองเห็นการเคลื่อนไหวนี้ของเขา ในดวงตาปรากฏความเหยียดหยามขึ้นมาแวบหนึ่ง ใช้วิธีการเดิมซ้ำอีกครั้งเพื่อจับธนูดอกนั้นเพียงแต่ครั้งนี้ตอนที่มันจับลูกธนูดอกนั้นเอาไว้ ทันใดนั้นยันต์ห้าอัสนีบาตรก็ทำงาน ภายในชั่วพริบตา เสียงฟ้าร้องคำรามลั่น ฟ้าผ่ามันจนไหม้เกรียมเยียนเซียวหรานแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก คิดว่าทำแบบนี้น่าจะผ่าจนตัวประหลาดตายแล้ว ทว่าครู่ต่อมา ตัวประหลาดก็ขยับอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 354  

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่อากาศโดยรอบเริ่มบางเบาจนผิดปกติ  พวกเขาเพียงแค่เดินตามปกติ แต่กลับรู้สึกหายใจติดขัด  ชื่อปาเลี่ยอ้าปากหอบหายใจ พลางเอ่ยด้วยความตระหนก “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดข้าหายใจไม่ออก?”  ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเสียงเบา “เราก้าวเข้าสู่ค่ายกลของผู้อื่นแล้ว”  ชื่อปาเลี่ยเอ่ยด้วยความสงสัย “แต่เมื่อครู่ยามที่เข้ามา ท่านได้ทำลายค่ายกลไปแล้วไม่ใช่หรือ?”  ซือเจ๋อเยว่ตอบไป “นี่คือค่ายกลซ้อนค่ายกล ผู้วางค่ายกลนี้ร้ายกาจอย่างยิ่ง ฝีมือในด้านค่ายกลไม่ได้ด้อยกว่าข้าเลย” “แม้แต่ยามที่ก้าวเข้ามาครั้งแรก ข้าเองก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ” “ในเมื่อเราตกเข้ามาแล้ว ยามนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาทางทำลายค่ายกลนี้”  ชื่อปาเลี่ยรีบถาม “ทำอย่างไรจึงจะทำลายได้?”  ซือเจ๋อเยว่กวาดตามองโดยรอบแล้วเอ่ยขึ้น “หากต้องการทำลายต้องหาแกนกลางค่ายกลให้พบ ขอเพียงหามันเจอ การทำลายค่ายกลนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง”  “ส่วนเรื่องที่ว่ามันอยู่ที่ใด ยามนี้ข้าเองก็ยังไม่แน่ชัด เราต้องหาต่อไป”  ยิ่งพวกเขาก้าวไปข้างหน้าเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกว่าการหายใจยากลำบากเท่านั้น พื้นดินรอบตัวกลายเป็นสีดำไหม้ ฟ้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 353  

    ราชครูมองเห็นโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกงกระจัดกระจาย ก่อนที่มันจะรวมตัวขึ้นอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  เขายกนิ้วขึ้นคำนวณบางสิ่ง แต่เมื่อได้ผลลัพธ์ เขากลับแย้มยกริมฝีปากแล้วเอ่ยด้วยความไม่พอใจ “นี่มันตัวอันใด!”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายเอ่ยถาม “ท่านราชครู เป็นอันใดไปหรือขอรับ?”  ทว่าราชครูกลับตอบไม่ตรงคำถาม “ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีเหตุและผลของมัน”  “มีบางเรื่องที่ข้าสามารถแทรกแซงได้ แต่บางเรื่องต้องปล่อยให้นางเป็นผู้จัดการเอง”  “นางคนนั้นมีชะตาชีวิตที่แตกต่างจากผู้อื่น เมื่อยามทุกข์ก็ทุกข์อย่างแท้จริง” “แม้ข้าจะสงสารนางเพียงใด แต่เรื่องบางเรื่องก็มีแต่นางที่ต้องเผชิญด้วยตนเอง”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวเอ่ยถาม “ท่านกำลังเอ่ยถึงชะตากรรมใดกัน? หรือว่าท่านกำลังเป็นห่วงศิษย์พี่หญิง?”  ราชครูหยิบไม้ขนไก่ข้างตัวขึ้นมาแล้วหวดลงไปที่หลังของเด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวทันที “ผู้ใดสนใจนางกัน?!”  “ชะตาชีวิตของนางเป็นชะตาที่ต้องตาย แม้แต่มหาเทพเซียนมาเองก็ไม่อาจช่วยนางได้!”  “ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะนาง ข้าแก่ขึ้นไปตั้งเท่าใด ข้าจะไปสนใจนางเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 352  

    ดังที่ซือเจ๋อเยว่คาดการณ์ไว้ อดีตหนิงกั๋วกงพลันกระอักเลือดออกมา  เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเคียดแค้น “ซือเจ๋อเยว่!”  ตลอดหลายวันผ่านมานี้ เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรักษาโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกง  สมบัติวิเศษล้ำค่าที่เขาเสาะหามานานหลายปีล้วนถูกใช้ไปจนหมดสิ้น จึงจะประคับประคองไว้ได้อย่างยากลำบาก ครั้งก่อนที่ไป๋จื้อเซียนบุกเข้าไปยังห้องลับ และกลืนกินดวงวิญญาณของบรรพบุรุษคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ทำให้อดีตหนิงกั๋วกงเริ่มรู้สึกถึงความสั่นคลอนของพลัง  แม้เวลานั้นสถานการณ์จะอันตราย แต่ค่ายกลใหญ่แห่งชายแดนยังไม่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์  หากสามารถจัดการพลังที่หลงเหลือได้อย่างเหมาะสม ก็ยังสามารถต่อเวลาของโชคชะตาในจวนหนิงกั๋วกงออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เมื่อรู้ว่าซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานออกจากเมืองหลวง เขาจึงเร่งวางแผนเพื่อกำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก เดิมทีเขาคิดว่าหากสามารถสกัดซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานเอาไว้ที่ด่านอวิ๋นหลิ่งได้ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา  ทว่าเมื่อครู่ เขาได้รับสารลับจากนกพิราบส่งข่าวจากด่านอวิ๋นหลิ่ง  ข้อความในจดหมายบอกเอาไว้ว่าที่ด่านอวิ๋นหลิ่งนั้น เกิดหิมะตกหนัก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 351  

    ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนจากบุรุษผู้ซื่อสัตย์ กลายเป็นคนหยาบกระด้างและไม่สนใจเหตุผลใด ๆ อีกต่อไป  เขาชินเสียแล้วกับสายตาของผู้คนที่มองเขาปานสิ่งสกปรก เขาใช้ชีวิตอย่างเมามายไร้จุดหมายไปวัน ๆ  แต่เมื่อวาน ยามที่ไป๋จื้อเซียนคิดจะสังหารเขา ซือเจ๋อเยว่กลับทุ่มเทสุดกำลังเพื่อช่วยชีวิตเขา  ยิ่งไปกว่านั้นแววตาที่นางใช้มองเขา ก็หาได้แตกต่างไปจากการมองคนอื่นไม่ ไม่มีแม้เพียงเศษเสี้ยวของความดูแคลน  เขาจึงรู้สึกว่าสตรีในโลกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นมารดาหรือสตรีที่เขาเคยหมายปองในอดีต  เขากระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณชายสาม หลังจากเรื่องนี้จบแล้ว ท่านพอจะพาข้าไปเมืองหลวงได้หรือไม่?”  เยียนเซียวหรานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เจ้าคิดจะไปเมืองหลวง?”  ชื่อปาเลี่ยตอบไป “ใช่ขอรับ ข้าไม่อยากอยู่ที่ชายแดนอีกต่อไปแล้ว ที่นี่ทุกคนล้วนรู้เรื่องของข้า หากข้าไม่เลือกเป็นอันธพาลก็ต้องเป็นเพียงคนไร้ค่า” “แต่ข้าไม่อยากเป็นอันธพาลและไม่อยากเป็นคนไร้ค่า ข้าเพียงแค่อยากเป็นคนธรรมดา”  “ข้าต้องการพึ่งพาความสามารถของตนเอง มีชีวิตที่ดี และแต่งงานกับสตรีดี ๆ สักคน เพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุข”  เยียนเซียวหรานเอ่ย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status