Share

บทที่ 157

Author: เจียงหนานเยียน
ในที่สุด เยียนซุ่ยซุ่ยก็นึกถึงวิธีที่เคยใช้ในการรักษาซือเจ๋อเยว่ยามที่นางหมดสติครั้งก่อน นางลองใช้วิธีการฝังเข็มให้กับร่างกายของซือเจ๋อเยว่ดูอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าซือเจ๋อเยว่มีสีหน้าดีขึ้น นางก็ทำเช่นนี้ทุกวัน

หลังจากใช้วิธีการลองผิดลองถูกในการฝังเข็มให้ซือเจ๋อเยว่ไปหลายวัน สีหน้าของนางก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งหลับสนิทไปถึงเจ็ดวันเต็ม ก่อนจะฟื้นขึ้นมาอย่างแท้จริง

ซือเจ๋อเยว่ยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น "ข้าไม่เป็นไร พักผ่อนอีกไม่กี่วันก็คงดีขึ้น"

นางยกแขนขึ้นเพื่อมองดูข้อมือของตนเอง ก็พบว่าเส้นสีแดงที่ข้อมือกลับมาเหลือเพียงเล็กน้อยอีกครั้ง

นางอดไม่ได้ที่จะสบถในใจอย่างเดือดดาล ทั้งที่เห็นได้ชัดว่าก่อนที่นางจะหมดสติไปนางดูดกลืนอายุขัยจากเยียนเซียวหรานมาได้มากมาย แต่ยามนี้กลับหายไปหมดอีกแล้ว?

นางเพียงแค่ต่อสู้กับนักพรตชั่วที่หน้าประตูของอารามเต๋าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เส้นสีแดงถึงกับหายไปมากมายเพียงนี้เชียวหรือ?

เจ้าบ้านี่ คล้ายดั่งเจอผีไม่มีผิด!

ไม่สิ ต่อให้เจอผีก็ไม่ได้น่ากลัวถึงเพียงนี้!

นางถามขึ้น "ข้านอนหลับไปนานเพียงใดแล้ว?"

เยียนเหนียนเหนียนตอบไป "เจ็ดวัน องค์หญิง ขอโทษด้ว
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 158

    แท้จริงแล้วเยียนเซียวหรานไม่อยากพบนางเพียงลำพังนัก สำหรับเรื่องพลังชั่วร้าย เขากลับไม่กังวลอันใด เพราะเขาคุ้นเคยกับมันมานาน ครั้งนี้จึงไม่มีผลกระทบมากนัก เพียงแต่เขารู้ว่าการที่ซือเจ๋อเยว่เรียกหาเขา ต้องมีเรื่องอื่นเป็นแน่หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง กว่าเขาจะไปหานางก็ช่วงบ่ายแล้วเมื่อมาถึงเขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องนอน แต่ยืนอยู่ด้านนอกใกล้ฉากกั้นลมแล้วเอ่ยขึ้น "องค์หญิงอยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นใช่หรือไม่?" "วันนั้นหลังจากองค์หญิงหมดสติไป ข้าขับไล่พวกนักพรตน้อยเหล่านั้นออกไป และกลัวว่านักพรตเฒ่าจะแผลงฤทธิ์ จึงพาตัวองค์หญิงออกมาทันที" ซือเจ๋อเยว่เห็นเงาของเขาผ่านฉากกั้นลม นางรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เขาไม่ยอมเข้ามาใกล้ ซึ่งนางในสภาพนี้ก็ไม่สามารถกระโดดไปอยู่ด้านหน้าเขาได้ นางจึงถามเขาเกี่ยวกับเรื่องสำคัญโดยตรง "นักพรตเฒ่าไม่ได้ทำร้ายเจ้าหรือ?" "ทำ" เยียนเซียวหรานตอบ "แต่ยามที่เขามาแย่งกระบี่ไม้ท้อ เขากลับถูกยันต์บนด้ามกระบี่ทำให้กระเด็นกลับไป" ซือเจ๋อเยว่หัวเราะขึ้นมา "ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าเฒ่าขี้ขลาดคนนั้นจะต้องมาแย่งกระบี่ไม้ท้อ" เยียนเซียวหรานมองลึกลงไปในด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 159

    ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว พลางถามขึ้น "หากครั้งนี้ก็ยังไม่สามารถหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังได้ เราเสียเวลาเปล่าหรือ?""ก็ไม่ถึงกับเสียเวลาเปล่า" เยียนเซียวหรานตอบเสียงเรียบ "ข้าคาดเดาได้บ้างแล้วว่าผู้ใดคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง"ซือเจ๋อเยว่ถามด้วยความสงสัย "ผู้ใดหรือ?"เยียนเซียวหรานมองนางผ่านฉากกั้นลม มันเป็นฉากกั้นลมกึ่งโปร่งแสง เขาเห็นร่างกายที่อ่อนแอของนางนอนอยู่บนเตียงได้อย่างเลือนรางเขานึกถึงการคาดเดาของตนเอง เดิมทีเรื่องการวางแผนที่โหดร้ายเจ้าเล่ห์ของราชสำนักที่มีต่อจวนเยียนอ๋องไม่เกี่ยวข้องกับนางแต่ยามนี้กลับลากนางเข้ามาในวังวนใหญ่ของจวนเยียนอ๋องจวนเยียนอ๋องเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เขายังรับมือไม่ไหวซึ่งนางที่ถูกส่งไปยังสำนักเต๋าตั้งแต่ยังเด็ก พลัดพรากจากญาติสนิท เมื่อกลับมายังเมืองหลวงก็ถูกญาติสนิทคิดร้าย นางจึงเป็นคนที่โดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งอย่างแท้จริงเขาคิดถึงสิ่งเหล่านี้แล้วใจอ่อนลงเล็กน้อย เอ่ยเสียงเบา "องค์หญิงร่างกายยังไม่หายดี พักฟื้นให้สบาย เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง"ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "ก็ได้ หากเจ้าไม่อยากเอ่ยก็ไม่ต้องเอ่ย"นางเพิ่งมาเมืองหลวงไม่นาน บา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 160

    สีหน้าของเยียนเซียวหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อยเรื่องที่นางจะมีชีวิตอยู่ได้ถึงสิบแปดปี เขาเองก็รู้ แต่ก็ไม่ได้เชื่อมากนักเพราะหากนางไม่ป่วยนอนบนเตียง ก็จะดูมีชีวิตชีวา ยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลาไม่มีผู้ใดจะเชื่อมโยงเรื่องตายก่อนไวอันควรกับนางแต่ความจริงคือนางเป็นคนที่แม้แต่ชีพจรก็ไม่มี พลังของคาถาลัทธิเต๋าสูงส่งแต่ใช้เมื่อใดก็จะเป็นลมหมดสติไปแล้วเขาเอ่ยเสียงเบา "ข้าจะหาหมอดีๆ มาให้องค์หญิง จะต้องรักษาได้แน่"ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจเสียงเบา "โรคของข้า หมอรักษาไม่ได้ แต่มีคนหนึ่งที่รักษาได้"เยียนเซียวหรานถาม "ผู้ใด?"ซือเจ๋อเยว่ไม่เอ่ยวาจาใด แต่หันไปมองเขาสายตาของเยียนเซียวหรานเปลี่ยนไปหลายครั้ง แล้วถามขึ้นอีกครั้ง "ผู้ใด?"ซือเจ๋อเยว่นึกถึงนิสัยที่เคร่งครัดของเขา คิดว่าหากนางบอกว่าเป็นเขา วิธีการรักษาคือกอดและจูบตนเอง คงจะถูกเขาตบให้ตายอยู่เสียตรงนี้คำกล่าวที่นางจะเอ่ยจึงเปลี่ยนไป "อาจารย์ใหญ่ของข้า แต่เขาเดินทางไปไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาอยู่ที่ใด""คาดว่ากว่าจะหาเขาพบ ข้าคงตายไปหลายรอบแล้ว""ไม่เอ่ยเรื่องนี้แล้ว น้องสามช่วยข้าดื่มน้ำแก้วนี้ได้หรือไม่?"เยียนเซียวหร

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 161

    เยียนเซียวหราน “...”แม้เขาจะรู้ว่านางกำลังพูดจาโป้ปด แต่เขาก็ไม่สามารถหักล้างได้เช่นกันในเวลานี้เอง เยียนซุ่ยซุ่ยเดินเข้ามา “องค์หญิง คนของวังหลวงมาอีกแล้ว เชิญท่านเสด็จเข้าวัง”ซือเจ๋อเยว่ไม่ได้มีความสนใจการเข้าวังหลวงสักเท่าไร จึงถาม “ผู้ใดในวังหลวงต้องการพบข้า?”เยียนซุ่ยซุ่ยตอบ “ฝ่าบาทเจ้าค่ะ”ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ หากเป็นอวิ๋นไท่เฟยนางยังสามารถแกล้งตายได้ หากเป็นฮ่องเต้เจาหมิงละก็ นางก็ไม่สามารถแกล้งตายต่อไปได้อีกแล้วนางกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรง “เอาเถอะ ข้าล้างหน้าเสร็จก็จะเข้าวัง”พระชายาเยียนอ๋องได้ยินข่าวเดินเข้ามาพร้อมกล่าว “หากองค์หญิงไม่สบาย ก็ไม่ต้องเข้าวังหรอก ฝ่าบาททรงเข้าใจได้”ซือเจ๋อเยว่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เสด็จอาทรงเรียกพบ ต่อให้ข้าเหลือลมหายใจแค่เฮือกสุดท้ายก็ต้องเข้าวัง ต่อให้ต้องหามเข้าไปก็ตามเจ้าค่ะ”ในสายตาของพระชายาเยียนอ๋องมีความเป็นห่วงเล็กน้อยซือเจ๋อเยว่ค่อย ๆ ลุกขึ้นมา แล้วค่อยให้เยียนซุ่ยซุ่ยช่วยหวีผมให้นางจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นค่อย ๆ เดินออกจากห้องเยียนเซียวหรานมองเห็นท่าทางนี้ของนาง ก็รู้สึกว่าตนเองอาจจะเข้าใจนางผิดไปแล้ว เป็นเพราะท่าทางของนา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 162

    ฮ่องเต้เจาหมิงได้ยินประโยคนี้ของนาง ก็หันหน้าไปมอง “นี่เจ้ากำลังโทษเราอย่างนั้นหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า “แน่นอนว่าไม่ใช่เพคะ เดิมทีหม่อมฉันเติบโตมาในชนบท ที่ได้ร่ำเรียนย่อมเป็นความสามารถตามชนบทเพคะ”“หม่อมฉันเชื่อว่าทุกคนควรมีทักษะบางอย่างเป็นของตนเองเพคะ ถึงแม้ว่าความสามารถของหม่อมฉันจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าใดนัก แต่ก็มีประโยชน์เพคะ”“หม่อมฉันออกจากเรือนโดยไม่ต้องพกเงิน ไม่มีเวลาให้ใช้จ่ายเงินเพคะ เพียงแค่นั่งข้างถนน แขวนป้ายดูดวง ก็สามารถหาเงินเลี้ยงชีพตนเองได้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เจาหมิงโมโหจนหัวเราะออกมา “เจ้าเป็นถึงองค์หญิงผู้สง่าผ่าเผยของแคว้น ตั้งแผงข้างถนนดูดวงให้ผู้คน สมควรแล้วอย่างนั้นหรือ?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยท่าทางจริงจัง “หม่อมฉันใช้ความสามารถหาเงิน มีปัญหาอะไรหรือเพคะ? มีตรงไหนที่น่าอายกันเพคะ?”ฮ่องเต้เจาหมิง “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวต่ออีกว่า “หม่อมฉันเติบโตในสำนักเต๋า หม่อมฉันไม่เรียนเรื่องพวกนี้ แล้วหม่อมฉันจะเรียนอะไรเพคะ?”“อีกอย่าง แม้ว่าสิ่งนี้จะนำความอับอายมาสู่ราชวงศ์ หม่อมฉันก็คงทำให้อับอายไม่นานนัก”“อย่างมากก็แค่จนกว่าหม่อมฉันจะอายุสิบแปดปี จวบจนบัดนี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 163

    ซือเจ๋อเยว่ตอบ “ไม่ทราบเพคะ เขาเอาแต่วิ่งไปทั่วทั้งวัน ผู้ใดจะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนกันเล่าเพคะ?”ฮ่องเต้เจาหมิงถามนาง “ยันต์ห้าอัสนีบาตรก็เป็นยันต์ที่อาจารย์ใหญ่ของเจ้ามอบให้เจ้า?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ใช่เพคะ ก่อนหน้าที่หม่อมฉันจะเข้าวัง เขามอบยันต์และคาถาให้หม่อมฉันเป็นกอง”“พูดว่าหากใครจะรังแกหม่อมฉัน ก็ให้ยันต์แผ่นหนึ่งแก่อีกฝ่าย รับรองว่าอีกฝ่ายจะต้องว่าง่าย”“แต่หม่อมฉันก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าอานุภาพของยันต์ห้าอัสนีบาตจะรุนแรงขนาดนั้น ถึงกับผ่าจ้าวซือหว่านจนตายทันที”นางพูดจบก็ขยับเข้าไปใกล้ตรงหน้าของฮ่องเต้เจาหมิง เอ่ยถาม “เสด็จอา ยันต์ห้าอัสนีบาตรผ่าเพียงสิ่งชั่วร้ายเท่านั้น เหตุใดหลังจากหม่อมฉันแปะจ้าวซือหว่าน นางก็ถูกฟ้าผ่าตายทันทีเลยเล่าเพคะ?”ฮ่องเต้เจาหมิงมองนางด้วยสีหน้าเรียบเฉยแวบหนึ่งแล้วกล่าว “เรื่องนี้เจ้าเองรู้อยู่แก่ใจ เหตุใดจึงถามข้า?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “กล่าวเช่นนี้ แสดงว่าเสด็จอาทรงทราบว่านางตายอย่างไร”“ในเมื่อเสด็จอาทรงทราบแล้ว เหตุใดจึงเรียกหม่อมฉันเข้าวังเพื่อซักถามเรื่องนี้เล่าเพคะ?”ฮ่องเต้เจาหมิง “...”นางอ้อมรอบหนึ่ง ทำให้เขาอ้อมเข้ามาติ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 164

    ฮ่องเต้เจาหมิงจ้องมองเขา กล่าว “ราชครู นางให้เราลงโทษเจ้า โดยการตัดหัวของเจ้า”ราชครูกล่าวด้วยความโมโหเล็กน้อย “นังเด็กคนนี้ช่างกำเริบเสิบสานนัก วันหน้าหากกระหม่อมเจอนาง จะตีนางให้ตายอย่างแน่นอน!”ฮ่องเต้เจาหมิงกล่าวเสียงเรียบ “ตีนาง? ราชครูทำลงอย่างนั้นหรือ?”ราชครูถอนหายใจเบา ๆ กล่าว “จากสิ่งที่นางทำในวันนี้ กระหม่อมมีอะไรที่ทำไม่ลงพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้เจาหมิงไม่เชื่อคำพูดของเขาอย่างเห็นได้ชัด กล่าว “นางฉลาดหลักแหลมกว่าที่เราจินตนาการเอาไว้เสียอีก สมกับที่เป็นบุตรของเสด็จพี่”“หากเสด็จพี่เห็นท่าทางแบบนี้ของนาง ไม่รู้ว่าจะดีใจมากแค่ไหน”เมื่อราชครูได้ยินดังคำพูดประโยคนี้ สีหน้าท่าทางก็ดูหงอยเหงา “เกรงว่าหากดีใจขึ้นมา อาการป่วยของเขาจะไร้หนทางรักษา ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับชะตากรรม”“กระหม่อมใช้ความพยายามมากมายขนาดนั้นเพื่อต่อชีวิตนาง อย่างมากก็ทำได้เพียงทำให้นางมีชีวิตอยู่ได้ถึงสิบแปดปีเท่านั้น”ฮ่องเต้เจาหมิงกล่าวเตือนเขา “เจ้าก็อย่าได้ทุกข์ใจมากเกินไป ยังไม่ถึงตอนสุดท้าย ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงได้”ราชครูถอนหายใจ ไม่ได้พูดต่ออีกฮ่องเต้เจาหมิงสายตาลึกซึ้งขึ้นเล็กน้อย ข้างใ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 165

    นางไม่เคยถือสาที่จะแสดงความเกลียดชังของนางที่มีซือเจ๋อเยว่ต่อหน้าคนอื่นมาก่อนนางถึงขนาดไม่ยินยอมให้ซือเจ๋อเยว่มีการไปมาหาสู่กันกับคนในครอบครัวฝั่งมารดาของนางเนื่องจากนางรู้สึกว่าซือเจ๋อเยว่หยาบคายเกินไป จะแปดเปื้อนดวงตาคนในครอบครัวฝั่งมารดาของนางได้วันนี้เป็นเพราะอวิ๋นเยว่หยางเป็นฝ่ายอยากจะพบซือเจ๋อเยว่ผู้ที่เป็นญาติผู้น้อง นางถึงได้ยอมกล้ำกลืนฝืนทนยอมให้เขาพบซือเจ๋อเยว่ก่อนหน้านี้อวิ๋นเยว่หยางก็รู้ว่าอวิ๋นไท่เฟยไม่ชอบซือเจ๋อเยว่เอามาก ๆ เขาไม่ได้มีความสนใจต่อญาติผู้น้องที่บิดาตายและตัวตนน่าอับอายคนนี้เช่นกันเพียงแต่เมื่อหลายวันก่อนเขาได้วางแผน อยากจะดึงผู้วิเศษที่อยู่ข้างกายของเยียนเซียวหรานออกมาเดิมทีเขาคิดว่าเรื่องนี้มีนักพรตจื่อหยางออกหน้า ก็สามารถทำได้สำเร็จอย่างง่ายดายผลปรากฏว่าวันนี้ไม่เพียงไม่สามารถสังหารผู้วิเศษที่อยู่ข้างกายของเยียนเซียวหรานได้ ในทางกลับกันยังทำให้นักพรตจื่อหยางได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วยเมื่อวานนี้หลังจากที่นักพรตจื่อหยางฟื้นขึ้นมาได้บอกกับเขาว่า ผู้วิเศษที่อยู่ข้างกายเยียนเซียวหรานก็คือซือเจ๋อเยว่ตอนนั้นเขาตกใจจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าองค์หญิงผู้ไ

Latest chapter

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 359

    นั่นเป็นเพราะหลังจากที่ตอนนั้นเขาเข้าไปในค่ายกลแล้ว ตกอยู่ในภาพลวงตา เหมือนเช่นเยียนเซียวหรานในตอนนี้ตัวประหลาดนั่นโหดเหี้ยมน่ากลัวเกินไป ภายในร่างกายกักขังเศษวิญญาณเอาไว้มากมายขนาดนั้นนางไม่จำเป็นต้องเดา เศษวิญญาณที่ตัวประหลาดกักขังเอาไว้ภายในร่างกายพวกนั้น เกรงว่าทั้งหมดจะเป็นองครักษ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อเมื่อนางนึกถึงเรื่องศพอันไม่สมบูรณ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อที่ถูกขนกลับมายังจวนเยียนอ๋อง เกรงว่าจะไม่ได้โดนสัตว์ป่ากัดเอา ทว่าถูกตัวประหลาดนี้ฉีกนางไม่สามารถจินตนาการได้ เยียนอ๋องซื่อจื่อและกลุ่มคนถูกขังอยู่ภายในค่ายกลนี้ ตอนที่ถูกตัวประหลาดฉีกกินทั้งเป็น จะน่าเวทนาและหมดหนทางมากขนาดไหน!ทว่าเรื่องทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงแค่ต้องการฆ่าปิดปากพวกเขา จากนั้นก็ทำเป็นตาค่ายกล ถูกกักขังระหว่างหยินกับหยางตลอดไป กลับชาติมาเกิดใหม่ไม่ได้ต่อให้วิญญาณที่ไม่สมบูรณ์จะหนีไปแล้วกลับชาติมาเกิดใหม่ หากไม่โง่ ปัญญาอ่อน ก็จะอายุสั้น เพราะดวงวิญญาณไม่สมบูรณ์ ได้รับความทุกข์ทรมานเพราะกลับชาติมาเกิดคนผู้นี้จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ทำให้รู้สึกโกรธมากจริง ๆ!พวกเขาวิ่งไปข้างหน้าอยู่ครู่หนึ่งถึงได้หยุดลงแล

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 358

    ตัวประหลาดจับลูกธนูดอกนั้นไว้แล้วโยนใส่พวกเขาเยียนเซียวหรานหลบด้วยความรวดเร็ว ธนูดอกนั้นลอยเฉียดหัวของเขาไปซือเจ๋อเยว่ส่งเสียงร้องประหลาดใจออกมาเบา ๆ พลังสังหารของตัวประหลาดตัวนี้มากเสียจนน่าหวาดกลัวสีหน้าของเยียนเซียวหรานเองก็ค่อนข้างดูแย่เช่นกัน หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปอยากจะยิงให้ถูกตัวประหลาดอีกก็คงกลายเป็นเรื่องที่ยากมากตอนที่ซือเจ๋อเยว่เห็นตัวประหลาดไล่ตามมา พลังชั่วร้ายสีดำที่แผ่ซ่านออกมาจากมือ นางจึงมีวิธีการแล้วนางหยิบลูกธนูดอกหนึ่งขึ้นมาแล้วติดยันต์ที่ด้านบน ให้เยียนเซียวหรานยิงอีกครั้งตัวประหลาดในเวลานี้อยู่ใกล้กับพวกเขามาก เยียนเซียวหรานทำได้เพียงหลบไปก่อน แล้วค่อยยิงธนูดอกนั้นออกไปตัวประหลาดตัวนั้นมองเห็นการเคลื่อนไหวนี้ของเขา ในดวงตาปรากฏความเหยียดหยามขึ้นมาแวบหนึ่ง ใช้วิธีการเดิมซ้ำอีกครั้งเพื่อจับธนูดอกนั้นเพียงแต่ครั้งนี้ตอนที่มันจับลูกธนูดอกนั้นเอาไว้ ทันใดนั้นยันต์ห้าอัสนีบาตรก็ทำงาน ภายในชั่วพริบตา เสียงฟ้าร้องคำรามลั่น ฟ้าผ่ามันจนไหม้เกรียมเยียนเซียวหรานแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก คิดว่าทำแบบนี้น่าจะผ่าจนตัวประหลาดตายแล้ว ทว่าครู่ต่อมา ตัวประหลาดก็ขยับอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 354  

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่อากาศโดยรอบเริ่มบางเบาจนผิดปกติ  พวกเขาเพียงแค่เดินตามปกติ แต่กลับรู้สึกหายใจติดขัด  ชื่อปาเลี่ยอ้าปากหอบหายใจ พลางเอ่ยด้วยความตระหนก “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดข้าหายใจไม่ออก?”  ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเสียงเบา “เราก้าวเข้าสู่ค่ายกลของผู้อื่นแล้ว”  ชื่อปาเลี่ยเอ่ยด้วยความสงสัย “แต่เมื่อครู่ยามที่เข้ามา ท่านได้ทำลายค่ายกลไปแล้วไม่ใช่หรือ?”  ซือเจ๋อเยว่ตอบไป “นี่คือค่ายกลซ้อนค่ายกล ผู้วางค่ายกลนี้ร้ายกาจอย่างยิ่ง ฝีมือในด้านค่ายกลไม่ได้ด้อยกว่าข้าเลย” “แม้แต่ยามที่ก้าวเข้ามาครั้งแรก ข้าเองก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ” “ในเมื่อเราตกเข้ามาแล้ว ยามนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาทางทำลายค่ายกลนี้”  ชื่อปาเลี่ยรีบถาม “ทำอย่างไรจึงจะทำลายได้?”  ซือเจ๋อเยว่กวาดตามองโดยรอบแล้วเอ่ยขึ้น “หากต้องการทำลายต้องหาแกนกลางค่ายกลให้พบ ขอเพียงหามันเจอ การทำลายค่ายกลนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง”  “ส่วนเรื่องที่ว่ามันอยู่ที่ใด ยามนี้ข้าเองก็ยังไม่แน่ชัด เราต้องหาต่อไป”  ยิ่งพวกเขาก้าวไปข้างหน้าเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกว่าการหายใจยากลำบากเท่านั้น พื้นดินรอบตัวกลายเป็นสีดำไหม้ ฟ้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 353  

    ราชครูมองเห็นโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกงกระจัดกระจาย ก่อนที่มันจะรวมตัวขึ้นอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  เขายกนิ้วขึ้นคำนวณบางสิ่ง แต่เมื่อได้ผลลัพธ์ เขากลับแย้มยกริมฝีปากแล้วเอ่ยด้วยความไม่พอใจ “นี่มันตัวอันใด!”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายเอ่ยถาม “ท่านราชครู เป็นอันใดไปหรือขอรับ?”  ทว่าราชครูกลับตอบไม่ตรงคำถาม “ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีเหตุและผลของมัน”  “มีบางเรื่องที่ข้าสามารถแทรกแซงได้ แต่บางเรื่องต้องปล่อยให้นางเป็นผู้จัดการเอง”  “นางคนนั้นมีชะตาชีวิตที่แตกต่างจากผู้อื่น เมื่อยามทุกข์ก็ทุกข์อย่างแท้จริง” “แม้ข้าจะสงสารนางเพียงใด แต่เรื่องบางเรื่องก็มีแต่นางที่ต้องเผชิญด้วยตนเอง”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวเอ่ยถาม “ท่านกำลังเอ่ยถึงชะตากรรมใดกัน? หรือว่าท่านกำลังเป็นห่วงศิษย์พี่หญิง?”  ราชครูหยิบไม้ขนไก่ข้างตัวขึ้นมาแล้วหวดลงไปที่หลังของเด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวทันที “ผู้ใดสนใจนางกัน?!”  “ชะตาชีวิตของนางเป็นชะตาที่ต้องตาย แม้แต่มหาเทพเซียนมาเองก็ไม่อาจช่วยนางได้!”  “ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะนาง ข้าแก่ขึ้นไปตั้งเท่าใด ข้าจะไปสนใจนางเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 352  

    ดังที่ซือเจ๋อเยว่คาดการณ์ไว้ อดีตหนิงกั๋วกงพลันกระอักเลือดออกมา  เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเคียดแค้น “ซือเจ๋อเยว่!”  ตลอดหลายวันผ่านมานี้ เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรักษาโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกง  สมบัติวิเศษล้ำค่าที่เขาเสาะหามานานหลายปีล้วนถูกใช้ไปจนหมดสิ้น จึงจะประคับประคองไว้ได้อย่างยากลำบาก ครั้งก่อนที่ไป๋จื้อเซียนบุกเข้าไปยังห้องลับ และกลืนกินดวงวิญญาณของบรรพบุรุษคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ทำให้อดีตหนิงกั๋วกงเริ่มรู้สึกถึงความสั่นคลอนของพลัง  แม้เวลานั้นสถานการณ์จะอันตราย แต่ค่ายกลใหญ่แห่งชายแดนยังไม่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์  หากสามารถจัดการพลังที่หลงเหลือได้อย่างเหมาะสม ก็ยังสามารถต่อเวลาของโชคชะตาในจวนหนิงกั๋วกงออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เมื่อรู้ว่าซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานออกจากเมืองหลวง เขาจึงเร่งวางแผนเพื่อกำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก เดิมทีเขาคิดว่าหากสามารถสกัดซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานเอาไว้ที่ด่านอวิ๋นหลิ่งได้ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา  ทว่าเมื่อครู่ เขาได้รับสารลับจากนกพิราบส่งข่าวจากด่านอวิ๋นหลิ่ง  ข้อความในจดหมายบอกเอาไว้ว่าที่ด่านอวิ๋นหลิ่งนั้น เกิดหิมะตกหนัก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 351  

    ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนจากบุรุษผู้ซื่อสัตย์ กลายเป็นคนหยาบกระด้างและไม่สนใจเหตุผลใด ๆ อีกต่อไป  เขาชินเสียแล้วกับสายตาของผู้คนที่มองเขาปานสิ่งสกปรก เขาใช้ชีวิตอย่างเมามายไร้จุดหมายไปวัน ๆ  แต่เมื่อวาน ยามที่ไป๋จื้อเซียนคิดจะสังหารเขา ซือเจ๋อเยว่กลับทุ่มเทสุดกำลังเพื่อช่วยชีวิตเขา  ยิ่งไปกว่านั้นแววตาที่นางใช้มองเขา ก็หาได้แตกต่างไปจากการมองคนอื่นไม่ ไม่มีแม้เพียงเศษเสี้ยวของความดูแคลน  เขาจึงรู้สึกว่าสตรีในโลกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นมารดาหรือสตรีที่เขาเคยหมายปองในอดีต  เขากระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณชายสาม หลังจากเรื่องนี้จบแล้ว ท่านพอจะพาข้าไปเมืองหลวงได้หรือไม่?”  เยียนเซียวหรานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เจ้าคิดจะไปเมืองหลวง?”  ชื่อปาเลี่ยตอบไป “ใช่ขอรับ ข้าไม่อยากอยู่ที่ชายแดนอีกต่อไปแล้ว ที่นี่ทุกคนล้วนรู้เรื่องของข้า หากข้าไม่เลือกเป็นอันธพาลก็ต้องเป็นเพียงคนไร้ค่า” “แต่ข้าไม่อยากเป็นอันธพาลและไม่อยากเป็นคนไร้ค่า ข้าเพียงแค่อยากเป็นคนธรรมดา”  “ข้าต้องการพึ่งพาความสามารถของตนเอง มีชีวิตที่ดี และแต่งงานกับสตรีดี ๆ สักคน เพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุข”  เยียนเซียวหรานเอ่ย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status