Share

บทที่ 161

Author: เจียงหนานเยียน
เยียนเซียวหราน “...”

แม้เขาจะรู้ว่านางกำลังพูดจาโป้ปด แต่เขาก็ไม่สามารถหักล้างได้เช่นกัน

ในเวลานี้เอง เยียนซุ่ยซุ่ยเดินเข้ามา “องค์หญิง คนของวังหลวงมาอีกแล้ว เชิญท่านเสด็จเข้าวัง”

ซือเจ๋อเยว่ไม่ได้มีความสนใจการเข้าวังหลวงสักเท่าไร จึงถาม “ผู้ใดในวังหลวงต้องการพบข้า?”

เยียนซุ่ยซุ่ยตอบ “ฝ่าบาทเจ้าค่ะ”

ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ หากเป็นอวิ๋นไท่เฟยนางยังสามารถแกล้งตายได้ หากเป็นฮ่องเต้เจาหมิงละก็ นางก็ไม่สามารถแกล้งตายต่อไปได้อีกแล้ว

นางกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรง “เอาเถอะ ข้าล้างหน้าเสร็จก็จะเข้าวัง”

พระชายาเยียนอ๋องได้ยินข่าวเดินเข้ามาพร้อมกล่าว “หากองค์หญิงไม่สบาย ก็ไม่ต้องเข้าวังหรอก ฝ่าบาททรงเข้าใจได้”

ซือเจ๋อเยว่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เสด็จอาทรงเรียกพบ ต่อให้ข้าเหลือลมหายใจแค่เฮือกสุดท้ายก็ต้องเข้าวัง ต่อให้ต้องหามเข้าไปก็ตามเจ้าค่ะ”

ในสายตาของพระชายาเยียนอ๋องมีความเป็นห่วงเล็กน้อย

ซือเจ๋อเยว่ค่อย ๆ ลุกขึ้นมา แล้วค่อยให้เยียนซุ่ยซุ่ยช่วยหวีผมให้นางจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นค่อย ๆ เดินออกจากห้อง

เยียนเซียวหรานมองเห็นท่าทางนี้ของนาง ก็รู้สึกว่าตนเองอาจจะเข้าใจนางผิดไปแล้ว เป็นเพราะท่าทางของนา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 162

    ฮ่องเต้เจาหมิงได้ยินประโยคนี้ของนาง ก็หันหน้าไปมอง “นี่เจ้ากำลังโทษเราอย่างนั้นหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า “แน่นอนว่าไม่ใช่เพคะ เดิมทีหม่อมฉันเติบโตมาในชนบท ที่ได้ร่ำเรียนย่อมเป็นความสามารถตามชนบทเพคะ”“หม่อมฉันเชื่อว่าทุกคนควรมีทักษะบางอย่างเป็นของตนเองเพคะ ถึงแม้ว่าความสามารถของหม่อมฉันจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าใดนัก แต่ก็มีประโยชน์เพคะ”“หม่อมฉันออกจากเรือนโดยไม่ต้องพกเงิน ไม่มีเวลาให้ใช้จ่ายเงินเพคะ เพียงแค่นั่งข้างถนน แขวนป้ายดูดวง ก็สามารถหาเงินเลี้ยงชีพตนเองได้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เจาหมิงโมโหจนหัวเราะออกมา “เจ้าเป็นถึงองค์หญิงผู้สง่าผ่าเผยของแคว้น ตั้งแผงข้างถนนดูดวงให้ผู้คน สมควรแล้วอย่างนั้นหรือ?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยท่าทางจริงจัง “หม่อมฉันใช้ความสามารถหาเงิน มีปัญหาอะไรหรือเพคะ? มีตรงไหนที่น่าอายกันเพคะ?”ฮ่องเต้เจาหมิง “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวต่ออีกว่า “หม่อมฉันเติบโตในสำนักเต๋า หม่อมฉันไม่เรียนเรื่องพวกนี้ แล้วหม่อมฉันจะเรียนอะไรเพคะ?”“อีกอย่าง แม้ว่าสิ่งนี้จะนำความอับอายมาสู่ราชวงศ์ หม่อมฉันก็คงทำให้อับอายไม่นานนัก”“อย่างมากก็แค่จนกว่าหม่อมฉันจะอายุสิบแปดปี จวบจนบัดนี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 163

    ซือเจ๋อเยว่ตอบ “ไม่ทราบเพคะ เขาเอาแต่วิ่งไปทั่วทั้งวัน ผู้ใดจะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนกันเล่าเพคะ?”ฮ่องเต้เจาหมิงถามนาง “ยันต์ห้าอัสนีบาตรก็เป็นยันต์ที่อาจารย์ใหญ่ของเจ้ามอบให้เจ้า?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ใช่เพคะ ก่อนหน้าที่หม่อมฉันจะเข้าวัง เขามอบยันต์และคาถาให้หม่อมฉันเป็นกอง”“พูดว่าหากใครจะรังแกหม่อมฉัน ก็ให้ยันต์แผ่นหนึ่งแก่อีกฝ่าย รับรองว่าอีกฝ่ายจะต้องว่าง่าย”“แต่หม่อมฉันก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าอานุภาพของยันต์ห้าอัสนีบาตจะรุนแรงขนาดนั้น ถึงกับผ่าจ้าวซือหว่านจนตายทันที”นางพูดจบก็ขยับเข้าไปใกล้ตรงหน้าของฮ่องเต้เจาหมิง เอ่ยถาม “เสด็จอา ยันต์ห้าอัสนีบาตรผ่าเพียงสิ่งชั่วร้ายเท่านั้น เหตุใดหลังจากหม่อมฉันแปะจ้าวซือหว่าน นางก็ถูกฟ้าผ่าตายทันทีเลยเล่าเพคะ?”ฮ่องเต้เจาหมิงมองนางด้วยสีหน้าเรียบเฉยแวบหนึ่งแล้วกล่าว “เรื่องนี้เจ้าเองรู้อยู่แก่ใจ เหตุใดจึงถามข้า?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “กล่าวเช่นนี้ แสดงว่าเสด็จอาทรงทราบว่านางตายอย่างไร”“ในเมื่อเสด็จอาทรงทราบแล้ว เหตุใดจึงเรียกหม่อมฉันเข้าวังเพื่อซักถามเรื่องนี้เล่าเพคะ?”ฮ่องเต้เจาหมิง “...”นางอ้อมรอบหนึ่ง ทำให้เขาอ้อมเข้ามาติ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 164

    ฮ่องเต้เจาหมิงจ้องมองเขา กล่าว “ราชครู นางให้เราลงโทษเจ้า โดยการตัดหัวของเจ้า”ราชครูกล่าวด้วยความโมโหเล็กน้อย “นังเด็กคนนี้ช่างกำเริบเสิบสานนัก วันหน้าหากกระหม่อมเจอนาง จะตีนางให้ตายอย่างแน่นอน!”ฮ่องเต้เจาหมิงกล่าวเสียงเรียบ “ตีนาง? ราชครูทำลงอย่างนั้นหรือ?”ราชครูถอนหายใจเบา ๆ กล่าว “จากสิ่งที่นางทำในวันนี้ กระหม่อมมีอะไรที่ทำไม่ลงพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้เจาหมิงไม่เชื่อคำพูดของเขาอย่างเห็นได้ชัด กล่าว “นางฉลาดหลักแหลมกว่าที่เราจินตนาการเอาไว้เสียอีก สมกับที่เป็นบุตรของเสด็จพี่”“หากเสด็จพี่เห็นท่าทางแบบนี้ของนาง ไม่รู้ว่าจะดีใจมากแค่ไหน”เมื่อราชครูได้ยินดังคำพูดประโยคนี้ สีหน้าท่าทางก็ดูหงอยเหงา “เกรงว่าหากดีใจขึ้นมา อาการป่วยของเขาจะไร้หนทางรักษา ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับชะตากรรม”“กระหม่อมใช้ความพยายามมากมายขนาดนั้นเพื่อต่อชีวิตนาง อย่างมากก็ทำได้เพียงทำให้นางมีชีวิตอยู่ได้ถึงสิบแปดปีเท่านั้น”ฮ่องเต้เจาหมิงกล่าวเตือนเขา “เจ้าก็อย่าได้ทุกข์ใจมากเกินไป ยังไม่ถึงตอนสุดท้าย ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงได้”ราชครูถอนหายใจ ไม่ได้พูดต่ออีกฮ่องเต้เจาหมิงสายตาลึกซึ้งขึ้นเล็กน้อย ข้างใ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 165

    นางไม่เคยถือสาที่จะแสดงความเกลียดชังของนางที่มีซือเจ๋อเยว่ต่อหน้าคนอื่นมาก่อนนางถึงขนาดไม่ยินยอมให้ซือเจ๋อเยว่มีการไปมาหาสู่กันกับคนในครอบครัวฝั่งมารดาของนางเนื่องจากนางรู้สึกว่าซือเจ๋อเยว่หยาบคายเกินไป จะแปดเปื้อนดวงตาคนในครอบครัวฝั่งมารดาของนางได้วันนี้เป็นเพราะอวิ๋นเยว่หยางเป็นฝ่ายอยากจะพบซือเจ๋อเยว่ผู้ที่เป็นญาติผู้น้อง นางถึงได้ยอมกล้ำกลืนฝืนทนยอมให้เขาพบซือเจ๋อเยว่ก่อนหน้านี้อวิ๋นเยว่หยางก็รู้ว่าอวิ๋นไท่เฟยไม่ชอบซือเจ๋อเยว่เอามาก ๆ เขาไม่ได้มีความสนใจต่อญาติผู้น้องที่บิดาตายและตัวตนน่าอับอายคนนี้เช่นกันเพียงแต่เมื่อหลายวันก่อนเขาได้วางแผน อยากจะดึงผู้วิเศษที่อยู่ข้างกายของเยียนเซียวหรานออกมาเดิมทีเขาคิดว่าเรื่องนี้มีนักพรตจื่อหยางออกหน้า ก็สามารถทำได้สำเร็จอย่างง่ายดายผลปรากฏว่าวันนี้ไม่เพียงไม่สามารถสังหารผู้วิเศษที่อยู่ข้างกายของเยียนเซียวหรานได้ ในทางกลับกันยังทำให้นักพรตจื่อหยางได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วยเมื่อวานนี้หลังจากที่นักพรตจื่อหยางฟื้นขึ้นมาได้บอกกับเขาว่า ผู้วิเศษที่อยู่ข้างกายเยียนเซียวหรานก็คือซือเจ๋อเยว่ตอนนั้นเขาตกใจจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าองค์หญิงผู้ไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 166

    เดิมทีเป็นเพราะซือเจ๋อเยว่เชื่อฟังอวิ๋นไท่เฟยถึงได้แต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องแทนองค์หญิงสาม อวิ๋นเยว่หยางจึงคิดว่านางเป็นสตรีประเภทมีลักษณะนิสัยนุ่มนิ่มควบคุมได้ง่ายแต่เมื่อเขาลองคิดถึงเรื่องราวที่ซือเจ๋อเยว่ได้ทำในช่วงนี้ดูอย่างละเอียด ก็รู้สึกว่าก่อนหน้านี้มองนางผิดไปแล้วลักษณะนิสัยของนางเดิมทีก็ไม่ได้นุ่มนิ่ม ยังค่อนข้างนิสัยไม่ดีอีกด้วยเขารู้ว่าซือเจ๋อเยว่เพิ่งออกไป เขาจะตามนางไปเดี๋ยวนี้ บางทีอาจจะยังตามได้ทันด้วยเหตุนี้เขาจึงกล่าวกับอวิ๋นไท่เฟย “ท่านอาหญิง ข้ายังมีธุระต้องออกวังหลวงก่อน วันหน้าค่อยมาเยี่ยมท่านใหม่”เขาพูดจบไม่รอให้อวิ๋นไท่เฟยตอบ คารวะทีหนึ่งแล้วก็เดินออกไปข้างนอกอย่างรีบร้อนช่วงหลายวันมานี้อวิ๋นไท่เฟยถูกซือเจ๋อเยว่หักหน้ามาหลายครั้งแล้ว นางขว้างปาแจกันดอกไม้ด้วยความโมโหหลายใบ ยืนด่าทออยู่ตรงนั้นร่างกายของซือเจ๋อเยว่อันที่จริงไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ในเวลานี้นางเพียงแค่อยู่ในช่วง ‘แกล้งป่วย’ เท่านั้น เดินช้ามากไปตลอดทางดังนั้นตอนที่อวิ๋นเยว่หยางไล่ตามมา นางได้เดินออกไปนอกวังหลวงมารวมตัวกับเยียนซุ่ยซุ่ยแล้วตอนที่อวิ๋นเยว่หยางเห็นซือเจ๋อเยว่ ก็มีความประห

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 167

    “ไม่เช่นนั้นวันพรุ่งนี้ข้าจะส่งคนไปรับองค์หญิงที่จวนอ๋อง จะได้ให้ท่านปู่ท่านย่าได้พบองค์หญิงด้วย”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยใบหน้าประหลาดใจ “ที่แท้เสด็จแม่ของข้าก็มีชีวิตกับเขาด้วยหรือเนี่ย!”“ข้าคิดมาตลอดว่าที่นางทำไม่ดีแบบนั้นกับข้า เป็นเพราะว่านางหัวใจทำมาจากก้อนหินเสียอีกนะ!”อวิ๋นเยว่หยางสีหน้าแข็งทื่ออย่างอดไม่ได้ กระแอมเบา ๆ หนึ่งทีแล้วกล่าว “ท่านอาหญิงเป็นคนปากร้ายแต่ใจดีมาตลอด ปากนางพูดจาไม่น่าฟัง อันที่จริงในใจของนางเป็นห่วงองค์หญิงอย่างยิ่ง”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ก็ยิ้ม “คงใช่กระมัง ตั้งแต่เด็กจนโตข้าไม่ได้เติบโตอยู่ข้างกายนาง จึงไม่ค่อยเข้าใจนางสักเท่าไร”อวิ๋นเยว่หยางเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว กล่าวเสียงอ่อนโยน “วันพรุ่งนี้ข้าจะส่งคนไปรับองค์หญิงที่จวนอ๋อง”“ท่านปู่ท่านย่าได้พบองค์หญิง จะต้องดีใจเป็นอย่างยิ่ง”ซือเจ๋อเยว่ไม่ได้ตอบรับทันที เพียงหันหน้าไปพูดกับเยียนซุ่ยซุ่ย “พวกเรากลับจวนกันเถอะ!”เยียนซุ่ยซุ่ยพยักหน้า ตอนที่ทั้งสองคนเดินผ่านข้างกายของอวิ๋นเยว่หยางซือเจ๋อเยว่เหมือนกับขาอ่อนไป ล้มเข้าไปทางอวิ๋นเยว่หยางอวิ๋นเยว่หยางยื่นมือออกไปประคองนางด้วยจิตใต้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 168

    ซือเจ๋อเยว่ถูกเสียงของเยียนเซียวหรานทำให้ตกใจ หันหน้าไปมองอย่างรวดเร็ว “เจ้าไม่ได้เข้ามาทางประตูหรือ?”เขาเข้าใกล้เกินไป ทันทีที่นางหันหน้ากลับมา ริมฝีปากก็พาดผ่านใบหน้าของเขา เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันทีคิ้วของซือเจ๋อเยว่เลิกขึ้นเล็กน้อย นี่คือความจริงจังที่เสแสร้ง!นางหันหน้าไปมองทางหน้าต่างบานนั้นที่ยังกำลังโยกไหวอยู่ นางเข้าใจทันทีว่าเขาเข้ามาจากที่ไหนหากเป็นคนอื่น บางทีนางอาจจะแหย่เล่นสักหน่อย แต่นางรู้ว่าเยียนเซียวหรานหน้าบาง ในใจของนางเดิมก็มีจุดประสงค์ไม่ดีแอบแฝง จึงไม่ควรแหย่เล่นตอนที่เยียนเซียวหรานกำลังพยายามคิดหาข้ออ้าง ซือเจ๋อเยว่ก็กล่าวขึ้น “น้องสามมาได้เวลาพอดีเลย ข้ามีสิ่งของบางอย่างจะให้เจ้าดู”เยียนเซียวหรานแอบถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง ซือเจ๋อเยว่กวักนิ้วเรียกเขา บอกเป็นนัย ๆ ว่าให้เขาเดินเข้ามาใกล้อีกนิดเขามองนางแวบหนึ่ง หรี่ดวงตาลงครึ่งหนึ่ง ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ขยับนางกล่าวเร่งรัดอีกครั้ง “รีบเข้ามาสิ!”เยียนเซียวหรานพยายามข่มอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในใจลง ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ ข้างกายนางนางชี้ไปที่เส้นผมเส้นหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ “รู้หรือไม่ว่านี่คืออะไร?”หลังจา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 169

    ดวงตาบนหุ่นคนที่นางแต้มด้วยหมึกอย่างลวก ๆ ดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมาในทันใด ดวงตาสีดำคู่นั้นทำให้เยียนเซียวหรานรู้สึกขนลุกอยู่ในใจเขาถามนาง “ของสิ่งนี้มีประโยชน์อะไร?”ซือเจ๋อเยว่ยื่นเข็มเล่มหนึ่งให้เขา “เจ้าขัดตาตรงไหนของมันก็ทิ่มลงไปตรงนั้น”“คาถาสาปแช่ง?” เยียนเซียวหรานถามหลังจากซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิดก็ตอบ “ข้าได้ยินมาว่าสตรีในวังหลวงชอบใช้ผ้ามาทำเป็นรูปคน ด้านบนเต็มไปด้วยเข็ม ใช้สำหรับสาปแช่งคนอื่น การกระทำเช่นนี้เรียกว่าคาถาสาปแช่ง”“อันที่จริงของประเภทนั้นที่พวกนางใช้เพียงแค่ใช้ผ้ามาทำเป็นรูปคนเท่านั้น หรือคนที่วิชาเต๋าไม่เก่งกล้าจะใช้คาถาเพื่อสร้างหุ่นเชิด แต่ก็ไม่ได้ผล”“คาถาที่ข้าใช้เรียกหุ่นเชิดแทนตัวคน แตกต่างจากของพวกนาง ได้ผลชะงัด แทงตรงไหนโดนตรงนั้น”“เขาทำร้ายเจ้าจนย่ำแย่ขนาดนั้น เจ้าเอาเข็มแทงส่วนที่เกี่ยวข้องของหุ่นคนตัวนี้ เขาก็จะรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง”เยียนเซียวหรานถาม “สุดยอดขนาดนี้เชียวหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจเบา ๆ “เจ้าสามารถสงสัยคุณธรรมของข้าได้ แต่เจ้าไม่ควรสงสัยในวิชาเต๋าของข้า”“หากเจ้าไม่เชื่อ เจ้าดึงเส้นผมออกมาเส้นหนึ่ง ข้าจะทำขึ้นมาอีกตัว ให้เจ้า

Latest chapter

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 372

    ไป๋จื้อเซียน “...”ในช่วงเวลาหนึ่งพันปีที่เขาตายไป ไม่มีผู้ใดกล้าสั่งให้เขาทำเรื่องใดก็ตามตอนนี้ซือเจ๋อเยว่กลับให้เขาไปแสร้งทำเป็นผีเพื่อถ่วงเวลาทหารยาม นางเห็นเขาเป็นตัวอะไรกันแน่!เขาหันหน้ามองนาง นางประสานมือคำนับเขาพร้อมกล่าว “คุณชายไป๋ดีที่สุด รบกวนด้วย”ดวงตาของนางเปล่งประกายราวกับดวงดาว ในดวงตาแฝงไปด้วยความอ้อนวอนเล็ก ๆคำปฏิเสธของไป๋จื้อเซียนที่กำลังจะพูดออกมา ได้กลืนกลับลงไปอีกครั้งร่างของเขาหายไปจากด้านบนคานห้อง ไปปรากฏตัวอยู่ที่ท้องฟ้าของด่านอวิ๋นหลิ่งทหารยามเมื่อครู่ตะโกนว่ามีผี ไป๋จื้อเซียนก็ปรากฏตัวที่ท้องฟ้าด้วยชุดสีแดงทันที เกือบจะทำให้ทหารยามที่อยู่ประตูด่านตกใจจนขวัญกระเจิงถึงแม้เขาจะหน้าตาดีแค่ไหน แต่การปรากฏตัวขึ้นในยามราตรีเช่นนี้ นั่นก็ทำให้คนตกใจได้เช่นกันอย่างไรเสียก็คนไม่มีคนปกติคนใดสามารถลอยอยู่กลางอากาศได้เช่นนี้ นี่จึงเห็นได้ชัดว่าก็คือผี!ก่อนหน้านี้ไป๋จื้อเซียนฆ่าคนเหมือนผักปลา คิดมาตลอดว่ามีเพียงดวงวิญญาณที่ไร้ความสามารถพวกนั้นเท่านั้นถึงได้แกล้งหลอกผีให้ผู้คนตกใจบัดนี้ไม่คิดเลยว่าเขากลับต้องมาทำเรื่องแบบนี้เช่นกันสายของเขาที่จ้องมองพลท

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 371

    ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานต่างรู้ดี พยานอย่างชื่อปาเลี่ย แม้แต่จะยืนยันว่าเยียนอ๋องพ่ายศึกเพราะถูกคนวางแผนชั่วยังยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะลากจวนหนิงกั๋วกงลงมาเอี่ยวด้วยหากสามารถตามหาสำเนาของเอกสารฉบับนั้นตามที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าว อย่างน้อยก็สามารถทำให้จวนเยียนอ๋องเป็นอิสระจากคดีนั้นได้ สามารถทำให้เยียนเซียวหรานสืบทอดตำแหน่งได้ดังนั้นพวกเขาจึงปรึกษาหารือกันครู่หนึ่ง ตัดสินใจว่าจะไปที่ด่านอวิ๋นหลิ่งอีกสักรอบครั้งนี้พวกเขาฉลาดแล้ว ได้รู้จักคนของเยียนเซียวหรานที่อยู่ในกองทัพไม่น้อย เพื่อป้องกันถูกคนจำได้ เขาจึงสวมหน้ากากหนังมนุษย์ส่วนซือเจ๋อเยว่ นางแต่งตัวเป็นผู้ชายชื่อปาเลี่ยเองก็กลัวคนจำได้เช่นกัน เขาไม่ได้สวมหน้ากาก แต่ว่าหาอะไรมาครอบลูกตาข้างหนึ่งเอาไว้แสร้งทำเป็นคนตาบอดเสียเลยหลังจากที่ไป๋จื้อเซียนมองเห็นการแต่งกายของพวกเขาก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นในมุมมองของเขา หากเกิดการต่อสู้ขึ้นที่ด่านอวิ๋นหลิ่งจริง ๆ เขาฆ่าล้างบางด่านอวิ๋นหลิ่งไปเลยเสียก็สิ้นเรื่องเพียงแต่เขายังจำคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับซือเจ๋อเยว่ได้ ว่าต่อไปจะสังหารผู้คนตามใจชอบไม่ได้อีกแล้วคำมั่นสัญญ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 370

    เยียนอ๋องซื่อจื่อแย้มยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกเกรงใจข้า” “ข้ากับองค์หญิง ก่อนหน้านี้แม้แต่พบหน้ากันก็ยังไม่เคย จะให้มีความผูกพันใด ๆ ได้อย่างไร""ระหว่างข้ากับนาง แม้แต่สถานะสามีภรรยาก็ถูกท่านย่าทำลายไปตั้งแต่คืนวันแต่งงานแล้ว""หากคำนวณให้ดี ข้ากับนางไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย นางไม่อาจนับว่าเป็นภรรยาของข้า""ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้า หากเจ้าชอบนาง ก็สามารถไล่ตามความรู้สึกของเจ้าได้อย่างเต็มที่"เยียนเซียวหรานได้ยินถ้อยคำนี้แล้วก็ไม่รู้จะตอบกลับเช่นไรเยียนอ๋องซื่อจื่อเอื้อมมือไปตบไหล่เขา แต่มือของเขากลับทะลุผ่านร่างอีกฝ่ายไปเขาชะงักไปชั่วครู่ ซึ่งในเวลานี้เอง ที่เขาได้ตระหนักถึงความจริงว่าตนได้จากโลกนี้ไปอย่างแท้จริงเขาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา "การได้พบกับคนที่ตนชอบไม่ใช่เรื่องง่าย""เมื่อพบเจอแล้ว ก็ควรทะนุถนอมให้ดี""ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า สิ่งที่ข้าปรารถนามากที่สุดก็คือขอให้เจ้ามีชีวิตที่เป็นสุข"เยียนเซียวหรานได้ยินดังนั้นดวงตาก็พลันร้อนผ่าว เอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา "พี่ใหญ่ ข้าจะทำตามที่ท่านบอก"เย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 369

    ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความรู้สึกประทับใจ “เยียนอ๋องกับพระชายาช่างให้กำเนิดบุตรชายได้ดีนัก อีกทั้งยังอบรมสั่งสอนอย่างยอดเยี่ยม” เมื่อไป๋จื้อเซียนที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยิน สีหน้าไม่สบอารมณ์ทันที “พวกเขาจะเก่งกว่าข้าหรือ?” ซือเจ๋อเยว่ยังคงไม่ชินกับการที่ไป๋จื้อเซียนอยู่ข้างกายเขาฝึกฝนมาหลายปี ฝีมือเลิศล้ำอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นหูหรือสายตาล้วนเกินขีดจำกัดของมนุษย์ธรรมดา ที่สำคัญเขาก็มีพฤติกรรมประหลาด ชอบเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับเยียนเซียวหรานทุกเรื่อง นางคิดว่าสมองของเขาคงมีปัญหา เพราะยามนี้เขายังไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสหายของนางเลยด้วยซ้ำ แต่กลับมาขอให้นางเปรียบเทียบกับคนรักของนาง เช่นนี้แล้วจะเปรียบเทียบได้หรือ?แต่เพราะนิสัยของเขาเอาแน่เอานอนไม่ได้  ยามนี้นางยังไม่อยากมีปัญหากับเขา นางจึงตอบกลับไป “แต่ละคนก็มีข้อดีของตนเอง แต่หากเอ่ยถึงเรื่องต่อสู้ แม้คุณชายไป๋จะไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า แต่ก็ต้องติดหนึ่งในสามอันดับแน่นอน” “เรียกข้าว่าจื้อเซียน” ไป๋จื้อเซียนเหลือบมองนางตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เอื่อยเฉื่อย “คุณชายไป๋อะไร ฟังดูห่างเหินนัก” ชื่อปาเลี่ยที่ยืนฟังด้วยความสนใจอยู

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status