All Chapters of บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง: Chapter 111 - Chapter 120

274 Chapters

บทที่ 111  

“แต่ยังมีอีกหนึ่งค่ายกลที่ขโมยดวงชะตาของเจ้าโดยเฉพาะยังไม่ถูกทำลายไป ต่อให้ไม่มีพลังชั่วร้ายเหล่านั้น และเจ้าก็ไม่ได้ตายเร็วปานนั้นแล้ว ทว่ากลับมีผลกระทบรุนแรงมากอยู่ดี” เยียนเซียวหรานถาม “ผลกระทบที่ว่าคืออะไร?” ซือเจ๋อเยว่มองเขาพลางพูด “เมื่อดวงชะตาของคนผู้หนึ่งถูกขโมยไปแล้ว คนผู้นั้นจะดวงซวยขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลาที่ล่วงเลยผ่านพ้นไป” “จนสุดท้ายเจ้าอาจถึงแก่กรรมด้วยเพราะข้าวติดคอ เดินล้มหัวฟาดหรือสำลักน้ำตาย รูปแบบการตายอันน่าประหลาดพิศวงมีสารพัด ที่คนทั่วไปไม่กล้าแม้แต่จะคาดคิด” เยียนเซียวหราน “…” สิ่งเหล่านี้แค่ได้ฟังก็ปวดหัวแล้ว เขาถามซือเจ๋อเยว่ “ตอนนี้สถานการณ์ข้าเป็นเช่นไร?” ซือเจ๋อเยว่กล่าวตอบ“ดวงชะตาของเจ้าถูกคนขโมยมาเป็นเวลานานมากแล้ว แม้ยังไม่เข้าสู่ช่วงระยะสุดท้าย แต่ยังมีค่ายกลพลังชั่วร้ายที่ดูดพลังดวงชะตาเจ้าอยู่โดยเฉพาะ” “ดังนั้นชะตาของเจ้ามีแต่จะย่ำแย่เสียยิ่งกว่าผู้ที่ขโมยดวงชะตาของเจ้าไปมาก หากไม่ได้ข้าที่ก่อนหน้านี้ช่วยเจ้าสลายพลังชั่วร้ายไว้ถึงสองครา ไม่แน่เจ้าอาจจะตายไปแล้ว” เมื่อครั้งนางได้พบเขาในคราแรก ก็รู้สึกว่าเขาช่างประหลาดเสียนี่กระไร ทั้งท
Read more

บทที่ 112  

ในใจซือเจ๋อเยว่พลันเกิดความรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย แม้เมื่อคืนนางต่อเวลาชีวิตได้ไม่น้อยในเวลาอันสั้น แต่ระยะนี้เส้นสีแดงมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วขึ้นมาก เส้นชีวิตอันน้อยนิดเพียงเท่านี้แทบจะไม่พอใช้เสียแล้วสิ นางก็ยังไม่รู้ด้วยว่าครั้งหน้าจะต้องใช้วิธีการเช่นไร จึงจะต่อเวลาชีวิตอีกสักระยะหนึ่งจากเขาได้ นางลอบขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก่อนจะเดินออกไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน มีชีวิตอยู่ช่างยากเย็นเสียจริง! แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังไม่อยากตาย! เยียนเซียวหรานเหลือบมองนางแวบหนึ่ง มิได้เอ่ยอันใด เพียงแค่เดินตามนางออกไป บัดนี้พระชายาเยียนอ๋องกำลังจัดเตรียมข้าวของสำหรับไปอารามพุทธในวันพรุ่งนี้ เมื่อเห็นว่าพวกเขาเข้ามา จึงเรียกให้มาช่วยกันคนละไม้คนละมือ เยียนเซียวหรานช่วยไปพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไร้เจตนาแอบแฝง “เสด็จแม่ หยกแขวนชิ้นนั้นที่เสด็จแม่ให้ลูกมาสอดไว้ใต้หมอนก่อนหน้านี้ได้มาจากที่ใดหรือ?” พระชายาเยียนอ๋องได้ฟังเขาถามเช่นนี้ พลันถามกลับด้วยความฉงนเล็กน้อย “เหตุใดจู่ ๆ ถึงถามเรื่องนี้เล่า?” เยียนเซียวหรานเอ่ยตอบ “ครานี้ลูกประสบเคราะห์ภัยจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด สามารถเปลี่ยนเคราะห์ร้
Read more

บทที่ 113  

พระชายาเยียนอ๋องผงกศีรษะ “ใช่แล้ว ซือหว่านมีความรู้และเข้าใจกฎเกณฑ์ แยกแยะผิดถูกได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมีความรู้สึกพิเศษต่อเซียวเอ๋อร์” “หากนางแต่งเข้าจวนอ๋อง ต้องเป็นสะใภ้ที่ดีเหมือนกันกับองค์หญิงแน่นอน” ซือเจ๋อเยว่ “...” นางไม่อยากถูกเอาไปเปรียบเทียบกับจ้าวซือหว่านเท่าไรนัก ทว่าเรื่องราวในตอนนี้ยังไม่กระจ่างชัด นางคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องพูดอย่างโจ่งแจ้งต่อหน้าพระพักตร์พระชายาเยียนอ๋อง จึงทำเพียงแค่ยิ้มเท่านั้น เยียนเซียวหรานถามพระชายาเยียนอ๋อง “พรุ่งนี้แม่นางจ้าวก็ไปอารามพุทธหรือขอรับ?” พระชายาเยียนอ๋องพยักหน้า “นางจะไปด้วย หากไม่ใช่เพราะนางเตือนสติว่าวัดเป้ากั๋วทำแผ่นป้ายวิญญาณดีที่สุด ข้าก็จะไปเชิญป้ายที่วัดซีซานแล้ว” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มพลางพูด “แม่นางจ้าวช่างเป็นคนใส่ใจที่คิดการอันใดรอบคอบจริง ๆ เจ้าค่ะ” พระชายาเยียนอ๋องอมยิ้มพลางเอ่ย “ใช่ นางเป็นสตรีที่ดีโดยแท้” นางเอ่ยจบก็กล่าวชื่นชมจ้าวซือหว่านยกใหญ่ไปอีกรอบหนึ่ง ซือเจ๋อเยว่นั่งฟังด้วยความใจเย็น ไม่แสดงความคิดเห็นอันใดทั้งสิ้น นางกำลังคิดเรื่องหนึ่งในใจ ด้านนี้เพิ่งทำลายหยกแขวนได้ จ้าวซือหว่านก็เชิญพวกเขาไปที
Read more

บทที่ 114  

เรื่องการเขียนยันต์ สำหรับคนสำนักเต๋าแล้ว ที่จริงมีความยากสูงมาก มีเพียงผู้ที่เข้าถึงแก่นของวิชาเต๋าอย่างถ่องแท้ทั้งยังฝึกการเขียนยันต์ด้วย จึงสามารถเขียนออกมาได้ และอัตราความสำเร็จก็ยังไม่นับว่าสูงมากนัก แต่สำหรับซือเจ๋อเยว่ผู้เป็นอัจฉริยะแห่งลัทธิเต๋า การเขียนยันต์จึงแสนจะง่ายดายราวกับกินข้าวดื่มน้ำก็ไม่ปาน ถึงขั้นที่ในเวลาปกติตอนนางเกียจคร้าน ไม่อยากเขียนยันต์ แค่ใช้มือร่ายคาถาของลัทธิเต๋าก็ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เลวเช่นกัน แต่วิญญาณร้ายเมื่อคืนนี้ทำให้นางฉุกคิดได้ว่าศัตรูที่อยู่เบื้องหลังนั้นหาใช่ธรรมดาไม่ แค่อาศัยการร่ายคาถาด้วยมือยังยากนักที่จะจัดการมันให้สิ้นซากได้ นางมิอาจเอาเลือดของตนเองมาใช้จัดการได้อีกแล้ว แค่ด้วยสถานการณ์ร่างกายของนางตอนนี้ ก็ทานทนต่อสิ่งหนักหน่วงกว่านี้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ฉะนั้นการตระเตรียมยันต์ที่มีอานุภาพสูงไว้หลายแผ่น จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง นางเพิ่งเขียนยันต์เสร็จ เยียนเหนียนเหนียนก็มาเที่ยวเล่นหานาง เห็นนางเขียนยันต์อยู่ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยจึงถาม “องค์หญิง นี่คือยันต์หรือ?” ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ยันต์ห้าอัสนีบาตพวกนี้ขับไล่ภูตผีวิญญาณร้า
Read more

บทที่ 115  

วินาทีที่อัสนีสายนั้นผ่าฟาดลงมา เยียนเหนียนเหนียนพลันรู้สึกได้อย่างแท้จริงว่านางเกือบจะถูกคร่าชีวิตไปแล้ว! นางมองจ้องซือเจ๋อเยว่ด้วยใบหน้าประจบประแจงพลางเอ่ย “องค์หญิง ต่อไปท่านก็คือบุคคลตัวอย่างของข้า ไม่ว่าอะไรข้าจะฟังท่านทุกอย่าง!” ซือเจ๋อเยว่มองนางพลางหัวเราะ “จากนี้ไประวังหน่อย อย่าเห็นอะไรก็แปะบนร่างตัวเองอีก!” เยียนเหนียนเหนียนย่อมพยักหน้าหงึก ๆ เรื่องในวันนี้ได้เปิดโลกทัศน์ของนางแล้วจริง ๆ แล้วนางไหนเลยยังกล้าแตะต้องของแบบนั้นอีก? นางดึงแขนเสื้อของซือเจ๋อเยว่แล้วถาม “ยันต์นี้สุดยอดมาก ขายให้ข้าสักหลายแผ่นได้หรือไม่?” ซือเจ๋อเยว่ถามนาง “เจ้าจะเอายันต์ห้าอัสนีบาตไปทำอันใด?” เยียนเหนียนเหนียนกล่าวตอบ “ก่อนนี้ข้าไม่เชื่อว่าบนโลกจะมีสิ่งเช่นนี้อยู่ ทว่าตอนนี้ดูแล้วเกรงว่าคงมีอยู่จริง” “ข้ารู้สึกว่าพี่สามดวงชะตาไม่ค่อยสู้ดีนัก กลัวก็แต่ว่าบนร่างจะมีสิ่งอัปมงคลเช่นนี้อยู่ ข้าอยากซื้อสักหน่อยเพื่อเอาไปแปะบนร่างเขา จะได้ช่วยปัดเป่าพลังชั่วร้ายออกไปได้บ้าง” ซือเจ๋อเยว่ “…” นางคิดว่ายังไม่ทันปัดเป่าพลังชั่วร้ายออกไปจากร่างเยียนเซียวหรานจนหมด กลับถูกยันต์ห้าอัสนีบาตผ่าตาย
Read more

บทที่ 116  

ซือเจ๋อเยว่เอ่ยถึงตรงนี้พลันชะงักไปครู่หนึ่ง “และหลังจากคนตายไป นอกจากว่าในใจยังยึดติดอยู่เท่านั้นจึงจะรั้งอยู่ต่อที่โลกวิญญาณ ส่วนวิญญาณทั่วไปล้วนกลายเป็นดวงวิญญาณหวนกลับสู่ยมโลก” “ดังนั้น นอกจากช่วงเทศกาลจงหยวนที่ประตูยมโลกเปิดอ้า ข้าก็ไม่ค่อยได้พบเห็นวิญญาณบ่อยนัก” เยียนเหนียนเหนียนฟังจนคล้ายเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ “องค์หญิง คราวหน้าเมื่อเจ้ามองเห็นวิญญาณ จะให้ข้าเห็นบ้างได้หรือไม่?” ซือเจ๋อเยว่ “…” ก่อนนี้นางก็รู้แล้วว่าเยียนเหนียนเหนียนใจกล้ามาก แต่ผู้ที่เป็นฝ่ายขอ ‘เจอผี’ เองเช่นนี้ก็ดูจะใจกล้าเกินไปหน่อย และยัยหนูคนนี้นิสัยค่อนข้างใจกล้าบ้าบิ่น ไม่รู้ว่าสิ่งใดคือความกลัว หาโอกาสให้นางได้เจอสักหน่อย บางทีอาจทำให้นางสงบเสงี่ยมขึ้นบ้าง ซือเจ๋อเยว่พยักหน้าพลางพูด “ได้ ถ้ามีโอกาสข้าจะให้เจ้าได้เจอ” เยียนเหนียนเหนียนถามนางอีก “องค์หญิง เสด็จพ่อกับเสด็จพี่พวกเขาต่างไปที่ยมโลกกันแล้วหรือ?” ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า “นอกจากซื่อจื่อแล้ว ที่เหลือล้วนไปกันหมดแล้วละ” ขณะความคิดนี้ผุดขึ้นในใจนาง ก็เหลือบไปเห็นเยียนอ๋องซื่อจื่อที่ไม่รู้มานั่งอยู่บนขอบหน้าต่างตั้งแต่เมื่อไร นางอึ้งไป
Read more

บทที่ 117  

ซือเจ๋อเยว่ดูเขามีลักษณะคล้ายจะกลับมาคลุ้มคลั่งอีกครั้ง จึงใช้มือร่ายคาถาลงบนศีรษะของเขา เขากลับมาเป็นปกติเหมือนเมื่อครู่นี้ ปากก็ยังพึมพำว่า “จี้กุญแจหยก... บทกวีหวนคืน... อ่าวจันทร์กระจ่าง…” เยียนเหนียนเหนียนพุ่งตัวเข้ามายังเบื้องหน้าของเขาพลางเอ่ย “พี่ใหญ่ ข้าเหนียนเหนียนอย่างไรเล่า ท่านยังจำข้าได้หรือไม่?” เยียนอ๋องซื่อจื่อกลับไม่มองนางด้วยซ้ำ พึมพำคำนามสามคำนั้นซ้ำ ๆ ต่อไป ก่อนที่ร่างวิญญาณจะค่อย ๆ เลือนรางจางลงแล้วหายวับไป ซือเจ๋อเยว่เห็นเขากลายเป็นเช่นนั้น คิ้วพลันขมวดเข้าหากัน แววตาดูไม่ค่อยเข้าใจนัก เยียนเหนียนเหนียนถามซือเจ๋อเยว่ “องค์หญิง เมื่อครู่เกิดอันใดขึ้น? ไยพี่ใหญ่จึงหายไปแล้ว?” ซือเจ๋อเยว่กล่าวตอบ “ลักษณะเมื่อครู่นี้ของเขา น่าจะเป็นเหตุการณ์ก่อนเขาตาย” เยียนเหนียนเหนียนพลันน้ำตาไหลพรากในทันที “เป็นไปได้อย่างไร… ทั้งที่เขายังมีลมหายใจ กลับถูกคนเลาะเนื้อหนัง… เช่นนั้นต้องเจ็บปวดถึงเพียงใดกัน!” ซือเจ๋อเยว่เข้าร่วมกับสำนักเต๋ามาแรมปี เคยเจอวิญญาณนับไม่ถ้วน และเห็นการตายมาหลากหลายรูปแบบ แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เห็นการตายอย่างอนาถเช่นเยียนอ๋องซื่อจื่อนี้
Read more

บทที่ 118  

เยียนเซียวหรานถามนาง “เรื่องนี้อีกนานแค่ไหนถึงจะแก้ไขได้?” ซือเจ๋อเยว่ผายมือ “ไม่รู้ หากตามหาผู้ที่ลงมือพบ ก็จะแก้ไขได้เร็วขึ้น” เยียนเซียวหรานมองนางแวบหนึ่ง พลันคิ้วขมวดมุ่น พระชายาเยียนอ๋องเห็นพวกเขากำลังพูดคุยสนทนากันใกล้ชิด คิ้วค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน แม้นางยังไม่ถึงขั้นคิดไปในทางที่ไม่ดีว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์ต่อกัน แต่พวกเขาก็ดูใกล้ชิดสนิทสนมกันจนเกินความพอดีไปเล็กน้อย ดีที่หลังจากซือเจ๋อเยว่พูดกับเยียนเซียวหรานเพียงไม่กี่คำ ก็ขึ้นรถม้าไปสนทนากับเยียนเหนียนเหนียนแล้ว พระชายาเยียนอ๋องขบคิด ก่อนเดินไปลากเยียนเซียวหรานพลางเอ่ย “เซียวเอ๋อร์ แม้องค์หญิงมีบุญคุณใหญ่หลวงต่อจวนอ๋อง แต่อย่างไรเสียนางก็เป็นพี่สะใภ้เจ้า” “เจ้าเป็นลูกชายข้า ข้าย่อมเชื่อใจเจ้าอยู่แล้ว และเชื่อในศีลธรรมขององค์หญิงด้วย” “เพียงแต่ว่าเดิมทีความคาดหวังของสังคมที่มีต่อสตรีก็มากกว่าบุรุษ หากใครเอาเรื่องนี้ไปพูดข้างนอก ผู้ที่เสียหายก็เป็นฝ่ายหญิงอยู่วันยันค่ำ” เยียนเซียวหรานแววตาลุ่มลึกขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่วายพยักหน้าเบา ๆ หนึ่งที “เสด็จแม่วางใจได้ ข้ามีแต่ความเคารพนับถือให้แก่องค์หญิง หามีความคิด
Read more

บทที่ 119  

นางยิ้มพลางถามจ้าวซือหว่าน “แม่นางจ้าว เมื่อคืนนี้นอนไม่พอหรือ?” จ้าวซือหว่านเอ่ยด้วยท่าทางขัดเขินเล็กน้อย “เมื่อคืนพับกระดาษเงินกระดาษทองจนถึงกลางดึก นอนไม่ค่อยพอจริง ๆ เพคะ” ซือเจ๋อเยว่เห็นสาวใช้จวนตระกูลจ้าวยกตะกร้าใหญ่ใบหนึ่งอยู่ ในนั้นใส่กระดาษเงินกระดาษทองที่พับด้วยมือไว้จนเต็ม ซือเจ๋อเยว่ถาม “ทั้งหมดนี้แม่นางจ้าวพับเองหมดเลยหรือ?” จ้าวซือหว่านเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ใช่เพคะ ได้ยินมาว่าต้องลงมือพับเองถึงมีความจริงใจ” นางว่าแล้วก็ตั้งใจเผยนิ้วมือที่มีเศษสีทองติดอยู่เล็กน้อยให้ปรากฏตรงหน้าซือเจ๋อเยว่ ซือเจ๋อเยว่ยิ้มออกมา “แม่นางจ้าวใส่ใจนัก” ในใจนางกลับวาดเครื่องหมายกากบาทตัวโต ๆ ให้กับจ้าวซือหว่าน ในตะกร้ากระดาษเงินกระดาษทองใบนั้นมีรูปแบบการพับด้วยมือห้าหกแบบเป็นอย่างต่ำ เห็นชัดว่าเกิดจากการพับของคนหลายคน สิ่งนี้คนอื่นมองไม่ออก ทว่าซือเจ๋อเยว่ที่เติบโตมาในสำนักเต๋าตั้งแต่ยังเล็ก เห็นกระดาษเงินกระดาษทองที่ผู้คนพับมามากมายกลับมองปราดเดียวก็ดูออกทันควัน ประจวบเหมาะกับยามนี้เยียนเซียวหรานมองมาพอดี นางพยักหน้าเบา ๆ เขาก็เข้าใจความหมายของนางทันที จ้าวซือหว่านมีปัญ
Read more

บทที่ 120  

จ้าวซือหว่านมองท่าทางมีเลศนัยของนาง ความสงสัยที่มีต่อนางพลันลดลงเล็กน้อย เพราะมิมีนักพรตเต๋าจอมขมังเวทคนใดที่จะเป็นเหมือนซือเจ๋อเยว่เช่นนี้ ที่ดู ๆ แล้วก็เหมือนเป็นคนหลอกลวงผู้หนึ่งเท่านั้น นางเผยรอยยิ้มออกมา “องค์หญิงช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริงเชียว” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มตาหยี “ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน” จ้าวซือหว่าน “…” คำพูดนี้ทำเอานางไม่รู้จะตอบอย่างไรเลย เรื่องการ ‘เชิญป้าย’ เป็นพิธีกรรมที่วัดเป้ากั๋วทำเป็นประจำ ระเบียบพิธีทั้งหมดไม่นับว่าซับซ้อนแต่อย่างใด ซึ่งก็ไม่พ้นฟังพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ อัญเชิญไม้ทำป้ายวิญญาณ สวดมนต์ เชิญป้าย และแกะสลักตัวอักษร สี่ขั้นตอนแรกนับว่าค่อนข้างเรียบง่าย ทว่าขั้นตอนการแกะสลักตัวอักษรนั้นกลับต้องใช้เวลาอยู่บ้าง พระชายาเยียนอ๋องเดิมทีก็รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะเรื่องของเยียนอ๋องซื่อจื่อ หลังจากสี่ขั้นตอนแรกของพิธีเสร็จสิ้นลงแล้ว พอตกบ่าย นางถึงค่อย ๆ มีสีหน้าเบิกบานขึ้น ทั้งศาสนาพุทธและลัทธิเต๋าล้วนมีผู้เลื่อมใสศรัทธาไม่น้อยในราชวงศ์ยุคนี้ เมื่อดูในภาพรวม ก็มีจำนวนผู้นับถือที่ใกล้เคียงกันทีเดียว เพียงแต่คนในจวนเยียนอ๋องเชื่อในพระพุทธศาสนากันอ
Read more
PREV
1
...
1011121314
...
28
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status